คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาด
ไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน
"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก
"ก็คุณพลอยสวย"
"แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ"
"ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"
พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง
"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็นหุ้นส่วนที่จะมาทำธุรกิจกับเราด้วย พลอยว่ามันอาจจะดูไม่ดีหรือมีผลกระทบได้ในหลายๆ ด้าน พลอยว่าเราเป็นเพื่อนกันไปก่อนดีกว่าไหมคะ"
"คุณพลอยมีแฟนแล้วเหรอครับ"
"เปล่าหรอกค่ะ พลอยยังไม่มีแฟน แต่มันออกจะเร็วไป" ไรอันเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวมากุมไว้ ก่อนจะมองด้วยสายตาที่เขาต้องการสื่อแสดงว่าเขานั้นจริงใจ ซึ่งพลอยนภัสก็ไม่ได้นึกรังเกียจอะไร เพราะในฐานะเพื่อน เขาก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่สุภาพมากๆ คนหนึ่ง แม้ว่าพึ่งได้เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง
"ผมไม่ได้รีบ แล้วก็ไม่ได้จะบังคับอะไรคุณพลอย ผมทราบว่ามันอาจจะเร็วไป แต่อย่างที่บอก ผมชอบคุณมากจริงๆ อาจจะตั้งแต่ครั้งแรก...ผมจึงอยากบอกให้คุณรู้ไว้ เผื่อคุณจะได้พิจารณาหรือว่าให้โอกาสผมได้รู้จักคุณเพิ่มมากขึ้น"
ทั้งการกระทำและทุกคำพูดตกอยู่ในเป้าสายตาของกลวัชรที่กำลังเดินผ่านมาจากฝั่งของห้องลลิตา ในขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาติดกระดุมเสื้อ ก็บังเอิญได้ยินเสียงคุยแว่วดังมาจากชายหาด ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากทางเดินหน้าห้องพักซึ่งตัดเลียบยาวไปตลอดฝั่ง พลอยนภัสกับไรอันที่นั่งคุยกันอยู่โดยที่ไม่ทันสังเกตว่าหลังโขดต้นเทียนทะเลกอใหญ่มีใครบางคนยืนหลบอยู่
ปกติกลวัชรไม่ใช่คนที่จะเสียมารยาทมายืนแอบฟังคนอื่นคุยกันแบบนี้ แต่สำหรับเรื่องของพลอยนภัสเขายอมยกเว้นไว้เรื่องหนึ่ง
"ไว้พลอยจะลองคิดดูนะคะ"
ขอบคุณนะครับ" ไรอันแทบจะยิ้มตัวลอยจนเผลอดึงพลอยนภัสเข้าไปกอดเอาไว้ในอ้อมแขน เขาชอบเธอจริงๆ ในเมื่อตอนนี้เธอยังไม่ได้มีใคร มิหนำซ้ำดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ได้รังเกียจหรือปฏิเสธที่จะให้โอกาสและเรียนรู้กับเขา แค่นี้เขาก็พอใจมากแล้ว
"เอ่อ..คุณไรอัน ปล่อยพลอยก่อนเถอะค่ะ"
"ขอโทษครับ..ดึกแล้วงั้นเรากลับกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่ง"
"ค่ะ"
