"เอ่อ วรรณก็ไม่รู้ว่าควรถามดีมั้ยนะคะ แต่เพื่อหลานชาย... คือว่าอย่างนี้ค่ะ วรรณอยากจะถามว่าหนูพลอยน่ะมีแฟนหรือยังคะ" กลวัชรที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่คู่หนุ่มสาวที่กำลังช่วยกันเลือกอาหารอยู่ตรงซุ้มฝั่งตรงข้ามก็ถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน
"คุณจารุวรรณถามทำไมหรือคะ"
"แหมก็คุณพี่สุดูสิคะ ปกติไม่เห็นตาไรอันจะสนใจเข้าหาผู้หญิงคนไหนเลยค่ะ มีแต่โดนเข้าหา แต่นี่พอเห็นหนูพลอยล่ะก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ แถมเมื่อกี้ก็รีบขอให้หนูพลอยเป็นคนเทคแคร์ตัวเองคืนนี้อีก ที่วรรณถามเพราะจะได้บอกตาไรอันถูกน่ะค่ะว่าควรหยุดหรือควรลุยไปเลย เพราะหนูพลอยเองก็น่ารักจริงๆ วรรณชอบ ถ้ายังไม่มีเจ้าของ ก็จะได้จองไปเป็นหลานสะใภ้"
และแล้วกลวัชรเองก็ถึงบางอ้อ สรุปว่าผู้ชายตัวสูงรูปร่างดีที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยนภัสนั้นจริงๆ คือตัวแทนบริษัทอังกฤษที่เข้ามาประชุมกับเขาตอนนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของหุ้นส่วนบริษัทที่เขากำลังจะทำธุรกิจร่วมอีกด้วย
"จริงๆ ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่าแกจะมีแฟนเลยนะคะคุณจารุวรรณ เห็นมีก็แต่เพื่อนๆ กัน เคยถามเจ้าตัวเองก็บอกว่ายังไม่เจอใครที่ชอบ สงสัยคราวนี้คงจะเจอแล้วล่ะมั้งคะ"
"นี่จริงเหรอคะเนี่ย โอ้ยดีใจแทนตาไรอันจริงๆ เลยสงสัยรอบนี้จะสมหวังเเน่เลยค่ะหลานวรรณ ดูสิคะพากันเดินมาโน่นละ ไรอันยังยิ้มไม่หยุดเลย"
ขณะที่ทุกคนต่างก็พากันชื่นชมไปยังคู่หนุ่มสาวที่กำลังเดินมาทางนี้ว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แต่กลวัชรเองกลับเอาแต่จ้องพลอยนภัสที่กำลังเดินใกล้เข้ามาราวกับว่ามีเรื่องอะไรทำให้เขาไม่พอใจ
พลอยนภัสมองกลับมายังโต๊ะเดิมที่ตัวเองเดินจากไป ตอนนี้กลับมีบุคคลที่ตัวเองรู้จักดีเพิ่มขึ้นมาอีกสามคน แถมหนึ่งในสามคนนั้นกลับมองเธอด้วยสายตาราวกับว่าถ้าเฉือนเธอให้ขาดเป็นท่อนได้คงทำไปแล้ว
"สวัสดีครับคุณกลวัชร"ไรอันเอ่ยทักขึ้นก่อน โดยที่สายตากลวัชรยังจับจ้องไปยังพลอยนภัสไม่วางตา
"สวัสดีครับ มิสเตอร์ไรอัน ไม่คิดว่าคุณจะพูดไทยได้"
"นั่นน่ะสิคะ หน้าคุณไรอันฝรั่งออกค่ะ ลลิตาค่ะ คุณอาของลิตาเป็นเจ้าของรีสอร์ทนี้เองค่ะ" ลลิตาพูดแนะนำตัวเองพร้อมกับยื่นมือไปทักทายชายหนุ่มต่างชาติที่ยืนอยู่ตรงหน้าแบบวัฒนธรรมตะวันตก
"ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณลลิตา" ไรอันยื่นเองก็ยื่นมือไปทักทายกลับแบบฉบับชาวตะวันตกเช่นกัน
"อ้าวมาๆ นั่งกันสิลูก ไรอันได้อะไรมากินล่ะนั่น" คุณจารุวรรณถามขึ้น
"กุ้งอะไรนะครับคุณพลอย กุ้ง..ทอดหรือว่าผัดกับวุ้นเส้นหรือเปล่าครับ" พอพูดครบเสียงหัวเราะก็ดังครืนขึ้นพร้อมกันพร้อมกับทุกคนที่หันไปมองในจานของไรอันกันเป็นตาเดียว
"กุ้งอบวุ้นเส้นค่ะคุณไรอัน"
