บททั้งหมดของ เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: บทที่ 631 - บทที่ 640

730

บทที่ 631

ความรู้สึกไม่สู้ดีพลั่งพรูขึ้นในใจของเฉินฝานการวางยาพิษถูกคนจับกุมได้ง่าย เช่นนั้นก็ไปตายเอาดาบหน้าแล้ว รับมือยากกว่าคนที่อยากตายกว่าคนที่อยากอยู่เสียอีก“หัวหน้ากองเฝิง!”“เป็นนางอีกแล้ว!” ฉินเย่ว์เหมยสีหน้าแค้นเคือง “ข้าลืมนางไปได้อย่างไร!”ผ่านการทำความเข้าใจหนึ่งรอบ เฉินฝานเข้าใจแล้วว่าหัวหน้ากองเฝิงนี้เป็นคนแบบใดในตอนแรกนางวางยาพิษซูซิวฉีจนตาย ไปขอหลบภัยกับหมัวมัวของเสิ่นหมิงหยวนหลังจากซูซิวฉีสิ้นชีวี เสิ่นหมิงหยวนให้หลี่เต๋อฉวนจัดสรรให้นางรับตำแหน่งหัวหน้าจัดหาวัสดุฝ่ายเครื่องแต่งกายพระราชวัง ถึงแม้ตำแหน่งนั้นจะไม่สูง ทว่าสินบนมหาศาลพ่อค้าทุกคนล้วนต้องจ่ายค่าจัดหาวัสดุให้ หากไม่จ่ายหรือจ่ายน้อยไป ก็ปฏิเสธการรจัดหาวัสดุให้โดยให้เหตุผลว่าคุณภาพไม่ดีตำแหน่งนั้นไม่สูง และวัสดุการทำเสื้อขนสัตว์ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านคลังวัสดุแม้แต่น้อย ผนวกกับช่วงนี้มีเรื่องมากมาย ฉินเย่ว์เหมยไม่ได้จำคนผู้นี้ได้ทันทีตอนที่เฉินฝานและคนอื่นๆรีบรุดหน้าไปฝ่ายเครื่องแต่งกาย คนงานหญิงทั้งหมดอ่อนแรงนอนเรียบไปกับพื้นยังไม่ตาย ทว่าอย่าว่าถักทอเสื้อผ้าเลย แม้แต่แรงที่จะพูดก็ไม่มีแม้แต่น้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 632

“หมอ...หลวงสวี...มาแล้ว...ก็ไร้ประโยชน์...”ตราบจนสิ้นลมหายใจ หัวหน้ากองเฝิงผู้นั้นก็ยังคงจ้องเขม็งไปที่เฉินฝานในฐานะที่เป็นคนยุคปัจจุบันคนหนึ่ง ถึงแม้เฉินฝานจะไม่เชื่อเรื่องผีสาง ทว่าถูกคนตายจับจ้องเช่นนี้ ก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน“นางเสียสติไปแล้วหรือ ไยเอาแต่พูดว่าข้าเป็นคนทำให้ลูกชายของนางตาย”“อาจเป็นเพราะ...” ฉินเย่ว์เหมยครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง “เป็นเพราะเฝิงชิงกระมัง”เฝิงชิง บุตรชายของหัวหน้ากองเฝิง เป็นบุตรที่หัวหน้ากองเฝิงและคนรับชายจวนซูให้กำเนิดมาหรือก็คือให้กำเนิดบุตรชายในจวนซูซูซิวฉีไม่มีบุตรชาย เลี้ยงดูเฝิงชิงดั่งบุตรชายเสมอมา เฝิงชิงก็เพียรพยายาม ความสามารถลำนำหมากรุกโดดเด่นกว่าคนธรรมดา อายุสิบห้าปีก็สามารถเป็นซิ่วไฉได้แล้วทว่าในตอนที่อายุสิบหกปีก็เสเพลติดสุรากะทันหัน หลังจากการสั่งสอนของซูซิวฉี ถึงแม้เขาจะปรับปรุงตัวแล้ว ทว่าตั้งแต่นั้นมาการเรียนของเขาก็ไร้ซึ่งความคืบหน้านับตั้งแต่ที่ซูซิวฉีกลับมาจากอำเภอผิงอัน เอาลำนำของเฉินฝานให้เขาอ่านจนจำขึ้นใจ ที่จริงแล้วซูซิวฉีอยากจะใช้สิ่งนี้กระตุ้นเฝิงชิง หารู้ไม่ว่าหลังจากที่เฝิงชิงอ่านจบแล้ว ก็เริ่มสติแตก พร่ำบอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 633