กำปั้นแกร่งค่อยๆ บีบเข้าหากันจนแน่น กลวัชรมองภาพๆ นั้นแล้วก็ถึงกับต้องซัดตูมลงไปที่โคนต้นเทียนทะเลเข้าอย่างจัง ทันทีที่กลับมาถึงห้องพัก เบียร์ในตู้เย็นที่ถูกแช่ไว้จากทางรีสอร์ทเพื่อสำหรับบริการลูกค้าก็ถูกหยิบขึ้นมาเปิดดื่ม ภาพที่พลอยนภัสปล่อยให้ไอ้ฝรั่งนั่นยืมกุมมือยืนกอดอยู่ที่ริมชายหาดยังคงเด่นชัดลอยมา มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด ทีกับเขาทำเป็นหวงตัว ทีกับไอ้ฝรั่งนั่นกับยืนให้มันจับมันกอดเฉย ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงต่อ สองคนนั้นไปส่งกันถึงไหน ยิ่งคิดกลวัชรก็ยิ่งฟุ้งซ่าน นี่เขาเป็นอะไรไป และก่อนที่สติจะกระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกสติ มองชื่อคนโทรเข้ามาแล้ว กลวัชรก็ถึงกับยิ้มออกมา
"ฮัลโหลครับพี่กริ้ง"
"เก้า อยู่ไหน"
"ห้องครับ เก้าพึ่งกลับมาจากในงาน"
"จะบอกว่า พอดีพี่มีธุระด่วนพรุ่งนี้เช้า เลยต้องนั่งเครื่องกลับคืนนี้ พี่รีบออกมาเลยยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ฝากเก้าบอกพ่อกับแม่ให้ทีนะ" นาทีนั้นกลวัชรที่เกิดนึกบางอย่างผลุดขึ้นมาในหัวได้ เขาจึงสบโอกาสที่จะบอกความประสงค์ของตัวเองออกไปถึงแม้ว่าคิดแล้วเหตุผลมันอาจจะฟังดูตลกก็ตามที แต่ในนาทีนี้ขอแค่เขาได้แยกสองคนนั้นออกจากกันได้ก็พอ
"พี่กริ้งครับ วันนี้เก้าดื่มไปเยอะมาก รู้สึกปวดหัว อยากได้ชาร้อนๆ เก้าบอกใครได้บ้างครับ ตอนกลับมาจากห้องลิตา ว่าจะขอจากป้าสายหยุดก็เห็นว่านอนกันหมดแล้ว ที่เคาน์เตอร์รีสอร์ทก็ไม่เห็นมีคนรับสายเลยครับ"
"อ้าวเหรอ แล้วเก้าเป็นอะไรมากมั้ย เอางี้นะเดี๋ยวพี่โทรบอกพลอยให้ พลอยชอบดื่มชาเห็นพกไปไหนมาไหนด้วยประจำ พี่ว่าคราวนี้ก็คงพกมาด้วยแหละ"ได้ฟังดังนั้นรอยยิ้มก็ปารกฎขึ้นที่ข้างริมฝีปากคนฟัง
"น้องพี่กริ้งเขาไม่หลับไปแล้วเหรอครับป่านนี้"กลวัชรแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้พลอยนภัสคงยังไม่นอนแน่ๆ อยู่ที่ว่าจะกลับมาถึงห้องหรือยังแค่นั้น และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขายังมานั่งกระวนกระวายอยู่นี่ จนพอดีชานิดาโทรมาจึงได้โอกาส
"ยังหรอกมั้ง เมื่อกี้พี่โทรไปขอไฟล์สำรองข้อมูล พลอยพึ่งจะส่งเมลมาให้เมื่อกี้เอง เดี๋ยวพี่โทรบอกพลอยให้นะ"
"โอเคครับ ขอบคุณครับพี่กริ้ง งั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ ไว้เจอกันที่บ้าน"
ซึ่งเมื่อหลังวางสายจากพี่สาว กลวัชรก็กระดกเบียร์รวดเดียวหมดกระป๋อง ภาพที่สองคนนั้นยืนกอดกันที่ริมชายหาดที่ยังติดตายังพาลให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดไม่รู้หาย
เขายังจำได้ว่าก่อนที่เขาจะย้ายไปอเมริกา พลอยนภัสยังแอบตามมอง แถมมีท่าทีเขินอายมากเวลาสบตาเขา เธอแสดงออกชัดเจนขนาดที่ว่าถึงเธอจะไม่มาสารภาพบอกชอบเขา เขาก็คงจะดูออกเองได้สบายมาก และเธอยังคอยตามแอบดูเขาอยู่ตลอดไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ส่วนไหนของบ้าน จนบางครั้งเขารู้สึกหงุดหงิดและรำคาญมากในขณะนั้น
แต่ในตอนนี้ตั้งแต่ที่เขากลับมา เธอบอกว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว เธอตัดเขาออกไปจากใจหมดแล้ว เกิดความรู้สึกบางอย่างที่เขาฟังแล้วเหมือนว่าไม่อยากจะยอมรับมัน เธอลืมเขาไปแล้วอย่างนั้นจริงๆ หรือ เพราะอะไรกัน เพราะเธอมีคนมาจีบมากมาย เธอมีตัวเลือกมากมายจนไม่สนใจเขาก็ได้แล้วอย่างนั้นหรือเปล่า
