บททั้งหมดของ บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่: บทที่ 901 - บทที่ 910

1666

บทที่ 901

ตัวเขาลืมข้อนี้ไปจริง ๆ!“ท่านอาจจะอยากชีวิตที่มั่นคง แต่...จะมีสักกี่คนที่จะเชื่อและจะมีสักกี่คนที่มั่นใจได้กัน?”“ตอนที่ยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ ก็คงอาจไม่สนใจ แต่ถ้าหากมีคนที่มีพลังพอจะสะเทือนตัวเองได้ ท่านคิดว่าพวกเขาจะปล่อยท่านไว้ได้หรือ?”“แค่ท่านเคยบอกว่าท่านไม่ชอบที่จะสู้เพื่ออำนาจ แต่แค่ชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขสักที่น่ะรึ?”“คนอื่นไม่รู้เรื่องนี้ แต่ข้าไม่เชื่อ ยิ่งกว่านั้น ข้าบอกท่านได้เลย หวังหยวน... หากวันหนึ่งข้าเอาต้าเย่มาไว้ในกำมือของข้าได้ คนแรกที่ข้าจะฆ่าก็คือท่าน!"หมานต๋าถูมองไปที่หวังหยวนอย่างไม่ปิดบัง นั่นคือสิ่งที่เขาคิด!เขาจะไม่ยอมให้ผู้ชายฉลาดแบบนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขปลอดภัยเด็ดขาด!เพราะกลัวจึง...ต้องกำจัดขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก!นี่แหละความโหดเหี้ยมที่คนเป็นกษัตริย์ต้องมี!หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก เขารู้ว่าหมานต๋าถูพูดจนถึงตอนนี้มีไว้เพื่อเตือนตัวเองจริง ๆ!”เขาคิดอย่างนั้น แล้วคนอื่นจะคิดอย่างนั้นด้วยเหรอ?ไม่ต้องบอก คนแรกที่คิดเช่นนั้นและลงมือคือจักรพรรดิซิงหลง!ไม่เคยคิดอยากได้รับการยกย่อง และไม่อยากเข้าราชสำนัก เหมือนกับวังไห่เทียนมีโอกาส
Read More

บทที่ 902

ในตอนนี้หมานต๋าถูถือว่าหวังหยวนเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริง!คู่ต่อสู้ที่ต้องแข่งขันกันจริง ๆ ในอนาคต!หวังหยวนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยแต่หลังจากได้ยินสิ่งที่พูดของหมานต๋าถู เขาก็ต้องลองคิดเรื่องนี้!โลกกำลังวุ่นวาย...เกรงว่ามันจะสะเพร่าเกินไปแล้วจริง ๆ!แม้ว่าตระกูลไป๋จะรอได้ แต่ตระกูลเซิ่งนั้นรอไม่ได้!“วันนี้เจ้าและข้ามีบทสนทนาที่ดีต่อกัน แต่เจ้ายังต้องระวัง ท้ายที่สุดแล้วอำนาจของตระกูลเซิ่งก็ยังอยู่ในแคว้นหมานของข้า หากเจ้าตายที่นี่ ข้าเองก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ”“แต่วางใจเถอะ พวกเราแคว้นหมานไม่เคยคิดที่จะทำสงครามกับต้าเย่!”หมานต๋าถูก็ยิ้มเช่นกัน ตระกูลเซิ่งในปัจจุบันอาจไม่สนแคว้นหมานอีกต่อไปคนที่พวกเขาจะต้องจัดการน่าจะเป็นตระกูลไป๋!ในเวลาเดียวกัน ในห้องทรงพระอักษรเมืองหลวงของต้าเย่ จักรพรรดิซิงหลงหน้าซีด บรรยากาศอ่อนแรงแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาสีหน้าดูแย่มาก!ตัวเองป่วยจริงรึเปล่า?ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หมอหลวงมาตรวจเขาหลายครั้งและไม่มีอย่างอื่น ผลการวินิจฉัยก็คือเขาอ่อนแอมาก!เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เขาอายุแค่สามสิบปีเอง ทำไมเขาถึงย่ำแย่ได้ขนาดนี้?“ฝ่าบาทพ่ะย
Read More

