บททั้งหมดของ ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ: บทที่ 541 - บทที่ 550

550

บทที่ 541

หลังจากที่จูกังเลี่ยถูกมัดเอาไว้แล้ว กายของเขายังคงสั่นเทาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์จากเจ้าของแผงพูดคุยกัน จูกังเลี่ยก็ยิ่งเหมือนกับไก่ที่พ่ายแพ้ ปิดตาแล้วก้มหน้าลงไม่นานนักเบื้องหน้าของเจี่ยนอันอัน ก็ปรากฏสัญญาณภารกิจของห้วงมิติขึ้นมา[ทำให้ตาของจูกังเลี่ยบอด คลังอาวุธระดับ +10]ในใจของเจี่ยนอันอันยินดียิ่งนัก ครั้งนี้ระดับคลังแสงอาวุธถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเร็วสักเล็กน้อยนางหยิบเชือกมาลากคนกลุ่มนี้ เดินไปทางด้านรถม้าในตอนที่นางพบว่าเสิ่นจืออวี้ไม่ได้ตามมาด้วยนั้น ก็หันไปร้องตะโกนออกมา “เสิ่นจืออวี้ เจ้ายังจะไปด้วยหรือไม่?”เสิ่นจืออวี้ถึงได้มีสติขึ้นมา แล้วรีบเดินเข้ามาทันทีเจี่ยนอันอันนำคนกลุ่มนั้นมัดเอาไว้ด้านหลังรถม้าฉู่จวินสิงขึ้นรถม้า แล้วนำถุงเงินมอบให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันเปิดออกดู ด้านในนั้นใส่เหรียญทองแดงเอาไว้เต็มถุงดูเหมือนว่าวันนี้คงจะได้กำไรมากไม่น้อย!รอจนเมื่อเสิ่นจืออวี้ตามมาถึงรถม้านั้น ฉู่จวินสิงขับรถม้า มุ่งหน้าเดินทางไปยังทิศทางของที่ว่าการอำเภอเขาจงใจขับรถม้าให้เร็วขึ้น ทำให้คนกลุ่มนั้นจำต้องวิ่งตามมาอยู่ด้านหลังจูกังเลี่ยที่เดิมทีนั้นเจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 542

คนกลุ่มนั้นคุกเข่าอยู่ในห้องพิจารณาคดี ส่วนเจี่ยนอันอันทั้งสามคนนั้นกลับยืนตัวตรงอยู่แน่นอนว่าเซิ่งฟางย่อมไม่ให้ทั้งสามคนคุกเข่าลง เพราะอย่างไรแล้วพวกเขาล้วนแต่เป็น “ผู้เคราะห์ร้าย”จูกังเลี่ยยังคงเจ็บปวดจนทั่วทั้งกายสั่นเทา เขาส่งเสียงร้องออกมา ตอนนี้น้ำเสียงที่พูดออกมาล้วนแต่แหบแห้งเป็นอย่างยิ่งเขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดแหบแห้ง “ใต้เท้า พวกเราเพียงแค่อยากหาเลี้ยงชีพเท่านั้น ใต้เท้าโปรดให้อภัยพวกข้าด้วย”คนอื่นๆ ล้วนแต่พยักหน้าอย่างแรง ผู้ใดก็ไม่กล้าพูดจาไร้สาระออกมาแม้แต่ประโยคเดียวเซิ่งฟางตะคอกออกมา “หาเลี้ยงชีพแล้วจะต้องแสร้งแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ทำร้ายคนอย่างนั้นหรือ?”“ข้าว่าพวกเจ้าคงใจกล้ากินดีหมีมาอย่างนั้นหรือ ใครก็ได้เข้ามาจับพวกเขาเข้าไปขังคุกเสีย แล้วโบยให้หนักหนึ่งร้อยไม้”คนกลุ่มนี้เมื่อได้ยินว่าจะถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ ก็ตกใจเสียจนทั่วทั้งกายสั่นอย่างแรงพวกเขาจะไปทนรับหนึ่งร้อยไม้นั้นได้อย่างไรกัน นี่ไม่ใช่ว่าจะต้องการชีวิตพวกเขาอย่างนั้นหรอกหรือ!“ใต้เท้า พวกเรารู้ความผิดแล้ว ขอใต้เท้าได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”“ใช่แล้วใต้เท้า พวกเราด้านบนมีแม่อายุแปดสิบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 543

