The paradise villa resort & spa ภูเก็ต
"ช่างเป็นเกียรติกับทางเราจริงๆ เลยนะครับที่คุณโชติและครอบครัวให้เกียรติมาจัดงานฉลองวันเกิดที่นี่"
"คุณไพโรจน์ ไอ้เราก็คนกันเองทั้งนั้น นี่ผมก็กะว่าอยากจะให้ตาเก้ามาดูๆ ลาดลาวไว้สำหรับโครงการที่กำลังจะขยายมา มีอะไรก็แนะนำหลานเพิ่มได้เลยนะครับ"
"โอ๊ยผมไม่กล้าหรอกครับ ไอ้ผมมันโครงการเล็กๆ ใครจะไปสู้ตาเก้าได้ล่ะครับ ขานั้นน่ะทำกำไรที่อเมริกาปีหนึ่งเท่ากับผมบริหารที่นี่3ปีเลยนะครับ มีแต่ผมน่ะสิที่ต้องไปขอคำปรึกษาหลานเพิ่มว่าจะต้องทำยังไง นี่ถ้ายัยลิตา เก่งได้ซักครึ่งหนึ่งของตาเก้าบ้างก็คงจะดี อุตส่าห์ส่งให้ไปเรียนที่เดียวกันยังไม่ได้เรื่องอะไรกลับมาเลยครับ ผมล่ะหนักใจกับหลานคนนี้จริงๆ"
"แต่หนูลิตาก็เก่งนะคะคุณไพโรจน์ ฉันเองยังเห็นตาเก้าพูดชมถึงหนูลิตาอยู่บ่อยๆ"
"ผมว่าตาเก้าคงจะมองผิดแล้วล่ะมั้งครับคุณสุนันทา ผู้หญิงที่ตาเก้าพูดถึง ไม่น่าจะใช่ยัยลิตาหลานสาวผมแล้วล่ะ ขานั้นทุกวันนี้ยังขอเงินอาใช้ทุกเดือนอยู่เลย ฮ่าๆ"ขณะที่พวกผู้ใหญ่ก็ยังคงนั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ปล่อยให้พวกลูกหลานที่แยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย มีเวลาสองวันในการพักผ่อนก่อนที่งานวันเกิดจะถูกจัดขึ้น
หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น กลวัชรก็ไม่ได้เข้ามาข้องแวะกับพลอยนภัสอีกเลย เจอกันที่ทำงานเขาก็แทบที่จะไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำ ทำราวกับว่าเธอไม่ได้มีตัวตนอยู่ในที่เเห่งนั้นเลย ใจหนึ่งพลอยนภัสก็คิดว่าดีแล้วที่เขาเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องมาคอยกลั่นแกล้งล้อเล่นกับความรู้สึกเธออีก แต่อีกใจเธอกลับอึดอัด ไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่เธอกำลังบอก เขาคงจะเกลียดและขยะแขยงเธอมากจนไม่สามารถมองหน้าเธอได้ นึกไปก็รู้สึกปวดแปลบขึ้นมากลางใจ แต่ช่างเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เธอจะได้ไม่ไปแอบคิดหวังอะไรในตัวเขา ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
ก๊อกๆ ...
