Semua Bab องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น: Bab 271 - Bab 280

1252 Bab

บทที่ 271

อย่าไปสนใจเหล่าบรรดาชนชั้นสูงที่จางเฉวียนหรงกั๋วกงเป็นผู้นำ วันปกติสวมชุดเครื่องแบบทหาร พกดาบยาว ดูแล้วเหมือนจะได้เรื่องได้ราว ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาสามารถบัญชาการทหารได้หรือ? สู้รบเป็นหรือ? ตอนเข้าไปในสนามรบ ไม่กลัวจนฉี่ราด ก็ถือว่าดีมากแล้ว ก็เพราะฝ่าบาทเข้าใจหลักการข้อนี้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งจางไป่เจิงให้นำทัพทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายออกไปรบ แต่เมื่อจางไป่เจิงไป เมืองหลวงก็จะว่างทันที นำไปสู่เหตุการณ์ยุ่งเหยิงที่องค์ชายหกก่อกบฏเพื่อแย่งชิงอำนาจ หรือว่าราชสำนักนี้ นอกจากจางไป่เจิงคนเดียวแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถต่อสู้ได้อีก? หรือจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หลี่หลงหลินมองไปทางหนิงชิงโหวแล้วเอ่ยว่า “เช่นนั้นไหนเจ้าลองว่ามาสิ เหตุใดถึงเกิดสถานการณ์เช่นนี้ได้? หนิงชิงโหวขมวดคิ้วเป็นปม ดำดิ่งสู่ห่วงความคิด ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับวรรณกรรมมากกว่าการทหารหรือ? ก็ไม่ใช่ ฝ่าบาทได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้บู๊ พร่องการปกครองเมืองด้วยวัฒนธรรม เชี่ยวชาญด้านการทหาร แล้วจะให้ความสำคัญกับวรรณกรรมมากกว่าการทหารได้อย่างไร? ต้าเซี่ยขาดแคลนผู้มีความสามารถหรือ? ก็ยังไม่ใช่ ต้า
Baca selengkapnya

บทที่ 272

ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกว่าตนเองถูกหักหลัง จึงบ่นพึมพำ “แต่ท่านก็บอกอยู่ว่า จะต้องสร้างกองทัพตระกูลซูขึ้นมาใหม่ ทำไมถึงกลายเป็นจะก่อตั้งโรงเรียนทหารไปได้ล่ะ!” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โรงเรียนทหารกับกองทัพใหม่ จะสร้างไปด้วยกันไม่ได้หรือ! นอกจากนี้ ข้าก็เกณฑ์ชาวบ้านอพยพมาหนึ่งพันคนแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับทหารพ่ายศึกที่มีอยู่เดิม ข้าไม่ได้ต้องการแค่สร้างกองทัพตระกูลซูขึ้นมาใหม่ แต่ยังจะสร้างกองทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้าให้เป็นมาตรฐานด้วย” หนิงชิงโหวดวงตาเป็นประกาย “ข้าเข้าใจแล้ว! องค์ชายจะให้กองทัพตระกูลซูเป็นมาตรฐาน เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์โรงเรียนทหารซีซาน! เมื่อถึงตอนนั้น วีรบุรุษที่มีความสามารถในใต้หล้า ก็จะหลั่งไหลกันเข้ามาราวกับน้ำหลาก...” หลี่หลงหลินลูบคางแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้องแล้ว” ในสมองของเขา นึกถึงภาพหนึ่งขึ้นมา ชายหนุ่มที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้นหลายพันคน รวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้างของโรงเรียนทหารซีซาน และตะโกนเรียกเสี้ยวจ่าง! ตัวเองหัวล้าน ปัดโถ่..... ตัวเองที่ผมสวยพลิ้วสลวย แต่งกายด้วยชุดทหาร ตรวจตราทัพสามกอง มองแล้วช่างสง่าผ่าเผย! ไม่ว่ายังไงก็ตาม เมื่อเทียบกับเ
Baca selengkapnya

