บททั้งหมดของ แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: บทที่ 91 - บทที่ 100

334

บทที่ 91

ตำหนักฉางซิ่นเวลานี้ล่วงเลยยามไห้ มาแล้วสามเค่อ ภายในตำหนักยังคงเหลือเพียงเซียวอวี้ผู้เดียวเขาเริ่มที่จะหมดความอดทนกระทั่งเมื่อเห็นคนที่กำลังมาอยู่ คิ้วที่ขมวดแน่นจึงได้คลายจากกัน“ครานี้มีคนสะกดรอยตามอีกแล้วหรือ?” เขาจงใจถามครั้งก่อนนางมาสายไปสองเค่อเพราะถูกเสี่ยวลู่จื่อจากตำหนักหลิงเซียวสะกดรอยตาม สามารถยกโทษให้ได้เพราะจำเป็นต้องจัดการผู้นั้นก่อนแต่ครั้งนี้เล่า?เฟิ่งจิ่วเหยียนนำเข็มเงินชุดหนึ่งออกมาวางเรียงบนโต๊ะ“มีธุระติดพัน” นางอธิบายอย่างขอไปทีจากนั้นเข้าสู่ประเด็นหลัก“เชิญถอดฉลองพระองค์ออก”คิ้วของเซียวอวี้แหลมคม เขาจ้องนางแน่นิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อนเฟิ่งจิ่วเหยียนหันหลังกลับไปเพื่อเตรียมตัว ทว่าเมื่อหันกลับมากลับพบว่าเขายังคงอยู่ในสภาพเดิม“เหตุใดไม่ถอดฉลองพระองค์ออก?” นางถามแววตาของเซียวอวี้เฉียบแหลมกว่าเดิม“นับวันเจ้าก็ยิ่งเกียจคร้าน“เรารอเจ้ามาสามเค่อแล้ว”ไม่เคยมีหมอหลวงคนใดกล้าให้เขาต้องรอมาก่อนในเมื่อจะมาสายก็ควรส่งข่าวมาบอก คิดว่าเขาไม่มีอย่างอื่นต้องทำหรือ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาด้วยความแน่นิ่ง“ข้าผิดที่ไม่ตรงต่อเวลา”“อืม” เซียวอวี้ละสาย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 92

“แค่ก ๆ…” เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกบังคับให้ต้องถลาลงพื้น พื้นรองเท้าเสียดสีเป็นรอยดำบนพื้นนางวางมือไว้ใต้ลำคอ พยายามขับยาเม็ดนั้นออกด้วยแรงตบทว่า เปล่าประโยชน์ เซียวอวี้หยุดยืนที่เบื้องหน้านางอย่างมั่นคง เสื้อคลุมถูกลมพัดปลิว เสริมให้ดูคาดเดายากกว่าเดิมดวงตาเย็นชาของเขาจดจ้องมาที่นาง แววตาลุ่มลึกดุจก้นเหว“เรารู้ว่าเจ้ามีความสามารถไม่น้อย“พิษแดนฝันออกฤทธิ์ทุก ๆ สิบวัน “หากเจ้ามาฝังเข็มตรงเวลา ข้าก็จะให้ยาถอนพิษตรงเวลา”ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชามาก“ทำเกินความจำเป็นแท้ ๆ”นางไม่ได้บอกว่าจะไม่ถอนพิษให้เขาสักหน่อย เขาระแวงไปเองทั้งนั้นหากไม่ใช่เพื่อความมั่นคงของบ้านเมืองหนานฉีแล้ว นางจะไม่ยอมอดทนแน่!จากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หลบหนีออกจากตำหนักฉางซิ่นเฉินจี๋จะไล่ตามไปแต่ถูกเซียวอวี้ห้ามไว้“ปล่อยนางไป”บัดนี้นางถูกยาพิษแล้ว ไม่ต้องกลัวว่านางจะหนีกระนั้น หญิงสาวนางนี้ก็ผิดจากความคาดหมายของเขานางรู้จักกระทั่งวิชาหดกระดูก หากไม่สามารถทำงานเพื่อเขาได้ เช่นนั้นรอให้ถอนพิษเสร็จแล้วต้องสังหารทิ้งเมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาเย็นชาดุจหยกเย็นของเซียวอวี้พลันปรากฏจิตสังหาร ……
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 93

จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็เสด็จกลับวัง เรื่องนี้ทำให้ทุกคนในวังตื่นตระหนกกันหมดตำหนักฉือหนิงไทเฮารู้สึกประหม่าอย่างยิ่งยวด“เหตุใดจึงกลับวังกระทันหันแบบนี้?”ตามหลักแล้ว หากไทฮองไทเฮาจะเสด็จกลับวังก็ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งเดือนเพื่อที่จะได้จัดพิธีต้อนรับ ทว่าครั้งนี้กลับเร่งรีบประหนึ่งมีเรื่องด่วนต้องจัดการอย่างไรอย่างนั้นไทเฮาอดระแวงไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรผิดให้ “เทพแห่งเคราะห์ร้าย” ต้องกลับมาหรือเปล่า?กุ้ยหมัวมัวปลอบว่า“ไทเฮาโปรดวางพระทัย ได้ยินว่าไทฮองไทเฮากลับมาแล้วเรียกพบฮองเฮาทันที น่าจะไม่เกี่ยวกับท่านเพคะ”ไทเฮาครุ่นคิดอย่างจริงจัง “ด้วยนิสัยของไทฮองไทเฮาแล้ว นางจะอนุญาตให้บรรดาผู้น้อยเข้าเฝ้าหลังจากที่กลับวังได้หนึ่งวัน น้อยมากที่จะเรียกพบผู้ใดทันทีภายในวันเดียวกัน เว้นเสียแต่ว่าจะกลับมาเพื่อฮองเฮาโดยเฉพาะ? แต่ฮองเฮาจะไปล่วงเกินไทฮองไทเฮาที่ไปไหว้พระไกลถึงภูเขาอวี้หยางได้อย่างไร”กุ้ยหมัวมัวใคร่ครวญแล้วลองคาดเดา“ไทเฮา หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับกุ้ยเฟยเพคะ?”ไทเฮาแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจในบันดลหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 94

“กระไรนะ? ฝ่าบาทจะเข้าห้องหอกับนังแพศยานั่น?!” อารมณ์ที่ตอนแรกกำลังเบิกบานของกุ้ยเฟยพังลงในชั่วพริบตาข้ารับใช้ที่มารายงานเอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้าเผชิญกับเพลิงโทสะของกุ้ยเฟย“บ่าว…บ่าวได้ยินเองกับหู ไทฮองไทเฮาทรงมีรับสั่ง…”“พอแล้ว!” กุ้ยเฟยไม่อยากฟังต่อนางทั้งตกใจทั้งสับสนไม่ใช่ว่าไทฮองไทเฮากลับวังมาเพื่อตรวจความบริสุทธิ์ของฮองเฮาหรอกหรือ!เหตุใดจึงรีบร้อนจะให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาเข้าหอเสียได้?แววตาของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบน่ากลัว“ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ไทฮองไทเฮาได้ถามเรื่องที่ฮองเฮาถูกลักพาตัวหรือไม่!”ข้ารับใช้คนนั้นส่ายหน้า“เรื่องนี้ บ่าวไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ“ภายในตำหนักมีคนอยู่ปรนนิบัติเพียงไม่กี่คน บ่าวอยู่ด้านนอก ได้ยินที่พวกเจ้านายคุยกันไม่ชัดนัก”กุ้ยเฟยฟังแล้วหน้าซีดนางอยากรู้เหลือเกินว่าไทฮองไทเฮาคิดจะทำอะไรกันแน่!ในเมื่อฮองเฮาไม่บริสุทธิ์ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือปลดจากตำแหน่งฮองเฮาไม่ใช่หรือ?ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมคนของไทฮองไทเฮาแล้ว เหตุใดจึงยอมให้…กุ้ยเฟยว้าวุ่นสับสนราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังค่อย ๆ หลุดจากการควบคุมของนางนางถามข้ารับใช้คนนั้นต่ออย่างเร่งร้อน“แล้วต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 95

