“ด้วยทักษะทางการแพทย์ของข้า แม้จะมีรอยแผลเป็นเกิดขึ้น แต่ข้าก็สามารถทำให้ผิวพรรณกลับมานุ่มนวลราวกับเด็กทารกได้ พระชายารองซู เจ้าควรกังวลเกี่ยวกับตัวเองก่อนเถอะ ข้าเห็นว่าเจ้าหมกมุ่นอยู่กับเรื่องอย่างว่ามากเกินไป เจ้ามีสัญญาณไตพร่องอยู่นะ”เซี่ยเชียนฮวันเหลือบมองซูอวี้เออร์แวบหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป“ท่านพูดเหลวไหล! ท่าน...ท่านใส่ร้ายข้า!”ซูอวี้เออร์ได้ยินประโยคนี้ ก็อดตื่นตระหนกไม่ได้ นางตะโกนไล่หลังเซี่ยเชียนฮวัน พยายามปฏิเสธสมควรตาย สีหน้านางแสดงสัญญาณออกมาชัดขนาดนั้นเลยหรือ?ถ้าหากถูกเซียวเย่หลันสังเกตเห็นเข้า จบเห่แน่ๆซูอวี้เออร์รีบไปหาเซียวหมิงเซียน ยืมชาดมาทาปากให้ตัวเองเพื่อปกปิดผิวของนางตะวันบ่ายคล้อยในที่สุดเซียวเย่หลันก็เปิดประตูเดินออกมาเขาไม่ได้ตามหาซูอวี้เออร์ บางทีอาจจะกล่าวได้ว่า อารมณ์ของเขามืดมนมากจนเพิกเฉยต่อการมีอยู่ของซูอวี้เออร์โดยสิ้นเชิงเขามาที่ศาลาหลัวสุ่ยและเล่าสั้นๆ ให้องค์หญิงสี่กับราชบุตรเขยฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แล้วพูดว่า “มีชีวิตย่อมมีคนเห็น หากตายต้องเห็นศพ เสด็จพี่สี่โปรดเรียกทหารยามออกค้นหาด้วยเถอะ ข้าจะไปหาร่องรอยของ
Read more