บททั้งหมดของ แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: บทที่ 261 - บทที่ 270

300

บทที่ 261

ภายในเรือนของชาวนา ลมหายใจแห่งความตายพัดผ่านเข้ามาใกล้เฉินจี๋รีบตอบว่า“ฮองเฮาอยู่ในห้องด้านข้าง!”ทว่ารอเมื่อเขาเข้าไปในห้องด้านข้างพร้อมกับฝ่าบาท ข้างในกลับไม่มีใครสักคนเฉินจี๋อึ้งตะลึงเขาเห็นอย่างชัดเจนว่า ฮองเฮาเข้ามาในนี้สายตาของเซียวอวี้ มองไปยังหน้าต่างด้านหลังเขาที่ปกติสุขุมใจเย็น หลังจากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนหนีไปแล้ว แววตาฉายแววดั่งคลื่นพายุโหมกระหน่ำอยากที่จะ ฆ่าคน……ผ่านไปสามวันข้างนอกเมืองอวิ๋นในสถานที่พักแรมแห่งหนึ่งโต๊ะติดข้างหน้าต่าง มีคนสองคนนั่งอยู่“ท่าน...นายท่าน พวกเราออกจากเมืองอวิ๋นแล้ว หลังจากนี้จะไปทางไหนต่อขอรับ?” อู๋ไป๋เกือบขานเรียกผิดคนที่สวมหน้ากากตรงหน้าเขา แต่งตัวสวมชุดบุรุษ ก็คือเฟิ่งจิ่วเหยียนนางดื่มน้ำไปหลายคำ แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำว่า“ไปรับเวยเฉียง แอบส่งตัวไปยังชายแดนเหนือ”“ขอรับ”จากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนก็วางถ้วยชา พร้อมถามขึ้นมาว่า “จัดการศพเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”อู๋ไป๋ผงกศีรษะ พูดตอบนางด้วยเสียงต่ำ“ตามที่ท่านรับสั่ง ให้หาศพที่รูปร่างคล้ายกับท่าน สวมอาภรณ์ของท่าน โยนเข้าไปในป่า หลังจากพวกเขาเห็นศพที่หถูกหมาป่าก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 262

ฮูหยินเฟิ่งตกตะลึงจิ่วเหยียนหนีไปแล้วจริง ๆ หรือ นางไร้น้ำใจขนาดนี้จริงหรือ ทิ้งพ่อแม่แท้ๆ ของตนเอง...นายท่านเฟิ่ง พรวดลุกขึ้นมา เหมือนมีแผนการแล้ว“จะต้องเป็นเมิ่งฉวีตาเฒ่าคนนั้นแน่ ข้าจะไปเขียนจดหมาย ถามเขาดูว่า เขาอยากจะทำอะไรกันแน่!”จิ่วเหยียนเป็นลูกสาวของเขา ตอนนั้นเพียงแค่ฝากเลี้ยงไว้ในตระกูลเมิ่งตอนนี้นางเติบโตแล้ว แต่งงานแล้ว ตระกูลเมิ่งก็ควรที่จะตัดสัมพันธ์กับนางหลังจากนายท่านเฟิ่งออกไปแล้ว ดวงตาฮูหยินเฟิ่งเต็มไปด้วยน้ำตาเทียบกับความพร่ำบ่น มากยิ่งกว่านั้นคือนางเป็นกังวลยังไงก็เป็นลูกสาวของนาง นางเป็นกังวลว่า จิ่วเหยียนจะไปที่ใด สุขสบายดีไหมในห้องหนังสือนายท่านเฟิ่งกำลังจะหยิบพู่กันขึ้นมา พ่อบ้านบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน สีหน้าเหมือนไว้ทุกข์ให้ทายาท“นายท่าน เกิดเรื่องแล้ว”ความวัวยังไม่หาย ความควายเข้ามาแทรกแต่สำหรับนายท่านเฟิ่งแล้ว ต่อให้มีเรื่องใหญ่แค่ไหน ก็ไม่หนักหนาสาหัสเท่าฮองเฮาหนีไปแล้วพ่อบ้านปิดประตูอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็รายงานด้วยเสียงเบาว่า“นายท่าน คุณหนูเวยเฉียงหายไปแล้ว แม้แต่สาวใช้ไฉ่เยว่ก็ไม่เห็นแล้ว!”นายท่านเฟิ่งโกรธจนคิ้วขมวดเป็นเส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 263

