บททั้งหมดของ แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: บทที่ 201 - บทที่ 210

318

บทที่ 201

ภายในกระโจมหลัก เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ข้างถาดทราย มองดูแผนที่ภูมิศาสตร์จำลองของรัฐเหลียง อย่างมิได้ตั้งใจนัก ทว่าไม่ลดสายตาเหยียดหยามต่อโลกที่เฉียบคม อู๋ไป๋เร่งรีบเดินเข้ามา “แม่ทัพน้อย เฉินเซิ่งตายแล้วขอรับ” เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้แปลกใจแม้แต่น้อย ถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง “แล้วพ่อกับพี่ชายของสตรีนางนั้นอยู่ไหน?” “ข้าน้อยได้ส่งพวกเขาออกจากค่ายทหารอย่างปลอดภัยแล้ว ไม่มีผู้ใดเห็นว่าพวกเขาก่อเหตุขอรับ” เฟิ่งจิ่วเหยียนกดคางลงเล็กน้อย “อืม ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร” อู๋ไป๋พูดอย่างกังวล “แม่ทัพน้อย หลานชายของแม่ทัพซุนเสียชีวิต เขายังสามารถทำศึกด้วยจิตใจที่สงบได้หรือขอรับ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนน้ำเสียงเมินเฉย “มิใช่ว่าหลานชายของคนทั้งกองทัพชายแดนใต้เสียชีวิต “หากแม่ทัพไร้ความคิดจะสู้รบ เพียงแค่ถอนตัว ขอเพียงกองทัพชายแดนใต้ยังสามารถต่อสู้ได้ มันก็มิใช่ปัญหาใหญ่” “ขอรับ!” อู๋ไป๋เพิ่งจะเดินออกไป ก็พบกับแม่ทัพซุนที่เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบจนน่าสงสัย เขาหยุดอีกฝ่ายไว้ “ท่านมาหาแม่ทัพน้อยหรือ?” แม่ทัพซุนโกรธเป็นฟืนไฟ ผลักอู๋ไป๋ให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 202

กองทัพใหญ่หนานฉีชนะทุกศึก โจมตีมิเคยพลาด กรีธาทัพขึ้นเหนือสู่เมืองหลวงรัฐเหลียง ด้วยขวัญกำลังใจเหลือล้น กองทัพใหญ่รัฐเหลียงต่อต้านอย่างดึงดัน ทว่า ยังคงถูกล้อมทุกด้าน ได้แต่มองดูสหายนักรบที่อยู่รอบกายล้มลงทีละคน ความสิ้นหวังแผ่ซ่านทั่วร่าง ตูม—— ประตูเมืองที่แข็งแกร่งถูกกระแทกให้เปิดออก กองทัพแนวหน้าของหนานฉีบุกเข้ามา พร้อมเสียงร้องคำราม “ทำลายรัฐเหลียง! จับตัวฮ่องเต้เหลียง!” บนหอประตูเมือง อัครเสนาบดีรัฐเหลียงนำทัพออกไปต่อต้านด้วยตนเอง ในยามที่เห็นศัตรูถาโถมเข้ามาดุจเมฆทมิฬ และเมื่อเห็นแม่ทัพน้อยผู้สวมหน้ากากควบอาชานั้น มือของเขาก็สั่นระริกอย่างหนัก มาแล้ว นั่นคือเมิ่งสิงโจว! ในช่วงเวลาหนึ่ง เขารู้สึกว่าพวกเขาได้สบสายตากันด้วย หลังจากนั้นจึงสั่นสะท้านทั้งกาย “อัครเสนาบดี ระวัง!” ทหารนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา ได้สกัดกั้นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตให้เขา อัครเสนาบดีล้มลงกับพื้น ได้แต่มองดูธงประจำกองทัพรัฐเหลียงถูกปลดลง และถูกแทนที่ด้วยสัญลักษณ์ของแคว้นหนานฉี เขาแผดเสียงคำรามด้วยหัวใจที่ไม่ยินยอม ทหารหนานฉีกลุ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 203

