บททั้งหมดของ คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: บทที่ 271 - บทที่ 280

594

บทที่ 271

บริเวณทรวงอกชาไปหมดลามมาถึงปลายนิ้วฉินเย่แค่นเสียงเย็นชาออกมาอย่างอดไม่ได้ เขาใช้ฝ่ามือทาบลงบนทรวงอกของตนเสิ่นหยินอู้ได้ยินเสียงที่ออกมาจากความเจ็บปวดของเขา ก็หันไปมอง ถึงจะพบว่าเขาพิงอยู่บนพวงมาลัย สีหน้าดูไม่ดีนักทั้งสองรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ร่างกายของฉินเย่ดีมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยป่วยเลยเมื่อเห็นสีหน้าเขาดูย่ำแย่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก เสิ่นหยินอู้เองก็ตกใจสะดุ้งโหยงพลางยื่นมืออกไปจับเขา“เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”ความเจ็บปวดไม่จางหายไป แต่กลับเพิ่มพูนยิ่งขึ้นตอนที่เสิ่นหยินอู้ยื่นมือมาจับ ความรู้สึกว่างเปล่าในใจก็ยิ่งมากขึ้นทว่าเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเสิ่นหยินอู้เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตนแล้วนั้น ความรู้สึกว่างเปล่านั่นก็ค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกอื่นเมื่อเห็นว่าฉินเย่ไม่ตอบ แต่หน้าผากกลับมีเหงื่อไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนจะไม่สบายมาก เสิ่นหยินอู้ก็ลนลานขึ้นมา แล้วควานหาโทรศัพท์ของตน “เดี๋ยวฉันเรียกรถพยาบาลให้”จากนั้นเธอไม่ทันหยิบโทรศัพท์ ข้อมือของเธอก็ถูกฉินเย่คว้าเอาไว้แน่นฝ่ามือของฉินเย่ทั้งร้อนทั้งหนัก ราวกับไฟกระทบลงผิวของเธอปานนั้นเขาจั
Read More

บทที่ 272

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หลุบตาพิงอยู่อย่างนั้น เขาที่เพิ่งผ่านความเจ็บปวดมา ภายใต้ความสลัวทำให้เขาดูเหมือนคอตกอย่างไรอย่างนั้น ดูน่าสงสารจับใจเสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงมีความคิดแบบนี้ออกมาแต่กล่าวตามตรง ฉินเย่เมื่อกี้นี้ ทำเอาเธอตกใจมาก รู้จักเขามาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเขาเจ็บปวดขนาดนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หรี่ตาสำรวจมองฉินเย่“นายเป็นอะไรกันแน่? คงไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หายอะไรหรอกมั้ง?”ฉินเย่ที่เดิมคอตกอยู่ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองเธออย่างหมดคำพูด“โรคร้ายแรงรักษาไม่หาย?” เขาหัวเราะเยาะ “ทำไม? เธออยากให้ฉันตายเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”“แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมไปโรงพยาบาลล่ะ?”ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังเจ็บปวดทรมานมากอยู่ แต่ก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล การกระทำแบบนี้ ตัวเขาเองไม่คิดว่าแปลกเหรอ?ไม่รอให้เขาตอบ เสิ่นหยินอู้คิดจะถามต่อไปอีก ทว่าฉินเย่กลับปลดล็อกประตูรถ แล้วเอ่ยเสียงแหบว่า “ขึ้นไปเถอะ”เสิ่นหยินอู้อยากพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นเขาไม่สบอารมณ์ราวกับไม่อยากสาธยายกับตนต่อ เธอก็ไม่อยากใส่ใจอีกต่อไปก็จริง ถึงแม้ฉินเย่จะเป็นอะไร ก็ไม่ต้องให้ภรรยาที่จะ
Read More