“เช่นนั้นพวกเราไม่สามารถนิ่งเฉยรอความตายได้นะ!” เหออวี่ถงรุมร้อนใจดั่งไฟสุมอกเมื่อวานตอนที่เฉินฝานออกวังไป ฉินเย่ว์เหมยก็เรียกพ่อและพี่ชายของนางมาหาฉินเย่ว์เหมยให้คำสั่งลับกับพ่อลูกตระกูลเหอ หากอาภรณ์สองแสนตัวนี้ไม่สามารถส่งออกไปตามกำหนดได้ ต่อให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องเสี่ยงชีวิต จักต้องพาครอบครัวเฉินฝานออกจากเมืองหลวงไปอย่างลับๆเหออวี่ถงน้ำตานองหน้า มองจ้องไปทางเฉินฝาน แม้จะเป็นเวลาไม่นาน ทว่าหลงเหลือความรู้สึกอย่างลึกซึ้งถ้าเฉินฝานต้องห่างจากเมืองหลวงไปแดนไกล ในใจของนางจะต้องไม่ยินยอมอย่างแน่นอนจำนวนครั้งที่ถูกชายผู้นี้โปรดปรานไม่ได้มากมายอันใด เพียงแค่สามคราทว่าเพียงสามครานี้ ก็ทำให้ความรักที่นางมีต่อเฉินฝานซึมลึกลงไปถึงกระดูกนางไม่ได้ชอบทำเรื่องอย่างว่าบนเตียง ดังนั้นนางจึงทิ้งร่องรอยพลอดรักกับเฉินฝานในทุกกระเบียดนิ้วในพระตำหนักของนางที่นั่งกุ้ยเฟย ที่พื้น โต๊ะประทิน ริมหน้าต่าง...ร่างเงาของนางและเฉินฝานอยู่ทุกหนทุกแห่งยากที่จะจินตนาการ หลังจากนี้หากนางไม่ได้พบเฉินฝานอีก นางจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่“เฉินฝาน เจ้ายังมีวิธีอื่นหรือไม่?” ฉินเย่ว์เหมยมองเฉินฝานด้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 634

“ใช่!” ตวนซินอ๋องยืนเซไปเซมา ชี้นิ้วก่นด่าฉินเย่ว์เหมยต่อ “ถึงแม้ว่าของข้าจะเป็นเสื้อคลุมมังกรม่วง ทว่าวัสดุที่ใช้ก็ควรจะมาจากอุทยานหม่อนหลวง!”“ถึงแม้ข้าจะเคยมีปัญหากับท่านพี่มาก่อน ทว่าตอนที่ท่านพี่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยขาดส่งวัสดุดิบเสื้อคลุมม่วง แต่คนสารเลวอย่างเจ้ากลับ...”“หงอิง ฉินเย่ว์เหมยตะโกนลั่น “ตวนอ๋องบุกรุกวังหลวงในยามวิกาล ลงโทษให้เฝ้าสุสานหลวงหนึ่งปี!”“เฝ้าสุสานหลวงดีเลย ข้าจะไปที่นั่น ฟ้องเรื่อง...ของเจ้ากับท่านพี่จักรพรรดิทุกวัน ปึก!”ตวนซินอ๋องยังพูดไม่จบ ก็เมาล้มพับหมดสติไปกับพื้นทหารรักษาพระองค์สองสามคนพาตวนอ๋องไปเฝ้าสุสาน ฉินเย่ว์เหมยจึงรับสั่งทันที “หงอิง เจ้านำคำสั่งปากเปล่าของข้ากระจายออกไปนอกวัง ต้องรับคนงานหญิงหกร้อยคนเข้ามาในวังก่อนยามหวู่วันพรุ่งนี้ให้ได้”“ฝ่าบาท...”เฉินฝานกำลังจะคัดค้าน ฉินเย่ว์เหมยกล่าวขัดเขาเสียงดังลั่น “ผู้บัญชาการเฉินในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบหลัก กลับเปิดโอกาสให้คนชั่วมีโอกาสวางยาพิษ ลดตำแหน่งผู้บัญชาการของเจ้าหนึ่งขั้น เรื่องต่อจากนี้จะลงโทษในภายหลัง”เฉินฝานที่ถูกลดตำแหน่ง ยังไม่ได้ออกจากประตูวัง ก็ถูกสาวใช้เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 635

