บททั้งหมดของ ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา: บทที่ 1981 - บทที่ 1990

2014

บทที่ 1981

ที่จริงแล้วหลิงอวี๋มิได้หลับ แต่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องราวหลังจากนี้อยู่เมื่อได้ยินคำตำหนิอย่างโกรธเคืองของเผยอวี้ เปลือกตาของหลิงอวี๋ก็กระตุก แต่ก็มิอยากตามเผยอวี้ไปตามหาเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเป็นศัตรูของตน นางอยากจะให้เขาตาย แล้วความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับตนเล่า!แต่ภาพก่อนหน้านี้ก็แวบขึ้นมาตรงหน้า ภาพที่เซียวหลินเทียนโยนนางไปบนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันมิให้นางตกเข้าไปในปากของสัตว์ประหลาด มิฉะนั้นหากนางตกลงไป หากมิถูกสัตว์ประหลาดกัดตายก็คงถูกสัตว์ประหลาดเหยียบจนตายไปแล้วเมื่อนับเรื่องนี้แล้ว ก็นับว่าเซียวหลินเทียนช่วยตนไว้เช่นกันหลิงอวี๋จึงลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วเอ่ยออกไป “พี่ใหญ่ พวกเราก็ไปตามหาเขาด้วยเถิด!”เนื่องเซียวหลินเทียนเองก็ลงมาเพื่อตามหาผู้รอบรู้เช่นกัน ดังนั้นผู้รอบรู้จึงมิคัดค้านแล้วพยายามลุกขึ้นเผยอวี้เดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเขาได้ยินว่ามีเสียงจากด้านหลัง ก็รู้ว่าพวกหลิงอวี๋เดินตามมาแล้วเช่นนี้แล้วเผยอวี้จึงรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยแม้ฮองเฮาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ยังมีความจิตใจดีอยู่มิเปลี่ยนแปลงเผยอวี้ถือคบเพลิงแล้วเดินไปอย่างช้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1982

เผยอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยถามออกไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋แย่งคบเพลิงไปเสียแล้วหลิงอวี๋ถือคบเพลิงส่องไปด้านข้าง แล้วเผยอวี้ก็เห็นว่าเถาวัลย์หนาเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อยเขายังคิดว่าตนเองตาฝาด ที่นี่ก็ไม่มีลม แล้วเถาวัลย์จะเคลื่อนไหวได้อย่างไรกัน?หลิงอวี๋จึงหมุนคบเพลิงไปโดยรอบ และสิ่งที่สายตาของนางมองเห็นก็ทำให้นางรู้สึกหายใจติดขัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นมิใช่เถาวัลย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นงูพิษฝูงงูที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้น บางตัวก็มีขนาดเท่าปากชาม และลวดลายบนตัวก็มีสีคล้ายกับเถาวัลย์ หากมิสังเกตก็จะคิดว่าเป็นเถาวัลย์“นั่นงูหรือ?”เสียงของผู้รอบรู้ลดต่ำลงทันที และเริ่มสั่นเครือขึ้นมาโดยมิรู้ตัว “สวรรค์ งูมากถึงเพียงนั้น นี่… นี่… นี่ต้องเป็นหมื่นตัวกระมัง!”เผยอวี้ก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้รอบรู้ เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวทันทีเขาเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูมากมายได้อย่างมิเกรงกลัว แต่งูมากถึงเพียงนี้… เขาจะสังหารได้หมดหรือ?“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”เสียงของเผยอวี้ก็สั่นขึ้นมาโดยมิรู้ตัวเช่นกัน“ค่อย ๆ ถอยออกไปก่อน! ห้ามส่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1983