เฟิ่งจิ่วเหยียนหันตัว โยนคนที่อยู่ใกล้นางที่สุดผ่านบนไหล่ตูม!คนนั้นกระแทกบนโต๊ะ ถล่มตกลงพื้นพร้อมกับโต๊ะที่แตกหัก เสียงกรีดร้องดังไม่หยุด“อ้าก...”คนอื่นเห็นดังนี้แล้วก็รวมตัวต่อสู้พร้อมกันแต่ไม่นาน พวกเขาทั้งหมดล้มกองลงบนพื้นอย่างระเกะระกะ ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสบาย ข้างหลังหน้ากาก ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นอาฆาตทหารกลุ่มนั้นพูดเตือนนางว่า“เจ้า เจ้ากล้าทำร้ายพวกเรา? พวกเราเป็นคนของค่ายทหารเป่ยต้า แม่ทัพน้อยเมิ่งเคยได้ยินไหม พวกเราล้วนเป็นทหารของนาง! ค่ายทหารเป่ยต้า เจ้ากล้ามีเรื่องด้วยหรือ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา“กฎค่ายทหารเป่ยต้านั้นเข้มงวด ปล่อยให้พวกเจ้ารังแกเอาเปรียบผู้หญิงบริสุทธิ์ได้อย่างไร”ทหารกลุ่มนั้นส่งเสียงหัวเราะเย้ย“พวกเราปกป้องดินแดน มีคุณงามความดี! นี่ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราควรได้!”“ใช่! หากไม่มีพวกเรา คนรัฐเหลียงคงโจมตีมาตั้งแต่แรกแล้ว! ยังจะมีชีวิตที่สงบเหมือนอย่างตอนนี้ได้อย่างไร!”เฟิ่งจิ่วเหยียนหิ้วคนหนึ่งขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว จับปกเสื้อของเขาไว้ด้วยสายตากดดัน“งั้นก็ตามข้าไปยังค่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 264

“ทำไมเจ้าก็สงสัยนาง?” ฮูหยินเมิ่งค่อนข้างแปลกประหลาดใจคนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ใจที่สุด ก็มีแต่อาจารย์หญิงนางเล่าเรื่องเกี่ยวกับเวยเฉียงให้ฟังทุกอย่าง และอธิบาย เหตุผลที่นางสงสัยเฉียวม่อฮูหยินเมิ่งฟังแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะผงกหัว“เจ้าคิดแบบนี้ ก็ใช่ว่าไม่มีเหตุผล”“หากเฉียวม่อ หมายปองตำแหน่งแม่ทัพน้อยเมิ่งตั้งแต่แรก งั้นนางก็ต้องกันเจ้าออกไป ลงมือทำร้ายเวยเฉียง บีบบังคับให้เจ้ากลับไป”“หากเป็นฝีมือของนางจริงๆ ถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างที่สุด!”ฮูหยินเมิ่งอย่างไรก็คาดคิดไม่ถึง เรื่องของเวยเฉียง ก็เป็นฝีมือของเฉียวม่อยัยเด็กคนนี้ นับตั้งแต่เมื่อไหร่ กลายเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้!อารมณ์จิตใจเฟิ่งจิ่วเหยียนซับซ้อน“ข้าก็ไม่อยากสงสัยนาง แต่เรื่องทุกสิ่งอย่าง ล้วนพุ่งความน่าสงสัยไปที่นาง”ฮูหยินเมิ่งเห็นด้วย“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เดิมข้าคิดว่ารอตรวจสอบได้ผลชัดเจนแล้ว ค่อยบอกกับเจ้า“ตอนนี้ สู้บอกกับเจ้าเสียเลย“ข้าสงสัยว่า เรื่องที่กองทัพมังกรพยัคฆ์ถูกทำลายล้าง เฉียวม่อต้องมีส่วนร่วมทำอะไรสักอย่างแน่ ช่วงหลายวันก่อน ข้าได้แอบสืบเรื่องนี้มาตลอด น่าเสียดายที
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 265