บทที่ 273

องค์ชายเก้าดูจะให้ความสำคัญกับตนมากเกินไปหรือเปล่านะ? ซูเฟิ่งหลิงเองยิ่งประหลาดใจ จึงดึงหลี่หลงหลินไปด้านข้างเพื่อคุย “ท่านให้ข้าเป็นอาจารย์หรือ?” หลี่หลงหลินเผยยิ้มร่า “ใช่แล้ว การเป็นอาจารย์น่าเกรงขามมากนะ! ถ้าเจ้าไม่ชอบหน้าเขา เจ้าก็สามารถซ้อมเขาได้! เจ้าชอบซ้อมคนที่สุดไม่ใช่หรือ?” ซูเฟิ่งหลิงใบหน้าแดงก่ำ “แต่ว่า แต่ว่า ข้ารู้แค่เรื่องการต่อสู้ ความรู้ทางวิชาการข้าอาจจะเทียบกับจางอี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” จางอี้ยังไงก็เคยเรียนที่สำนักศึกษาแห่งแคว้นมาตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนจากบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่! ถึงแม้ว่าจางอี้จะมีนิสัยเกียจคร้าน ไม่ตั้งใจเรียน ทำให้เหล่าบัณฑิตโกรธจนควันออกหู แต่สุดท้ายเขาก็ยังได้เป็นกงเซิงอยู่ดี! ซูเฟิ่งหลิงเติบโตมากับปู่ในกองทัพ ไม่เคยได้เรียนหนังสือเลย อ่านออกเขียนได้ก็เพราะมีพี่ชายและพี่สะใภ้คอยสอน ตนเองเป็นแค่คนอ่านออกเขียนได้นิดหน่อย จะไปเป็นอาจารย์ของบัณฑิตได้อย่างไร นี่มันเรื่องเหลวไหลชัดๆนะ? หลี่หลงหลินพูดอย่างจริงจัง “ที่นี่คือโรงเรียนทหาร ไม่ใช่สำนักศึกษา! นอกจากวิชาการแล้ว ยังต้องสอนการวางแผนยุทธวิธี และยังต้องสอนวิทยายุทธ์ด้วย อันนี้เจ้าถนัดใช่ไห
Baca selengkapnya

บทที่ 274

“ปัง!” ซูเฟิ่งหลิงปิดประตูโดยไม่รู้ตัว ถึงค่อยตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางจ้องหลี่หลงหลินอย่างโกรธเคือง “ปิดประตู ปล่อยหมาหรือ? ท่านว่าใครเป็นหมา?” หลี่หลงหลินโยนไม้บรรทัดให้ซูเฟิ่งหลิง “เจ้าอย่าเพิ่งไปใส่ใจเรื่องนั้นเลย! ยังไงก็ตาม เจ้าแค่คอยดูเขาให้อ่านหนังสือ ถ้าเขากล้าขี้เกียจ เจ้าก็ตีเขาแรงๆ เลย!” ซูเฟิ่งหลิงถือไม้บรรทัดไว้ เมื่อเห็นจางอี้ตัวสั่นด้วยความกลัว สภาพน่าสงสาร น่าก็เกิดความสงสารขึ้นมาทันที “ข้า...ข้าทำไม่ลง!” หลี่หลงหลินแค่นเสียง “ดูเจ้าสิ! ตอนที่เจ้าตีข้า ลงมือไปเต็มแรงเลยไม่ใช่หรือ?” ซูเฟิ่งหลิงหน้าแดงก่ำ “ไร้สาระ! ท่านก็คือท่าน เขาเป็นเขา ข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกับเขา...” หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว! ตีคือรัก ด่าคือความเอ็นดู รักมากก็ต้องใช้เท้าถีบ! เจ้าตีข้า แสดงว่าเจ้ารักข้า!” ซูเฟิ่งหลิงโกรธจัด “ไปให้พ้น! เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะตีท่านให้ตาย...” หนิงชิงโหวเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว จึงรีบห้าม “องค์ชายเก้า จางอี้ยังอยู่ตรงนี้นะ...” หลี่หลงหลินไม่สนใจซูเฟิ่งหลิง เดินไปหาจางอี้แล้วถาม “เมื่อครู่ เหตุใ
Baca selengkapnya

