อันที่จริง ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรม มีเพียงสัจธรรมเท่านั้นที่ดำรงอยู่เสี่ยวหลินไม่ได้พูดถึงเรื่องของตำรับยาถอนพิษ อาจเป็นเพราะครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ทำอะไรมาก ก็เลยอายที่จะพูดขึ้นมาฉันขยับร่างกายดูเล็กน้อยและไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนบาดเจ็บแล้ว ดังนั้นจึงออกจากโรงพยาบาลแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน ไม่นานถังหมิงหลีก็ถามขึ้น “ในเมื่อเธอมีบ้านใหม่แล้ว งั้นก็ควรรีบย้ายบ้านเถอะ ที่นี่ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้น”ฉันฟังคำพูดของเขาพลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นายแอบส่งคนมาปกป้องฉันใช่ไหม?”ถังหมิงลีเลิกลักเล็กน้อยพลางเอ่ย “ใช่”“แถมยังช่วยไล่ขโมยออกไปให้ฉันด้วยใช่ไหม?”“...ใช่ และยังมีคนที่แอบเข้ามาเพื่อคิดทำอะไรที่ไม่ดีต่อเธอในตอนกลางดึกอีก”ฉันถอนหายใจเบา ๆ “หมิงหลี ขอบคุณนะ”ถังหมิงหลียิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจ “ในที่สุดเธอก็เลิกเรียกฉันว่านายถังแล้วสินะ?”จุนเหยาหน้าแดงด้วยความเขินอาย “พวกเราเป็นเพื่อนกันหนิ”“แค่เพื่อนเท่านั้นเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยพลางใช้สายตาที่อบอุ่นมองมาที่ฉันหน้าของฉันยิ่งแดงเข้าไปอีก “ก็เป็นเพื่อนไง จะเป็นอะไรไปได้อีก?”ถังหมิงหลีเอาแต่ยิ้ม ทว่าไม่พูดอะไรออกมา
พริบตาก็มีข้อความตอบกลับมาเร็วมาก “พอใช้ได้ เหมือนจะอยู่ในระดับกลาง ๆ แล้วเธอได้กลั่นวัตถุดิบยาไปกี่ชนิด?”“กลั่นไปสี่ชนิดค่ะ” ฉันพูดขึ้น “ฉันเตรียมวัตถุดิบสำหรับยาสิบเม็ด แต่มันออกมาแค่หกเม็ด”“...” เขาเงียบไปนานมากและพูดขึ้นว่า “เธอกลั่นได้สำเร็จภายในครั้งเดียวเหรอ? อีกทั้งยังบรรลุไปถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ของอัตราความสำเร็จด้วย”“นี่...เหมือนจะเป็นอย่างนั้นมั้งคะ” ฉันพูดด้วยความลังเล“...” เขาเงียบไปอีกครั้ง ก่อนเอ่ย “เธอใช้เตาอะไรในการกลั่นยา? หรือว่าเธอได้รับอาวุธวิเศษระดับสูงมางั้นเหรอ?”“ฉันใช้แค่หม้ออัดแรงดันที่บ้านค่ะ”“...” พลังที่เก้าถึงกับพูดไม่ออก“นี่เธอหลุดมาจากภพไหนกันแน่?” เขากัดฟันเล็กน้อยเมื่อพูดคำนี้“...พ่อกับแม่ให้กำเนิดฉันค่ะ”พลังที่เก้าถึงชะงักค้าง ก่อนเอ่ย “ช่างเถอะ ช่างเถอะ จำไว้นะ ถ้าทำออกมาแล้วไม่มีลวดลายบนยา แสดงว่ามันเป็นยาระดับล่าง แต่ถ้ามีลวดลายก็คือยาระดับกลาง ทว่ายาที่มีลวดลายมากกว่าสี่เส้นจะเป็นยาระดับสูง และถ้ายาเรืองแสงออกมาก็จะถือว่าเป็นยาระดับสูงที่สุด”ลักษณะนิสัยของพลังที่เก้านั้นแปลกประหลาดมากจริง ๆ ฉันเอายาออกมาใส่ปากหนึ่งเม็ดแล้วกลืนล
