แชร์

บทที่ 278

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-23 17:00:00
หลังจากที่ฉินเย่จอดรถ มือของเขาจับที่พวงมาลัย แล้วมองไปที่เธอด้วยสายตามึดครึ้ม

“ถ้างั้นเธอก็คิดเผื่อฉันมากจริงๆ ฉันต้องขอบคุณเธอไหมล่ะ? เสิ่นนั่วนั่ว!”

เขากัดฟันเรียกชื่อเธอสุดท้าย

เดิมเสิ่นหยินอู้ไม่อยากจะพูดอะไรอยู่แล้ว แต่เมื่อคำพูดมาถึงปลายลิ้น กลับกลายเป็น “ขอบคุณน่ะไม่ต้องหรอก ถ้าเป็นไปได้งั้นพรุ่งนี้เราก็ไปที่อำเภอเลยได้ไหม?”

ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นฉินเย่ที่ไม่พูดจา เขาจ้องเธอตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แววตาราวกับเพลิงไฟ ไม่ละสายตาออกจากเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว

ทั้งๆ ที่เขาเองก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูดแล้ว แต่กลับไม่ยอมตอบ

เมื่อเห็นเขาเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้เองก็หมดหนทาง เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉินเย่คิดอะไรอยู่กันแน่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะอาการป่วยของคุณย่าจึงจำต้องทำแบบนั้น

แต่สองวันนี้คุณย่าก็ดีขึ้นมากแล้ว ไม่รู้เพราะเสิ่นหยินอู้คิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าฉินเย่ไม่ค่อยอยากหย่าเท่าไหร่นัก

ไม่ เป็นไปไม่ได้

เขาอยากจะหย่ากับเธอให้เร็วน่ะสิไม่ว่า จะได้แต่งกับเจียงฉูฉู่แทน

หากไม่ใช่เพราะคุณย่าป่วย เขาต้องการทำให้คุณย่าดีใจ ก็เลยให้ตนแต่งงานปลอมๆ กับเขา ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เกรงว่าเขาคงอยากแต่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 279

    วันต่อมาเสิ่นหยินอู้ตื่นมาพบว่าเป็นแปดโมงเช้าของอีกวันแล้วเธอมองดูเพดานสีขาวหิมะและสภาพแวดล้อมรอบๆ อันคุ้นเคย และดื่มด่ำกับความนุ่มของเตียงใหญ่ๆ นี้ในที่สุดก็มั่นใจแล้วว่าเป็นเตียงใหญ่ของบ้านตนหลังจากตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็จับศีรษะของตนแล้วนั่งตัวตรงไม่คิดว่าเธอจะหลับไปตื่นหนึ่งจนถึงตอนนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเธอยังนอนหลับอยู่บนรถนี่ หมายความว่าฉินเย่พาเธอกลับมางั้นเหรอ?เธอนั่งอยู่นานพักหนึ่ง ถึงจะเปิดโทรศัพท์ดูข้อความฉินเย่ไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้ให้กับเธอ ช่องแชทของเขายังคงว่างเปล่าเธอคิดแล้วคิดพลางโทรศัพท์หาฉินเย่พลางล้างหน้าแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำโทรศัพท์ดังอยู่นานถึงจะมีคนรับเสียงของฉินเย่เย็นเยือก “มีอะไร?”เสิ่นหยินอู้บีบยาสีฟันลงบนแปรงแล้ว ขณะที่กำลังจะแปรงก็ได้ยินเสียงเขาดังขึ้น พลันหยุดลง“เรื่องที่ฉันบอกนายเมื่อวานไง วันนี้เราต้องไป…”ไม่รอให้เธอพูดจบ ฉินเย่ก็ขัดคำพูดของนางไว้ “ตอนนี้ฉันมีประชุมสำคัญ ต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง”เสิ่นหยินอู้ “…’เธอเม้มปาก แล้วระงับโทสะไว้ “นายเลื่อนเวลาไม่ได้เลยเหรอ? ขอแค่ครึ่งชั่วโมงน่าจะได้แหละมั้ง?”ไม่คาดคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 280

    ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงยิ้มแย้ม“เปล่าค่ะ วันนั้นหนูแค่ได้รับบาดเจ็บที่ขานิดหน่อย ที่อื่นไม่เป็นอะไรค่ะ”อีกอย่างยังเป็นฝีมือของซูเชี่ยวนั่นด้วยส่วนต้วนจื่อเหย่นั่น แม้จะเป็นคนลักพาตัวเธอไป แต่กลับไม่ทำอะไรเธอเลยแม้แต่นิดเมื่อนึกถึงซูเชี่ยวกับเขา เสิ่นหยินอู้ก็สงสัยจริงๆ ว่าตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว“แม่คะ แม่รู้ไหมคะคนสองคนวันนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว?”แม่ฉินส่ายหน้า “แม่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเรื่องนี้โม่ไป๋บอกว่าเขาจะจัดการเอง โม่ไป๋เป็นคนทำงานรอบคอบอยู่แล้ว แม่เองก็วางใจ อีกอย่างหนูวางใจได้เลย แม่ได้ยินว่าหลังจากเกิดเรื่อง เสี่ยวเย่ก็ได้ไปสืบเรื่องนี้เช่นกัน เขาต้องทำให้พวกนั้นได้รับการสั่งสอนแน่”“หมายความว่า เรื่องนี้ตอนนี้โม่ไป๋เป็นคนดูแลอยู่?”“น่าจะใช่”เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็คิดจะไปหาโม่ไป๋สักรอบ“ไปกันเถอะ แม่นัดหมอไว้แล้ว ถึงแม้วันนี้จะสายไปหน่อย แต่ไปหาหมอตอนนี้ก็ไม่เป็นไรเหมือนกันกล่าวจบ แม่ฉินก็จูงมือเสิ่นหยินอู้ไว้เสิ่นหยินอู้อยากปฏิเสธมากจริงๆ แต่แม่ฉินจูงมือเธอไปแล้วสุดท้าย เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาลตอนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 281

    ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นเจอเสิ่นหยินอู้ในโรงพยาบาล หลินเหม่ยหลานคงไม่ต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องที่ลูกสาวเธอทำลงไปทั้งหมด เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้
ตระกูลหลินของพวกเธอใหญ่โตธุรกิจก็ใหญ่โตตามกัน ลูกสาวของหลินเหม่ยหลานจึงต้องคู่กับผู้ชายที่ดีที่สุด
ตั้งแต่แรก หลินเหม่ยหลานสนิทกับหลี่ซืออี้ เพราะเธอเล็งเห็นทายาทคนเดียวของตระกูลฉิน—ฉินเย่
หากตระกูลหลินและตระกูลฉินสามารถรวมเป็นครอบครัวเดียวกันได้ การพัฒนาของทั้งสองตระกูลคงจะไม่มีใครสู้ได้
โดยสรุปแล้ว ตระกูลหลินของพวกเธอก็อยากลงเรือลำเดียวกันกับตระกูลฉินเหมือนกัน
แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีตระกูลเจียงโผล่เข้ามาขวาง
หลินเหม่ยหลานเกลียดลูกสาวตระกูลเจียงมานาน ผลสุดท้ายก็ไม่คิดว่าคนที่ได้แต่งงานกับฉินเย่คือเสิ่นหยินอู้
ดังนั้นหลินเหม่ยหลานจึงย้ายเอาความอิจฉาและความเกลียดชังนั้นไปไว้ที่เสิ่นหยินอู้แทน
ครั้งก่อนที่เจอเธอที่โรงพยาบาลนั้น หลินเหม่ยหลานเดาว่าเธอคงจะไปทำแท้ง
สำหรับเหตุผลที่ต้องทำแท้ง ถ้าเด็กเป็นลูกของฉินเย่ ด้วยความเพรียบพร้อมของครอบครัวแบบตระกูลฉินนั้นเธอคงจะบอกตระกูลฉินไปแล้ว แล้วก็จะได้ใช้ลูกยกระดับตัวเองไปด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บททื่ 282

    "หยินอู้ หยินอู้!"เสียงของคุณแม่ฉินดังขึ้นอีกครั้งในโสตประสาทของเสิ่นหยินอู้
เสิ่นหยินอู้รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วพบว่านี่เป็นครั้งที่สามในวันนี้ที่เธอเหม่อต่อหน้าคุณแม่ฉิน เธอทั้งรู้สึกอับอายและรู้สึกผิด"ขอโทษค่ะคุณแม่ วันนี้หนูไม่มีสมาธิเลย ขอตรวจวันหลังแทนได้ไหมคะ?"ครั้งนี้เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาคุณแม่ฉินชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจ"ถ้าเธอไม่อยากตรวจจริง ๆ งั้นไว้วันหลังก็ได้""ขอบคุณค่ะคุณแม่" เสิ่นหยินอู้ยิ้มเล็กน้อย "หนูมีธุระอื่นต้องไปจัดการก่อน แล้วเดี๋ยวอีกซักพักหนูจะไปเยี่ยมคุณย่าที่ห้องพักค่ะ"
คุณแม่ฉินเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นดี เมื่อได้ยินเธอบอกว่ามีธุระต้องจัดการ ก็ไม่ได้ขัดอะไร"งั้นดีแล้ว ไปจัดการธุระเถอะ แม่เห็นหนูเหม่อทั้งวัน คงไม่มีอารมณ์ไปตรวจจนกว่าจะจัดการเสร็จ"
พูดจบ คุณแม่ฉินก็โบกมือให้เสิ่นหยินอู้"ไปเถอะ ถ้าต้องการให้แม่ช่วยก็บอกได้นะ" พูดจบ คุณแม่ฉินก็หยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "หนูคิดว่าคุณย่าเป็นย่าของหนูได้ ก็คิดว่าแม่เป็นแม่ของหนูได้เหมือนกัน"
เสิ่นหยินอู้ที่ตั้งใจจะออกไปแล้วคิดไม่ถึงว่าคุณแม่ฉินจะพูดแบบนี้ เธอหยุดเดินและรู้สึกถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 283

