All Chapters of ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: Chapter 391 - Chapter 400

492 Chapters

บทที่ 391

ก่อนหน้านี้จางซานมู่เคยเห็นอวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดมาก่อน จึงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนยามนี้ได้ยินอวิ๋นฝูหลิงเอ่ยถาม เลยรีบรายงานตอบกลับไปว่า“เรื่องนี้ไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่ไม่กี่วันก่อนพวกเขาเพิ่งซื้อคฤหาสน์บริเวณชานเมืองทิศอุดรไว้หลังหนึ่ง เจ้าของคฤหาสน์คนเก่าเป็นพ่อค้าเศรษฐีคนหนึ่งของเจียงหนาน เพราะกิจการการค้าเกิดปัญหาเล็กน้อย จำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ จึงต้องนำคฤหาสน์หลังนี้เปลี่ยนมือให้ผู้อื่น”“สองสามวันมานี้พวกอวิ๋นชิงมู่มักไปพบปะกันที่คฤหาสน์หลังนั้น แถมภายในยังมีคนงานเดินเข้าออก”“ไม่รู้ว่าคฤหาสน์หลังนั้นจะเกี่ยวข้องกับกิจการที่พวกเขาร่วมหุ้นกันหรือไม่?”“แต่อวิ๋นชิงมู่ได้เงินจากที่บ้านไปหนึ่งหมื่นตำลึง บอกว่าเอามาเป็นเงินทุนสำหรับกิจการ”อวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิมเงินจำนวนหนึ่งหมื่นตำลึงนับว่าไม่ใช่น้อย ๆอีกทั้งนี่ยังเป็นเงินทุนจากอวิ๋นชิงมู่เพียงหนึ่งคนเท่านั้นในเมื่อเป็นการร่วมหุ้น เช่นนั้นพวกซื่อจื่อซุ่นอ๋องก็ต้องลงเงินด้วยเช่นกันดูแล้ว เงินลงทุนสำหรับกิจการนี้จะต้องมิใช่น้อย ๆ แน่ อย่างต่ำก็ต้องหมื่นตำลึงขึ้นไปทว่ากิจการนี้มิได้ซื้อร้านค้าดี ๆ
Read more

บทที่ 392

คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วล้วนพบกับฮูหยินฉู่ที่เรือนหลัก แล้วจึงถูกไล่ให้กลับไปด้วยความสุภาพส่วนคนกลุ่มที่ได้เข้าห้องคลอดแล้วเห็นว่าฮูหยินน้อยฉู่ที่ยังมีชีวิตอยู่ตัวเป็น ๆ หลังกลับไปก็อดที่จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยให้คนอื่นฟังอย่างออกรสออกชาติไม่ได้เพียงชั่วเวลาหนึ่ง จากหนึ่งคนสู่สิบคน จากสิบคนแพร่ไปเป็นร้อยคน เรื่องราวแพร่กระจายออกไปกว้างยิ่งขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากฮูหยินน้อยฉู่เพิ่งได้รับการผ่าท้องเอาเด็กออก จำต้องได้รับการพักผ่อนอย่างสงบ ช่วงนี้จึงไม่เหมาะที่จะเข้าไปรบกวน ครั้นทุกคนไม่ได้เห็นฮูหยินน้อยฉู่ จึงพากันเบนสายตาไปที่อวิ๋นฝูหลิงถึงอย่างไรแล้วนางก็เป็นถึงปรมาจารย์ที่ผ่าคลอดเอาเด็กออกจากท้อง ทั้งยังรักษามารดาให้มีชีวิตรอดอยู่ได้เชียวนะทว่าสองสามวันนี้ใจของอวิ๋นฝูหลิงมัวแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องทางโรงปรุงยาเท่านั้นโรงปรุงยาตั้งอยู่ที่เรือนด้านในจวนจี้ชุนโหว ประตูใหญ่ปิดสนิท ความวุ่นวายที่ด้านนอกจึงไม่รบกวนไปถึงนางฉะนั้นจึงมีฮูหยินสูงศักดิ์ไม่รู้ตั้งมากมายเท่าไรที่อยากนัดพบอวิ๋นฝูหลิงสักครั้ง ทว่ากลับหาไม่เจอแม้แต่คนของอวิ๋นฝูหลิงวันนี้ ในที่สุดอวิ๋นฝูหลิงก็จัดการสะสางเรื่องทาง
Read more

