บททั้งหมดของ รัชทายาทชะตาฟ้า: บทที่ 451 - บทที่ 460

611

บทที่ 451

“คำนับรัชทายาท ข้าน้อยหลิวเป้ย”ตอนนี้เอง เสียงดังกังวานและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามดังขึ้นมาจากข้างหลังกะทันหัน เห็นเพียงชายสวมชุดและหมวกขุนนางคนหนึ่งมาถึงอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าฉินอวิ๋นฟานทันที“อะไรนะ? รัช รัชทายาท?!”“ขะ เขาก็คือรัชทายาทของต้าเฉียนเราหรือ? รัชทายาทผู้กอบกู้ห่วงใยประชาชนเมืองจัวของเราหรือ?”“สวรรค์ของข้า นี่ไม่ใช่เทพในใจของพวกเราหรือ? ไม่มีเขา พวกเราชาวบ้านที่ลำบากยากแค้นไหนเลยจะมีชีวิตที่เป็นสุขเช่นนี้ได้? วันนี้ได้เห็นตัวจริงสักที!”......ครั้นทุกคนรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าก็คือรัชทายาทในปัจจุบันยิ่งอยู่เฉยไม่ได้แล้ว หนึ่งเดือนก่อน เมืองจัวคือความแร้นแค้นหิวโหยทุกหย่อมหญ้านับจากรัชทายาทรับช่วงเมืองจัวต่อ ชีวิตของทุกคนก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ได้อยู่ในบ้านแสนสบาย ได้รับผืนนา เมล็ดพันธุ์ยังเป็นของที่เจ้าเมืองมอบให้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายอีก แถมยังงดภาษีรายหัวพวกเขาอีกปีหนึ่งชาวบ้านยากไร้อย่างพวกเขา ในสายตามีแต่เงื่อนไขในการดำรงชีวิตพื้นฐาน แต่สิ่งเหล่านี้กลับเป็นรัชทายาทคำนึงถึงและมอบให้ชาวบ้านสี่ทิศน้ำตานองหน้า คุกเข่าลงเดี๋ยวนั้นคนของฝ่ายปกคร
Read More

บทที่ 452

ฉินอวิ๋นฟานเกี่ยวก้อยกับหนูน้อยเบา ๆ เมื่อได้รับความเชื่อใจจากนางแล้ว ฉินอวิ๋นฟานจึงยันมือกับพื้นแล้วประคองสวี่เหลียงขึ้นมา“ตอนนี้เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง? สวี่เหลียง?”ฉินอวิ๋นฟานประคองร่างผอมกะหร่องของสวี่เหลียงด้วยตนเองพลางถามสวี่เหลียงตอบอย่างมีลมแต่ไร้กำลัง “ขอบ ขอบคุณรัชทายาท ข้าน้อยยังไม่ตาย ถ้าความเจ็บตามร่างกายดีขึ้นแล้วก็จะดีมาหน่อยขอรับ”“กินขนมน้ำตาล เสริมกำลังหน่อย!”ฉินอวิ๋นฟานหยิบขนมออกมาชิ้นหนึ่งแล้วส่งไปถึงริมฝีปากของสวี่เหลียง ฉินอวิ๋นฟานชำนาญการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน อาการของสวี่เหลียงขาดสารอาหารซึ่งเกิดจากความหิวโหยสุดขั้ว ขนมน้ำตาลชิ้นหนึ่งทำให้เขาคืนกำลังได้ประมาณหนึ่งอย่างรวดเร็วสวี่เหลียงที่หิวจนไส้กิ่วไม่อาจคำนึงถึงอะไรได้มาก หลังจากกินขนมลงไปสีหน้าก็ดีขึ้นเยอะ“สวี่เหลียง ตอนนี้อุทกภัยก็ผ่านพ้นไปแล้ว ถือได้ว่าบ้านเมืองร่มเย็นกระมัง แล้วทำไมเจ้าถึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อีก?”ฉินอวิ๋นฟานถามด้วยความสงสัย“เฮ้อ!”สวี่เหลียงถอนหายใจหนัก ๆ “เรียนรัชทายาท ข้าเคยเป็นทหารมาก่อน แต่เสียขาข้างหนึ่งในสงครามที่เมืองอู่โจวเมื่อปีที่แล้ว ไม่อาจเป็นแรงงาน จึงถูกกองทัพทอ
Read More

