หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยพลอยนภัสก็ขอแยกกับทุกคนตรงนั้น เพราะต้องรีบกลับมาเก็บกระเป๋า ยังพอที่จะเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงนิดๆ ก่อนที่จะต้องเช็คเอาท์ทันทีที่เปิดประตู พลอยนภัสก็ถึงกับต้องตกใจเมื่อพบว่าภายในห้องพักของเธอนั้นมีคนบางคนที่พึ่งจะทำหน้ายักษ์ใส่เธอตอนเจอกันที่โต๊ะอาหารมายืนหันหลังกอดอกอยู่ริมหน้ากระจกบานใหญ่ของห้อง เขากำลังยืนมองทอดสายตาออกไปราวกับว่าเขากำลังใช้ความคิดหรือว่าต้องนึกครุ่นคิดอะไรที่จริงตอนที่ออกไปเมื่อเช้าพลอยนภัสพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ล็อกห้อง อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นชายหาดส่วนตัว มีห้องพักอยู่แบบเป็นสัดส่วน เเหละระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากว่าเป็นรีสอร์ทระดับ 6 ดาว เธอเองจึงไม่ได้คิดว่าจะกังวลอะไร และส่วนตัวเธอเองแล้วก็ไม่ได้พกของมีค่าอะไรติดตัวมาด้วย นั่นเลยคงทำให้คนตัวโตมายืนเป็นยักษ์ปักหลั่นรอเธออยู่ในนี้ได้ แต่ถึงแม้ว่าห้องเธอจะล็อก พลอยนภัสก็เชื่อว่าคนอย่างเขาคงจะต้องหาทางเข้ามาจนได้อยู่ดี"พี่เก้า ทำไม..."พลอยนภัสทำใจกล้าเอ่ยปากถามออกทั้งๆ ที่ตอนนี้ใจเธอกำลังเต้นโครมคราม แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไปจนจบประโยค เขาก็หันกลับมาจ้องเธอด้
ริมฝีปากบางถูกตามประกบด้วยริมฝีปากร้อน ราวกับว่าหิวโหยมาจากไหน พร้อมด้วยจูบเร่าร้อนที่แสนเรียกร้อง จนตอนนี้คนตัวเล็กได้แต่ปล่อยให้เขาควานหาความหวานภายในปากด้วยลิ้นร้อนอย่างตามใจ เธอเองอยากจะนึกขัด และถามเขาไปว่าทำแบบนี้กับเธออีกทำไม ในเมื่อตัวเขาบอกเองว่าไม่ชอบเธอนักหนา แต่ก็ไม่สามารถที่แม้แต่จะอ้าปากถามออกไปได้ แถมทั้งร่างกายของเธอตอนนี้ก็ราวกับว่าไม่ใช่ของเธอ ดูเหมือนกับว่ามันยากต่อการควบคุมเสียเหลือเกินวินาทีนี้ริมฝีปากร้อนของคนตัวโต ค่อยๆ ซุกไซ้ไล่เลียไปตามซอกลำคอขาว ดูดขบเม้มไปตามใบหูเล็ก ยิ่งสร้างความรัญจวนใจให้กับคนที่กำลังถูกควบคุมอยู่อย่างไม่สามารถปฏิเสธ ในเมื่อแขนทั้งสองถูกเขารวบเอาไว้ที่เหนือศรีษะทุยฝ่ามือใหญ่รีบจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธออกไปให้พ้นทาง ซึ่งตอนนี้สองร่างต่างไร้อาภรณ์ที่มาคอยปกปิดกาย แถมตรงหน้าเขายังมีทรวงอกอวบสล้างที่ยอดตั้งชูชันราวกับว่าท้าทายต้องการให้เขาไปเชยชมกลวัชรไม่รอช้า รีบก้มลงไปดมดอมตอบรับความท้าทาย ก่อนลิ้นร้อนจะกระหวัดวนไปรอบๆ ปลายยอดอย่างหลงไหลและลืมตัว"อ๊ะ..พี่เก้า"พลอยนภัสเสียวซ่านจนต้องแอ่นอกยกขึ้น เพื่อให้เขาได้จัดการกับอกอวบๆ
