บททั้งหมดของ บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่: บทที่ 1691 - บทที่ 1700

1862

บทที่ 1691

รุ่งเช้าวันต่อมา ที่กลางเมืองหลิงหลังจากเดินทางมาทั้งคืน เกาเล่อก็มาถึงกลางเมืองหลิง และตอนนี้กำลังยืนอยู่ต่อหน้าหวังหยวน ผมเผ้าของเขากระเซอะกระเซิง ดวงตาไร้ซึ่งชีวิตชีวา ดูอ่อนล้าซีดเซียว เขาคุกเข่าลงต่อหน้าหวังหยวน และตบหน้าตัวเองอย่างแรงสองที“ทุกอย่างเป็นแผนของข้าเองขอรับ”“เนื่องจากเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้แล้ว ข้าจึงต้องรับผิดชอบเต็มที่”“หากไม่ใช่เพราะแผนของข้าล้มเหลว เรื่องราวก็คงไม่เป็นเช่นนี้…”“ท่านขุนพลโปรดลงโทษข้าเถิดขอรับ”เกาเล่อรู้สึกเจ็บปวดในใจ ตลอดมาที่เขาได้ติดตามหวังหยวน ไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นความผิดของเขาจริง ๆ ทำให้หวังหยวนต้องอับอายขายหน้า เหล่าทหารต้องถอนตัวออกจากด่านจวี้เป่ย… หากไม่ใช่เพราะเขาตัดสินใจผิดพลาด เหตุการณ์ก็คงไม่เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่?หวังหยวนส่ายหน้า แล้วช่วยประคองเกาเล่อให้ลุกขึ้น ช่วยปัดฝุ่นบนตัวเขา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าพูดอะไรเช่นนี้”“ก่อนทำเรื่องนี้ เจ้าไม่ได้ปรึกษาข้าหรือ?”“และข้าก็ตกลงกับเจ้าแล้ว ทุกอย่างจึงเป็นไปตามการกระทำของเจ้า”“ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ก็ไม่ควรโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1692

“เนื่องจากขุนพลใหญ่ไป๋ฝูซานได้สิ้นชีพไปแล้ว บัดนี้ข้าจึงจะแต่งตั้งเจ้าเป็นขุนพลใหญ่คนใหม่ของอาณาจักรต้าเป่ย!”“ต่อไปนี้จงนำทัพสามกองทัพของข้า ขยายอาณาเขตให้แก่ข้า และทำให้อาณาจักรต้าเป่ยยิ่งใหญ่เหนือดินแดนทั้งเก้า!”ไป๋ชิงชางผู้ประทับอยู่บนบัลลังก์กล่าวอย่างช้า ๆเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารต่างมองหานเทาด้วยสายตาอิจฉาริษยา ช่างเป็นการขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็วจริง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นเพียงขุนพลไร้อำนาจ แต่บัดนี้กลับได้ตำแหน่งสูงส่ง และได้เป็นถึงขุนพลใหญ่! กล่าวได้ว่าอำนาจวาสนาแผ่ไพศาลไปทั่วแผ่นดิน!หลังจากได้เรียนรู้บทเรียนจากไป๋ฝูซานแล้ว ครั้งนี้ไป๋ชิงชางฉลาดขึ้นมาก เขาไม่ได้มอบอำนาจทางทหารทั้งหมดให้แก่หานเทา แต่เลือกที่จะบริหารจัดการโดยการกระจายอำนาจ ซึ่งวิธีนี้ย่อมมีข้อดีหลายประการ นั่นคืออนาคตจะไม่มีใครมาคุกคามอำนาจของเขาได้อีก! และไม่มีใครกล้าที่จะวางตัวเย่อหยิ่งต่อไป๋ฝูซานด้วย“ฝ่าบาท!”“มีข่าวสารด่วนจากกองทัพพ่ะย่ะค่ะ!”ข่าวด่วนจากแปดร้อยลี้มาถึง!สีหน้าของไป๋ชิงชางเปลี่ยนไปทันที เขารีบกล่าวว่า “รีบนำมาให้ข้าดู!”ไป๋ชิงชางอ่านข่าวแล้วก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ไอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1693