“ในสวนหม่อนหลวงมีลู่ผิน” ฉินเย่ว์เหมยกล่าวเสียงเบา“ลู่ผิน?” เฉินฝานตกใจอย่างมาก “นางสนมของเจ้าควรจะอยู่วังหลังมิใช่หรือ?”“ลู่ผินไม่เหมือนกับนางสนมทั่วไป นางเป็น...” ใบหน้าเรียบนิ่งของฉินเย่ว์เหมยมีความอึดอัดใจและเศร้าโศกเล็กน้อย “เสิ่นหมิงหยวนใช้นางทำให้ข้าอับอาย”“ทำให้เจ้าอับอาย? ลู่ผินผู้นั้นอัปลักษณ์มากงั้นหรือ?”“ไม่ใช่ ลู่ผินไม่ได้อัปลักษณ์ เพียงแค่นางเคยแต่งงานและมีบุตรสาวหนึ่งคน”“หญิงที่แต่งงานแล้ว? และมีลูกอีกด้วย! เฉินฝานสาปแช่งอยู่ในใจ เรื่องที่เสิ่นหมิงหยวนทำกับฉินเย่ว์เหมยหนักข้อขึ้นเรื่อยๆในระบอบประเทศที่ชายน้อยหญิงเยอะ ต่อให้เป็นชายที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านซานเหอ ก็ไม่จะแต่งงานกับหญิงที่แต่งงานแล้ว นับประสาอะไรกับผู้ที่เป็นถึงจักรพรรดิปกครองอาณาจักรกันให้ฉินเย่ว์เหมยอภิเษกสมรสกับหญิงที่แต่งงานแล้ว และยังมีเป็นหญิงแต่งงานแล้วที่มีลูกติด ระดับความน่าอับอายไม่แตกอะไรกับการที่บอกผู้ชายให้กำเนิดไม่ได้โชคดีที่ฉินเย่ว์เหมยไม่ใช่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นจะทนเรื่องเช่นนี้ไว้ได้อย่างไรกัน“ถึงแม้ข้าจะรู้สึกฝืนใจเล็กน้อย ทว่าเช่นนี้ก็สามารถรักษารากฐานตระกูลมารดาลู่ผินไว้ได้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 636

เฉินฝานอุทานอย่างช่วยไม่ได้เสน่ห์เย้ายวนบนเรือนร่างของนาง เสิ่นไต้มั่นและเหออวี่ถงเทียบไม่ติดแม้แต่น้อยรีบรุดหน้าขึ้นมาทว่าไม่ลนลาน นางสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อน บนหน้าผากมีลูกผมบางๆสองสามเส้น ตอนที่นางรุดหน้ามา สั่นไหวไปมาเล็กน้อย ทำให้นางดูสวยและอ่อนโยนมากกว่าเดิมเสียอีกถึงแม้จะเคยคลอดลูกมาแล้ว มว่าทรวดทรงองค์เอวยังคงเรียวบางอย่างมาก ใช้เข็มขัดเมฆาผูกรัด ทำให้เห็นความเรียวบางของเอวชัดเจนขึ้นศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมหยกสีเขียวอ่อน ทำให้ใบหน้างดงามดั่งบุปผาของนางมีเสน่ห์เหลือล้นบนผิวพรรณและใบหน้าไร้การแต่งแต้มใดๆทว่าก็ยังคงขาวผ่องริมฝีปากสีชาดขบเม้มเบาๆ ขาวดั่งหิมะ แดงราวกับเปลวเพลิง งดงามเย้ายวนใจงามวิจิตร เรือนร่างที่อวบอิ่ม การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถ เสน่ห์เย้ายวนที่ยากยับยั้งชั่งใจแผ่ซ่านไปทุกที่งดงามงดงามเป็นอย่างมาก...เฉินฝานตกตะลึงหมดคำพูดไปครู่ใหญ่หาคำมาพรรณนาความงามของหญิงสาวที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆยากที่จินตนาการได้ว่าหญิงสาวคนหนึ่งที่อายุสามสิบปี กลับให้ความรู้สึกที่เห็นแล้วรู้สึกเห็นใจอย่างรุนแรงปลุกเร้าความปรารถนาที่ปกป้องและอยากพิชิตในเบื้องลึกของจิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 637

