บททั้งหมดของ ชายาแพทย์พลิกชะตา: บทที่ 41 - บทที่ 50

347

บทที่ 41

ทางฝั่งนี้กู้หว่านเยว่กินมื้อเย็นอิ่มดีแล้ว ก็นั่งบนเตียงเตาแสร้งหลับตาพักผ่อน เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติวิเศษตรวจดูหอการค้าแล้วทำให้นางดีใจก็คือ เก้าอี้ไม้หลีฮวาถูกขายไปแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นเพราะนางตั้งราคาอย่างไม่ตั้งใจเพียงหมื่นเดียว ถูกมากเกินไป ผู้ซื้อไม่เพียงไม่ต่อรองราคา ยังเขียนข้อเสนอแนะหนึ่งพันตัวอักษรให้นาง เป็นการแนะนำในหน้าแรกของการค้นหาเรียกความสนใจจากนักสะสมซื้อของสะสมเป็นจำนวนมาก นักสะสมเหล่านี้ต่างทิ้งข้อความไว้ที่หน้าแรกของนาง ถามว่านางยังมีของโบราณขายอีกหรือไม่คราวนี้ ผู้ติดตามของกู้หว่านเยว่ก็เพิ่มขึ้นหลายสิบคนแล้วทันใดนั้นกู้หว่านเยว่กระตือรือร้นขึ้นมาแล้ว ยามนางปล้นก็มิได้ใส่ใจดูสิ่งของที่ได้มาในท้องพระคลังหลวงหรือคลังส่วนตัว นำของใส่ลงไปในมิติวิเศษทั้งหมดอันที่จริงบางอย่างก็ไม่ได้ใช้ แสดงออกมาก็แสดงไม่หมดมิสู้นำของที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมดวางลงบนหน้าจอขายสินค้า ให้ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นเงินจากนั้นใช้เงินเหล่านี้ ไปซื้อของภายในหอการค้าเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงสามารถขายสินค้าที่ปล้นมาเหล่านี้ออกไป ยังสามารถซื้อสินค้าในยุคปัจจุบันเข้ามาได้อีกด้วยยิ่งไปกว่านั้น หอกา
Read More

บทที่ 42

ก่อนนี้กู้หว่านเยว่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเงินในกระเป๋ามาจากที่ใด บัดนี้มีสกุลหลินบังหน้า นางจับจ่ายขึ้นมาก็ไม่ต้องปิดบังเลยแม้แต่น้อยเสื้อผ้าเครื่องนอน เสบียงอาหาร ยังซื้อเสื้อฟางกันฝนเตรียมไว้ใช้ในยามจำเป็นขณะเตรียมของสำหรับครอบครัวตนเอง นางเองก็ไม่ลืมพวกสกุลเหยียนและสกุลเซิ่งที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซื้อให้พวกเขาอีกเล็กน้อยแค่เพียงเล็กน้อย รับรองว่าพวกเขาไม่มีวันหิวตายก็พอ มากไปนางกู้หว่านเยว่มิใช่พระแม่ ไม่สามารถมอบให้ได้กระนั้นสิ่งนี้ทำให้กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด ต้องให้พวกเขาพยายามหามาด้วยตนเองถึงจะใช้ได้หาปลาให้คนกินมิสู้สอนคนจับปลา พึ่งพานางไปตลอดมิใช่หนทางแก้ปัญหาทว่านี่คือความคิดเกิดขึ้นชั่วขณะของกู้หว่านเยว่ ส่วนต้องทำเยี่ยงไร ยังต้องให้นางคิดดีๆทางฝั่งนี้ จางเอ้อร์และพวกนักการศาลาว่าการเห็นกำลังการซื้อของกู้หว่านเยว่แล้ว แต่ละคนล้วนตกตะลึงอ้าปากค้างดูท่าแล้วสกุลหลินมอบเงินให้ไม่น้อย หาไม่แล้วคงไม่จับจ่ายตามสะดวกได้มากเพียงนี้“พี่ใหญ่จาง ข้าอยากไปดูสกุลหลินสักหน่อย” กู้หว่านเยว่ซื้อของเรียบร้อยแล้วก็วางบนลาเทียมเกวียน หันหน้าปรึกษาจางเอ้อร์“ท่านอยากไปดูบ้าน
Read More