เมื่อถึงวันที่แผ่นดินสงบสุขย่อมสามารถพักผ่อนได้ การซ่อมแซมกำแพงเมืองก็จะไม่สายเกินไปเหตุที่ต้องซ่อมแซมด่านจวี้เป่ย เพราะที่นี่เชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรต้าเป่ยและเมืองหลิง ถือว่าเป็นประตูเมืองของเมืองหลิงเช่นกัน ดังนั้นหลังจากหวังหยวนยึดเมืองได้ จึงจำเป็นต้องซ่อมแซมให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยมาแย่งชิงไปได้อีกแต่สถานการณ์ในครั้งนี้แตกต่างออกไป เมื่อยึดเมืองได้แล้ว ก็เพียงแต่ค่อย ๆ ซ่อมแซม และพวกเขาจะนำทัพไปทางเหนือทันที! เพื่อบุกโจมตีเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเป่ย หลังจากนั้นด่านจวี้เป่ยจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญอีกต่อไปเมืองโดยรอบตั้งอยู่ใกล้กันสามารถป้องกันกันได้ ทำให้ประหยัดปัญหาไปได้มากหลังจากต่อสู้มาครึ่งวัน เอ้อหู่ก็ยังไม่สามารถยึดเมืองได้ในกระโจมบัญชาการ“พี่หยวน!”“ทหารของอาณาจักรต้าเป่ยดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นปืนใหญ่ตระกูลหวัง พวกเขากลัวจนตัวสั่น ถึงแม้เราจะไม่บุกเมือง พวกเขาก็อยากจะมอบเมืองให้เรา!”“แต่ครั้งนี้ถึงแม้จะถูกระเบิดตาย พวกเขาก็ไม่ถอย ยังคงยึดเมืองไว้ตลอด!”“และด่านจวี้เป่ยทั้งสองด้านเป็นภูเขา พวกเขาอยู่บนที่สูง มองลงมา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1694

“มาที่นี่ได้อย่างไร?” เสียงทุ้มนุ่มของเอ้อหู่ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เมื่อได้ฟังคำพูดของหวังหยวน ปมในใจของเขาก็ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์เกาเล่อส่ายศีรษะพลางเอ่ย “ข้าเป็นคนใจร้อน ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่ได้ช่วยท่านขุนพลทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายด้วย จึงกินไม่ได้นอนไม่หลับ…” “นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเช้า จึงคิดจะมาพูดคุยกับทุกท่าน”“ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินทุกท่านพูดคุยกันเรื่องด่านจวี้เป่ย ครานี้ข้าอาจจะช่วยได้…”ก่อนหน้านี้เกาเล่อมักจะรับปากอย่างมั่นใจและไม่เคยถอยหนี เขามีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก นั่นคือนิสัยของเขาอย่างแท้จริงแต่บัดนี้กลับแตกต่างออกไป เขาพูดจาอึกอักและไม่กล้ารับปาก ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างบาดแผลในใจเขาไม่น้อย…หวังหยวนย่อมเข้าใจดี คงมีเพียงกาลเวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของเกาเล่อได้ คนอื่นนั้นยากที่จะช่วยเหลือได้“รีบพูดมาเถิด!”“ข้ากำลังปวดหัวเพราะเมืองนี้เหลือเกิน!”ดวงตาของเอ้อหู่เป็นประกาย พลางเร่งเร้าอย่างกระวนกระวายหวังหยวนก็หันไปมองเกาเล่อ เขามักจะสร้างความประหลาดใจให้แก่ตนเสมอ“ก่อนหน้านี้ขณะอยู่ที่ด่านจวี้เป่ย ข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1695

