Share

บทที่ 636

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานอุทานอย่างช่วยไม่ได้

เสน่ห์เย้ายวนบนเรือนร่างของนาง เสิ่นไต้มั่นและเหออวี่ถงเทียบไม่ติดแม้แต่น้อย

รีบรุดหน้าขึ้นมาทว่าไม่ลนลาน นางสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อน บนหน้าผากมีลูกผมบางๆสองสามเส้น ตอนที่นางรุดหน้ามา สั่นไหวไปมาเล็กน้อย ทำให้นางดูสวยและอ่อนโยนมากกว่าเดิมเสียอีก

ถึงแม้จะเคยคลอดลูกมาแล้ว มว่าทรวดทรงองค์เอวยังคงเรียวบางอย่างมาก ใช้เข็มขัดเมฆาผูกรัด ทำให้เห็นความเรียวบางของเอวชัดเจนขึ้น

ศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมหยกสีเขียวอ่อน ทำให้ใบหน้างดงามดั่งบุปผาของนางมีเสน่ห์เหลือล้น

บนผิวพรรณและใบหน้าไร้การแต่งแต้มใดๆ

ทว่าก็ยังคงขาวผ่อง

ริมฝีปากสีชาดขบเม้มเบาๆ ขาวดั่งหิมะ แดงราวกับเปลวเพลิง งดงามเย้ายวนใจ

งามวิจิตร เรือนร่างที่อวบอิ่ม การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถ เสน่ห์เย้ายวนที่ยากยับยั้งชั่งใจแผ่ซ่านไปทุกที่

งดงาม

งดงามเป็นอย่างมาก...

เฉินฝานตกตะลึงหมดคำพูดไปครู่ใหญ่

หาคำมาพรรณนาความงามของหญิงสาวที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ

ยากที่จินตนาการได้ว่าหญิงสาวคนหนึ่งที่อายุสามสิบปี กลับให้ความรู้สึกที่เห็นแล้วรู้สึกเห็นใจอย่างรุนแรง

ปลุกเร้าความปรารถนาที่ปกป้องและอยากพิชิตในเบื้องลึกของจิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kittisak Prasertsom
ไอ้เวร ทีสาวแซ่เถียนปฏิเสธสะไม่ใยดี จนผู้หญิงหนีไปบวชแล้วไม่พูดถึงอีกเลย หลังๆมาไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็จะเอาหมด โคตรย้อนแย้ง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 637

    “พระนาง”เฉินฝานเรียกไปสามครั้ง ลู่ชุนเยี่ยนจึงได้สติกลับมา“ใต้ ใต้เท้า มีเรื่องอันใด?” ลู่ชุนเยี่ยนก้มหน้าลง แสดงความต่ำต้อยของนางจนเคยชินความระมัดระวังตัวและการด้อยค่าของลู่ชุนเยี่ยน เฉินฝานรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยแท้ที่จริงแล้วสตรีผู้นี้ผ่านความอยุติธรรมมากมายเพียงใด จึงให้นางรู้สึกต่ำต้อยเช่นนี้สตรีที่งดงามและปราดเปรื่องเช่นนี้ ไม่ควรจะเจอเคราะห์ร้ายมากมายเช่นนี้“พระนาง ตำแหน่งของท่านสู้กว่าข้า ท่านไม่จำเป็นต้องระวังตัวเช่นนี้หรอก”“ขอบคุณใต้เท้า!” ลู่ชุนเยี่ยนมึนงงไปครู่ใหญ่ จึงปริปาก น้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อยไม่เคยมีผู้ใดกล่าวกับนางเช่นนี้“......” เฉินฝานรู้สึกจนปัญญา ไยนางยังต้องกล่าวขอบคุณอีกเฮ้อ ช่างเถอะสตรีในยุคนี้ไม่ว่าฐานะจะสูงต่ำ ความต่ำต้อยก็ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของพวกนางแล้วเฉินฝานชี้เครื่องจักรด้านหน้าตนเอง “พระนาง นี่ก็คือจักรเย็บผ้า”พวกเขานำรถม้ามาสองคัน คันหนึ่งบรรทุกคน อีกคันหนึ่งบรรทุกจักรเย็บผ้า“นี่เป็นเครื่องจักรผลิตเสื้อผ้าขั้นเทพที่ร่ำลือกันงั้นหรือ? ท่านสามารถใช้งานให้หม่อมฉันดูครั้งหนึ่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นจักรเย็บผ้า ลู่ชุนเยี่ยน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 638