บทที่ 273

หลังจากพูดประโยคนี้จบ ฉินเย่ก็คิดในใจ (เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว)ไม่คิดว่าเสิ่นหยินอู้ได้ยินคำพูดของเขาแล้วจะเพียงแค่ยิ้มตอบเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก นายเองก็ต้องไปตามหาคน ถ้าฉันเป็นนาย ฉันก็คงทำแบบนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะเหตุจำเป็น”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็อดไม่ได้ยิ้มเจื่อนเขาควรจะตอบว่าอะไร?ภรรยาของเขาใจกว้างจริงๆ เกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังคิดหาเหตุผลให้เขาอีก?แต่ความใจเย็นของเธอก็บ่งบอกเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง…“เอาเถอะน่า ฉันจะเตรียมตัวพักผ่อนแล้ว นายเองก็เข้านอนเร็วหน่อยแล้วกัน”เสิ่นหยินอู้กลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป บทสนทนาระหว่างทั้งสองจะยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด จึงได้จบบทสนทนาด้วยตัวเองเสียเลยเมื่อได้ยินว่าเธอจะพักผ่อน ฉินเย่เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป“เธอพักผ่อนก่อน ฉันจะออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เสิ่นหยินอู้ชะงัก แล้วพยักหน้า “โอเค ขับรถดีๆ”ขณะที่ออกจากบ้านตระกูลฉิน แล้วขึ้นรถไปอีกครั้ง แววตาของฉินเย่ก็ลุ่มลึกมากบริเวณทรวงอก ดูเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออกทั้งๆ ที่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่น้ำเสียงที่เธอพูดกับเขากลับยังคงเกรงอกเกรงใจ อ่อนโยน
Read More

บทที่ 274

ขอแค่เป็นผู้มีพระคุณของเขาหนึ่งวัน เขาก็ไม่มีทางทำไม่ดีกับตนงั้นเหรอ?ก็จริง คนตระกูลฉินให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ไม่อย่างนั้นหลายปีมานี้ตระกูลเจียงไม่มีทางก้าวกระโดดได้เร็วเพียงนี้หรอกแต่ว่าเจียงฉูฉู่กลับคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ หากมีอยู่วันหนึ่ง ฉินเย่พบว่าผู้ช่วยชีวิตเขาจริงๆ คือเสิ่นหยินอู้ ไม่ใช่ตนเข้าด้วยอุปนิสัยของเขาแล้ว เขาอาจจะฆ่าตนก็เป็นได้!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แผ่นหลังของเจียงฉูฉู่ก็เหงื่อแตกทันทีโชคดีที่ในตอนนั้นนอกจากเสิ่นหยินอู้กับตนแล้ว ไม่มีพยานคนอื่นอีก หากเรื่องนี้มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะก็ เธอต้องจบเห่แน่ๆ“เอาอย่างงี้ เรื่องสองคนนั้นที่หนูพูดถึง เดี๋ยวพ่อจัดการเอง หนูไม่ต้องห่วง ขอแค่ประจบฉินเย่ให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำว่าประจบแล้ว เจียงฉูฉู่ก็ไม่สบอารมณ์ทันใด“พ่อคะ ประจบประเจิบอะไรกัน? ความสัมพันธ์ของหนูกับเย่เท่าเทียมกัน หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้ประจบฉินเย่พวกนั้นหรอกนะคะ”“ใช่ๆๆ ฉูฉู่ของเราดีที่สุดแล้ว ฉินเย่ต้องชอบหนูสิไม่ว่า”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ พ่อเจียงก็เห็นแผลที่หน้าผากของเจียงฉูฉู่อีกครั้ง“ส่วนแผลที่หน้าผากของหนู ฉูฉู่เ
Read More

