บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 451 - บทที่ 460

1015

บทที่ 451

ซู่ผินกลับถึงตำหนักแล้วก็คุกลงกับพื้นเต๋อเฟยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูนางอย่างอ่อนแรง สายตาที่มองทั้งผิดหวังและเกลียดชัง “ทำไมกัน? อ๋องฉู่ทำอะไรให้เจ้าเคียดแค้นชิงชังเขานัก? ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเจ้าสั่งให้เจ้าทำร้ายเขาเช่นนี้?”ซู่ผินส่ายหน้าอย่างไร้ความรู้สึก “พระนาง ข้าถูกท่านอ๋องล่วงเกินจริง ๆ เพคะ”เต๋อเฟยพูดอย่างเกลียดชัง “ใช่สิ ก่อนหน้านั้นไม่นาน เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่บอกข้าว่า ชายชู้ของเจ้าคืออ๋องฉู่ แต่ไม่เคยบอกว่าเจ้าถูกล่วงเกิน”ซู่ผินกล่าวว่า “หม่อมฉันยังคงยืนยันคำเดิม หม่อมฉันถูกล่วงเกิน”เต๋อเฟยตบหน้านาง โกรธจนแทบสิ้นสติ นางตบลงไปแล้วฉาดหนึ่ง รู้สึกตัวเองเกือบเป็นลมล้มลงไปซู่ผินยกมือขึ้นลูบหน้าที่ถูกตบ “พระนาง ท่านพูดถูก ข้าไม่ควรลากครอบครัวมาเกี่ยวข้อง ข้าไม่ควร”“ตอนนี้เจ้าพึ่งรู้ว่าไม่ควรลากครอบครัวมาเกี่ยวข้อง? แล้วตั้งแต่แรกเจ้าไปคบชู้สู่ทำไม?” เต๋อเฟยพูดอย่างชิงชังซู่ผินยิ้มอย่างขมขื่น “ทำไม? ท่านบอกว่าทำไมรึ?”นางเงยหน้าขึ้นมองเต๋อเฟย และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกลียดชังเคียดแค้นว่า “พระนาง ทุกวันท่านไม่ส่องกระจกบ้างหรือ? ท่านเห็นรอยบนหางตาท่านบ้างไหม? เห็
Read More

บทที่ 452

นางข้าหลวงสี่นั่งย่อลงกับพื้น และกุมมือนางไว้ กลัวว่านางจะตื่นตระหนกจนทำร้ายตัวเองได้“ท่านอ๋องถูกฝ่าบาทคุมตัวไปห้องมืดเพคะ” นางข้าหลวงสี่กล่าวหยวนชิงหลิงมองนาง “โอ้”มีอะไรน่าตื่นตระหนกตกใจ?ไปห้องมืด เขาไม่ได้กลัวความมืดสักหน่อยนางข้าหลวงสี่รู้สึกว่าพระชายาตอนนี้เมื่อเจอปัญหาก็สงบนิ่งมากขึ้น จึงกล่าวต่อไปว่า “ดังนั้น พระชายาท่านต้องหาทางทำให้องค์ชายแปดฟื้นขึ้นมาให้ได้นะเพคะ ตอนนี้มีแค่วิธีนี้ที่จะยืนยันว่าท่านอ๋องบริสุทธ์ เขาเป็นพยานคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์นะเพคะ”หยวนชิงหลิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงจับมือนางข้าหลวงสี่แน่น “หมายความว่ายังไงกัน? ห้องมืดคือที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”นางข้าหลวงสี่กล่าวว่า “ห้องมืดคือสถานที่คุมขังนักโทษชั่วคราวในวังหลวงเพคะ”“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?” หยวนชิงหลิงตื่นตระหนกขึ้นมา “ทำไมเสด็จพ่อทำไมถึงเอาเขาเข้าไปขังในห้องมืดกัน?”นางข้าหลวงสี่ส่ายหน้า “บ่าวเองก็ไม่ทราบเพคะ บ่าวเองก็คิดหาทางเข้าไปในตำหนักเต๋อช่างไปถาม เพียงแต่ตอนนี้ตำหนักเต๋อช่างไม่อนุญาตให้ใครเข้า บ่าวกลัวว่าเข้าไม่ได้ จึงคิดหาทางเข้าไปเพคะ”“เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับตำหนักเต๋อช่าง?” ห
Read More