บทที่ 903

การแต่งตั้งรัชทายาทจะง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร แน่นอนว่าต้องหาองค์ชายที่มีคุณสมบัติเป็นรัชทายาทให้ได้!ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อน อย่างไรก็ตาม องค์ชายยังไม่โต รอให้พวกเขาเติบใหญ่อายุสิบห้าหรือสิบหกปี!นั่นคือสิ่งที่ข้าราชบริพารตกลงกันตั้งแต่ต้นแต่ตอนนี้แค่ป่วยไข้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่โรคร้ายแรงก็มากังวลเรื่องที่ใครจะได้เป็นรัชทายาท มันเป็นฝีมือของใครกันแน่?จักรพรรดิซิงหลงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และหลังจากนั้นไม่นานก็กล่าวว่า “ท่านเสนาบดี ทุกคนอยากให้แต่งตั้งรัชทายาท เจ้าในฐานะเสนาบดี การแต่งตั้งรัชทายาทนี้ ข้าอยากให้เจ้าไปสอบถามเป็นการส่วนตัว สำหรับพวกเขา คิดว่าใครเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เป้าชิงสื่อก็รีบพูดว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้เรื่องการแต่งตั้งรัชทายาทคนส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย”“กลุ่มแรก คือบางคนคิดว่าฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดิน ตอนนี้ก็มีองค์ชายแล้ว องค์ชายห้าก็ควรแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ถือได้ว่าเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์อย่างถูกต้อง”ทันทีที่พูดจบ จักรพรรดิซิงหลงก็จิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ สีหน้าดูไม่พอใจเล็กน้อย!ตระกูลไป๋!หรือว่าตระกูลไป๋กำลังจะลงม
Read More

บทที่ 904

ทันทีที่จักรพรรดิซิงหลงถามคำถามนี้ ทำให้ไป๋เหยียนเฟยตกใจจนอึ้งไปเลย!คำถามนี้...นางตกใจมากจนหน้าซีด และทรุดตัวลงกับพื้นทันที“ฝ่าบาท...พระองค์...ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะเพคะ ใครจะเป็นรัชทายาท? ฝ่าบาทคือผู้กุมอำนาจสูงสุด! ผู้หญิงอย่างหม่อมฉันจะไปก้าวก่ายได้อย่างไร”ไป๋เหยียนเฟยรู้ว่าฝ่าบาทต้องสงสัยนางแน่!ไม่อย่างนั้นคงไม่ถามคำถามแบบนี้ออกมาหรอก!พูดตามตรง ไป๋เหยียนเฟยก็รู้ดีว่าทำไมฝ่าบาทถึงได้ระแวงนัก ตอนนี้ในราชสำนักมีคนพูดว่ารัชทายาทควรเป็นลูกชายของนาง และก็มีคนบอกว่ารัชทายาทควรเป็นลูกของพระสนมเสียนกุ้ยเฟยนั่นเป็นสาเหตุที่ฝ่าบาทมาสอบสวน!แต่พูดตามตรง นางไม่เคยก้าวก่ายเรื่องราชสำนักเลย!ทันทีที่พูดจบ จักรพรรดิซิงหลงก็พ่นหายใจอย่างไม่สบอารมณ์“จริงหรือ? ฮองเฮาเป็นตัวตั้งตัวตีในงานบริหารของราชสำนัก น่าขำจริง ๆ ที่บอกว่าไม่มีความคิดเช่นนั้น!”"บอกมาเถอะ ข้าจะฟังความคิดเห็นของเจ้า และดูว่าใครเหมาะสมสำหรับตำแหน่งรัชทายาท!"จักรพรรดิซิงหลงหายใจฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์ เขาจะบีบให้ฮองเฮาพูดออกมาไม่ว่าอะไรก็ตาม!ไม่ใช่แค่ฮองเฮาเท่านั้น แต่ยังเป็นพระสนมเสียนกุ้ยเฟยด้วย!เขาอยากจะบีบ
Read More

