บททั้งหมดของ ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: บทที่ 381 - บทที่ 390

492

บทที่ 381

หลังมื้ออาหารเย็น อวิ๋นฝูหลิงก็เดินเล่นอยู่ในสวนรอบหนึ่ง และถือโอกาสไปดูฮูหยินน้อยฉู่ที่ห้องคลอดหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ฮูหยินน้อยฉู่ก็เริ่มรู้สึกปวดบาดแผลบนท้องขึ้นมาแรกเริ่มราวกับมีบางสิ่งคั่นอยู่ชั้นหนึ่ง ความเจ็บปวดไม่ได้รุนแรงมากถึงเพียงนั้นหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เจ็บมากขึ้นทุกที ก่อนฮูหยินน้อยฉู่จะเจ็บปวดจนทนไม่ไหวฉู่หมิงเห็นเช่นนั้น ก็กำลังจะให้คนไปเชิญอวิ๋นฝูหลิง ใครจะรู้ว่าทันใดนั้นเองอวิ๋นฝูหลิงจะมาพอดี“พระชายาอี้อ๋อง” ฉู่หมิงประสานมือโค้งคำนับ กล่าวด้วยสีหน้าวิตก “ท่านรีบมาดูนางเถิด นางเริ่มร้องว่าเจ็บเมื่อช่วงเย็น ตอนนี้ความเจ็บปวดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปด้านหน้าเพื่อตรวจสอบครู่หนึ่ง“เป็นเพราะยาชาหมาเฟ่ยซ่านค่อย ๆ หมดฤทธิ์ ดังนั้นนางจึงรู้สึกเจ็บบาดแผลบนท้องมากขึ้นเรื่อยๆ”“นี่เป็นอาการปกติ โดยทั่วไปหลังผ่านไปเจ็ดวัน ความเจ็บปวดเช่นนี้ก็จะทุเลาลง หลังจากผ่านไปประมาณสิบวันก็จะแทบไม่เจ็บปวดแล้ว”ฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินว่าต้องเจ็บปวดไปอีกนับสิบวัน ก็รู้สึกไม่ดีไปทั้งร่างเพราะตอนนี้นางไม่เพียงแต่เจ็บปวดอย่างยิ่งยวด ทว่ายังหิวมากด้วยตั้งแต่เมื่อวานตอนเย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 382

อวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบอาการของฮูหยินน้อยฉู่รอบหนึ่งแล้ว ก็ยังกำชับเรื่องการผายลมอีกครา และปล่อยให้หมอหญิงซุนดูแลอยู่ข้าง ๆ ต่อ จึงกลับมาพักผ่อนที่เรือนเล็กอวี้หลานก่อนจากไป นางกำชับกับหมอหญิงซุนว่า “หากมีเรื่องอันใด ก็ให้คนไปเรียกข้าทันที”สามวันแรกหลังการผ่าตัดเป็นช่วงวิกฤต ตราบใดที่ผ่านสามวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น อาการของฮูหยินน้อยฉู่ก็จะคงที่ โดยพื้นฐานก็แทบจะไม่มีปัญหาอันใดแล้วหมอหญิงซุนตอบรับอย่างสุภาพยามที่อวิ๋นฝูหลิงกลับมายังเรือนเล็กอวี้หลาน เซียวจิ่งอี้ก็กำลังดูบางสิ่งอยู่ใต้แสงไฟอวิ๋นฝูหลิงเดินเข้าไปใกล้ ก็พบว่าเหมือนจะเป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง“ดูสิ่งใดอยู่หรือ?”อวิ่นฝูหลิงเกิดความคิดที่อยากแกล้งคนขึ้น จึงยื่นมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมานางไม่ได้อ่านเนื้อหาบนกระดาษ แต่เขย่ากระดาษในมือ พลางกล่าวหยอกเย้าว่า “ตั้งใจอ่านถึงเพียงนี้ ในนี้มีความลับอันใดที่ให้ข้ารู้ไม่ได้อยู่หรือไม่?”เซียวจิ่งอี้มองนางด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีความลับที่ไม่อาจให้เจ้ารู้ได้เสียที่ไหน?”อวิ๋นฝูหลิงหยอกล้อเขาต่อ “เช่นมีสาวงามคนใด หรือมีจดหมายรัก?”“ไม่กี่วันก่อนท่านไปงานเลี้ยงมา มิใช่ว่าระหว่างงานเลี้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 383