    คำตำหนิของคุณแม่ฉินทำให้ฉินเย่ขมวดคิ้วเขาเกือบจะพูดเรื่องที่เขาทั้งสองคนจะหย่ากันออกไปแล้ว แต่เมื่อนึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่แม่เคยถามเรื่องต่าง ๆ จากเขา แต่เขาปิดบังไว้
ดังนั้นแม่ก็เลยใช้คำพูดหลอกให้เขาพูดออกมา
แต่ในความเป็นจริง ตอนนั้นแม่ไม่ได้รู้ความจริงเลยครั้งนี้......อาจจะเหมือนกันก็ได้
คิดได้แบบนั้น แววตาของฉินเย่ก็เปลี่ยนไป
แม่อาจจะยังเป็นแม่คนเดิม แต่ฉินเย่ไม่ใช่เด็กคนนั้นอีกแล้ว
"ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังครับ พวกเราแค่มีปัญหากันนิดหน่อย แม่ก็รู้มาตลอดนี่ครับ?"
ฉินเย่จึงเลือกถอยเพื่อรุกต่อไป
ถ้าคุณแม่ฉินรู้เรื่องหย่า หลังจากประโยคนี้เธอคงจะแสดงออกมาแน่จริงอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ คุณแม่ฉินก็มีน้ำเสียงสงสัย “แค่ปัญหานิดหน่อย? ความสัมพันธ์ของพวกลูกแย่ขนาดนี้แล้ว ยังจะบอกว่าเป็นแค่ปัญหานิดหน่อยอีกหรอ? หรือว่าลูกไม่ใส่ใจหยินอู้ เลยคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย?"ฉินเย่ "......""อย่าหาว่าแม่พูดเลย แต่ถ้าลูกไม่ใส่ใจปัญหาระหว่างลูกกับหยินอู้ ต่อไปปัญหาเล็ก ๆ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้"หลังจากได้ยินสิ่งที่คุณแม่ฉินพูด ฉินเย่ก็ไม่ได้โต้แย้ง แต่เงียบไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 284

    เมื่อเธอพูดออกมา สีหน้าที่ขี้อายของจ้าวเป่าเอ๋อก็เปลี่ยนไปทันที ริมฝีปากซีดไม่มีเลือดฝาด"คุย คุยอะไรเหรอคะ?" เธอถามอย่างตะกุกตะกัก
เสิ่นหยินอู้ยิ้มเล็กน้อย"แน่นอนว่าคุยเรื่องชีวิต"จ้าวเป่าเอ๋อ "......""ทำไมล่ะ ไม่อยากเหรอ?"เห็นเธอกังวลจนจับกระโปรงแน่น เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะเบา ๆ "ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?""ไม่ ไม่ใช่นะคะ แค่......""ไปกันเถอะ"
เสิ่นหยินอู้ลุกขึ้นแล้ว
จ้าวเป่าเอ๋อกัดริมฝีปากล่าง นั่งอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าลังเล เสิ่นหยินอู้เห็นท่าทางของเธอ ก็เดาว่าเธอคงรู้ว่าเสิ่นหยินอู้จะพูดอะไรเธอไม่รีบ คิดหาทางหว่านล้อม
"ถนนนอกโรงพยาบาลนี้มีร้านอาหารเช้าของคนแต้จิ๋วอยู่ เธอรู้จักไหม?"เมื่อได้ยิน จ้าวเป่าเอ๋อก็มีท่าทีตกใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า "รู้จักค่ะ"เสิ่นหยินอู้ยกข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วบอกว่า "ฉันจะรอเธอที่นั่นครึ่งชั่วโมง ถ้าหลังจากนั้นถ้าเธอไม่มา ฉันจะไป ระหว่างนั้นเธอคิดดูว่าจะมาหรือไม่มา"จ้าวเป่าเอ๋อ "......"
หลังจากพูดกับเธอแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ยืนอยู่ที่เดิมเพื่อกวนใจเธออีก และรีบออกจากโรงพยาบาลทันที
จ้าวเป่าเอ๋อมองตามแผ่นหลังของเธออย่างครุ่นค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 285