บทที่ 43

“อยู่ต่อหน้านักการแห่งศาลาว่าการก็กล้าตีคน เจ้าเสียสติไปแล้วกระมัง?”จางเอ้อร์และนักการแห่งศาลาว่าการอีกสองคนยืนขนาบข้างกายกู้หว่านเยว่ ช่วยสนับสนุนนางแม้ไม่รู้เพราะเหตุใดกู้หว่านเยว่ต้องช่วยออกหน้าแทนคนไม่รู้จัก แต่คนเหล่านี้ล้วนเลือกเชื่อกู้หว่านเยว่โดยไม่มีเงื่อนไขยิ่งไปกว่านั้นคำพูดเมื่อครู่ของเจ้าของร้าน พวกเขาเองก็ได้ยินแล้ว เจ้าของร้านคนนี้เป็นพวกรังแกคนอ่อนแอกว่าคนหนึ่ง“บัณฑิตคนนี้ไม่อยากขายตำรับให้เจ้า เจ้าก็แย่งเขา? ไฉนเลยจะปล่อยให้เจ้าทำเช่นนี้ได้?”“เข้าใจผิดๆ ก็คือพวกเดียวกันไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกันดุจน้ำหลากลงวัดมังกร พวกใต้เท้าอย่าถือสาเลย” เจ้าของร้านเองก็คิดไม่ถึง ตนเองตีคนจนคุ้นชินแล้ว วันนี้ถึงขั้นยังมีนักการแห่งศาลาว่าการขวัญกล้ามาดูแล รีบเอ่ย “เป็นเจ้าคนนี้พูดว่าต้องการขายตำรับอาหารให้ข้า ผลปรากฏว่านึกเสียใจภายหลังแล้ว ท่านว่านี่เขามิใช่กำลังหลอกคนหรือ?”เว่ยเฉิงเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก เปล่งเสียงหนัก “ตำรับนี้ข้าขายหนึ่งร้อยตำลึง เจ้ากลับให้เพียงสิบตำลึง ไม่ให้เจ้าก็แย่งไป ข้าว่าเจ้าไม่ใช่เจ้าของร้าน เป็นโจรต่างหาก!”“เจ้า!” ใบหน้าเจ้าของร้านแดงก่ำ ให้ตายเ
Read More

บทที่ 44

ทว่าน่าเสียดายหญิงเช่นนี้ สุดท้ายกลับถูกผู้คุมนักโทษขืนใจจนพุ่งชนกำแพงตายหากนางจำไม่ผิด ตำรับอาหารเลิศรสในมือเว่ยเฉิงนี้ สุดท้ายถูกพระเอกหวายหนานอ๋องนำไปขายหวายหนานอ๋องเองก็กลายเป็นผู้ค้นพบพรสวรรค์ของเว่ยเฉิง สำหรับเขาก็คือผู้มีบุญคุณต่อกันกู้หว่านเยว่ครุ่นคิด หากตำรับอาหารนี้ถูกสกุลหลินซื้อไปถ้าอย่างนั้นใช่หรือไม่ว่าบุญคุณที่หวายหนานอ๋องมีต่อเว่ยเฉิง ก็ไม่มีเฉกเดียวกัน ส่วนจุดจบของเว่ยเฉิงเองก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้?ระหว่างครุ่นคิด เรือนสกุลหลินอยู่ข้างหน้าแล้วนายท่านผู้เฒ่าหลินกำลังคิดจะไปหากู้หว่านเยว่อยู่พอดี ครั้นมองเห็นนางสีหน้าก็ยังมีความกลัวติดอยู่“ต้องขอบคุณความฝันนั้นของเจ้า เมื่อคืนพวกเราจับพวกโจรชั่วได้แถวเรือนจริงๆ หลังมอบคนให้ทางการแล้ว ก็ทรมานให้เผยตัวคนลงแรงอยู่เบื้องหลังออกมาหากมิใช่พวกเจ้าเตือนได้ทันเวลา อีกสองวันพวกเขาก็จะลงมือแล้ว เมื่อนั้นก็สายไปแล้วล่ะ”นายท่านผู้เฒ่าหลินพูดไป เหงื่อเย็นผุดออกจากแผ่นหลังเรื่องนี้พูดง่าย แต่เกิดขึ้นจริง พวกเขาทั้งครอบครัวยี่สิบกว่าคน ล้วนต้องตายไม่มีใครรอด!บัดนี้เขารู้สึกโชคดีเหลือเกิน เมื่อวานฟังคำเตือนของกู้ห
Read More