    ใบหน้าของเด็กสาวทั้งลนลานและเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ ยิ่งมองยิ่งเปล่งประกายความงาม“ใต้ ใต้เท้า อี๋เอ๋อร์ไม่ทราบว่าเป็นใต้เท้า ใต้เท้าได้โปรดให้อภัย!” เด็กสาวลนลานคุกเข่าขอความเมตตา“พระนางลู่ผิน ดูเจ้าสิ ทำให้เด็กตื่นตกใจแล้ว นางเพียงไม่ทันได้ระวังเท่านั้นเอง” เฉินฝานโน้มตัวกำลังจะพยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้นเด็กสาวกลับเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว ร่างปราดเปรียวของนาง วิ่งออกจากด้านหน้าเฉินฝานด้วยความรวดเร็ว วิ่งไปข้างกายลู่ชุนเยี่ยนด้วยความว่องไว“ท่านแม่ ดูเถอะ ท่านชอบทำให้ลูกตกใจ ใต้เท้าเฉินเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเด็กอย่างแน่นอน ใต้เท้า...”ระหว่างที่เด็กสาวพูดก็หันหน้าไปพูดกับเฉินฝาน “คำพูดของท่านก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน เมื่อวานบ่าวเข้าสู่ช่วงวัยที่สามารถออกเรือนได้แล้ว ไม่ใช่เด็ก เป็นผู้ใหญ่แล้ว บ่าวนามว่าลู่ซืออี๋ ท่านสามารถเรียกบ่าวว่าซืออี๋ก็ได้เพคะ”“อืม!” ฉินเย่ว์เหมยที่เงียบไปนานพูดเสียงเรียบนิ่ง “ซืออี๋โตขึ้นไม่น้อยเลย ทว่าที่ข้าดู ร่างกายเจ้าสูงขึ้นแล้ว นิสัยก็ยัง...”“ฝ่า ฝ่าบาท!”ลู่ซืออี๋ที่แต่เดิมหน้าแดงก่ำน่ารักขี้เล่น เปลี่ยนไปอย่างมากทันที รีบลนลานคุกเข่ากับพื้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 639

    “ลู่ผิน!”เสียงของเสิ่นหมิงหยวน ทำให้สาวใช้ที่รินน้ำชาให้เขาตื่นตกใจ กาน้ำชาในมือของสาวยกมาอย่างโคลงเคลง น้ำชาที่ร้อนลวกหกออกมาจากกาน้ำชาตกกระทบใส่มือเสิ่นหมิงหยวนทันที“เพียะ!”เสิ่นหมิงหยวนยื่นมือไปตบหน้า “บ่าวชั่วช้า เจ้าคิดจะลวกข้าให้ตายหรือกระไร?“ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต!” สาวใช้คุกเข่าด้วยสีหน้าซีดเผือด ก้มศีรษะกับพื้นไม่หยุดน่าเสียดายที่...ต่อให้นางจะก้มศีรษะจนหัวเต็มไปด้วยเลือด เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่ปล่อยนางไปอยู่ดี เพียงแค่ประโยคเดียว ก็สามารถทำให้นางถูกเฆี่ยนตีจนตายได้“ท่านพ่อ เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรจะทำเช่นไร?”สาวใช้ผู้นั้นเพิ่งจะถูกลากตัวออกไป เสิ่นหยวนฮวาและเสิ่นหยวนเลี่ยงแทบจะพูดออกมาพร้อมกัน“ทำเช่นไร ทำเช่นไร!” เสิ่นหยวนหมิงเดือดดาลนำถ้วยชาด้านขว้างใส่ร่างเสิ่นหยวนฮวา “เจ้าคนไร้ประโยชน์ นอกจากถามว่าทำเช่นไร พูดอย่างอื่นไม่ได้แล้วหรือกระไร?”“ท่านพ่อ...”เสิ่นหยวนฮวาสีหน้าตกตะลึงและมีความน้อยใจเล็กน้อยหยวนเลี่ยงก็ถามว่าทำเช่นไรมิใช่หรือ? ไยท่านพ่อจึงด่าเขาคนเดียวไม่ด่าหยวนเลี่ยง“ท่านพ่อ เช่นนั้นให้หลี่ชิ่งพากองกำลังรักษาเมืองหลวงบุกเข้าไป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 640