จุนเหยาก้มมองดูกระโปรงที่อยู่ในมือ ก็แค่กระโปรงตัวหนึ่งเอง ใช่ว่าจะซื้อไม่ได้เสียหน่อยฉันเดินเข้าไปลองใส่ในห้องลองชุด พลางถอดหมวกและหน้ากากออก ก่อนเปลี่ยนเป็นสวมชุดกระโปรงแล้วปล่อยผมลงมาตาคมมองดูตัวเองในกระจก ชุดกระโปรงตัวนี้สวยมาก การตัดเย็บก็เหมาะสมกับราคา เมื่อสวมใส่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเอวเล็กลง ขาเรียวยาวขึ้น ราวกับว่ามันถูกทำมาเพื่อฉันโดยเฉพาะแต่อีกใจก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ความจริง นี่คือฉันจริง ๆ เหรอ? ที่แท้สิ่งที่อยู่ภายใต้เนื้องอกพวกนั้นก็คือหญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามอย่างคาดไม่ถึงนี่เองแม่ของฉันก็ไม่ได้สวยมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกผู้ชายทิ้งไป แล้วรูปร่างหน้าตาของฉันได้รับการถ่ายทอดมาจากใครกันแน่?ขณะกำลังสำรวจตัวเอง จู่ ๆ ก็มีเงาของคนคนหนึ่งโผล่เข้ามาด้านหลังฉัน ฉันตกใจมากและรีบหันหลังกลับไปทันที พลันพูดด้วยความโมโห “หยินเฉิงเหยา นี่นายจะทำอะไร? ฉันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นะ!”พูดแล้วฉันก็เดินออกไป แต่เขาดันคว้าไหล่ฉันแล้วดึงกลับมา“ปล่อยมือ!” เสียงเล็กตวาดลั่น “ไม่งั้นฉันจะเรียกให้คนช่วย!”เขาจ้องมาที่ดวงตาของฉันและพูดด้วยเสียงเรียบ “แม้แต่เสื้อผ้าสักชุด ถังห
“เธอดูสิ ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก”“ใช่ ขายาวมาก หรือว่าจะเป็นนายแบบ?”ฉันตกใจจนพูดไม่ออก พวกเขาคือแฟนคลับของจอมเผด็จการ แต่ไม่มีใครจำถังหมิงหลีได้?ในหัวของฉันสับสนไปหมด“เธอไม่เคยสังเกตเลยเหรอ?” ถังหมิงหลีดูประหลาดใจกว่าฉัน “ในความเป็นจริงแล้วผู้ชมจำฉันไม่ได้เลย”ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? ฉันอ้าปากค้างอย่างตกใจ“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม จุนเหยา ห้องไลฟ์สดที่เธอใช้มันแปลกมาก” ถังหมิงหลีกล่าว “มันพลางตาการมองเห็นของผู้ชมได้ ความสามารถแบบนี้ ฉันเคยได้ยินว่ามีปรมาจารย์แห่งพลังจิตท่านหนึ่งใช้มัน มันสามารถทำให้คนนับล้านจำพวกเราไม่ได้ แต่ความสามารถแบบนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ฉันไม่เคยเห็นกับตาตัวเองมาก่อน จนกระทั่งวันนี้”จุนเหยาขนลุกและหนาวที่สันหลังขึ้นมาทันที“งั้น...เถิงหลานล่ะ? ทำไมผู้ชมถึงจำเขาได้?” ฉันถามขึ้น“ตอนแรกฉันก็คิดไม่ออก แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้ว เขาคือแขกที่มาเข้าร่วมชั่วคราว แต่ฉันเป็นสมาชิกที่อยู่ถาวร” ถังหมิงหลีอธิบาย “ตอนนั้นที่แผนกพิเศษสามารถหาเธอเจอได้ ก็เพราะว่าเธอส่งข้อมูลบัญชีธนาคารของตัวเองให้ทีวีไป”ฉันลองมานั่งคิดอย่างละเอียดดู พวกเราดังขนาดนั้น คนของตระกูลกัวน่าจะจำฉันกั
