แชร์

บทที่ 46

ผู้แต่ง: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
มีเพียงครอบครัวสกุลซูหนึ่งกลุ่มต้องทุกข์ทรมาน

จับจ้องทุกคนกำลังแจกจ่ายของกิน มีเพียงพวกเขาแม้ขนเส้นเดียวก็ไม่มี สายตาริษยาของแต่ละคนแดงก่ำ ไม่กล้าขยับขึ้นไปหาเรื่อง ทำได้เพียงสบถด่า

ทุกคนรออยู่ภายในโรงเตี๊ยม จนกระทั่งซุนอู่ไปรายงานศาลาว่าการประจำเมืองเรียบร้อยดีแล้ว ถึงเดินทางออกจากเมืองฉูโจว

ทำให้กู้หว่านเยว่แปลกใจก็คือ พวกเขาถึงขั้นพบเว่ยเฉิงอีกครั้งที่หน้าประตูเมือง

“แม่นางกู้ นับว่ารอจนได้พบเจ้าแล้ว”

หลังเว่ยเฉิงมองเห็นกู้หว่านเยว่ รีบถลันขึ้นมาต้อนรับ ที่แท้เขาก็ได้รู้ฐานะของกู้หว่านเยว่ผ่านปากของสกุลหลิน จึงมารอนางที่หน้าประตูเมือง

“ขอบคุณแม่นางกู้ สกุลหลินรับตำรับอาหารของข้าไว้แล้ว ให้เงินข้ามากถึงห้าร้อยตำลึง”

สกุลหลินเห็นแก่ฐานะของกู้หว่านเยว่ ใจกว้างต่อเขามาก ไม่เพียงมอบเงินให้ห้าร้อยตำลึงซื้อตำรับอาหารเลิศรส มิหนำซ้ำยังมอบเงินปันผลให้เขาอีกปีละห้าร้อยตำลึง

สิ่งนี้สำหรับคนที่อยู่ท่ามกลางความลำบากเช่นเว่ยเฉิง ก็คือสมบัติก้อนโตอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาขอบคุณกู้หว่านเยว่อีกครั้ง “บุญคุณของแม่นางกู้ ข้าน้อยจำไว้แล้ว ภายภาคหน้ามีโอกาสจะต้องตอบแทนเป็นแน่”

กู้หว่านเยว่ยิ้มน้อย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
สุมนา ศิลขวุธท์
มีคนย้อนกลับมาเกิดด้วยอีกคน
goodnovel comment avatar
Wila Show
ไม่มีโฆษณาปลดล็อคเหลือค่ะ
goodnovel comment avatar
Ploy Panyapat
อ้าว นี่ก็ย้อนมา ดีๆมีคนดีช่วยจัดฮ้องเต้เลวละ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 47

    ทางฝั่งนี้ ซูจิ่งสิงยังใคร่ครวญประโยคไม่มีหัวไม่มีหางนั้นของเว่ยเฉิงกู้หว่านเยว่เองก็แปลกใจมาก “เว่ยเฉิงให้ท่านไปพบโจวเหล่าทำอันใด?”ยิ่งไปกว่านั้นโจวเหล่านี้คือใครกันเล่า?ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “ข้าเองก็แปลกใจมาก แต่เขาก็พูดหนึ่งประโยคนี้ ไม่มีหัวไม่มีหาง ข้าเองก็ไม่รู้หมายความว่ากระไรกันแน่”“ส่วนโจวหล่าคนนี้ เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักศึกษาอิ้งเทียน ทั้งยังเป็นราชครูของอดีตองค์รัชทายาท บัดนี้น่าจะเกษียณกลับบ้านเกิดแล้ว” ผู้อาวุโสก็คืออาจารย์ใหญ่ สำนักศึกษาอิ้งเทียนเป็นสำนักศึกษามีชื่อเสียงมากที่สุดในต้าฉี ลูกศิษย์มาจากทั่วทั้งเหนือจรดใต้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชนชั้นสูงสองสามีภรรยาครุ่นคิดอยู่นาน ก็ไม่สามารถหยั่งเดาความนัยของเว่ยเฉิงออกเพียงอย่างเดียวที่สามารถมั่นใจได้ ก็คือเว่ยเฉิงมิได้คิดร้ายต่อพวกเขา“ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าและเว่ยเฉิงมีความรู้สึกราวกับเพียงได้พบหน้าก็คล้ายพบสหายเก่า”ซูจิ่งสิงสับสนมากว่าตกลงความรู้สึกนี้มาจากที่ใดกู้หว่านเยว่นึกตำหนิภายในใจ พวกท่านทั้งสองคนหนึ่งบุ๋นคนหนึ่งบู๊ ล้วนมีความแค้นถูกคนลืมบุญคุณรื้อสะพานหลังข้ามแม่น้ำแล้ว ไฉนจะไม่รู้สึกเพียงได้พบหน้าก็คล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 48