บทที่ 453

หลิวเป้ยหน้าขม เมืองจัวเป็นอย่างไรเขารู้ดีที่สุด ก่อนหน้านี้ฝ่ายต่าง ๆ เป็นคนขององค์ชายใหญ่เป็นส่วนมาก เพื่อให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง เพื่องานก่อสร้างหลังจากภัยพิบัติ จึงไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับขั้วอิทธิพลเหล่านี้ง่าย ๆสำหรับบางเรื่องในเมือง หลิวเป้ยย่อมรู้ประมาณหนึ่ง ทีแรกเขาคิดว่าหลังจากทำทุกอย่างให้แน่นอนแล้วค่อยจัดการ ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ แถมยังถูกฉินอวิ๋นฟานเจอกับตัวอีก“หลิวเป้ย ที่ข้าให้เจ้าเป็นเจ้าเมืองก็เพื่อให้เจ้าแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ให้เจ้ามาหาข้ออ้างกับข้า!” ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนักด้วยสีหน้าขมึงทึง “ถ้าเจ้ากลัวนี่กลัวนั่น ข้าจะเอาเจ้าไปทำไม? ถ้าเจ้าไม่สามารถทำงานให้ชาวบ้านได้ ไม่กล้ากำจัดอิทธิพลชั่วร้าย เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องนั่งตำแหน่งเจ้าเมืองนี้แล้ว! ข้าฉินอวิ๋นฟานไม่ต้องการสุนัขของอำนาจ!”เรื่องนี้กระตุ้นต่อมโมโหของฉินอวิ๋นฟานโดยสมบูรณ์ เขานึกว่าเมืองจัวเป็นปกติสุขฟ้าโปร่ง ไม่นึกว่ายังเป็นภาพเน่าเฟะเช่นนี้ ภายนอกดูเปลี่ยนแปลงไปจริง แต่เบื้องหลังกลับยังอเนจอนาถมิอาจทำใจมองให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง หลิวเป้ยกลับหวั่นเกรงขั้วอำนาจของพี่ใหญ่จึงเลือกประนีประนอม? น
Read More

บทที่ 454

หลิวเป้ยเอ่ยเสียงกร้าว“หา ใต้เท้าเจ้าเมือง ใส่ความกันนะ นี่คือการใส่ร้ายของพวกคนเลวพวกนั้น พวกเขาใส่ร้ายข้า ได้โปรดเมตตาด้วย!”เมื่อหนิวสือได้ยินก็ลนลาน เรื่องที่ทำลายแผงลอยของสวี่เหลียงพวกเขาไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากน้องสาวของเขาเป็นอนุภรรยาของเริ่นเซิน ดังนั้นเมื่อครู่จึงอวดเบ่งวางก้าม ข่มเหงรังแกประชาชนทันทีที่เรื่องนี้ถูกพิสูจน์ เขายังจะรักษาชีวิตน้อย ๆ ได้อีกหรือ?“เหอะ! เมตตา?”หลิวเป้ยเอ่ยเสียงเย็น “คนที่ถูกพวกหนิวสือรังแกเมื่อก่อนหน้า จงก้าวออกมาพูดเดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าหลิวเป้ยจะให้ความเป็นธรรมกับพวกเจ้าตรงนี้เลย!”เมื่อสิ้นเสียง เจ้าของแผงลอยสิบกว่าคนก้าวออกมาทันที หนึ่งในนั้นพูดทั้งน้ำตา “เจ้าเมืองหลิว สามวันก่อนเพราะว่าข้าน้อยมีเงินไม่พอจ่ายค่าส่วนกลาง ก็เลยถูกพวกหนิวสือรุมซ้อม ตอนนี้หน้ายังบวมอยู่เลยขอรับ”“ข้าน้อยก็ด้วยขอรับ แผงลอยของข้าน้อยจนถึงตอนนี้ยังถูกยึดอยู่ที่จวนว่าการอยู่เลย จะให้ข้าน้อยจ่ายยี่สิบตำลึงก่อนถึงจะไถ่ถอนคืนกลับมาได้ ข้าน้อยเป็นแค่ชาวบ้านตาดำ ๆ ต่อให้ไม่กินไม่ใช้หนึ่งปีก็หายี่สิบตำลึงยากนะขอรับ”“เจ้าคนสมควรตายนี่ เมียข้าน้อยถูกเขาแต๊ะอั๋
Read More

