บททั้งหมดของ ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง: บทที่ 111 - บทที่ 120

121

บทที่ 111

ฉินเซี่ยงเหิงเห็นว่าจ้าวซูหว่านถูกคนประคองไว้ได้ ทั้งดูจะไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอันใด ในใจก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังเขาทุ่มเทไปมากขนาดนี้ แต่กลับต้องมาพังพินาศเพราะน้ำมือสตรีผู้เดียว ต่อให้เขาสอบติดอันดับต้นๆ ในการสอบฤดูใบไม้ผลิ เรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงเขาป่นปี้ไปหมดแล้ว!“ไม่ผิด ข้าเคยหลับนอนกับจ้าวซูหว่านจริงๆ แต่นางเป็นหญิงที่มีสัมพันธ์กับผู้ชายไม่เลือกหน้า ผู้ใดจะไปรู้ว่าเด็กในท้องนางเป็นลูกใครกันแน่?”“ท่านว่าอะไรนะ?”จ้าวซูหว่านสะบัดฝ่ามือออกไปด้วยความโมโห!ฉินเซี่ยงเหิงถูกตบไปหนึ่งฉาด แววตายิ่งแข็งกร้าวกว่าเดิม “หากเจ้าเป็นหญิงที่รักนวลสงวนตัว มีพันธะหมั้นหมายแล้วแท้ๆ ยังจะมาข้องแวะกับข้าอีกทำไม?“ตอนนี้พอเรื่องแดงออกมาก็โยนความรับผิดชอบมาให้ข้า ผู้หญิงคนอื่นไม่มีชายใดมาชมชอบหลังจากหมั้นหมายเลยเช่นนั้นหรือ? เหตุใดถึงมีแต่เจ้าที่คบชู้สู่ชายกันเล่า?”จ้าวซูหว่านโมโหจนทั้งร่างสั่นระริก สีหน้าที่เพิ่งจะมีเลือดฝาดค่อยๆ เผือดสีลงทีละนิด“เรื่องมาถึงขั้นนี้ ข้าจะบอกพวกท่านก็ได้ว่าทำไมอาภรณ์ข้าจึงไม่เรียบร้อยเช่นนี้? นั่นก็เพราะ...”“ฉินเซี่ยงเหิง ท่านหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”จ
Read More

บทที่ 112

สายตาของซ่งรั่วเจินกวาดไปทางสวีเฮ่ออันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ สหายของพี่รองล้วนมีชาติสกุลดี ฉินเซี่ยงเหิงไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในจำนวนนั้น เหตุใดจึงมีเขาคนเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้?สองคนนี้เดิมทีก็เป็นหญิงร้ายชายเลวไม่มีใครดีสักคน วันนี้พอเรื่องถูกเปิดโปงกลับโยนความผิดให้จ้าวซูหว่านคนเดียว ช่างน่าขันนัก!คนอื่นไม่รู้ แต่นางกลับกระจ่างใจดีว่าฉินเซี่ยงเหิงเป็นคนเริ่มก่อน!แม้ว่าในนิยายสุดท้ายแล้วจ้าวซูหว่านจะได้แต่งให้ฉินเซี่ยงเหิง แต่ก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีแต่ฉินซวงซวงเป็นนางเอกในนิยาย มีนางคอยคิดแผนการ เป็นคนทำให้ทั้งจวนหลินโหวและสกุลฉินได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงสามารถปิดบังเรื่องสกปรกของฉินเซี่ยงเหิงเอาไว้ได้ครั้นพวกสวีเฮ่ออันคนถูกซ่งรั่วเจินมองมาก็รีบก้าวออกมาแสดงท่าที“มีแต่คนหน้าหนาไร้ยางอายอย่างเจ้าถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมพรรค์นี้ออกมาได้!”อวิ๋นเฉิงเจ๋อตวัดสายตาไปทางเฉียนเหว่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเจ้ายังยินดีเป็นสหายกับคนแบบฉินเซี่ยงเหิงอยู่อีกงั้นรึ?”พวกเฉียนเหว่ยเปลี่ยนท่าทีตั้งแต่เรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว ถึงพวกเขาจะอิจฉาซ่งอี้อัน แต่ก็รังเกียจพฤติกรรมของฉินเซี่ยงเห
Read More