"พลอยเสร็จหรือยัง ไปว่ายน้ำกัน"
"เดี๋ยวนะคะพี่กริ้ง พลอยหยิบครีมกันแดดแป๊บนึงค่ะ"
"เร็วๆ พี่อยากว่ายน้ำเต็มที่แล้ว ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย"
ห้องพักแต่ละหลังเป็นสไตล์ลอฟท์ มีกระจกหนึ่งร้อยแปดสิบองศาที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ด้านหน้าติดชายหาด พลอยนภัสกับชานิดาพักอยู่กันคนละหลัง ด้วยเห็นผลที่ว่าชานิดาชอบนอนคนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะสนิทกับพลอยนภัสแค่ไหนก็ตาม
คุณสุนันทากับคุณโชติขอพักห่างออกไปทางด้านบนของรีสอร์ท เพราะบอกว่าด้านล่างติดวิวทะเลนี้เอาไว้ให้พวกหนุ่มๆ สาวๆ พักกันเเละไม่อยากเดินไกลจากห้องจัดเลี้ยงด้วย
ส่วนกลวัชร เธอไม่รู้ว่าเขาพักที่ไหน เพราะตอนนั่งเครื่องมาก็มากันคนละไฟลท์บิน โดยเขาล่วงหน้ามาก่อน คงเพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าเธอละมั้ง ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปไกล พลอยนภัสรีบสลัดความคิดนี้ทิ้งก่อนรีบเปิดประตูออก
"เสร็จแล้วค่ะ ไปกัน"สองสาวพากันมุ่งหน้าตรงไปยังสระว่ายน้ำ โดยชานิดาที่ออกอาการตื่นเต้นกว่าใครเพราะว่าห่างหายจากการมาทะเลเสียนาน
"เร็วๆ พลอยพี่จะโดดแล้วนะ"
"พี่กริ้งตื่นเต้นเป็นเด็กๆ เลยนะคะ"พลอยนภัสหลุดขำที่ชานิดาทำท่าทีราวกับเด็กน้อยดีใจที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เล่นน้ำได้
"ก็ใช่น่ะสิ พลอยคิดดูนะว่าปีนี้พี่ลุยโปรเจ็คที่โหดมากๆ มานานแค่ไหน กว่าจะจบมาได้ ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดว่าจะไปเที่ยวด้วยซ้ำ แต่อยู่ดีๆ ก็เสมือนสวรรค์เมตตาที่ให้คุณพ่อมาจัดงานวันเกิดที่นี่"ชานิดายังแอบเน้นคำว่าโหด ก่อนจะวางผ้าเช็ดตัวกับชุดคลุมไว้ที่เก้าอี้ยาวริมสระ แล้วจึงกระโจนทิ้งตัวลงไปจนน้ำกระเพื่อม
ตู้ม!!
"ลงมาเร็วๆ เข้า โอ๊ยสดชื่นมากๆ"
"ค่ะๆ แต่พลอยยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย พลอยขอไปเปลี่ยนในห้องน้ำแป๊ปนึงนะคะ"
"อ้าวพี่นึกว่าเปลี่ยนมาแล้วซะอีก"
"แหะๆ ยังเลยค่ะ"
"รีบๆ เลยยัยน้อง"พูดจบชานิดาก็หันไปว่ายน้ำต่อ โดยที่พลอยนภัสก็เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ บิกินีที่เธอเตรียมมาเป็นแบบวันพีชสีขาวเต็มตัว แต่เว้าด้านข้างทั้งสองฝั่ง พลอยนภัสเป็นคนรูปร่างดีมาแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อก่อนเธอเลือกที่จะใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะแต่งตัวสวยๆ ไปอวดใคร ถึงเธอจะไม่ใช่สาวเปรี้ยว แต่เธอก็ไม่ใช่สาวหวาน เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปที่แต่งตัวตามแฟชั่นสมัยนี้
แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ที่เธอไปสารภาพกับกลวัชรว่าเธอชอบเขาแล้วถูกเขาปฏิเสธมา หลังจากนั้นทำให้เธอเสียเซลฟ์ไปเลย เธอหาทางที่จะอยากปรับปรุงตัวเองเรื่องความสวยงามการแต่งตัวมาตั้งแต่นั้น หรือแม้กระทั่งเรื่องอื่นๆ เพราะลึกๆ เธอนึกเสมอว่า เพราะเธอไม่สวยเท่าเอมมิกา ผู้หญิงที่กลวัชรหลงรัก จึงทำให้เขาไม่สนใจในตัวเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดในตอนเด็กๆ จนกระทั่งเธอเรียนจบมาและได้เข้ามาทำงานที่บริษัทของครอบครัวเขาความคิดเด็กๆ พวกนั้นก็ได้หายไป เหลือก็แต่เพียงความคิดที่ว่าแค่อยากดูสวยดูดีบ้างเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปทำกัน
เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ด้วยความที่มัวแต่ก้มหน้าหาครีมกันแดดในกระเป๋า ทำให้ไม่ทันมอง จึงชนเข้าเต็มๆ กับใครบางคน จนเธอผงะจะล้มหงายหลัง ก่อนที่วงแขนแกร่งจะมารวบเอวเธอไว้ให้ไปอยู่ในอ้อมแขน
