บททั้งหมดของ รัชทายาทชะตาฟ้า: บทที่ 1001 - บทที่ 1010

1062

บทที่ 1001

เหลียงเทียนจื้อต้องคุ้นเคยกับชื่อของฉินอวิ๋นฟานที่สุดอยู่แล้ว แล้วยังถึงขั้นอิจฉาด้วยซ้ำ“ดังนั้นเจ้าควรรู้ความกังวลของข้า”เหลียงจ้านอิงหรี่ดวงตา แววตาลุ่มลึกจ้องมุมหนึ่งของโต๊ะไม้แดง ก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก “หากฉินอวิ๋นฟานสนับสนุนเหลียงเทียนอี้ เช่นนั้นต้องทำให้ฟ้าที่สมดุลเอนเอียงแน่ ถึงตอนนั้นจุดยืนของเจ้าจะอันตราย”นี่มิใช่การข่มขู่ให้กลัว แต่หลังจากฉินอวิ๋นฟานมาเยือนต้าเหลียงแล้วก็เริ่มเกิดความคิดเช่นนี้ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเรื่องนี้มาจากความตั้งใจของฉินอวิ๋นฟานหรือความประสงค์ของฮ่องเต้ต้าเหลียงหรือไม่แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายก็ต้องมีจุดประสงค์อื่นแฝงอยู่ในนั้นในฐานะที่เป็นชิงอ๋อง เขาย่อมรู้ว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงโปรดปรานเหลียงเทียนอี้ซึ่งเป็นโอรสองค์โตเสมอมา ยิ่งกับเรื่องผู้สืบทอดแล้ว การรับช่วงตำแหน่งครั้งนี้เกิดเป็นเรื่องใหญ่โต ทว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงกลับรักษาท่าทีมาโดยตลอดดูเหมือนกำลังลังเล ยังตัดสินใจไม่ได้ทว่ากลับมิมีผู้ใดล่วงรู้ความคิดที่แท้จริงของเขาแม้แต่เหลียงจ้านอิงยังทำได้เพียงสันนิษฐานดังนั้นก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงคิดจะใช้โอกาสนี้ดึงฉินอวิ๋นฟานให้มา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1002

เหลียงเทียนอี้ฟังถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความมั่นใจแล้วก็พาลให้จิตใจเร่าร้อน อดเลียริมฝีปากแห้งไม่ได้ “เสด็จอา ท่านอย่าอุบไว้อีกเลย” “หรือว่ามีจุดอ่อนอะไรของเจ้าฉินอวิ๋นฟานนั่นหรือ?”อย่างที่เรียกว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งหากเป็นอย่างที่เสด็จอากล่าวมา ครั้งนี้พวกเขาจะถือว่าเก็บได้สมบัติ!สามารถใช้เรื่องนี้ข่มขู่รัชทายาทต้าเฉียนที่ว่าให้เป็นคนของทางเราได้สำเร็จ!ถึงเวลาพวกเราจะไม่มีอุปสรรคสิ่งกีดขวางอีก กำลังขั้วอิทธิพลของเหลียงเทียนอี้ได้อย่างราบรื่นนี่คือเรื่องดีสุดยอด!“หึ ๆ ๆ...”ทว่าเหลียงจ้านอิงกลับหัวเราะเย็นเหี้ยม ส่งเสียงหัวเราะที่ชวนให้คนขนหัวลุกออกมาจากปาก“ทันทีที่เปิดข่าวนี้ต่อสาธารณะจะต้องสะเทือนเลือนลั่นระลอกหนึ่งแน่”สายตาล้ำลึกนั้นแฝงไว้ด้วยความหนาวเหน็บส่วนความหมายที่อยู่ในถ้อยคำก็จุดชนวนความสนใจของเหลียงเทียนจื้อ“ข่าวนั้นมันร้ายกาจอย่างนั้นเลยหรือขอรับ?” เหลียงเทียนจื้อกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ค่อยกล้าเชื่อ“สรุปแล้ว จื้อเอ๋อร์ เจ้าตั้งตารอเถอะ ถ้าทางเหลียงเทียนอี้มีความเคลื่อนไหวหรือเสด็จพี่คิดจะยืนกรานทำตามความคิดตัวเอง เช่นนั้นข่าวในมือของข้าจะสา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1003

