“เดี๋ยวก่อน” หยินเฉิงเหยายกมือห้ามเขา จากนั้นก็ก้าวยาว ๆ ออกไปทันทีที่เขาออกไป ผู้คนรอบข้างก็เผยสีหน้าเป็นอันรู้กัน“เหอะ ๆ พระเอกอกหักพ่ายแพ้ราบคาบ” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ยิ่งฐานะของคุณชายหยินสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่เชียดใกล้ผู้หญิงมากเท่านั้น เขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าเขาเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ก็คงไม่หวั่นไหวหรอกกับเรื่องแบบนี้หรอก”“เถ้าแก่เจิ้ง โดยรวมแล้วงานเลี้ยงต้อนรับในครั้งนี้ถือว่าดูดีมากนะ คุณนี่มีของดีอยู่กับตัวเยอะจริง ๆ” สีหน้าของเถ้าแก่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ทุกท่านสบายใจได้นะครับ ทุกคนล้วนเป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง แน่นอนว่าจะขาดทุกท่านไปไม่ได้หรอกครับ”หยวนจุนเหยากลับมายังห้องครัวด้วยความโกรธเคือง ส่วนเชฟคนอื่น ๆ ก็ไม่รู้หายไปไหนกันหมด ฉันจึงรีบจัดการเก็บของเตรียมกลับ ทว่าอยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็พร่ามัว หยินเฉิงเหยายืนอยู่ตรงหน้าฉัน พลางก้มหน้ามามองฉันเงียบ ๆแค่เห็นหน้าเขา ความโกรธในใจฉันก็เริ่มแผดเผาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “คุณหยิน หลีกทางด้วยค่ะ”หยินเฉิงเหยายังคงไม่ขยับ เขาแน่นิ่งราวกับภูเขาลูกใหญ่ ฉันกัดฟันกรอด “คุณหยินคงไม่ได้อยากจ
เมื่อสองปีก่อน ลูกชายของป้าหลี่เพิ่งจะสอบติดข้าราชการ เขาเป็นความภาคภูมิใจของหล่อนเสมอมาป้าหลี่พูดพลางร้องไห้ “ป้าก็มีลูกชายแค่คนเดียว เขาเป็นความหวังเดียวของป้า หนูช่วยส่งสารป้าหน่อยเถอะ”หล่อนเอ่ยไปพร้อมกับลงไปนั่งคุกเข่า และฉันก็ไม่มีทางเลือก เมื่อก่อนป้าเองก็เคยช่วยพวกเราสองพี่น้องมาเยอะ “เอาเถอะค่ะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จะไม่มีครั้งหน้าอีก”ป้าหลี่หยุดร้องไห้และคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน “จุนเหยา ครั้งนี้หนูปีนขึ้นมาสำเร็จแล้ว ไม่ช้าก็เร็วหนูจะได้โบยบินไปถึงกิ่งสูงสุดอย่างนกฟีนิกซ์” ฉันหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อหล่อนเห็นว่าสีหน้าฉันไม่ดีเท่าไหร่ จึงเอ่ยต่อทันควัน “พอดีป้าเคี่ยวเนื้ออยู่บนเตา หนูไปทำเรื่องของหนูเถอะ ป้าไม่รบกวนแล้ว”พูดจบหล่อนก็วิ่งไปเร็วราวกับควัน ฉันมองบัตรที่อยู่ในมือ นี่คงเป็นความคิดของหยินเฉิงเหยาสินะ เขาก็ยังเป็นคนเจ้าเล่ห์เหมือนเดิมผ่านไปไม่กี่วัน ฉันไม่ได้ออกจากบ้านไปใช้เงินเลย แต่ไปซื้อวัตถุดิบหายากจากร้านยามาไม่น้อย วัน ๆ ฉันเอาแต่แช่น้ำยา กินอาหารตุ๋นยาจีน ค่อย ๆ ทำไปจนรู้สึกว่าพลังงานจิตภายในของตัวเองเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ามันมีอะไรบางอย
