Share

บทที่ 1990

Author: กานเฟย
ประโยคสุดท้ายเก๋อเฟิ่งฉิงไปพูดที่ข้างหูของเซียวหลินเทียน นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินทั้งนั้น

เซียวหลินเทียนตัวแข็งทื่อ คำพูดของเก๋อเฟิ่งฉิงมิใช่การหยั่งเชิง แต่เป็นการพูดด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก

ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเซียวหลินเทียนทันที เขาอยากจะปฏิเสธ ทว่าหากเขาฉีกหน้าเก๋อเฟิ่งฉิงไป ดูจากรูปแบบของมหาปราชญ์แล้ว เขาคงยอมสังหารคนผิดดีกว่าปล่อยพวกเขาไป!

ถึงเวลานั้นมิเพียงแต่ตนจะหนีมิได้เท่านั้น แต่พวกหลิงอวี๋ก็จะหนีมิพ้นเช่นกัน

ทว่าหากเขายอมรับไป เช่นนั้นจะตกหลุมพรางของเก๋อเฟิ่งฉิงหรือไม่!

ดูเหมือนว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะรู้สึกได้ถึงความสับสนของเซียวหลินเทียน จึงกระซิบที่หูของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง “พี่ใหญ่ ข้าไม่มีทางทรยศพวกท่านหรอก!”

“เชื่อข้า ข้าตามหาที่อยู่ของพวกท่านเจอนานแล้ว หากข้าคิดจะทรยศพวกท่าน ข้าก็คงทำไปนานแล้ว!”

“ทุกคนในคฤหาสน์อู่ล้วนเป็นคนของท่าน ข้าไม่มีทางทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้นหรอก!”

เมื่อเอ่ยถึงคฤหาสน์อู่ เซียวหลินเทียนก็รู้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจำตนได้แล้วจริง ๆ

หานเหมย หลิงเฟิง จ้าวซวนและคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่คฤหาสน์ หากเขาปฏิเสธไป ทั้งคฤหาสน์อู่ก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 6

    “ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!” “ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!” เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา “กลุ่มคนเศษสวะ!” ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...” “ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!” ชิวเฮ่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 7

    เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจ้องมองที่ขวดยาของเธอ หลิงอวี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การเปิดเผยในคราวนี้ นางใคร่ครวญมาอย่างดีแล้ว ขอเพียงแค่ทำให้เซียวหลินเทียนตกตะลึงก่อนเท่านั้น นางจึงจะมีโอกาสช่วยเฮยจื่อได้! ขณะที่หลิงหยูเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น มือของเธอก็ว่างเปล่า ขวดยาถูกชิวเฮ่าแย่งไปแล้ว ชิวเฮ่าวิ่งกลับไปที่ด้านข้าง เซียวหลินเทียนเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก่อนจะส่งขวดยาให้อย่างภาคภูมิใจ "ท่านอ๋อง ข้าได้รับยาลับมาแล้ว รีบไปช่วยเฮยจื่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ!" เซียวหลินเทียนยิ้มเย้ยหยันออกมา หยิบมันขึ้นมาและมอบให้กับหมอในตำหนัก ไป๋สือที่ติดตามเขามาหลายปี เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยาลับสามารถห้ามเลือดของเฮยจื่อได้เท่านั้น แต่ข้าได้ยินมาว่า ซี่โครงของเฮยจื่อหัก และเสียบเข้าไปในปอดของเขา ถ้าไม่ดึงซี่โครงออกมา เขาก็ยังคงตายไปอยู่ดี!” “หมอของพวกเจ้าจะช่วยได้หรือ? ถ้าไม่ ข้าจะรอเจ้ามาขอร้องข้า! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเจรจาเงื่อนไขด้วย!” “เฮยจื่อ เป็นเพราะเจ้าที่ทำร้ายเขา… เจ้ายังกล้าเจรจาข้อตกลงกับท่านอ๋องของพวกเรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 8

