วันนี้ฉันฝึกซ้อมไปหนึ่งวันเต็ม รู้สึกว่าจิตใจเบิกบานมากกว่าเดิมฉันกดเปิดคอมเพื่อจะดูข่าวของเฉาเทียนฉวนว่ามีความคืบหน้าใดบ้าง แต่กลับพบว่าไม่มีเว็บพอร์ทัลหลักอันไหนเลยที่ลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ บนเวยป๋อเองก็มีแต่ข่าวการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ฉันขมวดคิ้วพลางคิดว่ากลยุทธ์ของตระกูลเฉาช่างหลักแหลมจริง ๆไม่ได้การละ! ยวีหลางมีอันตราย!คิดได้ดังนั้น จุนเหยาจึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที แต่เมื่อมาถึงก็พบว่ายวีหลางได้ถูกตำรวจจับกุมตัวในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อรู้เรื่องฉันก็โทรหาเสี่ยวหลินทันที เขาถอนหายใจพร้อมกับบอกว่า “ยวีหลางนั่นสารภาพผิดกับทางสถานีตำรวจหมดแล้ว เธอบอกว่าพี่สาวของตัวเองลื่นหล่นลงมาจากตึก และที่อยากจะแก้แค้นเฉาเทียนฉวน ก็เพราะอิจฉาที่เฉาเทียนฉวนยังมีผู้หญิงคนอื่นอีก ส่วนเรื่องที่เฉาเทียนฉวนฆ่าคนนั้นก็ไม่มีหลักฐานอะไร อีกไม่นานทางฝั่งตำรวจก็คงจะปล่อยเขาไป”ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ยวีหลางเกลียดเฉาเทียนฉวนเข้ากระดูก แล้วทำไมเธอถึงได้กลับคำสารภาพ?หรือว่า…แย่แล้ว! เกรงว่าป้าซุนกำลังจะมีอันตรายป้าซุนเป็นแม่ของยวีหลาง ได้ยินมาว่าสุขภาพของหล่อนไม่ค่อยดีเท่าไหร
ช่วงนี้เข้าเดือนที่สองของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดเร็วขึ้น พอถึงเวลาประมาณหกโมงกว่า ๆ ฟ้าก็มืดเสียแล้ว คืนนี้มองไม่เห็นดวงจันทร์ เมฆดำกำลังบดบังเมืองทั้งเมืองให้อยู่ในความมืดร้านหงหยุนเป็นหนึ่งในร้านอาหารใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากในเมืองซานเฉิง และมีการประดับตกแต่งอย่างหรูหรา อีกทั้งราคานั้นก็สูงลิ่วจนเป็นที่น่าตกใจสำหรับผู้ได้ยิน ทุกคนต่างบอกกันว่าขนาดอาหารที่ราคาถูกที่สุดในร้านก็ราคาร้อยกว่าหยวนขึ้นไปทั้งนั้นสถานที่แบบนี้ เมื่อก่อนแค่ให้ฉันเดินเข้าไปฉันยังไม่เข้าเลย แต่วันนี้ฉันกลับต้องมางานเลี้ยงที่ภายนอกดูแล้วแสนจะหรู แต่ลับหลังกลับซ่อนมีดคมเอาไว้ โชคตาของคนเรามันช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ“เธอพกนี่เอาไว้” ถังหมิงหลีหยิบเข็มกลัดออกมา เข็มกลัดอันนั้นทำมาได้อย่างงดงาม ไข่มุกสีชมพูประกอบกันเป็นดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่น่ารัก หยกเขียวถูกแกะสลักให้เป็นใบไม้สีเขียวสด ทำให้ผู้ที่พบเห็นมันหลงใหลจนละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว“มันคือ?”“กล้องรูเข็ม” ถังหมิงหลีเอ่ย “นี่เป็นเทคโนโลยีชิ้นใหม่ล่าสุดของต่างประเทศ สามารถควบคุมด้วยมือถือได้ วันหลังเธอก็จะได้ไม่ต้องแขวนมือถือไว้ที่คออีก”ฉันยิ้มอย่างข่
