แชร์

บทที่ 124

ผู้เขียน: เล่อเอิน
น้ำเสียงเรียบเฉย ทว่ากับแฝงไปด้วยความเย็นเยือกอันน่าขนลุก

ราวกับว่าขอแค่หลินกั๋วอันกล้าลงมือ เขาก็จะหักแขนของหลินกั๋วอัน

นี่เหมือนกับเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกได้ถึงการถูกปกป้องจากเขา

เพียงแต่ มันสายเกินไปหน่อยก็เท่านั้น ในใจไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว

หลินกั๋วอันขยับแขนของเขาและพบว่าชายอกสามศอกอย่างเขากลับพบว่าแขนของเขาในมือของฟู่ฉีชวนขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาอดตัวสั่นไม่ได้และรีบอธิบาย

"รองประธานฟู่ ไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ตั้งใจ!"

คุณป้าเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย "หนานจือ..."

ฉันอยากจะสั่งสอนหลินกั๋วอัน แต่คุณป้าป่วยอยู่ในภาพนี้ คงไม่เหมาะ

ฉันเลยคว้าแขนของฟู่ฉีชวน "พอเถอะ ปล่อยเขาไป"

ฟู่ฉีชวนตัวหัวเสีย เขามักจะไม่ฟังใครง่ายๆ เขาเหลือบมองหลินกั๋วอันอย่างสงสัย "ถ้าคุณแตะต้องเธอ ผมจะตัดมือคุณทิ้งซะ เข้าใจไหม?"

"เข้า เข้าใจแล้วครับ! ผมไม่กล้าแล้ว...คุณวางใจได้เลย!"

หลินกั๋วอันสีหน้าซีดเผือดและรีบรับปากเขา

จนกระทั่งฟู่ฉีชวนสะบัดแขนเขาออกไป ฉันก็หันมองหลินกั๋วอันอย่างเหนื่อยหน่าย

"ค่ารักษาของคุณป้า ฉันได้จ่ายในส่วนที่ควรจ่ายให้ไปแล้ว ส่วนเรื่องอื่น คุณลุงเลิกหวังเถอะ"

"แก..."

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 125

    "หร่วนหนานจือ"สายตาของเขาหันมามองฉันเป็นครั้งคราว แววตาปรากฎอารมณ์ที่ไม่อาจอธิบาย "ผมเสียใจที่ไปอำเภอกับคุณวันนั้น""หือ?""ผมไม่อยากหย่ากับคุณ"เส้นเสียงทุ้มต่ำของเขาเหมือนถูกหมอกปกคลุมไว้อยู่"..."ฉันเลียริมฝีปากและเหลือบมองลิฟต์ที่กำลังจะมาถึง "ฉันขอตัวก่อน"อะไรที่อยากบอกก็บอกไปหมดแล้ว ยื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อไปแบบนี้ก็ไม่มีความหมาย มีแต่จะสร้างปัญหา"ผมบอกแล้ว ผมจะไปส่ง...""อาชวน!"ประตูลิฟต์เปิดออก ภายในลิฟต์คือฟู่จินอัน เธอสีหน้าแปลกใจและพูดด้วยเสียงออดอ้อน "คุณบอกว่าตอนบ่ายไม่ว่างมาหาไม่ใช่หรอ? ที่แท้ก็อดเป็นห่วงฉันไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?"ฉันไม่ได้หันกลับไปมองและเดินผ่านเธอเข้าไปในลิฟต์ หลังจากกดปุ่มชั้น ฉันไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะหันไปมองสีหน้าของฟู่ฉีชวนจะสีหน้าจำใจ หงุดหงิดหรือหลงใหลสำหรับฉันมันไม่ได้สำคัญเลยตอนนี้สิ่งที่ฉันควรหัดเรียนรู้คือการปล่อยวาง ปล่อยวางคนที่ไล่ตามมาตลอดแปดปีก็ยังไล่ตามไม่ทัน……ขณะกลับบ้าน ลู่สือเยี่ยนก็โทรมาหาฉันยิ้มและรับสาย "รุ่นพี่ เป็นไงบ้าง?""งานออกแบบเข้าร่วมแข่งขันของคุณ คุณได้ให้คนอื่นดูรึเปล่า?" น้ำเสียงของเขาจริงจังในใจฉัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 126