ใช่แล้ว ในงานศพของยวีฉียังมีผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ แม่ของยวีฉีตลอด ว่ากันว่าหล่อนเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอมาตั้งแต่เด็ก พี่น้องคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมากผู้หญิงคนนั้นน่าจะชื่อยวีหลางแต่ทำไมยวีหลางถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้? เธอตกต่ำลงขนาดนี้เชียวหรือ?ไม่ใช่ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่ ๆขณะนี้ ยวีหลางกำลังกอดอยู่กับผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่ง พวกเขาทั้งสองกำลังแสดงท่าทีออดอ้อนใส่กันแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะหล่อเหลา แต่สีหน้าของเขากลับดูซีดเซียวมาก เบ้าตาเป็นสีดำ บริเวณกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้างกลายเป็นสีเขียว ราวกับว่าชายคนนั้นปล่อยตัวให้น้ำเมาและความเย้ายวนของผู้หญิงควบคุมร่างกายตัวเองผู้ชายคนนั้นก้มลงจูบยวีหลาง หล่อนเงยหน้าขึ้นตอบรับ หากแต่มีแววตาที่ดุร้ายฉายแวบเข้ามาหรือว่า...ยวีหลางลากผู้ชายคนนั้นเข้ามากกกอด พลันเอ่ย “คุณชายเฉา เราไปชั้นบนกันเถอะค่ะ”คุณชายเฉาตื่นตัวไปทั้งร่าง มือหนากอดเอวบางและรีบพากันเดินขึ้นไปชั้นบนทั้งสองคนเข้าไปในห้อง คุณชายเฉามีท่าทีเหมือนเสือที่หิวโหยตัวหนึ่งยวีฉีมองไปที่ทั้งสองคนอย่างวิตกกังวล แต่ไม่รู้ว่าตนจะต้อ
[ฉันรู้จักนักแสดงชายคนนี้ นี่ไม่ใช่คุณชายเฉาเหรอ? เขาเป็นลูกชายคนที่สองของผู้จัดการใหญ่บริษัทระหว่างประเทศกวางลู่ เขาเป็นคนเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงมาก]คุณชายเฉาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองได้ตกอยู่บนไลฟ์สดและกลายเป็นคนดังไปแล้ว เขามองไปที่ยวีหลางอย่างเย็นชาพลันเอื้อมมือออกไปตบของหน้าเธออย่างแรง “ฉันอยากได้หล่อน เพราะฉันสนใจในตัวผู้หญิงคนนั้น แต่หล่อนกลับเอาที่เขี่ยบุหรี่มาตีหัวของฉัน! ตอนนั้นฉันไม่ฆ่าเธอกับแม่แก่ ๆ ของพวกเธอด้วยก็ถือว่าเมตตามากแล้วนะ แต่เธอยังกล้ากลับมาแก้แค้นฉันอีกเหรอ?”[เคยเห็นคนไม่ดีมาเยอะ แต่ฉันไม่เคยเห็นคนเลวขนาดนี้มาก่อน][คอมเมนต์บนนี่เป็นทายาทเศรษฐีที่เต็มไปด้วยคุณธรรมเหรอ][ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว ไลฟ์สดนี้คือหลักฐานที่ใช้ในศาลได้ เฮ้ เฮ้ เจ้าคนนามสกุลเฉา ฉันไม่สนว่าคุณจะรวยแค่ไหนหรือมีภูมิหลังอย่างไร ยังไงคุณก็ต้องเข้าคุก][คอมเมนต์ทำได้ดีมาก]สายตาของยวีหลางเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจนอยากจะจับชายตรงหน้ามาสับให้ละเอียด เธอพูดขึ้นว่า “เฉาเทียนฉวน ต่อให้ฉันเป็นผีฉันก็จะไม่ปล่อยแกไป! “เฉาเทียนฉวนยิ้มอย่างเย็นชา “พูดได้ดี งั้นฉันจะส่งให้เธอไปเป็นผีเดี๋ยวนี้แหละ”