    “ที่เจ้าหมายถึงคือ ขั้นต่อไปเจ้าจะกำจัดหลินชาง แล้วขึ้นเป็นเลขาธิการกรมคลังงั้นหรือ?”ไม่รอให้เฉินฝานพูด ฉินเย่ว์เหมยรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ได้ เจ้าทำเช่นนี้อันตรายเกินไป อีกอย่างไม่ต้องพูดถึงจัดการหลินชางเป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้เจ้ากำจัดเขาได้ เงินเป็นชีวิตของเสิ่นหมิงหยวน เขาไม่มีทางให้เจ้าเป็นเลขาธิการกรมคลังเด็ดขาด”“ไม่ลองดูจะรู้ว่าทำไม่สำเร็จได้เยี่ยงไร?” เฉินฝานกล่าวอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่“เหลวไหลสิ้นดี!” ฉินเย่ว์เหมยตวาดลั่น “เจ้าไม่รู้หรือว่าหากไม่สำเร็จจะผลเสียที่ตามคืออะไร? ชีวิตของเจ้า ชีวิตของเหล่านั้นสาว แม้กระทั่งชีวิตของข้า”เห็นฉินเย่ว์เหมยกังวลเช่นนั้น เฉินฝานพูดอย่างสบายใจ “วางใจเถอะ เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับข้าเลย ข้าจะตายได้เยี่ยงไร และจะยอมให้เจ้าตายได้เยี่ยงไร?”“เจ้า...”ใบหน้าฉินเย่ว์เหมย แปดเปื้อนสีแดงที่ทำให้คนยากสังเกตเห็น “ผู้ชายมักมากหน้าด้าน!”นางหยิบหีบห่อพัสดุหนึ่งอันขว้างใส่ร่างเฉินฝาน “ลู่เฟยอยากได้เสื้อขนสัตว์สองตัวมาโดยตลอด นางรีบร้อนออกจากวังไป ลืมเอาไป เจ้าเอาไปส่งให้นางเถอะ”เฉินฝานรับหีบห่อพัสดุ ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา “ได้เลย”เขากำลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 641  

