ดูเหมือนว่าฉันจะคิดอะไรบางอย่างได้กะทันหัน “แต่เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนนะ ผู้โดยสารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งก่อนมีทั้งหมดสี่สิบสองคนใช่ไหม?”“สี่สิบสามคน อย่าลืมคนขับอีกหนึ่งคนสิ” ถังหมิงหลีเตือนสติฉัน“แถมยังมีคนที่ถูกดูดวิญญาณไปอีกสี่สิบเจ็ดคน” ฉันคิดอย่างรอบคอบ “สี่สิบสามบวกกับสี่สิบเจ็ดเท่ากับห้าสิบเอ็ดคนพอดี ฉันว่ามันต้องการรวบรวมวิญญาณทั้งหมดเก้าสิบเก้าดวง”ตามตำนานว่ากันว่า หลังจากที่ผีชั่วร้ายดูดวิญญาณครบเก้าสิบเก้าดวง มันสามารถเลื่อนขั้นเป็นวิญญาณแค้นได้อย่างราบรื่น! แต่วิธีนี้ร้ายกาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าในอนาคตมันได้เลื่อนขั้นเป็นผีที่ร้ายกาจขึ้น มันคงจะทำได้ทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งควบคุมความตายของผู้อื่นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ยังมีผีชั่วร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยอมเสี่ยงอันตราย เมื่อเข้าตาจนอยู่เยอะมาก“แย่แล้ว!” ฉันพูดอย่างตกใจ “ฉันทำให้มันบาดเจ็บหนัก และเพื่อการรักษาตัวกับการเลื่อนขั้น มันจะต้องฆ่าคนอย่างไร้ความยับยั้งชั่งใจแน่ ๆ เร็วเข้าหมิงหลี พวกเราต้องรีบไปที่ถนนทางหลวงคดเคี้ยวรอบภูเขาเพื่อหยุดมัน”ถังหมิงหลีรีบวิ่งไปเอารถออกจากโรงรถอย่างไว ไม่นานลัมโบ
[พ่อ! เป็นพ่อของฉันจริง ๆ ด้วย! แอดมิน คนที่ใส่เสื้อสีฟ้าตรงหน้าต่างบานที่สามคนนั้นคือพ่อของฉัน ฉันขอร้อง ช่วยเขาด้วย][คนข้างบน ฉันขอแสดงความเสียใจด้วย]ฉันมองไปรอบ ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ก่อนหน้านี้ผีตัวนั้นโดนพวกเราทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เป็นเวลาที่มันอ่อนแอที่สุด ถ้าอยากจะฆ่ามันก็ต้องลงมือตอนนี้เลย”“แล้วมันคือตัวไหน?” ถังหมิงหลีถามฉันกัดฟันและมองไปทีละตัว แต่ผีทุกตัวล้วนเหมือนกันจนแยกไม่ออกจริง ๆ ทำยังไงดี?ฉันก้มหน้าลง พลางพูดกับผู้ชมในโทรศัพท์ “ท่านผู้ชมทุกท่าน พวกคุณพอจะดูออกไหมว่าใครคือผีตัวนั้น?”[ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลัง][ก็เห็นชัด ๆ อยู่ว่าเป็นเด็กที่นั่งตรงแถวที่สามคนนั้น คนที่ดูแล้วไม่เหมือนฆาตกรที่สุดมักจะเป็นฆาตกร][คนไม่มีสมองข้างบน นี่ไม่ใช่หนังลึกลับสักหน่อย ฉันเดาว่าเป็นคนขับ]ฉันเหลือบมองดูม่านกระสุนที่กำลังสงสัยผีแทบทุกตัว ฉันกลอกตาอย่างจนใจ ฉันไม่ควรคาดหวังกับผู้ชมเลยจริง ๆขณะนั้นเอง ผีทั้งหมดในรถก็หันหน้ากลับมามองพวกเราด้วยแววตาว่างเปล่าแปลก ๆ สภาพการณ์แบบนี้น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด แม้แต่ผู้ชมที่อยู่หน้าจอก็ยังตกใจ