ตรงมุมหนึ่งของกำแพง มีร่องรอยเก่ากับใหม่ผสานกันอย่างไม่ถูกต้องเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ทำอะไรในทันที แสร้งทำเป็นตรวจดูเสร็จ แล้วก็ขอตัวกลับ พูดเน้นย้ำอาสะใภ้หกว่า ห้ามเอาเรื่องของนางไปบอกใครหลังจากดึกดื่น นางแอบเข้ามาในห้องทางทิศตะวันตกอีกครั้งหลังจากดันสิ่งของที่วางกองรวมกันอยู่ออกไป ก็พบว่าบนพื้นหลวมๆ เมื่อจัดการกับดินบนนั้นแล้ว ก็พบไม้กระดานสี่เหลี่ยมชิ้นหนึ่งเมื่อดันไม้กระดานนั้นขึ้นมา ก็เป็นเส้นทางใต้ดินนางใช้เพียงพับไฟส่องสว่าง แล้วก็คิดเข้าใจทันที เฉียวม่อย้ายสิ่งของหลายหีบนั้นเข้าไปในจวนแม่ทัพได้อย่างไรวันถัดมาเฟิ่งจิ่วเหยียนมาหาฮูหยินเมิ่งอีกครั้งไม่รอให้นางนำเรื่องที่พบเมื่อวานบอกกับอาจารย์หญิง ฮูหยินเมิ่งก็ชิงพูดเรื่องลับเรื่องหนึ่งขึ้นมาก่อน“นี่เป็นจดหมายด่วนจากพ่อของเจ้า เดิมนั้นส่งให้อาจารย์ของเจ้า ฉันเอามาดูก่อน เจ้าเองก็ดูด้วย”แววตาฮูหยินเมิ่ง เต็มไปด้วยความหนักใจเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันทีเมื่อเปิดจดหมายดู ค่อยรู้ว่า ฮ่องเต้ทรราชคนนั้น ไม่เชื่อว่านางตายแล้ว บีบบังคับให้นายท่านเฟิ่งส่งคนมาให้ฮูหยินเมิ่งจับมือข้างหนึ่งของนางไว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 266

เฉียวม่อพบแหล่งที่มาสิ่งของที่เป็นของกลาง พิสูจน์ว่าเป็นของที่ได้มาจากกลุ่มโจรปล้นสุสานเพื่อซ่อนสิ่งที่ได้มาเป็นพิเศษพวกนี้ จึงขนส่งไปยังจวนแม่ทัพเดิมคิดว่าสถานที่อันตรายที่สุดก็คือสถานที่ปลอดภัยที่สุด คิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะกล้าค้นจวนแม่ทัพเมิ่งฉวีไร้ความผิดถูกปล่อยตัวออกมา ข้าหลวงผู้ตรวจการนำความจริงของคดีนี้ กราบทูลฝ่าบาทที่อยู่ห่างไกลถึงเมืองหลวงเรื่องนี้ ดูเหมือนจะผ่านไปเสียแบบนี้แล้วและเรื่องที่แม่ทัพน้อยเมิ่งช่วยพ่อของตนเองไว้ กลายเป็นเรื่องเล่าอย่างน่าชื่นชมภายในค่ายทหารจวนแม่ทัพถูกปลดปล่อยวันที่แม่ทัพเมิ่งกลับมา ฮูหยินเมิ่งกับเฉียวม่อรอรับอยู่ตรงหน้าประตูจวน“ท่านพ่อ!” เฉียวม่อร้องเรียกอย่างตื่นเต้น วิ่งเร็วยิ่งกว่าฮูหยินเมิ่งฮูหยินเมิ่งมองเงาแผ่นหลังของนางด้วยสายตาหม่นหมอง พร้อมเงียบไปอยู่นานตอนกลางคืนฮูหยินเมิ่งกับเฟิ่งจิ่วเหยียนนัดเจอกันนางค่อนข้างไม่เข้าใจ“เฉียวม่อคิดอยากทำอะไรกันแน่?”วางแผนใหญ่โตขนาดนี้ มีผลประโยชน์ต่อนางอย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาว่า“บางที นางรู้ว่าท่านกำลังสืบเรื่องกองทัพมังกรพยัคฆ์”ฮูหยินเมิ่งเข้าใจขึ้นมาทันท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 267