พลอยนภัสอดที่จะมองแล้วยิ้มตามไม่ได้ สายตาของพลอยนภัสที่มองไปยังไรอันนั้นช่างอ่อนโยน หากมองโดยไม่มีอคติก็จะเห็นได้ง่ายเลยว่าหญิงสาวมองเขาด้วยสายตาดั่งเช่นมิตรสหายทั่วไป ยิ่งเธอนั้นเป็นคนอัธยาศัยดีและจริงใจ มันจึงทำให้ไรอันอดประทับใจในตัวหญิงสาวตั้งแต่ที่เจอกันวันแรกไม่ได้
ต่างจากกลวัชรที่นั่งมองพลอยนภัสส่งยิ้มอ่อนโยนนั้นกลายเป็นรอยยิ้มที่ช่างอ่อนหวาน เห็นแล้วทำให้แอบหมั่นไส้ในตัวหญิงสาวขึ้นมาลึกๆ ก็ไหนเธอบอกว่าชอบเขานักหนา ทำไมตอนนี้แม้แต่หน้าเขาพลอยนภัสก็แทบจะไม่มอง จากที่เคยมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองที่มีอยู่ กลวัชรก็อดที่จะแอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับไรอันไม่ได้ เห็นแล้วยิ่งสร้างความหงุดหงิดงุ่นง่านให้กับคนที่นั่งมองเพิ่มขึ้นไปอีก
"ใช่ครับคุณยาย อย่างที่คุณพลอยบอกครับ"
"งั้นทีหลังสงสัยไรอันต้องทำตัวติดหนูพลอยเข้าไว้แล้วน่ะลูก มีอะไรจะได้ถามหนูพลอย ให้หนูพลอยช่วยได้ น้าฝากหลานชายน้าด้วยนะลูก"
"ได้ค่ะคุณจารุวรรณ"
ระหว่างที่ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างออกรส กลวัชรกลับเลือกที่จะนั่งจิบไวน์เงียบๆ แถมยังคอยเหลือบมองไปยังพลอยนภัสอยู่บ่อยครั้ง จนหญิงสาวเองรู้สึกอึดอัด เพราะไม่รู้ว่าเจตนาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอคืออะไร รู้เพียงแต่ว่าไม่น่าจะใช่เจตนาดี และพลอยนภัสเองก็ไม่ได้อยากตกเป็นเป้านิ่งให้เขานั่งมองอยู่แบบนี้
"เก้าคะ ดนตรีเริ่มแล้ว เก้าไปเต้นรำกับลิตานะคะ ลิตาอยากเต้นรำกับเก้าเหมือนตอนที่เราอยู่ที่อเมริกาค่ะ"
"ไปสิเก้าลูก พาหนูลิตาไป"
"อีกเดี๋ยวนะครับลิตา ไวน์กำลังรสชาติดีเลย"
นาทีนี้เขาไม่ได้มีอารมณ์ที่จะอยากไปเต้นรำแต่อย่างใด หากแต่มีอาการหมั่นไส้บุคคลทั้งสองที่ตอนนี้คุยกันอย่างออกรสอยู่ฝั่งตรงข้ามเพิ่มขึ้นไปอีก สองคนนั้นทำราวกับว่ามีแค่กันและกันอยู่เพียงสองคนจนเหมือนว่ามองไม่เห็นคนอื่นนั่งรวมอยู่ด้วย ยิ่งเห็นพลอยนภัสอารมณ์ดียิ่งพาลทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
"งั้นไรอันพาหนูพลอยไปสิลูก" คุณจารุวรรณเอ่ยเชียร์เพื่อให้หลานชายได้ทำคะแนนเต็มที่
"คุณพลอยให้โอกาสเต้นรำกับผมได้มั้ยครับ"
"เอ่อ คือ พลอย...เต้นรำไม่เป็นน่ะค่ะ"
"นี่ไงหนูพลอย ตาไรอันเต้นรำเก่งมากนะลูก ให้ไรอันสอนได้" คุณจารุวรรณรีบเสริมทัพอีกแรง
"ใช่ครับเดี๋ยวผมสอน ขอเพียงคุณพลอยให้โอกาสผมนะครับ" พูดจบไรอันก็ยื่นมืออกมาคอยท่า
"ไปเลยค่ะคุณพลอย คุณไรอันอุตส่าห์ชวน ไม่ไประวังสาวๆ คนอื่นจะไปแทนนะคะ" ลลิตาพูดเสริมอีกครา ทำให้พลอยนภัสอดไม่ได้ที่จะมองไปยังสายตาคมที่ยังมองมายังเธออยู่แล้ว ก่อนที่เธอจะได้เห็นคำบางคำที่หลุดออกมาจากริมฝีปากของกลวัชรโดยที่ไม่มีเสียงเล็ดลอดตามออกมา แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่าชายหนุ่มพูดว่าอะไร
"อ่อย..."