จุนเหยาที่กำหมัดแน่นพร้อมจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาอันเยือกเย็น“นี่คงจะเป็นแอดมินไลฟ์สดสยองขวัญสินะ” เฉาเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ซึ่งมันดูเป็นภาพที่อ่อนโยน ราวกับว่าเชิญฉันมาทานข้าวจริง ๆ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองถังหมิงหลี แล้วพูดอย่างไม่มั่นใจ “และท่านนี้คือ…จอมเผด็จการเหรอครับ?”ถังหมิงหลีมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้พูดอะไร เฉาเยี่ยนคิดว่าเขาคงไม่ได้ไม่พอใจอะไร จึงเอ่ยต่อด้วยรอยยิ้มว่า “มา มา ไม่ต้องเกรงใจ นั่งลงเถอะ”ขณะที่ฉันกำลังจะนั่งลง อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเอ่ยขึ้น เขาขมวดคิ้วนิด ๆ “หัวหน้าครอบครัวของตระกูลเราจะไม่นั่งทานข้าวร่วมกับคนที่มองไม่เห็นหน้าเห็นตากัน” ฉันขมวดคิ้วทันที นี่คือต้องการให้ฉันถอดหมวกกับแมสออกใช่ไหม?พอมาถึงก็วางอำนาจใส่กันเลยหรือไงฉันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่หน้าของฉันมีรอยแผลน่าเกลียด ไม่อยากทำให้ทุกท่านทานอาหารกันไม่ลงน่ะค่ะ”เฉาเทียนฉวนยกมุมปาก “ท่านปรมาจารย์เทียนหมิงอยากให้เธอถอดหมวกกับแมสออก ถือเป็นเกียรติสำหรับเธอนะ แต่การที่เธอบอกปัดไปเรื่องนู้นเรื่องนี้ มันจะเป็นการหยามน้ำใจท่านปรมาจารย์หรือเปล่า?”ฉันกำหมัดแน่นพร
ฉันเข้าใจมันโดยปริยาย จากนั้นก็ก้าวมาข้างหน้า สองมือประสานกันเป็นตราประทับแบบฉบับลัทธิเต๋า พลางเอ่ย “ใช้คำพูดแบบนี้กับกัลยาณมิตรแห่งลัทธิเต๋าด้วยกัน มันจะเกินไปหรือเปล่าคะ?”ใครจะรู้ว่าปรามาจารย์เทียนหมิงผู้ซึ่งสงบนิ่งมาโดยตลอดจะหยุดชะงักไปทันที ก่อนจะหันมามองที่ฉันด้วยความตกใจกลวิธีที่ฉันใช้เป็นกลวิธีที่มีเฉพาะในประตูสวรรค์แห่งหวางเท่านั้น ดังนั้นเหล่าลูกศิษย์ที่ออกมาจากที่นั่น ถ้ามีคนใช้กลวิธีนี้ทักทายกัน ก็ถือว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันเขามองฉันอย่างประเมินคร่าว ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าอับอาย “เธอเป็นใครกันแน่?”“คนบนภูเขา” ฉันเอ่ยพร้อมกับชี้ไปบนฟ้า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโค้ดลับที่ใช้เชื่อมต่อกันของสำนักสวรรค์แห่งหวาง เขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง “ต่อให้เธอจะบอกว่าเป็นคนของสำนักสวรรค์แห่งหวาง แล้วอาจารย์ของเธอล่ะเป็นใคร?”ฉันส่ายหน้าพร้อมกับตอบกลับไปว่า “ชื่อของท่านอาจารย์ ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรได้ยิน”เมื่อฉันพูดประโยคนี้ออกไป ก็ทำให้ทุกคนในห้องอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน เนื่องด้วยปรมาจารย์เทียนหมิงมีชื่อเสียงโด่งดังมากว่ายี่สิบปี เกรงว่าฉันคงจะเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับเขาแบบนี้