“พระนาง”เฉินฝานเรียกไปสามครั้ง ลู่ชุนเยี่ยนจึงได้สติกลับมา“ใต้ ใต้เท้า มีเรื่องอันใด?” ลู่ชุนเยี่ยนก้มหน้าลง แสดงความต่ำต้อยของนางจนเคยชินความระมัดระวังตัวและการด้อยค่าของลู่ชุนเยี่ยน เฉินฝานรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยแท้ที่จริงแล้วสตรีผู้นี้ผ่านความอยุติธรรมมากมายเพียงใด จึงให้นางรู้สึกต่ำต้อยเช่นนี้สตรีที่งดงามและปราดเปรื่องเช่นนี้ ไม่ควรจะเจอเคราะห์ร้ายมากมายเช่นนี้“พระนาง ตำแหน่งของท่านสู้กว่าข้า ท่านไม่จำเป็นต้องระวังตัวเช่นนี้หรอก”“ขอบคุณใต้เท้า!” ลู่ชุนเยี่ยนมึนงงไปครู่ใหญ่ จึงปริปาก น้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อยไม่เคยมีผู้ใดกล่าวกับนางเช่นนี้“......” เฉินฝานรู้สึกจนปัญญา ไยนางยังต้องกล่าวขอบคุณอีกเฮ้อ ช่างเถอะสตรีในยุคนี้ไม่ว่าฐานะจะสูงต่ำ ความต่ำต้อยก็ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของพวกนางแล้วเฉินฝานชี้เครื่องจักรด้านหน้าตนเอง “พระนาง นี่ก็คือจักรเย็บผ้า”พวกเขานำรถม้ามาสองคัน คันหนึ่งบรรทุกคน อีกคันหนึ่งบรรทุกจักรเย็บผ้า“นี่เป็นเครื่องจักรผลิตเสื้อผ้าขั้นเทพที่ร่ำลือกันงั้นหรือ? ท่านสามารถใช้งานให้หม่อมฉันดูครั้งหนึ่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นจักรเย็บผ้า ลู่ชุนเยี่ยน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 638

ใบหน้าของเด็กสาวทั้งลนลานและเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ ยิ่งมองยิ่งเปล่งประกายความงาม“ใต้ ใต้เท้า อี๋เอ๋อร์ไม่ทราบว่าเป็นใต้เท้า ใต้เท้าได้โปรดให้อภัย!” เด็กสาวลนลานคุกเข่าขอความเมตตา“พระนางลู่ผิน ดูเจ้าสิ ทำให้เด็กตื่นตกใจแล้ว นางเพียงไม่ทันได้ระวังเท่านั้นเอง” เฉินฝานโน้มตัวกำลังจะพยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้นเด็กสาวกลับเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว ร่างปราดเปรียวของนาง วิ่งออกจากด้านหน้าเฉินฝานด้วยความรวดเร็ว วิ่งไปข้างกายลู่ชุนเยี่ยนด้วยความว่องไว“ท่านแม่ ดูเถอะ ท่านชอบทำให้ลูกตกใจ ใต้เท้าเฉินเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเด็กอย่างแน่นอน ใต้เท้า...”ระหว่างที่เด็กสาวพูดก็หันหน้าไปพูดกับเฉินฝาน “คำพูดของท่านก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน เมื่อวานบ่าวเข้าสู่ช่วงวัยที่สามารถออกเรือนได้แล้ว ไม่ใช่เด็ก เป็นผู้ใหญ่แล้ว บ่าวนามว่าลู่ซืออี๋ ท่านสามารถเรียกบ่าวว่าซืออี๋ก็ได้เพคะ”“อืม!” ฉินเย่ว์เหมยที่เงียบไปนานพูดเสียงเรียบนิ่ง “ซืออี๋โตขึ้นไม่น้อยเลย ทว่าที่ข้าดู ร่างกายเจ้าสูงขึ้นแล้ว นิสัยก็ยัง...”“ฝ่า ฝ่าบาท!”ลู่ซืออี๋ที่แต่เดิมหน้าแดงก่ำน่ารักขี้เล่น เปลี่ยนไปอย่างมากทันที รีบลนลานคุกเข่ากับพื้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 639