บทที่ 453

เต๋อเฟยพึ่งจะทาน้ำมันยาไป ในห้องจึงมีกลิ่นยาลอยอยู่ นางเห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา นางกุมมือหยวนชิงหลิงด้วยความเสียใจ นางถอนหายใจ และกล่าวออกมาว่า “พระชายา ข้าทำร้ายเจ้าห้าแล้ว ข้าหวังทำดีแต่กลับทำเรื่องร้ายลงไปซะแล้ว”หยวนชิงหลิงกับเต๋อเฟยไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก แต่เมื่อเห็นท่าทางนางเช่นนี้ ก็อดถามนางไม่ได้ “พระนางโปรดสงบพระทัยก่อนเถอะเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เพคะ?”เต๋อเฟยหลังจากเชิญนางนั่งลง ก็เรียกนางข้าหลวงสี่บอกเรื่องราวไปก่อนครึ่งหนึ่ง นางข้าหลวงสี่บอกเรื่องกู้ซีทั้งหมดแก่นางหลังจากพูดจบแล้วยังเน้นว่า “กู้ซีเข้าใจผิด คนที่ลวนลามซู่ผินไม่ใช่ท่านอ๋องแน่เพคะ กู้ซีเองก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองมองผิดไป”หยวนชิงหลิงฟังจบแล้ว ยากที่จะเชื่อได้จริง ๆ ว่ากู้ซีจะโง่เง่าอะไรขนาดนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าสายตาเขาจะมองผิดพลาดไปอะไรได้ขนาดนี้ “กู้ซีคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องกับซู่ผินแอบทำเรื่องแบบนั้น? ซู่ผินก็คือผู้หญิงข้างนอกนั้นใช่หรือไม่? ท่านอ๋องถึงได้รังเกียจนาง”เต๋อเฟยกับนางข้าหลวงสี่อึ้งไปเลย คำตอบนี้พวกนางล้วนไม่เคยคาดเดาไว้เลยหลังจากนั้นเต๋อเฟยก็เล่าเรื่องในหอตำราหลวงอย่างละเอียดทั้งหมด และกล่า
Read More

บทที่ 454

หยวนชิงหลิงออกจากห้องโถงหลัก จึงสั่งให้คนยกเก้าอี้ตัวเล็กออกมาแล้วนั่งลงตรงหน้าซู่ผินนางจ้องมองซู่ผินอยู่นาน ซู่ผินเอาแต่ก้มหัวตลอด ท้ายที่สุดก็ถูกหยวนชิงหลิงจ้องจนกลัวลนลาน นางจึงพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า “พระชายา มีอะไรจะพูดก็พูดเถอะเพคะ”หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “ได้ยินพระนางเต๋อเฟยบอกว่า เจ้าคิดว่าตัวเองงดงามมากสินะ?”ซู่ผินมองนางอย่างยั่วยุชวนโมโห “หม่อมฉันคิดว่าตัวเองสวยกว่าพระชายาเพคะ” “รู้ไหมว่าทำไมเสด็จพ่อถึงไม่โปรดปรานเจ้า?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถามซู่ผินยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระชายา พระชายาเองไม่มีคุณสมบัติอะไรจะถามเช่นนี้ พระชายาไปวิ่งเต้นเพื่อช่วยท่านอ๋องฉู่เถอะเพคะ เพียงแต่ เกรงล่วงเกินสนมผินแห่งวังหลังอย่างหม่อมฉัน เกรงว่าวิ่งเต้นไปก็เปล่าประโยชน์”“เจ้าเห็นว่าเสด็จพ่อเลอะเลือนงั้นรึ? ใครจริงใครเท็จ ข้ายังแยกแยะได้ เสด็จพ่อมีหรือจะไม่ทรงทราบ?” หยวนชิงหลิงยิ้มแย้มออกมาเล็กน้อย พยายามอดทนควบคุมฝ่ามือตัวเองไม่ให้ตบนางลงไป“พระชายามั่นใจเช่นนั้น ก็ไม่ควรมาที่นี่ ควรรออยู่อย่างสงบก็ดีแล้ว”“ข้ามาที่นี่ เพราะไม่สามารถพาท่านอ๋องออกมาจากห้องมืดได้” หยวนชิงหลิงยิ้ม
Read More