"ว๊าย..ขอโทษ คะ...ค่ะพี่เก้า"
ทันทีที่พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมาสบตาคม ใจเธอก็เต้นโครมครามราวกับมีกลองเป็นร้อยๆ ใบไปตีแข่งกันอยู่ในอก ใบหน้าเขากับเธอห่างกันไม่ถึงคืบ จนจมูกนั้นแทบจะชนกันอยู่รอมร่อ
"ซุ่มซ่าม เดิมไม่รู้จักมองทาง"
"ขอโทษค่ะ พลอย..ไม่ทันได้มอง"
"งั้นทีหลังก็ช่วยมองด้วย จะได้ไม่ไปไล่ล้มใส่ใครให้เป็นภาระคนอื่นเขา"
"แต่พลอยก็ไม่ได้ขอให้ช่วยเลยนะคะ ทีหลังพี่เก้าปล่อยพลอยล้มลงไปเลยก็ได้ค่ะ"ทั้งๆ ที่พลอยนภัสยืนตรงทรงตัวได้แล้วหากแต่แขนแกร่งก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอวบางจนพลอยนภัสต้องเป็นฝ่ายแกะมือออกเอง
"นี่เธอว่าฉันเสร่อเข้ามาช่วยเธอไว้เองงั้นเหรอ"
"พลอยยังไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ พี่เก้ากำลังเข้าใจพลอยผิด แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ช่วยพลอยไว้ พลอยขอตัวค่ะ"
พูดจบก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้กลวัชรยืนหน้าดำคร่ำเครียดโดยไม่ได้หันกลับไปมอง ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ดีๆ กลวัชรนั้นโผล่มาจากทางไหน แต่ทำเอาเธอถึงกับอกสั่นขวัญหายไปหมด แถมยังมาว่าๆ เธอเป็นภาระที่ทำให้เขาต้องมารับตัวเธอไว้
"ก็ใครใช้ให้เขาเข้ามารับไว้ล่ะ เธอก็ไม่ได้ร้องขอเสียหน่อย ชิ"
หลังจากชิ่งหนีออกมาได้พลอยนภัสก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินบ่นออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ซึ่งเอาจริงๆเธอไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมกลวัชรถึงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันกับเธอ"อ้าวมาแล้วเหรอพลอย ลงมาสิ"พลอยนภัสวางชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวไว้ที่เก้าอี้ริมสระ ก่อนจะหย่อนตัวลงไปในสระขนาดใหญ่ที่กั้นด้วยกระจกส่วนวิวด้านหน้าเป็นทะเลสีฟ้าที่มองออกไปได้ไกลสุดสายตา"สดชื่นจังเลยค่ะพี่กริ้ง""ก็นั่นน่ะสิ พี่ถึงตามตาเก้ามาด้วย""อะไรนะคะ นี่พี่กริ้งโทรตามเขามาทำไมล่ะคะ เขาออกจะเกลียดพลอยขนาดนั้น เขาทนเห็นหน้าพลอยไม่ได้หรอกค่ะ""ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรนะ พี่ก็บอกตาเก้าอยู่นะว่าพี่อยู่กับพลอย แล้วตาเก้าก็มาเนี่ย"ในขณะที่สองสาวกำลังมโนกันไป อีกฝั่งหนึ่งของสระก็มีสาวสวยคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อกลวัชรออกมาเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง"เก้าคะ ทางนี้ค่ะ""มาแล้วเหรอครับลิตา"กลวัชรเดินตรงเข้าไปหาเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะจุ๊บแก้มทักทายกันแบบวัฒนธรรมตะวันตก"แหม คุณลุงมาจัดงานวันเกิดที่รีสอร์ทอาโรจน์แท้ๆ เก้ากลับไม่ชวนลิตาสักคำ ปล่อยให้ลิตามารู้จากอาโรจน์เอาเอง น่าน้อยใจนะคะ"ลลิตาพูดพลางทั้งเกาะแขนแถมเอาหน้าเข้าไปซบกับอกเปลือยเปล