บทที่ 275

หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล เสิ่นหยินอู้เห็นคุณนายฉินที่ดีขึ้นมากแล้ว ก็ดีใจมาก เอาแต่นั่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาคุณนายฉินเห็นเธอเช่นนั้น ก็เหมือนกับเห็นเด็กน้อยวัยสิบกว่าปี อารมณ์ก็พลอยดีไปด้วย“คุณย่าคะ หิวน้ำไหมคะ? เจ็บแผลไหม? ง่วงไหม? อยากกินอะไรไหม หรือว่าอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยไหมคะ? หรือว่าถ้านอนไม่หลับ ให้หนูเล่านิทานให้ฟังไหมคะ?”อาจเป็นเพราะตื่นเต้นเกินไป ทำให้เสิ่นหยินอู้ไม่ทันสังเกตว่าคำพูดของตนนั้นผิดปกติแต่คุณนายฉินก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ เพียงแค่พูดว่า “ย่าไม่ง่วง ในเมื่อหยินอู้ของย่าจะเล่านิทานให้ฟัง ถ้างั้นย่าขอฟังนิทานสักหน่อยค่อยหลับแล้วกัน”หลังจากนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เริ่มเล่านิทานต่างๆ นานาให้คุณนายฉินฟังคุณนายฉินฟังอย่างได้อารมณ์ มุมปากยกขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนแม่ฉินที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้สำรวจมองเธอ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าลูกสะใภ้คนนี้เข้าท่าจริงๆเพราะว่า หากเปลี่ยนเป็นตนล่ะก็ เธอคงไม่มีความอดทนมากขนาดเล่านิทานให้คนแก่ฟังหรอก แถมในสถานการณ์ที่ไม่เห็นภาพ ยังสามารถเล่าได้ดีขนาดนี้ด้วยสุดท้ายภายใต้เสียงอันอ่อนโยนของเสิ่นหยินอู้ ทำให้คุณนายฉินเคลิ้มหลับไปรอให้เธอหล
Read More

บทที่ 276

อย่างไรก็ตาม ท่าทีแบบนั้นคงจะเป็นลักษณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบและอยากดูแลล่ะมั้งตัดภาพมาที่เสิ่นหยินอู้ แม่ฉินพลันถอนหายใจใช่ว่าเสิ่นหยินอู้ไม่สวย เพียงแต่ว่าเธอแข็งแกร่งมากเกินไป เรื่องส่วนมากก็จัดการเองเสมอแต่เจียงฉูฉู่กลับ…ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเจียงฉูฉู่คิดอะไรกับลูกชายตัวเอง?แต่เจียงฉูฉู่เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลฉิน ต่อหน้าแม่ฉินยังต้องเกรงอกเกรงใจหล่อนด้วยแต่ความเกรงใจนี้ เป็นความเกรงใจที่มีต่อแขกเท่านั้นหากเจียงฉูฉู่คิดจะแย่งตำแหน่งของเสิ่นหยินอู้ไปล่ะก็ เช่นนั้นเธอในฐานะแม่ต้องไม่เห็นด้วยแน่นอนแต่งตัวธรรมดาเกินไปเหรอ?ความจริงก่อนที่แม่ฉินจะกลับมา เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้แต่งตัวธรรมดาหรอกเธอเป็นคนรักสวยรักงามมาตลอด ตอนที่ตระกูลเสิ่นยังไม่ล้มละลาย เสื้อผ้าและเครื่องประดับหรือกระเป๋าของเธอล้วนแต่เป็นคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดของซีซั่นนั้นเสมอ และเธอก็เป็นลูกค้าวีไอพีขั้นสูงสุดของแบรนด์ด้วย ทุกปีจะมีของขวัญพิเศษส่งมาเสมอ และมีการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายหลังจากที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องพวกนั้นอีกถึงแม้ฉ
Read More