ผลัวะ! ประตูห้องฌานเพิ่งเปิดออก หลิวซื่อเหลียงก็เห็นเงาด้านหลังผู้หนึ่ง ปรากฏมาอยู่ด้านหน้าของเขา ในเวลาเดียวกันก็ปิดบังสายตาของเขา และปิดประตูลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง คนผู้นั้นหันกลับมา ที่แท้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดต้าเจา——ปรมาจารย์เหลี่ยวคง ปรมาจารย์ผู้นี้มีอายุราวห้าสิบกว่า ทว่าเคลื่อนไหวว่องไว ในความอ่อนโยนแฝงด้วยความแข็งแกร่ง เฉกเช่นวิถีแห่งไท่เก๊ก “การอธิษฐานขอพรต้องทำให้เสมอต้นเสมอปลาย ฮองเฮาสวดมนต์อย่างสันโดษ อาตมาได้รับการไหว้วาน คอยห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปรบกวน” หลิวซื่อเหลียงเคยได้ทราบวีรกรรมสำคัญของปรมาจารย์เหลี่ยวคงมาก่อน ในรัชสมัยของอดีตฮ่องเต้ เหลี่ยวคงผู้นี้ก็เป็นแม่ทัพลือนามเช่นกัน เนื่องจากรู้สึกผิดบาปจากการฆ่าคนมากเกินไป จึงอุทิศตนให้แก่พุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีวัดฉือจี้ขนาดเล็กที่ใกล้กับวัดต้าเจา ถูกสร้างขึ้นโดยเหลี่ยวคงเช่นกัน เพื่อรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และคนเร่ร่อน เขากระทำแต่สิ่งดี ๆ มีชื่อเสียงในหมู่ราษฎรอย่างมาก เมื่อมีเขาเฝ้าประตูอยู่ หลิวซื่อเหลียงจึงต้องจำใจยอมแพ้ ไม่กล้าดึงดันจะบุกรุกอีก ทว่าฮองเฮาอยู่ข้างในหรือไม่ ยั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 204

สองชั่วยามต่อมา ด้านนอกของวัดต้าเจา ท่ามกลางราตรีที่มืดมิด เซียวอวี้ควบอาชา สวมอาภรณ์ผ้าแพรสีดำปักดิ้นเงิน ดวงตาดุจรัตติกาลแหลมคม เฉินจี๋ติดตามอยู่ด้านหลังของเขา ฮ่องเต้มีราชกิจรัดตัว ทว่าด้วยเรื่องของฮองเฮา กลับเสด็จมาที่นี่กลางดึก ค่อนข้างจะทุ่มเทสุดตัวจริง ๆ ในยามค่ำคืนวัดต้าเจาเงียบสงบเป็นพิเศษ เมื่อทราบข่าวฮ่องเต้เสด็จมา เจ้าอาวาสเหลี่ยวคงจึงออกมารับเสด็จที่ประตูวัด เหลี่ยวคงสงบนิ่งมาก ๆ “ฝ่าบาท ฮองเฮาสวดอธิษฐานทั้งวันทั้งคืน...” เซียวอวี้มิได้ยอมออกไปโดยง่ายเหมือนหลิวซื่อเหลียง ไม่รอให้เหลี่ยวคงพูดจบ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ทำไม เรามาจะทำลายความโชคดีหรือ?” “อาตมามิได้หมายความเช่นนั้น” เหลี่ยวคงก้มศีรษะลงเล็กน้อย เพื่อแสดงความเคารพ เซียวอวี้จึงเดินตรงเข้าไปในวัด จนกระทั่งถึงห้องฌาน เหลี่ยวคงยืนนิ่งพลางมองตามแผ่นหลังของเขา สีหน้าเคร่งขรึม…… มาถึงห้องฌานแล้ว เหล่าองครักษ์ล้วนแปลกใจที่ฮ่องเต้เสด็จมาด้วยองค์เอง ทำความเคารพทีละคน เซียวอวี้โบกมือหนึ่งครา ส่งสัญญาณให้พวกเขาถอยไป เหลียนซวงเฝ้าอยู่นอกป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 205