คืนวันงานเลี้ยง.."โอ้โห วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่สวยหล่อเหมาะสมกันมากๆ เลยค่ะ" ชานิดาที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องเอ่ยชม"หมายความว่ายังไงกันลูก นี่สรุปว่าแม่สวยแค่วันนี้วันเดียวเองเท่านั้นเหรอ" คุณสุนันทาแกล้งเหย้าลูก"ใครบอกล่ะคะ คุณแม่ก็สวยทุกวันน่ะแหละค่ะ แต่ว่าวันนี้สวยเป็นพิเศษไง""แก้ตัวเก่งจริงๆ เลยลูกคนนี้""สงสัยจะเหมือนคุณพ่อน่ะค่ะ"อะไรกันเล่ายัยเด็กคนนี้นี่ อย่าโยงเข้ามาหาพ่อสิ พ่อไม่เกี่ยวนะ"สามคนพ่อแม่ลูกต่างพากันหัวเราะเสียงดังที่คุณโชติต้องรีบออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยต้องแก้ตัวอะไรกับคุณสุนันทาเลย เพราะมีแต่พูดบอกความจริงทุกอย่างตั้งแต่รู้จักแต่งงานกันมา มีแต่รักและก็ซื่อสัตย์จึงไม่มีเรื่องที่จะต้อง คอยโกหกปิดบังก๊อกๆ ..."เสร็จกันหรือยังครับ"กลวัชรวันนี้ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม มันทำให้เขายิ่งดูโดดเด่น บวกกับเขารักที่จะดูแลรูปร่างอยู่เสมอ จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หญิงแท้หญิงเทียมที่ได้เห็นเขาต่างก็ไม่อยากจะละสายตากันเลยทีเดียว แม้ว่าภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่เวลาเขายิ้มทีหนึ่งกับทำให้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นราวกับว่าคนละคน อย่างกับสีดำที่เปลี่ยนมาเป็นสีขาว ราวกับซาตานที่เปลี่ยนมาเทพบุ
ภายในงาน...หลังจากที่จัดการเหล่าบาร์บีคิวกับจุ๊บแจงเสร็จแล้ว พลอยนภัสจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาคุณโชติ พร้อมของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้ท่าน"สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณลุง""อ้าวพลอย หายไปไหนมาลูก ลุงกับป้าก็มองหาอยู่""นั่นสิ พี่ก็ว่าจะโทรตาม แต่เห็นตาเก้าบอกว่าเราแอบไปนั่งกินบาร์บีคิวกันอยู่สองคนกับจุ๊บแจงทางโน้น น่าตีนักไม่ชวนกันเลย""แหะๆ พอดีพลอยหิวน่ะค่ะพี่กริ้ง เลยชวนจุ๊บแจงไปแอบกินกัน นี่ของขวัญที่พลอยตั้งใจเก็บเงินซื้อให้คุณลุงค่ะ หวังว่าคุณลุงคงจะชอบ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกเราไปนานๆ นะคะ"พูดจบก็เข้าไปกอดประมุขของบ้าน ซึ่งเป็นทั้งผู้มีพระคุณและยังเปรียบเสมือนญาติแท้ๆ อีกคน ที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธออย่างดีมาตลอด"ขอบใจมากๆ นะลูก ทีหลังไม่ต้องลำบากเก็บเงินมาซื้ออะไรให้ลุงหรอก พลอยเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเถอะ""พลอยเต็มใจค่ะ พลอยอยากตอบแทนพระคุณที่คุณลุงกับคุณป้าเมตตาพลอย""ถ้าพลอยอยากตอบแทนลุงกับป้า ก็แค่ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่ๆ เขาดูแลกิจการของครอบครัวเราเท่านี้ลุงกับป้าก็พอใจแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทากล่าวเสริมท้าย ก่อนจะเข้ามากอดพลอยนภัสด้วยอีกคน"พลอยขอบคุณคุณลุ
"เอ่อ วรรณก็ไม่รู้ว่าควรถามดีมั้ยนะคะ แต่เพื่อหลานชาย... คือว่าอย่างนี้ค่ะ วรรณอยากจะถามว่าหนูพลอยน่ะมีแฟนหรือยังคะ" กลวัชรที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่คู่หนุ่มสาวที่กำลังช่วยกันเลือกอาหารอยู่ตรงซุ้มฝั่งตรงข้ามก็ถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน"คุณจารุวรรณถามทำไมหรือคะ""แหมก็คุณพี่สุดูสิคะ ปกติไม่เห็นตาไรอันจะสนใจเข้าหาผู้หญิงคนไหนเลยค่ะ มีแต่โดนเข้าหา แต่นี่พอเห็นหนูพลอยล่ะก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ แถมเมื่อกี้ก็รีบขอให้หนูพลอยเป็นคนเทคแคร์ตัวเองคืนนี้อีก ที่วรรณถามเพราะจะได้บอกตาไรอันถูกน่ะค่ะว่าควรหยุดหรือควรลุยไปเลย เพราะหนูพลอยเองก็น่ารักจริงๆ วรรณชอบ ถ้ายังไม่มีเจ้าของ ก็จะได้จองไปเป็นหลานสะใภ้"และแล้วกลวัชรเองก็ถึงบางอ้อ สรุปว่าผู้ชายตัวสูงรูปร่างดีที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยนภัสนั้นจริงๆ คือตัวแทนบริษัทอังกฤษที่เข้ามาประชุมกับเขาตอนนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของหุ้นส่วนบริษัทที่เขากำลังจะทำธุรกิจร่วมอีกด้วย"จริงๆ ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่าแกจะมีแฟนเลยนะคะคุณจารุวรรณ เห็นมีก็แต่เพื่อนๆ กัน เคยถามเจ้าตัวเองก็บอกว่ายังไม่เจอใครที่ชอบ สงสัยคราวนี้คงจะเจอแล้วล่ะมั้งคะ""นี่จริงเหรอคะเนี่ย โอ้ยดีใจแ