บทที่ 455

นางข้าหลวงสี่ช่วยทำแผลให้นาง แล้วก็ประคองออกมา หยวนชิงหลิงคุกเข่าลงบนพื้นอย่างสง่าเผย “ขอบพระทัยเสด็จปู่ที่ช่วยเหลือเพคะ””เจ้านี่ ยังไปบีบบังคับฮ่องเต้ให้ช่วยเจ้าห้าแบบนี้ เจ้าก็ทำให้เขาโกรธเช่นเดียวกัน” ไท่ซ่างหวงพูดอย่างเด็ดขาด“ไม่ใช่เพราะข้าไม่มีทางเลือกหรอกหรือ? หกสิบไม้เลยนะเพคะ ใครจะทนได้?” หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่มีทางเลือกไท่ซ่างหวงส่ายหน้าอย่างอารมรณ์ไม่ค่อยดี “แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ ทำต่อไม่ได้แล้ว ภายหลังเกิดเรื่องแบบนี้อีก อย่าได้นำข้าไปเป็นโล่ ทำให้ข้าเสียหายหมด”ทหารองค์รักษ์เข้าไปทูลจักรพรรดิหมิงหยวนแล้ว บอกว่าซู่ผินแทงพระชายา พระชายาตกใจกลัวจนแทบหมดสติ ไม่กล้าอยู่ที่ตำหนักเต๋อช่าง รีบไปรักษาตัวที่ตำหนักเฉียนคุนจักรพรรดิหมิงหยวนขมวดคิ้ว “ซู่ผินทำแบบนั้นจริง ๆ รึ?”หยวนชิงหลิงวิ่งไปที่ตำหนักเต๋อช่างทำไม? ไม่ได้อยู่ที่ตำหนักชิงฮว่าพักผ่อนรึ?“หม่อมฉันเข้าไปสอบถามแล้ว ซู่ผินทำจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ บอกว่าพระชายาไปสอบถามซู่ผินสองประโยค ซู่ผินก็ดุด่านางยกใหญ่ และตื่นตระหนกจนดึงปิ่นมาทำร้ายพระชายาพ่ะย่ะค่ะ” ทหารองค์รักษ์ทูลเช่นนั้นทางด้านจักรพรรดิหมิงหยวนที่ยังไม่ทราบข้อเท
Read More

บทที่ 456

ตำหนังชิงฮว่าไม่อาจไร้หยวนชิงหลิงได้ ดังนั้นอวี่เหวินห่าวถูกโบยเสร็จโดยเร็วก็ถูกพยุงออกมาถ้าแค่สามสิบไม้ ก็ยังพอรับไหวท้ายที่สุด เมื่อโบยจบแล้ว ความเจ็บปวดเริ่มเด่นชัดเข้ามา คงเจ็บแบบนี้อยู่หลายวันแต่หลังจากโบยสามสิบไม้จบไม่นาน ก็โดนโบยเพิ่มอีกสิบทีทันที เหมือนกับโรยเกลือบนแผลสดจริง ๆตอนที่ซูยี่พยุงเขาออกมานั้น ทั้งร่างของเขาพิงอยู่บนตัวของซูยี่ เขาถอนหายใจออกมายาว ๆ “ซูยี่ โดนโบยที่จริงเจ็บมากจริง ๆ เมื่อก่อนพระชายาเจ้าก็เคยถูกโบยสามสิบไม้ โหดร้ายไร้มนุษยธรรมซะจริง”ซูยี่ลำบากแบกเขาไปข้างหน้า และสูดหายใจเข้า “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ไม่รู้คนเลวที่ไหนสั่งโบยพระชายา”อวี่เหวินห่าวจิ๊ปาก “ฮึ ไว้รอข้าหายดี เจ้าได้ตายแน่”ซูยี่กล่าวว่า “หม่อมฉันหมายถึงให้ลงโทษทหารคนนั้น”อวี่เหวินห่าวเห็นด้วย และกล่าวว่า “เจ้าหาตัวเขาออกมา ข้าจะลงโทษให้หนัก”ซูยี่อุทานด้วยความตกใจ และกล่าวต่อทันที “อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจโทษคนอื่นได้ ในตอนนั้นท่านอ๋องออกคำสั่งลงมา บอกว่าตีให้ตาย ท่านอ๋องตอนนี้รู้สึกเจ็บปวดไหมพ่ะย่ะค่ะ? แต่ตอนนั้นถูกโบยเสร็จก็เข้าวังเลย นางไม่มีคนพยุงด้วยซ้ำ รอดมาได้
Read More