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองอุปกรณ์ร่วมบรรทมพวกนี้แล้วต้องมุ่นคิ้วนับวันก็ยิ่งเหลวไหลจริง ๆ!เซียวอวี้เล่า? เขายอมรับการจัดแจงเช่นนี้ได้อย่างไร!โจวหมัวมัวสั่งนางกำนัลพวกนั้น“วางของลงแล้วปรนนิบัติฮองเฮาสรงน้ำ”“เจ้าค่ะ—”เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดบทเสียงทุ้ม“ให้เหลียนซวงปรนนิบัติแค่คนเดียวก็พอ”โจวหมัวมัวค่อนข้างที่จะตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาด นางวางตัวเป็นผู้อาวุโสของเฟิ่งจิ่วเหยียนโดยอาศัยว่าตนได้รับคำสั่งจากไทฮองไทเฮา“ฮองเฮา ท่านเพิ่งเคยร่วมบรรทมเป็นครั้งแรก ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของทางในวัง“การสรงน้ำก่อนร่วมบรรทมแตกต่างจากการสรงน้ำปกติ กระบวนการมีความละเอียดมากมาย!“นางกำนัลแค่คนเดียวจะทำไหวได้อย่างไร“พระนาง อย่าให้ฝ่าบาทต้องรอนานเลยเพคะ”โจวหมัวมัวใช้แขนข้างหนึ่งทำท่าผายมือ ‘เชิญ’ ด้วยความเคารพดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา น้ำเสียงทุ้มต่ำ“ไทฮองไทเฮาส่งเจ้ามาเพื่อดูให้แน่ใจว่าเปิ่นกงข้ากับฝ่าบาทจะได้เข้าหอโดยราบรื่น“หากเปิ่นกงข้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เจ้าก็คอยดูเถิดว่าเปิ่นกงข้าจะยอมเข้าหอหรือไม่”โจวหมัวมัวตกใจถ้อยคำของฮองเฮาจองหองอวดดีมาก!ครั้นลองคิดดูอีกครั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 96

เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินไปข้างหน้าสองก้าว แววตาราบเรียบไม่ไหวติงเซียวอวี้วางตำราลง สีหน้าของเขานิ่งขรึม มองแล้วเหมือนเจือด้วยความไม่พอใจ“อะไรกัน โจวหมัวมัวไม่ได้สอนวิธีร่วมบรรทมให้เจ้ารึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจจดจ่อมาก ไม่อยากพลาดสีหน้าใด ๆ ของเขานางมองออกว่าเขาเองก็ไม่อยากเข้าหอเช่นกันทันใดนั้นเอง เซียวอวี้ก็ดึงแขนนางเข้าไปหาปลายนิ้วของเขาจับข้อมือนางแน่นโดยมีอาภรณ์กั้นอยู่สายตาที่มองมายังนางเย็นยะเยียบอยู่ในที ทั้งยังเจือด้วยความรุนแรงแห่งการทำลายล้าง“กลัวเจ็บรึ”เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้วเล็กน้อยกลัวเจ็บอะไร?ใช่แบบที่นางเข้าใจหรือไม่?นี่หรือเขาจะฟังทำตามที่ไทฮองไทเฮาสั่ง จะทำตัวเป็นหลายชายผู้เชื่อฟังจริงหรือ?นางขัดขืนโดยพลัน กัดฟันกรอดจนแทบจะเกิดประกายไฟพร้อมกับจ้องเขาตาเขม็งโดยไม่ตอบอะไรใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษไม่มีความสะทกสะท้านเขาจับตัวนางด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาสีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงราบเรียบ ภายในใจรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเขาเอากริชมาทำอะไร?ชั่วพริบตานั้น นางนึกถึงคืนวันแต่งงานขึ้นมาเวลานั้นเขาสงสัยในความบริสุทธิ์ของนางและให้นางพ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 97