ไรอันภายมือออกมารอรับ พลอยนภัสจึงได้วางมือเล็กลงไปบนฝ่ามือใหญ่ การกระทำทุกอย่างถูกมองไปด้วยสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะ หากแต่ว่าต่างกันที่ความรู้สึกวินาทีที่พลอยนภัสวางมือเรียวเล็กของเธอลงไป กลวัชรรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามันชาๆ แบบบอกไม่ถูก ราวกับว่าใครเอาอะไรมาบีบหัวใจเขาเล่น รู้สึกหูอื้อคล้ายกับว่าความดันกำลังพุ่งขึ้นสูง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งตอนที่ไอ้เจ้าฝรั่งนั่นเดินจูงมือพลอยนภัสออกไปยังหน้าฟลอร์ ที่ขณะนี้มีเสียงเปียโนดังคลอขึ้น เขาก็อดที่จะมองตามไปจนสุดตาไม่ได้ ทำได้ก็เพียงกระดกไวน์อีกกว่าครึ่งแก้วที่เหลือหมดรวดเดียว"อะไรกันคะเก้า นี่ไวน์นะคะ ดื่มราวกับว่าน้ำเปล่า"ลลิตาอดแปลกใจในพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ได้"ผมอยากเต้นรำแล้ว เราออกไปเต้นรำกันเถอะลิตา"กลวัชรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่านั่งอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เขาน่าจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง"คุณพลอยจับมือผมไว้นะครับ แล้วก้าวตามผมช้าๆ ไม่ต้องกลัวเหยียบผมหรอกครับ""พลอยจะพยายามเป็นนักเรียนที่ดีนะคะ"แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมา ซึ่งในสายตาไรอัน พลอยนภัสเป็นผู้หญ
"เป็นไงคะเก้าลิตาเก่งมั้ย คุณไรอันนี่สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ลิตาต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนะคะที่มาฉกคุณไรอันไป" สิ้นเสียงเพลงจบลง ลิตาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของกลวัชรที่มีต่อพลอยนภัส จึงได้รีบเดินแยกออกจากไรอันมาทันที เธอรู้สึกไม่ไว้ใจ สายตาที่กลวัชรมองพลอยนภัสมันแปลกๆ เขาเองยังไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย ดังนั้นเธอจึงต้องกันไว้ก่อนอันที่จริงจะว่าไปแล้วมิสเตอร์ไรอันคนนี้ก็น่าสนใจดี ทั้งความหล่อก็พอๆ กันกับกลวัชร แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง เธอก็อยากที่จะทำความรู้จักกับเขาอีกสักหน่อย จะได้เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกได้หากวันใดต้องพลาดจากกลวัชรอีกแต่ถ้าจะให้เลือกเลยตอนนี้ลลิตาอยากครอบครองกลวัชรมากกว่า เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูด ดูเร่าร้อน เธออยากรู้นักว่าเรื่องบนเตียงเขาจะเผ็ดร้อนขนาดไหน เพราะที่ผ่านๆ มาเขาเอาแต่ปฏิเสธเธอมาตลอดทั้งๆ ที่เธอเองก็สวยขนาดนี้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไรอันไม่ใช่ของพลอยซะหน่อย อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลิตา""แหมถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะคะคุณไรอัน" ลลิตาที่หันไปมองสบตากับไรอัน จนชายหนุ่มเองต้องส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางพลอยนภัสเพื่อสื่อความหมายให้รู้"ผมก็หวังว่าอย่า
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาดไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก"ก็คุณพลอยสวย""แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ""ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
