Share

บทที่ 549

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เมื่อเห็นว่าผักที่พวกเขาวางเอาไว้ ไม่มีใครซื้อเลย

ส่วนแผงขายผักของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงนั้น กลับค้าขายได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะไม่กล้าพูดออกมา ในใจกลับโมโหเป็นอย่างยิ่ง

รอจนเมื่อหลังจากตลาดเลิกแล้ว เจ้าของแผงเหล่านี้มารวมตัวกัน

“ข้าว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ผักของข้าขายไม่ได้มาหลายวันแล้ว ผักก็ล้วนแต่เน่าเสียหมดแล้ว”

“ผักของข้าเองก็เป็นเหมือนกัน ถูกวางเน่าเสียอยู่เต็มในสวน อย่าพูดว่าจะนำออกมาขายเลย ข้าเองก็ยังไม่อยากกินมันด้วยซ้ำ”

“เป็นเพราะความผิดของคนที่มาใหม่ทั้งสองคนนั่น หากว่าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขายผักสดใหม่เช่นนั้น ผักของพวกเราทำไมจะขายไม่ออกกัน”

เจ้าของแผงต่างก็พากันร้องบ่นออกมา

กุ้ยเหมยเมื่อได้ยินเข้า ก็อดที่จะเย้ยหยันออกมาไม่ได้

“ฮึ ในตอนนั้นที่ข้าออกมาต่อต้านกับพวกเขา พวกเจ้ามีใครที่ออกมาผายลมบ้าง?”

“มาตอนนี้ดีแล้ว รู้ว่าผักของทั้งสองคนนั่นขายดีมาก กระทบการค้าของทุกคนแล้ว”

“พวกเจ้าถึงได้มาพูดถึงเรื่องนี้ที่นี่ จะมีประโยชน์อะไร!”

คำของกุ้ยเหมย ทำให้เจ้าของแผงคนอื่นๆ ต่างก็จ้องมองไปยังนาง

ถังก่วงหนึ่งในเจ้าของแผง เหลือบมองไปยังปากของกุ้ยเหม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 550

    กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 551

    ฉู่จวินสิงนั่งอยู่บนขอบเตียง มองท่าทางนับเงินอย่างจริงจังของเจี่ยนอันอันแล้วใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันเงยใบหน้าดวงน้อยนั้นขึ้นมาเอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “ท่านพี่ วันนี้พวกเราขายของได้เงินมากขนาดนี้ก็ต้องกินดีๆ หน่อยถึงจะถูก”“เจ้าอยากกินอะไร?” ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าเอ็นดูเจี่ยนอันอันหัวเราะคิกคัก “วันนี้ข้าอยากกินหม้อไฟแล้วดื่มสุราผลไม้สักหน่อย”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้ว หม้อไฟคืออันใด เขาไม่เคยกินมาก่อนครั้นเจี่ยนอันอันคิดถึงว่าอีกหน่อยจะได้กินหม้อไฟ นางก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่อยู่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นางไม่ได้กินหม้อไฟหอมกรุ่นมานานแล้ว“หม้อไฟที่เจ้าว่าอร่อยปานนั้นเชียว?” ฉู่จวินสิงถามอย่างสงสัยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนแต่พอครุ่นคิดดูก็พบว่าไม่แปลก คนในโลกนี้ไม่เหมือนราชวงศ์ต่างๆ ที่นางรู้จักบางทีคนที่นี่อาจไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนเลยก็เป็นได้เจี่ยนอันอันยิ้มยิงฟัน “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้รู้แล้วว่าหม้อไฟเลิศรสปานไหน”เจี่ยนอันอันบอกว่าจะทำก็ทำเลย นางรุดออกไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหม้อไฟทันทีนางมาที่ชั้นใต้ดิน หยิบผักและเนื้อสัต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 552