ใช่ กลวัชรว่าๆ เธออ่อย อีกครั้งซึ่งไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เธอถูกชายหนุ่มเหน็บเเนมอยู่เรื่อย จนเธอไม่อยากที่จะทนมองหน้าเขาได้ต่อ
"ไปสิพลอยลูก ไปสนุกๆ นี่งานคุณลุงเอง ไม่มีใครว่าอะไรพลอยหรอก"ด้วยความที่เธอต้องการที่จะหลุดออกไปจากตรงนี้ ไม่อยากที่จะตกเป็นเป้าสายตาของใครอีก จึงทำให้พลอยนภัสต้องตอบตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ก็ได้ค่ะ คุณป้า"
ไรอันภายมือออกมารอรับ พลอยนภัสจึงได้วางมือเล็กลงไปบนฝ่ามือใหญ่ การกระทำทุกอย่างถูกมองไปด้วยสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะ หากแต่ว่าต่างกันที่ความรู้สึกวินาทีที่พลอยนภัสวางมือเรียวเล็กของเธอลงไป กลวัชรรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามันชาๆ แบบบอกไม่ถูก ราวกับว่าใครเอาอะไรมาบีบหัวใจเขาเล่น รู้สึกหูอื้อคล้ายกับว่าความดันกำลังพุ่งขึ้นสูง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งตอนที่ไอ้เจ้าฝรั่งนั่นเดินจูงมือพลอยนภัสออกไปยังหน้าฟลอร์ ที่ขณะนี้มีเสียงเปียโนดังคลอขึ้น เขาก็อดที่จะมองตามไปจนสุดตาไม่ได้ ทำได้ก็เพียงกระดกไวน์อีกกว่าครึ่งแก้วที่เหลือหมดรวดเดียว"อะไรกันคะเก้า นี่ไวน์นะคะ ดื่มราวกับว่าน้ำเปล่า"ลลิตาอดแปลกใจในพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ได้"ผมอยากเต้นรำแล้ว เราออกไปเต้นรำกันเถอะลิตา"กลวัชรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่านั่งอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เขาน่าจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง"คุณพลอยจับมือผมไว้นะครับ แล้วก้าวตามผมช้าๆ ไม่ต้องกลัวเหยียบผมหรอกครับ""พลอยจะพยายามเป็นนักเรียนที่ดีนะคะ"แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมา ซึ่งในสายตาไรอัน พลอยนภัสเป็นผู้หญ
"เป็นไงคะเก้าลิตาเก่งมั้ย คุณไรอันนี่สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ลิตาต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนะคะที่มาฉกคุณไรอันไป" สิ้นเสียงเพลงจบลง ลิตาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของกลวัชรที่มีต่อพลอยนภัส จึงได้รีบเดินแยกออกจากไรอันมาทันที เธอรู้สึกไม่ไว้ใจ สายตาที่กลวัชรมองพลอยนภัสมันแปลกๆ เขาเองยังไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย ดังนั้นเธอจึงต้องกันไว้ก่อนอันที่จริงจะว่าไปแล้วมิสเตอร์ไรอันคนนี้ก็น่าสนใจดี ทั้งความหล่อก็พอๆ กันกับกลวัชร แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง เธอก็อยากที่จะทำความรู้จักกับเขาอีกสักหน่อย จะได้เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกได้หากวันใดต้องพลาดจากกลวัชรอีกแต่ถ้าจะให้เลือกเลยตอนนี้ลลิตาอยากครอบครองกลวัชรมากกว่า เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูด ดูเร่าร้อน เธออยากรู้นักว่าเรื่องบนเตียงเขาจะเผ็ดร้อนขนาดไหน เพราะที่ผ่านๆ มาเขาเอาแต่ปฏิเสธเธอมาตลอดทั้งๆ ที่เธอเองก็สวยขนาดนี้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไรอันไม่ใช่ของพลอยซะหน่อย อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลิตา""แหมถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะคะคุณไรอัน" ลลิตาที่หันไปมองสบตากับไรอัน จนชายหนุ่มเองต้องส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางพลอยนภัสเพื่อสื่อความหมายให้รู้"ผมก็หวังว่าอย่า