ฉันไม่เข้าใจถึงความหมายของมัน ราชาแห่งหวางซานจึงกล่าวต่อว่า “คนผู้นี้มีสภาวะด้านอารมณ์ที่โหดร้าย นี่เป็นวิชาลับของสำนักฉัน หากมีคนที่คิดจะลบล้างหรือพยายามฆ่าบรรพจารย์ของตนเอง อาจารย์จะเอาลมหายใจสุดท้ายแห่งความเกลียดชังนี้ใส่เข้าไปในตัวศิษย์ที่คิดก่อกบฏก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจ เพื่อที่ในวันข้างหน้า ไม่ว่าศิษย์ผู้นั้นจะเดินทางไปที่ใด ศิษย์คนอื่นจะได้รู้ถึงความชั่วร้ายของเขา”เมื่อได้ฟังฉันก็รู้สึกทึ่งมาก ที่ประตูสู่สวรรค์แห่งหวางมีวิชาลับแบบนี้ด้วยเหรอ“เธอกล้ารับคำท้าครั้งนี้ไหม?” เทียนหมิงเอ่ยถามเสียงแข็งฉันจึงรุกถามกลับเขาอย่างมีนัยยะสำคัญ “เทียนหมิง ที่คุณบอกว่าฉันไม่มีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำของสำนักสวรรค์แห่งหวาง แล้วคนที่คิดลบล้างบรรพจารย์อย่างคุณ มีคุณสมบัติแล้วอย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าของเทียนหมิงเปลี่ยนไปในทันที ฉันจึงเอ่ยเสียงเข้มต่อ “คุณฆ่าได้แม้กระทั่งอาจารย์ผู้มีประคุณ เทียนหมิง คุณรู้สึกสำนึกผิดบ้างไหม?”เทียนหมิงโกรธมาก เขาทั้งละอายและขุ่นเคืองใจ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่กลับพลิกมือทั้งสองข้าง แล้วปล่อยลมปราณอันหนาวเหน็บมุ่งตรงมาทางฉันแทน ถังหมิงหลีจึงรีบเข้ามาสกัดกั้นทันที
ว่าจบ เขาก็ฟาดมือลงกลางกระหม่อมของอาจารย์ พริบตาเลือดก็ไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด แต่ไม่รู้ว่าอาจารย์ไปเอาแรงมากจากไหน อยู่ ๆ ท่านก็คว้าคอเสื้อเทียนหมิงไว้พร้อมวางมือบนอกของเขาแล้วกัดฟันแน่น “สักวัน แกจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้”ตอนนั้น เขาคิดว่ามันคงเป็นแค่คำพูดเสียดแทงที่อาจารย์พูดก่อนตายเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า แท้จริงแล้วสิ่งนั้นมันจะฝังอยู่ในร่างของตนมาตั้งแต่เริ่ม เหมือนเป็นระเบิดเวลาที่รอวันนับถอยหลังเขาค่อย ๆ ล้มลงไปนั่งกับพื้น อวัยวะภายในถูกลมปราณแห่งความเคียดแค้นทำลายจนแหลกละเอียดหมด เทียนหมิงอาเจียนออกมาเป็นเลือดไม่หยุด และในกองเลือดก็มีอวัยวะภายในปนออกมาด้วย เขากัดฟันกรอดพลางเอ่ย “อาจารย์ ดูเหมือนว่าท้ายที่สุดแล้ว ท่านจะเป็นผู้ชนะ”เมื่อตัวเขาเริ่มเอียง ร่างทั้งร่างก็ล้มลงไปนอนกับพื้นและหมดลมหายใจในที่สุด อาเชียนที่เห็นภาพนั่นก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เขาชกถังหมิงหลีจนหงายหลัง จากนั้นก็รีบหนีออกไปจากห้องส่วนตัวด้วยความรวดเร็วถังหมิงหลีไม่ได้ตามไป เพราะเพียงแค่เขาคิดจะตามล่าอาเชียน อีกฝ่ายก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วเฉาเทียนหนิงส่งสายตาให้กับเฉาเยี่ยน ตรงปกเสื้อของเฉาเยี่ยนมีอุปกรณ์สื่อสา
