Share

บทที่ 1696

Author: ชวินเป่ยอี๋
เบื้องหน้าเป็นเพียงทหารรักษาการณ์ธรรมดา ถึงแม้จะเป็นสายลับของหวังหยวน ก็ไม่อาจใช้หนทางเช่นนี้เปิดเผยตนเองได้!

เพราะนับว่าเป็นการกระทำที่เสียมากกว่าได้

จึงมีเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น…

ทหารของหวังหยวนบุกเข้าเมืองได้แล้ว!

“ขุนพลจ้าว!”

“บัดนี้สถานการณ์เร่งด่วน เราควรออกไปดูสักหน่อยขอรับ!”

“ด่านจวี้เป่ยเป็นด่านหน้าของอาณาจักรต้าเป่ย ฝ่าบาทจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะยึดเมืองนี้คืน หากเสียเมืองนี้ไปเพราะพวกเรา พวกเราก็จะเป็นคนบาปตลอดกาล…”

ขุนพลเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังคำสั่งของหานเทา

หานเทาเพิ่งได้เป็นขุนพลใหญ่ บัดนี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะแสดงฝีมือ การรักษาเมืองนี้ไว้ให้ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

แต่ไม่คาดคิดเลย…

เพิ่งจะรบได้ไม่นาน พวกเขาก็เสียด่านสำคัญนี้ไปแล้ว!

หากถอยทัพในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถชี้แจงกับหานเทาได้ และไม่มีหน้าไปพบฝ่าบาทด้วย!

“ขุนพลทั้งหลายตามข้ามา!”

“แม้ทหารของหวังหยวนจะบุกเข้ามา แต่ที่นี่ก็มีทหารห้าหมื่นนาย มีหรือจะรับมือกับทหารของหวังหยวนไม่ได้?”

จ้าวเทียนอีกล่าวเสียงเย็น แล้วถือหอกเดินออกไปนอกประตู

ขุนพลที่อยู่เบื้องหลังต่างก็ตามไป

แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้จะเ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1697

    ขุนพลต่างมองหน้ากันแล้วกล่าวว่า“ข้าเห็นด้วยกับขุนพลจ้าว ถึงแม้เราจะหนีไปก็ไม่มีหน้าไปพบฝ่าบาทและขุนพลใหญ่หานอยู่ดี”“เช่นนั้นเราก็ร่วมชะตากรรมกับเมืองนี้เถิด!”“ตายที่นี่วันนี้ก็ไม่เสียใจ!”“อย่างน้อยก็ยังมีชื่อเสียงที่ดี!”ทุกคนต่างกำดาบและหอกเดินตามจ้าวเทียนอีไป เพื่อเข้าโรมรันกับทหารม้าของหวังหยวน!“ผู้ใดอยู่เบื้องหน้านั้น?”“ดูเหมือนจะกล้าหาญนัก”“บัดนี้พวกเขากำลังจะสิ้นท่าแล้ว แต่ยังคงสู้กับกองทัพของเราอยู่หรือ?”“แม้จะเป็นการเอาไข่ไปชนกับหิน แต่ก็เป็นคนที่มีความจงรักภักดี หากสามารถรับพวกเขาเข้ากองทัพได้ ก็จะเป็นประโยชน์แก่กองทัพของเราไม่น้อย”ค่ายบัญชาการของหวังหยวนได้เข้ามาในด่านจวี้เป่ยแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาก็เห็นจ้าวเทียนอีและพวกกำลังต่อสู้กับทหารอยู่บัดนี้จ้าวเทียนอีเหลือทหารเพียงสามพันนาย แต่ภายใต้การนำของเขา ทุกคนต่างไม่ยอมล่าถอย ยังคงต่อสู้ต่อไป นับว่ามีความกล้าหาญแล้วจงรักภักดีอย่างยิ่งเกาเล่อที่ยืนอยู่ข้างหวังหยวนมองไป จากนั้นจึงชี้ไปที่จ้าวเทียนอี “ผู้นี้คือขุนพลจ้าวเทียนอีที่หานเทาส่งมาประจำการ!”“เขาเป็นขุนพลที่มีฝีมือ”“ก่อนหน้านี้ข้าได้สืบเรื่องของ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1698