กลวัชรที่กำลังเหมือนคนขาดสติ นาทีนี้เขาไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ริมฝีปากแสนหวานนี้กำลังทำให้เขายิ่งมึนเมากับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากควบคุมตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจูบเธอ อยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว จนใครหน้าไหนก็ไม่สามารถมาแตะต้องเธอได้อีกที่ผ่านมาเขาพยายามแล้ว พยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเป็นไม่มองไม่สนใจ แต่ร่างกายและหัวใจก็ไม่เคยปฏิบัติตาม ทุกครั้งที่เห็นหรือรับรู้ว่ามีพลอยนภัสอยู่ในระยะใกล้ๆ สายตามันก็มักจะคอยสอดส่องมองหาไปจนเจอเธออยู่จนได้บ่อยครั้งที่เขาชอบจินตนาการถึงภาพเธอแล้วช่วยเหลือตัวเอง แต่ความรู้สึกที่ได้มามันก็ไม่เคยเติมเต็ม มันเหมือนกับว่าเราอยากกินสเต๊กเนื้อ แต่กลับได้กินสเต๊กที่ทำมาจากเต้าหู้แทน เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ต่อให้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ข้างในมันก็ยังคงเรียกร้องอยากที่จะได้รับสัมผัสจากตัวเธอจริงๆเขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาถูกยึดติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้กำลังยึดติดอยู่กับเธอ แต่เวลานี้พลอยนภัสกำลังทำให้เขาปั่นป่วน ใจเขา
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาดไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก"ก็คุณพลอยสวย""แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ""ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็
"เป็นไงคะเก้าลิตาเก่งมั้ย คุณไรอันนี่สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ลิตาต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนะคะที่มาฉกคุณไรอันไป" สิ้นเสียงเพลงจบลง ลิตาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของกลวัชรที่มีต่อพลอยนภัส จึงได้รีบเดินแยกออกจากไรอันมาทันที เธอรู้สึกไม่ไว้ใจ สายตาที่กลวัชรมองพลอยนภัสมันแปลกๆ เขาเองยังไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย ดังนั้นเธอจึงต้องกันไว้ก่อนอันที่จริงจะว่าไปแล้วมิสเตอร์ไรอันคนนี้ก็น่าสนใจดี ทั้งความหล่อก็พอๆ กันกับกลวัชร แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง เธอก็อยากที่จะทำความรู้จักกับเขาอีกสักหน่อย จะได้เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกได้หากวันใดต้องพลาดจากกลวัชรอีกแต่ถ้าจะให้เลือกเลยตอนนี้ลลิตาอยากครอบครองกลวัชรมากกว่า เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูด ดูเร่าร้อน เธออยากรู้นักว่าเรื่องบนเตียงเขาจะเผ็ดร้อนขนาดไหน เพราะที่ผ่านๆ มาเขาเอาแต่ปฏิเสธเธอมาตลอดทั้งๆ ที่เธอเองก็สวยขนาดนี้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไรอันไม่ใช่ของพลอยซะหน่อย อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลิตา""แหมถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะคะคุณไรอัน" ลลิตาที่หันไปมองสบตากับไรอัน จนชายหนุ่มเองต้องส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางพลอยนภัสเพื่อสื่อความหมายให้รู้"ผมก็หวังว่าอย่า