บทที่ 275

หนิงชิงโหวและกลุ่มบัณฑิต ถอดเสื้อคลุมบัณฑิตออก เปลี่ยนเป็นเครื่องแบบทหารสีดำที่ดูสง่าผ่าเผย อบรมสั่งสอนเหล่าทหารให้อ่านออกเขียนได้ ผลที่ออกมา แน่นอนว่าแย่มาก ทหารพ่ายศึกของตระกูลซูก่อนหน้านี้อย่างน้อยก็เคยผ่านสนามรบมา รู้จักเชื่อฟังคำสั่ง แม้จะไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ก็ยังพยายามเรียน แต่ผู้อพยพจากดินแดนทางเหนือที่เกณฑ์มาใหม่นั้นไม่ได้เรื่องเลย พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ ไม่รู้ว่าทำไมต้องต่อสู้ เข้ามาเป็นทหารก็เพื่อให้มีข้าวกิน ตอนฝึกก็ทำแบบส่งๆ พอให้พวกเขาอ่านหนังสือก็ยิ่งแล้วใหญ่! ระเบียบวินัยในห้องเรียนก็แย่มาก บางคนนอนหลับ บางคนกินข้าว บางคนคุยกัน มีบางคนถึงขั้นแอบเล่นการพนันอยู่ข้างหลัง หนิงชิงโหวไม่เคยเป็นอาจารย์มาก่อน ขาดประสบการณ์ พอเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “เรื่องนี้ง่ายมาก! ไปเปิดหน้าต่างห้องของจางอี้!” จางอี้เรียนกับซูเฟิ่งหลิงเพียงลำพัง คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีจางอี้อยู่ รู้แต่ว่ามีห้องหนึ่งที่ปิดประตูหน้าต่างตลอดเวลา และมักจะมีเสียงแปลกๆ ดังออกมา “อ๊าๆๆๆๆๆ...” “ขงจื๊อกล่าวว
Baca selengkapnya

บทที่ 276

จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพราะจางเฉวียนเป็นห่วงลูกชาย ลูกผู้ชายควรออกไปเผชิญโลกกว้าง อย่าว่าแต่หนึ่งเดือน แม้จะไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วจะยังไง? แต่ที่สำคัญก็คืออวี่ชื่อ แค่สิบวันที่ไม่ได้เจอลูกชาย นางก็ถอนหายใจทั้งวัน พอกลางคืนก็ร้องไห้ จางเฉวียนทนไม่ไหว จึงพาอวี่ชื่อมาเยี่ยมลูกชายที่โรงเรียนทหารซีซาน และอยากจะดูว่าสิบวันที่ผ่านมา เขาพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า ทหารยามที่ภูเขาทิศประจิมจำหรงกั๋วกงได้ จึงอนุญาตให้เข้าไปได้ทันที เมื่อจางเฉวียนไม่ได้ถูกขัดขวางใดๆ จึงเดินตรงเข้าไปในโรงเรียนทหารซีซานอย่างรวดเร็ว “ที่นี่ก็ไม่เลวนะ!” อวี่ชื่อมองพระราชวังอันโอ่อ่าสง่างามแล้วรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย เหล่านักเรียนชายหนุ่มที่เดินสวนกันไปมา ต่างสวมเครื่องแบบทหารสีดำ ดูสง่าผ่าเผยและกล้าหาญ ทุกคนต่างพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข จางเฉวียนที่เคยเห็นแต่ชาวบ้านหน้าตาซีดเซียว พอมาเห็นคนหนุ่มที่มีพลัง มีชีวิตชีวา แถมหน้าตายังดูอิ่มเอิบเหล่านี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “ดูเหมือนอาหารการกินก็ไม่เลวนะ!” อวี่ชื่อรู้สึกวางใจลงในที่สุด ที่พักก็ดี อาหารก็ดี นักเรียนดูแล้วก็มีความสุข ลูกชายน่าจะใช้ช
Baca selengkapnya