ในตำหนักจื้อเฉิน พระราชวังเฉินจี๋เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แสดงออกถึงความร้อนใจอย่างเห็นได้น้อยครั้ง“ฝ่าบาท มีข่าวแจ้งมาว่า ฮองเฮาอยู่ชายแดนเหนือ!”เวลาต่อมา มีคนหนึ่งเดินออกมาจากในม่านบัง รอบกายเต็มไปด้วยความโกรธที่รุนแรง ราวกับชูร่าในนรก ภายใต้เงาร่างสูง แสงแดดแลดูหม่นหมองแววตาเซียวอวี้กำลังก่อตัวพร้อมกับพายุฝนที่ใกล้เข้ามาในความมืด สีหน้าเยือกเย็นอย่างที่สุดเขารู้อยู่แล้ว นางไม่มีทางตายหนีไปยังชายแดนเหนือหรือจักรพรรดิตรัสสั่งขึ้นมาพร้อมความขุ่นเคืองว่า “เจ้าพาคนจำนวนหนึ่ง ไปยังชายแดนเหนือ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็เปลี่ยนความคิดผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถอย่างยิ่ง รับมือได้หนึ่งต่อร้อย เฉินจี๋ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง……ในที่ว่าราชการนายท่านเฟิ่งเหม่อลอย เตรียมพร้อมกับการถูกประหารแล้วใครใช้ให้เขามีลูกสาวอกตัญญูเล่านางสนใจแต่เพียงความอิสรเสรี ทำให้ทุกคนในตระกูลต้องตายเพื่อนางไม่ง่ายกว่าจะรอจนถึงว่าราชการเสร็จสิ้น เดิมเขาคิดว่า ฝ่าบาทจะมีรับสั่งให้เขาอยู่ต่อ เพื่อทำการลงโทษเขาสุดท้าย เหมือนฝ่าบาทจะจำที่นัดหมายไว้หนึ่งเดือนไม่ได้ จบการว่าราชการเสร็จก็ออกไปเลยนายท่านเฟิ่ง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 268

ผู้ชายที่อยู่ในห้องค่อยๆ หันมา จับจ้องมองดูเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเยือกเย็นชาริมฝีปากของเขาแฝงไปด้วยความเลือดเย็น ส่วนที่กระตุกขึ้นมาเล็กน้อยแฝงไปด้วยความหนาวเหน็บ“ที่นี่สุขสบายกว่าพระราชวังหรือ”คำพูดประโยคนี้พูดขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้สึกได้ถึง ความขุ่นเคืองจัดที่เขาอดกลั้นไว้ก็ถูกนางในฐานะที่เป็นฮองเฮาหนีไปแล้วถือเป็นการเหยียบย่ำเกียรติของเขาที่เป็นกษัตริย์กับสามีเซียวอวี้ก้าวเท้าเดินมา ค่อยๆ เข้าใกล้นางนางไม่ได้ก้าวถอยหลัง และก็ไม่มีความคิดที่จะหนีไปชายหนุ่มหยุดชะงักตอนอยู่ห่างจากนางหนึ่งก้าว รูปร่างสูงใหญ่ราวกับเมฆดำบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดเงาใหญ่โตบนใบหน้าของนางทันใดนั้น เขาเอื้อมมือดึงม่านคลุมหน้าของนางออกนิ้วเรียวยาวยังคงวางอยู่บนแก้มของนาง ลูบไล้ไปตามกรามของนาง ในที่สุดก็หยุดตรงใต้คางของนาง“ทำไมต้องหนี?”น้ำเสียงของเขาลาวยาวนุ่มนวล ราวกลับก่อนการฆาตกรรม ที่กำลังล้อเหยื่อเล่น กลั่นแกล้งอย่างโหดเหี้ยมเฟิ่งจิ่วเหยียนสบกับสายตาของเขาอย่างไม่หวาดกลัว“เพราะหวาดกลัว”ทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มบีบคอของนางไว้ มองดูนางอย่างเยือกเย็นชา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 269