    อย่างไรก็ตาม หลินเหม่ยหลานไม่เชื่อเธอเลย"ครั้งที่แล้วหนูก็บอกแม่ว่าไม่ได้ไปหาเขา แล้วผลลัพธ์เป็นยังไงล่ะ? หนูก็ไปหาเขาอีก กลับมายังเศร้าอีก? นั่นไม่ใช่หนูหรือไง?"
คำพูดนี้ทำให้จ้าวเป่าเอ๋อเถียงไม่ออกสักพักหนึ่ง เธอก็อดทนและอธิบายต่อว่า "แม่ หนูรู้ว่าครั้งที่แล้วหนูผิด หนูโกหกแม่ แต่ครั้งนี้หนูพูดความจริง ถ้าแม่ไม่เชื่อ หนูจะกลับมาภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน""ภายในครึ่งชั่วโมง?"เวลานี้ทำให้หลินเหม่ยหลานหรี่ตาอย่างสงสัย เพราะถ้าเธอไปหาเขา ภายในครึ่งชั่วโมงเธอคงกลับมาไม่ได้แน่นอนหรือว่าครั้งนี้เธอเข้าใจผิดจริงๆ?
"แม่ หนูมีธุระจริงๆ" จ้าวเป่าเอ๋อมองนาฬิกา สีหน้าดูกังวล เธอกลัวว่าถ้าไปสาย เสิ่นหยินอู้จะไม่รอเธอแล้วเห็นหลินเหม่ยหลานยังไม่ยอม จ้าวเป่าเอ๋อจึงโกรธและพูดออกมาตรงๆ "ถ้าแม่เป็นแบบนี้อีก หนูจะออกจากบ้านจ้าวและไม่กลับมาอีกเลย"เมื่อเห็นว่าลูกสาวโกรธ หลินเหม่ยหลานจึงตระหนักว่าถ้าทำแบบนี้ต่อไปก็จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก และบอกว่า "ถ้าหนูไม่โกหกแม่ แม่ก็เชื่อหนู เป่าเอ๋อ หนูไปเถอะ แต่ต้องกลับมาภายในครึ่งชั่วโมงตามที่หนูพูดนะ"พูดจบ หลินเหม่ยหลานหยุดสักพักแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 286

    "โอเค"
หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลง จ้าวเป่าเอ๋อใช้ช้อนตักซุปขึ้นมาหนึ่งคำ"เธอไม่คิดว่ามันแปลกหรอที่ฉันมาหาเธอ? แล้วเธอก็ยังยอมมาอีก"เมื่อได้ยิน จ้าวเป่าเอ๋อก็แอบมองเสิ่นหยินอู้ แล้ววางช้อนลง"มันก็แปลกนิดหน่อย แต่......ฉันรู้ว่าพี่จะไม่ทำร้ายฉัน"เสิ่นหยินอู้ยิ้มให้เธอ "ในเมื่อเธอพูดแบบนั้น งั้นฉันพูดตรงๆ เลยแล้วกัน? ถ้าเธอกลับไปช้าเกินไป แม่เธอคงไม่ยอมใช่ไหม?"
เมื่อพูดถึงแม่ของเธอ จ้าวเป่าเอ๋อทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่น"ใช่ค่ะ แม่ยังรอฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันบอกแม่ว่าจะมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง"ผลออกมาเป็นแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ไม่แปลกใจเลย"งั้นฉันจะพูดสั้นๆแล้วกัน""ได้ค่ะ""บางทีเธออาจจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เชื่อฉันเถอะว่าฉันไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกิน วันนั้นฉันเห็นเธอกับแฟนเธอในห้องน้ำที่ร้านอาหาร"
เดิมทีเธอคิดว่าพี่เสิ่นนัดเธอออกมาเพื่อคุยเรื่องที่เธอท้องไม่คิดว่าพี่เสิ่นจะพูดถึงเรื่องในร้านอาหาร"วันนั้นตอนฉันเดินผ่านไป ฉันได้ยินพวกเธอคุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะ"จ้าวเป่าเอ๋อแสยะยิ้ม "ไม่เป็นไรค่ะ วันนั้นพวกเราคงคุยเสียงดังเกินไป คนที่เดินผ่านไปมาได้ยินก็เป็นเรื่องปกติ"เสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

DMCA.com Protection Status