“ดี!”“เมื่อท่านถงได้กล่าวเช่นนั้น ก็แสดงว่าแผนการนี้ไม่มีปัญหา!”“คืนนี้จงยกทัพบุกด่านจวี้เป่ยทันที!”เมื่อหวังหยวนสั่งการ เหล่าแม่ทัพต่างก็ตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้ต่อสู้กันอย่างเต็มที่! เพียงแค่ยึดด่านจวี้เป่ยได้ เมืองอื่น ๆ ก็ย่อมสามารถยึดได้อย่างง่ายดาย! เพราะด่านจวี้เป่ยเป็นเมืองที่ง่ายต่อการป้องกัน แต่ยากที่จะถูกโจมตี นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี!หลังจากตกลงกันแล้ว หวังหยวนก็เริ่มเลือกทหาร แม้ว่าในเวลากลางวันเอ้อหู่จะต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและเป็นขุนพลแนวหน้าเสมอ แต่หวังหยวนจะไม่อยากให้เขาเป็นขุนพลแนวหน้าอีกครั้ง แต่เอ้อหู่ก็ยืนกรานที่จะต่อสู้! สุดท้ายหวังหยวนจึงให้เขาเป็นผู้นำทหารเข้าไปในทางลับ เพื่อเปิดประตูเมืองด่านจวี้เป่ย!เอ้อหู่ตื่นเต้นมาก นำทหารออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ทางลับ! ศึกนี้ต้องชนะเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะพ่ายแพ้หวังหยวนรู้ถึงความสำคัญของศึกนี้ จึงเป็นผู้นำทัพคอยอยู่ด้านหลัง! คืนนี้คงไม่มีใครหลับลง!ขณะนั้น ณ ด่านจวี้เป่ยผู้ที่ประจำการอยู่ที่ด่านจวี้เป่ยคือจ้าวเทียนอี ขุนพลคนสนิทของหานเทา คนผู้นี้มีความกล้าหาญและมีความเฉลียวฉลาด ติดตามหานเทามาโดยตลอด!
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1696

เบื้องหน้าเป็นเพียงทหารรักษาการณ์ธรรมดา ถึงแม้จะเป็นสายลับของหวังหยวน ก็ไม่อาจใช้หนทางเช่นนี้เปิดเผยตนเองได้!เพราะนับว่าเป็นการกระทำที่เสียมากกว่าได้ จึงมีเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น… ทหารของหวังหยวนบุกเข้าเมืองได้แล้ว!“ขุนพลจ้าว!”“บัดนี้สถานการณ์เร่งด่วน เราควรออกไปดูสักหน่อยขอรับ!”“ด่านจวี้เป่ยเป็นด่านหน้าของอาณาจักรต้าเป่ย ฝ่าบาทจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะยึดเมืองนี้คืน หากเสียเมืองนี้ไปเพราะพวกเรา พวกเราก็จะเป็นคนบาปตลอดกาล…”ขุนพลเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังคำสั่งของหานเทา หานเทาเพิ่งได้เป็นขุนพลใหญ่ บัดนี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะแสดงฝีมือ การรักษาเมืองนี้ไว้ให้ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด! แต่ไม่คาดคิดเลย… เพิ่งจะรบได้ไม่นาน พวกเขาก็เสียด่านสำคัญนี้ไปแล้ว! หากถอยทัพในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถชี้แจงกับหานเทาได้ และไม่มีหน้าไปพบฝ่าบาทด้วย!“ขุนพลทั้งหลายตามข้ามา!”“แม้ทหารของหวังหยวนจะบุกเข้ามา แต่ที่นี่ก็มีทหารห้าหมื่นนาย มีหรือจะรับมือกับทหารของหวังหยวนไม่ได้?”จ้าวเทียนอีกล่าวเสียงเย็น แล้วถือหอกเดินออกไปนอกประตู ขุนพลที่อยู่เบื้องหลังต่างก็ตามไป แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้จะเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1697