เซียวจิ่งอี้มองไปทางอวิ๋นฝูหลิง“ข้าส่งลูกน้องไปจับตาดูพวกโอวหยางหมิง”“เจ้าอยากฟังด้วยกันหรือไม่?”อวิ๋นฝูหลิงพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านส่งคนไปจับตาดูพวกท่านปู่โอวหยางเพราะเหตุใด?”ทันทีที่กล่าวออกมา อวิ๋นฝูหลิงก็ตอบสนองออกมาโดยพลันหากวันนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลังจริง ย่อมมีช่องโหว่อยู่ในบรรดาพวกโอวหยางหมิงยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นช่องโหว่ที่เปิดได้ง่ายที่สุดถึงอย่างไรจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินก็มีองครักษ์แน่นหนา คนแปลกหน้าสักคนจะบุกเข้ามาถึงห้องคลอด ก็มิใช่เรื่องง่ายถึงเพียงนั้นฮูหยินฉู่จัดการเรื่องในจวนได้เป็นอย่างดี คนรับใช้ในจวนต่างก็มีความซื่อสัตย์ภักดี ไม่ใช่เรื่องง่ายหากคิดจะติดสินบนแต่พวกโอวหยางหมิงต่างออกไปใครจะรับรองได้ว่าในบรรดาพวกเขาจะไม่ถูกซื้อตัวไป?ยิ่งไปกว่านั้นอวิ๋นฝูหลิงยังไหว้วานโอวหยางหมิงว่าต้องการหมอหญิงสี่คนจากสำนักหมอหลวงด้วยแรกเริ่มอวิ๋นฝูหลิงต้องการผู้ช่วยเพียงสองคน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนฉวยโอกาสนี้ก่อเรื่องเพราะเหตุนี้นางจึงขอเพียงเป็นหมอหญิงที่มีความละเอียดรอบคอบ และมีคุณธรรมส่วนพื้นเพของพวกนาง ก็ไม่ได้ชัดเจนนักยังมีหมอหลวงจง ที่เขามาโดยไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 384

“แม้แต่ยามที่อวิ๋นกานซงยังเป็นหมอหลวง ตำแหน่งของเฉิงชงก็ยังสูงกว่าเขามาก”“ยิ่งไปกว่านั้นสกุลเฉิงยังเป็นสกุลแพทย์ที่เก่าแก่นับร้อยปี มีพื้นเพความเป็นมาลึกล้ำ เฉิงชงมิใช่คนที่จะถูกทรัพย์สินหรือสิ่งของธรรมดาทำให้เคลื่อนไหวได้”“อวิ๋นกานซงยามนี้กำลังตกยาก มิใช่ว่าข้าดูถูกเขา แต่ด้วยสภาพเขาในตอนนี้ ยังจะสามารถติดสินบนเฉิงชงได้หรือ?”ทันใดนั้นเองอวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวขึ้นมาว่า “มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”“หมอทุกคนไม่มีผู้ใดไม่สนใจเรื่องการตรวจโรคและแผนการรักษา รวมถึงเรื่องการเขียนใบสั่งยา”“ยามนั้นที่พ่อของข้าสิ้นใจ ข้ายังเด็กนัก ทุกสิ่งของจวนจี้ชุนโหวจึงล้วนตกไปอยู่ในมือของอวิ๋นกานซง”“บันทึกมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์การรักษาและการวินิจฉัยโรคที่ปู่ทวดกับพ่อของข้าเหลือทิ้งไว้ ล้วนถูกอวิ๋นกานซงเอาไป”“ของเหล่านั้นในวงการแพทย์ ไม่ต่างไปจากสมบัติล้ำค่า”“หากอวิ๋นกานซงเอาตำราแพทย์ที่ปู่ทวดและพ่อของข้าเหลือทิ้งไว้ ไปใช้ติดสินบนเฉิงชง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”อวิ๋นฝูหลิงเดาว่าสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคืออวิ๋นกานซงใช้ตำราแพทย์เป็นแต้มต่อรอง เพื่อทำการแลกเปลี่ยนกับเฉิงชง จุดประสงค์คือต้องการแก้แค้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 385

“นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้า!” ในน้ำเสียงของอวิ๋นฝูหลิงแฝงไปด้วยความประหลาดใจและผิดหวังหมอหญิงซุนถูกมัดขณะที่นำตัวเข้ามาในห้อง เห็นได้ชัดว่ากระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากใบหน้าของนางราวกับคนตาย ดวงตาทั้งสองข้างไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อยเหยากวงส่งถุงกระดาษเล็ก ๆ ถุงหนึ่งให้อวิ๋นฝูหลิง“พระชายา ระหว่างที่ข้าสังเกตการณ์ หลังจากนางเห็นว่าฮูหยินน้อยฉู่หลับไปแล้ว ก็ส่งสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติในห้องคลอดออกไป และคิดจะโรยผงนี้บนบาดแผลของฮูหยินน้อยฉู่”อวิ๋นฝูหลิงรับถุงกระดาษถุงเล็กใบนั้นมา หลังจากเปิดออกก็พบว่าด้านในคือผงยาสีเขียวอ่อนจำนวนหนึ่งนางใช้เล็กหยิบขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะวางไว้ที่จมูกและสูดดมสีหน้าของอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนไปโดยพลันหญ้ากระดูกผี!สมุนไพรชนิดนี้จะขึ้นอยู่รอบหลุมศพ มิได้พบเห็นได้โดยทั่วไปเพราะเติบโตออกมาจากในรอยแยกกระดูกคนตาย และในช่วงกลางคืนยังเปล่งแสงสีเขียวออกมาจาง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่าหญ้ากระดูกผีหลังจากนำสมุนไพรชนิดนี้ไปตากแห้งและบดจนกลายเป็นผง หากนำมาโรยบนบาดแผล จะทำให้บาดแผลฟื้นฟูช้าลงมาก ต่อมาแผลจะบวมแดงและเกิดหนอง ก่อนที่แผลจะเน่าการใช้อุบายเช่นนี้ทำร้ายคน ช
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 386

สูตรลับและทักษะแพทย์เหล่านั้นที่สืบทอดมาของสกุลซุน ย่อมไม่อาจถ่ายทอดให้นางได้หมอหญิงซุนชอบเรียนแพทย์ ต่อให้ต้องแอบเรียน นางก็ไม่สนใจทว่าหลังจากบิดาซุนสังเกตเห็นความคิดของนาง ก็ดุด่านางอย่างรุนแรง และออกคำสั่งอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้นางมีความคิดที่จะเรียนทักษะแพทย์ของสกุลซุนหลังจากนั้น สำนักหมอหลวงก็ต้องการรับสมัครหมอหญิงกลุ่มหนึ่งหมอหญิงซุนคิดว่าอยู่สกุลซุนนางก็ไม่ได้เรียนรู้สิ่งใดเลย ไม่สู้ไปเป็นหมอหญิงที่สำนักหมอหลวงจะดีกว่าในสำนักหมอหลวงมีหมอหลวงมากมาย หากมีวาสนาได้พบคนใจดี ได้รับคำแนะนำเพียงเล็กน้อย นางก็ได้รับประโยชน์มากแล้วแม้จะไม่มีใครยอมชี้แนะนาง นางก็แอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง หลังจากผ่านไปนานก็สามารถเรียนรู้มาได้บ้างเรื่องที่หมอหญิงซุนต้องการไปเป็นหมอหญิงที่สำนักหมอหลวง บิดาซุนเห็นแบบนี้ก็ดีใจในความสำเร็จถึงอย่างไรการได้เข้าไปชุบทองสักชั้นในวังหลวงก็เป็นเรื่องที่ดี ในอนาคตก็ย่อมมีส่วนช่วยในการหาคู่ครองของหมอหญิงซุนด้วยหมอหญิงซุนมีความรู้เรื่องการแพทย์อยู่บ้าง ทั้งยังมีพื้นเพมาจากครอบครัวหมอ จึงได้รับเลือกให้เข้ามาในสำนักหมอหลวงได้อย่างราบรื่น และกลายเป็นหมอหญิงค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 387