    เพียงครู่เดียวก็มาถึงศาลเจ้าทุกคนล้วนทรุดตัวลงบนพื้น“หว่านเยว่ อย่านอนเลย ลุก ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งก่อน แม่จะนำชุดนั้นบนตัวเจ้าไปผึ่งให้แห้ง” นางหยางพูดติดๆ ขัดๆซูจิ่นเอ๋อร์และซูจื่อชิงก่อไฟเรียบร้อยแล้วกู้หว่านเยว่พยักหน้า กางกระโจมเล็กที่มุมหนึ่งบนพื้นของศาลเจ้า ก่อนมุดเข้าไปยังผินมองซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง“เอ่อ ท่านช่วยข้าดูก่อน อย่าให้ผู้อื่นเข้ามา”นางยังคิดเข้าไปอาบน้ำในมิติวิเศษอีกด้วย“ได้” ซูจิ่งสิงรู้ว่านางต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า พยักหน้าสีหน้าเคร่งขรึมกู้หว่านเยว่ยังค่อนข้างเชื่อใจซูจิ่งสิงมาก เข้ากระโจมก็หายตัวเข้าไปในมิติวิเศษแล้วเดินเข้าไปข้างบ่อน้ำพุร้อนทิวทัศน์งดงามอาบน้ำทีหนึ่ง ใช้เครื่องเป่าผมเป่าจนแห้ง นี่ถึงกลับออกมาจากภายในซูจิ่งสิงเฝ้าที่ข้างกระโจมอยู่ตลอดหลังผ่านการพักฟื้นระยะนี้มาแล้ว ขาของเขายังไม่สามารถเดินได้ แต่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างง่ายกลับมิใช่ปัญหาแม้มีกระโจมหนึ่งกั้นไว้ แต่เขามั่นใจมาก หลังกู้หว่านเยว่เดินเข้ากระโจมแล้ว กลิ่นอายก็หายไปจากภายในแล้วเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป ถึงออกจากภายในกระโจมมิหนำซ้ำรอจนกระทั่งนางออกมาแล้ว เส้นผมเอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 49

    ซูหัวหลินตัวแข็งทื่อล้มลงกับพื้น เลือดออกปากและจมูก หมดลมหายใจหัวใจหยุดเต้น“เคร้ง!” หม้อเหล็กตกลงพื้น น้ำแกงยาที่เหลือสาดกระเซ็นหลังทุกคนผ่านความตกใจมาแล้ว ต่างพากันกรีดร้องปิดศีรษะของตนทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป!ไม่มีใครคาดคิด ซูหัวหลินที่เมื่อครู่ยังดีๆ อยู่ ถึงขั้นถูกฟ้าผ่าตายต่อหน้านางเฉียนอึ้งงันอยู่กับที่ มองศพซูหัวหลินพลันรู้สึกเจ็บปวดใจสิ้นหวังครั้นเสียงฟ้าร้องดังครืนเหนือศีรษะอีกครั้ง นางลังเล ยังเลือกหนีไปหลบหลังเสาโดยไม่หันกลับมามองอีก“เจ้ารอง ลูกชายข้า!” ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้เจ็บปวดเสียใจ ยกไม้เท้าถลันขึ้นไปข้างหน้า ถูกเจ้าใหญ่ฝืนลากกลับไป“ท่านแม่ อย่าแตะต้องน้องรอง เขาเพิ่งถูกฟ้าผ่ายังมีกระแสไฟบนตัวเขา!”ซูหัวหยางพูดไม่ผิด รอบข้างศพของซูหัวหลินยังมีกระแสไฟ ดินรอบข้างล้วนดำสนิทแล้วฮูหยินผู้เฒ่าตกอยู่ในความเจ็บปวดเสียใจอย่างหนัก “เจ้าใหญ่ เจ้าคนใจร้าย ดูน้องชายเจ้าถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว เจ้ายังไม่สนใจ!”ใบหน้าซูหัวหยางอ่อนล้า ปล่อยฮูหยินผู้เฒ่าทุบตีเขาอย่างอิสระ ลากคนออกมาไกลขึ้นอีกนิดส่วนคนอื่น ต่างพากันหลบที่มุมของศาลเจ้าในเวลานี้ ทุกคนต่างตื่นตร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 50