กุ้ยเฟยแทบจะลุกขึ้นจากเก้าอี้อยู่แล้วเดี๋ยวนั้นเป็นไปไม่ได้!ฝ่าบาทไม่มีทางร่วมบรรทมกับเฟิ่งเวยเฉียง!แล้วก็ โลหิตบนผ้าพรหมจรรย์ต้องไม่ใช่เลือดพรหมจรรย์ของเฟิ่งเวยเฉียงแน่นอน!เพราะเฟิ่งเวยเฉียงสูญเสียความบริสุทธิ์ไปตั้งนานแล้ว!แววตาของกุ้ยเฟยเปลี่ยนแปลงไปมาภายในเวลาแค่พริบตา ในนั้นเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อไทฮองไทเฮากลับทรงพอพระทัยมาก นางอนุญาตให้กุ้ยเฟยกลับไปได้ทันทีกุ้ยเฟยออกจากตำหนักวั่นโซ่ว นางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปตลอดทางชุนเหอมีอาการไม่ต่างกันฝ่าบาทกับฮองเฮาเข้าห้องหอกันแล้วจริง ๆ หรือ?แต่ไม่ใช่ว่าฮองเฮา…ชุนเหอมองไปทางพระสนมของตัวเองตามสัญชาตญาณแววตาของกุ้ยเฟยราวกับอาบยาพิษ มันส่องประกายแดงฉานต้องมีปัญหาแน่!การเข้าหอต้องเป็นเรื่องตบตาแน่นอน!ด้านหนึ่งกุ้ยเฟยก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ด้านหนึ่งก็ร้อนใจอยากเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อถามให้กระจ่างอีกด้านหนึ่งภายในตำหนักฉือหนิงไทเฮาทรงแปลกใจเมื่อทราบข่าวเรื่องการเข้าหอของฮ่องเต้และฮองเฮา“เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”กุ้ยหมัวมัวพยักหน้า“ไม่ผิดแน่เพคะ โจวหมัวมัวของไทฮองไทเฮาคอยจับตาดูทุกขั้นตอน อีกทั้งผ้าพรหมจร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 98

ภายในตำหนักหย่งเหอ พระแท่นบรรทมผืนใหม่ถูกปูเรียบร้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากห้องสรงน้ำแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดทางการเหลียนซวงยกชาร้อนเข้ามาแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล“พระนาง ท่าน…ร่วมบรรทมแล้วจริง ๆ หรือเพคะ?”ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีอารมณ์ใด ๆ“เรื่องนี้ เจ้าไม่ต้องถามมาก”เหลียนซวงได้ยินพระนางพูดแบบนี้ก็ยิ่งสงสัย งุนงงใหญ่ แต่ในเมื่อพระนางไม่ให้ถาม นางก็จะไม่ถามอีกทันใดนั้นเอง มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก“พระนาง พระสนมกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าเพคะ!”หัวใจของเหลียนซวงเต้นผิดจังหวะโดยพลัน“กุ้ยเฟยมาเข้าเฝ้าในเวลานี้ คิดว่าคงเป็นเรื่องที่ท่านร่วมบรรทมเป็นแน่ พระนางจะพบนางหรือไม่เพคะ?”เฟิ่นจิ่วเหยียนดื่มชาที่ยังคงร้อนกรุ่น รู้สึกสบายในลำคอขึ้นมากนางเอ่ยอย่างราบเรียบ“ให้นางเข้ามา”……ภายในตำหนักมีเฟิ่งจิ่วเหยียนกับกุ้ยเฟยแค่เพียงสองคนกุ้ยเฟยมีสีหน้าเกรี้ยวกราดทันทีที่พบนาง ประหนึ่งจะพุ่งตัวเข้ามาฉีกกระชากร่างนางเป็นชิ้น ๆ ในอีกวินาทีถัดไป“ฮองเฮาดูจะลำพองไม่น้อยเลยนะเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ที่นั่น สายตาของนางว่างเปล่าและเหินห่าง ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตานางไม่ตอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 99