    “หลิงผิง เจ้าติดตามคุณหนูของเจ้ามากว่าสิบปี สิ่งที่เจ้าเอ่ยน่าเชื่อถือที่สุด เจ้าบอกมาว่าหลิงอวี๋มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?” ชิวเหวินซวงดึงหลิงผิงที่ตามมาข้างหลังตนเองออกมา หลิงผิงแสร้งทำเป็นไม่สบายใจนัก ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยอย่างลังเล “กราบบังคมทูลฝ่าบาท บ่าวรับใช้ติดตามหลิงอวี๋ตั้งแต่เล็ก นางโง่เขลาเหมือนหมู หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพก็ไม่ได้ นับประสาอะไรกับทักษะทางการแพทย์ ท่านอ๋องทรงอย่าได้เชื่อคำพูดของนางเพคะ!” หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา นางรับใช้คนนี้ขายนางจนหมดสิ้นจริง ๆ ! ทว่าหลิงอวี๋จะไม่มีทางหวาดกลัว ตราบใดที่เธอช่วยเฮยจื่อได้ ใครจะจริงจังกับคำพูดของนางรับใช้! เซียวหลินเทียนจ้องมองยังหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่านางมิได้รู้สึกตื่นตระหนกใดที่ถูกเปิดเผยความลับออกมา ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หญิงผู้นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้หากว่านางรับใช้กล้าพูดเรื่องลับหลังของเจ้านายเช่นนี้ นางจะต้องรีบร้องตะโกนอธิบายให้กับตนเอง! เซียวหลินเทียนไม่เอ่ยวาจาใด ชิวเฮ่ากลับทนไม่ได้จนร้องคำรามออกมา “คนชั้นต่ำ นางรับใช้ของเจ้าพูดความจริงออกมาแล้ว เจ้ายังจะกล้ามาหลอกท่านอ๋องของข้าอีกรึ?

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1990

    ประโยคสุดท้ายเก๋อเฟิ่งฉิงไปพูดที่ข้างหูของเซียวหลินเทียน นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินทั้งนั้นเซียวหลินเทียนตัวแข็งทื่อ คำพูดของเก๋อเฟิ่งฉิงมิใช่การหยั่งเชิง แต่เป็นการพูดด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมากความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเซียวหลินเทียนทันที เขาอยากจะปฏิเสธ ทว่าหากเขาฉีกหน้าเก๋อเฟิ่งฉิงไป ดูจากรูปแบบของมหาปราชญ์แล้ว เขาคงยอมสังหารคนผิดดีกว่าปล่อยพวกเขาไป!ถึงเวลานั้นมิเพียงแต่ตนจะหนีมิได้เท่านั้น แต่พวกหลิงอวี๋ก็จะหนีมิพ้นเช่นกันทว่าหากเขายอมรับไป เช่นนั้นจะตกหลุมพรางของเก๋อเฟิ่งฉิงหรือไม่!ดูเหมือนว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะรู้สึกได้ถึงความสับสนของเซียวหลินเทียน จึงกระซิบที่หูของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง “พี่ใหญ่ ข้าไม่มีทางทรยศพวกท่านหรอก!”“เชื่อข้า ข้าตามหาที่อยู่ของพวกท่านเจอนานแล้ว หากข้าคิดจะทรยศพวกท่าน ข้าก็คงทำไปนานแล้ว!”“ทุกคนในคฤหาสน์อู่ล้วนเป็นคนของท่าน ข้าไม่มีทางทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้นหรอก!”เมื่อเอ่ยถึงคฤหาสน์อู่ เซียวหลินเทียนก็รู้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจำตนได้แล้วจริง ๆหานเหมย หลิงเฟิง จ้าวซวนและคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่คฤหาสน์ หากเขาปฏิเสธไป ทั้งคฤหาสน์อู่ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1989

    เมื่อขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้นั้นเห็นมหาปราชญ์ก็เข้ามาต้อนรับ และตำหนิเซียวหลินเทียน “เจ้ามิได้ยินที่มหาปราชญ์ถามรึ? ยังมิรีบตอบอีก!”เผยอวี้จึงรีบเอ่ย “เรียนท่านมหาปราชญ์ ข้าจำได้มิชัดเจนขอรับ ตอนนั้นมืดจนเกินไป และพวกเราก็ถูกเสือตัวนั้นวิ่งไล่จนต้องหนีไปทั่ว พวกเราจำได้เพียงว่าเป็นหุบเขาแห่งหนึ่งขอรับ!”เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเออออตามไปด้วยเผยอวี้ประคองเซียวหลินเทียนไว้ จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “พี่ใหญ่ของข้าก็ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุนี้ขอรับ พวกเรากำลังจะลงจากภูเขาเพื่อพาเขาไปรักษา!”“อ้อ อยู่ตรงทิศทางใดก็จำมิได้รึ?”มหาปราชญ์ยังคงมิยอมแพ้ เขาจ้องมองพลางเอ่ยถามขึ้นมา“จำได้ขอรับ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำอยู่ด้วยขอรับ!”เผยอวี้หวังเพียงให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น จึงเปิดเผยเบาะแสไปเล็กน้อยมหาปราชญ์มองไปทางภูเขาที่อยู่ไกล ๆ พลางครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงทุ้ม “พวกเจ้ามากันหลายคนมิใช่หรือ? ข้าจะให้ทหารพาลูกพี่ลูกน้องของเจ้าลงเขาไปรับการรักษา ส่วนพวกเจ้าก็อยู่สักสองคนแล้วพาข้าไปหาบ่อน้ำนั่นที!”เผยอวี้บ่นอยู่ในใจทันที นี่หากต้องไปตามหาเฮยอี้กับมหาปราชญ์ มิช้าก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1988