    นางเงียบไปครู่หนึ่ง พูดอย่างจริงจัง “ข้ากำลังสงสัยว่าเขื่อนในละแวกใกล้เคียงนี้อาจพังลง เมื่อนั้น พวกเราที่ศาลเจ้าโทรมๆ นี้ก็จะอับโชคไปด้วย ทุกคนไม่มีทางรอดชีวิต”ซุนอู่ตกตะลึงภายในใจ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“สัญชาตญาณ” กู้หว่านเยว่ชี้ไปที่ระดับน้ำบนพื้น “ท่านดู ตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ น้ำที่ไหลเข้ามาจากภายนอกระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ อยู่เหนือข้อเท้าของพวกเราแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้เขื่อนไม่แตก ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็ต้องจมน้ำเป็นแน่”อันที่จริงกู้หว่านเยว่เองก็ไม่แน่ใจว่า ตกลงเขื่อนที่แตกนั้นอยู่ที่นี่หรือไม่ในหนังสือมิได้เขียนไว้อย่างละเอียด ความจำนางเองก็เลือนรางแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะอยู่ที่ศาลเจ้าโทรมๆ นี้ต่อไปไม่ได้แล้ว หากยังอยู่ต่อก็มีแต่จะต้องตายเท่านั้น!ซุนอู่มองระดับน้ำบนพื้น ภายในใจยังหวังพึ่งโชค“นี่ก็ไม่แน่ว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ฝนทั่วไปก็ล้วนตกหนักอยู่พักหนึ่ง แต่หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม อีกเดี๋ยวฝนก็เบาลงแล้ว”กู้หว่านเยว่ปวดหัวอยู่บ้าง ซุนอู่ไม่มีไหวพริบเอาเสียเลยหากมิใช่เพราะยังมีสกุลเหยียน สกุลหลี่และสกุลเซิ่ง นางต้องพาครอบครัวของตนจากไปแล้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 51

    “ข้างนอกฟ้าแลบและฟ้าร้อง อยู่ในศาลเจ้าปลอดภัยกว่า”“น้ำท่วมขึ้นมาแล้วอย่างไร? อย่างน้อยขึ้นที่สูงก็ไม่ต้องเปียก แต่ถ้าออกไปตอนนี้ คงได้หนาวตาย”เหตุผลที่ทุกคนไม่เต็มใจที่จะจากไป ก็เหมือนกับพวกซุนอู่เมื่อครู่นี้ทุกประการซุนอู่เห็นว่าระดับน้ำใต้เท้าเพิ่มขึ้นทีละน้อย แถมคนในคาราวานยังบ่นกระปอดกระแปด เขาโกรธจนต้องหยิบแส้ออกมาเมื่อครู่แม่นางน้อยกู้อดทนไม่อัดเขาได้อย่างไร?“ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย!”“พี่ใหญ่ซุน เดี๋ยวก่อน!”กู้หว่านเยว่รีบห้ามเขาเอาไว้นักโทษเยอะเช่นนี้ ล้วนแต่ไม่เต็มใจจะออกไป แส้ไม่อาจใช้ได้แล้ว ต่อให้จะบังคับพวกเขาได้ แต่ก็จะต้องคอยลากคอยประคองให้เสียเวลา เดินหน้าได้ไม่กี่ก้าวกู้หว่านเยว่ส่งสายตาวางใจให้ซุนอู่ แล้วหันกลับมาพูดกับทุกคนด้วยเสียงทุ้มลึก“ทุกท่านฟังข้าพูด พวกเราหลบฝนในศาลเจ้านี้ได้สักพัก แต่ฝนก็จะหนักขึ้น และไม่ช้าก็เร็วที่นี่ก็จะถูกน้ำท่วมพวกท่านดู ตอนนี้น้ำขึ้นมาถึงเข่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรายังอยู่ริมฝั่งแม่น้ำใหญ่ หากเขื่อนแตก กระแสน้ำทะลักท่วม พวกเราก็จะถูกพัดพาไปอย่างรวดเร็วจะรั้งอยู่ที่นี่รอความตาย หรือจะออกไปกับข้า พวกท่านตัดสินใจกันเอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 52