ไรอันภายมือออกมารอรับ พลอยนภัสจึงได้วางมือเล็กลงไปบนฝ่ามือใหญ่ การกระทำทุกอย่างถูกมองไปด้วยสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะ หากแต่ว่าต่างกันที่ความรู้สึกวินาทีที่พลอยนภัสวางมือเรียวเล็กของเธอลงไป กลวัชรรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามันชาๆ แบบบอกไม่ถูก ราวกับว่าใครเอาอะไรมาบีบหัวใจเขาเล่น รู้สึกหูอื้อคล้ายกับว่าความดันกำลังพุ่งขึ้นสูง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งตอนที่ไอ้เจ้าฝรั่งนั่นเดินจูงมือพลอยนภัสออกไปยังหน้าฟลอร์ ที่ขณะนี้มีเสียงเปียโนดังคลอขึ้น เขาก็อดที่จะมองตามไปจนสุดตาไม่ได้ ทำได้ก็เพียงกระดกไวน์อีกกว่าครึ่งแก้วที่เหลือหมดรวดเดียว"อะไรกันคะเก้า นี่ไวน์นะคะ ดื่มราวกับว่าน้ำเปล่า"ลลิตาอดแปลกใจในพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ได้"ผมอยากเต้นรำแล้ว เราออกไปเต้นรำกันเถอะลิตา"กลวัชรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่านั่งอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เขาน่าจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง"คุณพลอยจับมือผมไว้นะครับ แล้วก้าวตามผมช้าๆ ไม่ต้องกลัวเหยียบผมหรอกครับ""พลอยจะพยายามเป็นนักเรียนที่ดีนะคะ"แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมา ซึ่งในสายตาไรอัน พลอยนภัสเป็นผู้หญ
"เอ่อ วรรณก็ไม่รู้ว่าควรถามดีมั้ยนะคะ แต่เพื่อหลานชาย... คือว่าอย่างนี้ค่ะ วรรณอยากจะถามว่าหนูพลอยน่ะมีแฟนหรือยังคะ" กลวัชรที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่คู่หนุ่มสาวที่กำลังช่วยกันเลือกอาหารอยู่ตรงซุ้มฝั่งตรงข้ามก็ถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน"คุณจารุวรรณถามทำไมหรือคะ""แหมก็คุณพี่สุดูสิคะ ปกติไม่เห็นตาไรอันจะสนใจเข้าหาผู้หญิงคนไหนเลยค่ะ มีแต่โดนเข้าหา แต่นี่พอเห็นหนูพลอยล่ะก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ แถมเมื่อกี้ก็รีบขอให้หนูพลอยเป็นคนเทคแคร์ตัวเองคืนนี้อีก ที่วรรณถามเพราะจะได้บอกตาไรอันถูกน่ะค่ะว่าควรหยุดหรือควรลุยไปเลย เพราะหนูพลอยเองก็น่ารักจริงๆ วรรณชอบ ถ้ายังไม่มีเจ้าของ ก็จะได้จองไปเป็นหลานสะใภ้"และแล้วกลวัชรเองก็ถึงบางอ้อ สรุปว่าผู้ชายตัวสูงรูปร่างดีที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยนภัสนั้นจริงๆ คือตัวแทนบริษัทอังกฤษที่เข้ามาประชุมกับเขาตอนนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของหุ้นส่วนบริษัทที่เขากำลังจะทำธุรกิจร่วมอีกด้วย"จริงๆ ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่าแกจะมีแฟนเลยนะคะคุณจารุวรรณ เห็นมีก็แต่เพื่อนๆ กัน เคยถามเจ้าตัวเองก็บอกว่ายังไม่เจอใครที่ชอบ สงสัยคราวนี้คงจะเจอแล้วล่ะมั้งคะ""นี่จริงเหรอคะเนี่ย โอ้ยดีใจแ
ภายในงาน...หลังจากที่จัดการเหล่าบาร์บีคิวกับจุ๊บแจงเสร็จแล้ว พลอยนภัสจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาคุณโชติ พร้อมของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้ท่าน"สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณลุง""อ้าวพลอย หายไปไหนมาลูก ลุงกับป้าก็มองหาอยู่""นั่นสิ พี่ก็ว่าจะโทรตาม แต่เห็นตาเก้าบอกว่าเราแอบไปนั่งกินบาร์บีคิวกันอยู่สองคนกับจุ๊บแจงทางโน้น น่าตีนักไม่ชวนกันเลย""แหะๆ พอดีพลอยหิวน่ะค่ะพี่กริ้ง เลยชวนจุ๊บแจงไปแอบกินกัน นี่ของขวัญที่พลอยตั้งใจเก็บเงินซื้อให้คุณลุงค่ะ หวังว่าคุณลุงคงจะชอบ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกเราไปนานๆ นะคะ"พูดจบก็เข้าไปกอดประมุขของบ้าน ซึ่งเป็นทั้งผู้มีพระคุณและยังเปรียบเสมือนญาติแท้ๆ อีกคน ที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธออย่างดีมาตลอด"ขอบใจมากๆ นะลูก ทีหลังไม่ต้องลำบากเก็บเงินมาซื้ออะไรให้ลุงหรอก พลอยเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเถอะ""พลอยเต็มใจค่ะ พลอยอยากตอบแทนพระคุณที่คุณลุงกับคุณป้าเมตตาพลอย""ถ้าพลอยอยากตอบแทนลุงกับป้า ก็แค่ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่ๆ เขาดูแลกิจการของครอบครัวเราเท่านี้ลุงกับป้าก็พอใจแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทากล่าวเสริมท้าย ก่อนจะเข้ามากอดพลอยนภัสด้วยอีกคน"พลอยขอบคุณคุณลุ