บทที่ 393

หลังจากข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะไปร่วมงานชมบุปผาขององค์หญิงใหญ่ฉางเล่อแพร่กระจายออกไป เหล่าคนที่อยากพบอวิ๋นฝูหลิงสักหนแต่กลับไม่ได้เจอ พลันพากันใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีคิดหาวิธีการที่จะทำให้ได้มาซึ่งเทียบเชิญงานชมบุปผาขององค์หญิงใหญ่ฉางเล่อด้วยจับจ้องที่จะอาศัยงานชมบุปผาขององค์หญิงใหญ่ฉางเล่อให้ได้พูดคุยกับอวิ๋นฝูหลิงสักครั้งวันงาน เมื่อได้เห็นแขกเหรื่อมากมายพากันตบเท้าเข้ามาร่วมงาน องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อในฐานะแม่งานก็ถึงกับตกตะลึงไปเลยทีเดียวครั้นเข้าใจสาเหตุของเรื่องราว องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อก็หลุดยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้อย่าว่าแต่คนอื่นเลย นางอาศัยเหตุผลที่ว่าดอกชิงไห่ถังผลิบานมาจัดงานเลี้ยงชมบุปผา ด้วยหนึ่งในเป้าหมายก็คืออวิ๋นฝูหลิงนี่ละงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยพระวรกายขององค์หญิงใหญ่ฉางเล่อไม่แข็งแรง เลยไม่อาจเข้าร่วมงานเลี้ยงได้เพราะจะว่าไป นางเองก็ยังไม่เคยได้พบหน้าอวิ๋นฝูหลิงผู้เป็นพระชายาอี้อ๋องผู้นี้เลยและไม่กี่วันมานี้ เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปจนเป็นที่ฮือฮา ฉยงอวี้จวิ้นจู่สนิทชิดเชื้อกับฮู
Read more

บทที่ 394

ถึงอย่างไรท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนี้ นางเชื่อว่าองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อไม่กล้าทำอันใดนางมากนักอวิ๋นฝูหลิงกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงข้าง ๆ องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อด้วยท่าทางสง่างามองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อมองแล้วลอบพยักหน้าให้เจ้าเจ็ดตาดีไม่เลว เลือกแม่นางผู้นี้มา นางมองแล้วสบายตายิ่งเมื่อนั่งลงแล้ว อวิ๋นฝูหลิงถึงได้เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองฟากฝั่งฝั่งหนึ่งมีคนที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่สองสามคน คงจะเป็นฮูหยินจากจวนขุนนางบรรดาศักดิ์ที่เคยพบหน้ากันที่งานเลี้ยงพระราชวังครั้งก่อนส่วนอีกฝั่งมีพระชายาองค์ชายใหญ่ พระชายาองค์ชายสาม และพระชายาองค์ชายห้าประทับอยู่อวิ๋นฝูหลิงแย้มยิ้มพลางผงกศีรษะให้พวกนาง นับเป็นการทักทายกันบรรดาฮูหยินขุนนางหลายคนมีฐานะสูงไม่สู้อวิ๋นฝูหลิง จึงพากันลุกขึ้นยืนทำความเคารพพระชายาองค์ชายใหญ่กับพระชายาองค์ชายสามเพียงแค่พยักหน้าให้อวิ๋นฝูหลิงเท่านั้น นี่นับว่าเป็นการตอบกลับแล้วส่วนพระชายาองค์ชายห้านั้นยิ้มตอบให้อวิ๋นฝูหลิงขณะที่ทักทายกันอยู่นั้น ไม่รู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ที่เดิมทีกำลังต้อนรับแขกเหรื่ออยู่ในสวน พาสหายที่เที่ยวเล่นด้วยกันเดินมาหาตั้งแต่เมื่อไรหญิ
Read more