    เพราะหากกระทำเช่นนั้น จุดอ่อนในการป้องกันอื่น ๆ จะปรากฏขึ้น และบัดนี้ด่านจวี้เป่ยไม่ใช่ด่านหน้าสำคัญเช่นแต่ก่อน เป็นเพียงกำแพงกั้นระหว่างอาณาจักรต้าเป่ยกับหวังหยวนเท่านั้น หากสามารถรักษาไว้ได้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเสียเมืองไปก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก ยังคงสามารถต่อรองกับหวังหยวนต่อไปได้“ท่านขุนพลใหญ่ เราจะไม่ส่งทหารไปช่วยขุนพลจ้าวหรือขอรับ?”“จากคำบอกเล่าของทหารที่กลับมา พวกเขาตั้งใจจะพาขุนพลจ้าวหนีออกจากประตูทางทิศเหนือ แต่ขุนพลจ้าวกลับไม่ยินยอม ต้องการจะร่วมชะตากรรมกับเมืองนั้นขอรับ”“บัดนี้ขุนพลจ้าวยังคงต่อสู้ หากเราไปช่วยเหลืออาจจะช่วยชีวิตขุนพลจ้าวไว้ได้!”“ขุนพลจ้าวนับเป็นผู้จงรักภักดี ถึงแม้จะเสียเมืองไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทหารเสียขวัญกำลังใจนะขอรับ!”ผู้บัญชาการของหานเทารีบกล่าวรายงานเมื่อได้ยินเรื่องราวของจ้าวเทียนอีแล้ว เขาก็รู้สึกตื่นเต้น! นึกอยากจะออกไปรบด้วย“จ้าวเทียนอีมันโง่เขลา ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะไม่ใช่คนโง่เสียอีก แต่กลับโง่เขลาเช่นนี้!”หานเทาพ่นลมหายใจ แล้วชี้ไปที่แผนที่เบื้องหลังก่อนกล่าวช้า ๆ “ก่อนหน้านี้ข้าได้กล่าวไว้แล้ว เราต้องรักษาด่านจวี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1699

    ทุกคนมองหน้ากัน รองขุนพลที่เพิ่งพูดไปก็กล่าวว่า “สองแสนนาย!”“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าหวังหยวนมีทหารมากมาย แต่ใยไม่คิดว่าเหตุใดจ้าวเทียนอีจึงต่อสู้ได้นานเช่นนี้?”“เขามีทหารเพียงสามพันและเป็นทหารที่บาดเจ็บ ไม่มีกำลังรบแล้ว!”“ทหารของหวังหยวนเพียงแค่ถ่มน้ำลายกันคนละครั้ง ก็สามารถทำให้พวกเขาจมน้ำลายตายได้แล้ว แต่พวกเขากลับต่อสู้! นี่คือแผนการของหวังหยวนอย่างชัดเจน!”“เขากำลังรอให้เราไปช่วย จากนั้นก็จะฆ่าทหารที่ไปช่วย!”“หวังหยวนมีปืนใหญ่ตระกูลหวัง หากเราต่อสู้กับเขาโดยตรง เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”“เขาคิดแผนการที่ดี พวกเจ้ามองไม่ออกกันเลยหรือ?”ถ้อยคำของหานเทาทำให้ทุกคนเข้าใจ พวกเขาคิดน้อยเกินไปจริง ๆ… ลองคิดดูแล้วก็เป็นเช่นนั้น พวกเขากำลังคิดถึงความปลอดภัยของจ้าวเทียนอี และกำลังคิดถึงวิธีรักษาขวัญกำลังใจ แต่กลับมองข้ามความคิดของหวังหยวนไป ทหารสามพันนายต่อสู้กับทหารสองแสนนายจะต่อสู้ได้นานหลายชั่วโมงได้อย่างไร? นี่คือแผนการลวงหลอก!“รีบตามข้าออกจากค่าย ข้าต้องไปวางแผนตั้งรับ เพื่อป้องกันไม่ให้หวังหยวนเข้ามา!”“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริงระหว่างข้ากับหวังหยวน!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1700