    พวกเขาบ้านใหญ่ทำงานเป็นวัวเป็นม้ามาตลอดทาง ท่านย่ากลับไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย“ตะโกนอะไรกัน? ท่านแม่โกรธ จะทุบตีก็เป็นเรื่องธรรมดา”ซูหัวหยางสีหน้าบูดบึ้ง ไม่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะดุเขาอย่างไร เขาก็ยังก้มลงแบกคนๆ นี้ไว้บนหลัง ติดตามคาราวานขนาดใหญ่ไปส่วนศพของซูหัวหลิน ถูกทิ้งไว้ในศาลเจ้าอย่างเร่งรีบหลังจากออกจากศาลเจ้าแล้ว ซุนอู่ก็ถามว่า“แม่นางน้อยกู้ พวกเราจะไปไหนกันหรือ?”กู้หว่านเยว่เห็นภูมิประเทศล่วงหน้าแล้ว จึงพูดอย่างเด็ดขาดว่า “เดินไปตามไหล่เขาทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ แม้ว่าเขื่อนจะพัง แต่น้ำก็จะไม่ท่วมมาถึงเรา”พืชพรรณโดยรอบมีความเขียวชอุ่ม ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มบนภูเขาน้อยมากเมื่อนึกถึงความตายอันน่าสลดใจของซูหัวหลิน กู้หว่านเยว่ก็พูดอย่างกังวลว่า“ทุกคนเดินตามข้าเอาไว้ อย่ายืนตะโกนเสียงดังในที่โล่ง เดินไปตามใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่อยู่ให้ห่างจากต้นที่สูงใหญ่ ป้องกันฟ้าผ่า”บนท้องฟ้า หยาดฝนเทลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆท้องฟ้าดูเหมือนจะมีหลุมดำปรากฏออกมา หยาดฝนตกหนักนับไม่ถ้วนรินรด ไม่เพียงแต่มีฟ้าร้องและพายุโหมเท่านั้น แต่ยังมีลมแรงอีกด้วยทุกคนฝ่าลมแรง เดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 53

    หลิวซื่อที่กลับมามีสติอีกครั้ง ก็มองไปรอบๆ “เจ้าสาม เมี่ยวเมี่ยว เมี่ยวเมี่ยวข้าเล่า?”“เมี่ยวเมี่ยวไม่ได้อยู่บนหลังข้าอยู่ตลอดหรือ?”จากนั้นซูหัวจวิ้นก็ตอบสนอง เขาดึงตะกร้าไม้ไผ่ที่ด้านหลังออก ก่อนจะเห็นว่ามันว่างเปล่า ไหนเลยจะมีร่างของเมี่ยวเมี่ยวอยู่?ทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่าตอนที่เขาล้มลงในน้ำท่วม บางที เขาอาจจะโยนเด็กออกไปตอนนั้นก็ได้“อาจจะถูกน้ำท่วมพัดเอาไปแล้ว ไม่ได้ เรื่องนี้เจ้าโทษข้าไม่ได้ เจ้าว่าทำไมเจ้าเด็กโง่นั่นถึงไม่วิ่งตามมาเล่า?...”ซูหัวจวิ้นกะพริบตา ในใจรู้สึกผิดอย่างยิ่งนางหลิ่วเป็นบ้าไปแล้ว แม้ว่าตระกูลมักจะไม่พอใจนางที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายให้ได้ ทั้งยังคลอดบุตรีไม่เอาอ่าวออกมาถึงสองคน แต่นางก็ไม่เคยรังเกียจบุตรีของตนเองเมื่อเห็นว่าลูกสาวถูกซูหัวจวิ้นทำให้ตาย นางจึงเกาหัวอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำรื้นน้ำตา จากนั้นก็พุ่งไปข่วนเกาซูหัวจวิ้นทันที“เจ้าสามซู เจ้าที่เป็นพ่อเดรัชฉาน เพื่อเอาชีวิตรอดถึงกับทิ้งลูกของตัวเอง เมี่ยวเมี่ยวอายุเพียงห้าหนาว น้ำท่วมเช่นนั้น นางจะวิ่งตามมาได้อย่างไร? เจ้าชดใช้เมี่ยวเมี่ยวให้ข้า ชดใช้เมี่ยวเมี่ยวให้ข้า…”ด้วยเสียง “ซืด” เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 54