เฉาเยี่ยนเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน “คุณซุนคนนั้นเขาสุขภาพไม่ดี พวกเราเลยรับเขามาดูแลที่บ้าน ไม่คิดว่าจะทำให้พวกคุณเข้าใจผิดไป งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมจะให้คนพาเธอกลับไปส่งเดี๋ยวนี้เลย”หัวหน้าจินพยักหน้า “เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็รบกวนประธานเฉาด้วยนะครับ เอ๋? ทำไมคนของเราถึงได้รับบาดเจ็บล่ะครับ? แล้วก็เป็นบาดแผลที่มาจากปืนด้วย? พวกมีอำนาจบาตรใหญ่คนไหนกันที่มันกล้าใช้ปืนมั่วซั่วในจีน?”เฉาเทียนหนิงชี้ไปที่ร่างไร้วิญญาณของเทียนหมิง พร้อมกับเอ่ยว่า “คนคนนั้นเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดที่ปรมาจารย์เทียนหมิงพามา พวกเราเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเขาจะพกปืนด้วย”หัวหน้าจินยิ้มอย่างเย็นชา ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไร เลยได้แต่ปล่อยให้เขาพูดมั่วไปเรื่อย“ความจริงมันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวพวกเราจะสืบหาให้ชัดเจนอีกที” หัวหน้าจินเอ่ย “ส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”จุนเหยากับเสี่ยวหลินช่วยกันพยุงแขนถังหมิงหลีออกมากันคนละข้าง แล้วเขาก็หันมากระซิบข้าง ๆ หูฉันว่า “ฉันไม่ไปโรงพยาบาล ไปบ้านเธอ และให้เธอรักษาก็พอ”ฉันเข้าใจความหมายของเขา เนื่องจากฉันมียารักษาบาดแผลอยู่มาก มันสามารถรักษาบาดแผลถูกยิงได้อย่างรวด
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้ ฉันเอามือแตะคางตัวเองอย่างครุ่นคิด การไลฟ์สดนี้มันช่างทำเงินให้มากมายเสียจริง แต่เงินพวกนี้ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตทั้งชีวิตของฉันเช่นกันรายได้สูงก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง ไม่รู้ว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังฉันสักกี่คนที่คอยจับตาดูอยู่แต่ตราบใดที่ฉันสามารถทำเงินได้ ฉันก็ไม่สนใจพวกเขา ถ้ามัวแต่กลัวหมาป่ากลัวเสือแล้วจะเล่นใหญ่ได้ยังไง?ฉันเปิดแชทของกลุ่มเพื่อนอีกครั้ง พบว่าราชาแห่งหวางซานส่งข้อความมาถึงฉัน เขาบอกว่ารางวัลได้ถูกส่งไปแล้ว และบอกว่าอย่าลืมรอรับมันจะเป็นอะไรกันนะ?กริ่งประตูดังขึ้น ร่างบางแปลกใจมาก ทำไมมันมาถึงเร็วขนาดนี้?ทว่าพอเปิดประตูออก ก็ไม่มีใครอยู่ที่หน้าประตูเลย มีเพียงพัสดุห่อเดียว มันเหมือนสองรอบที่แล้วไม่มีผิด มันไม่มีที่อยู่ผู้รับบนห่อพัสดุ แล้วมันถูกส่งมาที่นี่ได้อย่างไร?ฉันเปิดห่อพัสดุออกดู พบว่าในนั้นมีจี้หยกความจำอยู่อันหนึ่งหรือมันอาจจะเป็นวิทยายุทธของสำนักสวรรค์แห่งหวาง?ฉันวางแผ่นหยกบนหน้าผาก จากนั้นก็เริ่มค้นหาการหยั่งรู้แห่งสวรรค์ ทันใดนั้นความรู้มากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของฉัน ฉันกรีดร้องโอดโ
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