บทที่ 45

คลำอยู่พักหนึ่ง หยิบชุดสีดำทั้งสองชิ้นออกมาจากข้างล่างสุดเพียงซูจิ่นเอ๋อร์และซูจื่อชิงมองเห็นเสื้อผ้าตัวยาว ก็รู้ว่าไม่ใช่ของพวกเขาเห็นกู้หว่านเยว่ถือเสื้อผ้าเดินไปหาซูจิ่งสิง ทั้งสองคนเข้าใจในทันใด ที่แท้ก็ซื้อให้พี่ใหญ่นี่เองเผยอากัปกิริยาซุบซิบนินทา ส่งยิ้มให้กัน แอบดูที่ด้านข้างซูจิ่งสิงเองก็คิดไม่ถึงกู้หว่านเยว่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เขา เห็นนางเดินเข้าใกล้ ใบหน้าหล่อเหลาสะท้อนความประหม่าครู่ถัดมาเบือนหน้า แต่กลับถูกกู้หว่านเยว่ดึงกลับมาเบาๆ“อย่าขยับ ให้ข้าเทียบดูว่าเสื้อผ้าสองชุดนี้พอดีตัวท่านหรือไม่”ซูจิ่งสิงอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าขยับอีก ก็แค่ร่างกายกลับแข็งทื่อเป็นเส้นตรงตามการเคลื่อนไหวของนางกู้หว่านเยว่ยกมุมปากอย่างอดไม่ได้ชายคนนี้ปกติดูแล้วสุขุมเยือกเย็น แต่ทุกครั้งตนเองเข้าใกล้เขา เขาก็สะเทิ้นอายคล้ายแม่นางคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นน่ารักยิ่งนักทันใดนั้นนางเกิดนึกสนุกขึ้นมา แตะโดนตัวเขาคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ“ความยาวพอดีแล้ว แต่แขนเสื้อยังต้องวัดอีกหน่อย ส่วนเอวให้ข้าดูหน่อยว่าแน่นหรือไม่...”ลมหายใจชายบนเตียงเตาว้าวุ่นแล้ว กลีบปากบางเม้มแน่น แม้แต่หน้าผากก
Read More

บทที่ 46

มีเพียงครอบครัวสกุลซูหนึ่งกลุ่มต้องทุกข์ทรมานจับจ้องทุกคนกำลังแจกจ่ายของกิน มีเพียงพวกเขาแม้ขนเส้นเดียวก็ไม่มี สายตาริษยาของแต่ละคนแดงก่ำ ไม่กล้าขยับขึ้นไปหาเรื่อง ทำได้เพียงสบถด่าทุกคนรออยู่ภายในโรงเตี๊ยม จนกระทั่งซุนอู่ไปรายงานศาลาว่าการประจำเมืองเรียบร้อยดีแล้ว ถึงเดินทางออกจากเมืองฉูโจวทำให้กู้หว่านเยว่แปลกใจก็คือ พวกเขาถึงขั้นพบเว่ยเฉิงอีกครั้งที่หน้าประตูเมือง“แม่นางกู้ นับว่ารอจนได้พบเจ้าแล้ว”หลังเว่ยเฉิงมองเห็นกู้หว่านเยว่ รีบถลันขึ้นมาต้อนรับ ที่แท้เขาก็ได้รู้ฐานะของกู้หว่านเยว่ผ่านปากของสกุลหลิน จึงมารอนางที่หน้าประตูเมือง“ขอบคุณแม่นางกู้ สกุลหลินรับตำรับอาหารของข้าไว้แล้ว ให้เงินข้ามากถึงห้าร้อยตำลึง”สกุลหลินเห็นแก่ฐานะของกู้หว่านเยว่ ใจกว้างต่อเขามาก ไม่เพียงมอบเงินให้ห้าร้อยตำลึงซื้อตำรับอาหารเลิศรส มิหนำซ้ำยังมอบเงินปันผลให้เขาอีกปีละห้าร้อยตำลึงสิ่งนี้สำหรับคนที่อยู่ท่ามกลางความลำบากเช่นเว่ยเฉิง ก็คือสมบัติก้อนโตอย่างไม่ต้องสงสัยเขาขอบคุณกู้หว่านเยว่อีกครั้ง “บุญคุณของแม่นางกู้ ข้าน้อยจำไว้แล้ว ภายภาคหน้ามีโอกาสจะต้องตอบแทนเป็นแน่”กู้หว่านเยว่ยิ้มน้อย
Read More