    สี่เอ๋อร์เพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟแบบนี้เป็นครั้งแรกนางเทน้ำลงในหม้อตามคำสั่ง จากนั้นก็เห็นเจี่ยนอันอันหยิบฟืนจำนวนหนึ่งมาใส่ใต้หม้อแล้วจุดไฟสาวใช้คนอื่นๆ ล้างผักเสร็จแต่แรกแล้ว พวกนางยกผักกับเนื้อวัวที่ซอยเสร็จเรียบร้อยเดินมาทางนี้เมื่อพวกนางเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟก็อึ้งไปทันทีเหมือนกันนี่มันคืออะไรกัน น้ำในนั้นผ่านไปไม่ทันไรก็เดือดแล้วเจี่ยนอันอันไปที่ครัวแล้วนำน้ำจิ้มกับเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟปริมาณมากออกมาจากในมิตินางเทน้ำจิ้มลงในชามใหญ่ใบหนึ่งแล้วยกชามเดินออกมา“ในชามนี้คือน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟ อีกประเดี๋ยวจะได้ใช้ตอนกินหม้อไฟ ของพวกนี้เป็นเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟ ต้องเทใส่ในหม้อ”เจี่ยนอันอันว่าพลางเทเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟลงไปในหม้อกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟโชยออกมาอย่างรวดเร็วคนตระกูลฉู่ได้กลิ่นหอมนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพวกเขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะก็เห็นผักและเนื้อสัตว์เต็มโต๊ะ“อันอัน เจ้าทำทั้งหมดนี่เลยหรือ?” ฮูหยินใหญ่สูดกลิ่นหอมกรุ่นนั้นพลางมองไปทางเจี่ยนอันอันอย่างค่อนข้างสงสัยในความคิดของนาง ของแปลกประหลาดแบบนี้ก็มีแต่เจี่ยนอันอันเท่านั้นแหละถึงจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 553

    เสิ่นจือเจิ้งย่อมรู้ว่าเจี่ยนอันอันชอบกินหม้อไฟเขามองท่าทางยิ้มแย้มของเจี่ยนอันอันแล้วก็ยื่นมือไปลูบศีรษะนางอย่างเป็นธรรมชาตินี่เป็นท่าทางที่มักทำบ่อยๆ ตอนทั้งคู่อยู่ที่บ้านแต่คนเหล่านั้นกลับมองเสิ่นจือเจิ้งด้วยสีหน้าตกอกตกใจมีเพียงฉู่จวินสิงที่ตีหน้าเย็นชา ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาปัดมือเสิ่นจือเจิ้งออกแล้วจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองเสิ่นจือเจิ้งเหลือบมองฉู่จวินสิงด้วยแววตาเย็นชาหาใดเปรียบดุจเดียวกันเขาจะลูบหัวน้องสาวตัวเองก็ต้องให้ฉู่จวินสิงอนุญาตอย่างนั้นรึ?เห็นท่าทางตึงเครียดของคนทั้งสองแล้ว มุมปากเจี่ยนอันอันก็กระตุกยิกสองคนนี้ทำไมทำตัวเหมือนเด็กสามขวบอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นๆ เห็นอย่างนั้นก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมา“หม้อไฟวันนี้อร่อยจริงๆ”“ใช่แล้ว วันนี้แสงแดดก็ยังเปรี้ยงอีกต่างหาก”“ต่อไปพวกเราต้องกินหม้อไฟกันบ่อยๆ นะ รสชาติแบบนี้จะโอชาเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่กล้าพูดห้ามปรามคนทั้งสองจึงคิดหาคำพูดมาผ่อนคลายบรรยากาศเจี่ยนอันอันใช้ผ้าแพรเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วลุกขึ้นทำท่าจะจากไป“ข้าจะไปดูผักในแปลงผักสักหน่อย ป่านนี้ผักพวกนั้นคงโตได้ที่แล้วกระมัง”ฉู่จวินสิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 554