ฉันถือโอกาสพยุงตัวยวีหลางขึ้นมาในขณะที่เธอกำลังสะลึมสะลือ ก่อนจะหันหลังวิ่งออกมา บอดี้การ์ดคำรามด้วยความโกรธ “หยุดเดี๋ยวนี้!” จากนั้นพวกเขาก็ไล่ตามมา แต่กลับมีกระจกของโต๊ะชาสไลด์ลอยมา ทำให้พวกนั้นล้มกันเป็นระนาว เสียงการต่อสู้จากชั้นบนสร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนที่กำลังสนุกสนานกันอยู่ด้านล่าง โดยเฉพาะเฉาเทียนฉวน เขาถีบประตูด้วยขาข้างเดียวเข้ามา และทันทีที่เข้ามาถึงก็เห็นผีผู้หญิงหน้าตาสยดสยองนั่งอยู่บนคอของบอดี้การ์ด เขาแหกปากร้องออกมาด้วยความตกใจจนล้มลงตูดกระแทกพื้น“ผี มีผี!”จุนเหยารีบวิ่งออกมาจากคฤหาสน์แล้วดักรถแท็กซี่ที่ขับผ่านมา จากนั้นจึงขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที ระหว่างทางก็เห็นรถตำรวจมากมายแล่นสวนผ่านไปด้วยฉันกดปิดห้องไลฟ์สด ก่อนจะก็นำยารักษาชนิดเจือจางเม็ดหนึ่งยัดใส่ปากยวีหลาง เหล่าหมอและพยาบาลต่างช่วยกันเข็นเธอเข้าไปในห้องผ่าตัด ส่วนฉันก็ค่อย ๆ ปลีกตัวออกมาท่ามกลางค่ำคืนอันมืด และย่องกลับบ้านอย่างเงียบเชียบมือเรียวกดเปิดทีวีดู หน้าแรกปรากฏรายการถ่ายทอดสดหนึ่งขึ้นมา สิ่งที่กำลังฉายอยู่นั้นคือ การติดตามสถานการณ์ของเรื่องนี้พอดีผู้ที่กำลังไลฟ์สดคนนี้อยู่ที่คฤหาสน์หลัง
วันนี้ฉันฝึกซ้อมไปหนึ่งวันเต็ม รู้สึกว่าจิตใจเบิกบานมากกว่าเดิมฉันกดเปิดคอมเพื่อจะดูข่าวของเฉาเทียนฉวนว่ามีความคืบหน้าใดบ้าง แต่กลับพบว่าไม่มีเว็บพอร์ทัลหลักอันไหนเลยที่ลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ บนเวยป๋อเองก็มีแต่ข่าวการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ฉันขมวดคิ้วพลางคิดว่ากลยุทธ์ของตระกูลเฉาช่างหลักแหลมจริง ๆไม่ได้การละ! ยวีหลางมีอันตราย!คิดได้ดังนั้น จุนเหยาจึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที แต่เมื่อมาถึงก็พบว่ายวีหลางได้ถูกตำรวจจับกุมตัวในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อรู้เรื่องฉันก็โทรหาเสี่ยวหลินทันที เขาถอนหายใจพร้อมกับบอกว่า “ยวีหลางนั่นสารภาพผิดกับทางสถานีตำรวจหมดแล้ว เธอบอกว่าพี่สาวของตัวเองลื่นหล่นลงมาจากตึก และที่อยากจะแก้แค้นเฉาเทียนฉวน ก็เพราะอิจฉาที่เฉาเทียนฉวนยังมีผู้หญิงคนอื่นอีก ส่วนเรื่องที่เฉาเทียนฉวนฆ่าคนนั้นก็ไม่มีหลักฐานอะไร อีกไม่นานทางฝั่งตำรวจก็คงจะปล่อยเขาไป”ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ยวีหลางเกลียดเฉาเทียนฉวนเข้ากระดูก แล้วทำไมเธอถึงได้กลับคำสารภาพ?หรือว่า…แย่แล้ว! เกรงว่าป้าซุนกำลังจะมีอันตรายป้าซุนเป็นแม่ของยวีหลาง ได้ยินมาว่าสุขภาพของหล่อนไม่ค่อยดีเท่าไหร