ริมฝีปากร้อน ค่อยๆ ทำหน้าที่ขบเม้มไปทั่วร่างงามที่เขาชิมดูแล้วว่าเธอนั้นช่างหอมหวานไปทุกสัดส่วน ลิ้นร้อนลากยาวจากวนรอบสะดือบุ๋มก่อนจะลากตรงลงไปด้านล่างอย่างแผ่วเบา ทันทีที่ปลายลิ้นแตะลงตรงกลางเกสรดอกไม้ พลอยนภัสก็ไม่สามารถที่จะควบคุมสุ่มเสียงตัวเองได้อีกทั้งๆที่พยายามกัดริมฝีปากไว้แน่น"อ๊ะ..พี่เก้า"สายตาคมเหลือบมองไปยังใบหน้าสวยพริบตาหนึ่ง เขาจึงใช้เรียวลิ้นที่แสนช่ำชองจัดการปาดปัดไปทั่วกุหลาบแสนหวานดอกนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่รู้จักพอ กลิ่นอันเฉพาะตัวของเธอทำเขาคลั่งแล้วคลั่งอีก รสชาติที่สุดแสนหวานเย้ายวนทำเอากลวัชรถึงกับครางฮึ่มในลำคอ "พี่เก้า..พลอยต้องรีบเก็บกระเป๋าค่ะ""มีเวลาตั้งสองชั่วโมงกว่า ทันอยู่แล้ว"เสียงแหบพร่าของกลวัชรเขยิบขึ้นมากระซิบอยู่ที่ข้างใบหูเล็ก ขณะที่ด้านล่างตัวตนของเขานั้นกำลังจดจ่ออยู่กับกึ่งกลางกายของเธอก่อนจะถูไถมันชขึ้นลงไปมาตามร่องฉ่ำแฉะราวกับว่าจะแกล้งเธอให้ขาดใจเล่น แถมยังคงหยอกเย้ากับเกสรและกลีบดอกที่กำลังเต่งตึงและบานฉ่ำอยู่อย่างนั้น มืออีกข้างก็บีบคลึงเต้าอวบอย่างย่ามใจ จนตัวตนของเขาถูกชโลมจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานของเธอเช่นกัน"แต่พลอย...""ชู่ว แ
พอมาถึงที่สนามบินทุกคนต่างก็ยืนรอที่จะเช็คอินกันอยู่ ขณะนั้นไรอันก็เดินตรงเข้ามาหามาพูดคุยกับเธอจนเธอรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่ากำลังทำผิดอะไรอยู่ เพราะเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเธอพึ่งจะผ่านเหตุการณ์สุดสยิวกับผู้ชายอีกคนมา พอมาเวลานี้กลับมายืนพูดคุยกับผู้ชายอีกคน นี่ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเธอคงจะไม่รู้สึกกระอักกระใจแบบนี้ แต่เพราะรู้ทั้งรู้ว่าไรอันคิดกับเธอยังไง พอนึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านพ้นมามันก็พลอยนภัสอดที่จะรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยราวกับว่าเธอเป็นคนมีชนักติดหลังไม่ได้"ผมช่วยเข็นครับ""เอ่อ..ขอบคุณค่ะคุณไรอัน"พลอยนภัสได้แต่ส่งยิ้มบางให้เขาไปตามธรรมชาติ แต่สายตาก็ยังมิวายต้องเหลือบไปมองคนข้างๆ ซึ่งจ้องมองมายังเธออยู่ก่อนแล้ว เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกยินดียินร้ายอะไร ทั้งๆ ที่เมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขายังจับเธอกินด้วยความเอร็ดอร่อยอยู่เลย คิดไปก็พาลที่จะรู้สึกแย่อยู่คนเดียว นี่เธอกำลังคาดหวังอะไรจากเขากันขากลับเธอต้องนั่งที่นั่งติดกับเขา เพราะคุณโชติกับคุณสุนันทานั่งที่นั่งคู่กัน แล้วปกติต้องเป็นเธอนั่งคู่กับชานิดา แต่รายนั้นก็มาชิงกลับก่อนตั้งแต่เมื่อคืน จึงทำให้เธอต้องนั่งคู่กับเขาไปอย่าง
"เป็นไงบ้างไปภูเก็ตมาสนุกไหม""เอ่อ..ก็สนุกดี นานๆ ได้ไปพักผ่อน"เวลานี้พลอยนภัสตอบได้ไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำนัก ก็จะให้เธอพูดได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอพบเข้ากับประสบการณ์อันแปลกใหม่ของชีวิตโดยมีกลวัชรเป็นคนกำกับ"ขอบคุณนะฟานสำหรับมื้อเย็น""ยินดีเสมอ แค่นี้ฟานก็แฮปปี้ไปอีกนานแล้ว ไม่ได้กินข้าวกับพลอยฟานกินข้าวไม่อร่อยเลย""หรออออ ได้ข่าวว่าพึ่งพาสาวไหนไปกินข้าวมาเมื่อวานนี่เองไม่ใช่หรอ พลอยเห็นหรอกนะในกรุ๊ปไลน์น่ะ" พลอยนภัสแกล้งแซว"เฮ้ยสาวที่ไหนกันไม่มีหรอก