บทที่ 455

“ฮึ ข่มขู่เจ้าแล้วจะยังไง? เจ้ายังจะทำอะไรข้าได้?”เริ่นเซินยังคงกำแหงเหมือนเดิม ไม่เห็นหลิวเป้ยอยู่ในสายตาสักนิด เขาเชื่อว่าไม่มีใครในเมืองจัวกล้าแตะต้องเขาง่าย ๆ เขาไม่เพียงแต่เป็นคนขององค์ชายใหญ่ หนำซ้ำยังเป็นคนตระกูลเริ่น ลงมือกับเขา นอกเสียจากรังเกียจที่อายุยืน!ฉินอวิ๋นฟานนั่งชมอยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชา เขาก็อยากดูสิว่าเริ่นเซินผู้นี้จะโอหังสักแค่ไหน? และหลิวเป้ยจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการอะไร เขาอยากเห็นว่าบนตัวของหลิวเป้ยยังมีความเร่าร้อนอยู่อีกหรือไม่!“ทำอะไรได้? อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้แล้ว!”บนใบหน้าของหลิวเป้ยเต็มไปด้วยสีสันของความเย็นชา เขาตวาด “ใครก็ได้! นำตัวพวกคนบาปหนิวสือไปประหารเดี๋ยวนี้!”ซี้ด!หลิวเป้ยออกคำสั่ง ทุกคนในที่นั้นต่างสูดลมเย็นเข้าปอด ภาพจำที่ทุกคนมีต่อหลิวเป้ยคือสุภาพบุรุษอ่อนโยน ทำไมวันนี้ถึงแข็งกร้าวอย่างนี้ได้ล่ะ?ฉินอวิ๋นฟานที่อยู่ด้านข้างยิ้มบางเหมือนกัน มีเพียงเช่นนี้จึงจะสามารถข่มขวัญพวกต่ำช้าเหล่านั้นได้!“อะไรนะ? ประหาร?!”ครั้นหนิวสือได้ยินพลันแตกตื่น เขารีบเอ่ยปากขอร้อง “น้อง น้องเขย ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้ารู้ความผิดแล้ว ต่อไปต้องแก้ตั
Read More

บทที่ 456

“ดี ดี ดีมาก หลิวเป้ย วันนี้ถือว่าเจ้าแน่ ข้าจำเจ้าไว้แล้ว หวังว่าพรุ่งนี้เจ้าจะยังใจเด็ดอย่างนี้นะ!”พวกหนิวสือถูกฆ่าตายแล้ว ถึงเริ่นเซินจะยังมีไฟโทสะไม่สิ้นสุด กลับได้แต่พูดคำหนัก อย่างไรเวลานี้เขาก็ไม่มีผู้ช่วยสักคน และหลิวเป้ยก็มีกำลังคนมากกว่าก็ในตอนที่เขาเตรียมจะไป กลับถูกคนของหลิวเป้ยขวางเอาไว้ฉับพลัน“หลิวเป้ย นี่เจ้าหมายความว่ายังไง?”เริ่นเซินยังคงไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่อง เขาหรี่ดวงตาทั้งสองและถาม “คนของข้าเจ้าก็ฆ่าไปแล้ว เจ้ายังจะเอายังไงอีก? หรือว่ายังอยากเล่นงานข้า?”หลิวเป้ยกลับไม่ต่อความกับเริ่นเซิน เอ่ยปาก “สองเดือนกว่าก่อนหน้านี้ ในตอนที่อุทกภัยเพิ่งเริ่ม เพื่อเอาตัวรอด เพื่อไม่ให้จวนพักของเจ้าถูกน้ำพัดทำลาย จงใจขุดทำนบน้ำใหญ่ทางตะวันตกของเมือง ทำให้มวลน้ำทั้งหมดหลากเข้าพื้นที่คนยากไร้ มีเรื่องเช่นนี้หรือไม่?”ถูกหลิวเป้ยเอ่ยถามเสียงเย็น เริ่นเซินรูม่านตาหดเล็ก ลางร้ายผุดขึ้นมาในหัวใจฉับพลัน เรื่องนี้คือเรื่องจริง ถ้าไม่เบนน้ำไปทางพื้นที่คนยากไร้ น้ำจะต้องหลากเข้าจวนที่พักของเขาแน่ เพื่อเอาตัวรอด จึงได้แต่เสียสละชีวิตชาวบ้านให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง
Read More