บทที่ 395

“ด้วยฮูหยินน้อยฉู่มีข้อจำกัดหลายอย่างทางร่างกาย กอปรกับตั้งครรภ์เด็กแฝด ไม่อาจให้กำเนิดได้อย่างราบรื่น ทั้งยามให้กำเนิดก็อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่อาจจะทำให้กลายเป็นหนึ่งศพสามวิญญาณ”“ท่ามกลางความอับจนหนทาง ถึงได้จำเป็นต้องใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกเช่นนี้”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงมองไป ก็ได้เห็นว่าหลายคนมีสีหน้าไม่เห็นด้วยว่าเป็นเช่นนั้นนางชะงักไปเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อไป “อย่างที่พวกท่านทราบ วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกนี้ข้าไม่ได้คิดขึ้นมาเป็นคนแรก ก่อนหน้านี้มีคนที่ผ่าท้องเอาเด็กออกแล้ว แต่เหตุใดวิธีนี้ถึงไม่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางกัน?”หญิงสาวผู้มีดวงตากลมโตที่เอ่ยปากออกมาเป็นคนแรกคิดดูเล็กน้อย แล้วลองตอบหยั่งเชิงไปว่า “เพราะทำให้คนตายได้หรือ?”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ไม่ผิด วิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกนี้ใช่ว่าจะไม่มีอันตราย”“การผ่าท้องเอาเด็กออกในสมัยก่อน มักผ่าท้องเอาบุตรออกมาจากท้องมารดาหลังจากมารดาผู้ให้กำเนิดสิ้นชีวิต” “เช่นนี้ทั้งรักษาชีวิตชีวิตหนึ่งไว้ได้ ทั้งไม่ได้เป็นการโหดร้ายถึงขั้นที่ผ่าท้องคนทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จนทำให้มารดาผู้ให้กำเนิดถึงแก่ชีวิต”“วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกของข
Read more

บทที่ 396

“หากพวกท่านไม่เชื่อ ก็รอให้ฮูหยินน้อยฉู่พ้นจากการอยู่ไฟไป แล้วพวกท่านค่อยไปถามนางดูก็ได้”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวสรุปในท้ายที่สุด“ดังนั้น การผ่าท้องเอาเด็กออกจึงเป็นวิธีการที่อยู่ในสถานการณ์ที่ทำอย่างอื่นอย่างใดไม่ได้แล้วถึงจะนำมาใช้ ด้วยวิธีนี้ยังมีอันตรายอยู่”“พวกท่านจะเอาไว้เป็นตัวเลือดสุดท้ายได้ แต่ไม่ควรนำมาเป็นตัวเลือกแรก”การแพทย์และอนามัยในยุคนี้นั้นยังด้อยอยู่มากจริง ๆที่อวิ๋นฝูหลิงกล้าทำการผ่าคลอด ก็เพราะมีนิ้วทองคำอยู่ในมิติ กอปรกับประสบการณ์การผ่าตัดของนางเมื่อชาติก่อนเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่กล้าชะล่าใจเพียงแค่การเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัด อวิ๋นฝูหลิงก็ต้องใช้ความคิดและจิตใจไปตั้งไม่รู้มากน้อยเท่าไร พยายามรักษาความสะอาดทางอนามัยในห้องผ่าตัดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และนางยังต้องคอยจับตามองอาการฟื้นตัวของฮูหยินน้อยฉู่หลังผ่าตัดอีกด้วยด้วยกลัวว่าหากประมาทเลินเล่อไปเพียงอย่างเดียว บาดแผลจะติดเชื้อและอัดเสบ จนกระทบต่อการฟื้นฟูนางกลัวมากว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ แล้วเกิดมีหมอไร้จรรยาบรรณผู้ขวัญกล้าเทียมฟ้า นำความสำเร็จในการผ่าท้องเอาเด็กออกของนางในครั้งนี้ไปอวดอ้าง
Read more