ขุนพลต่างมองหน้ากันแล้วกล่าวว่า“ข้าเห็นด้วยกับขุนพลจ้าว ถึงแม้เราจะหนีไปก็ไม่มีหน้าไปพบฝ่าบาทและขุนพลใหญ่หานอยู่ดี”“เช่นนั้นเราก็ร่วมชะตากรรมกับเมืองนี้เถิด!”“ตายที่นี่วันนี้ก็ไม่เสียใจ!”“อย่างน้อยก็ยังมีชื่อเสียงที่ดี!”ทุกคนต่างกำดาบและหอกเดินตามจ้าวเทียนอีไป เพื่อเข้าโรมรันกับทหารม้าของหวังหยวน!“ผู้ใดอยู่เบื้องหน้านั้น?”“ดูเหมือนจะกล้าหาญนัก”“บัดนี้พวกเขากำลังจะสิ้นท่าแล้ว แต่ยังคงสู้กับกองทัพของเราอยู่หรือ?”“แม้จะเป็นการเอาไข่ไปชนกับหิน แต่ก็เป็นคนที่มีความจงรักภักดี หากสามารถรับพวกเขาเข้ากองทัพได้ ก็จะเป็นประโยชน์แก่กองทัพของเราไม่น้อย”ค่ายบัญชาการของหวังหยวนได้เข้ามาในด่านจวี้เป่ยแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาก็เห็นจ้าวเทียนอีและพวกกำลังต่อสู้กับทหารอยู่บัดนี้จ้าวเทียนอีเหลือทหารเพียงสามพันนาย แต่ภายใต้การนำของเขา ทุกคนต่างไม่ยอมล่าถอย ยังคงต่อสู้ต่อไป นับว่ามีความกล้าหาญแล้วจงรักภักดีอย่างยิ่งเกาเล่อที่ยืนอยู่ข้างหวังหยวนมองไป จากนั้นจึงชี้ไปที่จ้าวเทียนอี “ผู้นี้คือขุนพลจ้าวเทียนอีที่หานเทาส่งมาประจำการ!”“เขาเป็นขุนพลที่มีฝีมือ”“ก่อนหน้านี้ข้าได้สืบเรื่องของ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1698

เพราะหากกระทำเช่นนั้น จุดอ่อนในการป้องกันอื่น ๆ จะปรากฏขึ้น และบัดนี้ด่านจวี้เป่ยไม่ใช่ด่านหน้าสำคัญเช่นแต่ก่อน เป็นเพียงกำแพงกั้นระหว่างอาณาจักรต้าเป่ยกับหวังหยวนเท่านั้น หากสามารถรักษาไว้ได้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเสียเมืองไปก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก ยังคงสามารถต่อรองกับหวังหยวนต่อไปได้“ท่านขุนพลใหญ่ เราจะไม่ส่งทหารไปช่วยขุนพลจ้าวหรือขอรับ?”“จากคำบอกเล่าของทหารที่กลับมา พวกเขาตั้งใจจะพาขุนพลจ้าวหนีออกจากประตูทางทิศเหนือ แต่ขุนพลจ้าวกลับไม่ยินยอม ต้องการจะร่วมชะตากรรมกับเมืองนั้นขอรับ”“บัดนี้ขุนพลจ้าวยังคงต่อสู้ หากเราไปช่วยเหลืออาจจะช่วยชีวิตขุนพลจ้าวไว้ได้!”“ขุนพลจ้าวนับเป็นผู้จงรักภักดี ถึงแม้จะเสียเมืองไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทหารเสียขวัญกำลังใจนะขอรับ!”ผู้บัญชาการของหานเทารีบกล่าวรายงานเมื่อได้ยินเรื่องราวของจ้าวเทียนอีแล้ว เขาก็รู้สึกตื่นเต้น! นึกอยากจะออกไปรบด้วย“จ้าวเทียนอีมันโง่เขลา ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะไม่ใช่คนโง่เสียอีก แต่กลับโง่เขลาเช่นนี้!”หานเทาพ่นลมหายใจ แล้วชี้ไปที่แผนที่เบื้องหลังก่อนกล่าวช้า ๆ “ก่อนหน้านี้ข้าได้กล่าวไว้แล้ว เราต้องรักษาด่านจวี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1699

