หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ กลวัชรก็จูงมือพาเธอเดินตรงไปยังร้านเช่าจักรยานด้วยกัน เขาบอกให้เธอยืนรออยู่ตรงนี้ ตัวเขาเองเดินเข้าไปเช่าคนเดียว เสร็จแล้วก็เดินกลับออกมาพร้อมจักรยานหนึ่งคัน"ทำไม..มีคันเดียวล่ะคะ?"พลอยนภัสสงสัย"เหลือให้เช่าแค่คันเดียว คันอื่นมีคนจองไว้หมอแล้ว"'หืออออ มันใช่หรออออ' พลอยนภัสได้แต่แอบคิดในใจ จักรยานที่เธอเห็นจอดอยู่ราวยี่สิบคันได้มั้ง ใครกันมาจองไว้ขนาดนั้น แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป"งั้นพี่เก้าปั่นไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพลอยนั่งรออยู่ตรงนี้""เรื่องอะไรฉันจะต้องปั่นไปคนเดียวด้วย""เอ่อ แต่พลอยคงปั่นให้พี่นั่งไม่ไหวหรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ เอาไว้เราไปหาอย่างอื่นทำกันดีกว่ามั้ยคะ" พลอยนภัสเอ่ยขอโทษและเสนอแนะวิธีอื่นแทน เพราะถ้าต้องปั่นให้กลวัชรนั่งจริงๆ พรุ่งนี้เธอคงต้องขอลาป่วยเพิ่มอีกหนึ่งวันแน่ๆ"แล้วใครบอกล่ะว่าฉันจะให้เธอปั่น ฉันไม่ใช่คนหน้าไม่อายขนาดที่จะมานั่งกินแรงผู้หญิงหรอกนะ ขึ้นมาสิ""จะดีหรอคะ พลอยกลัวพี่เก้าหนัก""ขี้นมาเถอะน่า เธอตัวเล็กแค่นี้ฉันอุ้มมือเดียวยังไหว"พูดจบเขาก็วาดขาขึ้นไปบนจักรยานพร้อมกับหยุดรอให้เธอขึ้นไปนั่งซ้อนอยู่ทางด้านหลัง พลอยนภั
ทันทีที่เดินเข้าบ้านไป กลวัชรก็รู้สึกเหม็นขึ้นมาทันที เหม็นอะไรน่ะหรอ ก็เหม็นขี้หน้าฝรั่งหน้าขาวที่ส่งยิ้มหน้าบานจนปากแทบจะฉีกถึงใบหูน่ะสิ ไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนากับอีแค่เห็นพลอยนภัสเดินมาก็ทำราวกับว่าเห็นนางฟ้านางสวรรค์เสียอย่างนั้น กลวัชรเห็นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ประสาทจะแดก!!"กลับมากันแล้วหรอจ๊ะลูก เนี่ยคุณจารุวรรณกับไรอันเขามารอตั้งนานแล้ว"คุณสุนันทาเอ่ยทักขึ้นทันทีที่เห็นกลวัชรกับพลอยนภัสเดินเข้าบ้านมากลวัชรยกมือขึ้นไหว้ไปทางหญิงวัยกลางคน ส่วนหลานชายของผู้มาเยือนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันนั้นเขาเพียงแต่เอ่ยคำทักทายออกไปตามมารยาทเท่านั้นแม้ว่าในใจนั้นสุดจะขุ่นเคืองเนื่องจากว่าฝ่ายนั้นเอาแต่ยิ้มทำตาหวานเชื่อมไปทางพลอยนภัสไม่หยุด"รอผมหรอ รอทำไมครับ" กลวัชรเดินเข้าไปหามารดาก่อนจะค่อยๆ พูดพอได้ยินกันสองคน ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าจริงๆ แล้วคนที่ถูกรอคือ 'แม่คนเสน่ห์แรง' ที่เดินตามหลังเขามาต้อยๆ ต่างหากแต่ถึงยังไงกลวัชรก็ยังแกล้งถามออกไปอย่างกวนๆ "ใครบอกล่ะว่าเขามารอลูกกัน โน่นเขามารอน้องกันต่างหากล่ะลูก" คุณสุนันทาเอ่ยออกมาพร้อมกับตีไปที่แขนลูกชายเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้"สวัสดีค่ะคุณจารุวรรณ คุณไรอัน