แล้ววันนั้นก็ไปกันตั้งหลายคน ไอ้ฟ่างตัวดีเลยตัวตั้งตัวตี""ฮ่าๆ แซวเล่นน่ะ พลอยเข้าบ้านก่อนนะ ไว้เจอกัน ขับรถดีๆ นะ""ฝันดีนะที่รัก""ที่รักบ้าน่ะสิ""ฮ่าๆ ไปแล้วนะ ไว้เจอกัน"พลอยนภัสเปิดประตูเข้าบ้านไปก็อดที่จะเหลือบมองไปทางตึกใหญ่ไม่ได้ ตรงที่จอดรถของเขาว่าง และรถก็ไม่อยู่ แสดงว่าเขาคงออกไปข้างนอก'ดึกดื่นขนาดนี้ ไปไหนของเขานะ'pub"เฮ้ยๆ เบาๆ เว้ย เดี๋ยวก็เมาหัวทิ่มไปหรอก" ธาวินพยายามเบรค ในขณะที่คนตรงหน้าไม่ได้สนใจที่จะฟังเลยแม้แต่น้อย ยังคงกระดกเอาๆ ทำราวกับว่ากำลังดื่มน้ำเปล่า"นี่มึงไปเครียดอะไรมาวะ มาถึงก็ยกเอาๆ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดกระทบเข้าใบหน้านวล พลอยนภัสค่อยขยับลืมตาขึ้นก่อนที่เธอจะพบกว่าตัวเองยังคงนอนซบอยู่ที่บนหน้าอกแกร่ง ดวงตากลมโตกระพิบไปมาสองสามทีก่อนจะจ้องเพ่งไปยังคนขี้เซาที่เวลานี้ยังคงมีเสียงหายใจดังสม่ำเสมอหญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างเบาๆ เพียงเพราะว่ากลัวว่าเขาจะรู้ตัวและตื่นขึ้นมาตามเสียก่อน แต่ในจังหวะที่เธอค่อยๆ ดึงตัวออกจากผ้าห่มนั้น ร่างของเธอก็ลอยหวือกลับมาปะทะกับอกแกร่งดังเดิม"จะรีบไปไหน วันนี้วันหยุด" กลวัชรเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ดวงตายังคงปิดอยู่"เอ่อพลอย...พลอยจะลุกขึ้นไปตักบาตรกับคุณป้าค่ะ""นี่คุณแม่ไม่ได้บอกเธอหรอว่าจะไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัด" เขาถามแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง"เปล่านี่คะ""งั้นก็มานอนต่อ ฉันยังไม่อยากตื่น รู้สึกไม่ค่อยสบาย""นี่พี่เก้าไม่สบายหรอคะ" พลอยนภัสลองยื่นมือออกไปสัมผัสบริเวณหน้าผากของเขาดู ปรากฎว่ามันอุ่นร้อนจริงๆ ด้วย"ตัวร้อนจริงๆ ด้วยค่ะ น่าจะเกี่ยวกับที่พี่เก้าตากฝนเมื่อคืน งั้นเดี๋ยวพลอยเช็ดตัวให้แล้วเดี๋ยวจะไปทำข้าวต้มมาให้ทานก็แล้วกันนะคะ"พอพลอยนภัสบอกไปแบบนี้กลวัชรจึงต้องคลายอ้อมกอดออกจากคนตัวเล็กอย่างจำยอมแล้วรอรับการปรนนิบัติ
หลังจากที่คาดคั้นเอาจนได้คำตอบว่าแม่ตัวดีจะออกไปไหน กลวัชรก็มีสีหน้าพอใจและยิ้มออกได้ จากนั้นจึงกลับมานอนลงที่เตียงดังเดิมก่อนจะยกเอาหมอนใบใหญ่ที่เวลานี้ถูกเขายึดครองตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมากอดและสูดดมให้เต็มปอดแทนเจ้าของของมันพลอยนภัสบอกว่าจะออกไปช่วยเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้ญาติสักสองสามชั่วโมงแล้วจะกลับ วันนี้เป็นวันหยุดหลังจากกินยาเข้าไปก็ชักจะเริ่มง่วงกลวัชรจึงได้ผล็อยหลับไปหลังจากสลบไสลไปเพราะฤทธิ์ยาเป็นเวลาหลายชั่วโมง เขาตื่นขึ้นมาจึงลองเอามือเเตะหน้าผากดูก็รู้สึกว่าตัวเย็นลงแล้ว เมื่อเห็นว่าอาการนั้นดีขึ้นจึงนึกขึ้นได้ว่าอยากอาบน้ำ นั่งบิดขี้เกียจอยู่สักพักแต่สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่านี่มันเป็นเวลาเกือบจะบ่ายสามโมงเย็น บ้านทั้งบ้านยังคงเงียบสนิทอยู่เลยราวกับว่าพลอยนภัสยังไม่กลับกลวัชรจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน สภาพของเขาตอนนี้คือสวมเสื้อยืดตัวโคร่งของพลอยนภัสและกางเกงนอนตัวใหญ่ที่สุดของเธอแล้ว หากแต่พอมาอยู่บนตัวเขามันกลับหดเล็กจิ๋วอย่างกับว่าเขากำลังสวมเสื้อผ้าเด็กอยู่ยังไงอย่างงั้น นึกแล้วก็อดขำตัวเองไม่ได้ที่เขายอมทำถึงขนาดนี้เพื่อที่จะได้อยู่ค้างคืนที่น