บทที่ 113

“คิดไม่ถึงว่าจะเกิดไฟไหม้บนเรือของพวกเขาจึงสามารถเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสองคนนั้นได้อย่างราบรื่น ประเดี๋ยวพวกเราเรียกพี่ใหญ่กับน้องสามมาดื่มฉลองด้วยกันดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย “พี่รอง เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายดายปานนั้น...”“น้องหญิงห้า เจ้าหมายความว่า...อีกสักครู่คนสกุลฉินจะมาเยือนที่จวนหรือ?”หลังสงบลงแล้ว ซ่งอี้อันใคร่ครวญอย่างละเอียดก็ตระหนักถึงปัญหา“วันนี้เปิดโปงเรื่องงามหน้าของฉินเซี่ยงเหิงกับจ้าวซูหว่าน สกุลจ้าวคงไม่มากเรื่องนัก แต่ฉินเซี่ยงเหิงเป็นสหายร่วมสำนักกับท่าน เป็นอดีตสหายสนิท เขาทำร้ายท่านจนตาบอดสองข้าง นี่คืออาชญากรรม!”“พี่รอง ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าวันนั้นหลังเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ท่านแม่ไปแจ้งความกับทางการไว้ว่าอันธพาลลอบทำร้ายจนท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส”“ยามนี้พบตัวผู้ร้ายแล้ว ทางการจะต้องมอบคำอธิบายให้พี่รองแน่นอน แต่ใกล้จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิแล้ว สกุลฉินจะยอมปล่อยให้ฉินเซี่ยงเหิงพลาดโอกาสสอบรับราชการเพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?”ประกายแห่งสติปัญญาสะท้อนอยู่ในดวงตาของซ่งรั่วเจิน หากพลาดการสอบฤดูใบไม้ผลิครานี้ไปก็ต้องรอถึงสามปีฉินเซี
Read More

บทที่ 114

ฉินเจิงเดือดดาลอยู่เป็นทุนเดิม ครั้นได้ยินวาจาของบุตรชายทั้งสองก็ยกเท้าเตะไปทางฉินเซี่ยงเหิง“เจ้าลูกสารเลว ทำไมข้าถึงมีลูกทรพีแบบเจ้าได้!”ฉินเซี่ยงเหิงถูกเตะล้มโดยไม่ทันตั้งตัว ร้องเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด ถึงกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง“เหิงเอ๋อร์!” กู้อวิ๋นเวยหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้ามาประคองฉินเซี่ยงเหิง ถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าไม่เป็นไรนะ? รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ตามหมอมาตามทำไม? เจ้าลูกน่าขายหน้าพรรค์นี้ ปล่อยให้ตายไปทั้งอย่างนี้แหละ!”ฉินเจิงตวาดเสียงเกรี้ยว ในดวงตามีเพียงความเดือดดาล เพียงนึกถึงว่าจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานเยาะเย้ยถากถางในท้องพระโรงวันพรุ่งนี้ เขาก็แค้นใจจนอยากตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกเสียให้ได้!“ท่านแม่ทัพ เรื่องนี้เหิงเอ๋อร์ทำไม่ถูกจริงๆ ท่านใจเย็นลงก่อน”กู้อวิ๋นเวยรีบร้อนเอ่ยปาก ตวัดสายตาไปทางคนสองคนที่จงใจกระพือไฟ ในใจมีความโกรธที่พูดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงอดทนอดกลั้นเอาไว้อย่างเต็มกำลังนางเป็นภรรยาที่มาทีหลัง ถึงจะไม่ชอบบุตรชายที่อดีตภรรยาเอกให้กำเนิด แต่ก็ไม่อาจได้ชื่อว่าปฏิบัติต่อลูกๆ อย่างโหดร้าย ดังนั้นจะไม่พอใจอย่างไรก็ไม่สามารถเอ่ยปากตำหนิ“ท่านแม่ทัพ
Read More