    ฟืนที่เปียกชื้นจุดไฟยากจิตสำนึกของกู้หว่านเยว่เข้ามาในมิติ เปิดห้องสินค้า ซื้อน้ำมันตุง[footnoteRef:1]มาหนึ่งขวด แล้วเทลงบนฟืน [1: น้ำมันไม้จีนเป็นน้ำมันอบแห้งที่ได้จากการกดเมล็ดจากถั่วของต้นไม้ตุง] “ฟุ่บ” เปลวไฟลุกโชนขึ้นทันทีดวงตาของซูจิ่นเอ๋อร์เบิกกว้าง “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเก่งมากเลย!”นางหยางพูดอย่างตื่นเต้น “เยี่ยมเลย มีไฟแล้ว!"ซูจิ่งสิงมองดูขวดน้ำมันตุง ดวงตาวาววับ เขารู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับ “ความลับ” ของกู่หว่านเยว่กู้หว่านเยว่คร้านจะสนใจสายตาที่จ้องมองมาของเขา อย่างไรเสีย ปิดบังคนอื่นได้แต่ปิดบังเขาไม่ได้ “ให้ข้าช่วยประคองท่านเข้ามาสักหน่อย? ตากผ้าพวกนี้ไว้ให้แห้งก่อน”ซูจิ่งสิงพยักหน้าเมื่อเขาลุกขึ้น ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ว่า ช่วงขามีความรู้สึกขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาฉายความประหลาดใจในทันทีแต่ความรู้สึกนั้นคงอยู่เพียงชั่วครู่ และหายไปในพริบตาเขายังคงสงบ ยอมให้กู้หว่านเยว่ประคองพาเขาไปที่กองไฟ“ขอบคุณ”“ไม่ต้องเกรงใจ”กู้หว่านเยว่โบกมือแล้วหยิบน้ำมันตุงไปหานักการตามแบบเดียวกัน จุดไฟในกระโจมของแต่ละคนให้สว่าง“แม่นางน้อยกู้ ท่านเก่งกาจเหลือเกิน นี่คืออะไรหรือ? แ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 772

    ซูจิ่งสิงไม่เห็นด้วย ประเด็นหลักเพราะเขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะจากคำให้การของชาวบ้านเหล่านั้น ฟังดูแล้วทะเลสาบแห่งนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก บางคนก็บอกว่ามีปีศาจอยู่ในทะเลสาบแห่งนั้น คนที่ดำลงไปสำรวจใต้น้ำก่อนหน้านั้นต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“ไม่ได้ ในเมื่อเป็นสถานที่อันตราย ข้าก็ยิ่งต้องไปกับท่าน มิเช่นนั้นหากท่านตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้ซูจิ่งสิงจนปัญญา เดิมทีเขาอยากมาบอกกล่าวภรรยาของตัวเองก่อนออกเดินทางสักคำ คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะขอไปกับเขาด้วยเมื่อเห็นสายตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่าต่อให้ตัวเองโน้มน้าวอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำใจ“ก็ได้ เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกัน แต่เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามกระโดดลงจากเรือไปสำรวจในทะเลสาบเพียงลำพังเด็ดขาด”“ไม่มีปัญหา”กู้หว่านเยว่รับปากวันนี้รับปาก พรุ่งนี้กลับคำเนื่องจากสองสามีภรรยาคู่นี้จะต้องออกเดินทางไปสำรวจทะเลสาบแห่งนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้นคืนนี้ทั้งสองคนจึงไม่อยู่รอให้ซูจื่อชิงฟื้นอยู่ในจวน แต่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 771

    นางหยางปาดน้ำตา “ช่วงนี้เจ้าต้องดูแลกู้จื่อชิงให้ดี มันคือทางที่ดีที่สุดแล้ว เรื่องในวันนี้คงโทษเจ้าไม่ได้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตำหนิตัวเจ้าเอง”ชิวจู๋กัดริมฝีปากพยักหน้าหลังจากที่กู้หว่านเยว่ต้มยาระงับประสาทให้แล้ว ก็ยื่นใบสั่งยาให้คนอื่น เพื่อเตรียมสมุนไพรนางแอบลากซูจิ่งสิงเข้ามาในมุมหนึ่งของลานกว้าง“ท่านพี่ เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงไม่พูดสิ่งใด เรื่องความรู้สึกของซูจื่อชิงเขาเองก็ไม่รู้จะเข้าไปแทรกอย่างไรยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เมี่ยชิงหว่านกำลังจะหมั้นกับเผยเสวียนแล้ว เขาไม่มีทางเข้าไปชิงตัวใครออกมาอย่างแน่นอนครั้นกู้หว่านเยว่เห็นซูจิ่งสิงไม่กล่าวสิ่งใด ก็รู้ทันทีว่าคนที่แข็งกระด้างด้านความรู้สึกอย่างเขาคงไม่มีทางคิดออกแน่นอนดังนั้น นางจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ท่านไม่รู้สึกว่าการแต่งงานของเมี่ยชิงหว่านและเผยเสวียนกะทันหันเกินไปหรือเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”“ข้าให้คนไปตรวจสอบแล้ว พวกเขาสองคนรู้จักกันได้ไม่นาน มากสุดเพียงครึ่งเดือน อีกทั้งช่วงเวลานี้ ชิงหว่านไม่ได้สนใจเผยเสวียนเลย กลับเป็นเผยเสวียนที่คอยเอาแต่ประกาศอยู่เรื่อย ๆ ทำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 770