บทที่ 905

ไป๋เหยียนเฟยรู้ว่าฝ่าบาทเตือนนาง และให้นางเตือนตระกูลไป๋!แต่นางกระพริบตาแล้วถามอีกครั้ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีคำพูดที่ไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่?”หลังจากพูดเช่นนั้น จักรพรรดิซิงหลงก็นิ่งไปอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยักหน้าและพูดว่า “ว่ามาสิ”ไป๋เหยียนเฟยจึงกล่าวต่อไปว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันยังรู้ว่าในบรรดาองค์ชายทั้งห้านั้น นอกจากองค์ชายห้าที่เพิ่งประสูติ และยังเร็วเกินไปที่จะเอ่ยถึง ส่วนองค์ชายอีกสี่องค์ล้วนฉลาดอย่างยิ่ง ในหมู่พวกเขา องค์ชายใหญ่หย่งเอ๋อร์ เขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบพันปี”“ฝ่าบาททรงสั่งสอนให้เขาเป็นองค์รัชทายาทในอนาคตมิใช่หรือ? ตอนนี้ข้าราชบริพารอยากแต่งตั้งรัชทายาท ฝ่าบาทเองก็ทรงคิดที่จะแต่งตั้งหย่งเอ๋อร์เป็นรัชทายาทอยู่แล้ว ทำไม...ไม่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้แต่งตั้งรัชทายาทล่ะเพคะ?”คำพูดของไป๋เหยียนเฟยดูเหมือนจะพูดเพื่อหย่งเอ๋อร์แต่ที่จริงแล้ว นางรู้จักและเข้าใจคนอย่างซิงหลงเป็นอย่างดี!เขาไม่ชอบฟังสิ่งที่คนอื่นพูด!เขาหัวแข็ง เอาแต่ใจ ถ้ามีคนกดดัน เขาจะคิดว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด!เขาต้องตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง ถึงแม้การตัดสินใจจะเหมือนกับการตัดสินใจของคน
Read More

บทที่ 906

จักรพรรดิซิงหลงถูกคำพูดของไป๋เหยียนเฟยกำราบไว้แน่นอนว่าเขาแค่ปล่อยไป๋เหยียนเฟยไว้ก่อน แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยตระกูลไป๋ไปแต่หากว่ากันอีกครั้งว่าตระกูลไป๋ยังไม่ได้ทำอะไร อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ ตระกูลไป๋ก็ยังเก็บตัวเงียบอยู่อย่างไรก็ตาม เขายังกังวลเกี่ยวกับตระกูลเซิ่ง“ฮองเฮาใส่ใจจริง ๆ” จักรพรรดิซิงหลงยิ้มแล้วเอ่ยออกมาไป๋เหยียนเฟยยิ้มและพูดว่า "ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นแค่ผู้หญิง ฝ่าบาทคือฟ้าของหม่อมฉัน ตราบใดที่ฝ่าบาททรงสบายดี เรื่องอื่นหม่อมฉันก็ไม่สนใจเพคะ"“ยิ่งกว่านั้น หม่อมฉันรู้ว่าลูกหลานของหม่อมฉันโชคดี ตำแหน่งของจักรพรรดิองค์นี้ถูกกำหนดโดยพระองค์ หากไม่ใช่พระองค์ หม่อมฉันจะทำอะไรได้”คำพูดของไป๋เหยียนเฟยทำให้จักรพรรดิซิงหลงรู้สึกสบายใจหลังจากที่เขาออกจากตำหนักของไป๋เหยียนเฟยแล้ว เขาก็ไปยังตำหนักของพระสนมเสียนกุ้ยเฟยช่วงนี้รู้สึกไม่พอใจมากเกี่ยวกับหัวข้อเรื่ององค์ชายใหญ่หย่งเอ๋อร์ที่เป็นรัชทายาท!ดังนั้นหลังจากมาถึง พระสนมเสียนกุ้ยเฟยก็เอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันทีพระสนมเสียนกุ้ยเฟยรู้อยู่นานแล้วว่าฝ่าบาทจะสงสัยระแวงนาง และนางก็ได้คิดหาข้อแก้ตัวไว้แล้ว“ฝ่าบาท พระองค์ทรงฝ
Read More