กุ้ยเฟยคิดไม่ตกว่าเฟิ่งเวยเฉียงผ่านการตรวจพรหมจรรย์มาได้อย่างไรครั้นคิดไปคิดมาก็มีแต่ข้อสรุปที่ว่า “คนตรงหน้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียง” ที่สามารถอธิบายได้แต่นี่มันก็เหลวไหลเกินไปหากนางไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียงแล้วจะเป็นผู้ใด?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้แก้ตัวอะไรต่อข้อสงสัยของกุ้ยเฟยนางมองกุ้ยเฟยตรง ๆ น้ำเสียงเย็นยะเยียบและลึกทุ้ม“ถูกต้อง ข้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียง“นับจากวันที่ถูกโจรภูเขาจับตัวไป ข้าก็ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว”กุ้ยเฟยรู้สึกถึงไอเย็นที่กดดันนางคิดจะถอยห่างออกไปแต่ถูกดึงอกเสื้อเอาไว้นางถูกบังคับให้ต้องย่อตัวลง บาดแผลบนร่างถูกดึงรั้งจนเจ็บแสนสาหัส“เจ้า…ปล่อยนะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนลากตัวนางแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นนัยต์ตาของกุ้ยเฟยสั่นไหวเงาดำปกคลุมลงบนตัวนาง ราวกับผีร้ายที่คืบคลานขึ้นมาจากนรกแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนมีรอยยิ้มที่เบาบางมาก“ต่างแดนมียาวิเศษอย่างหนึ่งใช้ทาลงบนผิวเป็นเวลาสี่สิบเก้าวันแล้วจะลอกคราบเกิดใหม่ บาดแผลทั้งหมดจะมลายหายไป ผิวนิ่มละเอียดดุจทารก“นอกจากนี้ยังมีวิชาซ่อมแซม สามารถทำให้หญิงที่เสียพรหมจรรย์ไปแล้วกลับมามีพรหมจรรย์เหมือนเดิม“กระบวนนี้เจ็บปวดทรมานมาก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 100

เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกพิษแดนฝัน ระหว่างที่รอข่าวคราวจากอู๋ไป๋ที่อยู่นอกวัง นางก็ลองขับพิษออกด้วยตัวเองไปด้วยทว่าไม่ทันระวังจึงหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้น นางเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต ขณะเดียวกันก็เหมือนอยู่ในฝันร้ายได้ ‘พบ’ กับคนผู้นั้นที่ไม่ปรากฏตัวในความฝันของนางมานานมากแล้วนางได้คุยอะไรกับเขาเยอะมากมาย…ครั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นคืนสติ นางไม่รู้ว่าตัวเองหมดสติไปนานเท่าไรนางรู้สึกเพียงว่าภายในตำหนักเงียบสงัด แม้แต่การหายใจก็ไม่ค่อยราบรื่นนักเหลียนซวงปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง ใบหน้าของนางซีดขาวราวกับกระดาษ ส่วนมือก็สั่นเทา“พระนาง…ท่าน ท่านฟื้นแล้ว…”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อลุกขึ้นมองก็พบว่าเซียวอวี้อยู่ที่นี่ด้วยเขานั่งอยู่บนตั่งที่ไม่ไกลออกไป สีหน้าเย็นชาดั่งน้ำแข็งหมื่นปีที่ไม่ละลาย เวลานี้ เขากำลังจ้องนางเงียบ ๆเฟิ่งจิ่วเหยียนใจไม่ดีเล็กน้อยหรือเขาจะรู้แล้วว่านางถูกพิษแดนฝัน?พรึ่บ—บุรุษลุกพรวดขึ้น ผ้าคลุมตัวยาวแกว่งไปมาราวกับคลื่นทะเล“ฮองเฮา เจ้าดีมาก”เขาทิ้งถ้อยคำที่มีความหมายไม่ชัดเจนไว้แล้วสะบัดแขนเสื้อจากไปเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วแน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
89101112
...
34
DMCA.com Protection Status