บทที่ 397

เฉิงชงรู้สึกสนใจการผ่าตัดเปิดหน้าท้องของอวิ๋นฝูหลิงอย่างยิ่งจนในที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโอวหยางหมิงและจงฮุยอยู่ในขั้นธรรมดาทั่วไป จะลดทิฐิเป็นฝ่ายเข้าหาพวกนั้น แล้วให้ทั้งคู่พาตัวเองไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยกันก็ทำไม่ได้อีกทั้งเฉิงชงก็ไม่ค่อยได้คบค้าสมาคมกับจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินนี้ จะให้ไปเยือนถึงประตูเรือกันโต้ง ๆ เพื่อขอเรียนรู้ถึงที่เลยก็ไม่เป็นการดีเขาครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย แล้วจึงไปพบหมอหญิงติงสกุลติงกับสกุลเฉิงมีความสัมพันธ์กันมานาน อีกทั้งยามหมอหญิงติงอยู่ในสำนักหมอหลวงก็ได้รับการดูแลจากเฉิงชงไม่น้อยบัดนี้อวิ๋นฝูหลิงขอให้โอวหยางหมิงหาหมอหญิงสักสองสามคนมาช่วยงาน ประจวบเหมาะกับที่หมอหญิงติงเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเฉิงชงต้องการให้หมอหญิงติงจดจำขั้นตอนการผ่าตัดทุกขั้นทุกตอนไว้อย่างละเอียดยิบ ห้ามขาดห้ามเกิน พอกลับมาก็ค่อยเล่าต่อให้เขาฟังอีกทีจนในที่หมอหญิงติงนั้นใจไม่สู้อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งจะลงมีด นางก็ตกใจกับเลือดสด ๆ ที่ทะลักออกมาเต็มสองตาจนถูกคนหามออกไปนอกห้องผ่าตัดเสียอย่างนั้นหลังจากหมอหญิงติงกลับไป ก็ได้แต่บอกกล่าวการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดบางส่วนเท่าที่ตนเองเ
Read more

บทที่ 398

ครั้นอวิ๋นฝูหลิงได้ยินคำว่าจวนเซียงกั๋วกง ก็นึกขึ้นได้ว่าจ้าวเสวียซือผู้เป็นเหมือนพี่น้องของเซียวจิ่งอี้ก็เป็นคุณชายสามของจวนเซียงกั๋วกงเช่นกันเจี่ยงซื่อภรรยาคุณชายรองจวนเซียงกั๋วกงผู้นี้ จึงนับได้ว่าเป็นพี่สะใภ้รองของจ้าวเสวียซือเจี่ยงซื่อมีดวงตาโตรับกับคิ้วหนา มีความองอาจผึ่งผายแฝงอยู่ในระหว่างคิ้วต่อมาพอได้พูดคุยกันแล้ว อวิ๋นฝูหลิงถึงได้รู้ว่าเจี่ยงซื่อเกิดในตระกูลทหาร มิน่าเล่า นางถึงได้มีกลิ่นอายองอาจของพยัคฆ์สาวจากตระกูลทหาร ทั้งนิสัยก็ยังง่าย ๆ สบาย ๆส่วนวั่นซื่อฮูหยินสามแห่งจวนตงชางปั๋วนั้น กลับมินิสัยไม่ค่อยพูดค่อยจาทว่าอวิ๋นฝูหลิงก็ยังชอบพระชายาองค์ชายห้ามากเป็นอย่างยิ่งอยู่ดี ในเมื่อบังเอิญพบกันแล้ว ก็เดินเล่นในสวนด้วยกันไปเสียเลยขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่นั้น อวิ๋นฝูหลิงก็หันไปเห็นว่าเจี่ยงซื่อกับวั่นซื่อกำลังเจ้ากระทุ้งข้า ข้ากระทุ้งเจ้าเข้าโดยบังเอิญ ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนเอ่ยปากพูดแทนมากกว่าเจี่ยงซื่อที่จู่ ๆ ก็สบเข้ากับดวงตาของอวิ๋นฝูหลิงที่มองมา พลันดูขวยเขินขึ้นมาพระชายาองค์ชายห้าเห็นดังนั้น กลับหัวเราะออกมา
Read more