พอทานอาหารเสร็จทุกคนต่างก็พากันแยกย้าย คุณสุนันทาและพลอยนภัสยืนรอส่งคุณจารุวรรณกับไรอันเสร็จแล้วจึงได้ต่างแยกย้ายกันเข้าบ้านของตัวเอง"ทำไมเธอถึงไม่ปฏิเสธคนพวกนั้นไป"คำถามถูกยิงออกมาใส่พลอยนภัสทันทีที่เธอเดินเข้ามา กลวัชรใช้จังหวะที่พลอยนภัสไม่ทันตั้งตัวใช้มือดันประตูตามเข้าบ้านมาติดๆ "พี่เก้า" พลอยนภัสตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะตามมาด้วย "ฉันถามว่าทำไมเธอถึงไม่ปฏิเสธมันไป" น้ำเสียงเข้มขึ้น"พลอยเห็นว่าคุณป้าบอกให้ช่วย""จะบอกว่าเชื่อคุณแม่งั้นหรอ เชื่อฟังคุณแม่หรือจริงๆแล้วอยากไปเดินแบบกับมันกันแน่"กลวัชรยอมรับตรงๆว่าตอนนี้เขากำลังโมโหแม่ตัวดีที่ยืนอยู่ตรงหน้ามาก รู้ทั้งรู้และที่สำคัญเขาก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นแต่พลอยนภัสก็ยังจะขัดคำสั่งเขาอีก"พี่เก้าคะถ้าตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีแล้วจะมาหาเรื่อง พลอยว่าพี่เก้ากลับไปดีกว่านะคะ พลอยไม่ได้อยากจะทะเลาะด้วย" พลอยนภัสมองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ ทั้งๆที่วันนี้ทั้งวันเขาก็ดูอารมณ์ดีมาตลอด พอมาตอนนี้กลับจะมาหาเรื่องเธอเสียอย่างนั้น "นี่เธอกล้าไล่ฉันหรอ เห็นว่าฉันใจดีด้วยหน่อยใช่มั้ยเลยลืมตัว ทั้งๆที่วันนี้ไปขลุกอยู่กั
เช้านี้พลอยนภัสตื่นขึ้นมาทำงานด้วยอาการสลึมสลือเป็นพิเศษ เมื่อคืนเกือบทั้งคืนกลวัชรไม่ได้ปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนเต็มที่เลย เขาเอาแต่ตักตวงเรียกได้ว่าแทบจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ พลอยนภัสยอมรับว่าเธอก็มีความสุขกับสิ่งที่ได้ร่วมกันทำกับเขา แต่ความสุขนี้จะอยู่ได้นานสักเท่าไหร่กันเชียว เธอก็ได้แต่ระวังหัวใจตัวเองให้ดีๆ เพราะไม่อยากจะเจ็บปวดจากการเฝ้ามองเขาแค่เพียงฝ่ายเดียวอีกเมื่อคืนหลังจากจัดการกินเธอจนอิ่มแล้ว ซึ่งเธอก็ตามใจปล่อยตัวปล่อยใจปล่อยให้เขากินจนอิ่ม พอตื่นเช้ามาเธอก็ไม่พบว่าเขานอนอยู่บนเตียงแล้ว ไม่รู้ว่าเขากลับออกไปตอนไหน รู้เพียงแค่ว่าสลึมสลือเพราะหมดแรง แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าเขามาจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะออกไป ในขณะที่เธอไม่สามารถที่จะลืมตาขึ้นมามองไหวเช้านี้พลอยนภัสเลือกที่จะออกไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าเพราะเมื่อดูนาฬิกาก็รู้ได้ว่าเธอตื่นสายเป็นพิเศษ หากใช้รถยนต์ไปคงถึงที่ทำงานสายแน่ๆเมื่อมาถึงที่ออฟฟิศเธอก็พบว่ากลวัชรมาถึงที่ทำงานก่อนแล้ว เธอจึงรีบวางกระเป๋า เตรียมโต๊ะทำงานของตัวเอง ก่อนจะเดินตรงไปเคาะประตูเพื่อเข้าไปถามว่าเขาต้องการอะไรหรือไม่ก๊อกๆ ...ทันทีที่เปิดประตูเข้
หลังจากถูกดึงข้อมือเอาไว้ พลอยนภัสก็สามารถเดาออกได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองเลยว่าใครกันที่กำลังดึงฉุดรั้งข้อมือเธอเอาไว้อยู่"ฉันบอกว่าให้รอกลับบ้านพร้อมกัน ทำไมถึงกล้าขัดคำสั่ง"นั่นไงคือคนที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด"ถ้าเป็นเรื่องงานพลอยจำได้ว่าพลอยไม่เคยขัดคำสั่งพี่ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นพลอยมีสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าจะฟัง หรือไม่ฟังก็ได้นี่คะ อีกอย่างนี่ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้วด้วย พลอยจะรีบกลับค่ะ""แต่เมื่อเช้าเธอไม่ได้ปฏิเสธนี่""แต่พลอยก็ไม่ได้รับปากว่าจะกลับกับพี่ด้วยเหมือนกันค่ะ"'หึ เด็กดื้อเอ้ย'ทันทีที่ลิฟท์เปิดประตูพลอยนภัสก็ก้าวฉับเข้าไปโดยไม่ได้หันมาสนใจมองว่าเขาจะยังยืนอยู่หรือไม่ แต่ขณะที่เธอจะเอื้อมมือไปกดปุ่มปิด กลวัชรก็ก้าวตามเข้ามาและกดปุ่มปิดมันเสียเอง ในขณะที่เธอต้องการจะลงไปยังชั้นหน้าออฟฟิศแต่เขากลับกดลงไปที่ชั้นลานจอดรถแทน"ขอโทษนะคะ ช่วยกดชั้น G ให้ด้วยค่ะ" พลอยนภัสพูดและหยุดมองไปยังคนตัวโตที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ หลังจากเธอบอกออกไปเขาก็ยังทำเฉยหูทวนลมราวกับว่าเสียงเธอเป็นเพียงอากาศธาตุ เข้าหูขวาก็ทะลุออกไปใบหูซ้ายเท่านั้นเอง พอเธอเอื้อมมือหมายจะไปกดเองก็ถูกเขาปัดมือออ
หลังจากพาเธอไปช้อปปิ้งจากนั้นกลวัชรก็ขอแวะทานข้าวต่อ แม้ว่าพลอยนภัสจะอ้างว่าไม่หิวบ้างล่ะ อยู่ในช่วงไดเอ็ทบ้างล่ะแต่เธอก็ไม่สามารถหยุดยั้งคนหิวอย่างกลวัชรได้ อาหารอิตาลีถูกนำมาจัดเสริฟโดยเขาสั่งเป็นสปาเก็ตตี้ให้เธอส่วนตัวเขาเองก็หันไปจัดการกับพิซซ่าถาดใหญ่ พลอยนภัสนั่งมองเขากินจนเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาสามารถกินมันเข้าไปจนหมดได้จริงๆ แต่ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขากินเยอะขนาดนี้แต่กลับยังมีหุ่นที่กร้าวใจได้ ถ้าเป็นเธอเอง เวลาเย็นๆ แบบนี้เผลอใจกินคาร์โบไฮเดรตจานใหญ่เข้าไปมีหวังพรุ่งนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นโล ขนาดว่าเธออธิบายเขาไป ดูตอนนี้สิ เขากลับสั่งสปาเกตตี้มาวางอยู่ตรงหน้าเธอเสียอย่างนั้น"กินๆ ไปเถอะ ไม่อ้วนหรอกน่า หุ่นกำลังดีแบบนี้ฉันชอบหรือไม่ก็คืนนี้ขย่มฉันทีสองทีก็ผอมแล้ว" พอพูดจบก็หันมายักคิ้วกวนประสาทให้เธอเหมือนเดิม พลอยนภัสเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจกับคำพูดที่แสนจะทะลึ่งตึงตังของเขาในช่วงหลังๆ มานี้ ชอบพูดอะไรออกมาตรงๆ ให้เธอได้อายอยู่เรื่อย ไม่รู้ว่ากลวัชรคนที่เข้มขรึม คนที่หน้าเธอก็แทบไม่อยากจะมองคนนั้นหายไปไหน เธอไม่เคยเห็นเขาในมุมทะลึ่งกวนๆ ทะเล้นแบบนี้เลยหลังจากทานอาหารเสร็จ
คืนวันงานสองสาวแม่ลูกต่างก็พากันแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดผ้าไหมแสนสวยที่ผ่านการออกแบบและตัดเย็บด้วยความประณีตบรรจง ปกติเวลามีงานต่างๆ คุณสุนันทาก็มักจะชวนไม่ชานิดาก็พลอยนภัสนี่แหละให้ไปเป็นเพื่อนออกงานด้วย จนหลายต่อหลายครั้งผู้คนมักจะพากันเข้าใจว่าพลอยนภัสนั้นคือลูกสาวอีกคนของบ้านไปแล้วต่างจากกลวัชรที่ตั้งแต่เล็กจนโตมักจะหลบเลี่ยงการออกงานกับมารดาตลอด จนบางครั้งถ้าเป็นงานสำคัญจริงๆ คุณสุนันทาเองต้องบังคับหรือไม่ก็หาข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนกับพ่อลูกชายตัวดีถึงจะยอม"เสร็จเรียบร้อยแล้วเราไปกันเถอะกริ้งลูก"คุณสุนันทาเอ่ยชวนลูกสาวเมื่อเห็นว่าชานิดาก็แต่งตัวเสร็จแล้ว"ค่ะคุณแม่ กริ้งบอกจุ๊บแจงให้บอกลุงแช่มเอารถมาคอยแล้วค่ะ" แต่ขณะที่กำลังจะเดินออกจากบ้าน สองแม่ลูกก็เห็นพ่อคุณชายคนเก่งของบ้านที่แต่งตัวด้วยสูทสุดเนี้ยบรีบเดินลงบันไดมาเสียก่อน"รอด้วยสิครับ" เสียงๆ นี้ทำให้ทั้งคุณสุนันทาและชานิดาต่างหันไปมองพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าเป็นใคร สองแม่ลูกก็ถึงกับต้องมองหน้ากันอีกรอบ"นี่เก้าจะแต่งตัวไปไหนหรอลูก""ก็ไปงานกับคุณแม่กับพี่กริ้งน่ะสิครับ""อะไรนะตาเก้าพูดใหม่อีกทีสิ" ชานิดาทำหน้าตกใจราวกับว่าไม
ในขณะที่กลวัชรกำลังพยายามมองหาคนบางคนที่เป็นสาเหตุทำให้เขาอยากมางานนี้ แต่ลลิตาก็เอาแต่เกาะเขาแจไม่ยอมปล่อยจนเขาเริ่มที่จะหมดความอดทน กลวัชรเบื่อที่จะต้องมานั่งรักษาน้ำใจของใครแล้ว เวลานี้เขาอยากเจอพลอยนภัส ไม่รู้ว่าแต่งตัวเสร็จหรือยังหรือว่าไปถึงไหนแล้ว ยิ่งมีไรอันอยู่ด้วยใกล้ๆเขายิ่งไม่ค่อยอยากจะไว้ใจ ขนาดวันซ้อมเขามานั่งเฝ้าเองกับตัวแท้ๆ ยังเห็นมีบางช่วงบางตอนที่ฝรั่งคนนั้นทำเหมือนอยากจะมาเกาะแกะกับพลอยนภัสอยู่หลายครั้ง"เก้าคะ คุณแม่ลิตายืนอยู่ตรงนั้นค่ะ เราไปไหว้คุณแม่กันเถอะนะคะเก้า" ลลิตาพยายามจะฉุดดึงกลวัชรให้ตามเธอไปแต่ก็ไม่เป็นผล"เอ่อ...