รอจนเมื่อคนกลุ่มนั้นถูกคุมตัวออกไปแล้ว เซิ่งฟางถึงได้หัวเราะแล้วออกจากห้องพิจารณาคดีไปเขาเดินก้าวใหญ่เข้ามา แล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “อันอัน จวินสิง พวกเจ้ากินอาหารเช้ากันแล้วหรือยัง?”เจี่ยนอันอันยังไม่ทันได้พูดออกมา ท้องก็ส่งเสียงร้องคำรามดังขึ้น ตอบกลับเซิ่งฟางเจี่ยนอันอันลูบท้อง ยิ้มแล้วพูดออกมา “พี่เซิ่ง พวกเราไปขายผักที่ตลาดตั้งแต่เช้า ไม่ได้กินข้าวเช้ามาจริงๆ”“เช่นนั้นก็ดี เมื่อครู่นี้ห้องครัวเพิ่งจะทำอาหารเสร็จ พวกท่านก็มากินข้าวด้วยกันกับข้า”เซิ่งฟางนำทั้งสามคนมายังห้องทานอาหารอย่างกระตือรือร้นเหล่าสาวใช้ในตอนนี้วางอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่คนรีบนั่งลงเจี่ยนอันอันหยิบชามและตะเกียบขึ้นอย่างไม่เกรงใจ แล้วเริ่มกินฉู่จวินสิงตักเนื้อให้เจี่ยนอันอัน แล้วใส่ลงไปในชามของนางเซิ่งฟางมองไปยังท่าทีรักใคร่ของทั้งสองคน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาเห็นเสิ่นจืออวี้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เป็นตัวของตัวเองนัก ก็รีบส่งเสียงร้องตะโกนขึ้น “เจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ มาแล้วก็ทำตัวเหมือนกับอยู่ที่เรือนของเจ้าเถอะ”เสิ่นจืออวี้เป็นครั้งแรกที่มากินข้าวที่ที่ว่าการอำเภอเขาก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 544

เขาพบว่านักโทษเหล่านั้น มีส่วนใหญ่ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนกล่าวโทษผิดๆ ไปนายอำเภอคนก่อนสนใจเพียงแต่รับเงิน ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของชาวบ้านแม้แต่น้อยส่วนนักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น เป็นเพราะที่บ้านยากจน มอบเงินให้ไม่ได้ จึงถูกนายอำเภอตัดสินโทษ แล้วนำตัวเข้าไปขังคุกพวกเขาถูกคุมขังอยู่หลายปีมีนักโทษที่เคยถูกกล่าวโทษหลายคน ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนตัดสินให้ตัดหัวเซิ่งฟางรีบตรวจสอบ แล้วนำตัวผู้ที่กระทำผิดตัวจริงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเพราะเซิ่งฟางตัดสินคดีความได้ดี นักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น ล้วนแต่ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาพวกเขาเองก็เป็นเพราะเหตุนี้ ถึงได้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อเซิ่งฟางไปเซิ่งฟางบอกกับพวกเขา เขาไม่เคยขายเมืองอินเป่ย ประกาศเหล่านั้นก็เป็นของปลอมทั้งหมดเป็นเพราะมีคนจงใจใส่ร้ายเขาเมื่อผ่านการกระทำหลายวันมานี้ของเซิ่งฟาง ก็ทำให้ชาวบ้านในอำเภอไถหยางรู้ว่า พวกเขาทั้งหมดเข้าใจเขาผิดไป ทำให้ช่วงเวลาถัดมาของเซิ่งฟางดีขึ้นมากเจี่ยนอันอันได้ยินเซิ่งฟางอธิบายออกมา ในใจรู้สึกชื่นชมเขาเมื่อนางเห็นว่าที่นี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วบอกลาเซิ่งฟางส่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 545