บทที่ 907

หลังจากที่เซิ่งฟานสี่พูดจบ พระสนมเสียนกุ้ยเฟยก็ตกใจมาก“พี่...หมายความว่า...ให้ข้าลงมือกับฝ่าบาทรึ...? แต่...ไม่รีบเกินไปหน่อยหรือ?”พระสนมเสียนกุ้ยเฟยคิดว่าการปล่อยให้จักรพรรดิซิงหลงป่วยไปอย่างช้า ๆ ถึงตอนนั้นลูกชายของนางจะมีโอกาสได้เป็นรัชทายาทเมื่อได้เป็นรัชทายาทแล้ว ทุกอย่างก็เป็นอันจบแต่ใครจะรู้ ที่พี่ใหญ่จะสื่อคือรอนานขนาดนั้นไม่ได้!เซิ่งฟานสี่เองก็รู้ว่าเขาร้อนรนอยู่ไม่น้อยแต่...เขารอไม่ไหวแล้ว!ถ้ามัวแต่รอแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ!จักรพรรดิซิงหลงสงสัยตระกูลหลักทั้งสี่อยู่แล้ว หากพวกเขาไม่ลงมือ จักรพรรดิซิงหลงจะค่อยๆ ทำให้พวกเขาอ่อนแอลงท้ายที่สุดแล้ว จักรพรรดิซิงหลงก็ปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนหมูในคอก เลี้ยงให้โตรอเวลาถูกเชือด!ตอนนี้จักรพรรดิซิงหลงทรงประชวร เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือ!หากทิ้งโอกาสนี้ พูดตามตรง ไม่รู้จริง ๆ ว่าเมื่อไหร่จะมีช่วงเวลาแบบนี้ได้อีก!“น้องพี่ เวลาไม่คอยท่า หากเราไม่ลงมือตอนนี้ โอกาสก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ.นะ!”เซิ่งฟานสี่พูดขึ้นมา หลังจากพูดจบ พระสนมเสียนกุ้ยเฟยก็กังวลมาก!เดิมทีนางไม่ได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้เลย!“พี่ชาย พี่..
Read More

บทที่ 908

หวังหยวนไม่ได้ประจบ แต่เขาเป็นเช่นนั้นจริง ๆเขารู้เกี่ยวกับความสามารถของหมานต๋าถู เขาเป็นคนมีความสามารถอย่างมาก และมีทักษะความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งมาก พูดตามตรง มีเขาอยู่ แคว้นหมานจะไม่มีเหตุคาดไม่ถึงเกิดขึ้นมากนักแน่เป็นคู่แข่งกัน!เมื่อเทียบกันแล้ว อาจจัดการได้ยากกว่าเซียวฉู่ฉู่!เพราะหมานต๋าถูเป็นนกอินทรีที่ต้องการโผบินสู่ท้องฟ้าและโลก ความอ่อนโยนของเขามีไว้เพื่อแคว้นหมานเท่านั้นสำหรับคนนอก เขาคือคนเลือดเย็น!ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเซิ่งหรือตัวเองก็ตาม!นั่นเป็นเรื่องจริง!คำพูดที่เขาพูดกับเขานั้น เป็นการเตือนตัวเองว่าทั้งสองจะต้องต่อสู้กันไม่ช้าก็เร็วถ้าเขามีพลังที่จะยึกครองใต้หล้าได้ เขาจะไม่ยอมปล่อยเขาไป!หมานจิ้งยิ้ม นางรู้ดีอยู่แล้วว่าพี่ชายของนางสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ความวุ่นวายในตอนนี้ ทำให้นางกังวลมากนางไม่ใช่คนกระหายเลือด นางไม่ชอบต่อสู้ฆ่าฟัน แต่นางไม่มีหนทางจะจัดการกับเรื่องแบบนี้ได้“พี่ชายของข้าบอกว่าวันนี้เขาอยากพบเจ้า”หมานจิ้งพูดขึ้นมาหวังหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหลังจากเข้าไปในวัง ก็เห็นหมานต๋าถู“หวังหยวน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะออกเดินทา
Read More