หลิงอวี๋เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งยังเดินมาอีกครึ่งวัน นางทนมิไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับตาลงแล้วผล็อยหลับไปรู้สึกว่าเพิ่งนอนหลับไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของเผยอวี้ “ฟ้าสางแล้ว! รีบตื่นเร็วเข้า! พวกเราไปช่วยพี่ใหญ่ของข้ากัน!”หลิงอวี๋แอบกลอกตาใส่เขา นางรู้สึกว่าทั้งร่างกายนี้ราวกับถูกบดขยี้มา นางปวดเมื่อยและอ่อนแรงมากนางลืมตาขึ้นก็เห็นแสงลอดผ่านกิ่งไม้และส่องลงมาที่บนตัวพวกเขาเป็นลายไปหมด“แม่นางสิง ข้าไปดูบริเวณรอบ ๆ มาแล้ว หาได้มีเส้นทางอื่นไม่ ถ้ำงูนั้นเป็นทางเดียวที่สามารถผ่านไปที่ภูเขาด้านหลังได้!”เผยอวี้เอ่ยอย่างหงุดหงิด “ข้ายังแอบไปตรวจสอบดูที่ทางถ้ำงูมาด้วย งูพวกนั้นมีอยู่มากกว่าที่พวกเราเห็นเมื่อคืนนี้เสียอีก!”ผลลัพธ์อยู่ในการคาดเดาของหลิงอวี๋อยู่แล้ว นางจึงมิได้รู้สึกตกใจอะไร“ข้าจะไปดูเสียหน่อย!”หลิงอวี๋ลุกขึ้นไปตรวจสอบเมื่อคืนมืดมาก มองเห็นป่าลึกแห่งนี้ได้มิชัด วันนี้เมื่อหลิงอวี๋อาศัยแสงสว่างมองไป ก็เห็นว่าป่าไม้ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านั้นมองมิเห็นจุดสิ้นสุดจริง ๆหากคิดจะหาเส้นทางอ้อมไปใหม่ ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้!“เจ้าคาดว่าถ้ำงูจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน?”หลิงอวี๋
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1984

“หยุด!”เซียวหลินเทียนเห็นภาพนี้ก็ตกใจ แล้วรีบกระโดดขึ้นไปเหยียบบนหลังเสือปีกกาฬเขาออกแรงที่เท้า แล้วเสือปีกกาฬก็ถูกเขาเหยียบจนล้มไปกลางอากาศลงไปที่พื้น“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว และดิ้นรนอย่างมิยอม ทั้งยังบิดตัวอย่างบ้าคลั่งด้วย พยายามที่จะสลัดเซียวหลินเทียนออกไปแต่เซียวหลินเทียนก็โน้มตัวไปจับขนที่คอของมัน แล้วดึงอย่างแรงพร้อมทั้งตะคอกออกมา“เฮยอี้ เจ้าทำร้ายนางมิได้ หากเจ้ากล้าทำร้ายนาง ข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย!”“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะมิเห็นด้วยกับคำพูดของเซียวหลินเทียน จึงคำรามออกมาอย่างโกรธเคืองขาหน้าทั้งสองข้างของมันกระโจนขึ้นไปในอากาศ และพยายามจะพุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋ผู้รอบรู้ดึงหลิงอวี๋ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว แต่เสือปีกกาฬยังคงพยายามดิ้นให้หลุดจากการควบคุมของเซียวหลินเทียนอย่างมิยอมแพ้ และจะพุ่งใส่หลิงอวี๋ดินโคลนที่พื้นถูกขาทั้งสี่ของมันตะกุยจนกระเด็นไปทั่ว แม้แต่เผยอวี้เห็นเช่นนั้นก็ตกใจและวิ่งไปตรงหน้าหลิงอวี๋พลันชักกระบี่ออกมาเตรียมตั้งรับตามสัญชาตญาณเมื่อเซียวหลินเทียนเห็นเช่นนั้นก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกัน แล้วกระโดดลงมาจากหลังของเสือปีกก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1985