    หวังหยวนมีความคิดในใจ บัดนี้ไม่อาจประมาท และไม่อาจดูหมิ่นเหล่าทหารของอาณาจักรต้าเป่ยได้ หานเทาไม่เพียงแต่มีความสามารถ เขายังมีกองทัพเจ็ดแสนนายของอาณาจักรต้าเป่ยอยู่ในกำมือ แม้จะยึดเมืองนี้ได้แล้ว แต่ทหารห้าหมื่นนายในเมืองก็หนีไปกว่าครึ่ง คาดว่าตอนนี้ได้กลับไปยังค่ายของหานเทาแล้ว ในการรบครั้งนี้ พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูได้เพียงหมื่นกว่าคนเท่านั้น นับว่าน้อยนิดยิ่งนัก ดังนั้นต่อไปนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่ให้เกิดความผิดพลาดเป็นอันขาด! ในสนามรบ หากให้โอกาสแก่ศัตรู ก็จะทำให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี“พี่หยวน”“เราจะนั่งรอความตายอยู่ที่นี่เพื่ออะไรขอรับ?”“ข้าคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องปล่อยข่าวลือ ท่านควรนำทัพออกไป เพียงมีท่านอยู่เคียงข้าง เหล่าทหารก็จะต่อสู้ด้วยความกล้าหาญแล้วขอรับ”“ข้าเชื่อว่าไม่นานเราจะบุกไปถึงเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเป่ยได้ และไป๋ชิงชางก็จะยอมสละบัลลังก์ให้เรา!”เอ้อหู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม บัดนี้เขาแทบจะรอเห็นหวังหยวนขึ้นครองราชย์ไม่ไหวแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนาง แม้พวกเขาจะไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1701

    หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ทุกคนต่างก็กลับไปพักผ่อน เหลือเพียงถงจื่อเจี้ยนที่ยังอยู่ในห้อง“ท่านถง”“ท่านคงได้ยินถ้อยคำของทุกคนแล้ว”“บัดนี้ทุกคนต้องการทำศึกกับหานเทาโดยเร็ว แล้วบุกโจมตีเมืองยึดครองแผ่นดินของอาณาจักรต้าเป่ยทั้งหมด”“แต่มีเงื่อนไขสำคัญนั่นคือเราต้องเผชิญหน้ากับกองทัพหลายแสนนายของหานเทา”“ในเรื่องจำนวนทหารนั้น เราไม่ได้มีข้อได้เปรียบมากกว่า หากทำศึกในตอนนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อกองทัพของเรา”“แต่เหล่าขุนพลพูดถูก เราต้องรีบทำศึกกับอาณาจักรต้าเป่ยโดยเร็วที่สุด”“เพราะอาณาจักรต้าเป่ยมีแผ่นดินมากกว่าเรา หากยังล่าช้าต่อไป ทหารและเสบียงของพวกเขาจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่การทำศึกก็คือการใช้เสบียง เรามีเพียงแผ่นดินแคว้นเดียว ไม่อาจมีเสบียงสะสมได้มากถึงเพียงนั้น!”หวังหยวนเป็นผู้บัญชาการกองทัพ แต่ก็มีเรื่องกังวลใจมากมาย นั่นคือเรื่องการวางกลยุทธ์ ชีวิตของทุกคนอยู่ในกำมือของเขา หากประมาทก็จะทำให้ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข ในฐานะขุนพลที่ดี หวังหยวนต้องประสานงานด้านกลยุทธ์ และวางแผนทุกอย่างอย่างเหมาะสมเพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด ในเมื่อทุกคนเต็มใจติด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1702

    ในส่วนกิจการทหารนั้นมอบหมายให้เอ้อหู่และต้าหู่รับผิดชอบ ถงจื่อเจี้ยนได้เป็นทหารชั้นประทวน ส่วนต้าหู่และเอ้อหู่สองพี่น้องนั้น ไม่ว่าจะตัดสินใจสิ่งใดต้องแจ้งให้ถงจื่อเจี้ยนทราบก่อน หากได้รับการยินยอมจากถงจื่อเจี้ยนแล้ว จึงจะดำเนินการได้ภายในกระโจมข่าวการจากไปของหวังหยวนไม่ได้แพร่กระจายไปทั่วกองทัพ แจ้งเพียงแต่ขุนพลแต่ละกองเท่านั้น ต้าหู่และเอ้อหู่ได้รับคำสั่งแล้ว แต่บัดนี้กลับมีสีหน้าหม่นหมอง สองพี่น้องกำลังดื่มสุราอยู่ในกระโจม“พี่หยวนคิดอย่างไรกันแน่?”“ท่านจากไปแล้ว อำนาจย่อมควรตกอยู่ที่พวกเราสองพี่น้อง แต่บัดนี้กลับให้ถงจื่อเจี้ยนเป็นที่ปรึกษา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องไปขออนุญาตจากถงจื่อเจี้ยนก่อน”“นั่นหมายความว่าพวกเราเป็นเพียงบ่าวไพร่ของถงจื่อเจี้ยนหรือ?”เอ้อหู่กล่าวด้วยความไม่พอใจ เขาภักดีต่อหวังหยวนอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้แต่ชีวิตก็สามารถมอบให้แก่หวังหยวนได้ หากไม่ใช่เพราะหวังหยวนช่วยเหลือเขา แล้วเขาจะมาอยู่ในจุดที่เขาอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร?เอ้อหู่ไม่ใช่คนไร้ความปรานี เพียงแต่ทนกล้ำกลืนไม่ลงเท่านั้น…เอ้อหู่ดื่มสุราคำหนึ่งแล้วส่ายหน้า “เจ้าอย่าบ่นมากนักเลย เมื่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1703