“ลู่ผิน!”เสียงของเสิ่นหมิงหยวน ทำให้สาวใช้ที่รินน้ำชาให้เขาตื่นตกใจ กาน้ำชาในมือของสาวยกมาอย่างโคลงเคลง น้ำชาที่ร้อนลวกหกออกมาจากกาน้ำชาตกกระทบใส่มือเสิ่นหมิงหยวนทันที“เพียะ!”เสิ่นหมิงหยวนยื่นมือไปตบหน้า “บ่าวชั่วช้า เจ้าคิดจะลวกข้าให้ตายหรือกระไร?“ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต!” สาวใช้คุกเข่าด้วยสีหน้าซีดเผือด ก้มศีรษะกับพื้นไม่หยุดน่าเสียดายที่...ต่อให้นางจะก้มศีรษะจนหัวเต็มไปด้วยเลือด เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่ปล่อยนางไปอยู่ดี เพียงแค่ประโยคเดียว ก็สามารถทำให้นางถูกเฆี่ยนตีจนตายได้“ท่านพ่อ เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรจะทำเช่นไร?”สาวใช้ผู้นั้นเพิ่งจะถูกลากตัวออกไป เสิ่นหยวนฮวาและเสิ่นหยวนเลี่ยงแทบจะพูดออกมาพร้อมกัน“ทำเช่นไร ทำเช่นไร!” เสิ่นหยวนหมิงเดือดดาลนำถ้วยชาด้านขว้างใส่ร่างเสิ่นหยวนฮวา “เจ้าคนไร้ประโยชน์ นอกจากถามว่าทำเช่นไร พูดอย่างอื่นไม่ได้แล้วหรือกระไร?”“ท่านพ่อ...”เสิ่นหยวนฮวาสีหน้าตกตะลึงและมีความน้อยใจเล็กน้อยหยวนเลี่ยงก็ถามว่าทำเช่นไรมิใช่หรือ? ไยท่านพ่อจึงด่าเขาคนเดียวไม่ด่าหยวนเลี่ยง“ท่านพ่อ เช่นนั้นให้หลี่ชิ่งพากองกำลังรักษาเมืองหลวงบุกเข้าไป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 640

“ที่เจ้าหมายถึงคือ ขั้นต่อไปเจ้าจะกำจัดหลินชาง แล้วขึ้นเป็นเลขาธิการกรมคลังงั้นหรือ?”ไม่รอให้เฉินฝานพูด ฉินเย่ว์เหมยรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ได้ เจ้าทำเช่นนี้อันตรายเกินไป อีกอย่างไม่ต้องพูดถึงจัดการหลินชางเป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้เจ้ากำจัดเขาได้ เงินเป็นชีวิตของเสิ่นหมิงหยวน เขาไม่มีทางให้เจ้าเป็นเลขาธิการกรมคลังเด็ดขาด”“ไม่ลองดูจะรู้ว่าทำไม่สำเร็จได้เยี่ยงไร?” เฉินฝานกล่าวอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่“เหลวไหลสิ้นดี!” ฉินเย่ว์เหมยตวาดลั่น “เจ้าไม่รู้หรือว่าหากไม่สำเร็จจะผลเสียที่ตามคืออะไร? ชีวิตของเจ้า ชีวิตของเหล่านั้นสาว แม้กระทั่งชีวิตของข้า”เห็นฉินเย่ว์เหมยกังวลเช่นนั้น เฉินฝานพูดอย่างสบายใจ “วางใจเถอะ เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับข้าเลย ข้าจะตายได้เยี่ยงไร และจะยอมให้เจ้าตายได้เยี่ยงไร?”“เจ้า...”ใบหน้าฉินเย่ว์เหมย แปดเปื้อนสีแดงที่ทำให้คนยากสังเกตเห็น “ผู้ชายมักมากหน้าด้าน!”นางหยิบหีบห่อพัสดุหนึ่งอันขว้างใส่ร่างเฉินฝาน “ลู่เฟยอยากได้เสื้อขนสัตว์สองตัวมาโดยตลอด นางรีบร้อนออกจากวังไป ลืมเอาไป เจ้าเอาไปส่งให้นางเถอะ”เฉินฝานรับหีบห่อพัสดุ ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา “ได้เลย”เขากำลัง
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6263646566
...
73
DMCA.com Protection Status