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาดไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก"ก็คุณพลอยสวย""แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ""ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
กลวัชรที่กำลังเหมือนคนขาดสติ นาทีนี้เขาไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ริมฝีปากแสนหวานนี้กำลังทำให้เขายิ่งมึนเมากับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากควบคุมตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจูบเธอ อยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว จนใครหน้าไหนก็ไม่สามารถมาแตะต้องเธอได้อีกที่ผ่านมาเขาพยายามแล้ว พยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเป็นไม่มองไม่สนใจ แต่ร่างกายและหัวใจก็ไม่เคยปฏิบัติตาม ทุกครั้งที่เห็นหรือรับรู้ว่ามีพลอยนภัสอยู่ในระยะใกล้ๆ สายตามันก็มักจะคอยสอดส่องมองหาไปจนเจอเธออยู่จนได้บ่อยครั้งที่เขาชอบจินตนาการถึงภาพเธอแล้วช่วยเหลือตัวเอง แต่ความรู้สึกที่ได้มามันก็ไม่เคยเติมเต็ม มันเหมือนกับว่าเราอยากกินสเต๊กเนื้อ แต่กลับได้กินสเต๊กที่ทำมาจากเต้าหู้แทน เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ต่อให้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ข้างในมันก็ยังคงเรียกร้องอยากที่จะได้รับสัมผัสจากตัวเธอจริงๆเขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาถูกยึดติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้กำลังยึดติดอยู่กับเธอ แต่เวลานี้พลอยนภัสกำลังทำให้เขาปั่นป่วน ใจเขา
15 ปีมาแล้วที่พลอยนภัสได้มาอาศัยอยู่ใต้ชายคาของบ้าน "อัครไพศาล" หลังจากที่ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูเธอมาจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้เธอต้องขาดทั้งที่พึ่งพิงและผู้ดูแล แต่แล้วฟ้าก็ยังมีเมตตาและไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ ในวันที่เธอต้องสูญเสียทั้งคุณลุงและคุณป้าไป ครอบครัว "อัครไพศาล" ได้หยิบยื่นช่วยเหลือและความเมตตาปราณีให้คุณโชติ อัครไพศาล เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทของคุณลุงของเธอ ผู้ที่คุณลุงเธอมีส่วนช่วยในการก่อตั้งขยายบริษัทในเครือทั้งการท่องเที่ยวและโรงแรมมาด้วยกันเกือบ 40ปี พร้อมด้วยคุณสุนันทา ภรรยาของเขาหลังจากลูกสาวคนโตเรียนจบและสามารถดูแลกิจการทั้งหมดแทนได้ คุณโชติก็ได้วางมือทุกอย่างลงโดยปล่อยให้ "ชานิดา" ลูกสาวคนโตได้เข้ามานั่งบริหารดูแลงานทั้งหมดแทน ทุกวันนี้พลอยนภัสเป็นเสมือนส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือในการบริหารดูแลบริษัทนี้ด้วย เพื่อที่เธอจะได้ตอบแทนผู้มีพระคุณทั้งสองที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธอมาในวันที่เธอขาดที่พักพิงและยังใจดีมีเมตตากับเธอเสมือนเป็นลูกสาวแท้ๆ อีกคนหนึ่งหลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารโรงแรมพลอยนภัสก็ได้เข้ามาช่วยงานชานิดาอย่างเต็