ฮ่องเต้และฮองเฮานั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกัน คนอื่นควบอาชา เหลียนซวงเป็นสตรี จึงนั่งบนคานรถม้า ด้านหน้าวัดต้าเจา เจ้าอาวาสเฝ้ามองรถม้าแล่นออกไป สามเณรที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างกังวล “อาจารย์ ฮองเฮากลับไปก่อนสวดอธิษฐานขอพรเสร็จ คงไม่มีผลกระทบอะไรใช่ไหมขอรับ?” เหลี่ยวคงพนมมือ กล่าวอย่างมีความนัยลึกซึ้ง “ไม่หรอก คำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผลแล้ว” ภายในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนตื่นขึ้นไวมาก ทว่ายังไม่ตื่นเต็มที่ การรับรู้ของนางยังไม่ชัดเจน ราวกับอยู่ในความฝัน หมอบอกว่านางติดเชื้อไข้หวัด ความจริงคือเกิดจากการเร่งรีบกลับเมืองหลวง บาดแผลจึงไม่ได้รับการดูแลที่ดี จึงทำให้เกิดมีไข้ขึ้นมา นางไม่สบายไปหมดทั้งตัว ในห้องโดยสารรถม้าก็ร้อนอบอ้าว นางจึงทำตามความต้องการโดยสัญชาตญาณ เปิดม่าน เพื่อรับลมบ้าง ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่ยื่นมา จับนางกลับไปทันที ในโสตได้ยินเสียงเตือนที่เย็นชาแหบแห้งของบุรุษ “วุ่นวายอะไร!” เพียงแค่นั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถูกบังคับให้กลับมาอยู่ที่เดิม การเดินทางโคลงเคลง นางกึ่งหลับกึ่งตื่น ยากที่จะทรงตัว ทิ้งร่างกายส่วนใหญ่พ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 206

เหลียนซวงคิดหาวิธีได้ในยามคับขัน “ฝ่าบาท ฮองเฮามีเหงื่อออกมาก ให้บ่าวเช็ดตัวให้ฮองเฮาเถอะเพคะ” หลังจากนั้น เซียวอวี้จึงลุกขึ้นแล้วเดินออกจากม่าน ภายในม่าน เหลียนซวงปลดเข็มขัดของฮองเฮา และเสื้อป้ายตัวใน บาดแผลปริแตกจริง ๆ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา เลือดจะซึมออกมาอย่างแน่นอน โชคดีที่ยังทันเวลา... ในขณะที่เหลียนซวงยุ่งอยู่ข้างใน เซียวอวี้นั่งอยู่ข้างนอก เขามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเย็นชา ราตรีมืดมิด ราวกับว่าอสูรกินคนกำลังซุ่มซ่อนอยู่ ฮองเฮามีคนคอยดูแลอยู่ที่นี่ เขาลุกขึ้นยืน เตรียมตัวกลับตำหนักจื้อเฉิน แต่แล้วทันใดเขากลับถูกดึงดูดโดยบางสิ่งตรงมุมห้อง กล่องใบนั้น คล้ายกล่องสินเดิมของฮองเฮา มังกรและหงส์ที่เสมือนจริงถูกแกะสลักบนกล่องนั้น งานฝีมือชิ้นนี้ แม้แต่ในพระราชวังก็หาชมได้ยาก เขาเดินไปทางนั้น พลันรู้สึกว่า ก้อนอิฐที่เหยียบย่ำ ให้ความรู้สึกผิดปกติ ดูไม่แน่น นัยน์ตาของเขามืดลง ก้มหน้ามองลงไป... ครั้งนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่าการกำจัดพิษนั้นยากมาก ต้องใช้เวลาหลายวัน ในการถ่ายเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 207