บทที่ 909

ตอนไปใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่พอกลับไปใช้เวลาแค่วันเดียวเท่านั้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็เข้ามาในเมืองเมื่อกลับมาถึงบ้าน ทั้งสามสาวที่ได้เห็นหวังหยวนก็หลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมาทันทีในสามวันมานี้ พวกนางกังวลและกระวนกระวายใจเหลือเกิน“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าบอกเจ้าแล้ว ครั้งนี้ข้าจะรีบกลับมา เป็นห่วงอะไรกัน หืม”หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแต่หลี่ซือหานอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ข้า...ข้าไม่ห่วง เป็นน้องหูและน้องหวงต่างหากที่ห่วงท่านจนนอนไม่หลับเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งสองสาวก็ไม่พอใจทันที และพูดประชดเบา ๆ “ฮึ ไม่รู้ว่าใคร ข้าวน้ำไม่แตะ เฝ้ารอที่หน้าประตูทุกวัน”“ใช่แล้ว! ยังมาพูดแบบนั้นกับเราอีก คุณชาย พี่หลี่เป็นคนที่เป็นห่วงท่านมากที่สุด!”ผู้หญิงสองคนอดไม่ได้ที่จะแย้งกลับ เมื่อได้ฟังแบบนี้ หวังหยวนก็หัวเราะออกมาในตอนกลางคืน หลี่ซือหานนอนอยู่บนเตียงกอดหวังหยวนและพูดเบา ๆ “ท่านพี่ เมื่อท่านกลับมาแล้ว มาจัดงานแต่งงานกันเถอะ เอาล่ะ...น้องสาวทั้งสองแทบรอไม่ไหวแล้ว…”หลี่ซื่อหานรีบพูด ทั้งสองคนมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน เหมือนนางกับหวังหยวนตอนนี้ไม่มีแม่สื่ออย่างเป็นทางการให้แต่
Read More

บทที่ 910

หลังจากได้ฟัง หวังหยวนก็เข้าใจทันทีฉนวนกันเสียงในยุคนี้ไม่ดีเลยจริง ๆ แล้วเมื่อคืนก็เสียงดังจริง“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”หวังหยวนหัวเราะ หลี่ซื่อหานที่ตื่นขึ้นในตอนนี้ เห็นทั้งสองสาวก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเช้านี้ ขณะที่ทั้งสี่คนกำลังรับประทานอาหารอยู่ บรรยากาศก็ดูแปลกไปเล็กน้อยหลังอาหารเช้า หวังหยวนเมื่อมาถึงซูโจว ร้านของเขาเริ่มสงบลงแล้ว ในขณะเดียวกัน หลังจากที่แรงกดดันจากตระกูลเซิ่งลดลง พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากต่างก็ชื่นชอบสินค้าทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลคริสตัลหรือถ้วยคริสตัลอย่างไรก็ตาม การสร้างเส้นทางการค้าจริง ๆ ยังยากอยู่สักหน่อย!เขาไม่กังวลเรื่องอื่นเลย สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือพวกโจรระหว่างทาง!เมื่อคิดตรงจุดนี้แล้ว หวังหยวนก็หายใจเข้าลึก ๆ และเรียกต้าหู่มา“ต้าหู่ ข้าอยากจะถามฐานที่มั่นของพวกโจรในซูโจวและข้าต้องการเปิดเส้นทางการค้า ข้าย่อมอยากร่วมมือกับพวกเขาอยู่แล้ว”หลังจากได้ยินดังนั้น.ต้าหู่ก็พยักหน้าและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำทั้งสามสาวที่เห็นฉากนี้ พวกนางไม่ได้พูดอะไรมาก พวกนางเข้าใจ มีทั้งอันตรายและความยากลำบากมากมายตลอดทาง หากต้องการความปลอดภัย พวกเขาก็ต้องปลอบใจ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
8990919293
...
167
DMCA.com Protection Status