บทที่ 277

“ท่านพ่อ ข้ากลัวจริงๆ...” “พระชายาน่ากลัวมาก นางจะฆ่าคนจริงๆ!” ร่างกายของจางเฉวียนสั่นสะท้าน เขาก้มหน้าลงมองอย่างละเอียด มันคือสี่ตำราห้าคัมภีร์ที่จางอี้คัดลอกมาจริงๆ ลายมือค่อนข้างเรียบร้อย เพราะยังไง จางอี้ก็เคยเรียนที่สำนักศึกษาแห่งแคว้น เรียนการเขียนพู่กันกับบัณฑิต พื้นฐานจึงยังดีอยู่ ปัญหาคือเด็กคนนี้เกียจคร้านเกินไป ชอบเล่นสนุก ไม่ชอบอ่านหนังสือ และยิ่งไม่ชอบเขียนหนังสือ พอนานๆ เข้า ก็เขียนไม่คล่อง ลายมือในจดหมายที่เขียนถึงเขาก็เหมือนลายแทงผี อ่านไม่ออกสักตัว เมื่อเทียบกันแล้ว สี่ตำราห้าคัมภีร์ที่เขาคัดลอกมานั้นกลับดูดีมีหลักการ จางเฉวียนถาม “แล้วเจ้าท่องได้หรือยัง?” จางอี้ตอบด้วยความน้อยใจ “ต้องท่องได้สิ! ไม่งั้นข้าคงโดนตีตายไปแล้ว และไม่ได้เจอท่านพ่อกับท่านแม่อีก...” จางเฉวียนดีใจมาก “งั้นเจ้าลองท่องให้พ่อฟังหน่อย!” จางอี้เปิดปากท่องออกมาทันทีมาโดยไม่ต้องคิด “ขงจื๊อกล่าวว่า...” พูดตามตรง จางอี้ไม่ได้โง่ ในทางกลับกัน เขายังฉลาดแกมโกงนิดหน่อยด้วย แต่เพราะเขาฉลาดเกินไป ถึงได้ไม่ตั้งใจเรียน และชอบก่อกวนสร้างปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่จางอี้เริ่มเรียนร
Baca selengkapnya

บทที่ 278

ห้องทำงานของเสี้ยวจ่างอยู่บนยอดสุดของภูเขาทิศประจิม มีทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยม และสามารถมองเห็นโรงเรียนทหารซีซานได้ทั้งหมด ในขณะนี้ หลี่หลงหลินกำลังยืนพิงระเบียงอยู่ ในมือถือถ้วยชาใส มองลงไปด้านล่างอย่างภาคภูมิใจ: “ทิวทัศน์ที่สวยงามราวภาพวาด หญิงงามที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดึงดูดเหล่าวีรบุรุษนับไม่ถ้วนให้ยอมจำนน...” ปัง! ซูเฟิ่งหลิงเตะประตูเข้ามา เหงื่อไหลท่วมกาย นางหอบหายใจขณะเอ่ย: “หนี... รีบหนีเร็ว...” หลี่หลงหลินตกใจ: “หนี? เผ่าหมานบุกมาแล้วหรือ?” ในความคิดของเขา มีเพียงการรุกรานของเผ่าหมานเท่านั้นที่ทำให้ซูเฟิ่งหลิงตื่นตระหนกได้ถึงเพียงนี้! ซูเฟิ่งหลิงส่ายหัว: “ไม่... ไม่ใช่ ผู้เสียหายบุกมาถึงประตูแล้ว!” “ผู้เสียหายหรือ?” หลี่หลงหลินสีหน้างุนงง หลังจากฟังคำอธิบายของซูเฟิ่งหลิง เขาถึงได้รู้ว่าหรงกั๋วกงพาฮูหยินมาด้วย ส่วนซูเฟิ่งหลิงก็ตกใจจนกระโดดหนีออกทางหน้าต่างและวิ่งมาส่งสารให้เขา หลี่หลงหลินรู้สึกอบอุ่นในใจ: “ถือว่าเจ้ายังมีจิตสำนึก ไม่คิดหนีไปคนเดียว! แต่หรงกั๋วกงนี่ก็กระไรกัน ยังไม่ถึงเดือนเลย ก็มาอย่างกระทันหันแล้ว ทำให้พวกเราตั้งตัวไม่ทัน!” ซูเฟิ่งหลิงบ่น: “ก
Baca selengkapnya