บทที่ 47

ทางฝั่งนี้ ซูจิ่งสิงยังใคร่ครวญประโยคไม่มีหัวไม่มีหางนั้นของเว่ยเฉิงกู้หว่านเยว่เองก็แปลกใจมาก “เว่ยเฉิงให้ท่านไปพบโจวเหล่าทำอันใด?”ยิ่งไปกว่านั้นโจวเหล่านี้คือใครกันเล่า?ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “ข้าเองก็แปลกใจมาก แต่เขาก็พูดหนึ่งประโยคนี้ ไม่มีหัวไม่มีหาง ข้าเองก็ไม่รู้หมายความว่ากระไรกันแน่”“ส่วนโจวหล่าคนนี้ เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักศึกษาอิ้งเทียน ทั้งยังเป็นราชครูของอดีตองค์รัชทายาท บัดนี้น่าจะเกษียณกลับบ้านเกิดแล้ว” ผู้อาวุโสก็คืออาจารย์ใหญ่ สำนักศึกษาอิ้งเทียนเป็นสำนักศึกษามีชื่อเสียงมากที่สุดในต้าฉี ลูกศิษย์มาจากทั่วทั้งเหนือจรดใต้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชนชั้นสูงสองสามีภรรยาครุ่นคิดอยู่นาน ก็ไม่สามารถหยั่งเดาความนัยของเว่ยเฉิงออกเพียงอย่างเดียวที่สามารถมั่นใจได้ ก็คือเว่ยเฉิงมิได้คิดร้ายต่อพวกเขา“ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าและเว่ยเฉิงมีความรู้สึกราวกับเพียงได้พบหน้าก็คล้ายพบสหายเก่า”ซูจิ่งสิงสับสนมากว่าตกลงความรู้สึกนี้มาจากที่ใดกู้หว่านเยว่นึกตำหนิภายในใจ พวกท่านทั้งสองคนหนึ่งบุ๋นคนหนึ่งบู๊ ล้วนมีความแค้นถูกคนลืมบุญคุณรื้อสะพานหลังข้ามแม่น้ำแล้ว ไฉนจะไม่รู้สึกเพียงได้พบหน้าก็คล
Read More

บทที่ 48

เพียงครู่เดียวก็มาถึงศาลเจ้าทุกคนล้วนทรุดตัวลงบนพื้น“หว่านเยว่ อย่านอนเลย ลุก ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งก่อน แม่จะนำชุดนั้นบนตัวเจ้าไปผึ่งให้แห้ง” นางหยางพูดติดๆ ขัดๆซูจิ่นเอ๋อร์และซูจื่อชิงก่อไฟเรียบร้อยแล้วกู้หว่านเยว่พยักหน้า กางกระโจมเล็กที่มุมหนึ่งบนพื้นของศาลเจ้า ก่อนมุดเข้าไปยังผินมองซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง“เอ่อ ท่านช่วยข้าดูก่อน อย่าให้ผู้อื่นเข้ามา”นางยังคิดเข้าไปอาบน้ำในมิติวิเศษอีกด้วย“ได้” ซูจิ่งสิงรู้ว่านางต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า พยักหน้าสีหน้าเคร่งขรึมกู้หว่านเยว่ยังค่อนข้างเชื่อใจซูจิ่งสิงมาก เข้ากระโจมก็หายตัวเข้าไปในมิติวิเศษแล้วเดินเข้าไปข้างบ่อน้ำพุร้อนทิวทัศน์งดงามอาบน้ำทีหนึ่ง ใช้เครื่องเป่าผมเป่าจนแห้ง นี่ถึงกลับออกมาจากภายในซูจิ่งสิงเฝ้าที่ข้างกระโจมอยู่ตลอดหลังผ่านการพักฟื้นระยะนี้มาแล้ว ขาของเขายังไม่สามารถเดินได้ แต่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างง่ายกลับมิใช่ปัญหาแม้มีกระโจมหนึ่งกั้นไว้ แต่เขามั่นใจมาก หลังกู้หว่านเยว่เดินเข้ากระโจมแล้ว กลิ่นอายก็หายไปจากภายในแล้วเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป ถึงออกจากภายในกระโจมมิหนำซ้ำรอจนกระทั่งนางออกมาแล้ว เส้นผมเอ
Read More