หรือว่าเป็นเพราะไอ้ฝรั่งนั่น ยิ่งคิดได้ดังนั้นกระป๋องเบียร์ในมือก็ถูกบีบอัดให้เล็กลงไปจนบี้แบนในทันที ความรู้สึกของเขาตอนนี้เหมือนราวกับว่ากำลังจะถูกแย่งชิงของรัก ของๆ เขา ของที่มันเคยเป็นของเขามาตลอด มันวางอยู่ข้างๆ กายอยู่ในสายตาเขามาตลอด ไม่ว่าของชิ้นนั้นเขาจะอยากหยิบมันขึ้นมาเล่นหรือไม่ เเต่คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาหยิบแย่งของๆ เขาไป คงถึงเวลาที่เขาจะต้องหยิบมันขึ้นมาเล่นแบบจริงๆ จังๆ แล้วสินะ แล้วเจ้าของเล่นชิ้นนั้นก็จะได้รู้เอาไว้ด้วยว่ามันเป็นของๆ ใคร
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
กลวัชรที่กำลังเหมือนคนขาดสติ นาทีนี้เขาไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ริมฝีปากแสนหวานนี้กำลังทำให้เขายิ่งมึนเมากับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากควบคุมตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจูบเธอ อยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว จนใครหน้าไหนก็ไม่สามารถมาแตะต้องเธอได้อีกที่ผ่านมาเขาพยายามแล้ว พยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเป็นไม่มองไม่สนใจ แต่ร่างกายและหัวใจก็ไม่เคยปฏิบัติตาม ทุกครั้งที่เห็นหรือรับรู้ว่ามีพลอยนภัสอยู่ในระยะใกล้ๆ สายตามันก็มักจะคอยสอดส่องมองหาไปจนเจอเธออยู่จนได้บ่อยครั้งที่เขาชอบจินตนาการถึงภาพเธอแล้วช่วยเหลือตัวเอง แต่ความรู้สึกที่ได้มามันก็ไม่เคยเติมเต็ม มันเหมือนกับว่าเราอยากกินสเต๊กเนื้อ แต่กลับได้กินสเต๊กที่ทำมาจากเต้าหู้แทน เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ต่อให้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ข้างในมันก็ยังคงเรียกร้องอยากที่จะได้รับสัมผัสจากตัวเธอจริงๆเขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาถูกยึดติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้กำลังยึดติดอยู่กับเธอ แต่เวลานี้พลอยนภัสกำลังทำให้เขาปั่นป่วน ใจเขา
กลวัชรไม่รอช้า นาทีนี้เขาอยากลิ้มรสความหอมหวานตรงหน้าเหลือเกิน อยากรู้ว่าภาพในจินตนาการณ์ที่เขาเคยเฝ้าฝันถึง วันนี้เขากำลังจะได้มีโอกาสทำมันจริงๆ แล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งลิงโลดอยู่ในอก น้ำหวานจากดอกกุหลาบสวยชโลมชุ่มฉ่ำไปทั่วนิ้ว เขารูดนิ้วขึ้นลงตามร่องฉ่ำ ถูไถเกสรดอกไม้ที่อยู่กึ่งกลางจนหญิงสาวถึงกับต้องครางออกมา"พี่เก้า..