    แต่ฉู่จวินสิงลืมคิดไปว่าถ้าเขายังโกรธเสิ่นจือเจิ้งต่อไปก็จะทำให้เจี่ยนอันอันที่อยู่ตรงกลางลำบากใจไม่รอให้ฉู่จวินสิงเอ่ยปาก เจี่ยนอันอันก็พูดต่อไปว่า “เรื่องนี้วันหลังข้าจะบอกกับพี่เองว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”ฉู่จวินสิงเข้าใจเจตนาของเจี่ยนอันอันแล้ว เขายอมรับว่าเมื่อครู่ตนเองทำไม่เหมาะสมคนทั้งสองคุยกันรู้เรื่องแล้ว ความอึดอัดคับข้องใจก็พลันสลายไปทั้งคู่เดินตรงไปยังแปลงผัก พ่อบ้านหลิวก็เดินตามหลังพวกเขาเขาเห็นทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหัวเราะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพ่อบ้านหลิวเห็นฉู่จวินสิงมาตั้งแต่เล็กจนโตย่อมรู้นิสัยของฉู่จวินสิงดีเดิมทีเขายังกังวลว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเมื่อครู่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงกังวลใจมากเกินไปเองทั้งสามมาถึงแปลงผักก็เห็นว่าพืชผักเติบโตเต็มที่แล้วจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ดูเหมือนกำลังช่วยดูแลผักเหล่านี้อยู่เห็นพวกเขาเดินมาก็รีบร้อนลุกขึ้น“แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ ในที่สุดพวกท่านก็มาเสียที”จ้าวอู่ว่าพลางเกาท้ายทอยก่อนหน้านี้เขากับจ้าวลิ่วอยากมาดูที่ทุ่งนาบ้านตัวเองว่าข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มาเห็นว่าพืชผ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 1

    เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 2

    บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 3

    ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 554

    แต่ฉู่จวินสิงลืมคิดไปว่าถ้าเขายังโกรธเสิ่นจือเจิ้งต่อไปก็จะทำให้เจี่ยนอันอันที่อยู่ตรงกลางลำบากใจไม่รอให้ฉู่จวินสิงเอ่ยปาก เจี่ยนอันอันก็พูดต่อไปว่า “เรื่องนี้วันหลังข้าจะบอกกับพี่เองว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”ฉู่จวินสิงเข้าใจเจตนาของเจี่ยนอันอันแล้ว เขายอมรับว่าเมื่อครู่ตนเองทำไม่เหมาะสมคนทั้งสองคุยกันรู้เรื่องแล้ว ความอึดอัดคับข้องใจก็พลันสลายไปทั้งคู่เดินตรงไปยังแปลงผัก พ่อบ้านหลิวก็เดินตามหลังพวกเขาเขาเห็นทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหัวเราะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพ่อบ้านหลิวเห็นฉู่จวินสิงมาตั้งแต่เล็กจนโตย่อมรู้นิสัยของฉู่จวินสิงดีเดิมทีเขายังกังวลว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเมื่อครู่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงกังวลใจมากเกินไปเองทั้งสามมาถึงแปลงผักก็เห็นว่าพืชผักเติบโตเต็มที่แล้วจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ดูเหมือนกำลังช่วยดูแลผักเหล่านี้อยู่เห็นพวกเขาเดินมาก็รีบร้อนลุกขึ้น“แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ ในที่สุดพวกท่านก็มาเสียที”จ้าวอู่ว่าพลางเกาท้ายทอยก่อนหน้านี้เขากับจ้าวลิ่วอยากมาดูที่ทุ่งนาบ้านตัวเองว่าข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มาเห็นว่าพืชผ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 553

    เสิ่นจือเจิ้งย่อมรู้ว่าเจี่ยนอันอันชอบกินหม้อไฟเขามองท่าทางยิ้มแย้มของเจี่ยนอันอันแล้วก็ยื่นมือไปลูบศีรษะนางอย่างเป็นธรรมชาตินี่เป็นท่าทางที่มักทำบ่อยๆ ตอนทั้งคู่อยู่ที่บ้านแต่คนเหล่านั้นกลับมองเสิ่นจือเจิ้งด้วยสีหน้าตกอกตกใจมีเพียงฉู่จวินสิงที่ตีหน้าเย็นชา ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาปัดมือเสิ่นจือเจิ้งออกแล้วจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองเสิ่นจือเจิ้งเหลือบมองฉู่จวินสิงด้วยแววตาเย็นชาหาใดเปรียบดุจเดียวกันเขาจะลูบหัวน้องสาวตัวเองก็ต้องให้ฉู่จวินสิงอนุญาตอย่างนั้นรึ?เห็นท่าทางตึงเครียดของคนทั้งสองแล้ว มุมปากเจี่ยนอันอันก็กระตุกยิกสองคนนี้ทำไมทำตัวเหมือนเด็กสามขวบอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นๆ เห็นอย่างนั้นก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมา“หม้อไฟวันนี้อร่อยจริงๆ”“ใช่แล้ว วันนี้แสงแดดก็ยังเปรี้ยงอีกต่างหาก”“ต่อไปพวกเราต้องกินหม้อไฟกันบ่อยๆ นะ รสชาติแบบนี้จะโอชาเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่กล้าพูดห้ามปรามคนทั้งสองจึงคิดหาคำพูดมาผ่อนคลายบรรยากาศเจี่ยนอันอันใช้ผ้าแพรเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วลุกขึ้นทำท่าจะจากไป“ข้าจะไปดูผักในแปลงผักสักหน่อย ป่านนี้ผักพวกนั้นคงโตได้ที่แล้วกระมัง”ฉู่จวินสิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 552