นางหยิบเงินก้อนเล็กสองอันออกมาจากด้านใน มอบให้เจ้าของแผงเจ้าของแผงรับเงินมือหนึ่งด้วยความยินดี อีกมือหนึ่งก็ส่งมอบกระต่ายเจี่ยนอันอันรับกรงเหล็กมา หมุนกายขึ้นรถม้าไปในตอนที่พวกเขากำลังออกไปจากที่นั่น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนออกมา “แม่นางเจี่ยน เป็นท่านจริงๆ!”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ามีคนเรียกนาง ก็หันไปมอง สวีจงฉือลงมาจากรถม้า เดินก้าวใหญ่มาทางด้านนางใบหน้าของสวีจงฉือแต้มไปด้วยรอยยิ้มหลายวันมานี้ร่างกายของเขาฟื้นฟูไปได้มาก เมื่อวานนี้จึงได้ออกมาจากที่ว่าการอำเภอเพียงแต่ในใจเขา กลับคอยคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะได้พบกับเจี่ยนอันอันอีกเมื่อไหร่กันวันนี้เขาว่าจ้างรถม้า คิดจะไปหาเจี่ยนอันอันที่หมู่บ้านชิงสุ่ยเมื่อครู่นี้ในตอนที่รถม้าผ่านมานั้น เขาก็เปิดม่านขึ้นโดยบังเอิญ แล้วมองเห็นร่างเงาที่คุ้นเคยเข้า กำลังนั่งยองซื้อกระต่ายน้อยที่นั่นนี่เป็นร่างเงาที่เขาไม่เคยลืมเลือน ในใจก็ยินดีขึ้นมา เขารีบให้คนขับรถหยุดลงทันทีเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังจะจากไป สวีจงฉือก็รีบลงจากรถม้าแล้วร้องเรียกนางเอาไว้เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสีหน้าของสวีจงฉือฟื้นตัวได้ดีขึ้น ดูเหมือนว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 546

เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา จึงทำได้เพียงแค่ถอยไปด้านข้างเจี่ยนอันอันพูดกับฉู่จวินสิงขึ้น “ท่านพี่ พวกเรากลับไปกันเถอะ”ฉู่จวินสิงส่งเสียงตอบรับ แล้วขับรถม้าจากไปสวีจงฉือมองไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน ในใจรู้สึกว่างเปล่าขึ้นมาไม่นานนักรถม้าก็กลับมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยเจี่ยนอันอันไม่ได้กลับเรือน แต่ไปยังที่พักของเสิ่นจือเจิ้งแทนวันนี้ไม่เพียงแต่นางทำกำไรได้ แล้วยังได้รับทรัพย์พิเศษมาอีกด้วยแน่นอนว่าย่อมต้องนำเงินที่ได้มาเพิ่มนั้น ให้พี่ใหญ่ถึงจะถูกในตอนที่เจี่ยนอันอันเคาะประตูเรือนนั้น เซียงเสวี่ยยังคิดว่าเป็นเจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องอีกเมื่อนางทำหน้าเย็นชาไปเปิดประตูนั้น ถึงได้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูกลับเป็นพวกของเจี่ยนอันอันทั้งสามคนใบหน้าของเซียงเสวี่ย ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาทันที“นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง พวกท่านกลับมาแล้ว”เซียงเสวี่ยพูดขึ้น พร้อมให้ทั้งสามคนเข้ามาด้านในนางนำเรื่องที่เจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องเมื่อเช้านี้ พูดให้ทั้งสามคนฟังเจี่ยนอันอันพอใจกับผลงานของเซียงเสวี่ยเป็นอย่างมาก นางหยิบเหรียญทองแดงสองสามเหรียญออกมาจากถุงผ้า มอบให้เซียงเสวี่ย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 547

เซียงเสวี่ยเดินเข้ามา โค้งคำนับเสิ่นจืออวี้“คุณชายรองเสิ่น ข้าเป็นสาวใช้ที่ฮูหยินน้อยรองส่งมาคอยดูแลรับใช้คุณชายใหญ่เสิ่น ต่อไปข้าจะพักอยู่ที่นี้แล้ว”เสิ่นจืออวี้ส่งเสียง “ออ” ออกมา แล้วถึงได้สติขึ้นมาเขาพยักหน้าให้เซียงเสวี่ย แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องของตนเองในตอนที่เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงกลับไปถึงเรือนของตนนั้น คนที่เรือนก็กินอาหารเช้ากันไปแล้วฉู่จื่อซีย่อกายอยู่ในสวน จ้องมองไปยังมันเทศที่ปลูกไว้เจี่ยนอันอันมองออกว่าฉู่จื่อซีอยากกินมันเทศเผาอีกครั้งนางยิ้มแล้วเดินเข้ามา ก่อนจะนำกระต่ายน้อยสองตัวที่ซื้อมาในวันนี้ กวัดแกว่งไปมาเบื้องหน้าของฉู่จื่อซีเมื่อฉู่จื่อซีมองเห็นกระต่ายน้อย ก็รีบหันหน้ามาทันที“อาสะใภ้รอง กระต่ายน้อยนี่ไปได้มาจากที่ใดกัน น่ารักมาก”ฉู่จื่อซียังคงพูดด้วยเสียงเด็กน้อย เขาชอบสัตว์ตัวเล็กๆ พวกนี้มากที่สุดแล้วเจี่ยนอันอันลูบไปยังหัวเล็กๆ ของฉู่จื่อซี ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ข้าซื้อมันมาจากอำเภอไถหยาง ต่อไปพวกมันก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าแล้ว”ฉู่จื่อซีลุกขึ้นยืน กอดกรงเหล็กน้อยเอาไว้ด้วยความดีใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มกว้างออกมา“อาสะใภ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 548