หลิงอวี๋รักษาอาการบาดเจ็บให้เซียวหลินเทียนด้วยความรู้สึกสับสนในหัวของนางกำลังสับสนวุ่นวาย ภาพการเผชิญหน้าของเซียวหลินเทียนกับเสือปีกกาฬยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของนางตลอดเวลาเขาใช้กระบี่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เสือปีกกาฬทำร้ายนาง!นี่คือสิ่งที่คนที่ต้องการสังหารนางจะทำหรือ?หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่ป้าวซวนเคยพูดไว้ในตอนแรกว่า คำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยนั้นมิสามารถเชื่อได้!นางเองก็มิอยากจะเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ภาพที่วนเวียนอยู่ในหัวของตนก็เป็นเรื่องจริง!เซียวหลินเทียนปล่อยให้คนรับใช้เหยียดหยามตนจริง ๆ ทั้งยังสั่งให้คนเฆี่ยนตีตนอีกด้วย!แล้วจะอธิบายภาพเหล่านี้ว่าอย่างไร?ดูเหมือนว่าจะต้องให้ผู้รอบรู้ไปสืบเรื่องอดีตของตนโดยเร็วที่สุดแล้ว นางต้องรู้ให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของนางกับเซียวหลินเทียนคืออะไร!“พี่ใหญ่ ท่านยังเดินไหวหรือไม่? พวกเราควรจะหาทางกลับไปได้แล้ว มิฉะนั้นฉินซานกับเถาจื่อจะลงมาตามหาพวกเรากันหมด!”เผยอวี้มองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างกังวล“ข้าเดินได้!”เซียวหลินเทียนลุกขึ้นมา การบาดเจ็บจากกระบี่ทำให้เขาเดินกะโผลกกะเผลก เดินไปได้สองก้าวก็เห็นเสือปีกกาฬวิ่งมาข้างหน้าเขา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1986

กระทั่งเซียวหลินเทียนปีนขึ้นไป เขาคิดว่าหลิงอวี๋จะไปแล้ว ไหนเลยจะคิดว่านางจะยังอยู่“พี่ใหญ่ เถาจื่อไปตรวจสอบมาแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนของตระกูลเฉียวมาเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีคนของมหาปราชญ์ด้วย และพวกเขาก็ปิดกั้นทางลงจากภูเขาไปหมดแล้ว!”ฉินซานเอ่ยรายงาน “ทุกคนที่ลงจากภูเขาไปจะต้องถูกตรวจสอบ คาดว่าหน้ากากผิวหนังมนุษย์คงมิสามารถปกปิดได้ขอรับ!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางหลิงอวี๋โดยสัญชาตญาณหลิงอวี๋ขึ้นมาก่อน นางได้ฟังเถาจื่อบอกเรื่องนี้ไปแล้ว เมื่อนางเห็นว่าเซียวหลินเทียนมองมาทางตน จึงเอ่ยออกไปเรียบ ๆ “ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าคิดวิธีปลอมตัวได้ ข้ามีความมั่นใจอยู่เจ็ดส่วนว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะตรวจมิพบใบหน้าที่แท้จริงของพวกเจ้า!”“สำหรับอีกสามส่วนที่เหลือนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือของพวกเจ้าเอง!”หลิงอวี๋มิอยากติดหนี้บุญคุณเซียวหลินเทียนที่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เฮยอี้ทำร้ายตน หลิงอวี๋จึงอาศัยโอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณของเซียวหลินเทียนไปเสีย“แม่นางสิง ขอบคุณมาก!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินว่าหลิงอวี๋ยินดีช่วยเหลือ เขาก็เดาเจตนาของนางออกทันทีเขายิ้มอย่างขมขื่นอยู่ในใจ นี่คือนิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1987

