บททั้งหมดของ ชายาแพทย์พลิกชะตา: บทที่ 461 - บทที่ 470

780

บทที่ 461

เขากลัวที่จะสูญเสีย“นายท่าน อาวุธลับนี้มีสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปเท่านั้น มีมันอยู่ ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ท่านได้”เถาเอ๋อร์ไม่ชอบให้สิ่งของของตนถูกสงสัย มันทำให้นางอับอายนับตั้งแต่ที่กู้หว่านเยว่ช่วยซูจิ่งสิงไว้ โครงเรื่องทั้งหมดก็เปลี่ยนไปซูจิ่งสิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวเอกชายคนเดิม มู่หรงอวี้ที่คาดว่าจะมีโชคมีลาภ กลับเริ่มเสื่อมถอยลงราวกับเดินตกหน้าผาเขาไม่เพียงสูญเสียสมบัติส่วนตัวไปหลายชิ้น แต่คนที่ควรจะเป็นผู้ช่วยของเขาก็ถูกกู้หว่านเยว่แย่งชิงไปทีละน้อยทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับกู้หว่านเยว่อย่างสลัดไม่หลุดทว่า เถาเอ๋อร์ในตอนนี้ไม่มีท่าทางตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เพราะนางได้เปิดใช้งานนิ้วทองแล้วนางมีนิ้วทอง ทั้งยังเป็นผู้เขียนหนังสือต้นฉบับ นางต่างหากที่เป็นผู้ดำรงอยู่ที่สูงส่งที่สุดกู้หว่านเยว่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อย ที่ถูกลิขิตมาให้นางได้เหยียบย่ำไว้ใต้ฝ่าเท้า“เจ้าอย่าโกรธ ข้าแค่กังวลนิดหน่อย”มู่หรงอวี้สัมผัสปืนไฟในมือของเขาอย่างระมัดระวัง พลางคิดว่า“เถาเอ๋อร์ เจ้าว่า ในโลกใบนี้ จะมีปืนกระบอกที่สองหรือเปล่า?”“เป็นไปไม่ได้แน่นอน!”เถาเอ๋อร์กล่าวอย่างตื่นต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 462

สิ่งที่กู้หว่านเยว่คิดก็คือ ครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาจำนวนมาก วางสายลับไว้ในหมู่บ้านสือหานเรียบร้อยแล้วหากนางและซูจิ่งสิงเดินเข้าหมู่บ้านไปอย่างหยิ่งยโส คนของมู่หรงอวี้ย่อมต้องค้นพบพวกเขาแน่นอนถ้าให้อวิ๋นมู่พาผู้เฒ่าอวิ๋นเข้าหมู่บ้านไปก่อน แล้วนางกับซูจิ่งสิงค่อยเดินตามเข้าไปเงียบๆ คงจะดีกว่าด้วยวิธีนี้ ศัตรูก็จะอยู่ในที่สว่าง ส่วนพวกเราก็จะอยู่ในที่มืด ลงมือกระทำการง่ายกว่า“พอเจ้าไปถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านก็บอกเขาว่าเจ้าเป็นคนของเขา หัวหน้าหมู่บ้านย่อมปล่อยให้เจ้าเข้าไปแน่นอน”อวิ๋นมู่ถูกคำว่า “คนของข้า” ทำให้สั่นไหว จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ได้เลย ข้าฟังเจ้า”ในเมื่อกู้หว่านเยว่เตรียมการไว้เช่นนี้ นางย่อมต้องมีเหตุผลของนาง อวิ๋นมู่จึงเลือกที่จะเชื่อฟังโดยดีกู้หว่านเยว่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วหันไปขอให้ชิงเหลียนและหงเจาพาพวกเขาไปหาหัวหน้าหมู่บ้านโจวหลังจากนั้น นางและซูจิ่งสิงพร้อมกับฉู่เฟิง ก็แอบเข้าไปในหมู่บ้านสือหานอย่างเงียบๆ ทั้งสองเดินเท้ากลับบ้านในเวลานี้ บ้านมุงจากหลังเดิมที่ตีนเขาด้านหลังถูกรื้อ แทนที่ด้วยบ้านอิฐเป็นที่เรียบร้อยกู้หว่านเยว่ตาม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 463

