ก่อนหน้านี้จางซานมู่เคยเห็นอวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดมาก่อน จึงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนยามนี้ได้ยินอวิ๋นฝูหลิงเอ่ยถาม เลยรีบรายงานตอบกลับไปว่า“เรื่องนี้ไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่ไม่กี่วันก่อนพวกเขาเพิ่งซื้อคฤหาสน์บริเวณชานเมืองทิศอุดรไว้หลังหนึ่ง เจ้าของคฤหาสน์คนเก่าเป็นพ่อค้าเศรษฐีคนหนึ่งของเจียงหนาน เพราะกิจการการค้าเกิดปัญหาเล็กน้อย จำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ จึงต้องนำคฤหาสน์หลังนี้เปลี่ยนมือให้ผู้อื่น”“สองสามวันมานี้พวกอวิ๋นชิงมู่มักไปพบปะกันที่คฤหาสน์หลังนั้น แถมภายในยังมีคนงานเดินเข้าออก”“ไม่รู้ว่าคฤหาสน์หลังนั้นจะเกี่ยวข้องกับกิจการที่พวกเขาร่วมหุ้นกันหรือไม่?”“แต่อวิ๋นชิงมู่ได้เงินจากที่บ้านไปหนึ่งหมื่นตำลึง บอกว่าเอามาเป็นเงินทุนสำหรับกิจการ”อวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิมเงินจำนวนหนึ่งหมื่นตำลึงนับว่าไม่ใช่น้อย ๆอีกทั้งนี่ยังเป็นเงินทุนจากอวิ๋นชิงมู่เพียงหนึ่งคนเท่านั้นในเมื่อเป็นการร่วมหุ้น เช่นนั้นพวกซื่อจื่อซุ่นอ๋องก็ต้องลงเงินด้วยเช่นกันดูแล้ว เงินลงทุนสำหรับกิจการนี้จะต้องมิใช่น้อย ๆ แน่ อย่างต่ำก็ต้องหมื่นตำลึงขึ้นไปทว่ากิจการนี้มิได้ซื้อร้านค้าดี ๆ
Read more