เซียวหลินเทียนมิได้พูดอะไรมากนัก แต่คำพูดเหล่านั้นได้สร้างความปั่นป่วนในใจของหลิงอวี๋ขึ้นแล้วนางมิได้เกิดขึ้นมาจากรอยแยกของก้อนหิน นางเองก็มีครอบครัว สหายและพ่อแม่อยู่เช่นกัน!แต่นางลืมไปหมดแล้ว!เหตุใดจึงจำได้แต่ภาพเหล่านั้นกันนะ? แล้วญาติพี่น้องและมิตรสหายไปไหนกันหมดเล่า?เผยอวี้ขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย หลิงอวี๋ได้ทำการปลอมตัวให้พวกเซียวหลินเทียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือการปลอมตัวให้เผยอวี้ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่นั้น เซียวหลินเทียนก็ให้ฉินซานกับเถาจื่อโยนบันไดที่ทำมาจากเถาวัลย์ลงหน้าผาไปผู้รอบรู้ยังคิดอยู่ว่าอีกประเดี๋ยวจะไปเก็บสมุนไพรเพิ่ม เมื่อเขาเห็นการกระทำของฉินซานจึงอยากจะไปห้ามเซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกมาเรียบ ๆ “ข้างล่างคือบ้านของเฮยอี้ มันมิอยากให้มีคนลงไปรบกวนมันอีก!”“ยิ่งไปกว่านั้น การมีบันไดก็หมายความว่าที่นี่จะต้องถูกผู้อื่นค้นพบ และเครื่องยาสมุนไพรเหล่านั้นก็อาจจะอยู่มิถึงตอนที่เจ้ามาเก็บ!”ผู้รอบรู้นึกถึงสัตว์เทพตัวนั้นแล้วก็มิพูดอะไรออกมาตอนนี้เฮยอี้ถูกเซียวหลินเทียนฝึกให้เชื่องแล้ว มิแน่ว่าอาจจะเฝ้าอยู่ด้านล่างหน้าผาตามคำสั่งของเซียวหลินเทียน และเมื่อเห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1988

หลิงอวี๋กลั้นหายใจไว้อย่างประหม่า และพยายามควบคุมตนเองไว้มิให้แสดงท่าทีผิดปกติออกไปส่วนเซียวหลินเทียนที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นว่าแม่นมของตระกูลเฉียวไปสัมผัสที่กระดูกเชิงกรานของหลิงอวี๋ หัวใจของเขาก็กังวลไปด้วยเช่นกันแม้ว่าเขาจะมิได้รู้เรื่องของสตรีมากนัก แต่เรื่องความแตกต่างระหว่างสตรีที่ผ่านการคลอดลูกมากับเด็กสาวนั้น เซียวหลินเทียนก็พอจะเคยได้ยินมาบ้างเขามิได้คาดคิดว่าแม้การแปลงโฉมบนใบหน้าของหลิงอวี๋จะไม่มีปัญหา แต่ปัญหากลับมาเกิดขึ้นตรงนี้อีก“น้องชาย เจ้าว่าครั้งนี้ที่ข้ามาจะสามารถจับสัตว์เทพตัวนั้นได้หรือไม่? มันทรงพลังมากจริง ๆ หากข้าสามารถฝึกมันให้เชื่องได้ เช่นนั้นมันก็จะเป็นสัตว์วิญญาณที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้ในเมืองหลวงแดนเทพ!”เซียวหลินเทียนจงใจพูดกับเผยอวี้ขึ้นมาเผยอวี้ก็เข้าใจในทันทีว่า เซียวหลินเทียนต้องการจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจให้หลิงอวี๋เขาจึงร่วมด้วยทันที “พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บเพราะจะจับตัวมัน ท่านยังจะอยากได้มันอีกหรือ? ข้าว่าพวกเราคงจะสิ้นชีวิตกันทั้งหมด นั่นเป็นสัตว์เทพเชียวนะ! นอกเสียจากว่าท่านจะมีพลังที่แข็งแกร่ง มิฉะนั้นก็มิสามารถฝึกมันให้เชื่องได้หร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1989