แต่กู้หว่านเยว่ยืนกรานที่จะช่วยเหลือซูจิ่งสิง อีกทั้งครั้งนี้มู่หรงอวี้ แตะโดนเส้นตายของนางแล้ว“ก่อนที่จะไป ท่านไปบอกคนอื่นให้พวกเขาหลบเลี่ยงด้วยนะเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงไปด้วย”ลูกสะใภ้หลักแหลม ซูจิ่งสิงก็ปกป้องเท่าชีวิต ผู้เฒ่าทั้งสองทำอะไรไม่ได้แล้ว“เอาล่ะ พวกเราฟังเจ้า แต่เจ้าต้องระวังนะ หากพ่ายแพ้ก็กลับมาซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ด้วยกัน”ขณะที่พูด ใบหน้าของนางหยางก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลพวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถอะไร ดังนั้นการเป็นกังวลเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องปกติส่วนกู้หว่านเยว่ก็ที่จะอธิบาย คงไม่อาจบอกทั้งสองคนได้ตนเองมีมิติในร่าง ไม่มีทางเป็นอะไรกระมัง?เวลาไม่คอยท่า ทั้งสองอธิบายให้นางหยางและซูจิ้งเสร็จแล้วนางหยางก็ออกไปบอกครอบครัวอื่นๆ ให้ผู้ญิงและเด็กเล็กซ่อนตัวให้ดี โดยเฉพาะตระกูลเหยียนที่ไม่มีวรยุทธ์ ย่อมต้องซ่อนไว้ให้มิดชิดเมื่อเห็นนางหยางและซูจิ้งเข้าไปในอุโมงค์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงไปที่ห้องของพวกเขานี่ก็คือห้องนอนใหญ่ของพวกเขาในระหว่างก่อสร้าง กู้หว่านเยว่ได้ออกแบบไว้โดยเฉพาะไว้บนภาพวาด เป็นห้องสำหรับพวกเขาสองคนเตียงนุ่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 464

กู้หว่านเยว่ดึงซูจิ่งสิงให้นอนลงบนเตียง แอบรอให้คนของมู่หรงอวี้มาถึงไม่รู้ว่ารอนานแค่ไหน บนเตียงหลังนุ่มที่รองรับหลัง จู่ๆ ซูจิ่งสิงก็สะกิดกู้หว่านเยว่ที่เคลิ้มหลับไปเบาๆ“น้องหญิง พวกเขามาแล้ว”กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟัง ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกหน้าต่างจากนั้น กระบี่เล่มคมก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอก ซูจิ่งสิงทะยานเข้าไป คว้ากระบี่เอาไว้แล้วโยนทิ้งทันที“พวกเราออกไปกันเถอะ”พวกเขาทั้งสองลุกจากเตียง เดินออกไปข้างนอก ในเวลานี้ คนในชุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนกรูเข้ามาจากด้านนอกกำแพงลาน ล้อมรอบลานทั้งหมดไว้อย่างสมบูรณ์“หวายหนานอ๋อง ท่านคิดจะทำอะไร?”กู้หว่านเยว่เลียนแบบเสียงของนางหยาง ถามด้วยความตื่นตระหนก“เหอะ นางหยาง โทษก็โทษที่เจ้าให้กำเนิดลูกชายดี กลายมาเป็นปรปักษ์กับข้าเถอะ เด็กๆ จับพวกเขาเอาไว้”มู่หรงอวี้ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระ จึงออกคำสั่งให้คนของตนทั้งหมดลงมือทันทีองครักษ์ลับของซูจิ่งสิงและคนของหนานหยางอ๋องก็ออกมาแล้วเช่นกัน พวกเขากำลังต่อสู้กับคนของมู่หรงอวี้อย่างไม่มีใครยอมใครทว่า หากมองดูดีๆ แล้ว คนในฝั่งของซูจิ่งสิงนั้น คล้ายจะแข็งแกร่งกว่าท้ายที่สุดแล้ว องคร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 465