บทที่ 115

สุดท้ายจ้าวซูหว่านก็ตายไปในฤดูหนาวคราวนั้นสำหรับฉินซวงซวง จ้าวซูหว่านเป็นเพียงสตรีที่ไม่สลักสำคัญคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจผู้ใดจะคาดคิดว่าวันนี้เรื่องราวจะลุกลามบานปลายเช่นนี้ ถึงกับถูกเปิดโปงออกมา เหตุใดเหตุการณ์ต่างๆ จึงแตกต่างจากชาติก่อนมากขนาดนี้?พอฉินซวงซวงมาถึงก็รีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ จะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิด[1]ที่จวนสกุลซ่งโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ!”“แบกกิ่งหนามยอมรับความผิด? สกุลฉินของพวกเรายอมขายหน้าเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะ!”ฉินเจิงมีสีหน้าบึ้งตึงที่ผ่านมา ซ่งหลินกดหัวเขาไว้มาโดยตลอด ยามนี้ในที่สุดซ่งหลินก็ตายไปในสนามรบได้เสียที สกุลซ่งปราศจากผู้นำ พวกเขายังจะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดต่อสกุลซ่งอีก จะมิกลายเป็นเรื่องน่าขำไปหรอกรึ?“อนาคตของท่านพี่จะรอช้าไม่ได้ ตอนนี้มีแต่ต้องแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดและได้รับการให้อภัยจากสกุลซ่ง จะให้เรื่องไปถึงทางการไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ!”ฉินซวงซวงมีสีหน้าจริงจัง นี่เป็นวิธีคลี่คลายเพียงวิธีเดียวที่นางคิดออกในตอนนี้แม้เรื่องนี้พูดขึ้นมาแล้วอาจไม่น่าฟัง แต่ก็ไม่ได้ละเมิดกฎระเบียบของราชสำนัก
Read More

บทที่ 116

“พวกเจ้ายังไม่ได้ยินงั้นรึ? ฉินเซี่ยงเหิงผู้นั้นเป็นเดรัจฉานชัดๆ ก่อนหน้านี้ไม่เพียงลักลอบมีสัมพันธ์กับคู่หมั้นของคุณชายรองซ่ง ยังถึงขั้นมีลูกด้วยกันแล้ว!”“วันนี้ตอนถูกจับได้ที่ริมทะเลสาบยังไม่ยอมรับ สุดท้ายถูกคุณชายรองซ่งเปิดโปงต่อหน้าธารกำนัล ผู้ร้ายที่ทำร้ายคุณชายรองซ่งจนตาบอดสองข้างในตอนนั้นก็คือเขานี่แหละ!”ผู้คนที่มองดูด้วยความสงสารในตอนแรกพอได้ยินแบบนี้ก็พลันเปลี่ยนสีหน้า “เดรัจฉานแบบนี้ถูกตีจนตายก็นับว่าสมควรแล้ว!”“ใช่แล้ว ได้ยินว่ากระทั่งเรียงความก็ยังขโมยผลงานของคุณชายรองซ่งมา คนชั่วช้าสารเลวแบบนี้จะเขียนเรียงความดีๆ ออกมาได้อย่างไรกัน?”“ข้าว่านะ ทำไมแม่ทัพฉินต้องมาตีถึงหน้าประตูจวนสกุลซ่งด้วย จัดการสั่งสอนในบ้านตัวเองก็จบแล้วไม่ใช่รึ น่ากลัวว่าคงมาแสดงละครสิท่า?”ฉินเซี่ยงเหิงถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เล็กจนโต มีมารดาคอยปกป้อง ไม่เคยถูกลงโทษด้วยกฎบ้านเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับโทษโบยต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้!ตอนแรกนึกว่าทุกคนจะเห็นใจเขา คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงร่ำร้องสมน้ำหน้าตนเองเช่นนี้ น่าแค้นใจนักที่ไม่อาจด่าทอกลับไปได้!เขาแค่เล่นกับสตรีนางเดียวไม่ใช่หรื
Read More