    สี่เอ๋อร์เพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟแบบนี้เป็นครั้งแรกนางเทน้ำลงในหม้อตามคำสั่ง จากนั้นก็เห็นเจี่ยนอันอันหยิบฟืนจำนวนหนึ่งมาใส่ใต้หม้อแล้วจุดไฟสาวใช้คนอื่นๆ ล้างผักเสร็จแต่แรกแล้ว พวกนางยกผักกับเนื้อวัวที่ซอยเสร็จเรียบร้อยเดินมาทางนี้เมื่อพวกนางเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟก็อึ้งไปทันทีเหมือนกันนี่มันคืออะไรกัน น้ำในนั้นผ่านไปไม่ทันไรก็เดือดแล้วเจี่ยนอันอันไปที่ครัวแล้วนำน้ำจิ้มกับเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟปริมาณมากออกมาจากในมิตินางเทน้ำจิ้มลงในชามใหญ่ใบหนึ่งแล้วยกชามเดินออกมา“ในชามนี้คือน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟ อีกประเดี๋ยวจะได้ใช้ตอนกินหม้อไฟ ของพวกนี้เป็นเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟ ต้องเทใส่ในหม้อ”เจี่ยนอันอันว่าพลางเทเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟลงไปในหม้อกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟโชยออกมาอย่างรวดเร็วคนตระกูลฉู่ได้กลิ่นหอมนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพวกเขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะก็เห็นผักและเนื้อสัตว์เต็มโต๊ะ“อันอัน เจ้าทำทั้งหมดนี่เลยหรือ?” ฮูหยินใหญ่สูดกลิ่นหอมกรุ่นนั้นพลางมองไปทางเจี่ยนอันอันอย่างค่อนข้างสงสัยในความคิดของนาง ของแปลกประหลาดแบบนี้ก็มีแต่เจี่ยนอันอันเท่านั้นแหละถึงจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 551

    ฉู่จวินสิงนั่งอยู่บนขอบเตียง มองท่าทางนับเงินอย่างจริงจังของเจี่ยนอันอันแล้วใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันเงยใบหน้าดวงน้อยนั้นขึ้นมาเอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “ท่านพี่ วันนี้พวกเราขายของได้เงินมากขนาดนี้ก็ต้องกินดีๆ หน่อยถึงจะถูก”“เจ้าอยากกินอะไร?” ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าเอ็นดูเจี่ยนอันอันหัวเราะคิกคัก “วันนี้ข้าอยากกินหม้อไฟแล้วดื่มสุราผลไม้สักหน่อย”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้ว หม้อไฟคืออันใด เขาไม่เคยกินมาก่อนครั้นเจี่ยนอันอันคิดถึงว่าอีกหน่อยจะได้กินหม้อไฟ นางก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่อยู่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นางไม่ได้กินหม้อไฟหอมกรุ่นมานานแล้ว“หม้อไฟที่เจ้าว่าอร่อยปานนั้นเชียว?” ฉู่จวินสิงถามอย่างสงสัยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนแต่พอครุ่นคิดดูก็พบว่าไม่แปลก คนในโลกนี้ไม่เหมือนราชวงศ์ต่างๆ ที่นางรู้จักบางทีคนที่นี่อาจไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนเลยก็เป็นได้เจี่ยนอันอันยิ้มยิงฟัน “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้รู้แล้วว่าหม้อไฟเลิศรสปานไหน”เจี่ยนอันอันบอกว่าจะทำก็ทำเลย นางรุดออกไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหม้อไฟทันทีนางมาที่ชั้นใต้ดิน หยิบผักและเนื้อสัต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 550

    กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 549

    เมื่อเห็นว่าผักที่พวกเขาวางเอาไว้ ไม่มีใครซื้อเลยส่วนแผงขายผักของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงนั้น กลับค้าขายได้ดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะไม่กล้าพูดออกมา ในใจกลับโมโหเป็นอย่างยิ่งรอจนเมื่อหลังจากตลาดเลิกแล้ว เจ้าของแผงเหล่านี้มารวมตัวกัน“ข้าว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ผักของข้าขายไม่ได้มาหลายวันแล้ว ผักก็ล้วนแต่เน่าเสียหมดแล้ว”“ผักของข้าเองก็เป็นเหมือนกัน ถูกวางเน่าเสียอยู่เต็มในสวน อย่าพูดว่าจะนำออกมาขายเลย ข้าเองก็ยังไม่อยากกินมันด้วยซ้ำ”“เป็นเพราะความผิดของคนที่มาใหม่ทั้งสองคนนั่น หากว่าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขายผักสดใหม่เช่นนั้น ผักของพวกเราทำไมจะขายไม่ออกกัน”เจ้าของแผงต่างก็พากันร้องบ่นออกมากุ้ยเหมยเมื่อได้ยินเข้า ก็อดที่จะเย้ยหยันออกมาไม่ได้“ฮึ ในตอนนั้นที่ข้าออกมาต่อต้านกับพวกเขา พวกเจ้ามีใครที่ออกมาผายลมบ้าง?”“มาตอนนี้ดีแล้ว รู้ว่าผักของทั้งสองคนนั่นขายดีมาก กระทบการค้าของทุกคนแล้ว”“พวกเจ้าถึงได้มาพูดถึงเรื่องนี้ที่นี่ จะมีประโยชน์อะไร!”คำของกุ้ยเหมย ทำให้เจ้าของแผงคนอื่นๆ ต่างก็จ้องมองไปยังนางถังก่วงหนึ่งในเจ้าของแผง เหลือบมองไปยังปากของกุ้ยเหม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 548

    ฉู่จวินสิงเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้กินมันเทศเผา เดิมทีเขายังปฏิเสธกับของสิ่งนี้อยู่ เพราะอย่างไรแล้วในตอนที่กินมันเทศในวัดที่ผุพังนั้น สำลักจนอีกเพียงนิดก็เกือบตายไปแล้วทว่ามันเทศที่ปลูกขึ้นมาเองนั้น กลับทั้งหอมทั้งหวานสกุลฉู่คนอื่นๆ เอง ก็พากันชื่นชมมันเทศอย่างไม่ขาดปากเจี่ยนอันอันได้ยินคำชมของทุกคน ในใจก็รู้สึกมีความสุขนางกินมันเทศเสร็จแล้วก็คิดจะไปเก็บหญ้าหมูซวีมาให้กระต่ายน้อยฉู่จวินสิงรีบตามไปทันทีเจี่ยนอันอันบอกกับฉู่จวินสิง ว่าหญ้าชนิดใดคือหญ้าหมูซวีทั้งสองคนเก็บกลับมาตะกร้าใหญ่ เพียงพอให้กระต่ายน้อยทั้งสองตัวกินได้หลายวันเพราะว่าฮูหยินใหญ่และฉู่จื่อซี ต่างก็ชื่นชอบกระต่ายน้อยกันมากเรื่องป้อนหญ้าหมูซวีให้พวกมันนั้น ก็มอบให้ทั้งสองคนแล้วเจี่ยนอันอันหยิบถุงผ้าออกมา แล้วนำถุงเงินเหล่านั้นเก็บเข้าไปในห้วงมิติเหรียญทองแดงที่เหลือนั้นก็เตรียมจะแบ่งให้กับทุกคนครั้งนี้ คนสกุลฉู่ไม่ได้ปฏิเสธออกมาอีกพวกเขาแต่ละคนต่างก็ได้รับส่วนแบ่งกัน แม้แต่เด็กรับใช้และเหล่าสาวใช้ ล้วนแต่ได้รับเงินส่วนแบ่งทุกคนรับเงิน อย่างยินดีเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขามายังที่นี่แล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 547