    “คุณชายรองเราไปกันเถอะ ในเมื่อคุณหนูฟู่ตัดสินใจจะหมั้นกับคุณชายเผยแล้ว ต่อให้ท่านรอต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ”ชิวจู๋ประคองซูจื่อชิงลุกขึ้น คาดไม่ถึงว่าซูจื่อชิงจะรับแรงกระตุ้นไม่ไหวกระอีกออกมาเป็นเลือดและสลบไปในที่สุด“คุณชายรอง คุณชายรอง!” ชิวจู๋รีบประคองซูจื่อชิงกู้หว่านเยว่กำลังคุยเรื่องนี้กับซูจิ่งสิงพอดี ครั้นได้ยินเด็กรับใช้รายงานว่าซูจื่อชิงสลบไม่ได้สติและกระอักออกมาเป็นเลือด“เด็กคนนี้ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย เมื่อครู่ข้าเพิ่งบอกเขาอยู่หยก ๆ ว่าให้ถนอมร่างกายของตัวเอง ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”กู้หว่านเยว่ด่าทอพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในครอบครัว ทั้งสองคนรีบเดินตรงไปยังจวนด้านหลัง“เกิดอะไรขึ้น?”ทันทีที่เข้าไปก็เห็นซูจื่อชิงสลบอยู่บนเตียง สีหน้าเขียวคล้ำ มุมปากมีคราบเลือดหยดหนึ่งติดอยู่นางหยางและซูจิ้งกลับมาพอดี ครั้นเห็นบุตรชายกลายเป็นเช่นนี้ ก็เจ็บปวดคล้ายกับโดนมีดหรีดหัวใจ“หว่านเยว่ เจ้ารีบดูอาการให้เขาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ข้าเรียกเขาอยู่ครึ่งวัน กลับไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด”“ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไป น้องชายรองแค่สลบไปเท่านั้น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 769

    “ในเมื่อเขามาหาเจ้าแล้วถึงที่แล้ว เจ้าก็ควรออกพบเขาสักหน่อย”เผยเสวียนคลี่ยิ้มหวาน ทำให้เมี่ยชิงหว่านขมวดคิ้วแน่น“ตอนนี้ข้าไม่อยากเจอใคร เจ้าไปบอกเขาเถอะ ข้าเข้านอนแล้ว”เด็กรับใช้ยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง เผยเสวียนตั้งใจลูบแก้มของนาง“สาเหตุที่เขาอยากพบเจ้าตอนนี้ คาดว่าคงยังคาใจ อยากฟังคำตอบจากปากของเจ้าเอง ข้าอยากให้เจ้าออกไปบอกเขาด้วยตัวเอง ให้เขาตัดใจเสียเถิด”เมี่ยชิงหว่านตัวสั่นระริก “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ข้าไม่เจอเขาก็พอแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ไม่ได้”เผยเสวียนคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ “ชิงหว่าน เด็กดี เชื่อฟังข้าเถอะ มิเช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่าผลลัพธ์จากการโกรธของข้าจะเป็นอย่างไร”เมี่ยชิงหว่านลังเลเล็กน้อย ยังไม่อยากออกไป“ในเมื่อเจ้าไม่อยากออกไปบอกเขา เช่นนั้นข้าจะออกไปบอกเขาเอง ถึงตอนนั้นอะไรที่ควรพูดอะไรที่ไม่ควรพูด ข้าเกรงว่าคงจะควบคุมปากไว้ไม่ได้”เผยเสวียนกล่าวพลางสาวเท้าเดินออกไปข้างนอกนัยน์ตาของเมี่ยชิงหว่านฉายแววเกลียดชัง จากนั้นก็กัดฟันพลางพยักหน้า “ข้าไปเอง ข้าจะออกไปบอกเขาเอง”“แบบนี้สิ ถึงจะเป็นคู่หมั้นที่น่ารักของข้า”เผยเสวียนหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาพลางส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 768