บทที่ 279

ผิวของนางเนียนละเอียดราวกับหยก บอบบางราวกับจะแตกได้เพียงแค่สัมผัส ใครจะไปรู้ว่า ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่กับการฝึกฝนเพลงกระบี่ เผชิญกับแสงแดดและสายลมทุกวัน จะมีผิวพรรณอ่อนนุ่มเช่นนี้ได้! หรือนี่อาจเป็นเพราะพลังพิเศษของผู้ฝึกวรยุทธ? ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกได้ถึงสายตาที่เร่าร้อนของหลี่หลงหลิน ใบหน้าของนางแดงระเรื่อขึ้นราวกับถูกย้อมสี ทั่วทั้งร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ยิ่งทำให้ดูสวยกว่าเดิม... นางหายใจถี่ขึ้น อย่างควบคุมไม่ได้ “เอ๊ะ?” “เสียงอะไรน่ะ?” จางเฉวียนซึ่งก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน รับรู้ได้ทันทีถึงความผิดปกติหลังชั้นหนังสือ เขาขมวดคิ้วมุ่น และรีบเดินเข้าไป ซูเฟิ่งหลิงร้อนใจมาก นางพยายามดิ้นรนเพื่อผลักหลี่หลงหลินออกไป โครม! ชั้นหนังสือล้มลง! หลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงในสภาพกอดกันแน่น ปรากฏตัวต่อหน้าจางเฉวียนและอวี่ชื่อ ทั้งสี่คนต่างตกตะลึง! ช่างน่าอาย... ยังไงซูเฟิ่งหลิงก็เป็นผู้หญิง หน้าบาง นางอายจนอยากจะหาที่ซ่อนตัว น่าอายจนอยากจะตายจริงๆ! ผ่านไปสักพัก จางเฉวียนกระแอมไอเสียงหนึ่ง “องค์ชายเก้า ช่างเพลิดเพลินเสียจริงๆ...” หลี่หลงหลินยิ้มเจื่อนๆ “หรง
Baca selengkapnya

บทที่ 280

“แสดงความขอบคุณ?” หรงกั๋วกงชะงักไปครู่หนึ่ง และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย องค์ชายเก้าช่างหยาบคายยิ่งนัก! จะมีใครเอ่ยปากขอเงินกันตรงๆ แบบนี้? อย่างไรเสีย ชีวิตและอนาคตของบุตรชายก็อยู่ในมือขององค์ชายเก้า หรงกั๋วกงจึงพูดอะไรได้ไม่มากนัก ได้แต่ภาวนาในใจว่าองค์ชายเก้าจะรู้จักพอประมาณ ไม่เรียกร้องมากเกินไป จางเฉวียนเอ่ยอย่างระมัดระวัง “องค์ชายเก้า ท่านต้องการเงินเท่าไหร่?” หลี่หลงหลินสีหน้ามืดมน “เงินอะไร ท่านช่างหยาบคายนัก ทำลายภาพลักษณ์ของบัณฑิต!” จางเฉวียนสบถในใจ ท่านเป็นถึงชนชั้นสูง ทำไมถึงติดนิสัยแย่ๆ ของพวกข้าราชการ มาทำวางท่าอยู่ต่อหน้าข้า ไม่ใช่ท่านหรือที่ขอให้ข้าแสดงความขอบคุณ? การแสดงความขอบคุณในแวดวงราชการ คือการให้เงินสินบนไม่ใช่หรือ? หลี่หลงหลินเอ่ยอธิบาย “หรงกั๋วกง ท่านเข้าใจผิดแล้ว! ข้าไม่ได้ต้องการเงิน! แต่ในเมื่อลูกชายของท่านประสบความสำเร็จในการศึกษาที่โรงเรียนทหารซีซานแล้ว ทำไมไม่มอบธงเกียรติยศให้ข้าสักหน่อยเล่า?” ธงเกียรติยศ? จางเฉวียนสีหน้างุนงง ธงเกียรติยศในสมัยโบราณ หมายถึงธงที่ทำจากผ้าไหม บางครอบครัวของผู้สอบผ่านระดับจวี่เหรินจะปักธงเกียรติ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
2627282930
...
126
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status