“ข้าย่อมอยากไป!”“ใครจะคิดว่าช่วงเย็นจะมีคนมาหาข้า ต้องการให้ข้าทำบางอย่างระหว่างการผ่าตัดวันนี้ หน้าที่คือต้องทำให้การผ่าตัดนี้ล้มเหลว เพื่อทำลายชื่อเสียงหมอเทวดาของแม่นางอวิ๋น”“หากใช้โอกาสนี้ยุแยงให้จวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินกับแม่นางอวิ๋นเป็นศัตรูกันได้ ก็ยิ่งเป็นการดี!”เซียวจิ่งอี้ฟังมาถึงตรงนี้ ก็เอ่ยถามว่า “คนผู้นั้นที่มาหาเจ้าคือใคร?”หมอหญิงซุนส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้จักคนผู้นั้น”“เขาสวมชุดขันที จากน้ำเสียงและท่าทาง น่าจะเป็นขันทีในวัง”อวิ๋นฝูหลิงคิดว่าคนผู้นั้นที่มาหาหมอหญิงซุนคือกุญแจสำคัญขอเพียงหาคนผู้นั้นเจอ ก็จะรู้ได้ว่าผู้ที่วางแผนร้ายอยู่เบื้องหลังพวกเขาคือใครอวิ๋นฝูหลิงออกคำสั่งกับเหยากวง “เจ้าไปเอาถ่านไม้มาจากห้องครัวสักหน่อย ตัดให้เป็นแท่งถ่านหนาเท่านิ้วก้อย”เหยากวงพยักหน้า และให้คนไปนำของมาทันทีฮูหยินฉู่ออกคำสั่งไว้ก่อนแล้วว่า ไม่ว่าพวกอวิ๋นฝูหลิงต้องการสิ่งใด ก็ต้องได้รับความพึงพอใจก่อนแท่งถ่านจะถูกนำมา อวิ๋นฝูหลิงก็ถามต่อว่า “คนผู้นั้นต้องการให้เจ้าลงมือระหว่างการผ่าตัด แล้วเหตุใดเจ้าต้องรอให้การผ่าตัดเสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงค่อยลงมือเล่า?”หมอหญิงซุนหลุบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 388

แม้หมอหญิงซุนจะโหดเหี้ยม แต่กลับน่าสงสารเช่นกันในยามนี้เอง เหยากวงก็ถือแท่งถ่านกลับมาพอดีอวิ๋นฝูหลิงรับแท่งถ่านแท่งหนึ่งมา ใช้ผ้าห่อ หลังจากนั้นก็เผยส่วนที่ถูกตัดจนเป็นปลายแหลมเล็กออกมานางพูดกับหมอหญิงซุนว่า “เจ้าจำขันทีผู้นั้นที่มาหาเจ้าได้หรือไม่ ว่ามีลักษณะเช่นไร?”หมอหญิงซุนหยักหน้า “จำได้เจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าอธิบายมาให้ละเอียด เขามีหน้าตาอย่างไร? ดวงตาเล็กหรือใหญ่? มีลักษณะพิเศษอันใดหรือไม่...”ตามคำอธิบายของหมอหญิงซุน อวิ๋นฝูหลิงถือดินสอถ่านวาดลงบนกระดาษนางไม่ได้วาดรูปมานานมากแล้ว โชคดีที่ทักษะการวาดรูปในชีวิตก่อนยังคงอยู่เซียวจิ่งอี้มองอวิ๋นฝูหลิงที่ขีดเขียนลงบนกระดาษ ผ่านไปไม่นาน ภาพของคนผู้หนึ่งก็ปรากฏบนกระดาษภาพเหมือนนั้นดูสมจริงมาก วิธีที่อวิ๋นฝูหลิงใช้วาดภาพก็ต่างจากในยุคนี้มากเขาไม่เคยเห็นวิธีวาดภาพเช่นนี้มาก่อนเซียวจิ่งอี้อดไม่ได้ที่จะเผยความแปลกใจจากในก้นบึ้งของดวงตาขึ้นมาพระชายาผู้นี้ของเขา ยังซ่อนความสามารถติดตัวที่เขาไม่รู้ไว้อีกกี่มากน้อยกันแน่?หลังจากหมอหญิงซุนเห็นภาพเหมือนที่อวิ๋นฝูหลิงวาด ก็พยักหน้าซ้ำ ๆ “เป็นเขา! เป็นเขาเจ้าค่ะ!”คิดไม่ถึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 389

หลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจชีพจรฮูหยินน้อยฉู่แล้ว ก็ตรวจบาดแผลของนางครู่หนึ่งบาดแผลไม่มีร่องรอยบวมแดงหรืออักเสบอวิ๋นฝูหลิงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังผ่าตัดสิ่งที่กังวลที่สุดคือปัญหาเรื่องแผลติดเชื้อขอเพียงบาดแผลไม่มีการติดเชื้อ ก็ย่อมหายสนิทได้ เช่นนั้นการผ่าตัดก็จะถือว่าประสบความสำเร็จอวิ๋นฝูหลิงทายาและพันแผนให้ฮูหยินน้อยฉู่ใหม่แผลบนท้องของฮูหยินน้อยฉู่ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง แต่จนถึงตอนนี้นางกลับยังไม่ผายลมเลยเพราะที่ผ่านมาผายลมไม่ได้ ฮูหยินน้อยฉู่จึงถูกคนจับตามอง ไม่ให้กินสิ่งใดมาโดยตลอดยามนี้คนจึงหิวจนไม่มีเรี่ยวแรงแล้วอวิ๋นฝูหลิงรู้สึกว่าไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้การที่ฮูหยินน้อยฉู่ยังไม่ผายลมออกมาเสียที อวิ๋นฝูหลิงคิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการที่ฮูหยินน้อยฉู่ไม่ยอมขยับตัวความจริงเมื่อคืนนางแนะนำให้ฮูหยินน้อยฉู่ขยับตัวเล็กน้อยบนเตียงและพลิกตัวแล้วแต่ฮูหยินน้อยฉู่กลัวจะเจ็บแผล ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมขยับตัวอวิ๋นฝูหลิงพูดตามตรงว่า “ฮูหยินน้อยฉู่ ไม่สู้ท่านลงจากเตียงมาเดินจะดีกว่ากระมัง?”“การขยับตัวจะช่วยให้ผายลมได้”“ขอเพียงผายลม ท่านก็จะสามารถกินอาหารได้แล้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 390

โชคดีที่พ่อบ้านหยวนช่วยนางจัดการแล้ว“พระชายา ข้าเรียกทางฝั่งนายหน้ามาแล้วขอรับ”“ท่านสะดวกเป็นช่วงยามใดที่จะให้เรียกพวกเขามาหรือขอรับ?”อวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด และกล่าวว่า “วันนี้ช่วงบ่าย”ช่วงบ่ายอวิ๋นฝูหลิงงีบหลับไปครู่หนึ่ง หลังจากตื่นได้ไม่นาน คนของโรงนายหน้าก็มาถึงจวนนายหน้าที่มามีอายุประมาณสี่สิบกว่าปี สวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน ผมเผ้าก็หวีเป็นระเบียบ ทั้งตัวดูเรียบร้อยมากทีเดียวนางก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับทำความเคารพอวิ๋นฝูหลิง“คารวะพระชายา!”“ได้ยินว่าพระชายาต้องการเลือกคนมาใช้งาน ข้านำคนที่มีอยู่ทั้งหมดมาให้เลือกแล้วเจ้าค่ะ”“ในนี้มีแปดสิบคน เป็นบุรุษสี่สิบคน และสตรีสี่สิบคน”“ขึ้นอยู่กับการเลือกของพระชายาเจ้าค่ะ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ดวงตากวาดมองไปยังคนที่ยืนเรียงแถวอยู่ในสวนคนที่ซื้อขายจากโรงนายหน้าล้วนมีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่วุ่นวายเหมือนนายหน้าส่วนบุคคล ซึ่งในบรรดาคนที่ทำการซื้อขายมีจำนวนมากที่ใช้วิธีผิดศีลธรรมลักพาตัวมายิ่งไปกว่านั้นนี่คือคนที่ต้องเข้าจวน โรงนายหน้าจึงยิ่งไปไม่กล้าละเลย ก่อนมาก็ล้วนคัดเลือกด้วยตัวเองมาก่อนแล้วครั้งหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงเดิมทีวางแผนจะ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3738394041
...
50
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status