บทที่ 277

เพียงแต่เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าคำว่าไม่กี่วันของแม่ฉินจะมาเร็วเพียงนี้เพราะผ่านไปเพียงสองวัน จู่ๆ แม่ฉินก็ลากเธอมาอย่างตื่นเต้นว่า “หยินอู้ พรุ่งนี้ไปตรวจร่างกายกันเถอะ”เสิ่นหยินอู้ที่ได้ยินดังนั้นพลันชะงักทันที“แม่คะ ทำไมจู่ๆ ถึงเลื่อนเข้ามาล่ะคะ? บอกว่ารอให้คุณย่าดีขึ้นอีกหน่อยไม่ใช่เหรอคะ?”แม่ฉินยิ้มแย้ม “เพราะว่าช่วงนี้คุณย่าอาการดีขึ้นมาก หมอบอกว่าสถานการณ์ไม่แย่ อีกอย่างสองวันนี้แม่ได้ยินว่ามีหมอเก่งๆ มาแหละ น่าจะอยู่แค่ไม่กี่วัน หนูก็รีบไปตรวจร่างกายซะ ถึงตอนนั้นเราจะได้รักษากับหมอคนนั้นเลย”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รู้สาเหตุที่แม่ฉินเลื่อนเวลาเข้ามาแล้วเธอทำได้เพียงยิ้มตอบ และคิดหาวิธีปฏิเสธ “ความจริงเราแค่ตรวจร่างกายเฉยๆ เครื่องมือธรรมดาก็สามารถบอกผลได้ หมอทั่วไปก็สามารถรักษาได้เหมือนกันแหละค่ะ”“ก็ถูก แต่ว่าโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว แม่กับย่าทักทายหมอไว้แล้ว บอกว่าช่วงนี้จะพาหนูไปตรวจร่างกาย หมอก็ตอบตกลงแล้วด้วย”เสิ่นหยินอู้ที่เดิมคิดว่าหากวิธีนี้ไม่เป็นผล ก็จะใช้คุณนายฉินมาอ้าง “…”ไม่คิดว่าแม่ฉินจะทาบทามฝั่งคุณนายฉินแล้วด้วยรวดเร็วทันใจจริงๆหาก
Read More

บทที่ 278

หลังจากที่ฉินเย่จอดรถ มือของเขาจับที่พวงมาลัย แล้วมองไปที่เธอด้วยสายตามึดครึ้ม“ถ้างั้นเธอก็คิดเผื่อฉันมากจริงๆ ฉันต้องขอบคุณเธอไหมล่ะ? เสิ่นนั่วนั่ว!”เขากัดฟันเรียกชื่อเธอสุดท้ายเดิมเสิ่นหยินอู้ไม่อยากจะพูดอะไรอยู่แล้ว แต่เมื่อคำพูดมาถึงปลายลิ้น กลับกลายเป็น “ขอบคุณน่ะไม่ต้องหรอก ถ้าเป็นไปได้งั้นพรุ่งนี้เราก็ไปที่อำเภอเลยได้ไหม?”ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นฉินเย่ที่ไม่พูดจา เขาจ้องเธอตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แววตาราวกับเพลิงไฟ ไม่ละสายตาออกจากเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียวทั้งๆ ที่เขาเองก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูดแล้ว แต่กลับไม่ยอมตอบเมื่อเห็นเขาเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้เองก็หมดหนทาง เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉินเย่คิดอะไรอยู่กันแน่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะอาการป่วยของคุณย่าจึงจำต้องทำแบบนั้นแต่สองวันนี้คุณย่าก็ดีขึ้นมากแล้ว ไม่รู้เพราะเสิ่นหยินอู้คิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าฉินเย่ไม่ค่อยอยากหย่าเท่าไหร่นักไม่ เป็นไปไม่ได้เขาอยากจะหย่ากับเธอให้เร็วน่ะสิไม่ว่า จะได้แต่งกับเจียงฉูฉู่แทนหากไม่ใช่เพราะคุณย่าป่วย เขาต้องการทำให้คุณย่าดีใจ ก็เลยให้ตนแต่งงานปลอมๆ กับเขา ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เกรงว่าเขาคงอยากแต่ง
Read More