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ยังคงกลัวว่าการฆ่ามู่หรงอวี้จะดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้ชั่ว กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามขึ้นมาได้แต่ในเวลานี้ มู่หรงอวี้ถึงขั้นกล้าบุกมาที่บ้าน!นางไม่อาจสนใจอะไรได้มากกว่านี้แล้วหากไม่ใช่ว่านางกับซูจิ่งสิงรู้ข่าวก่อน วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น?มู่หรงอวี้ที่มาพร้อมกับอาวุธลึกลับ และหมู่บ้านสือหานที่มีแนวโน้มจะถูกเขาทำลายล้างผลลัพธ์นี้ เป็นสิ่งที่กู้หว่านเยว่ไม่กล้าจินตนาการโดยเฉพาะความโหดร้ายของมู่หรงอวี้ หากนางหยางและซูจิ้งตกอยู่ในมือของเขา ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะตายไร้ที่กลบฝังกู้หว่านเยว่รักญาติสนิทเหล่านี้มาก และการเคลื่อนไหวของมู่หรงอวี้ ก็เหยียบลงบนเส้นตายของนางอย่างไม่ต้องสงสัย“ให้ฉู่เฟิงกับหวังปี้ตามพวกเรามา ส่วนที่เหลืออยู่เก็บกวาดที่นี่เสีย”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง โยนซากปืนไฟกลับไปในพื้นที่มิติ แล้ววิ่งตามมู่หรงอวี้ไปทันทีเวลานี้ มู่หรงอวี้หวาดกลัวจนแทบหมดสติโชคดีที่เขาเจ้าเล่ห์มากพอ แม้ว่าจะเข้ามาเพื่อล้อมหมู่บ้านสือหานไว้ แต่เขาก็ยังคงมีกองกำลังเสริมรออยู่ข้างนอกที่ประตูรถม้ากำลังรออยู่หลังจากวิ่งขึ้นรถม้าแล้ว มู่หรงอวี้ก็ไม่ม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 466

ในเวลานี้ มู่หรงอวี้ในรถม้าแสนตระหนก รถม้าลึกเข้าไปในหุบเขา เพื่อเอาชีวิตรอด ที่ใดมีทางถนนพวกเขาก็พุ่งไปที่นั่นเหมือนดั่งแมลงวันไร้หัวที่บินอยู่ในหุบเขาก็มิปาน“ด้านหน้ามีถ้ำอยู่”มู่หรงอวี้บังเอิญวิ่งเข้าไปในถ้ำที่กู้หว่านเยว่เก็บเสบียงเอาไว้หลังจากทำการขนย้ายมาหลายวัน เสบียงอาหารทั้งหมดในถ้ำก็ถูกส่งไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินแล้วในเวลานี้ ถ้ำแห่งนี้ว่างเปล่า ยกเว้นเพียงถุงอาหารบางส่วนเท่านั้นมู่หรงอวี้มองไปที่ถุงข้าวเหล่านั้น สงสัยอย่างสุดซึ้ง“นี่เป็นเสบียงที่ซ่อนอยู่ในคลังส่วนตัวของข้าไม่ใช่หรือ?”มันมีตราประทับของเขาอยู่ด้วย ไม่ผิดแน่“เหตุใดเสบียงในคลังส่วนตัวของข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”สิ่งนี้ทำให้มู่หรงอวี้ตกอยู่ในภวังค์เล็กๆ ก่อนหน้านี้เขาก็เดาไว้ว่า ไม่ว่ากู้หว่านเยว่ไปที่ไหน คลังส่วนตัวของเขาก็จะว่างเปล่าตอนนั้น เขาก็สงสัยในตัวกู้หว่านเยว่มานานแล้วแต่สงสัยก็ส่วนสงสัย ตอนนี้จะมีอะไรแน่นอนได้อีก?มู่หรงอวี้โกรธมากจนแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดทว่า อย่างไรเขาก็ยังไม่ไขกระต่าง สองคนนี้มีความสามารถถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?“ออกไปก่อน!”ยังไม่ทันได้โกรธ มู่หรงอวี้ก็ต้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 467

ซูจิ่งสิงไม่มีเวลามาโต้เถียงกับเขา พูดอย่างเย็นชา“จะถึงหูฝ่าบาทหรือไม่ ก็ไม่มีผลอะไรกับข้า”“เจ้า หรือเจ้าคิดจะก่อกบฏ?”ทันทีที่มีการคาดเดานี้ผุดขึ้นมา มู่หรงอวี้ก็ตื่นตระหนกแล้วจริงๆหากซูจิ่งสิงคิดกบฏ ราชวงศ์ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกรงกลัวในขณะเดียวกัน ฐานะอ๋องเองก็ไม่สามารถเป็นเครื่องรางช่วยชีวิตของเขาได้อีกต่อไปแววตาของเขา ในที่สุดก็เต็มไปด้วยความกลัว “ซูจิ่งสิง มีเรื่องอันใดค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถอะ”ซูจิ่งสิงยังคงพูดคำเดิม“คายทุกเรื่องที่เจ้าทำกับตระกูลซูหลายปีนี้ออกมา แล้วข้าจะพิจารณาปล่อยเจ้าไป”“ข้าพูด ข้าพูดแล้ว”เกี่ยวกับปัญหานี้ มู่หรงอวี้ไม่มีอะไรไม่กล้าพูด รีบพูดว่า“ข้าไม่ได้ทำอะไรกับตระกูลซูเลยจริงๆ ข้าเคยพยายามเอาชนะเจ้ามาก่อน เคยไล่ฆ่าพวกเจ้ามาตามทาง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความประสงค์ของฝ่าบาท ไม่เกี่ยวข้องกับข้า…”ซูจิ่งสิงหรี่ตาลง“ฮ่องเต้ออกคำสั่ง เหตุใดเจ้าถึงไล่ตามข้าไม่ลดละเล่า?”“เป็นเถาเออร์!”“นางบอกข้าว่า โลกนี้เป็นหนังสือนิยายที่นางเขียนขึ้นมาด้วยตนเอง และข้าก็ควรจะได้เป็นฮ่องเต้ตามต้นฉบับเหตุผลที่ข้ามาอยู่ในจุดนี้ ก็เพราะเจ้ากับกู้หว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 468

“พวกเจ้าคงจะยังไม่รู้สินะว่าในตัวของหนานหยางอ๋องนั้นมียาพิษ”เรื่องที่หนานหยางอ๋องโดนวางยาพิษ กู้หว่านเยว่รู้อยู่ก่อนแล้ว เพราะนางเป็นคนถอนยาพิษนี้เองกับมือ“หากเป็นความลับนี้ ก็ต้องขอโทษด้วย มันไม่ได้มีผลกับข้า” กู้หว่านเยว่โบกมือไปมา“ว่าอย่างไรนะ? ช้าก่อน ข้ายังมีอีกเรื่อง” มู่หรงอวี้เอือมระอากับการรับมือที่ยากเย็นกับกู้หว่านเยว่เต็มทน แต่เพื่อปกป้องตัวเอง เขาจะต้องประกาศเรื่องที่ตนรู้ทั้งหมดออกมาให้จงได้“ยังมีอีกเรื่อง ข้ารู้ว่าฝ่าบาททรงทำลายหมู่บ้านโซว่หวางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและอ๋องจินในเหอตง”“อ๋องโซว่ก็คือกงซุนจ่างเย่ เขาคอยดูแลหมู่บ้านโซว่หวางที่ตั้งอยู่ในทุ่งหญ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนอ๋องจินคอยดูแลเกี่ยวกับถ่านหินที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนสักเท่าไหร่”ซูจิ่งสิงคอยอธิบายอยู่ข้างหูของกู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ฮ่องเต้ที่ขึ้นครองราชย์อยู่ในตอนนี้ก็คือบุตรบุญธรรม ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่สายเลือดเชื้อพระวงศ์โดยตรง ดังนั้นเขาจึงเกิดความกังวลมาตลอดว่าบัลลังก์ที่เขากำลังขึ้นครองอยู่นี้จะถูกใครคนอื่นช่วงชิงตลอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 469