บทที่ 399

อวิ๋นฝูหลิงรู้จักเทียบยาของเวชสำอางอยู่ไม่น้อยภายใต้การบริหารของตระกูลอวิ๋นเมื่อชาติก่อนนั้น ก็มีบริษัทผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นการทำเวชสำอางเป็นหลักอยู่เครื่องบำรุงผิวที่อวิ๋นฝูหลิงใช้อยู่เดี๋ยวนี้ ล้วนเป็นของที่นางทำขึ้นเองทั้งนั้นเพียงแต่เพราะเรื่องราวที่สุมอยู่บนศีรษะของอวิ๋นฝูหลิงก่อนหน้านี้ก็ทำให้นางยุ่งมากพอแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ได้คิดจะบุกเบิกเส้นทางของความสวยความงามนี้บัดนี้ทันทีที่ความคิดนี้โผล่ขึ้นมา จึงไม่อาจหยุดยั้งได้อีก นึกถึงตอนที่นางมาถึงเมืองหลวงเป็นครั้งแรก เซียวจิ่งอี้ก็ให้คนมาซื้อของมาล่วงหน้าไว้ให้นางมากมาย นอกจากเสื้อผ้าปิ่นปักผมต่างหูพวกนี้แล้ว ยังรวมไปถึงชาดและแป้งน้ำด้วยอวิ๋นฝูหลิงเคยเห็นชาดและแป้งที่สตรีในยุคนี้ใช้กันมาก่อน มีหลายอย่างที่มีตะกั่วผสมปนเปอยู่ด้วยหากใช้ไปนานวันเข้า จะทำให้ใบหน้าเสียหายฉะนั้นตอนนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงให้คนเก็บของพวกนั้นไป ไม่เคยหยิบออกมาใช้เลยสักครั้งเดียวหากนางทำเครื่องบำรุงผิวที่ใช้แล้วไม่เพียงทำลายผิวหน้า แต่ยังทำให้ผิวพรรณของคนผู้นั้นสดใสและแข็งแรงออกมาได้ จะต้องได้รับการต้อนรับมากแน่นอนเพียงแต่เรื่องที่สุมอยู่บน
Read more

บทที่ 400

พระชายาองค์ชายใหญ่ที่เดิมทียังคงสีหน้าราบเรียบ ในที่สุดก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยนางจดจ้องเงาหลังที่เดินจากไปของพระชายาองค์ชายสาม ในตาพลันทอแววรังเกียจระคนโกรธเคืองคำพูดพวกนั้นที่พระชายาองค์ชายสามพูดออกมาเมื่อครู่นี้ แม้จะเป็นการเสี้ยม แต่กลับเป็นความจริงทุกประโยคเดิมทีเซียวจิ่งอี้ก็ได้รับความโปรดปรานถือหางจากฮ่องเต้เซียวจิ่งอี้อยู่แล้ว บัดนี้ได้อวิ๋นฝูหลิงเข้ามาช่วยเขาเอาชนะใจคนอีกแรง จะไม่สั่นคลอนเขาได้ยากกว่าเดิมหรือ?ก่อนนี้พระชายาองค์ชายใหญ่ดูแคลนอวิ๋นฝูหลิงด้วยคิดว่าแม้นางสตรีสูงศักดิ์จากจวนโหว ทว่าว่ากันแล้วก็เป็นเพียงหมอชนชั้นแรงงานเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้จวนจี้ชุนโหวก็สูญสิ้นหลงเหลือไว้เพียงชื่อเท่านั้น เป็นแค่เปลือกหุ้มว่างเปล่า ไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจแม้แต่นิดเดียวเซียวจิ่งอี้แต่งอวิ๋นฝูหลิงเป็นพระชายาเอก เกินกว่าครึ่งต้องเป็นเพราะหลงใหลในความงามจนถึงขั้นเสียสติเป็นแน่ด้วยตำแหน่งพระชายาอ๋องนี้นั้นมิได้ธรรมดาสามัญ ไม่อาจเลือกใครมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ตามใจชอบสำหรับเหล่าองค์ชายที่มีใจแย่งชิงบัลลังก์แล้ว ตำแหน่งนี้นำมาแลกเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองได้มีตระกูล
Read more
PREV
1
...
3839404142
...
50
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status