เจ็ดโมงเช้าของวันอาทิตย์ในขณะที่พลอยนภัสเดินกลับหลังจากออกไปตักบาตรกับป้าสายหยุดมา เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปพลอยนภัสก็ต้องตกใจเข้าอีกจนได้เมื่อพบว่ากลวัชรกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาเบดในห้องนั่งเล่น ทำไมช่วงนี้กลวัชรถึงได้ขยันหาเรื่องให้เธอได้ตกใจอยู่เรื่อยวันนี้เขาอยู่ในลุคสบายๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทาตกแต่งด้วยลวดลายสบายตา ที่บนใบหน้าเขาสวมแว่นตากันแดดสีดำ ไม่ว่ากลวัชรจะแต่งตัวแบบไหนในสายตาของพลอยนภัส เขาก็ยังดูมีเสน่ห์ดูโดดเด่นสำหรับเธอเสมอ"พี่เก้า""กลับมาแล้วหรอ""ค่ะ พี่เก้ามีอะไรคะถึงได้มาถึงที่นี่อีก"พลอยนภัสยังคงแปลกใจในท่าทีของคนตรงหน้า พักหลังมานี้เธอชักจะเห็นเขาบ่อยจนแทบจะทุกที่หรือแม้แต่ทุกวันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ตรงไหนของบ้าน กลวัชรก็มักจะเอาหน้าหล่อๆ ของเขาโผล่มาให้เห็นจนเธอเองต้องแปลกใจในหลายๆ ครั้ง"วันนี้ฉันว่าจะออกไปข้างนอก เธอช่วยออกไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ""คะ..?""ไม่อยากออกไปคนเดียว ช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อย" ท่าทีของกลวัชรที่ตอบออกไปค่อนข้างกระออมกระแอมอย่างไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำนัก ใบหน้าหล่อเหลาพูดออกไปแต่กลับไม่กล้ามองคนตรงหน้าราวกับว่าเขินอ
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า
ภายในร้านเมื่อเดินเข้ามา พลอยนภัสเห็นกลุ่มชายหญิงยืนนั่งกันเป็นกลุ่มๆ เสียงเพลงในงานดังกระหึ่มจนต้องกระซิบคุยกันจึงจะได้ยิน วันนี้ผับทั้งผับปิดต้อนรับเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่ได้รับเชิญเท่านั้น พลอยนภัสเลือกหยิบเครื่องดื่มที่เป็นค็อกเทลแบบบางๆมาจิบเพื่อที่ว่าตนเองนั้นจะได้อยู่ได้นานๆโดยไม่เมาไปเสียก่อนธาวินพาเธอและข้าวฟ่างเดินผ่านกลุ่มเพื่อนๆเขาไป หลายคนมองมาด้วยสายตายิ้มๆ คงเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเลือกที่จะเอามือมาประครองไว้ที่เอวเธอกรายๆ คืนนี้พลอยนภัสใส่เดรสยีนต์สั้นสีเข้มขึ้นมาเหนือเข่า ด้านบนเป็นเกาะอกแต่มีสายเดี่ยวเส้นเล็กๆพาดอยู่ที่ไหล่ข้างละเส้น ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนและปล่อยทิ้งตัวให้ยาวลงมาดูละมุนตายิ่งนัก "คืนนี้น้องพลอยแต่งตัวน่ารักมากๆเลยนะครับ" ธาวินเอ่ยชม แต่ข้างๆก็ยังมีข้าวฟ่างคอยกระแนะกระแหนด้วยความหมั่นไส้อยู่เป็นพักๆ"หมั่นไส้ๆๆๆ เบื่อพวกคนคลั่งรักจริงๆเลย ไหนดูสิว่ามีเพื่อนพี่วินคนไหนหล่อๆบ้าง""พี่เห็นเราเล็งเพื่อนพี่มาหลายคนหลายครั้งหลายหนแล้วนะฟ่าง นี่ยังไม่มีใครถูกตาต้องใจเราอีกหรอ" ธาวินเอ่ยแซวเธอบ้างเมื่อเห็นว่าได้จังหวะ"ยังเลยค่ะ ที่เห็นก็มีแต่งั้นๆ ฟ่างอยากได้หุ่