หลังจากออกว่าราชกิจเสร็จสิ้น เซียวอวี้ตรงมาที่ตำหนักหย่งเหอทันที เหลียนซวงกำลังรีบร้อน เพราะถึงเวลาออกไปรับยาแล้ว จึงเกือบชนเข้ากับขบวนเสด็จ นางรีบคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตุบ” “ถวาย ถวายบังคมฝ่าบาท!” เซียวอวี้ตั้งหน้าตั้งตาเดินผ่านนาง เข้าไปในตำหนัก ฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักหย่งเหอ ผู้ที่ดีใจที่สุดคือซุนหมัวมัว เหลียนซวงไปรับยาของฮองเฮา ซุนหมัวมัวได้โอกาสปรนนิบัติรับใช้ฝ่าบาท นางยกอาหารว่างและน้ำชาเข้ามา รอยยิ้มแผ่ออกจากดวงตา ขณะที่จะก้าวเข้าตำหนักบรรทม กลับถูกหลิวซื่อเหลียงที่เฝ้าอยู่นอกประตูหยุดไว้ ซุนหมัวมัวดูไม่เข้าใจ หลิวซื่อเหลียงกล่าวตักเตือนเบา ๆ “ฝ่าบาทกำลังสนทนากับฮองเฮา คนนอกห้ามรบกวน” รอยยิ้มบนใบหน้าของซุนหมัวมัวแข็งค้างทันที เหลียนซวงขัดขวางนาง มิปล่อยให้นางรับใช้ฮองเฮา เวลานี้หลิวกงกงก็ขัดขวางนาง...นางคือหัวหน้านางกำนัล มันน่าอึดอัดใจนัก! ในตำหนักบรรทม เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งพิงหัวเตียง เซียวอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง “ร่ายกายเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามอย่างเรียบเรื่อย เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ “ไม่เล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 208

ตำหนักหย่งเหอ ชายแดนเหนือสงบแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงกลับมา เพื่อตามสืบเรื่องบุคคลลึกลับต่อ ทว่าเบาะแสหยุดอยู่ที่จดหมายสองฉบับนั้น ไม่มีอื่นใดอีก ราวกับว่านางติดอยู่ในทางตัน เดินหน้าไม่ได้ถอยก็มิได้ “ฮองเฮา ดื่มยาเพคะ” เหลียนซวงเข้ามาพร้อมถ้วยยา เห็นว่าฮองเฮายังอ่านจดหมายสองฉบับนั้นอยู่ เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้มือเดียวหยิบถ้วยยาขึ้นมา ดื่มหมดภายในไม่กี่อึก เหลียนซวงมองดูถ้วยเปล่า ด้วยความตะลึงงัน ยาขมขนาดนั้น ฮองเฮาทนได้อย่างไร? จู่ ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนชายตาขึ้น มองไปไกลนอกตำหนัก ในตำหนักหย่งเหอ มีองครักษ์ลับเพิ่มอีกหลายคน เซียวอวี้คิดตรวจสอบนางเรื่องใดอีก? วันรุ่งขึ้น ฮูหยินเฟิ่งเข้าวัง นางเห็นใบหน้าซีดเซียวของเฟิ่งจิ่วเหยียน หัวใจยากจะรับไหว “ฮองเฮา ร่างกายสำคัญที่สุด” แคว้นหนานฉีมีทหารมากมาย มิใช่หน้าที่ของจิ่วเหยียนในการนำทัพออกรบจริง ๆ นางในฐานะเป็นมารดา เพียงแค่หวังว่าพวกลูก ๆ ทุกคนจะแข็งแรงปลอดภัย เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ว่านางกังวลเรื่องใดอยู่ จึงพูดปลอบใจ “พักไม่กี่วันก็หายแล้ว” ฮูหยินเฟิ่ง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 209