อ๊าา พลอยไม่ไหวแล้ว" พลอยนภัสยอมรับออกมาอย่างตรงๆ ว่านาทีนี้เธอไม่สามารถที่จะต้านทานตนตัวโตตรงหน้าได้อีกต่อไป ราวกับว่าเขากำลังร่ายมนต์สะกดใส่เธอก็ไม่ปราณ ชั่ววินาทีนี้ต่อให้เขาจะลากเธอไปในทิศทางไหนเธอก็พร้อมจะเดินตามไปอย่างว่าง่าย อยากให้ความเสียวซ่านอันแสนทรมานนี้จบลงสักที เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหนเสียงครางอันแสนหวานที่หลุดรอดออกมานั้นยิ่งทำให้กลวัชรยิ่งย่ามใจ ปลายลิ้นร้อนค่อยๆ บรรจงตวัดไปที่กลางปุ่มเกสร ดึงดูดตวัดดูดกินเอาความหวานจากเกสรดอกอย่างอ้อยอิ่งและกก็ไม่ยอมให้ขาดตอน ลิ้นร้อนขยับซุกเข้าออกจากโพรงฉ่ำอย่างกับว่าต้องการให้เธอขาดใจดิ้นอยู่ตรงนี้ ซึ่งพลอยนภัสเองก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง เธอแอ่นกระดกสะโพกยกขึ้นสูงเพื่อรอรับความสุขจากปลายลิ้นร้อนที่กำลังทำหน
"อ๊า พี่เก้า..พลอยทรมาน"ขณะที่กายแกร่งกำลังขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะเกิดเป็นเสียงเนื้อกระทบกันไปทั้งห้อง มือเล็กสองข้างของคนใต้ร่างกอดประสานไว้ที่ท้ายทอยของคนตัวโต โดยเธอเกี่ยวกระหวัดขาเล็กไว้รอบเอวแกร่งของเขา เท่ากับว่าเปิดทางสะดวกให้กับเขาได้เข้าไปใกล้ชิดเธอได้มากขึ้น"พี่รู้..พี่ก็ทรมาน แต่พี่ชอบนะแล้วพลอยล่ะชอบไหม"คนตัวโตแอบยิ้มมุมปาก ก่อนจะลดใบหน้าไปกระซิบถามที่ข้างใบหูเล็กสะอาด การกระทำนั้นยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับคนใต้ร่างเข้าไปอีก ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงตอกอัดขยับเข้าออก กลวัชรรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ขณะนี้ภายในของหญิงสาวกำลังตอดรัดตัวตนเขาอย่างหนักหน่วง แถมยังคอยขับน้ำหวานที่ช่วยเพิ่มความหล่อลื่นระหว่างตัวตนเขากับเธอออกมาอีกไม่ขาดเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยที่เขาแอบหลงใหลอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งตอนนี้กำลังแหยเกด้วยความเสียวซ่านจากฝีมือเขา จากที่เคยแอบจินตนาการถึงเธออยู่บ่อยๆ ว่าหากเขาได้เขาไปอยู่ภายในตัวเธอ จะให้ความรู้สึกที่ดีขนาดไหน ตอนนี้เขาได้รู้ซึ้งเลยว่าพลอยนภัสให้ ความรู้สึกที่ดีเพียงใด"พลอย..อ๊า..พลอยไม่รู้ค่ะ"พลอยนภัสรู้สึกแปลกใจกับสรรพนามที่เรียกแทนตัวเองของเขา
"Good morning ครับคุณพลอย ตื่นเช้าจังเลยนะครับ""อ้าวคุณไรอัน Good morning ค่ะ คุณไรอันก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะคะ""ผมชอบตื่นเช้าครับ สดชื่นดี และตื่นเช้ามีโอกาสที่เราจะได้ทำอะไรๆ มากขึ้น เพราะว่าเรามีเวลามากขึ้น แถมยังทำให้ผมมีโอกาสที่ได้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับคุณพลอยแบบนี้ไงครับ"ไรอันพูดออกไปก่อนจะปิดท้ายด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ที่เขาอยากสื่อให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจ แต่ก็กลับทำเอาคนที่กำลังเครียดอยู่ยิ่งรู้สึกอึดอัดเข้าไปใหญ่ หากว่าเป็นเวลาอื่น ถ้าไรอันมาพูดหยอดแบบนี้เธอเองก็คงจะต้องเขินแน่ๆ เพราะเขานั้นก็จัดว่ามีดีทั้งหน้าตาและนิสัย หากผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้แล้วล่ะก็ เธอมั่นใจได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นคงต้องตกหลุมรักผู้ชายตรงหน้าเธอแน่นอนแต่สำหรับเธอเองในตอนนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอพึ่งจะเผลอมอบตัวให้กับผู้ชายที่เธอตกหลุมรักมานาน ส่วนหัวใจนั้นมอบให้เขาไปนานแล้ว แต่ทั้งหมดที่เธอกล่าวมานั้น กลับกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยอยากได้มันจากเธอเลยยิ่งคิดถึงตอนนี้ พลอยนภัสก็ยิ่งอยากจะร้องไห้ เธอควรจะทำอย่างไรดีเมื่อต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้งภายในผ้าห่มสีขาวบนเตียงใหญ่ เรือนร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ขยับตัว ก่อนจะใช้ว
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยพลอยนภัสก็ขอแยกกับทุกคนตรงนั้น เพราะต้องรีบกลับมาเก็บกระเป๋า ยังพอที่จะเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงนิดๆ ก่อนที่จะต้องเช็คเอาท์ทันทีที่เปิดประตู พลอยนภัสก็ถึงกับต้องตกใจเมื่อพบว่าภายในห้องพักของเธอนั้นมีคนบางคนที่พึ่งจะทำหน้ายักษ์ใส่เธอตอนเจอกันที่โต๊ะอาหารมายืนหันหลังกอดอกอยู่ริมหน้ากระจกบานใหญ่ของห้อง เขากำลังยืนมองทอดสายตาออกไปราวกับว่าเขากำลังใช้ความคิดหรือว่าต้องนึกครุ่นคิดอะไรที่จริงตอนที่ออกไปเมื่อเช้าพลอยนภัสพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ล็อกห้อง อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นชายหาดส่วนตัว มีห้องพักอยู่แบบเป็นสัดส่วน เเหละระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากว่าเป็นรีสอร์ทระดับ 6 ดาว เธอเองจึงไม่ได้คิดว่าจะกังวลอะไร และส่วนตัวเธอเองแล้วก็ไม่ได้พกของมีค่าอะไรติดตัวมาด้วย นั่นเลยคงทำให้คนตัวโตมายืนเป็นยักษ์ปักหลั่นรอเธออยู่ในนี้ได้ แต่ถึงแม้ว่าห้องเธอจะล็อก พลอยนภัสก็เชื่อว่าคนอย่างเขาคงจะต้องหาทางเข้ามาจนได้อยู่ดี"พี่เก้า ทำไม..."พลอยนภัสทำใจกล้าเอ่ยปากถามออกทั้งๆ ที่ตอนนี้ใจเธอกำลังเต้นโครมคราม แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไปจนจบประโยค เขาก็หันกลับมาจ้องเธอด้
ริมฝีปากบางถูกตามประกบด้วยริมฝีปากร้อน ราวกับว่าหิวโหยมาจากไหน พร้อมด้วยจูบเร่าร้อนที่แสนเรียกร้อง จนตอนนี้คนตัวเล็กได้แต่ปล่อยให้เขาควานหาความหวานภายในปากด้วยลิ้นร้อนอย่างตามใจ เธอเองอยากจะนึกขัด และถามเขาไปว่าทำแบบนี้กับเธออีกทำไม ในเมื่อตัวเขาบอกเองว่าไม่ชอบเธอนักหนา แต่ก็ไม่สามารถที่แม้แต่จะอ้าปากถามออกไปได้ แถมทั้งร่างกายของเธอตอนนี้ก็ราวกับว่าไม่ใช่ของเธอ ดูเหมือนกับว่ามันยากต่อการควบคุมเสียเหลือเกินวินาทีนี้ริมฝีปากร้อนของคนตัวโต ค่อยๆ ซุกไซ้ไล่เลียไปตามซอกลำคอขาว ดูดขบเม้มไปตามใบหูเล็ก ยิ่งสร้างความรัญจวนใจให้กับคนที่กำลังถูกควบคุมอยู่อย่างไม่สามารถปฏิเสธ ในเมื่อแขนทั้งสองถูกเขารวบเอาไว้ที่เหนือศรีษะทุยฝ่ามือใหญ่รีบจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธออกไปให้พ้นทาง ซึ่งตอนนี้สองร่างต่างไร้อาภรณ์ที่มาคอยปกปิดกาย แถมตรงหน้าเขายังมีทรวงอกอวบสล้างที่ยอดตั้งชูชันราวกับว่าท้าทายต้องการให้เขาไปเชยชมกลวัชรไม่รอช้า รีบก้มลงไปดมดอมตอบรับความท้าทาย ก่อนลิ้นร้อนจะกระหวัดวนไปรอบๆ ปลายยอดอย่างหลงไหลและลืมตัว"อ๊ะ..พี่เก้า"พลอยนภัสเสียวซ่านจนต้องแอ่นอกยกขึ้น เพื่อให้เขาได้จัดการกับอกอวบๆ