บทที่ 117

“ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงสำนึกผิดแล้วจริงๆ เรื่องนี้พวกข้าเป็นฝ่ายผิดต่อพวกท่าน ขอเพียงสามารถชดใช้ความผิด ไม่ว่าพวกท่านจะให้พวกข้าทำอันใด พวกข้าล้วนยินดีทำ หวังเพียงพวกท่านคลายโทสะ” กู้อวิ๋นเวยขอร้อง“อี้อัน เจ้ากับเซี่ยงเหิงรู้จักกันมาหลายปี เป็นสหายร่วมสำนักที่ดีต่อกันมาตลอด ที่เขาทำเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ออกมาล้วนเป็นเพราะถูกจ้าวซูหว่านล่อลวง”“ยามนี้เขาสำนึกผิดแล้ว รู้สึกผิดต่อเจ้า เจ้าช่วยเห็นแก่มิตรภาพในอดีต ให้อภัยเขาสักครั้งได้หรือไม่?”ซ่งอี้อันมีสีหน้าเย็นชา “มิตรภาพในฐานะสหายร่วมสำนักระหว่างข้ากับฉินเซี่ยงเหิง จบสิ้นไปตั้งแต่ตอนที่เขาลักลอบมีสัมพันธ์กับจ้าวซูหว่านลับหลังข้าแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้อภัยหรือไม่ให้อภัย ต่อไปก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดต่อกันอีก”ฉินเจิงยังคงหวดแส้ไม่หยุดรอยเลือดบนแผ่นหลังฉินเซี่ยงเหิงมีมากขึ้นทุกที กระทั่งเสียงร้องก็เปลี่ยนจากเสียงโหยหวนในตอนแรกมาเป็นอ่อนแรงลงทีละนิด ราวกับกำลังจะถูกโบยจนตายกระนั้น“ในเมื่อซ่งฮูหยินกับคุณชายซ่งไม่ยินดีให้อภัย ข้าก็จะตีเจ้าลูกทรพีนี่ให้ตายเสีย!” ฉินเจิงไม่ยั้งมือเลยสักนิด แต่ดวงตาทั้งคู่กลับแดงก่ำผู้คนรอบข้
Read More

บทที่ 118

“สกุลฉินพร่ำพูดขอโทษ แต่ไม่เห็นว่ามีความจริงใจสักแค่ไหน คุณชายรองสกุลซ่งตาบอดสองข้าง อนาคตพังทลาย พวกเขาแค่โบยลูกชายตัวเองยกเดียวก็พอแล้วงั้นรึ?”“บาดแผลอาจดูสาหัส แต่รักษาไม่นานก็หายดี คุณชายรองซ่งกลับต้องมองไม่เห็นไปชั่วชีวิต”“นั่นน่ะสิ ทำร้ายคนอื่นต้องชดใช้คืนถึงจะถูก โบยแค่ยกเดียวจะมีความหมายอะไร?”ซ่งรั่วเจินสบตากับคนในหมู่คนมุงแล้วเก็บสายตากลับมาอย่างพึงพอใจในเมื่อสกุลฉินผิดต่อพี่รองก็ต้องชดใช้คืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ อาศัยแค่ลมปาก จะมีเรื่องดีที่ไร้ราคาแบบนั้นได้อย่างไร?กู้อวิ๋นเวยกับฉินเจิงสบตากัน สีหน้าล้วนไม่สู้ดี พูดมาถึงขั้นนี้ พวกเขาขึ้นหลังเสือยากจะลง เกรงว่าถ้าไม่นำสิ่งของที่มีราคาสักหน่อยออกมาก็คงจะไม่ได้“ซ่งฮูหยิน เซี่ยงเหิงทำลายอนาคตคุณชายรอง ข้ารู้ว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถชดเชยบาดแผลของคุณชายรองได้ แต่พวกข้าก็อยากพยายามให้ถึงที่สุด...”ว่าแล้ว กู้อวิ๋นเวยก็ยื่นโฉนดในมือออกมาอย่างสุดแสนเสียดายก่อนจะออกเดินทาง นางตั้งใจเตรียมโฉนดมาทำพอเป็นพิธีไปอย่างนั้น นางเชื่อว่าขอแค่แสดงให้ดี หลิ่วหรูเยียนจะต้องไม่กล้ารับไว้แน่นอน ใครจะคาดคิดว่าจะมาติดขัดอยู่ตรงนี้ คิ
Read More