คืนวันงานเลี้ยง.."โอ้โห วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่สวยหล่อเหมาะสมกันมากๆ เลยค่ะ" ชานิดาที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องเอ่ยชม"หมายความว่ายังไงกันลูก นี่สรุปว่าแม่สวยแค่วันนี้วันเดียวเองเท่านั้นเหรอ" คุณสุนันทาแกล้งเหย้าลูก"ใครบอกล่ะคะ คุณแม่ก็สวยทุกวันน่ะแหละค่ะ แต่ว่าวันนี้สวยเป็นพิเศษไง""แก้ตัวเก่งจริงๆ เลยลูกคนนี้""สงสัยจะเหมือนคุณพ่อน่ะค่ะ"อะไรกันเล่ายัยเด็กคนนี้นี่ อย่าโยงเข้ามาหาพ่อสิ พ่อไม่เกี่ยวนะ"สามคนพ่อแม่ลูกต่างพากันหัวเราะเสียงดังที่คุณโชติต้องรีบออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยต้องแก้ตัวอะไรกับคุณสุนันทาเลย เพราะมีแต่พูดบอกความจริงทุกอย่างตั้งแต่รู้จักแต่งงานกันมา มีแต่รักและก็ซื่อสัตย์จึงไม่มีเรื่องที่จะต้อง คอยโกหกปิดบังก๊อกๆ ..."เสร็จกันหรือยังครับ"กลวัชรวันนี้ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม มันทำให้เขายิ่งดูโดดเด่น บวกกับเขารักที่จะดูแลรูปร่างอยู่เสมอ จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หญิงแท้หญิงเทียมที่ได้เห็นเขาต่างก็ไม่อยากจะละสายตากันเลยทีเดียว แม้ว่าภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่เวลาเขายิ้มทีหนึ่งกับทำให้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นราวกับว่าคนละคน อย่างกับสีดำที่เปลี่ยนมาเป็นสีขาว ราวกับซาตานที่เปลี่ยนมาเทพบุ
หลังจากชิ่งหนีออกมาได้พลอยนภัสก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินบ่นออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ซึ่งเอาจริงๆเธอไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมกลวัชรถึงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันกับเธอ"อ้าวมาแล้วเหรอพลอย ลงมาสิ"พลอยนภัสวางชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวไว้ที่เก้าอี้ริมสระ ก่อนจะหย่อนตัวลงไปในสระขนาดใหญ่ที่กั้นด้วยกระจกส่วนวิวด้านหน้าเป็นทะเลสีฟ้าที่มองออกไปได้ไกลสุดสายตา"สดชื่นจังเลยค่ะพี่กริ้ง""ก็นั่นน่ะสิ พี่ถึงตามตาเก้ามาด้วย""อะไรนะคะ นี่พี่กริ้งโทรตามเขามาทำไมล่ะคะ เขาออกจะเกลียดพลอยขนาดนั้น เขาทนเห็นหน้าพลอยไม่ได้หรอกค่ะ""ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรนะ พี่ก็บอกตาเก้าอยู่นะว่าพี่อยู่กับพลอย แล้วตาเก้าก็มาเนี่ย"ในขณะที่สองสาวกำลังมโนกันไป อีกฝั่งหนึ่งของสระก็มีสาวสวยคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อกลวัชรออกมาเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง"เก้าคะ ทางนี้ค่ะ""มาแล้วเหรอครับลิตา"กลวัชรเดินตรงเข้าไปหาเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะจุ๊บแก้มทักทายกันแบบวัฒนธรรมตะวันตก"แหม คุณลุงมาจัดงานวันเกิดที่รีสอร์ทอาโรจน์แท้ๆ เก้ากลับไม่ชวนลิตาสักคำ ปล่อยให้ลิตามารู้จากอาโรจน์เอาเอง น่าน้อยใจนะคะ"ลลิตาพูดพลางทั้งเกาะแขนแถมเอาหน้าเข้าไปซบกับอกเปลือยเปล