ฉันยิ้มพลางเก็บกวาดโต๊ะไปด้วย “น้ำยาสำหรับอาบเตรียมไว้พร้อมแล้ว นายรีบไปแช่เถอะ”ถังหมิงหลีมองไปยังแผ่นหลังของร่างบางที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดเก็บโต๊ะ พลันเกิดความรู้สึกเปี่ยมล้นขึ้นในใจ มันเป็นความคิดที่อยากจะคอยดูแลซึ่งกันและกันตลอดไป จุนเหยาใช้โอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังแช่น้ำยาอยู่ ค้นหาพวกกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญในอินเตอร์เน็ต แต่หามาสักพักก็ไม่เจอกระทู้ดี ๆ ที่น่าสนใจ พอดีกับตอนนั้นเอง ฉันเจอข้อความหนึ่งที่เกินมาในทีวี มันเป็นฉายาทางเน็ตที่มีชื่อว่า ‘ใคร ๆ ก็เรียกฉันว่าหญิงห้าวแห่งโรงเรียนศิลปะ’ในข้อความนั้นบอกไว้ว่า เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ณ วิทยาลัยสอนศิลปะแห่งหนึ่งในเมืองซานเฉิง เคยมีหญิงสาวคนหนึ่งมากระโดดตึก หญิงสาวคนนี้เป็นตัวตลกของโรงเรียน ว่ากันว่าหล่อนเคยแสดงเป็นตัวประกอบเล็ก ๆ สองสามเรื่องในบทนางสนมวังหลัง ต่อมาหล่อนก็ได้รับการโหวตผ่านเว็บไซต์หนึ่งให้เป็นหญิงงามสี่พันปีแห่งหว๋าเซี่ยขณะที่ชีวิตหล่อน ณ ตอนนั้นกำลังพุ่ง มันไม่มีทางที่หล่อนจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายได้เลยเพื่อนร่วมห้องของหล่อนเล่าว่า บ่ายวันนั้นหล่อนได้รับซีดีแผ่นหนึ่ง และเมื่อไม่กี่วันก่อนหล่อนได้เช
ฉันยังคงสมหมวกและใส่แมสไปอย่างเช่นเคย ขณะที่กำลังเดินอยู่ในเขตของวิทยาลัยศิลปะ ที่นั่นมีแต่หนุ่มหล่อสาวสวยเต็มไปหมด แต่ด้วยหน้าตาของถังหมิงหลี เมื่ออยู่ที่นี่แล้วจะเรียกได้ว่าเป็นนกกระเรียนในฝูงไก่ก็ว่าได้ เรือนร่างสูงโปร่งของเขาทำให้พวกเด็กผู้หญิงต่างพากันร้องตะโกนเรียกเขาอย่างบ้าคลั่งว่า ‘อปป้า’พวกเราเดินมาถึงตึกหอพักแรก ข้างในตึกมีนักเรียนอยู่ไม่มาก เนื่องจากพากันออกไปเที่ยวหมดแล้วจากข้อความของสาวห้าวแห่งโรงเรียนศิลปะบอกไว้ว่า พวกเขาอยู่ชั้นเจ็ด ผู้ชายเข้าหอหญิงไม่ได้ ฉันเลยให้ถังหมิงหลีรออยู่ข้างนอก ทว่าขณะที่ฉันกำลังจะขึ้นไป ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมีเด็กผู้หญิงในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าไหมยืนอยู่บนระเบียงชั้นหก สายตาของเธอว่างเปล่าและมองตรงมาข้างหน้า เพียงแค่เธอก้าวเท้าออกมาอีกแค่ก้าวเล็ก ๆ ก้าวเดียว ก็สามารถหล่นลงมาตายได้เลยสีหน้าฉันเปลี่ยนไปในทันที เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเด็กผู้หญิงคนนั้น ก็เห็นผีผู้หญิงชุดขาวลอยอยู่ ใบหน้าของหล่อนซีดเผือด ดวงตาดำสนิทและแฝงไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาชั่วร้ายบนใบหน้านั่นฉันรีบเอาโทรศัพท์มาเปิดไลฟ์สดทันที เพียงแค่พริบตาเดียวก็มีคนเข้ามาด