[แอดมินพูดถูก หรือว่าพวกคุณอยากให้พวกเขาอยู่ในโลกมนุษย์อย่างไรที่พึ่งพักพิงล่ะ?][ใช่ ที่แอดมินทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขา]ผีที่ตายแล้วทั้งหมดถูกส่งไปยังยมโลก และวังวนก็ได้สงบลง ส่วนวิญญาณที่เหลืออยู่บนรถบัสก็คือพวกคนที่ยังมีจิตวิญญาณผูกติดกับร่างกายอยู่ นั่นหมายความว่า ร่างกายของพวกเขายังไม่ได้สูญสลาย ยมโลกจึงไม่สามารถรับวิญญาณพวกเขาไปได้ฉันโทรหาเสี่ยวหลิน และบอกให้เขารีบมานำคนที่ยังมีจิตวิญญาณอยู่เหล่านี้ส่งกลับไป หลังจากนั้นค่อยหันไปพูดกับร่างสูงข้างตัว “หมิงหลี ฉันอยากไปที่ล่างหน้าผา ผีตัวนั้นโดนฉันทำร้ายจนบาดเจ็บไปถึงสองครั้ง ตอนนี้มันอ่อนแอมาก พวกเราจำเป็นต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ และไปกำจัดมันให้สิ้นซาก”“ตกลง” ถังหมิงหลีไม่พูดอะไรมากมา เขาตามฉันลงมาจากรถบัสผี จากนั้นก็พากันปีนลงมาจากหน้าผา แต่ก่อนจะลงมาถึงหน้าถ้ำ กลับพบว่าภายในถ้ำนั้นไร้ชีวิตชีวา อีกทั้งบนพื้นก็เต็มไปด้วยซากศพของค้างคาวผี“ค้างคาวผีเหล่านี้ใช้พลังมืดหล่อเลี้ยงตัวเอง แต่ตอนนี้ผีร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจึงดูดพลังมืดจากตัวค้างคาวไปใช้รักษาแผล” ฉันอธิบาย “ภายในถ้ำนี้ นอกจากผีร้ายแล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอ
“ลงมือ!” กริชสั้นฟันลงบนตัวของศพเลือด จนเกิดเสียงที่คมชัดราวกับว่ามันฟันลงบนโลหะ ใบมีดนั่นช่างแข็งแกร่งจริง ๆเมื่อถังหมิงหลีหมุนด้ามมีด จู่ ๆ ลายเส้นสีทองก็สว่างขึ้นบนตัวมีด ประกอบกันเป็นอักษรรูนโบราณเขาใช้แรงทั้งหมดแทงเข้าไปอย่างแรง จนกระทั่งมีดแทงเข้าไปในร่างกายของศพเลือดได้ทั้งด้าม หลังจากนั้นก็ดึงมันออกและตัดแขนของศพเลือดทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้ ผีชั่วร้ายก็คำรามด้วยความโกรธ เขาเงยหน้าตะโกนขึ้นไปบนฟ้า พริบตาร่างวิญญาณก็ระเบิดและกลายเป็นหมอกสีเลือดทว่าจู่ ๆ พลังที่เก้าก็เอ่ยเสียงดังออกมา “ผีชั่วร้ายตัวนี้ระเบิดร่างวิญญาณของตัวเองแล้ว และมันกำลังคิดจะสู้กับเธออย่างสุดชีวิต ตอนนี้พลังของมันได้ไปถึงระดับวิญญาณแค้นแล้ว แค่ค่ายปราบผีพลังเก้าหยางไม่สามารถล้อมรอบมันไว้ได้หรอก”ก่อนที่เสียงนั่นจะพูด ฉันก็ได้ยินเสียงดังตู้ม ตาข่ายไฟระเบิดเป็นจุล ส่วนธงทั้งเก้าล้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน หมอกสีแดงพุ่งตรงมาทางฉันทันทีร่างบางหันหลังวิ่ง แต่หมอกสีแดงนั้นมีเร็วกว่า แค่พริบตาเดียวมันก็พุ่งเข้ามาดักหน้าฉันไว้แล้วพลังที่เก้าพูดเสียงเรียบ “อย่าเพิ่งตื่นตกใจ ใช้เลือดของเธอสิ!”ฉันกัดปลายลิ้นของตัว
“พวกคุณไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ ตอนนี้ทุกอย่างน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ” เสี่ยวหลินเอ่ย “คุณจะไปโรงพยาบาลเลยไหม? ผมจะไปส่ง”ฉันโบกมือ “ไม่เป็นไร แค่พลังงานจิตวิญญาณของฉันถูกใช้มากเกินไป กลับไปฝึกฝนสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้นแล้ว”เสี่ยวหลินพูดอย่างกระตือรือร้น “งั้นผมจะไปส่งคุณที่บ้าน”“ไม่ต้อง” ถังหมิงหลีพูดแทรก “รถมารับพวกเราแล้ว” เขากอดฉันแน่นขึ้น “ตอนนี้พวกเรากำลังคิดถึงโลกที่มีแต่เราสอง”มุมปากของฉันกระตุกยิ้มสองครั้ง พร้อมแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ร่างเล็กได้แต่ก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา “ฉันเข้าใจ” เสี่ยวหลินเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่รบกวนแล้วล่ะ ถึงยังไง ความกลมกลืนของหยิงหยางยังเป็นวิธีที่ดีและรวดเร็วที่สุดในการฟื้นฟูพลังจิต”เดี๋ยวนะ ความกลมกลืนของหยินหยางอะไรกัน? นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?ถังหมิงหลียิ้มอย่างมีเลศนัย เขาหมุนตัวกลับและเดินเข้าไปในรถแลนด์โรลเวอร์สีดำที่จอดอยู่ข้าง ๆ“ตอนนี้...ปล่อยฉันได้แล้วมั้ง” ฉันเอ่ยบอกทั้ง ๆ ที่ยังหน้าแดงอยู่ถังหมิงหลีค่อย ๆ ขยับเข้ามาแล้วกระซิบที่หูของฉัน “เธอไม่ลองหน่อยเหรอ?”“ลองอะไร?”“ความกลมกลืนของหยินหยางน่ะ” เขาตอบพร้อมขยิบตาให้ฉันจุนเห
ในปัจจุบันเข็มทองคำและเข็มเงินที่แพทย์แผนจีนใช้กันมีขายตามร้านขายยาจีนเท่านั้น ยิ่งร้านดี ๆ ก็หาได้ยากยิ่งกว่าเดิม ฉันขอให้เจ้านายของฮุยเจินเก๋อช่วยหาให้ ส่วนเรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาฉันแวะไปหาฮุยเจินเก๋อ และทันทีที่เห็นฉัน เถ้าแก่ร่างอ้วนท้วมก็เผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มออกมา “คุณหยวน คุณมาแล้วเหรอ มา ๆ มาดูห่อเข็มทองคำนี่สิ ถูกใจคุณแน่ ๆ”ฉันเปิดกล่องแล้วคลี่ถุงผ้าออก ตาคมดูมันใกล้ ๆ ช่างเป็นเข็มที่ดีจริง ๆ “เถ้าแก่ คุณซื้อเข็มนี้มาจากที่ไหน?” ฉันถามอย่างมีความสุข “แล้วมันราคาเท่าไหร่คะ?”เถ้าแก่ยิ้ม “ไม่คิดเงินหรอก”ฉันประหลาดใจ “ไม่คิดเงิน งั้นคุณต้องการอะไร?”เถ้าแก่เอ่ย “คุณหยวน มีคนอยากพบคุณ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะอยากพบเขาไหม?”สีหน้าของฉันหม่นลง “เถ้าแก่ คุณกำลังทรยศฉันหรือเปล่า?”“ไม่ ๆ คุณหยวน ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก” เขาโยกมือไปมาอย่างรวดเร็ว “คุณหยวน เขาคือลูกชายของครอบครัวเจ้านายฉัน เขาป่วยหนัก และเคยได้รักษาจากหมอที่ดีที่สุดในโลกแล้ว แต่มันเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าเขาไปได้ยินมาจากไหนว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณยอดเยี่ยม เขาเลยคิดอยากให้คุณลองช่ว