เบนซ์สปอร์ตสีดำรุ่นล่าสุด ได้เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสถ์ ในช่วงบ่ายนิดๆ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ บนท้องถนนการจราจร จึงไม่ค่อยติดขัดนัก ระหว่างทางไม่มีแม้แต่การสนทนาใดๆเกิดขึ้น พอรถออกตัวเขาก็ปิดเปลือกตาลงทันที จนกระทั่งถึงบ้านก็ตื่นขึ้นมาเองโดยที่ไม่ต้องให้เธอปลุก ทำให้พลอยนภัสอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเขาแกล้งทำเป็นหลับเพราะไม่อยากที่จะสนทนากับเธอระหว่างที่อยู่ในรถด้วยกันสองคนสินะ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจ กลวัชรไม่ชอบเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าวันไหนเขาคุยด้วยกับเธอต่างหากถึงจะแปลกพอก้าวลงจากรถได้ กลวัชรก็รีบเดินตรงเข้าไปในบ้านทันที คุณสุนันทาที่กำลังยืนดูสวนกุหลาบที่ปลูกไว้อยู่ด้านหลังของคฤหาสถ์จึงยังไม่ทันได้สังเกตุว่ามีบุคคนอื่นกำลังเดินเข้ามา ก่อนที่แก้มนุ่มๆของหญิงสูงวัยจะถูกจู่โจมหอมเข้าอย่างจัง"คิดถึงคุณแม่จังเลยครับ" ชายหนุ่มบอกด้วยใบหน้ายิ้มแป้นพร้อมเอามือไปที่โอบรอบเอวของผู้เป็นมารดา"ตาเก้า มาถึงแล้วเหรอลูก" คุณสุนันทาเมื่อเห็นเข้าว่าเป็นใครก็ดีใจและโผเข้าไปกอดและหอมแก้มลูกชายอีกฟอดใหญ่"ไปๆ เข้าไปในบ้านกันลูกข้างนอกมันร้อน"คุณสุนันทาพูดขึ้นพร้อมกับดึงมือลูกชายให้เดินตามเข้าบ้านไป"ตั
กลวัชรเดินออกมาจากห้องหนังสือเล็กๆนั้นหลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไปแล้ว เขาเดินออกมาหยุดยืนอยู่กลางห้องรับแขก ซึ่งที่ในขณะนี้มีร่างของใครบางคนเมาและนอนหลับอยู่สายตาเขานั้นจับจ้องไปที่ใบหวาน ที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิท โดยที่เธอไม่ได้มีความรู้สึกรับรู้เลยว่ากำลังมีคนยืนจ้องมองเธออยู่อย่างเงียบๆ แสงไฟสลัวจากโคมไฟเล็กบนชั้นวางช่วยขับให้ใบหน้าหวานนั้นยิ่งสวยนวลเด่น สเตฟานไม่ได้พาเธอเข้าไปนอนในห้องนอน แต่เลือกที่จะปล่อยให้พลอยนภัสนอนหลับอยู่ที่โซฟาเบดบริเวณห้องนั่งเล่นแทน เพราะมันเคยมีครั้งหนึ่งตอนที่ฉลองเรียนจบใหม่แล้วพลอยนภัสเมา สเตฟานและข้าวฟ่างพาเธอมาส่งที่บ้านและพาเข้าไปนอนในห้องนอน ปรากฏว่าเธออ้วกออกมาจนเลอะที่นอนไปหมด นับแต่นั้นพลอยนภัสจึงขอร้องว่าถ้าวันไหนเธอเมาแล้วมีคนพามาส่งที่บ้าน ก็ให้ทิ้งเธอนอนไว้ที่โซฟาเบดในห้องนั่งเล่นพอกลวัชรเดินออกมาหยุดมองคนตัวเล็กซึ่งยังคงนอนไร้สติอยู่ เขาตัดสินใจนั่งลงไปข้างๆ จ้องมองพินิจพิจารณาใบหน้าแสนหวานนั้นอีกครั้ง เพราะตั้งแต่เมื่อเช้าที่เขาเห็นเธอที่สนามบิน วินาทีแรกเขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ยอมรับกับตัวเองว่าพลอยนภัสในวันนี้จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมา
กลวัชรที่กำลังเหมือนคนขาดสติ นาทีนี้เขาไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ริมฝีปากแสนหวานนี้กำลังทำให้เขายิ่งมึนเมากับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากควบคุมตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจูบเธอ อยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว จนใครหน้าไหนก็ไม่สามารถมาแตะต้องเธอได้อีกที่ผ่านมาเขาพยายามแล้ว พยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเป็นไม่มองไม่สนใจ แต่ร่างกายและหัวใจก็ไม่เคยปฏิบัติตาม ทุกครั้งที่เห็นหรือรับรู้ว่ามีพลอยนภัสอยู่ในระยะใกล้ๆ สายตามันก็มักจะคอยสอดส่องมองหาไปจนเจอเธออยู่จนได้บ่อยครั้งที่เขาชอบจินตนาการถึงภาพเธอแล้วช่วยเหลือตัวเอง แต่ความรู้สึกที่ได้มามันก็ไม่เคยเติมเต็ม มันเหมือนกับว่าเราอยากกินสเต๊กเนื้อ แต่กลับได้กินสเต๊กที่ทำมาจากเต้าหู้แทน เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ต่อให้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ข้างในมันก็ยังคงเรียกร้องอยากที่จะได้รับสัมผัสจากตัวเธอจริงๆเขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาถูกยึดติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้กำลังยึดติดอยู่กับเธอ แต่เวลานี้พลอยนภัสกำลังทำให้เขาปั่นป่วน ใจเขา
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาดไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก"ก็คุณพลอยสวย""แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ""ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็
"เป็นไงคะเก้าลิตาเก่งมั้ย คุณไรอันนี่สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ลิตาต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนะคะที่มาฉกคุณไรอันไป" สิ้นเสียงเพลงจบลง ลิตาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของกลวัชรที่มีต่อพลอยนภัส จึงได้รีบเดินแยกออกจากไรอันมาทันที เธอรู้สึกไม่ไว้ใจ สายตาที่กลวัชรมองพลอยนภัสมันแปลกๆ เขาเองยังไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย ดังนั้นเธอจึงต้องกันไว้ก่อนอันที่จริงจะว่าไปแล้วมิสเตอร์ไรอันคนนี้ก็น่าสนใจดี ทั้งความหล่อก็พอๆ กันกับกลวัชร แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง เธอก็อยากที่จะทำความรู้จักกับเขาอีกสักหน่อย จะได้เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกได้หากวันใดต้องพลาดจากกลวัชรอีกแต่ถ้าจะให้เลือกเลยตอนนี้ลลิตาอยากครอบครองกลวัชรมากกว่า เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูด ดูเร่าร้อน เธออยากรู้นักว่าเรื่องบนเตียงเขาจะเผ็ดร้อนขนาดไหน เพราะที่ผ่านๆ มาเขาเอาแต่ปฏิเสธเธอมาตลอดทั้งๆ ที่เธอเองก็สวยขนาดนี้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไรอันไม่ใช่ของพลอยซะหน่อย อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลิตา""แหมถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะคะคุณไรอัน" ลลิตาที่หันไปมองสบตากับไรอัน จนชายหนุ่มเองต้องส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางพลอยนภัสเพื่อสื่อความหมายให้รู้"ผมก็หวังว่าอย่า
ไรอันภายมือออกมารอรับ พลอยนภัสจึงได้วางมือเล็กลงไปบนฝ่ามือใหญ่ การกระทำทุกอย่างถูกมองไปด้วยสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะ หากแต่ว่าต่างกันที่ความรู้สึกวินาทีที่พลอยนภัสวางมือเรียวเล็กของเธอลงไป กลวัชรรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามันชาๆ แบบบอกไม่ถูก ราวกับว่าใครเอาอะไรมาบีบหัวใจเขาเล่น รู้สึกหูอื้อคล้ายกับว่าความดันกำลังพุ่งขึ้นสูง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งตอนที่ไอ้เจ้าฝรั่งนั่นเดินจูงมือพลอยนภัสออกไปยังหน้าฟลอร์ ที่ขณะนี้มีเสียงเปียโนดังคลอขึ้น เขาก็อดที่จะมองตามไปจนสุดตาไม่ได้ ทำได้ก็เพียงกระดกไวน์อีกกว่าครึ่งแก้วที่เหลือหมดรวดเดียว"อะไรกันคะเก้า นี่ไวน์นะคะ ดื่มราวกับว่าน้ำเปล่า"ลลิตาอดแปลกใจในพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ได้"ผมอยากเต้นรำแล้ว เราออกไปเต้นรำกันเถอะลิตา"กลวัชรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่านั่งอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เขาน่าจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง"คุณพลอยจับมือผมไว้นะครับ แล้วก้าวตามผมช้าๆ ไม่ต้องกลัวเหยียบผมหรอกครับ""พลอยจะพยายามเป็นนักเรียนที่ดีนะคะ"แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมา ซึ่งในสายตาไรอัน พลอยนภัสเป็นผู้หญ
"เอ่อ วรรณก็ไม่รู้ว่าควรถามดีมั้ยนะคะ แต่เพื่อหลานชาย... คือว่าอย่างนี้ค่ะ วรรณอยากจะถามว่าหนูพลอยน่ะมีแฟนหรือยังคะ" กลวัชรที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่คู่หนุ่มสาวที่กำลังช่วยกันเลือกอาหารอยู่ตรงซุ้มฝั่งตรงข้ามก็ถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน"คุณจารุวรรณถามทำไมหรือคะ""แหมก็คุณพี่สุดูสิคะ ปกติไม่เห็นตาไรอันจะสนใจเข้าหาผู้หญิงคนไหนเลยค่ะ มีแต่โดนเข้าหา แต่นี่พอเห็นหนูพลอยล่ะก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ แถมเมื่อกี้ก็รีบขอให้หนูพลอยเป็นคนเทคแคร์ตัวเองคืนนี้อีก ที่วรรณถามเพราะจะได้บอกตาไรอันถูกน่ะค่ะว่าควรหยุดหรือควรลุยไปเลย เพราะหนูพลอยเองก็น่ารักจริงๆ วรรณชอบ ถ้ายังไม่มีเจ้าของ ก็จะได้จองไปเป็นหลานสะใภ้"และแล้วกลวัชรเองก็ถึงบางอ้อ สรุปว่าผู้ชายตัวสูงรูปร่างดีที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยนภัสนั้นจริงๆ คือตัวแทนบริษัทอังกฤษที่เข้ามาประชุมกับเขาตอนนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของหุ้นส่วนบริษัทที่เขากำลังจะทำธุรกิจร่วมอีกด้วย"จริงๆ ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่าแกจะมีแฟนเลยนะคะคุณจารุวรรณ เห็นมีก็แต่เพื่อนๆ กัน เคยถามเจ้าตัวเองก็บอกว่ายังไม่เจอใครที่ชอบ สงสัยคราวนี้คงจะเจอแล้วล่ะมั้งคะ""นี่จริงเหรอคะเนี่ย โอ้ยดีใจแ
ภายในงาน...หลังจากที่จัดการเหล่าบาร์บีคิวกับจุ๊บแจงเสร็จแล้ว พลอยนภัสจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาคุณโชติ พร้อมของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้ท่าน"สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณลุง""อ้าวพลอย หายไปไหนมาลูก ลุงกับป้าก็มองหาอยู่""นั่นสิ พี่ก็ว่าจะโทรตาม แต่เห็นตาเก้าบอกว่าเราแอบไปนั่งกินบาร์บีคิวกันอยู่สองคนกับจุ๊บแจงทางโน้น น่าตีนักไม่ชวนกันเลย""แหะๆ พอดีพลอยหิวน่ะค่ะพี่กริ้ง เลยชวนจุ๊บแจงไปแอบกินกัน นี่ของขวัญที่พลอยตั้งใจเก็บเงินซื้อให้คุณลุงค่ะ หวังว่าคุณลุงคงจะชอบ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกเราไปนานๆ นะคะ"พูดจบก็เข้าไปกอดประมุขของบ้าน ซึ่งเป็นทั้งผู้มีพระคุณและยังเปรียบเสมือนญาติแท้ๆ อีกคน ที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธออย่างดีมาตลอด"ขอบใจมากๆ นะลูก ทีหลังไม่ต้องลำบากเก็บเงินมาซื้ออะไรให้ลุงหรอก พลอยเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเถอะ""พลอยเต็มใจค่ะ พลอยอยากตอบแทนพระคุณที่คุณลุงกับคุณป้าเมตตาพลอย""ถ้าพลอยอยากตอบแทนลุงกับป้า ก็แค่ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่ๆ เขาดูแลกิจการของครอบครัวเราเท่านี้ลุงกับป้าก็พอใจแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทากล่าวเสริมท้าย ก่อนจะเข้ามากอดพลอยนภัสด้วยอีกคน"พลอยขอบคุณคุณลุ