    เมื่อขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน เหล่าประชาชนต่างพากันคุกเข่าลง ก้มลงกราบไหว้เบื้องหน้าเกี้ยวที่หวังหยวนนั่งอยู่ เสียงคำนับก้องกังวานหวังหยวนแย้มม่านมองออกไปเบื้องนอก ก่อนส่ายหน้าและกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ลุกขึ้นเถิด!”แต่ไป๋เหยียนเฟยกลับยิ้มพลางตบไหล่หวังหยวนเบา ๆ “ท่านจงรับคำนับของพวกเขาเถิด นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาควรกระทำ”“หากไม่ใช่เพราะท่าน พวกเขาจะรอดพ้นจากความทุกข์ยากจากภัยสงครามนี้ได้อย่างไร”“ไม่ใช่เพียงพวกเขาเท่านั้นที่ควรขอบคุณท่านด้วยใจจริง แม้แต่ตัวข้าเองก็เช่นกัน!”“หากไม่ใช่เพราะข้าเป็นจักรพรรดินี ข้าเองก็อยากจะก้มลงคำนับท่านเพื่อแสดงความขอบคุณเช่นกัน”หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ เรื่องเช่นนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร? ไป๋เหยียนเฟยในปัจจุบันไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วแม้ว่านางจะคุกเข่ากราบลงเบื้องหน้า เขาก็ไม่อาจรับได้เช่นกัน!ขณะที่สนทนากันอยู่นั้น ขบวนเสด็จก็มาถึงวังหลวงแล้วดังที่ไป๋เหยียนเฟยกล่าวไว้ เหล่าขันทีและนางกำนัลต่างเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากทราบว่าหวังหยวนไม่ชอบสถานที่อึกทึกครึกโครม ไป๋เหยียนเฟยจึงจัดงานเลี้ยงที่ตำหนักของนางมีเพียงขันทีแ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1704

    ถึงกระนั้นดินแดนของไป๋เหยียนเฟยก็ยังคงลดลงไปอย่างมาก กำลังของอาณาจักรอ่อนแอลง ไม่ใช่อาณาจักรต้าเย่ที่เกรียงไกรในอดีต!“หวังหยวน”“ข้าต้องการร่วมมือกับท่าน และนี่ไม่ใช่การปฏิเสธใด ๆ”“แต่ท่านก็คงเข้าใจสถานการณ์ของข้าดี เหล่าทหารจากเมืองหวงคอยรุกรานเราอยู่เสมอ แม้ในช่วงเวลาที่ท่านทำศึกกับไป๋ชิงชาง เราก็ไม่ได้ว่างเว้นจากการต่อสู้กับพวกเมืองหวง”“หากข้ายกทัพไปช่วยท่านเพื่อร่วมกันต่อต้านอาณาจักรต้าเป่ย พวกเมืองหวงจะยิ่งรุนแรงขึ้น อาจจะยึดครองเราได้อย่างง่ายดายในคราวเดียว!”“แม้จะกำจัดเสือได้ แต่ก็ทำให้หมาป่าแข็งแกร่งขึ้น สถานการณ์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง!”“ที่น่าแค้นใจที่สุดคือ…”“ไม่ว่าเราจะต่อสู้กับไป๋ชิงชางอย่างไร อย่างน้อยบรรพบุรุษของเราก็เหมือนกัน เราทุกคนต่างมีสายเลือดเดียวกัน”“แต่พวกเมืองหวงเป็นเพียงพวกนอกรีตเท่านั้น พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาแย่งชิงดินแดนทั้งเก้าของเรา?”ไป๋เหยียนเฟยยิ่งพูดยิ่งโกรธแค้นแม้นางจะเป็นสตรี แต่ก็มีความห่วงใยต่อบ้านเมือง ไม่อยากจะเสียแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้อื่น!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดีเขาตบไหล่ไป๋เหยียนเฟย และจึงกล่าวต่อว่า “ข้าเข้าใจความหมาย

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status