    หลิงอวี๋กลั้นหายใจไว้อย่างประหม่า และพยายามควบคุมตนเองไว้มิให้แสดงท่าทีผิดปกติออกไปส่วนเซียวหลินเทียนที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นว่าแม่นมของตระกูลเฉียวไปสัมผัสที่กระดูกเชิงกรานของหลิงอวี๋ หัวใจของเขาก็กังวลไปด้วยเช่นกันแม้ว่าเขาจะมิได้รู้เรื่องของสตรีมากนัก แต่เรื่องความแตกต่างระหว่างสตรีที่ผ่านการคลอดลูกมากับเด็กสาวนั้น เซียวหลินเทียนก็พอจะเคยได้ยินมาบ้างเขามิได้คาดคิดว่าแม้การแปลงโฉมบนใบหน้าของหลิงอวี๋จะไม่มีปัญหา แต่ปัญหากลับมาเกิดขึ้นตรงนี้อีก“น้องชาย เจ้าว่าครั้งนี้ที่ข้ามาจะสามารถจับสัตว์เทพตัวนั้นได้หรือไม่? มันทรงพลังมากจริง ๆ หากข้าสามารถฝึกมันให้เชื่องได้ เช่นนั้นมันก็จะเป็นสัตว์วิญญาณที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้ในเมืองหลวงแดนเทพ!”เซียวหลินเทียนจงใจพูดกับเผยอวี้ขึ้นมาเผยอวี้ก็เข้าใจในทันทีว่า เซียวหลินเทียนต้องการจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจให้หลิงอวี๋เขาจึงร่วมด้วยทันที “พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บเพราะจะจับตัวมัน ท่านยังจะอยากได้มันอีกหรือ? ข้าว่าพวกเราคงจะสิ้นชีวิตกันทั้งหมด นั่นเป็นสัตว์เทพเชียวนะ! นอกเสียจากว่าท่านจะมีพลังที่แข็งแกร่ง มิฉะนั้นก็มิสามารถฝึกมันให้เชื่องได้หร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1987

    เซียวหลินเทียนมิได้พูดอะไรมากนัก แต่คำพูดเหล่านั้นได้สร้างความปั่นป่วนในใจของหลิงอวี๋ขึ้นแล้วนางมิได้เกิดขึ้นมาจากรอยแยกของก้อนหิน นางเองก็มีครอบครัว สหายและพ่อแม่อยู่เช่นกัน!แต่นางลืมไปหมดแล้ว!เหตุใดจึงจำได้แต่ภาพเหล่านั้นกันนะ? แล้วญาติพี่น้องและมิตรสหายไปไหนกันหมดเล่า?เผยอวี้ขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย หลิงอวี๋ได้ทำการปลอมตัวให้พวกเซียวหลินเทียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือการปลอมตัวให้เผยอวี้ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่นั้น เซียวหลินเทียนก็ให้ฉินซานกับเถาจื่อโยนบันไดที่ทำมาจากเถาวัลย์ลงหน้าผาไปผู้รอบรู้ยังคิดอยู่ว่าอีกประเดี๋ยวจะไปเก็บสมุนไพรเพิ่ม เมื่อเขาเห็นการกระทำของฉินซานจึงอยากจะไปห้ามเซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกมาเรียบ ๆ “ข้างล่างคือบ้านของเฮยอี้ มันมิอยากให้มีคนลงไปรบกวนมันอีก!”“ยิ่งไปกว่านั้น การมีบันไดก็หมายความว่าที่นี่จะต้องถูกผู้อื่นค้นพบ และเครื่องยาสมุนไพรเหล่านั้นก็อาจจะอยู่มิถึงตอนที่เจ้ามาเก็บ!”ผู้รอบรู้นึกถึงสัตว์เทพตัวนั้นแล้วก็มิพูดอะไรออกมาตอนนี้เฮยอี้ถูกเซียวหลินเทียนฝึกให้เชื่องแล้ว มิแน่ว่าอาจจะเฝ้าอยู่ด้านล่างหน้าผาตามคำสั่งของเซียวหลินเทียน และเมื่อเห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1986