    นางรีบวางทัพพีในมือลง ดึงเสื้อผ้าขึ้นด้วยความระมัดระวังและประหม่า “ใต้เท้า ท่านมาถึงแล้ว เหตุใดไม่ให้คนมารายงาน ข้าน้อยจะได้เปลี่ยนชุดเจ้าค่ะ” “ท่านแม่ ลูกว่าเสื้อผ้าที่ท่านสวมอยู่ตอนนี้ก็งดงามมากแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน” ลู่ซืออี๋รีบกล่าว ลู่ชุนเยี่ยนถลึงตามองลู่ซืออี๋ “เจ้าจะเข้าใจอะไร?” “ข้าเห็นพ้องกับซืออี๋ ข้าเองก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่พระชายาลู่สวมนั้นงดงามมาก” เฉินฝานยิ้มบางๆ แล้วพูด ไม่ได้ประจบ และไม่ได้คลายความกระอักกระอ่วน เฉินฝานรู้สึกว่าลู่ชุนเยี่ยนใส่ชุดนี้สวยจริงๆ ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้อยู่เมืองหลวงพบเจอคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเป็นประจำ ลู่ชุนเยี่ยนแต่งกายเรียบๆ เช่นนี้ ทำให้เฉินฝานรู้สึกสบายตาอย่างมาก นางไม่มีเครื่องประทับบนผมใดๆ มีเพียงช่อดอกไม้ประดับผม ทำให้นางดูเรียบร้อยและสง่างามเป็นพิเศษ คล้ายพบเจอความสงบหลังจากผ่านธุรีแดงต่างๆ  ได้รับคำชมจากเฉินฝาน ลู่ชุนเยี่ยนก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย นางย่อตัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณเฉินฝาน “ขอบคุณคำชมของท่านใต้เท้าเจ้าค่ะ ข้าแซ่ลู่ น้อมคารวะใต้เท้า” นี่คือความเขินอายของหญิงสาวที่เบโตแล้ว กิริยาต่างๆ ฉายเสน่ห์ที่เอ่อล้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 642

    การกระทำนี้ของเขา น้ำเสียงอ่อนโยนนี้ของเขา เปลี่ยนชีวิตของลู่ซืออี๋ทั้งชีวิตลู่ซืออี๋ในเวลานี้ หัวใจเต้นแรง พวงแก้มแดงระเรื่อจนยากจะควบคุมกลัวลู่ชุนเยี่ยนและเฉินฝานเห็นความผิดปกติ นางรีบวิ่งออกไปด้วยความกระวนกระวายลู่ชุนเยี่ยนส่ายหน้า นางคิดว่าเป็นเพียงความซุกซุนของลู่ซืออี๋เท่านั้นหลังจากลู่ซืออี๋ออกไป เฉินฝานและลู่ชุนเยี่ยนพูดคุยเรื่องตัดเย็บเสื้อผ้านอกจากทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปแล้ว เฉินฝานอยากซื้อจักรเย็บผ้า“ใต้เท้า ท่านคิดถูก พวกเราจะซื้อจักรเย็บ ใต้เท้า ท่านว่า...”ลู่ชุนเยี่ยนหยิบพู่กันและกระดาษขึ้นมา คิดคำคำนวณพร้อมกับพูด “เสื้อหนึ่งตัว ตั้งราคาขายได้สูงสุดสิบตำลึง แต่ว่าจักรเย็บผ้า พวกเราสามารถขายได้เครื่องละห้าร้อยตำลึง ข้าสังเกตดูแล้ว อะไหล่หลายอย่างของจักรเย็บผ้า เมื่อใช้เป็นเวลานานต้องเปลี่ยน”“เมื่อลูกค้าต้องการเปลี่ยนอะไหล่ พวกเขาต้องซื้อกับเรา ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ถามข้า ใต้เท้าคิดค้นจักรเย็บผ้าขึ้นมา จะสร้างรายได้ให้ท้องพระคลังมากเท่าใด ข้าน้อยตอบไปว่าหนึ่งร้อยล้านตำลึง”“ตอนนี้คิดคำนวณดูแล้ว ข้าน้อยคิดค่อนข้างรอบคอบ ต้องไม่ใช่แค่หนึ่งร้อยล้านตำลึงแน่นอน อย่างน้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 643