ริมฝีปากร้อน ค่อยๆ ทำหน้าที่ขบเม้มไปทั่วร่างงามที่เขาชิมดูแล้วว่าเธอนั้นช่างหอมหวานไปทุกสัดส่วน ลิ้นร้อนลากยาวจากวนรอบสะดือบุ๋มก่อนจะลากตรงลงไปด้านล่างอย่างแผ่วเบา ทันทีที่ปลายลิ้นแตะลงตรงกลางเกสรดอกไม้ พลอยนภัสก็ไม่สามารถที่จะควบคุมสุ่มเสียงตัวเองได้อีกทั้งๆที่พยายามกัดริมฝีปากไว้แน่น"อ๊ะ..พี่เก้า"สายตาคมเหลือบมองไปยังใบหน้าสวยพริบตาหนึ่ง เขาจึงใช้เรียวลิ้นที่แสนช่ำชองจัดการปาดปัดไปทั่วกุหลาบแสนหวานดอกนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่รู้จักพอ กลิ่นอันเฉพาะตัวของเธอทำเขาคลั่งแล้วคลั่งอีก รสชาติที่สุดแสนหวานเย้ายวนทำเอากลวัชรถึงกับครางฮึ่มในลำคอ "พี่เก้า..พลอยต้องรีบเก็บกระเป๋าค่ะ""มีเวลาตั้งสองชั่วโมงกว่า ทันอยู่แล้ว"เสียงแหบพร่าของกลวัชรเขยิบขึ้นมากระซิบอยู่ที่ข้างใบหูเล็ก ขณะที่ด้านล่างตัวตนของเขานั้นกำลังจดจ่ออยู่กับกึ่งกลางกายของเธอก่อนจะถูไถมันชขึ้นลงไปมาตามร่องฉ่ำแฉะราวกับว่าจะแกล้งเธอให้ขาดใจเล่น แถมยังคงหยอกเย้ากับเกสรและกลีบดอกที่กำลังเต่งตึงและบานฉ่ำอยู่อย่างนั้น มืออีกข้างก็บีบคลึงเต้าอวบอย่างย่ามใจ จนตัวตนของเขาถูกชโลมจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานของเธอเช่นกัน"แต่พลอย...""ชู่ว แ
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า
ภายในร้านเมื่อเดินเข้ามา พลอยนภัสเห็นกลุ่มชายหญิงยืนนั่งกันเป็นกลุ่มๆ เสียงเพลงในงานดังกระหึ่มจนต้องกระซิบคุยกันจึงจะได้ยิน วันนี้ผับทั้งผับปิดต้อนรับเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่ได้รับเชิญเท่านั้น พลอยนภัสเลือกหยิบเครื่องดื่มที่เป็นค็อกเทลแบบบางๆมาจิบเพื่อที่ว่าตนเองนั้นจะได้อยู่ได้นานๆโดยไม่เมาไปเสียก่อนธาวินพาเธอและข้าวฟ่างเดินผ่านกลุ่มเพื่อนๆเขาไป หลายคนมองมาด้วยสายตายิ้มๆ คงเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเลือกที่จะเอามือมาประครองไว้ที่เอวเธอกรายๆ คืนนี้พลอยนภัสใส่เดรสยีนต์สั้นสีเข้มขึ้นมาเหนือเข่า ด้านบนเป็นเกาะอกแต่มีสายเดี่ยวเส้นเล็กๆพาดอยู่ที่ไหล่ข้างละเส้น ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนและปล่อยทิ้งตัวให้ยาวลงมาดูละมุนตายิ่งนัก "คืนนี้น้องพลอยแต่งตัวน่ารักมากๆเลยนะครับ" ธาวินเอ่ยชม แต่ข้างๆก็ยังมีข้าวฟ่างคอยกระแนะกระแหนด้วยความหมั่นไส้อยู่เป็นพักๆ"หมั่นไส้ๆๆๆ เบื่อพวกคนคลั่งรักจริงๆเลย ไหนดูสิว่ามีเพื่อนพี่วินคนไหนหล่อๆบ้าง""พี่เห็นเราเล็งเพื่อนพี่มาหลายคนหลายครั้งหลายหนแล้วนะฟ่าง นี่ยังไม่มีใครถูกตาต้องใจเราอีกหรอ" ธาวินเอ่ยแซวเธอบ้างเมื่อเห็นว่าได้จังหวะ"ยังเลยค่ะ ที่เห็นก็มีแต่งั้นๆ ฟ่างอยากได้หุ่