ดวงตะวันแผดเผาคล้อยไปทางทิศตะวันตก กลิ่นอายเย็นชื่นปกคลุมทั่วเมืองหลวงต้าเหลียงครั้นกลับถึงวังหลวงก็เกือบจะพลบค่ำแล้ว ตำหนักบรรทมครึกครื้นกว่าก่อนหน้านี้มากชัดเจนบนโต๊ะอาหารอันประณีตมีอาหารโอชาล้ำค่าจัดวางอยู่เต็มไปหมดเพียงพอแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของห้องเครื่องต้าเหลียง สามารถทำอาหารที่แต่เดิมแสนจะธรรมดาให้เป็นงานวิจิตรยากจะลืมเลือนฮ่องเต้ต้าเหลียงก็แต่งตัวเต็มยศออกงานกินมื้อค่ำของวันนี้เหมือนกันงานเลี้ยงมื้อนี้มิได้เปิดแก่บุคคลภายนอก หากมีเพียงสมาชิกส่วนในเท่านั้นนอกจากฮ่องเต้ต้าเหลียงและฉินอวิ๋นฟานที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งแขกแล้ว ก็มีแต่เหลียงจื่อฝูและเหลียงเทียนอี้เท่านั้น...ไม่นับว่าพร้อมหน้า แต่อย่างน้อยคนที่มาก็เป็นคนสนิทของฮ่องเต้ต้าเหลียงทั้งหมดนอกจากนี้ยังมีดรุณีอีกนางหนึ่งฉินอวิ๋นฟานไม่เคยพบเห็นมาก่อน และไม่มีภาพจำอะไรด้วยเห็นดรุณีแต่งตัวงามสง่า อากัปกิริยาล้วนให้เห็นความสูงส่ง สามารถมองออกได้ว่าเป็นบุตรสาวตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง“ฟานเอ๋อร์ มา ๆ ๆ”ฮ่องเต้ต้าเหลียงเห็นฉินอวิ๋นฟานเข้าประตูมาก็รีบกวักมือพูด “ท่านนี้ก็คือแม่นางเยว่เอ๋อร์ที่วันนี้ข้าบอกว่าอยากแนะนำให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1004

หลังจากห้องเครื่องเตรียมอาหารทั้งหมดเสร็จ เหลียงเทียนอี้ เหลียงจื่อฝูและคนอื่น ๆ ก็นั่งพวกเขาแต่งตัวเต็มยศออกงานอย่างไรก็ตาม ยากนักที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงจะกระปรี้กระเปร่าอารมณ์ดีจัดงานเลี้ยง แล้วจะมาร่วมงานอย่างขอไปทีได้อย่างไรเพียงเทียบกับความเป็นมิตรอันเร่าร้อนของเหลียงจื่อฝู เหลียงเทียนอี้ดูอ่อนล้าประมาณหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางไม่ค่อยมีกำลังดวงตาคล้ำเข้ม แอบหาวเป็นครั้งคราวบุคลิกเรียบง่ายอึดอัดในแต่เดิม เมื่อรวมกับความอ่อนเพลียในเวลานี้ก็ให้ความรู้สึกอ่อนแอขี้โรควันนี้ฮ่องเต้ต้าเหลียงเบิกบานพระทัยเป็นพิเศษ ขจัดท่าทางอ่อนเพลียในวันวาน ใบหน้าเปล่งปลั่งอย่างที่เรียกว่าอารมณ์คือยาวิเศษในการรักษา วันนี้ได้พิสูจน์คำพูดนี้เป็นที่ประจักษ์แล้ว“ฟานเอ๋อร์ กินเยอะ ๆ นะ วันนี้ข้าได้เจอหลานชายน่ารัก อารมณ์ดียิ่ง”ฮ่องเต้ต้าเหลียงดื่มหลายจอก แต่เหลียงจื่อฝูคอยเตือนอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าให้ดื่มต่อ ดังนั้นจึงได้แต่ใช้น้ำชาแทนสุราฉินอวิ๋นฟานก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกลับบ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้น สุราอาหารเข้าปากอย่างสบายใจทว่าท่ามกลางบรรยากาศสมานฉันท์นี้ กลับมีคนหนึ่งที่ขัด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1005