บทที่ 279

วันต่อมาเสิ่นหยินอู้ตื่นมาพบว่าเป็นแปดโมงเช้าของอีกวันแล้วเธอมองดูเพดานสีขาวหิมะและสภาพแวดล้อมรอบๆ อันคุ้นเคย และดื่มด่ำกับความนุ่มของเตียงใหญ่ๆ นี้ในที่สุดก็มั่นใจแล้วว่าเป็นเตียงใหญ่ของบ้านตนหลังจากตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็จับศีรษะของตนแล้วนั่งตัวตรงไม่คิดว่าเธอจะหลับไปตื่นหนึ่งจนถึงตอนนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเธอยังนอนหลับอยู่บนรถนี่ หมายความว่าฉินเย่พาเธอกลับมางั้นเหรอ?เธอนั่งอยู่นานพักหนึ่ง ถึงจะเปิดโทรศัพท์ดูข้อความฉินเย่ไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้ให้กับเธอ ช่องแชทของเขายังคงว่างเปล่าเธอคิดแล้วคิดพลางโทรศัพท์หาฉินเย่พลางล้างหน้าแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำโทรศัพท์ดังอยู่นานถึงจะมีคนรับเสียงของฉินเย่เย็นเยือก “มีอะไร?”เสิ่นหยินอู้บีบยาสีฟันลงบนแปรงแล้ว ขณะที่กำลังจะแปรงก็ได้ยินเสียงเขาดังขึ้น พลันหยุดลง“เรื่องที่ฉันบอกนายเมื่อวานไง วันนี้เราต้องไป…”ไม่รอให้เธอพูดจบ ฉินเย่ก็ขัดคำพูดของนางไว้ “ตอนนี้ฉันมีประชุมสำคัญ ต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง”เสิ่นหยินอู้ “…’เธอเม้มปาก แล้วระงับโทสะไว้ “นายเลื่อนเวลาไม่ได้เลยเหรอ? ขอแค่ครึ่งชั่วโมงน่าจะได้แหละมั้ง?”ไม่คาดคิ
Read More

บทที่ 280

ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงยิ้มแย้ม“เปล่าค่ะ วันนั้นหนูแค่ได้รับบาดเจ็บที่ขานิดหน่อย ที่อื่นไม่เป็นอะไรค่ะ”อีกอย่างยังเป็นฝีมือของซูเชี่ยวนั่นด้วยส่วนต้วนจื่อเหย่นั่น แม้จะเป็นคนลักพาตัวเธอไป แต่กลับไม่ทำอะไรเธอเลยแม้แต่นิดเมื่อนึกถึงซูเชี่ยวกับเขา เสิ่นหยินอู้ก็สงสัยจริงๆ ว่าตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว“แม่คะ แม่รู้ไหมคะคนสองคนวันนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว?”แม่ฉินส่ายหน้า “แม่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเรื่องนี้โม่ไป๋บอกว่าเขาจะจัดการเอง โม่ไป๋เป็นคนทำงานรอบคอบอยู่แล้ว แม่เองก็วางใจ อีกอย่างหนูวางใจได้เลย แม่ได้ยินว่าหลังจากเกิดเรื่อง เสี่ยวเย่ก็ได้ไปสืบเรื่องนี้เช่นกัน เขาต้องทำให้พวกนั้นได้รับการสั่งสอนแน่”“หมายความว่า เรื่องนี้ตอนนี้โม่ไป๋เป็นคนดูแลอยู่?”“น่าจะใช่”เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็คิดจะไปหาโม่ไป๋สักรอบ“ไปกันเถอะ แม่นัดหมอไว้แล้ว ถึงแม้วันนี้จะสายไปหน่อย แต่ไปหาหมอตอนนี้ก็ไม่เป็นไรเหมือนกันกล่าวจบ แม่ฉินก็จูงมือเสิ่นหยินอู้ไว้เสิ่นหยินอู้อยากปฏิเสธมากจริงๆ แต่แม่ฉินจูงมือเธอไปแล้วสุดท้าย เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาลตอนน
Read More
ก่อนหน้า
1
...
2627282930
...
60
DMCA.com Protection Status