"เธอไม่เป็นอะไรนะ"กลวัชรเอื้อมมือไปบีบมือเล็กไว้หลังจากขับรถออกมาได้สักแล้ว พลอยนภัสยังคงนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดจาอะไรกับเขาอีกจนกลวัชรเห็นว่าเธอและเขาจำเป็นจะต้องคุยกัน"เป็นอะไรหรือเปล่า" กลวัชรถามขึ้นหลังจากหาที่เขาหาที่จอดข้างทางเพื่อจะได้คุยกันกับเธอ"ระหว่างเรามันคืออะไรคะพี่เก้า" พลอยนภัสถามออกไปตรงๆ ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาเพื่อรอฟังคำตอบ"แล้วที่ฉันอยู่กับเธอทุกวันแบบนี้เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าระหว่างเรามันคืออะไร" กลวัชรถามย้อนออกไปแต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กก็ยังไม่ได้พอใจในคำตอบ"พลอยต้องการคำตอบค่ะ ต้องการความชัดเจน ถ้าหากว่าพี่เก้าไม่ได้คิดว่าระหว่างเรามันมีอะไรมากกว่าแค่เซ็กซ์ พี่เก้าก็ช่วยหยุดมายุ่งเกี่ยวกับพลอยเถอะค่ะ พลอยไม่อยากโดนใครมาด่าว่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายของคนอื่นอีก" พลอยนภัสพูดออกไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนกลวัชรเองก็รู้สึกหวั่นๆใจกับท่าทีของคนตรงหน้า"ถ้าเป็นเรื่องของลลิตาฉันขอโทษนะ ทีหลังฉันจะไม่ให้ใครมาว่าเธอได้แบบนี้อีก" "ทีหลัง? นี่หมายความว่ายังจะมีใครที่นอกเหนือจากคุณลลิตาอีกอย่างนั้นหรอคะ""ไม่มีๆ ไม่มีแล้วฉันสัญญา" พูดจบพลอยนภัสก็ถู
ยิ่งเห็นพลอยนภัสและไรอันเดินเข้ามาใกล้ๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าเวทีกลวัชรก็ยิ่งหมั่นไส้ เพราะตอนที่ซ้อมกันไรอันไม่จำเป็นต้องเอามือไปโอบที่รอบเอวของพลอยนภัสเลย มีเพียงแค่ให้พลอยนภัสคล้องแขนไรอันไว้หลวมๆเท่านั้น แต่ตอนนี้หมอนั่นกำลังเล่นนอกบท แถมยังคงจะกวนโอ๊ยเขาด้วยการหันมายิ้มแล้วยักคิ้วให้จนกลวัชรเส้นประสาทดีดดังเปรี๊ยะๆ'รอให้จบงานก่อนเถอะน่าไอ้ฝรั่ง พ่อจะเบิ้ดกะโหลกให้ลั่นเลย' กลวัชรแอบคาดโทษไรอันไว้ในใจหลังจากจบงานกลวัชรบอกให้มารดาและพี่สาวของตนเองนั้นกลับก่อนได้เลย โดยเขาได้โทรไปตามคนขับรถของที่บ้านให้มารอรับ ส่วนพลอยนภัสนั้นตนจะเป็นคนรอรับเอง ขอให้มารดาและพี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งทั้งคุณสุนันทาและชานิดาเองก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของกลวัชรเช่นกัน"พักหลังๆมานี้ตาเก้าของคุณแม่เลิกเกลียดยัยพลอยแล้วหรอคะ" ชานิดาเอ่ยถามมารดาในขณะที่เดินออกไปขึ้นรถ"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก แต่ก็ดีแล้วล่ะถ้าเก้าจะเลิกทำตัวไม่ดีใส่น้องแล้วหันมารักมาดูแลน้องน่ะ""หันมารักมาดูแล คุณแม่ว่าตาเก้าจะหันมารักมาดูแลยัยพลอยแบบไหนหรอคะ" "ก็แบบพี่น้องกันยังไงล่ะลูก มีกันอยู่เท่านี้""แล้วถ้าเกิดว่าตาเก้ากับยัยพลอยไม่ไ