การต่อสู้ระหว่างองค์ชายจะส่งผลกระทบไปส่วนต่าง ๆบนถึงขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนัก ล่างถึงราษฎรแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติแม้จนถึงปัจจุบันยังไม่ตึงเครียดถึงขั้นชักดาบเข้าหากัน...แต่ศึกใต้น้ำกลับเรียกว่าดุเดือด“ข้าก็เคยได้ยินเรื่องเสี่ยวอี้พูดมาเหมือนกัน”หลังจากฮ่องเต้ต้าเหลียงได้ฟัง ใบหน้าก็ไม่มีรอยยิ้มเมื่อครู่แล้ว เขาเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “สถานการณ์ต้าเหลียงในปัจจุบันค่อนข้างพิเศษ น้องชายข้าคนนั้นสนับสนุนองค์ชายสามเหลียงเทียนจื้ออย่างเปิดเผย เบื้องหลังแอบดึงสมัครพรรคพวก...”“เหมือนการนำพวกองครักษ์ขุนนางใหญ่และราชบัณฑิต...”เท่ากับเริ่มรวมพลังจากทุกภาคส่วนหมอหลวงจากสำนักหมอหลวง ราชบัณฑิตจากวิทยาลัยฮั่นหลิน รองหัวหน้า หัวหน้าทหารอะไรก็ดึงมาเข้าพวกเกือบหมด ควบคุมส่วนสำคัญของต้าเหลียงไปกว่าครึ่งพูดได้ว่าขอเพียงเหลียงเทียนอี้ยังเป็นรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินหนึ่งวัน เช่นนั้นหากเขาคิดจะสะสางราชกิจในราชสำนักหรือโยกย้ายสั่งการทหารจะต้องเจอกับอุปสรรคไม่มากก็น้อยแม้แต่เจ้ากรมจากต่าง ๆ ก็กลายเป็น ‘พวกขององค์ชายสาม’ หมดแล้ว จึงไม่ให้การช่วยเหลือเป็นธรรมดาเช่นนี้ เหลียงเทียนอี้จึงกุมขมับทุกว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1006

“อีกอย่าง ฟานเอ๋อร์ เจ้าจะหมางเมินแม่นางเยว่เอ๋อร์ไม่ได้ ดื่มกับแม่นางเยว่เอ๋อร์สักหน่อยเถอะ”ฮ่องเต้ต้าเหลียงผลักหลี่ว์เยว่ออกไป กล่าวโดยนัยก็คืออยากกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขาหลี่ว์เยว่ยิ้มอย่างเขินอาย ยกจอกสุราขึ้นอย่างระมัดระวังตามดำรัสของฮ่องเต้ต้าเหลียง “รัชทายาท หากไม่รังเกียจ จะดื่มกับข้าน้อยสักจอกได้หรือไม่เจ้าคะ?”น้ำเสียงนุ่มนวลนั้น ฉินอวิ๋นฟานได้ยินแล้วพาลให้หัวใจซาบซ่านแม้ว่าหญิงตรงหน้าจะไม่มีท่วงทำนองงามล่มเมืองเหมือนมู่หรงจิ่น แต่ก็มิได้งามเรียบง่ายด้วยแป้งผัดแน่นอน“จะรังเกียจได้ยังไง” ฉินอวิ๋นฟานยกจอกขึ้นเคารพกันและกันอย่างสง่าเหลียงจื่อฝูที่อยู่ด้านข้างมองภาพนี้เงียบ ๆดวงตาสดใสขยับเล็กน้อย จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาดื่มสุราของตัวเอง......เมื่อเสียงหัวเราะครื้นเครงในงานเลี้ยงจบลงฮ่องเต้ต้าเหลียงดื่มสองสามจอก อาจเพราะสุรา แม้ว่ามีสีหน้าดี กลับเดินตัวโคลงเล็กน้อยกลับห้องพักด้วยการประคองของเสี่ยวชุนจื่อก่อนกลับ ฮ่องเต้ต้าเหลียงยังตบบ่าฉินอวิ๋นฟานอย่างจริงใจ“ฟานเอ๋อร์ ข้าจะไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ฟานเอ๋อร์มาตำหนักบรรทมหลังเที่ยง ข้ามีเรื่องจะพูดกับฟานเอ๋อร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1007