    ฉันรับโทรศัพท์มา แค่มองผ่านก็สามารถยืนยันได้ว่านี่คือผลงานออกแบบของฉันอีกอย่างมันยังเป็นแค่แบบร่างตอนฉันออกแบบ ยังมีรายละเอียดบางส่วนยังไม่ได้เก็บความเรียบร้อยก็ถูกคนคัดลอกผลงานแล้วแต่เพราะว่าตรงจุดนี้เลยทำให้ฉันรู้ในทันทีว่างานออกแบบของฉันไปตกอยู่ในมือของฟู่จินอันได้ยังไง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในใจ"อย่าเพิ่งรีบร้อน"เสียงอ่อนโยนของลู่สือเยี่ยนเหมือนกับยาที่ทำให้ฉันสบายใจขึ้น "ขณะคุณกำลังคิดหาทางพิสูจน์ว่านี่คือผลงานของคุณเอง ผมจะปิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อน""ไม่ต้องปิดค่ะ"ฉันทัดผมไว้หลังใบหูและยิ้มกล่าว "ปล่อยไว้อย่างงั้นแหละ ยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดี"เมื่อก่อนไม่คาดคิดว่าฟู่จินอันมีของหลายอย่างที่ต้องการจะแยกจากฉันในเมื่อเธอเสนอหน้ามาเอง ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้เธอได้จดจำบทเรียนใบหน้าของลู่สือเยี่ยนสดใสพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย "เดิมทีผมกังวลเรื่องที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน จนคุณอาจรับไม่ไหว ดูเหมือนคุณจะคิดหาวิธีออกแล้ว?""ใช่ค่ะ"ฉันพยักหน้า "สมัยเรียนมหาลัย อาจารย์เฉินเคยบอกพวกเราไว้ในคาบเรียน ทำงานสายอาชีพนี้ ต้องปกป้องงานออกแบบของตัวเอง ต้องสามารถพิสูจน์ตนเองได

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 127

    เขายิ้มถาม "อยากให้พอหอมปากหอมคอ หรือว่ายิ่งใหญ่เอิกเกริกล่ะ?""ยิ่งใหญ่เอิกเกริกสิ"ฉันตอบอย่างไม่ลังเล"ยกให้ผมจัดการ"ลู่สือเยี่ยนพยักหน้าและพาฉันมาส่งที่รถ "ขับรถระวังด้วย มีอะไรก็โทรหาผม"เส้นเสียงนุ่มนวลชัดใส ราวกับมีเวทมนต์ปาฏิหาริย์ทำให้รู้สึกสงบฉันขับออกจากลานจอดรถ ขณะหยุดรถเพื่อจ่ายค่าจอดรถ ฉันก็มองกระจกมองหลังเห็นเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม รูปร่างสูงสง่า สายตามองไปยังทางที่ฉันกำลังขับไปถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขามีผู้หญิงที่รักมาหลายปีแล้ว ฉันคงอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาแอบชอบฉันรึเปล่าฉันค่อยๆ ขับไปยังบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ป ระหว่างทางก็โทรหาหลินเนี่ยน"อีกสิบนาที ฉันจะรออยู่ที่ลานจอดรถด้านล่าง""...พี่คะ"หลินเนี่ยนดูแปลกใจเล็กน้อย "ฉัน ฉันตอนนี้กำลังยุ่งมาก"น้ำเสียงฉันเลยเย็นชาขึ้นเล็กน้อย "งั้นให้ฉันขึ้นไปหาไหม?""เออ..งั้นฉันลงไปหาดีกว่าค่ะ"เดิมทีในใจของฉันยังก็แอบหวังอยู่ว่าบางทีอาจไม่ใช่เธอ อาจเพราะมีบางจุดที่ฉันประมาทเลินเล่อแต่เธอดูมีพิรุธชัดเจนเกินไปพอฉันไปถึง เธอก็รอฉันอยู่ตรงที่จอดรถที่ฉันมักจอด หน้าซีดเล็กน้อยหลังจากฉันลงจากรถก็ถามเข้าประเด็นทันที "ทำไมถึงทำ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 128

    เหตุการณ์ดำเนินมาเหมือนกับที่ฉันคาดไว้ทันทีที่ฉันออกจากบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ป เรื่องนี้ก็จะแพร่สะพัดในวงการฉันถามลู่สือเยี่ยนแล้ว เขาไม่ได้ทำอะไร แต่เป็นฟู่จินอันที่ให้คนปั่นข่าวนี้รองผอ.บริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ปคัดลอกงานออกแบบอีกทั้งคนส่วนใหญ่ก็ถูกชักนำตามกระแสอย่างง่ายดาย ถึงอย่างไร คนที่ส่งผลงานออกแบบก่อนก็เป็นเธอจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ทุกคนเกลียดจนเข้ากระดูกดำ ด่าฉันเสียหายจนฟังไม่ได้"ไอพวกขี้ลอก ไม่สมควรได้ดิบได้ดี ไสหัวออกไปจากวงการออกแบบซะ!""เอาความดีของคนอื่นไปเป็นผลงานของตัวเอง ไปตายห่าให้หมดทั้งบ้านไป๊""หน้าไม่อายจริงๆ อยู่บริษัทเดียวกันแท้ๆ ยัยหร่วนอะไรนั่นกล้าลอกผลงานได้ไง?""..."ขณะฉันกำลังจะปิดมือถือ แอคเคาท์ทางการของ MS ก็โพสต์ประกาศ ประมานว่าให้ฉันกับฟู่จินอันไปตึกสำนักงาน MS พรุ่งนี้ เพื่อหาข้อสรุปของเรื่องคัดลอกผลงานและก็ยินดีให้เพื่อนร่วมสาขาอาชีพเข้ามาเผือกได้……วันต่อมา ฉันอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า แต่งหน้าอย่างบรรจง สวมส้นสูงเดินออกจากบ้านพอมาถึง หน้าประตูใหญ่ของตึกสำนักงาน MS ก็มีกลุ่มคนมารอเผือกอยู่แล้ว รวมไปถึงลู่สือเยี่ยนที่กำลังรอฉันอยู่ฉันสะพายกระเป๋าเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 129

    ฉันอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างตกใจ จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป ฉันพูดอย่างไม่ได้หยิ่งยโสแต่ก็ไม่ได้ถ่อมตน "นักออกแบบทุกท่าน อรุณสวัสดิ์ ดิฉันหร่วนหนานจือ ที่มาในวันนี้ก็เพื่อต้องการอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนกระจ่างและเข้าใจตรงกัน"ฟู่จินอันก็พูดแทรกขึ้นมาทันที "คุณต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองไม่ใช่หรอ เริ่มเลยสิ?"เธอมั่นใจมากถ้าฉันไม่ได้มีนิสัยชอบเตรียมแผนสำรองไว้ ฉันคงอาจต้องเล่นไปตามเกมของเธอและหมดสิทธิจะแก้ตัว"งั้นขอเชิญทุกคนฟังคลิปเสียง"ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดคลิปเสียงสนทนากับหลินเนี่ยนทันใดนั้นทุกคนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ฟู่จินอันเหมือนจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว เธอพูดอย่างใจเย็น "คลิปเสียงนี้พิสูจน์อะไรได้? หลินเนี่ยนคงเป็นผู้ช่วยของเธอใช่ไหม? ใครจะไปรู้ว่าพวกเธออาจจะแต่งเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมดก็ได้?""คุณพูดมีเหตุผล"ฉันพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันเลยหยิบงานออกแบบต้นฉบับมาจากกระเป๋าของตัวเอง "ทุกท่านลองดู นี่คืองานออกแบบต้นฉบับของฉัน สามารถมองเห็นได้ชัดตรงจุดที่มีการแก้ไข งานออกแบบที่ฟู่จินอันส่งไป เป็นต้นฉบับรองสุดท้ายของฉัน ไม่ใช่ฉบับเสร็จสมบูรณ์"อันที่จริงฟู่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 130

    "ฉันไม่ได้เล่นละครเก่งเหมือนเธอ"ฉันพอพูดทิ้งเสร็จก็ไม่อยากจะข้องแวะกับเธอีก เลยหันหลังเดินกลับ"เธอห้ามไป! วันนี้เธอจะต้องอธิบายให้ฉันฟัง!"เธอจู่ๆ ก็พุ่งเข้ามา ขอเท้าพลิก เธอจงใจพุ่งกระโจนเข้ามาหาฉันส่วนข้างฉันๆ ก็คือบ่อน้ำพุขนาดใหญ่!ฉันถูกเธอกระแทกใส่จนพลิกล้มตกลงไปในบ่อน้ำพุ ส่วนฉันก็คว้าแขนเธอเอาไว้พาเธอลงไปด้วยกัน!เธอชอบลากคนไปตายด้วยไม่ใช่หรือไงงั้นก็ไปด้วยกันน้ำเย็นจนถึงกระดูก พริบตาก็ทำให้เปียกซกไปทั้งตัว น้ำเข้าจมูกเข้าปากอย่างไม่ทันตั้งตัว!ยังดีน้ำในบ่อไม่ลึก ฉันควานมือไปทั่ว ขณะกำลังหาควานหาที่จับ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็เข้ามาคว้าฉันไว้แน่น"หนานจือ!"วินาทีต่อมา ฉันก็ถูกคนลากขึ้นมาห่อไว้ในเสื้อคลุมและตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นฉันสำลักจนไอไม่หยุด ยังไม่ทันหยุดไอก็ได้ยินลู่สือเยี่ยนตะคอกไปยังบ่อน้ำพุตรงที่มีเสียงตะเกียกตะกาย "ห้ามช่วยเธอ ให้เธอปีนขึ้นมาเอง!"เสียงดุดันเกรงขาม ราวกับพญามัจจุราชคืบคลานขึ้นมาจากนรกทันใดนั้นพวกรปภ.ก็ไม่กล้าเดินเข้าไปฉันมองไม่เห็นสีหน้าของลู่สือเยี่ยนเพราะย้อนแสง ตอนลมหนาวพัดผ่าน ฉันหนาวจนสั่นไปทั้งตัว คนที่อุ้มกอดฉันอยู่จู่ๆ ก็ว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 131