ฉันตกใจมาก จึงรีบรวบรวมพลังงานจิตแล้วเอามาบังไว้ตรงหน้า ผีผู้หญิงเลยถือโอกาสตอนนั้นหายเข้าไปในความมืดไม่เหลือให้เห็นแม้แต่เงา แม้ว่าจะดึงพลังงานจิตมาบังไว้ได้ทันเวลา แต่ก็ยังมีพลังหยินบางส่วนพุ่งเข้ามาโดนตัว ฉันรู้สึกหนาวสั่นและตัวแข็งไปทั้งตัว“จุนเหยา” ถังหมิงหลีรีบวิ่งเข้ามาแล้วคว้าตัวฉันเข้าสู่อ้อมอก “ตัวเธอเย็นมาก”ฉันสั่นสะท้านจนได้ยินเสียงฟันกระทบกัน ทันใดนั้นราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางก็ติดต่อมา ฉันจึงกดรับสายด้วยความสั่นเทา“สาวน้อย ที่พลังหยินเข้าสู่ตัวเธอ เพราะการฝึกฝนของเธอยังต่ำอยู่ มันสามารถเข้าไปทำลายวิชาของเธอได้” เขาเอ่ยอย่างจริงจัง “ว่าตามฉัน ลมปราณปกป้องตันเถียน จงนำพาพลังงานจิตมาสู่หัวใจ….” ฉันพูดตามที่เขาบอก โดยการนำพลังงานจิตเข้าไปหมุนเวียนในเส้นลมปราณ จากนั้นก็พ่นลมสีขาวออกมายาว ๆ ลมหายใจที่พ่นออกมานั้นเย็นจัดจนอุณหภูมิรอบตัวเหมือนจะเย็นตัวลงไปด้วยร่างเล็กถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ไม่เป็นไรแล้ว”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางว่าต่อ “เธอเป็นผู้หญิง พลังหยินจึงเข้มข้น เพราะฉะนั้นทำเท่านี้ยังไม่พอ ต้องใช้คนที่มีพลังหยางที่แข็งแกร่งส่งพลังหยางให้เธอหนึ่งลมปราณ ฉัน
ฉันพยักหน้า พร้อมเอ่ย “ใช่ นั่นฉันเอง”“หนูก็เป็นผู้ชมของคุณ” เธอเอ่ย “เหล่ยเหล่ยเป็นแฟนตัวยงของคุณเลย ทุกไลฟ์สดของคุณ เธอจะตามดูหมด หนูเองที่มาดูก็เป็นเพราะเธอแนะนำ เหล่ยเหล่ยเป็นคนชอบพวกเรื่องผีเรื่องเจ้าแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ลั่วลั่ว เหล่ยเหล่ย ช่านช่านแล้วก็หนู พวกเราเล่นเกมส์เกมส์หนึ่งที่มีชื่อว่า ‘ผีถ้วยแก้ว’ อุปกรณ์ที่เอามาใช้เล่นไม่ใช่ถ้วย แต่เป็นแผ่นซีดี”“อะไรนะ?” จุนเหยาขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้พวกเราแค่อยากเล่นกันสนุก ๆ แต่ใครจะไปรู้ พอเล่นมาสักพักจู่ ๆ พวกเราก็ได้ยินเสียงคนร้องเพลง เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงหล่อนทั้งแหลมทั้งเล็ก พวกเราเลยคิดว่าคงจะมีคนเปิดเพลงไว้ แต่พอยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกแปลกขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับว่าเสียงนั้นมันลอยอยู่บนหัวพวกเรา”ระหว่างที่เล่าไปเธอก็ตัวสั่นไป “ตอนนั้นพวกเราตกใจมาก ลั่วลั่วเป็นคนแรกที่เลิกเล่น จากนั้นซีดีแผ่นนั้นก็หายไป แต่ไม่นานก็มีลมเย็นจากที่ไหนไม่รู้พัดเข้ามาในห้อง ทำให้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ลั่วลั่วจัดไว้ในห้องนอนตกแตกละเอียดจนหมด”“ลั่วลั่วก็คือเด็กผู้หญิงคนแรกที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายใช่ไหม?” ฉันเอ่ยถามเด็กสา