จันทร์กระจ่างสาดส่องพื้นผิวเงาพฤกษาทอดตัวอยู่ในลานตำหนักบรรทม เงากลับหัวเหมือนภาพสีน้ำมันที่เงียบสงบฉินอวิ๋นฟานเดินอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ ดื่มด่ำกับสายลมเย็นที่ปะทะใบหน้ามาดรุณีข้างกายเงียบเชียบ ชายตามองดวงหน้าหล่อเหลาอย่างระมัดระวัง“ไม่ทราบว่า รัชทายาท มีความคิดเห็นอย่างไรกับ...ข้าน้อยเจ้าคะ?”หลี่ว์เยว่กระดากเล็กน้อย แต่ก็ยังถามคำถามในใจออกไป แม้นางจะมีชาติกำเนิดในตระกูลสูงศักดิ์ หากมีความคิดเป็นของตัวเอง ต่อต้านการจัดการแต่งงานของบุพการี ถ้าไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ต้าเหลียงยื่นมือมา นางต้องค้างกับผู้เป็นปู่แน่แต่ทันทีที่เห็นฉินอวิ๋นฟาน นางกับถลำลึกลงไป ฉินอวิ๋นฟานนอกจากจะรูปงามองอาจ ยังมีท่วงทำนองไม่ธรรมดา มีเสน่ห์พิเศษอย่างหนึ่งที่มองไม่เห็นอยู่กับตัว ทำให้นางไหวหวั่นได้ยินดังนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงก้มหน้าลงเล็กน้อยเห็นใบหน้าเขินอายของหลี่ว์เยว่แล้ว ฉินอวิ๋นฟานก็อดหัวเราะไม่ได้ “แม่นางหลี่ว์เยว่งดงามเพียงนี้ ย่อมทำให้ชายนับไม่ถ้วนหวั่นไหว”ฉินอวิ๋นฟานพูดความจริง หลี่ว์เยว่งามอ้อนแอ้น ทำให้ฉินอวิ๋นฟานหวั่นไหวจริง ๆแรกเริ่มเขาไม่เห็นดีกับผู้หญิงที่เสด็จตาจะยัดให้เขา สำหรับความค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1008

จู่ ๆ เสี่ยวชิงก็ทำหน้าจริงจังเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เพียงแต่มีบางเรื่อง หวังว่าองค์หญิงจะพิจารณาให้ดี” “เสี่ยวชิงเป็นนางกำนัล เดิมไม่ควรพูดมาก แต่ปัจจุบันการเมืองสั่นคลอน ฝ่าบาทพลานามัยไม่แข็งแรง หากแพร่ออกไปเกรงจะส่งผลกระทบอย่างหนัก”เหลียงจื่อฝูได้ยินดังนั้นก็มิอาจสงบแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่เจอฉินอวิ๋นฟานมักทำให้นางเกิดความรู้สึกหุนหันพลันแล่นยากจะควบคุมบางทีเสี่ยวชิงอาจจะพูดถูก นางแค่กำลังหึงหวงเท่านั้นเหลียงจื่อฝูแหงนหน้ามองดวงจันทร์ คิดอยู่นานจึงยัดเนื้อส้มเข้าปากในที่สุด“เสี่ยวชิง พวกเรากลับตำหนักกันเถอะ”......ฉินอวิ๋นฟานมองหลี่ว์เยว่นั่งรถม้าจากไปไกลแล้วจึงถอนสายตากลับและเดินไปอีกทางหนึ่งเขาไม่เสียใจกับเรื่องที่ตัวเองทำเมื่อครู่ และไม่เสียใจกับถ้อยคำที่พูดกับหลี่ว์เยว่ด้วยแม้การปฏิเสธความหวังดีของฮ่องเต้ต้าเหลียงจะทำให้เขารู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ยามนี้ไม่ใช่เวลารัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างชายหญิง และต่อให้ไม่มีหลี่ว์เยว่ ขอเพียงเสด็จน้าเจอกับอุปสรรค เขาก็ต้องช่วยเสด็จน้าอย่างเต็มกำลังอยู่แล้ว“รัชทายาท ดึกอย่างนี้แล้ว จะไปที่ใดหรือ?”เสียงหนึ่งด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1009