    พอเห็นท่าทีของเขา ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูกความรู้สึกดีใจนี้ กระตุ้นให้ฉันพูดออกมามากขึ้นฉันมึนหัวตาลาย เหมือนจะตัวร้อน ทว่าสติกลับตื่นตัวสุดขีด ไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่ได้ระบาย รอไม่ไหวแล้วที่จะได้ระบายฉันสบมองดวงตาสีดำของเขา ฉันฝืนยิ้มออกมาและพูดอย่างโหดร้าย "ใช่ ตอนตรวจเจออายุครรภ์ได้ 5 สัปดาห์พอดี เด็กตัวเล็กมาก ยังไม่มีหัวใจด้วยซ้ำก็ดันมาแท้งเสียก่อน ช่วงนั้นฉันมักจะปวดท้องก็เพราะตั้งท้อง"ฟู่ฉีชวนมองฉันอย่างลำบากใจและเอ่ยปากพูด "ทำไม...ไม่บอกผม?""ฉันได้ผลตรวจตอนครบรอบแต่งงานสามปีพอดี ฉันดีใจมากๆ อดทนรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวนี้กับคุณ กลับบ้านมาก็ตั้งใจเตรียมดินเนอร์ใต้แสงเทียนสำหรับวันครบรอบแต่งงานสามปี ฉันอุตส่าห์เอาผลตรวจไปซ่อนไว้ในเค้กกับมือ หวังจะเซอร์ไพรส์คุณ...""ผมไม่เห็นเค้กเลย...""วันนั้นคุณไม่ได้สนใจฉันเลย!"ฉันหัวเราะ "คุณอยู่กับฟู่จินอัน คุณเอาสร้อยคอที่ฉันชอบและอยากได้มานานสวมให้บนคอของเธอเอง คุณลืมวันครบรอบแต่งงานของเรา คุณมัวแต่ฉลองการหย่าของเธอ!""ผ่านมาอีกสองสามวัน ฉันขอให้คุณไปตรวจสุขภาพกับฉันที่โรงพยาบาล ซึ่งอันที่จริงก็เพื่ออยากให้คุณรับ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 132

    รู้สึกเหมือนว่ายังระบายออกมาไม่พอ ฉันยิ้มหัวเราะและกล่าว "ฟู่ฉีชวน ตอนฉันแท้ง คุณกลับไปอยู่กับคนอื่น ตอนฉันออกมาจากห้องผ่าตัด คุณตบหน้าฉันอย่างแรง ถามฉันว่าทำไมไม่เข้าไปขวางหล่อน ก็เพราะว่าฉันท้องเหมือนกันไง...ฉันกลัวบาดเจ็บ...ฉันเลยไม่กล้า! คำตอบนี้ ตอนนี้คุณพอใจรึยัง?""หนานจือ..."นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสีหน้าใจหายของเขา เขาเอื้อมมือออกมาต้องการจะคว้ามือของฉันใครจะไปรู้ มือคู่หนึ่งได้เข้ามาขวางเขาไว้อย่างฉับพลัน!ลู่สือเยี่ยนจู่ๆ ก็กลับมา เขาดูอ่อนโยนแต่แฝงความคมคาย "คุณมาคิดบัญชีแทนฟู่จินอันใช่ไหม? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมและหนานจือ"ฟู่ฉีชวนกลับมาดูเย็นชาเหมือนอย่างเช่นเคย เขายิ้มเยาะ "บัญชีแค้นของนาย ยังมีเวลาอีกนาน นายไม่ต้องรีบหรอก""..."ฉันรู้นิสัยของฟู่ฉีชวน เลยอดพูดไม่ได้ "รุ่นพี่ลู่ทำเพื่อช่วยฉัน ไม่จำเป็นต้องไปลงกับเขา ถ้าคุณอยากออกหน้าช่วยคนรักของคุณ คุณมาลงกับฉันก็พอ"ฟู่ฉีชวนไม่พอใจที่ฉันออกตัวปกป้องเขา แต่เพราะรู้สึกผิด เลยต้องอดทน เขาคว้าข้อมือของฉัน "กลับบ้านกับผม""พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว!"ฉันสลัดข้อมือออก ทว่ากลับรู้สึกเหมือนบ้านหมุน เลยค้ำโต๊ะ

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status