เมื่อเห็นแขนที่ขาดยังคงคาอยู่บนมือของกู้หว่านเยว่ นางรีบทิ้งมันไปด้านข้างทันทีในขณะที่กำลังคิดจะวาบตัวตามไปนั้น นางกลับถูกซูจิ่งสิงที่ไล่ตามมาทันขวางไว้เสียก่อน“น้องหญิง อย่าเข้าไป ในนั้นมันอันตราย!”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วแน่น คว้านางอย่างไม่คิดชีวิตภูเขาหิมะจะถล่มลงมาเมื่อไหร่ก็ได้“หลิวจ้งชางล่ะ?”“ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว”เมื่อรู้ว่าหลิวจ้งชางตายแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ทอดถอนใจ จากนั้นก็จ้องเขม็งไปยังทิศทางที่มู่หรงอวี้หายตัวไปด้วยสีหน้าจนปัญญา“หิมะก้อนนี้เป็นฝีมือของหลิวจ้งชาง มู่หรงอวี้ เจ้าช่างโชคดียิ่งนัก!”ปล่อยให้เขาหนีรอดไปก่อนแต่การตัดมือหนึ่งข้างของอีกฝ่าย นับว่าเป็นกำไรมหาศาลมู่หรงอวี้ที่เสียมือไปแล้วหนึ่งข้าง หากคิดจะกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง คงยาก“เรากลับกันก่อนเถอะ”ทั้งสองคนกลับไปตามเส้นทางเดิม ทันทีที่พวกเขากลับมาถึงถ้ำก็พบว่าศพของหลิวจ้งชางและคนอื่น ๆ ถูกเผาไปจนหมดแล้วจากนั้นก็เร่งเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านสือหานเวลานี้คนของมู่หรงอวี้ยังคงสู้อยู่กับองครักษ์ลับกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจึงต้องลงมืออีกครั้ง เก็บกวาดทุกคนจนเกลี้ยงสุดท้ายทั้งสองคนก็พานางหยางและ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 470

นางพยักหน้าหงึกหงัก เพราะไม่อยากโต้แย้งกับซูจิ่งสิงอีก “ได้ เช่นนั้นข้าพักผ่อนอยู่ในห้องก็ได้ ท่านจงคิดไตร่ตรองให้ดี หากมีเรื่องอะไรแก้ไขไม่ได้ รีบบอกข้า”กล่าวจบ นางก็แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม แต่เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไปซูจิ่งสิงมองใบหน้าด้านข้างของกู้หว่านเยว่ ด้วยความสงสารและรู้สึกขบขันไปพร้อมกันเขาโน้มตัวลงมาจุ๊บหน้าผากของสตรีผู้เป็นที่รักเบา ๆ น้องหญิงของข้าดูถูกเขาเกินไปจริง ๆ การเก็บงานเช่นนี้ เขาจะทำออกมาไม่ดีได้อย่างไรแต่ในขณะเดียวกันซูจิ่งสิงก็รู้ว่ากู้หว่านเยว่เป็นห่วงเขาอยู่ลึก ๆ ในใจ ถึงได้กังวลทุกรายละเอียดเช่นนี้เขามีอะไรดีนะ ถึงได้มีภรรยาที่แสนดีถึงเพียงนี้ครั้งนึกถึงคำกล่าวของมู่หรงอวี้ นัยน์ตาของซูจิ่งสิงก็อดฉายแววลึกล้ำไม่ได้ในตัวภรรยาของเขามีความลับมากมายแต่ไม่เป็นไร ต่อให้เขาไม่รู้อะไรเลย เขาก็จะปกป้องนางให้ถึงที่สุดซูจิ่งสิงทอดถอนใจอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็เหาะเหินออกไปหลังจากที่ยุ่งมาตลอดตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงคืน บุรุษได้กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาต้องย่องขึ้นเตียง และแทรกตัวเข้าไปกอดกู้หว่านเยว่เช้าวันรุ่งขึ้น กู้หว่านเยว่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยคว
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
4546474849
...
78
DMCA.com Protection Status