คืนวันงานเลี้ยง.."โอ้โห วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่สวยหล่อเหมาะสมกันมากๆ เลยค่ะ" ชานิดาที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องเอ่ยชม"หมายความว่ายังไงกันลูก นี่สรุปว่าแม่สวยแค่วันนี้วันเดียวเองเท่านั้นเหรอ" คุณสุนันทาแกล้งเหย้าลูก"ใครบอกล่ะคะ คุณแม่ก็สวยทุกวันน่ะแหละค่ะ แต่ว่าวันนี้สวยเป็นพิเศษไง""แก้ตัวเก่งจริงๆ เลยลูกคนนี้""สงสัยจะเหมือนคุณพ่อน่ะค่ะ"อะไรกันเล่ายัยเด็กคนนี้นี่ อย่าโยงเข้ามาหาพ่อสิ พ่อไม่เกี่ยวนะ"สามคนพ่อแม่ลูกต่างพากันหัวเราะเสียงดังที่คุณโชติต้องรีบออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยต้องแก้ตัวอะไรกับคุณสุนันทาเลย เพราะมีแต่พูดบอกความจริงทุกอย่างตั้งแต่รู้จักแต่งงานกันมา มีแต่รักและก็ซื่อสัตย์จึงไม่มีเรื่องที่จะต้อง คอยโกหกปิดบังก๊อกๆ ..."เสร็จกันหรือยังครับ"กลวัชรวันนี้ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม มันทำให้เขายิ่งดูโดดเด่น บวกกับเขารักที่จะดูแลรูปร่างอยู่เสมอ จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หญิงแท้หญิงเทียมที่ได้เห็นเขาต่างก็ไม่อยากจะละสายตากันเลยทีเดียว แม้ว่าภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่เวลาเขายิ้มทีหนึ่งกับทำให้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นราวกับว่าคนละคน อย่างกับสีดำที่เปลี่ยนมาเป็นสีขาว ราวกับซาตานที่เปลี่ยนมาเทพบุ
หลังจากชิ่งหนีออกมาได้พลอยนภัสก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินบ่นออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ซึ่งเอาจริงๆเธอไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมกลวัชรถึงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันกับเธอ"อ้าวมาแล้วเหรอพลอย ลงมาสิ"พลอยนภัสวางชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวไว้ที่เก้าอี้ริมสระ ก่อนจะหย่อนตัวลงไปในสระขนาดใหญ่ที่กั้นด้วยกระจกส่วนวิวด้านหน้าเป็นทะเลสีฟ้าที่มองออกไปได้ไกลสุดสายตา"สดชื่นจังเลยค่ะพี่กริ้ง""ก็นั่นน่ะสิ พี่ถึงตามตาเก้ามาด้วย""อะไรนะคะ นี่พี่กริ้งโทรตามเขามาทำไมล่ะคะ เขาออกจะเกลียดพลอยขนาดนั้น เขาทนเห็นหน้าพลอยไม่ได้หรอกค่ะ""ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรนะ พี่ก็บอกตาเก้าอยู่นะว่าพี่อยู่กับพลอย แล้วตาเก้าก็มาเนี่ย"ในขณะที่สองสาวกำลังมโนกันไป อีกฝั่งหนึ่งของสระก็มีสาวสวยคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อกลวัชรออกมาเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง"เก้าคะ ทางนี้ค่ะ""มาแล้วเหรอครับลิตา"กลวัชรเดินตรงเข้าไปหาเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะจุ๊บแก้มทักทายกันแบบวัฒนธรรมตะวันตก"แหม คุณลุงมาจัดงานวันเกิดที่รีสอร์ทอาโรจน์แท้ๆ เก้ากลับไม่ชวนลิตาสักคำ ปล่อยให้ลิตามารู้จากอาโรจน์เอาเอง น่าน้อยใจนะคะ"ลลิตาพูดพลางทั้งเกาะแขนแถมเอาหน้าเข้าไปซบกับอกเปลือยเปล