ฉันแอบคิดอย่างเงียบ ๆ เกรงว่าจะไม่ใช่เส้นสาย “อันน้อยนิด” แต่อาจเป็นเส้นสายที่ทรงพลัง เขามาขอพบฉัน แสดงว่าต้องได้รับการอนุมัติจากคนใหญ่คนโตแล้วเป็นแน่“คุณหยวน ฉันป่วยมาเกือบสิบปีแล้ว ฉันถามหมอมาหายคน แม้แต่หมอมืออาชีพระดับประเทศทั้งห้าท่านก็ยังไม่สามารถรักษาได้ อย่างมากที่สุดพวกเขาก็แค่ยืดอายุไขของฉัน ฉันเคยดูไลฟ์สดของเธอ ถ้าหากว่าในแผ่นดินนี้จะมีใครที่ช่วยเหลือฉันได้ ก็เห็นจะมีแต่เธอเท่านั้น” นายน้อยเสวียกล่าวนายน้อยเสวียคนนี้พูดเก่ง และมีการประจบสอพลอนี้สมบูรณ์แบบ ทำให้ฉันตกลงที่จะให้การรักษาแก่เขา“เข็มทองคำนั่นเป็นค่าตอบแทนสำหรับการให้คำปรึกษา ไม่ว่าเธอจะรักษาได้หรือไม่ ฉันจะมอบมันให้เธอด้วยมือทั้งสอง” นายน้อยเสวียพูดต่อ “แต่ถ้าเธอสามารถรักษาโรคของฉันได้ ฉันจะมอบของตอนแทนอีกอย่างให้เธอ”ฉันเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ย “ฉันจะวัดชีพจรของคุณก่อน”ร่างเล็กจับข้อมือของเขา พลันรู้สึกราวกับว่ากำลังสัมผัสก้อนน้ำแข็งอยู่ มันเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังชีพจรนี้แปลกเกินไป ฉันสอดแทรกจิตวิญญาณเข้าไปภายในร่างกายของเขา ก่อนจะพบว่าร่างกายของเขาอ่อนแอมาก และเส้นเลือดของเขาก็เปราะบางจนแตกอ
“ข้อที่สอง วัตถุดิบยาทั้งหมด คุณต้องเป็นคนหาเอง”“แน่นอน ฉันไม่ลำบากให้หมอแบบคุณหาเองหรอก” เขาเอ่ย“ข้อที่สาม นอกจากเงินค่าปรึกษาสิบล้านแล้ว นายยังมีสัญญาอีกข้อ แต่ฉันยังนึกไม่ออก และฉันจะพูดถึงมันทีหลัง”เขาคิดอยู่ครูหนึ่ง พลางเอ่ย “ได้สิ ฉันสัญญา”ฉันเรียกเหล่าเฉินเข้ามา และเปิดเอกสารด้วยมือถือ จากนั้นจึงเขียนวัตถุดิบจำนวนมากในการปรุงยายื่นส่งให้เขาไปหา ยิ่งเยอะก็ยิ่งดีอันที่จริง มีเพียงส่วนเล็ก ๆ ของวัตถุดิบเหล่านั้นก็สามารถใช้รักษานายน้อยเสวียได้ ส่วนวัตถุดิบอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีไว้เพื่อการทุจริตของฉันเองสิ่งเหล่านี้เป็นวัตถุดิบทางการแพทย์อันล้ำค่า ถ้าเป็นคนธรรมดาคงหาของแบบนี้ไม่ได้ แต่เหล่าเฉินยังคงเผยท่าที่แน่วแน่ออกมา เขาเอ่ยตอบว่า “ผมจะนำมาให้ในคืนนี้”ครอบครัวตระกูลเสวียนี่ร่ำรวยจริง ๆ “ตอนนี้เส้นเลือดของคุณบอบบางมาก” ฉันเอ่ย “ก่อนที่จะใช้ยา ต้องเริ่มวอร์มร่างกายก่อน” มือบางหยิบยาเป่ยหยวนตานออกมาสามเม็ด “ทานยาเป่ยหยวนตานวันละหนึ่งเม็ด เพื่อฟื้นฟูพละกำลัง แล้วฉันจะสั่งยาอื่นให้คุณกินอีกวันละครั้ง เพื่อรักษาเส้นเลือด”“ขอบคุณมาก คุณหยวน” นายน้อยเสวียยิ้มอย่างจริงใจ ทำให