บทที่ 49

ซูหัวหลินตัวแข็งทื่อล้มลงกับพื้น เลือดออกปากและจมูก หมดลมหายใจหัวใจหยุดเต้น“เคร้ง!” หม้อเหล็กตกลงพื้น น้ำแกงยาที่เหลือสาดกระเซ็นหลังทุกคนผ่านความตกใจมาแล้ว ต่างพากันกรีดร้องปิดศีรษะของตนทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป!ไม่มีใครคาดคิด ซูหัวหลินที่เมื่อครู่ยังดีๆ อยู่ ถึงขั้นถูกฟ้าผ่าตายต่อหน้านางเฉียนอึ้งงันอยู่กับที่ มองศพซูหัวหลินพลันรู้สึกเจ็บปวดใจสิ้นหวังครั้นเสียงฟ้าร้องดังครืนเหนือศีรษะอีกครั้ง นางลังเล ยังเลือกหนีไปหลบหลังเสาโดยไม่หันกลับมามองอีก“เจ้ารอง ลูกชายข้า!” ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้เจ็บปวดเสียใจ ยกไม้เท้าถลันขึ้นไปข้างหน้า ถูกเจ้าใหญ่ฝืนลากกลับไป“ท่านแม่ อย่าแตะต้องน้องรอง เขาเพิ่งถูกฟ้าผ่ายังมีกระแสไฟบนตัวเขา!”ซูหัวหยางพูดไม่ผิด รอบข้างศพของซูหัวหลินยังมีกระแสไฟ ดินรอบข้างล้วนดำสนิทแล้วฮูหยินผู้เฒ่าตกอยู่ในความเจ็บปวดเสียใจอย่างหนัก “เจ้าใหญ่ เจ้าคนใจร้าย ดูน้องชายเจ้าถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว เจ้ายังไม่สนใจ!”ใบหน้าซูหัวหยางอ่อนล้า ปล่อยฮูหยินผู้เฒ่าทุบตีเขาอย่างอิสระ ลากคนออกมาไกลขึ้นอีกนิดส่วนคนอื่น ต่างพากันหลบที่มุมของศาลเจ้าในเวลานี้ ทุกคนต่างตื่นตร
Read More

บทที่ 50

นางเงียบไปครู่หนึ่ง พูดอย่างจริงจัง “ข้ากำลังสงสัยว่าเขื่อนในละแวกใกล้เคียงนี้อาจพังลง เมื่อนั้น พวกเราที่ศาลเจ้าโทรมๆ นี้ก็จะอับโชคไปด้วย ทุกคนไม่มีทางรอดชีวิต”ซุนอู่ตกตะลึงภายในใจ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“สัญชาตญาณ” กู้หว่านเยว่ชี้ไปที่ระดับน้ำบนพื้น “ท่านดู ตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ น้ำที่ไหลเข้ามาจากภายนอกระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ อยู่เหนือข้อเท้าของพวกเราแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้เขื่อนไม่แตก ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็ต้องจมน้ำเป็นแน่”อันที่จริงกู้หว่านเยว่เองก็ไม่แน่ใจว่า ตกลงเขื่อนที่แตกนั้นอยู่ที่นี่หรือไม่ในหนังสือมิได้เขียนไว้อย่างละเอียด ความจำนางเองก็เลือนรางแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะอยู่ที่ศาลเจ้าโทรมๆ นี้ต่อไปไม่ได้แล้ว หากยังอยู่ต่อก็มีแต่จะต้องตายเท่านั้น!ซุนอู่มองระดับน้ำบนพื้น ภายในใจยังหวังพึ่งโชค“นี่ก็ไม่แน่ว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ฝนทั่วไปก็ล้วนตกหนักอยู่พักหนึ่ง แต่หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม อีกเดี๋ยวฝนก็เบาลงแล้ว”กู้หว่านเยว่ปวดหัวอยู่บ้าง ซุนอู่ไม่มีไหวพริบเอาเสียเลยหากมิใช่เพราะยังมีสกุลเหยียน สกุลหลี่และสกุลเซิ่ง นางต้องพาครอบครัวของตนจากไปแล้
Read More
ก่อนหน้า
1
...
34567
...
35
DMCA.com Protection Status