    เซียงเสวี่ยเดินเข้ามา โค้งคำนับเสิ่นจืออวี้“คุณชายรองเสิ่น ข้าเป็นสาวใช้ที่ฮูหยินน้อยรองส่งมาคอยดูแลรับใช้คุณชายใหญ่เสิ่น ต่อไปข้าจะพักอยู่ที่นี้แล้ว”เสิ่นจืออวี้ส่งเสียง “ออ” ออกมา แล้วถึงได้สติขึ้นมาเขาพยักหน้าให้เซียงเสวี่ย แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องของตนเองในตอนที่เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงกลับไปถึงเรือนของตนนั้น คนที่เรือนก็กินอาหารเช้ากันไปแล้วฉู่จื่อซีย่อกายอยู่ในสวน จ้องมองไปยังมันเทศที่ปลูกไว้เจี่ยนอันอันมองออกว่าฉู่จื่อซีอยากกินมันเทศเผาอีกครั้งนางยิ้มแล้วเดินเข้ามา ก่อนจะนำกระต่ายน้อยสองตัวที่ซื้อมาในวันนี้ กวัดแกว่งไปมาเบื้องหน้าของฉู่จื่อซีเมื่อฉู่จื่อซีมองเห็นกระต่ายน้อย ก็รีบหันหน้ามาทันที“อาสะใภ้รอง กระต่ายน้อยนี่ไปได้มาจากที่ใดกัน น่ารักมาก”ฉู่จื่อซียังคงพูดด้วยเสียงเด็กน้อย เขาชอบสัตว์ตัวเล็กๆ พวกนี้มากที่สุดแล้วเจี่ยนอันอันลูบไปยังหัวเล็กๆ ของฉู่จื่อซี ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ข้าซื้อมันมาจากอำเภอไถหยาง ต่อไปพวกมันก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าแล้ว”ฉู่จื่อซีลุกขึ้นยืน กอดกรงเหล็กน้อยเอาไว้ด้วยความดีใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มกว้างออกมา“อาสะใภ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 546

    เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา จึงทำได้เพียงแค่ถอยไปด้านข้างเจี่ยนอันอันพูดกับฉู่จวินสิงขึ้น “ท่านพี่ พวกเรากลับไปกันเถอะ”ฉู่จวินสิงส่งเสียงตอบรับ แล้วขับรถม้าจากไปสวีจงฉือมองไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน ในใจรู้สึกว่างเปล่าขึ้นมาไม่นานนักรถม้าก็กลับมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยเจี่ยนอันอันไม่ได้กลับเรือน แต่ไปยังที่พักของเสิ่นจือเจิ้งแทนวันนี้ไม่เพียงแต่นางทำกำไรได้ แล้วยังได้รับทรัพย์พิเศษมาอีกด้วยแน่นอนว่าย่อมต้องนำเงินที่ได้มาเพิ่มนั้น ให้พี่ใหญ่ถึงจะถูกในตอนที่เจี่ยนอันอันเคาะประตูเรือนนั้น เซียงเสวี่ยยังคิดว่าเป็นเจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องอีกเมื่อนางทำหน้าเย็นชาไปเปิดประตูนั้น ถึงได้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูกลับเป็นพวกของเจี่ยนอันอันทั้งสามคนใบหน้าของเซียงเสวี่ย ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาทันที“นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง พวกท่านกลับมาแล้ว”เซียงเสวี่ยพูดขึ้น พร้อมให้ทั้งสามคนเข้ามาด้านในนางนำเรื่องที่เจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องเมื่อเช้านี้ พูดให้ทั้งสามคนฟังเจี่ยนอันอันพอใจกับผลงานของเซียงเสวี่ยเป็นอย่างมาก นางหยิบเหรียญทองแดงสองสามเหรียญออกมาจากถุงผ้า มอบให้เซียงเสวี่ย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status