    กระทั่งเซียวหลินเทียนปีนขึ้นไป เขาคิดว่าหลิงอวี๋จะไปแล้ว ไหนเลยจะคิดว่านางจะยังอยู่“พี่ใหญ่ เถาจื่อไปตรวจสอบมาแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนของตระกูลเฉียวมาเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีคนของมหาปราชญ์ด้วย และพวกเขาก็ปิดกั้นทางลงจากภูเขาไปหมดแล้ว!”ฉินซานเอ่ยรายงาน “ทุกคนที่ลงจากภูเขาไปจะต้องถูกตรวจสอบ คาดว่าหน้ากากผิวหนังมนุษย์คงมิสามารถปกปิดได้ขอรับ!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางหลิงอวี๋โดยสัญชาตญาณหลิงอวี๋ขึ้นมาก่อน นางได้ฟังเถาจื่อบอกเรื่องนี้ไปแล้ว เมื่อนางเห็นว่าเซียวหลินเทียนมองมาทางตน จึงเอ่ยออกไปเรียบ ๆ “ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าคิดวิธีปลอมตัวได้ ข้ามีความมั่นใจอยู่เจ็ดส่วนว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะตรวจมิพบใบหน้าที่แท้จริงของพวกเจ้า!”“สำหรับอีกสามส่วนที่เหลือนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือของพวกเจ้าเอง!”หลิงอวี๋มิอยากติดหนี้บุญคุณเซียวหลินเทียนที่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เฮยอี้ทำร้ายตน หลิงอวี๋จึงอาศัยโอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณของเซียวหลินเทียนไปเสีย“แม่นางสิง ขอบคุณมาก!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินว่าหลิงอวี๋ยินดีช่วยเหลือ เขาก็เดาเจตนาของนางออกทันทีเขายิ้มอย่างขมขื่นอยู่ในใจ นี่คือนิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1985

    หลิงอวี๋รักษาอาการบาดเจ็บให้เซียวหลินเทียนด้วยความรู้สึกสับสนในหัวของนางกำลังสับสนวุ่นวาย ภาพการเผชิญหน้าของเซียวหลินเทียนกับเสือปีกกาฬยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของนางตลอดเวลาเขาใช้กระบี่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เสือปีกกาฬทำร้ายนาง!นี่คือสิ่งที่คนที่ต้องการสังหารนางจะทำหรือ?หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่ป้าวซวนเคยพูดไว้ในตอนแรกว่า คำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยนั้นมิสามารถเชื่อได้!นางเองก็มิอยากจะเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ภาพที่วนเวียนอยู่ในหัวของตนก็เป็นเรื่องจริง!เซียวหลินเทียนปล่อยให้คนรับใช้เหยียดหยามตนจริง ๆ ทั้งยังสั่งให้คนเฆี่ยนตีตนอีกด้วย!แล้วจะอธิบายภาพเหล่านี้ว่าอย่างไร?ดูเหมือนว่าจะต้องให้ผู้รอบรู้ไปสืบเรื่องอดีตของตนโดยเร็วที่สุดแล้ว นางต้องรู้ให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของนางกับเซียวหลินเทียนคืออะไร!“พี่ใหญ่ ท่านยังเดินไหวหรือไม่? พวกเราควรจะหาทางกลับไปได้แล้ว มิฉะนั้นฉินซานกับเถาจื่อจะลงมาตามหาพวกเรากันหมด!”เผยอวี้มองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างกังวล“ข้าเดินได้!”เซียวหลินเทียนลุกขึ้นมา การบาดเจ็บจากกระบี่ทำให้เขาเดินกะโผลกกะเผลก เดินไปได้สองก้าวก็เห็นเสือปีกกาฬวิ่งมาข้างหน้าเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1984

    “หยุด!”เซียวหลินเทียนเห็นภาพนี้ก็ตกใจ แล้วรีบกระโดดขึ้นไปเหยียบบนหลังเสือปีกกาฬเขาออกแรงที่เท้า แล้วเสือปีกกาฬก็ถูกเขาเหยียบจนล้มไปกลางอากาศลงไปที่พื้น“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว และดิ้นรนอย่างมิยอม ทั้งยังบิดตัวอย่างบ้าคลั่งด้วย พยายามที่จะสลัดเซียวหลินเทียนออกไปแต่เซียวหลินเทียนก็โน้มตัวไปจับขนที่คอของมัน แล้วดึงอย่างแรงพร้อมทั้งตะคอกออกมา“เฮยอี้ เจ้าทำร้ายนางมิได้ หากเจ้ากล้าทำร้ายนาง ข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย!”“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะมิเห็นด้วยกับคำพูดของเซียวหลินเทียน จึงคำรามออกมาอย่างโกรธเคืองขาหน้าทั้งสองข้างของมันกระโจนขึ้นไปในอากาศ และพยายามจะพุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋ผู้รอบรู้ดึงหลิงอวี๋ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว แต่เสือปีกกาฬยังคงพยายามดิ้นให้หลุดจากการควบคุมของเซียวหลินเทียนอย่างมิยอมแพ้ และจะพุ่งใส่หลิงอวี๋ดินโคลนที่พื้นถูกขาทั้งสี่ของมันตะกุยจนกระเด็นไปทั่ว แม้แต่เผยอวี้เห็นเช่นนั้นก็ตกใจและวิ่งไปตรงหน้าหลิงอวี๋พลันชักกระบี่ออกมาเตรียมตั้งรับตามสัญชาตญาณเมื่อเซียวหลินเทียนเห็นเช่นนั้นก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกัน แล้วกระโดดลงมาจากหลังของเสือปีกก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1983