บทที่ 457

หยวนชิงหลิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกล่าวว่า “ข้ายอมเจ็บ โทษทัณฑ์นี้ขอรับไว้เอง ไม่ยอมให้ท่านได้รับความทรมานเช่นนี้”ในคอของอวี่เหวินห่าวเหมือนมีก้อนสำลีจุกอยู่ที่คอ พูดไม่ออก คำพูดพวกนี้ มันควรเป็นเขาพูดสิปกป้องภรรยาและลูกมันคือหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาเขายื่นมือไปกอดนางไว้ข้างกาย ลูบหน้าเช็ดน้ำตาให้นาง และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่เป็นอะไร”หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “ข้าเกลียดการที่เกิดเรื่องที่ไม่จบไม่สิ้นเช่นนี้”อวี่เหวินห่าวก็เกลียด เขาขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าหามือสังหารไปจัดการพี่ใหญ่ดีหรือไม่?”หยวนชิงหลิงเอามือปิดปากเขา แล้วกล่าวอย่างตกใจว่า “ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ที่นี่ในวัง แม้จะเป็นที่ของไท่ซ่างหวง แต่ไท่ซ่างหวงไม่ยอมให้ท่านฆ่าพี่น้องหรอก”เรื่องนี้กลับไปค่อยว่ากันหยวนชิงหลิงยังคงใส่ยาต่อ อวี่เหวินห่าวนอนคว่ำเอาคางเกยกับมือแล้วกล่าวว่า “ที่จริงคดีนี้เดิมทีไม่ได้มีอะไรยุ่งยากแบบนั้น พวกเขามีจุดบอดมากมาย เพราะแผนการพวกเขาเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ไม่มีทางรัดกุมได้ทั้งหมด เพียงแต่พระนางเต๋อเฟย...เฮ้อ อย่าไปโทษนางเลยนะ นางแค่อยากช่วยข้า”เขาหันไป
Read More

บทที่ 458

แม้ว่าหยวนชิงหลิงไม่คิดจะช่วยซู่ผิน ซู่ผินจะเป็นหรือจะตายก็ไม่เกี่ยวข้อง แต่ว่านางไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ ไม่อยากดูคนตายไปต่อหน้าต่อตานางด้วยนางเป็นหญิงมีครรภ์ ไม่อยากจะดูเรื่องโหดร้ายเช่นนี้“คดียังไม่ทันสืบสวนจนกระจ่างชัด ทำไมฝ่าบาทถึงประทานความตายให้ซู่ผิน” หยวนชิงหลิงเอ่ยถามมู่หรูกงกงกระซิบ “เรื่องประทานความตาย เป็นพระประสงค์ของไท่ซ่างหวงพ่ะย่ะค่ะ”หยวนชิงหลิงมองมู่หรูกงกงด้วยความประหลาดใจ “พระประสงค์ของไท่ซ่างหวง?”หยวนชิงหลิงเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที กระทำการหยาบช้าอะไร ทำร้ายพระชายาอะไร นี่ใช้เพื่อฆ่าปิดปากซู่ผินและปกปิดเรื่องราวในตำหนักชิงฮว่าทั้งหมดหยวนชิงหลิงกล่าว “ข้าไปพบไท่ซ่างหวง สักครู่จะไปทำตามรับสั่ง”มู่หรูกงกงกล่าว “ได้พ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะรอพระชายาในนี้”หยวนชิงหลิงรีบเดินเข้าไป นี่เป็นพระประสงค์ของไท่ซ่างหวง งั้นนางไปขอร้องไท่ซ่างหวงให้เปลี่ยนความคิดของฝ่าบาท ส่งคนไปคุมขังแทน ไท่ซ่างหวงรักและเอ็นดูนาง คงไม่ให้นางไปทำเรื่องโหดร้ายพวกนี้แน่ไท่ซ่างหวงอยู่ในห้องเล่นหมากล้อมอยู่กับฉางกงกงหลังจากที่หยวนชิงหลิงเข้าไปแล้วก็คุกเข่า ลงแล้วเอ่ยว่า “เสด็จปู่ พระองค์ต้องช
Read More