บทที่ 457

ยามนี้ ในที่สุดเริ่นเซินก็ตระหนักถึงลางร้ายแล้ว แม้เขาจะมีคนให้ท้าย แต่เมืองจัวอยู่ห่างจากเมืองหลวง และหลิวเป้ยก็กุมอำนาจทหารของเมืองจัวทั้งหมด ทหารในจวนสามร้อยคนกับเจ้าหน้าที่ในที่ทำการ ไม่พอให้อยู่ต่อหน้าหลิวเป้ยถ้าหลิวเป้ยต้องการเอาชีวิตเขา เช่นนั้นวันนี้เขาคงร้ายมากกว่าดี นึกถึงภาพที่เริ่นซวี่ผู้เป็นน้องชายลูกพี่ลูกน้องถูกฆ่าเมื่อก่อนหน้านั้น เริ่นเซินขนลุกโดยที่ไม่หนาว จะอย่างไรหลิวเป้ยก็เป็นคนของรัชทายาท“เจ้าอยู่ในรายชื่อประหารของข้านานแล้ว ที่เก็บเจ้าไว้ถึงวันนี้ ก็เพราะข้าเพิ่งมาดำรงตำแหน่งที่เมืองจัว กลัวว่าฐานไม่มั่นคงจะถูกพวกเจ้ากับขั้วอำนาจที่อยู่ข้างหลังขัดขวางแผนพัฒนาของเมืองจัว”หลิวเป้ยกล่าวด้วยใบหน้าปราศจากอารมณ์ “บัดนี้รัชทายาทมาด้วยตนเอง ออกประกาศิตต่อข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ดำเนินแผนการประหารก่อนกำหนด หวังว่าชาติหน้าเจ้าจะไม่ทำเรื่องผิดต่อคุณธรรมฟ้าอีก มิเช่นนั้นจะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดก่อนกำหนดอีกแล้ว!”“อะไรนะ? เจ้าคิดจะฆ่าข้าแต่แรกแล้ว?!”เริ่นเซินหมดสิ้นความหวัง ความตกใจกลัวแสดงออกมาอยู่เต็มใบหน้า เขารีบร้องขอ “หลิวเป้ย ท่าน ท่านจะฆ่าข้าไม
Read More

บทที่ 458

ฉินอวิ๋นฟานก็อยากขจัดความเหิมเกริมและความรู้สึกเหนือกว่าของพวกเขานี่แหละ ให้พวกเขาได้ลิ้มรสสักหน่อยว่าอะไรคือความหวาดกลัวที่แท้จริง อะไรคือความรู้สึกของความตาย“ไม่ ไม่นะ รัชทายาท ขอร้องละ...”ครั้นได้ยินคำพูดของฉินอวิ๋นฟาน เริ่นเซินหมดหวังแล้ว ทีแรกเขายังคิดจะขอร้องให้ไว้ชีวิต แต่ฉินอวิ๋นฟานไม่มีความอดทนจะฟังเขาพูดไร้สาระ จึงโบกมือไปเสีย ไม่สนใจเริ่นเซินอีกหลิวเป้ยพูดหน้าขรึม “ใครก็ได้ เอาตัวเริ่นเซินไปประหารซะ!”“ฮะ...”เริ่นเซินสองขาอ่อนแรง ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคำสั่งของหลิวเป้ย ศีรษะของเริ่นเซินหลุดออกจากบ่า คดีวิวาทในตลาดเป็นอันยุติ“เรียนรัชทายาท คดีฝ่ายปกครองเมืองจัวก่อเรื่องในตลาด ข่มเหงรังแกประชาชนได้จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ!”หลิวเป้ยและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงหน้าฉินอวิ๋นฟาน สองมือกำหมัด ท่าทีเคารพอย่างหาที่เปรียบมิได้ฉินอวิ๋นฟานส่งตัวเด็กหญิงให้สวี่เหลียงเบา ๆ ก่อนจะเอามือไพล่หลังแล้วพูด “หลิวเป้ย ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะจดจำคำพูดของข้าในวันนี้นะ”“นับแต่โบราณ หาบเร่แรงงาน ลากรถค้าขายคืออาชีพปกติของประชาชนระดับล่าง นี่คือสิทธิพื้
Read More