เห็นเงานั้นไปมาตามปรารถนา ราวกับเมฆดำที่บดบังแสงจันทร์นั้นค่อย ๆ สบายตัว ไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิงกระทั่งกลิ่นอายอันตรายนั้นหมดไปแล้ว ใจเต้นระส่ำของฉินอวิ๋นฟานจึงค่อย ๆ สงบลง“เฮ้อ...”เขาพรูลมแล้วจึงพบว่าตัวเองกำลังขาแข็งอยู่กลัว?อารมณ์ซับซ้อนผุดขึ้นมาในหัวของฉินอวิ๋นฟาน ศึกชิงอำนาจอันโหดเหี้ยมทำให้เขากดดันเป็นเท่าตัว หากพลั้งเผลอไปเพียงนิดเดียวก็ต้องตกเข้าสู่ห้วงหมื่นเคราะห์มิอาจหวนคืนกับการข่มขู่ของชายชุดดำ เจตนารบที่มองไม่เห็นประเภทนั้นในใจของฉินอวิ๋นฟานถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง“ขู่ข้าฉินอวิ๋นฟานหรือ?! เหอะ! ข้ามันพวกต่อต้านแต่กำเนิดเว้ย!”ฉินอวิ๋นฟานเน้นคำสุดท้าย จู่ ๆ ก็ฉายรอยยิ้มบนใบหน้าจาง ๆเขาไม่ใช่คนรักตัวกลัวตาย เช่นเดียวกัน เขาจะไม่ยอมให้ใครกดขี่รังแกอยู่บนหัว!เพิ่งจะมาถึงต้าเหลียงและเป็นการเยี่ยมญาติ พร้อมหน้ากับเสด็จตาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นสักหน่อย...คิดไม่ถึงว่ายังมีคนมาเสนอหน้าท้าทายก่อน!“ดีมาก ดี...”ฉินอวิ๋นฟานสูดลมหายใจเข้าลึก ลำแสงประหลาดวูบไหวอยู่ในแววตา “เช่นนั้นข้าฉินอวิ๋นฟานก็จะเล่นเป็นเพื่อนพวกเจ้าให้ถึงที่สุด”......เมื่อกลับถึงโรงเตี๊ยม อู่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1010

ต่อให้อู่จ้านและเซี่ยงเส้าเหยียนอยู่ด้วย คนชุดดำพวกนั้นก็คงไม่ยอมเลิกราอยู่ดีไม่แน่ ถ้าพวกอู่จ้านอยู่อาจปะทะต่อสู้กันขึ้นมาก็ได้“คืนนี้พวกเขาแค่มาเตือนข้า”ฉินอวิ๋นฟานแกว่งสุราฤทธิ์แรงในจอก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มคลุมเครือ “พอดีเลย ทีแรกข้าก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของต้าเหลียงหรอก แต่ในเมื่อรังแกมาถึงตัวแล้ว ข้าก็ไม่มีเหตุผลต้องอดกลั้นทำตามกระมัง?”เขาฉินอวิ๋นฟานไม่เคยเป็นคนขี้ขลาดตาขาว!“เสี่ยวฟาน? หรือว่า...เจ้าคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการเมืองของต้าเหลียง?”อู่จ้านชะงักไปก่อนจะถามเขารู้เรื่องการเมืองพวกนี้นิดหน่อย ตอนอยู่ที่ต้าเฉียนก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเช่นกันเหมือนอย่างเดียวกัน เมื่อมาถึงต้าเหลียง ต่อให้เตรียมตัวล่วงหน้าแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ทางนี้อยู่ดี“ตอนนี้ยังพูดยาก รอพรุ่งนี้เถอะ พรุ่งนี้ก็จะรู้เอง”ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้พูดต่อ แต่ดื่มสุราฤทธิ์แรงในจอกจนหมด......จิ๊บ ๆ ๆ...นกน้อยเจื้อยแจ้วบนกิ่งไม้ ประกาศการมาถึงของวันใหม่ฉินอวิ๋นฟานเข้าวังเยือนตำหนักบรรทมของฮ่องเต้ต้าเหลียงก่อนเมื่อคืนหลังจากออกจากงานเลี้ยงกินข้าวเย็น ฮ่องเต้ต้าเหลียงบอกว่าให้เข้ามาหลังเที่ยงของว
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
99100101102103
...
107
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status