ลิตาครับ คือผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา" "ไม่ไปไหว้คุณแม่ลิตาก่อนหรอคะเก้า เก้าคะ เก้า" พอกลวัชรแกะมือของลลิตาให้หลุดออกจากแขนได้ เขาก็เดินหายเข้าไปในหมู่ผู้คนทันที ทิ้งให้ลลิตายืนเรียกยืนกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้นคนเดียวส่วนด้านพลอยนภัสเมื่อเจอคำถามของไรอันไปก็ทำเอาเธอไปไม่ถูกเหมือนกัน จะบอกเขาว่าอย่างไรดีล่ะ ในเมื่อระหว่างเธอกับกลวัชรนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าความสัมพันธ์นี้มันเรียกว่าอะไร แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่'แฟน'อย่างที่ไรอันกำลังเข
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า
ภายในร้านเมื่อเดินเข้ามา พลอยนภัสเห็นกลุ่มชายหญิงยืนนั่งกันเป็นกลุ่มๆ เสียงเพลงในงานดังกระหึ่มจนต้องกระซิบคุยกันจึงจะได้ยิน วันนี้ผับทั้งผับปิดต้อนรับเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่ได้รับเชิญเท่านั้น พลอยนภัสเลือกหยิบเครื่องดื่มที่เป็นค็อกเทลแบบบางๆมาจิบเพื่อที่ว่าตนเองนั้นจะได้อยู่ได้นานๆโดยไม่เมาไปเสียก่อนธาวินพาเธอและข้าวฟ่างเดินผ่านกลุ่มเพื่อนๆเขาไป หลายคนมองมาด้วยสายตายิ้มๆ คงเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเลือกที่จะเอามือมาประครองไว้ที่เอวเธอกรายๆ คืนนี้พลอยนภัสใส่เดรสยีนต์สั้นสีเข้มขึ้นมาเหนือเข่า ด้านบนเป็นเกาะอกแต่มีสายเดี่ยวเส้นเล็กๆพาดอยู่ที่ไหล่ข้างละเส้น ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนและปล่อยทิ้งตัวให้ยาวลงมาดูละมุนตายิ่งนัก "คืนนี้น้องพลอยแต่งตัวน่ารักมากๆเลยนะครับ" ธาวินเอ่ยชม แต่ข้างๆก็ยังมีข้าวฟ่างคอยกระแนะกระแหนด้วยความหมั่นไส้อยู่เป็นพักๆ"หมั่นไส้ๆๆๆ เบื่อพวกคนคลั่งรักจริงๆเลย ไหนดูสิว่ามีเพื่อนพี่วินคนไหนหล่อๆบ้าง""พี่เห็นเราเล็งเพื่อนพี่มาหลายคนหลายครั้งหลายหนแล้วนะฟ่าง นี่ยังไม่มีใครถูกตาต้องใจเราอีกหรอ" ธาวินเอ่ยแซวเธอบ้างเมื่อเห็นว่าได้จังหวะ"ยังเลยค่ะ ที่เห็นก็มีแต่งั้นๆ ฟ่างอยากได้หุ่