บทที่ 459

กลับถึงจวนเจ้าเมืองจัว ฉินอวิ๋นฟานนั่งสง่าอยู่บนตำแหน่ง โดยมีหลิวเป้ย หานซิ่นและคนอื่น ๆ ยืนอย่างนอบน้อมอยู่สองฝั่งไม่เจอเกือบหนึ่งเดือน ฉินอวิ๋นฟานเห็นทุกคนหน้าอิดโรยยังรู้สึกปวดใจนัก เพราะพี่น้องเหล่านี้คือคนที่ติดตามเขามาแต่แรก และเมืองจัวคือพื้นที่ซึ่งประสบอุทกภัยร้ายแรง สามารถก่อสร้างจนเป็นเช่นนี้ได้ในเวลาหนึ่งเดือน ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปาก “ที่ข้ามาครั้งนี้เพราะมีเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งต้องการจะพูดกับพวกเจ้า นั่นก็คืออีกสามเดือนพวกเราจะรับมอบเมืองอู่โจว ถึงจะดูเหมือนง่าย แต่ความจริงมันไม่ง่ายเลย ถึงเวลาเมืองอู่โจวจะเป็นการฝึกและบททดสอบสุดท้ายของพวกเจ้า”“ไม่ง่าย? มิใช่ว่าองค์หญิงสามต้าเยียนประกาศต่อทั่วหล้าว่าอีกสามเดือนจะคืนเมืองอู่โจวให้เราหรือ? ถ้ากลับคำพูดที่ต้องขายก็คือหน้าของต้าเยียน พวกเรารับมอบตามปกติก็ได้แล้วนี่?”หลิวเป้ยถามด้วยความฉงน“ครั้งนี้ที่ต้าเยียนประกาศต่อใต้หล้า เพราะพวกเขาซ่อนแผนร้ายเอาไว้ ผิวเผินพูดเสียดิบดี แต่ความจริงกลับวางอุบายกับเรา ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะยอมคืนเมืองอู่โจวให้เราด้วยความสมัครใจ สำหรับเขาวางแผนอะไรอยู่นั้น ข้ายังไม่รู้ ยั
Read More

บทที่ 460

“เนื่องจากพวกเราให้สวัสดิการค่อนข้างดี จึงมีคนมาสมัครเข้าค่ายทัพหน้าค่อนข้างมาก หลังจากคัดเลือกหลายรอบ คนที่สามารถผ่านเกณฑ์มีอยู่เจ็ดหมื่นกว่าคน ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการคัดเลือก ตามแผนการจะได้หนึ่งแสนคนในครึ่งเดือน”“แต่ตามการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเรา ห้าสิบล้านตำลึงเงินเหลือเพียงน้อยนิดแล้ว...”พอพูดถึงเงิน เห็นได้ชัดว่าหานซิ่นละอายใจอยู่บ้าง เพราะในเวลาหนึ่งเดือนสั้น ๆ เขาถลุงเงินไปเกือบห้าสิบล้านตำลึงเงิน นี่คือจำนวนเงินมหาศาล พื้นที่ภัยพิบัติมีจุดที่ต้องใช้เงินมากนัก ซึ่งมันอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยสิ้นเชิง“ฮ่า ๆ ๆ...”เห็นหานซิ่นระวังเรื่องเงินอย่างนี้แล้ว ฉินอวิ๋นฟานพลันขำพรืด “ห้าสิบล้านตำลึงใกล้จะหมด? นี่คือข่าวดีนะ! แสดงว่าเจ้าทำงานจริง ๆ ถ้าห้าสิบล้านยังเหลืออีกเยอะ ข้าจะผิดหวังกับพวกเจ้ามาก”“นี่คือตั๋วเงินหนึ่งร้อยล้าน ถลุงมันให้เต็มที่ ใช้มันไปเลย ยิ่งใช้เยอะก็ยิ่งดี ขอเพียงพวกเจ้ากล้าใช้เงิน และใช้เงินกับเรื่องที่สมควร เงินเหล่านี้จึงจะมีคุณค่า ข้าไม่กลัวพวกเจ้าใช้เงินหรอก กลัวแต่พวกเจ้าจะไม่มีความสามารถใช้เงินพวกนี้ต่างหาก!”“หานซิ่น ค่ายทัพหน้าเราจำเป็นต้อง
Read More
ก่อนหน้า
1
...
4445464748
...
62
DMCA.com Protection Status