    หลิงอวี๋เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งยังเดินมาอีกครึ่งวัน นางทนมิไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับตาลงแล้วผล็อยหลับไปรู้สึกว่าเพิ่งนอนหลับไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของเผยอวี้ “ฟ้าสางแล้ว! รีบตื่นเร็วเข้า! พวกเราไปช่วยพี่ใหญ่ของข้ากัน!”หลิงอวี๋แอบกลอกตาใส่เขา นางรู้สึกว่าทั้งร่างกายนี้ราวกับถูกบดขยี้มา นางปวดเมื่อยและอ่อนแรงมากนางลืมตาขึ้นก็เห็นแสงลอดผ่านกิ่งไม้และส่องลงมาที่บนตัวพวกเขาเป็นลายไปหมด“แม่นางสิง ข้าไปดูบริเวณรอบ ๆ มาแล้ว หาได้มีเส้นทางอื่นไม่ ถ้ำงูนั้นเป็นทางเดียวที่สามารถผ่านไปที่ภูเขาด้านหลังได้!”เผยอวี้เอ่ยอย่างหงุดหงิด “ข้ายังแอบไปตรวจสอบดูที่ทางถ้ำงูมาด้วย งูพวกนั้นมีอยู่มากกว่าที่พวกเราเห็นเมื่อคืนนี้เสียอีก!”ผลลัพธ์อยู่ในการคาดเดาของหลิงอวี๋อยู่แล้ว นางจึงมิได้รู้สึกตกใจอะไร“ข้าจะไปดูเสียหน่อย!”หลิงอวี๋ลุกขึ้นไปตรวจสอบเมื่อคืนมืดมาก มองเห็นป่าลึกแห่งนี้ได้มิชัด วันนี้เมื่อหลิงอวี๋อาศัยแสงสว่างมองไป ก็เห็นว่าป่าไม้ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านั้นมองมิเห็นจุดสิ้นสุดจริง ๆหากคิดจะหาเส้นทางอ้อมไปใหม่ ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้!“เจ้าคาดว่าถ้ำงูจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน?”หลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1982

    เผยอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยถามออกไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋แย่งคบเพลิงไปเสียแล้วหลิงอวี๋ถือคบเพลิงส่องไปด้านข้าง แล้วเผยอวี้ก็เห็นว่าเถาวัลย์หนาเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อยเขายังคิดว่าตนเองตาฝาด ที่นี่ก็ไม่มีลม แล้วเถาวัลย์จะเคลื่อนไหวได้อย่างไรกัน?หลิงอวี๋จึงหมุนคบเพลิงไปโดยรอบ และสิ่งที่สายตาของนางมองเห็นก็ทำให้นางรู้สึกหายใจติดขัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นมิใช่เถาวัลย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นงูพิษฝูงงูที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้น บางตัวก็มีขนาดเท่าปากชาม และลวดลายบนตัวก็มีสีคล้ายกับเถาวัลย์ หากมิสังเกตก็จะคิดว่าเป็นเถาวัลย์“นั่นงูหรือ?”เสียงของผู้รอบรู้ลดต่ำลงทันที และเริ่มสั่นเครือขึ้นมาโดยมิรู้ตัว “สวรรค์ งูมากถึงเพียงนั้น นี่… นี่… นี่ต้องเป็นหมื่นตัวกระมัง!”เผยอวี้ก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้รอบรู้ เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวทันทีเขาเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูมากมายได้อย่างมิเกรงกลัว แต่งูมากถึงเพียงนี้… เขาจะสังหารได้หมดหรือ?“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”เสียงของเผยอวี้ก็สั่นขึ้นมาโดยมิรู้ตัวเช่นกัน“ค่อย ๆ ถอยออกไปก่อน! ห้ามส่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status