เมื่อขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้นั้นเห็นมหาปราชญ์ก็เข้ามาต้อนรับ และตำหนิเซียวหลินเทียน “เจ้ามิได้ยินที่มหาปราชญ์ถามรึ? ยังมิรีบตอบอีก!”เผยอวี้จึงรีบเอ่ย “เรียนท่านมหาปราชญ์ ข้าจำได้มิชัดเจนขอรับ ตอนนั้นมืดจนเกินไป และพวกเราก็ถูกเสือตัวนั้นวิ่งไล่จนต้องหนีไปทั่ว พวกเราจำได้เพียงว่าเป็นหุบเขาแห่งหนึ่งขอรับ!”เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเออออตามไปด้วยเผยอวี้ประคองเซียวหลินเทียนไว้ จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “พี่ใหญ่ของข้าก็ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุนี้ขอรับ พวกเรากำลังจะลงจากภูเขาเพื่อพาเขาไปรักษา!”“อ้อ อยู่ตรงทิศทางใดก็จำมิได้รึ?”มหาปราชญ์ยังคงมิยอมแพ้ เขาจ้องมองพลางเอ่ยถามขึ้นมา“จำได้ขอรับ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำอยู่ด้วยขอรับ!”เผยอวี้หวังเพียงให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น จึงเปิดเผยเบาะแสไปเล็กน้อยมหาปราชญ์มองไปทางภูเขาที่อยู่ไกล ๆ พลางครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงทุ้ม “พวกเจ้ามากันหลายคนมิใช่หรือ? ข้าจะให้ทหารพาลูกพี่ลูกน้องของเจ้าลงเขาไปรับการรักษา ส่วนพวกเจ้าก็อยู่สักสองคนแล้วพาข้าไปหาบ่อน้ำนั่นที!”เผยอวี้บ่นอยู่ในใจทันที นี่หากต้องไปตามหาเฮยอี้กับมหาปราชญ์ มิช้าก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1990

ประโยคสุดท้ายเก๋อเฟิ่งฉิงไปพูดที่ข้างหูของเซียวหลินเทียน นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินทั้งนั้นเซียวหลินเทียนตัวแข็งทื่อ คำพูดของเก๋อเฟิ่งฉิงมิใช่การหยั่งเชิง แต่เป็นการพูดด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมากความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเซียวหลินเทียนทันที เขาอยากจะปฏิเสธ ทว่าหากเขาฉีกหน้าเก๋อเฟิ่งฉิงไป ดูจากรูปแบบของมหาปราชญ์แล้ว เขาคงยอมสังหารคนผิดดีกว่าปล่อยพวกเขาไป!ถึงเวลานั้นมิเพียงแต่ตนจะหนีมิได้เท่านั้น แต่พวกหลิงอวี๋ก็จะหนีมิพ้นเช่นกันทว่าหากเขายอมรับไป เช่นนั้นจะตกหลุมพรางของเก๋อเฟิ่งฉิงหรือไม่!ดูเหมือนว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะรู้สึกได้ถึงความสับสนของเซียวหลินเทียน จึงกระซิบที่หูของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง “พี่ใหญ่ ข้าไม่มีทางทรยศพวกท่านหรอก!”“เชื่อข้า ข้าตามหาที่อยู่ของพวกท่านเจอนานแล้ว หากข้าคิดจะทรยศพวกท่าน ข้าก็คงทำไปนานแล้ว!”“ทุกคนในคฤหาสน์อู่ล้วนเป็นคนของท่าน ข้าไม่มีทางทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้นหรอก!”เมื่อเอ่ยถึงคฤหาสน์อู่ เซียวหลินเทียนก็รู้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจำตนได้แล้วจริง ๆหานเหมย หลิงเฟิง จ้าวซวนและคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่คฤหาสน์ หากเขาปฏิเสธไป ทั้งคฤหาสน์อู่ก
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
197198199200201202
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status