เซียวอวี้มองคนที่นอนอยู่บนหลังอาชาด้วยสายตาลึกล้ำ นางมีท่าทางราวกับเมามาย และสับสนมึนงง มือข้างหนึ่งห้อยลงมา มองเห็นได้ราง ๆ ว่าฝ่ามือมีเลือดออก... เหลียนซวงตามมาที่สนามม้าหลวง ก็ได้เห็นฝ่าบาทอุ้มฮองเฮาออกมาพอดี “ฝ่าบาท ฮองเฮา!” เหลียนซวงเร่งรีบคำนับ เกิดอันใดขึ้นกับฮองเฮา?! เซียวอวี้อุ้มนางกลับไปที่ตำหนักหย่งเหอ สั่งให้หมอหลวงรักษาบาดแผลให้นาง เหลียนซวงคุกเข่าลงบนพื้น ตัวสั่นระริก เซียวอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง เสมือนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ทำให้คนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากหมอหลวงพันแผลที่ฝ่ามือของเฟิ่งจิ่วเหยียนเสร็จ ก็รายงาน “ฝ่าบาท อาการบาดเจ็บที่มือของฮองเฮาไม่ร้ายแรง ทว่าร่างกายยังไม่ฟื้นตัว ยังขี่ม้าไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากหมอหลวงทูลลา เซียวอวี้ก็มองไปที่เหลียนซวง ดวงตาแหลมคมเยือกเย็น “ฮองเฮาบาดเจ็บได้อย่างไร” เหลียนซวงไม่รู้จริง ๆ “บ่าว...บ่าวได้รับคำสั่งให้พาฮูหยินเฟิ่งออกจากวัง จึงไม่เห็นเพคะ...” “ฮูหยินเฟิ่ง? นางพูดเรื่องใดกับฮองเฮา” ใบหน้าที่งดงามเย็นชาของเซียวอวี้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 210

โดยปกติแม่ทัพเมิ่งเป็นคนอารมณ์ดี เวลานี้ก็สุดที่จะทนเช่นกัน เขาขยำจดหมายจนเป็นลูกบอล ยังไม่บรรเทาโทสะ จึงนำไปเผาทิ้ง “ฮูหยิน มิต้องสนใจ! จิ่วเหยียนเป็นลูกสาวของพวกเราตลอดไป! เว้นเสียแต่นางจะไม่ยอมรับพวกเราเอง ชั่วชีวิตนี้พวกเราก็ไม่ทอดทิ้งนางเด็ดขาด!” ฮูหยินเมิ่งได้เห็นปฏิกิริยาของเขา จึงหลุดหัวเราะ “พรืด” ความโกรธเมื่อครู่นี้บรรเทาลงเช่นกัน แล้วนางก็ถามถึงอีกเรื่องหนึ่ง “เฉียวม่อไปรายงานผลงานที่เมืองหลวงแทนจิ่วเหยียน สองวันนี้คงใกล้ถึงแล้วกระมัง?” แม่ทัพเมิ่งผงกศีรษะ “ใกล้มากแล้ว” ฮูหยินเมิ่งถอนหายใจเบา ๆ “เดิมข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เวลานี้ก็ได้แค่หวังว่านางจะสามารถทำได้อย่างราบรื่น” แม่ทัพเมิ่งเกลี้ยกล่อมนางด้วยความอดทน “ฝ่าบาทมีพระราชโองการหลายครั้ง ทุกครั้งได้แต่อ้างเรื่องความไม่สงบของชายแดน เลื่อนการไปรายงานผลงานที่เมืองหลวงตลอด เวลานี้มีคนยื่นฎีกาแล้ว กล่าวโทษพวกเราว่าเย่อหยิ่งในกองทัพ ทำคุณงามความดีได้ก็ลำพองตน “ชัยชนะยิ่งใหญ่เหนือรัฐเหลียงครานี้ ชายแดนได้สงบสุข ฝ่าบาททรงจัดงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพ มีแม่ทัพอื่น
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1920212223
...
32
DMCA.com Protection Status