"เธอไม่เป็นอะไรนะ"กลวัชรเอื้อมมือไปบีบมือเล็กไว้หลังจากขับรถออกมาได้สักแล้ว พลอยนภัสยังคงนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดจาอะไรกับเขาอีกจนกลวัชรเห็นว่าเธอและเขาจำเป็นจะต้องคุยกัน"เป็นอะไรหรือเปล่า" กลวัชรถามขึ้นหลังจากหาที่เขาหาที่จอดข้างทางเพื่อจะได้คุยกันกับเธอ"ระหว่างเรามันคืออะไรคะพี่เก้า" พลอยนภัสถามออกไปตรงๆ ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาเพื่อรอฟังคำตอบ"แล้วที่ฉันอยู่กับเธอทุกวันแบบนี้เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าระหว่างเรามันคืออะไร" กลวัชรถามย้อนออกไปแต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กก็ยังไม่ได้พอใจในคำตอบ"พลอยต้องการคำตอบค่ะ ต้องการความชัดเจน ถ้าหากว่าพี่เก้าไม่ได้คิดว่าระหว่างเรามันมีอะไรมากกว่าแค่เซ็กซ์ พี่เก้าก็ช่วยหยุดมายุ่งเกี่ยวกับพลอยเถอะค่ะ พลอยไม่อยากโดนใครมาด่าว่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายของคนอื่นอีก" พลอยนภัสพูดออกไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนกลวัชรเองก็รู้สึกหวั่นๆใจกับท่าทีของคนตรงหน้า"ถ้าเป็นเรื่องของลลิตาฉันขอโทษนะ ทีหลังฉันจะไม่ให้ใครมาว่าเธอได้แบบนี้อีก" "ทีหลัง? นี่หมายความว่ายังจะมีใครที่นอกเหนือจากคุณลลิตาอีกอย่างนั้นหรอคะ""ไม่มีๆ ไม่มีแล้วฉันสัญญา" พูดจบพลอยนภัสก็ถู
ยิ่งเห็นพลอยนภัสและไรอันเดินเข้ามาใกล้ๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าเวทีกลวัชรก็ยิ่งหมั่นไส้ เพราะตอนที่ซ้อมกันไรอันไม่จำเป็นต้องเอามือไปโอบที่รอบเอวของพลอยนภัสเลย มีเพียงแค่ให้พลอยนภัสคล้องแขนไรอันไว้หลวมๆเท่านั้น แต่ตอนนี้หมอนั่นกำลังเล่นนอกบท แถมยังคงจะกวนโอ๊ยเขาด้วยการหันมายิ้มแล้วยักคิ้วให้จนกลวัชรเส้นประสาทดีดดังเปรี๊ยะๆ'รอให้จบงานก่อนเถอะน่าไอ้ฝรั่ง พ่อจะเบิ้ดกะโหลกให้ลั่นเลย' กลวัชรแอบคาดโทษไรอันไว้ในใจหลังจากจบงานกลวัชรบอกให้มารดาและพี่สาวของตนเองนั้นกลับก่อนได้เลย โดยเขาได้โทรไปตามคนขับรถของที่บ้านให้มารอรับ ส่วนพลอยนภัสนั้นตนจะเป็นคนรอรับเอง ขอให้มารดาและพี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งทั้งคุณสุนันทาและชานิดาเองก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของกลวัชรเช่นกัน"พักหลังๆมานี้ตาเก้าของคุณแม่เลิกเกลียดยัยพลอยแล้วหรอคะ" ชานิดาเอ่ยถามมารดาในขณะที่เดินออกไปขึ้นรถ"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก แต่ก็ดีแล้วล่ะถ้าเก้าจะเลิกทำตัวไม่ดีใส่น้องแล้วหันมารักมาดูแลน้องน่ะ""หันมารักมาดูแล คุณแม่ว่าตาเก้าจะหันมารักมาดูแลยัยพลอยแบบไหนหรอคะ" "ก็แบบพี่น้องกันยังไงล่ะลูก มีกันอยู่เท่านี้""แล้วถ้าเกิดว่าตาเก้ากับยัยพลอยไม่ไ