ทุกคนมองหน้ากัน รองขุนพลที่เพิ่งพูดไปก็กล่าวว่า “สองแสนนาย!”“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าหวังหยวนมีทหารมากมาย แต่ใยไม่คิดว่าเหตุใดจ้าวเทียนอีจึงต่อสู้ได้นานเช่นนี้?”“เขามีทหารเพียงสามพันและเป็นทหารที่บาดเจ็บ ไม่มีกำลังรบแล้ว!”“ทหารของหวังหยวนเพียงแค่ถ่มน้ำลายกันคนละครั้ง ก็สามารถทำให้พวกเขาจมน้ำลายตายได้แล้ว แต่พวกเขากลับต่อสู้! นี่คือแผนการของหวังหยวนอย่างชัดเจน!”“เขากำลังรอให้เราไปช่วย จากนั้นก็จะฆ่าทหารที่ไปช่วย!”“หวังหยวนมีปืนใหญ่ตระกูลหวัง หากเราต่อสู้กับเขาโดยตรง เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”“เขาคิดแผนการที่ดี พวกเจ้ามองไม่ออกกันเลยหรือ?”ถ้อยคำของหานเทาทำให้ทุกคนเข้าใจ พวกเขาคิดน้อยเกินไปจริง ๆ… ลองคิดดูแล้วก็เป็นเช่นนั้น พวกเขากำลังคิดถึงความปลอดภัยของจ้าวเทียนอี และกำลังคิดถึงวิธีรักษาขวัญกำลังใจ แต่กลับมองข้ามความคิดของหวังหยวนไป ทหารสามพันนายต่อสู้กับทหารสองแสนนายจะต่อสู้ได้นานหลายชั่วโมงได้อย่างไร? นี่คือแผนการลวงหลอก!“รีบตามข้าออกจากค่าย ข้าต้องไปวางแผนตั้งรับ เพื่อป้องกันไม่ให้หวังหยวนเข้ามา!”“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริงระหว่างข้ากับหวังหยวน!”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1700

หวังหยวนมีความคิดในใจ บัดนี้ไม่อาจประมาท และไม่อาจดูหมิ่นเหล่าทหารของอาณาจักรต้าเป่ยได้ หานเทาไม่เพียงแต่มีความสามารถ เขายังมีกองทัพเจ็ดแสนนายของอาณาจักรต้าเป่ยอยู่ในกำมือ แม้จะยึดเมืองนี้ได้แล้ว แต่ทหารห้าหมื่นนายในเมืองก็หนีไปกว่าครึ่ง คาดว่าตอนนี้ได้กลับไปยังค่ายของหานเทาแล้ว ในการรบครั้งนี้ พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูได้เพียงหมื่นกว่าคนเท่านั้น นับว่าน้อยนิดยิ่งนัก ดังนั้นต่อไปนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่ให้เกิดความผิดพลาดเป็นอันขาด! ในสนามรบ หากให้โอกาสแก่ศัตรู ก็จะทำให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี“พี่หยวน”“เราจะนั่งรอความตายอยู่ที่นี่เพื่ออะไรขอรับ?”“ข้าคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องปล่อยข่าวลือ ท่านควรนำทัพออกไป เพียงมีท่านอยู่เคียงข้าง เหล่าทหารก็จะต่อสู้ด้วยความกล้าหาญแล้วขอรับ”“ข้าเชื่อว่าไม่นานเราจะบุกไปถึงเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเป่ยได้ และไป๋ชิงชางก็จะยอมสละบัลลังก์ให้เรา!”เอ้อหู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม บัดนี้เขาแทบจะรอเห็นหวังหยวนขึ้นครองราชย์ไม่ไหวแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนาง แม้พวกเขาจะไม่
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
168169170171172
...
187
DMCA.com Protection Status