    หลังจากเกิดความชุลมุนพักใหญ่ ในที่สุดเจ้าตัวก็ฟื้น “ข้า ข้ายังไม่ตายใช่หรือไม่?”ซูจื่อชิงมองรอบ ๆ ห้องอย่างเหม่อลอย สีหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา ท่าทางนั้นเหมือนตายทั้งเป็นกู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ชิงหว่านกำลังจะหมั้นแล้ว ต่อไปเจ้าสองคนก็ต้องต่างคนต่างอยู่ เจ้าทำตัวแบบนี้ไปให้ใครดูกัน?”ซูจื่อชิงตัวสั่นเทิ้ม ก่อนที่บุรุษร่างใหญ่จะร้องไห้คร่ำครวญออกมา“ข้ารู้ผิดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะข้าเอง ต้องโทษปากของข้าที่เอาแต่ขับไสไล่ส่งนางออกไปไกลมากขึ้นทุกที”ตอนนี้ซูจื่อชิงน้ำตาเช็ดหัวเข่า“ทำไมข้าถึงชอบพูดประชดประชัน ทำไมข้าถึงไม่บอกความรู้สึกของข้ากับนางให้เร็วกว่านี้”บัดนี้คงทำได้แค่มองคนที่ตนรักแต่งงานกับคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา เขาจะทนได้อย่างไร? หลายวันมานี้เขาเอาแต่ดื่มเหล้าย้อมใจอยู่แต่ในร้านอาหาร ดื่มจนเมามาย เพียงแค่อยากให้ตัวเองไร้ความรู้สึกเท่านั้นน่าเสียดายที่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรัก ไม่สามารถลบล้างด้วยการดื่มเหล้าได้ต่อให้ดื่มเหล้าจนเมามาย ก็ทำได้แค่ลืมไปชั่วขณะ หลังจากสร่างเมากลับมาเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม“เสียใจ ข้าเสียใจจริง ๆ”ซูจื่อชิงน้ำตาไหลอาบสอง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 767

    “ท่านอาเทพธิดา” เว่ยเสียวฉู่ก้มหน้ามองกู้หว่านเยว่ด้วยความชื่นชอบ ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานหยดย้อยหลังจากให้กำเนิดบุตรชาย กู้หว่านเยว่ไม่อาจต้านทานเด็กสาวที่มีหน้าตาน่ารักได้อีก กระทั่งโน้มตัวลงไปบีบแก้มของนาง“สวัสดี เว่ยเสียวฉู่”“ท่านอาเทพธิดา ท้องละเจ้าคะ?” เว่ยเสียวฉู่ชี้ไปที่ท้องของนางด้วยความอยากรู้ กู้หว่านเยว่ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ “เด็กในท้องคลอดออกมาแล้ว เป็นน้องชายตัวน้อย”นัยน์ตาของเว่ยเสียวฉู่เปล่งประกายระยิบ นางไม่มีเพื่อนเล่นเลยตั้งแต่ที่มาถึงเจดีย์หนิงกู่“ข้าขอไปเล่นกับน้องชายได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เสี่ยวฉู่” เจียงหรงอุ้มเด็กน้อยพลางกล่าว “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ พระชายา นางยังเด็กยังไม่รู้ความ”สำหรับนางแล้ว องค์ชายน้อยจากราชวงศ์ไม่ใช่ใครที่จะเล่นกับเขาได้นะ?กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ข้าชอบเด็กอย่างเสี่ยวฉู่ หากมีเวลาว่าง ไว้ข้าจะพานางไปเล่นในจวน” เด็กคนนี้ดูมีความจริงใจ หลังเติบโตไปเด็กคนนี้จะได้เป็นท่านแม่ทัพหญิงที่องอาจผึ่งผาย กู้หว่านเยว่จึงชอบมาก“ขอบพระทัยพระชายาเจ้าค่ะ”เจียงหรงคลี่ยิ้ม นางเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ากู้หว่านเยว่ไม่ชอบให้ท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 766

    “ข้าคิดดีแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากอยู่เจดีย์หนิงกู่ ข้าก็จะอยู่ที่นี่กับเจ้า ถึงตอนนั้นข้าคงหางานเขียนและวาดรูปมาเลี้ยงเจ้า”“ท่านพี่วั่ง” ดวงตาของเจียงอวิ๋นจิ่นแดงก่ำ ซาบซึ้งใจยิ่งนักครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินแผนการของทั้งสองคนแล้ว ตัดสินใจว่าจะอยู่เจดีย์หนิงกู่ จึงกล่าวออกไปตรง ๆ ว่า“เทียบกับเรื่องงานเขียนและวาดภาพ ไม่สู้เจ้ามาเป็นผู้อำนวยการให้กับสำนักศึกษาถงซันดีกว่า”“ผู้อำนวยการ?” เฉินจื่อวั่งยังไม่ได้สติชิงเหลียนจึงคลี่ยิ้มและอธิบายว่า “สำนักถงซันเป็นสำนักที่ฮูหยินของเราสร้างขึ้น ตอนนี้กำลังขาดบุคลากรอย่างผู้อำนวยการหนึ่งคนและอาจารย์สอนอีกจำนวนหนึ่ง”กู้หว่านเยว่หยิบแผนที่ใบหนึ่งออกมา “นี่คือที่อยู่ของสำนักศึกษาถงซัน ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการสร้าง หากเจ้ามีเวลาแวะไปเยี่ยมชมได้”เฉินจื่อวั่งรับแผนที่มาอย่างตะลึงงัน และเงียบไปชั่วครึ่งยามชิงเหลียนกล่าวถามด้วยใบหน้าดุดัน “ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? ในตอนที่เจ้าอ้อนวอนให้ฮูหยินของเราช่วยแม่นางเจียง ไม่ใช่บอกว่าจะทำตามคำสั่งของฮูหยินหรอกหรือ!”เฉินจื่อวั่งไม่เห็นด้วยที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตกใจอย่างมาก“ข้า ข้าเป็นผู้อำนว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 765