บทที่ 119

“ฉินซวงซวงผู้นั้นรู้ทั้งรู้ว่าหลินจือเยว่มีพันธะหมั้นหมาย แต่ก็ยังพยายามจะเป็นภรรยาเอกอีกคนให้ได้ เลียนแบบแม่ของนางมาชัดๆ!”เสียงเยาะเย้ยถากถางดังขึ้นในฝูงชน ตอนนั้นกู้อวิ๋นเวยไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว ดึงดันจะแต่งงานกับแม่ทัพฉินให้ได้ ก่อให้เกิดวงกระเพื่อมไม่น้อยในเมืองหลวงเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับดึงดันจะเป็นภรรยาเอกอีกคนของคนอื่น แม้ยามนั้นสุขภาพของฉินฮูหยินคนก่อนจะไม่ค่อยดี แต่ถึงอย่างไรคนก็ยังมีชีวิตอยู่ภายหลัง ฉินฮูหยินคนก่อนโทสะจู่โจมหัวใจแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าคงไม่พ้นถูกนางทำให้โมโห สุดท้ายจึงได้เป็นภรรยาเอกคนใหม่สมใจกู้อวิ๋นเวยคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะพูดถึงนาง ใบหน้าพลันซีดขาว นางถูกคนเย้ยหยันเพราะเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ง่ายเลยกว่าคนจะค่อยๆ ลืมเลือนไป วันนี้กลับถูกเอ่ยถึงอีกครั้ง“จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ฉินซวงซวงทำลงไป ฉินฮูหยินกับแม่ทัพฉินก็ไม่ได้มอบคำอธิบายอันใดออกมาเลยนี่!”หลิ่วหรูเยียนดวงตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง สองฝ่ายฉีกหน้ากันไปแล้ว นางยังต้องห่วงศักดิ์ศรีอะไรอีก?การปล่อยให้คนพวกนี้รังแกลูกๆ ของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะห่วงศักดิ์ศรีต่างหากถึงจะ
Read More

บทที่ 120

“จวนจะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิ เซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปีกว่าจะได้เป็นจวี่เหริน[1] เขาไม่อาจพลาดโอกาสในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ หวังว่าพวกท่านจะไม่เอาเรื่อง ปล่อยเขาไปสักครั้ง”ในที่สุดฉินเจิงก็กล่าวจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมาเจ็ดวันหลังจากนี้ก็จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิถ้าเกิดคดีความขึ้นในช่วงเวลานี้ เกรงว่าฉินเซี่ยงเหิงคงไม่มีกระทั่งสิทธิ์จะเข้าร่วมการสอบ นั่นไม่ได้เด็ดขาด!หลิ่วหรูเยียนได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ต้องตกตะลึงในความหน้าด้านไร้ยางอายของฝ่ายตรงข้าม“ฉินเซี่ยงเหิงตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี แล้วอี้อันเล่า?!”“ตอนเขาทุบอิฐก้อนนั้นลงมาไยไม่คิดบ้างว่าอี้อันก็ตรากตรำร่ำเรียนมาหลายปี เกรงว่าคงเป็นเพราะอี้อันมีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางกว่าเขาถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้ใช่หรือไม่ คงเสียดายละสิที่อี้อันยังไม่ตาย?”ฉินเจิงเห็นหลิ่วหรูเยียนยังไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเสียทีก็เอ่ยเสียงต่ำ “เซี่ยงเหิงเขาสำนึกผิดแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้จะเสียใจอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ซ่งฮูหยิน ท่านมองไปข้างหน้าหน่อยไม่ได้หรือ? พวกข้าละอายใจ วันหน้าหากมีเรื่องใดต้องการความช่วยเหลือ พวกข้าจะต้อ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
8910111213
DMCA.com Protection Status