"เธอไม่เป็นอะไรนะ"กลวัชรเอื้อมมือไปบีบมือเล็กไว้หลังจากขับรถออกมาได้สักแล้ว พลอยนภัสยังคงนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดจาอะไรกับเขาอีกจนกลวัชรเห็นว่าเธอและเขาจำเป็นจะต้องคุยกัน"เป็นอะไรหรือเปล่า" กลวัชรถามขึ้นหลังจากหาที่เขาหาที่จอดข้างทางเพื่อจะได้คุยกันกับเธอ"ระหว่างเรามันคืออะไรคะพี่เก้า" พลอยนภัสถามออกไปตรงๆ ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาเพื่อรอฟังคำตอบ"แล้วที่ฉันอยู่กับเธอทุกวันแบบนี้เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าระหว่างเรามันคืออะไร" กลวัชรถามย้อนออกไปแต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กก็ยังไม่ได้พอใจในคำตอบ"พลอยต้องการคำตอบค่ะ ต้องการความชัดเจน ถ้าหากว่าพี่เก้าไม่ได้คิดว่าระหว่างเรามันมีอะไรมากกว่าแค่เซ็กซ์ พี่เก้าก็ช่วยหยุดมายุ่งเกี่ยวกับพลอยเถอะค่ะ พลอยไม่อยากโดนใครมาด่าว่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายของคนอื่นอีก" พลอยนภัสพูดออกไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนกลวัชรเองก็รู้สึกหวั่นๆใจกับท่าทีของคนตรงหน้า"ถ้าเป็นเรื่องของลลิตาฉันขอโทษนะ ทีหลังฉันจะไม่ให้ใครมาว่าเธอได้แบบนี้อีก" "ทีหลัง? นี่หมายความว่ายังจะมีใครที่นอกเหนือจากคุณลลิตาอีกอย่างนั้นหรอคะ""ไม่มีๆ ไม่มีแล้วฉันสัญญา" พูดจบพลอยนภัสก็ถู
ยิ่งเห็นพลอยนภัสและไรอันเดินเข้ามาใกล้ๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าเวทีกลวัชรก็ยิ่งหมั่นไส้ เพราะตอนที่ซ้อมกันไรอันไม่จำเป็นต้องเอามือไปโอบที่รอบเอวของพลอยนภัสเลย มีเพียงแค่ให้พลอยนภัสคล้องแขนไรอันไว้หลวมๆเท่านั้น แต่ตอนนี้หมอนั่นกำลังเล่นนอกบท แถมยังคงจะกวนโอ๊ยเขาด้วยการหันมายิ้มแล้วยักคิ้วให้จนกลวัชรเส้นประสาทดีดดังเปรี๊ยะๆ'รอให้จบงานก่อนเถอะน่าไอ้ฝรั่ง พ่อจะเบิ้ดกะโหลกให้ลั่นเลย' กลวัชรแอบคาดโทษไรอันไว้ในใจหลังจากจบงานกลวัชรบอกให้มารดาและพี่สาวของตนเองนั้นกลับก่อนได้เลย โดยเขาได้โทรไปตามคนขับรถของที่บ้านให้มารอรับ ส่วนพลอยนภัสนั้นตนจะเป็นคนรอรับเอง ขอให้มารดาและพี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งทั้งคุณสุนันทาและชานิดาเองก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของกลวัชรเช่นกัน"พักหลังๆมานี้ตาเก้าของคุณแม่เลิกเกลียดยัยพลอยแล้วหรอคะ" ชานิดาเอ่ยถามมารดาในขณะที่เดินออกไปขึ้นรถ"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก แต่ก็ดีแล้วล่ะถ้าเก้าจะเลิกทำตัวไม่ดีใส่น้องแล้วหันมารักมาดูแลน้องน่ะ""หันมารักมาดูแล คุณแม่ว่าตาเก้าจะหันมารักมาดูแลยัยพลอยแบบไหนหรอคะ" "ก็แบบพี่น้องกันยังไงล่ะลูก มีกันอยู่เท่านี้""แล้วถ้าเกิดว่าตาเก้ากับยัยพลอยไม่ไ