    “ลุกขึ้นเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนไม่ได้ที่อยู่ ๆ ก็มีคนคุกเข่าโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้ “ขอรับ”เจียงอวิ๋นจิ่นเชื่อฟังคำสั่งของกู้หว่านเยว่มาก บอกให้นางลุกขึ้น นางก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายทันทีดวงตาที่งดงามคู่นั้นเอ่อล้นด้วยหยดน้ำตา “พระชายา ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไร”นางกินยาแกล้งตาย หลับไปสามวันเต็ม เพิ่งจะฟื้นเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว และได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในสามวันนี้จากเฉินจื่อวั่ง“วินาทีที่นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังเจดีย์หนิงกู่ ข้าคิดว่าชีวิตที่เหลือหลังจากนี้จบสิ้นเสียแล้ว”เจียงอวิ๋นจิ่นเตรียมยาพิษเอาไว้เรียบร้อยแล้วเหตุผลที่ไม่ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายระหว่างทางเป็นเพราะนางกังวลว่าข่าวการตายของนางจะแพร่กระจายไปถึงเมืองหลวงแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของนาง“สาเหตุที่อวิ๋นจิ่นยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ ทั้งหมดเป็นความกรุณาธิคุณของพระชายาที่ทรงช่วยเหลือไว้”“ร่างกายเจ้าอ่อนแอนัก นั่งลงเถิด”ไม่รู้เป็นเพราะเจียงอวิ๋นจิ่นโดนทำร้ายมาตั้งแต่วัยเยาว์หรือไม่ ร่างกายถึงได้อ่อนแอมากเช่นนี้ กู้หว่านเยว่จับชีพจรให้นางแล้วพบว่านางมีสภาวะอ่อนแอขั้นรุนแรงมิน่าล่ะท่าทางการเดินที่ไร้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 764

    ครั้นกลับถึงบ้านช่วงค่ำ ในขณะที่กู้หว่านเยว่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้นนางก็ได้พูดคุยกับซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าตั้งใจจะสร้างสำนักศึกที่แตกต่างจากที่อื่นสักแห่งเจ้าค่ะ สำนักศึกษาของต้าฉีในสมัยก่อนมีเพียงบุรุษเท่านั้นที่เข้าเรียนได้ สำนักศึกษาเจดีย์หนิงกู่ของเราแห่งนี้ ข้าอยากให้สตรีมีโอกาสเข้าไปเรียนด้วยเจ้าค่ะ”ซูจิ่งสิงพยักหน้า สนับสนุนความคิดนี้ของนาง “บุรุษและสตรีใต้หล้านี้ไม่มีแบ่งแยก สติปัญญาก็ไม่แตกต่างกัน ในเมื่อบุรุษเรียนหนังสือได้ สตรีก็ย่อมเรียนได้เช่นกัน”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มหวานหยดย้อย สายตาที่เปล่งประกายคู่นั้นจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างเขินอาย“ทำไมมองข้าเช่นนี้ หน้าข้ามีสิ่งใดติดอยู่อย่างนั้นหรือ?”“ไม่มีเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกว่าสามีของข้าช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก”ไม่ว่าเมื่อไหร่ พวกเขาสองคนสามารถคุยเรื่องแบบนี้ได้ โดยไม่มีช่องว่างระหว่างวัยคนหนึ่งมาจากยุคโบราณ อีกคนมาจากยุคปัจจุบัน ความคิดค่อนข้างมีอิทธิพลมากแต่บางครั้งนางก็พบว่าความคิดของซูจิ่งสิงก็ทันยุคทันสมัยมากเช่นกันซูจิ่งสิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าคือภรรยาของข้า ต่อให้บางความคิดข้าจะไม่เข้าใจ ข้าก็เต็มใจสนับสน

DMCA.com Protection Status