หมัดนี้ฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีพร้อมกับพลังงานจิตเล็กน้อย จนทำให้เขาถึงกับกระเด็นออกไป ในเวลาเดียวกันวิญญาณร้ายก็หลุดออกมาจากร่างเขา วิญญาณตนนั้นแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะหายวับไปนี่มันจะทำกันเกินไปแล้ว!ถึงแม้จะเห็นใจในสิ่งที่วิญญาณตนนี้เคยเจอมา แต่ตอนนี้หล่อนได้กลายเป็นวิญญาณอาฆาตแค้นที่ทำแต่เรื่องเลวทรามและทำร้ายคนไม่มีทางสู้ หล่อนจึงสมควรถูกฆ่า!ถังหมิงหลีขยับคิ้วขึ้นลงเล็กน้อย พลางเอามือกุมหน้าแล้วลุกขึ้นยืน “เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ฉันหน้าแดงเล็กน้อย ไม่พูดอะไร ทว่าเมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าที่ยับเยินของฉันก็เข้าใจในทันที“ฉันขอโทษ…”“ไม่ต้องขอโทษหรอก นี่ไม่ใช่ความผิดของนาย” ฉันถอนหายใจออกมา และหยิบยารักษาชนิดเจือจางออกมาหนึ่งเม็ด “กินยานี่ซะ”เขาอ้าปาก แล้วเอายาที่อยู่บนนิ้วของฉันใส่เข้าปากเมื่อกลืนลงท้องไปแล้ว ไม่ถึงสิบนาที กรามเขาที่ถูกฉันชกจนหักก็กลับมาคงสภาพเดิม ถึงแม้จะยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้วหมิงหลีตกใจกับผลของยามาก พลันสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเคร่งขรึมทันที “จุนเหยา ยาแบบนี้ อย่าให้ใครใช้ง่าย ๆ นะ”ฉันพยักหน้าเข้าใจ ด้วยเหตุผลเรื่องผลประโ
ด้วยเหตุนี้ พลังหยินของภูเขาในช่วงเวลาพลบค่ำจึงเงียบสงัดกว่าปกติ ที่นี่มีการฆาตกรรมจำนวนหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พอตกดึกก็จะไม่มีใครกล้าเข้าไปเหยียบที่แห่งนี้อีกเลยในป่าเงียบแปลก ๆ แม้แต่เสียงร้องของแมลงสักตัวก็ไม่มี เราสองคนปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขา และแล้วต้นไม้ที่มีอายุหลายศตวรรษก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าร่างเล็กเปิดห้องไลฟ์สด ก่อนกล่าวสั้น ๆ เกี่ยวกับต้นสายปลายเหตุ “เพื่อน ๆ ผู้ชมทั้งหลายคะ อย่างที่ทุกคนเห็น ร่างของชุนซิ่งถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ หลายปีที่ผ่านมา หล่อนได้ซึมซับพลังหยินของผู้ที่ตายอย่างน่าเศร้ามากครั้งจนนับไม่ถ้วน เพื่อนำไปเพิ่มพลังให้แก่ตนเอง คดีเหล่านั้นทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในภูเขา คิดว่าคงเกิดจากการที่ฆาตกรโดนหล่อนล่อลวงให้ทำเรื่องเลวร้าย”ทว่าพูดไม่ทันจบ ห้องไลฟ์สดก็โดนสแปม[แอดมิน ไม่ต้องอธิบายแล้ว ดูบนต้นไม้เร็ว!]ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองอย่างเร็ว ทันใดนั้นใบหน้าขาวซีดก็ปรากฏอยู่บนลำต้นสูงใหญ่นั่น สายตาทมิฬเพ่งมองมาที่เราพร้อมแย้มยิ้มสยองมือเน่า ๆ เปื่อย ๆ ยื่นออกมาจากพื้นและจับเท้าของฉันไว้แน่น ถังหมิงหลีจึงลงมือหยิบมีดสั้นของเขาออกมาตามแนวขวางแล้วตัด
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