    ผ่านไปครู่หนึ่ง ลู่ชุนเยี่ยนจับไก่กลับมาหนึ่งตัว เดิมทีเฉินฝานตั้งใจจะช่วยลู่ชุนเยี่ยนจัดการไก่ แต่ลู่ชุนเยี่ยนไม่ยอมไม่อาจเอาชนะนางได้ เฉินฝานได้แต่ทำเพียงงานง่ายๆ เช่นก่อไฟเป็นต้นลู่ซืออี๋ยืนอยู่หน้าประตูห้องครัว มองเฉินฝานและลู่ชุนเยี่ยนง่วนอยู่ในครัว กระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พวงแก้มทั้งสองข้างเผยให้เห็นลักยิ้มแสนน่ารักตอนที่ทั้งสามคนนั่งกินข้าวด้วยกัน จู่ๆ ลู่ซืออี๋ก็คีบน่องไก่ให้เฉินฝานเฉินฝานเพิ่งกล่าวขอบคุณ ลู่ซืออี๋ก็พูดสิ่งที่น่าตกใจ “ท่านแม่ ซืออี๋ยกน่องไก่ให้ท่านใต้เท้า ใต้เท้าเป็นพ่อของข้าดีไหมเจ้าคะ?”“พู่!”เฉินฝานข้าวพุ่งทันทีข้าวในปากของเฉินฝานพุ่งออกมาทันทีลู่ชุนเยียนรีบปิดปากลู่ซืออี๋เอาไว้“อี๋เอ๋อร์ ห้ามพูดจาเหลวไหล!”“อื้อๆๆ...”แม้ลู่ซืออี๋จะพูดไม่รู้เรื่อง แต่เฉินฝนและลู่ชุนเยี่ยนต่างได้ยินอย่างชัดเจนนางบอกว่า “ท่านแม่ หรือว่าท่านไม่ชอบใต้เท้าหรือเจ้าคะ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าสง่างามของลู่ชุนเยี่ยน แดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเด็กน้อยคนนี้คิดจะเอาชีวิตนางจริงๆนางร้องเรียกพร่ำเพรื่อเช่นนี้ ทำให้ตนหัวใจเต้นแรงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 644

    หญิงสาวอุ้มเขาขึ้นกระโดด เพียงครู่หนึ่งเขาก็ถูกพาตัวขึ้นบนรถม้าอีกคัน“ท่านใต้เท้า รีบปกป้องใต้เท้าเร็วเข้า!”องครักษ์ทั้งสามกระโดดลงมา ล้อมรถม้าคันนั้นองครักษ์เหล่านี้คือองครักษ์ลับของฉินเย่ว์เหมย แม้ก่อนหน้านี้เฉินฝานจะปฏิเสธ แต่ฉินเย่ว์เหมยยังคงไม่วางใจ แอบให้หงอิงส่งองครักษ์มาดูแลองครักษ์ทั้งสามติดตามข้างกายเขามาโดยตลอด เฉินฝานทราบเรื่องนี้มานานแล้ว เพียงแต่ไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของฉินเย่ว์เหมย จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้มือข้างหนึ่งยื่นออกไปนอกรถม้า โบกมือให้องครักษ์ทั้งสามคน“พวกเจ้าถอยออกไป ข้างไม่เป็นไร!”เฉินฝานไม่เป็นอะไรจริงๆ เพราะว่า...“คิดถึงท่านยิ่งนัก!”“...” เฉินฝานมองหญิงสาวที่นั่งทับตนอย่างหมดคำจะบรรยาย หญิงสาวระดมจูบเขาคล้ายว่าการจูบเขานั้นไม่อาจทำให้นางพอใจได้ หญิงสาวเริ่มฉีกเสื้อผ้าของเขา“เพี๊ยะ!”เฉินฝานตบบั้นท้ายของหญิงสาว“นายท่าน ทำไมท่านต้องตีก้นข้าด้วย เจ็บนะ” ฉินเย่ว์เจียวหน้ามู่ทู่ แม้จะถูกตีจนเจ็บ ทว่ามือที่ฉีกเสื้อของเฉินฝานยังคงไม่หยุด“ระวังหน่อย อยู่บนรถม้า”เฉินฝานยื่นมืออยากห้ามฉินเย่ว์เจียว แต่ถูกนางคว้ามือเอาไว้ ถลึงตามอง ริมฝีปากแดง

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status