ฉู่จวินสิงเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้กินมันเทศเผา เดิมทีเขายังปฏิเสธกับของสิ่งนี้อยู่ เพราะอย่างไรแล้วในตอนที่กินมันเทศในวัดที่ผุพังนั้น สำลักจนอีกเพียงนิดก็เกือบตายไปแล้วทว่ามันเทศที่ปลูกขึ้นมาเองนั้น กลับทั้งหอมทั้งหวานสกุลฉู่คนอื่นๆ เอง ก็พากันชื่นชมมันเทศอย่างไม่ขาดปากเจี่ยนอันอันได้ยินคำชมของทุกคน ในใจก็รู้สึกมีความสุขนางกินมันเทศเสร็จแล้วก็คิดจะไปเก็บหญ้าหมูซวีมาให้กระต่ายน้อยฉู่จวินสิงรีบตามไปทันทีเจี่ยนอันอันบอกกับฉู่จวินสิง ว่าหญ้าชนิดใดคือหญ้าหมูซวีทั้งสองคนเก็บกลับมาตะกร้าใหญ่ เพียงพอให้กระต่ายน้อยทั้งสองตัวกินได้หลายวันเพราะว่าฮูหยินใหญ่และฉู่จื่อซี ต่างก็ชื่นชอบกระต่ายน้อยกันมากเรื่องป้อนหญ้าหมูซวีให้พวกมันนั้น ก็มอบให้ทั้งสองคนแล้วเจี่ยนอันอันหยิบถุงผ้าออกมา แล้วนำถุงเงินเหล่านั้นเก็บเข้าไปในห้วงมิติเหรียญทองแดงที่เหลือนั้นก็เตรียมจะแบ่งให้กับทุกคนครั้งนี้ คนสกุลฉู่ไม่ได้ปฏิเสธออกมาอีกพวกเขาแต่ละคนต่างก็ได้รับส่วนแบ่งกัน แม้แต่เด็กรับใช้และเหล่าสาวใช้ ล้วนแต่ได้รับเงินส่วนแบ่งทุกคนรับเงิน อย่างยินดีเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขามายังที่นี่แล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 549

เมื่อเห็นว่าผักที่พวกเขาวางเอาไว้ ไม่มีใครซื้อเลยส่วนแผงขายผักของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงนั้น กลับค้าขายได้ดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะไม่กล้าพูดออกมา ในใจกลับโมโหเป็นอย่างยิ่งรอจนเมื่อหลังจากตลาดเลิกแล้ว เจ้าของแผงเหล่านี้มารวมตัวกัน“ข้าว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ผักของข้าขายไม่ได้มาหลายวันแล้ว ผักก็ล้วนแต่เน่าเสียหมดแล้ว”“ผักของข้าเองก็เป็นเหมือนกัน ถูกวางเน่าเสียอยู่เต็มในสวน อย่าพูดว่าจะนำออกมาขายเลย ข้าเองก็ยังไม่อยากกินมันด้วยซ้ำ”“เป็นเพราะความผิดของคนที่มาใหม่ทั้งสองคนนั่น หากว่าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขายผักสดใหม่เช่นนั้น ผักของพวกเราทำไมจะขายไม่ออกกัน”เจ้าของแผงต่างก็พากันร้องบ่นออกมากุ้ยเหมยเมื่อได้ยินเข้า ก็อดที่จะเย้ยหยันออกมาไม่ได้“ฮึ ในตอนนั้นที่ข้าออกมาต่อต้านกับพวกเขา พวกเจ้ามีใครที่ออกมาผายลมบ้าง?”“มาตอนนี้ดีแล้ว รู้ว่าผักของทั้งสองคนนั่นขายดีมาก กระทบการค้าของทุกคนแล้ว”“พวกเจ้าถึงได้มาพูดถึงเรื่องนี้ที่นี่ จะมีประโยชน์อะไร!”คำของกุ้ยเหมย ทำให้เจ้าของแผงคนอื่นๆ ต่างก็จ้องมองไปยังนางถังก่วงหนึ่งในเจ้าของแผง เหลือบมองไปยังปากของกุ้ยเหม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 550

กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
505152535455
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status