บทที่ 459

“บางทีโทษทัณฑ์ก็ไม่อาจถึงตาย” หยวนชิงหลิงยกข้อกฎหมายยุคสมัยปัจจุบันมาพูดไท่ซ่างหวงพูดอย่างจริงจัง “ไม่สนว่าในตำหนักหมิงฮวาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างน้อยที่สุดที่แน่นอนคือ ตอนนั้นนางอยู่กับคนอื่นในตอนนั้น และยังใส่ร้ายว่าชินอ๋องล่วงเกินนางอีก โทษฐานนี้อย่าพูดถึงการสืบหาจนกระจ่างชัดเลย เรื่องการวางแผนใส่ร้าย แต่แรกเริ่มในวังล้วนไม่เคยขาด เรื่องเล็ก ๆ อาจทำเป็นมองไม่เห็นได้ แต่เรื่องราวใหญ่โตแล้วอย่างไรก็ต้องประหาร”หยวนชิงหลิงนิ่งเงียบซู่ผินเป็นสนมผินของฝ่าบาท มีคนล่วงเกินยังไงก็ต้องรับโทษ ช่วยไม่ได้ กฎหมายที่นี่เป็นแบบนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้หญิงเลยเป็นยุคปัจจุบัน หากนอกใจสามีแล้วถูกจับได้ หลังจากนั้นก็ตีกันสักยกแล้วหย่าร้างกันไป อาจมีตัวอย่างที่รุนแรง แน่นอนว่าจะพาดหัวข่าวและการค้นหายอดนิยมในโลกโซเชียล เช่น นายหน้าคนหนึ่งและนามสมบัติ… หยวนชิงหลิงขอตัวทูลลาออกไปมู่หรูกงกงที่รออยู่ด้านนอกเห็นนางออกมาก็กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “พระชายาไปกันได้หรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”หยวนชิงหลิงมองใบหน้ายิ้มแย้มของเขาก็อดพูดไม่ได้ “กงกง ตอนนี้พวกเราจะไปทำให้คนตาย มีอะไรน่าขันกัน?”มู่หรูกงกงมองนางและกล่าวอ
Read More

บทที่ 460

หยวนชิงหลิงที่ได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็หันกลับไปมองเต๋อเฟยในฐานะพระสนมที่มีชื่อเสียงของวังหลัง นางต้องได้รับการศึกษาและการอบรมสั่งสอน คงไม่ตกใจกับคำพูดหยาบคายพวกนี้หรอก อันที่จริงเต๋อเฟยตกใจมากราวกับถูกฟ้าผ่า ในหัวของนางเหมือนว่างเปล่า เมื่อค่อย ๆ คิดอย่างละเอียดแล้ว นางก็โกรธจนมือสั่น ยกนิ้วชี้ซู่ผิน ริมผีปากนางสั่งด้วยความโกรธ กว่าจะเค้นคำพูดออกมาสองสามคำ “พูดจาอะไร ช่างน่าอัปยศอดสูได้ถึงเพียงนี้!”ซู่ผินยิ้มแย้มราวกับภาพลวงตา งดงามเหมือนดอกไม้ในม่านหมอก ชวนให้คนมองดูรู้สึกถึงความสวยงามไม่น้อย นางมองเต๋อเฟยและพูดต่อไป “พระนางเต๋อเฟยรู้สึกอัปยศอดสู? ท่านรู้จักคำว่าอัปยศอดสู แต่ชั่วชีวิตนี้ของท่านไม่มีอะไรเลยสักนิด ความเมตตาโปรดปรานก็แค่ความว่างเปล่า เมื่อท่านชราแล้ว ไม่รู้ว่าจะไม่เสียใจได้หรือ? ไม่แม้แต่จะสน หรือจะใส่ใจมีช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมีชีวิตชีวาได้?”“หุบปาก ข้าบอกหุบปาก” เต๋อเฟยชี้หน้านางโกรธจนหน้าเขียว “เจ้ารีบไปตายซะ”ซู่ผินเดินไปทางผ้าแพรขาวยื่นมือไปลูบไล้มันหยวนชิงหลิงรู้สึกว่า ถึงแม้คน ๆ นี้จะเลวร้าย แต่ว่านางเลือกเอง ถ้านางรู้สึกรักอู๋ซูฮว้าแล้วเติมเต็มชีวิตของนาง นาง
Read More
ก่อนหน้า
1
...
4445464748
...
102
DMCA.com Protection Status