เฉียวม่อตรงไปยังกระโจมหลักของฮ่องเต้กับฮองเฮาแม่ทัพเมิ่งกำลังให้การต้อนรับด้วยตนเองเฉียวม่อกลับมองเห็น ศิษย์พี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างฝ่าบาท ริมฝีปากค่อนข้างแดง ยังมีรอยช้ำบนผิว เห็นได้ชัดว่า...เกิดจากการจูบอย่างรุนแรงและแววตาของฝ่าบาท เหลือบมองดูศิษย์พี่อยู่บ่อยครั้ง ราวกับให้ความสนใจนางเป็นอย่างยิ่งนี่ไม่ใช่ภาพที่เฉียวม่อคาดคิดไว้ฝ่าบาทจับตัวนางสนมที่หลบหนีได้ ควรลงโทษอย่างสาหัสถึงจะถูกและจากที่นางสังเกตเห็นได้จากเมื่อตอนที่ไปยังเมืองหลวงก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทไม่ชอบศิษย์พี่ส่วนศิษย์พี่...ศิษย์พี่ไม่อยากกลับพระราชวังไม่ใช่หรือ น่าจะต่อต้านถึงจะถูก!ระหว่างพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ากันได้ดีถึงขนาดนี้!เฉียวม่ออดกลั้นเก็บความสงสัยมากมายไว้ แล้วถวายบังคมอย่างฝืนยิ้ม“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮา”“ไม่ต้องมากพิธี”สิ่งที่เซียวอวี้ป่าวประกาศต่อภายนอกก็คือ เดิมครั้งนี้ฮองเฮาก็เดินทางมาพร้อมกับเขา เดินทางมาให้กำลังใจพวกทหาร แต่เพราะทนการเดินทางไกลอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่ไหว จึงพักอยู่ในที่พักแรมเป็นการชั่วคราวรถม้าของนางจึงมาถึงช้ากว่าเขาการอธิบายนี้มีพิรุธ แต่ก็ไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 270

เรื่องที่ให้ย้ายเฉียวม่อกลับไปยังเมืองหลวง เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายว่า“ฝ่าบาท ท่านเป็นกังวลว่าพ่อลูกตระกูลเมิ่ง มีอำนาจทางทหารมากเกินไปมาตลอด”“เฉียวม่อเป็นลูกศิษย์ของเมิ่งฉวี หลายปีมานี้รักใคร่นางเหมือนลูก หากสามารถรั้งตัวเฉียวม่อไว้ในเมืองหลวง เมิ่งฉวีก็จะต้องมีความกังวล”เซียวอวี้ฉีกยิ้มหัวเราะเย้ย“ให้เมิ่งเฉียวม่อไปเป็นตัวประกันหรือ ฮองเฮา เจ้าทำกับคนที่มีบุญคุณช่วยชีวิตเจ้าแบบนี้หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าลงเล็กน้อย“เทียบกับความสัมพันธ์ส่วนตัว หม่อมฉันอยากที่จะแบ่งเบาภาระท่านมากกว่า”“ความน่าเชื่อถือของแม่ทัพน้อยเมิ่งในค่ายทหารเป่ยต้าตอนนี้ มากเกินกว่าจักรพรรดิแล้ว”“หม่อมฉันคิดว่า มีอำนาจเหนือนายไปแล้ว“ย้ายแม่ทัพน้อยไป ก็สามารถค่อยๆ ทำให้ค่ายทหารเป่ยต้า กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของท่าน”ดูเหมือนนางเสนอแนะอย่างจริงใจ ทำให้เซียวอวี้ค่อยๆ มองข้ามกฎที่ “วังหลังห้ามยุ่งเรื่องการเมือง”เขาก็คิดว่า สิ่งที่นางพูดมานี้ไม่ผิดพ่อลูกตระกูลเมิ่งมีคุณความดีทางทหารอันเลื่องลือ หากจะพูดว่าเขาไม่หวาดระแวงอะไรเลย นั่นคือความเท็จกษัตริย์มักชอบสงสัย เขาเองก็ไม่ยกเว้นยามทำศึกต่อสู
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
252627282930
DMCA.com Protection Status