แชร์

บทที่ 132

ผู้เขียน: เล่อเอิน
รู้สึกเหมือนว่ายังระบายออกมาไม่พอ ฉันยิ้มหัวเราะและกล่าว "ฟู่ฉีชวน ตอนฉันแท้ง คุณกลับไปอยู่กับคนอื่น ตอนฉันออกมาจากห้องผ่าตัด คุณตบหน้าฉันอย่างแรง ถามฉันว่าทำไมไม่เข้าไปขวางหล่อน ก็เพราะว่าฉันท้องเหมือนกันไง...ฉันกลัวบาดเจ็บ...ฉันเลยไม่กล้า! คำตอบนี้ ตอนนี้คุณพอใจรึยัง?"

"หนานจือ..."

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสีหน้าใจหายของเขา เขาเอื้อมมือออกมาต้องการจะคว้ามือของฉัน

ใครจะไปรู้ มือคู่หนึ่งได้เข้ามาขวางเขาไว้อย่างฉับพลัน!

ลู่สือเยี่ยนจู่ๆ ก็กลับมา เขาดูอ่อนโยนแต่แฝงความคมคาย "คุณมาคิดบัญชีแทนฟู่จินอันใช่ไหม? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมและหนานจือ"

ฟู่ฉีชวนกลับมาดูเย็นชาเหมือนอย่างเช่นเคย เขายิ้มเยาะ "บัญชีแค้นของนาย ยังมีเวลาอีกนาน นายไม่ต้องรีบหรอก"

"..."

ฉันรู้นิสัยของฟู่ฉีชวน เลยอดพูดไม่ได้ "รุ่นพี่ลู่ทำเพื่อช่วยฉัน ไม่จำเป็นต้องไปลงกับเขา ถ้าคุณอยากออกหน้าช่วยคนรักของคุณ คุณมาลงกับฉันก็พอ"

ฟู่ฉีชวนไม่พอใจที่ฉันออกตัวปกป้องเขา แต่เพราะรู้สึกผิด เลยต้องอดทน เขาคว้าข้อมือของฉัน "กลับบ้านกับผม"

"พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว!"

ฉันสลัดข้อมือออก ทว่ากลับรู้สึกเหมือนบ้านหมุน เลยค้ำโต๊ะ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
saprangporn
สนุกจัง อย่าเทกันอีกน้าา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 133

    ตลอดทางไปที่โรงพยาบาล ฉันเอนตัวพิงอยู่ที่นั่งข้างคนขับ คิดถึงตอนก่อนออกมา สีหน้าสลดสิ้นหวังของฟู่ฉีชวน หัวใจเหมือนถูกใครบีบมะนาวใส่ (บีบมะนาวใส่ หมายถึง ทำให้เจ็บปวดรวดร้าว)ทรมานสุดจะพรรณาทว่าพอได้ระบายออกไปแล้ว ความรู้สึกอัดอั้นในอ้อมอกของฉันก็ผ่อนคลายลงไปได้มากจริงๆ!ใช่เราสองคนเสียลูกไปทำไมฉันต้องมาทนทรมานอยู่คนเดียวเขาสมควรต้องเจ็บปวด เจ็บปวดไปพร้อมกับฉันลู่สือเยี่ยนใช้มือข้างเดียวจับพวงมาลัย อีกมือเอื้อมมือสัมผัสหน้าผากของฉัน สีหน้ากังวล "คุณตัวร้อนหนักมาก""ไม่เป็นไร ก็แค่เป็นหวัด ฉีดยาหน่อยก็หายแล้ว"ฉันส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจถึงยังไง ลูกก็ไม่ได้อยู่ในท้องแล้ว เป็นหวัดเป็นไข้ กินยาฉีดยาเดี๋ยวก็หายMS อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเซิ่งซินมากสุด ลู่สือเยี่ยนกลัวว่าจะเสียเวลา เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาลอื่น ส่วนฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้โรงพยาบาลออกใหญ่โต ถ้าไม่ตั้งใจจะเจอกันคงไม่มีทางจะเจอกันได้ใครจะไปรู้ พอพวกเราจอดรถและเปิดประตูออกมา ผอ.ก็พาแพทย์คนหนึ่งและพยาบาลอีกสองคนรีบมารอต้อนรับ"คุณนายฟู่"ผอ.ส่งสายตาให้พยาบาลเข้ามาพยุงฉัน เขากระแอมเสียงและพูดอย่างเป็นกันเอง "รองประธาน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 134

    หลังจากหมอเดินมาจากข้างหลังหลังผอ.เพื่อตรวจอาการ ก็จ่ายยาให้ฉันทันทีโดยไม่ต้องตรวจเลือดพร้อมกับให้พยาบาลไปเอายามาให้ จากนั้นก็ให้น้ำเกลือฉันตอนจะให้น้ำเหลือ ฉันก็กลัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ อดไม่ได้ที่จะชักมือกลับ จากนั้นมือใหญ่อันอุ่นสบายก็เข้ามาปิดตาฉัน "อย่ากลัว เข็มฉีดเข้าไปแล้ว"หัวใจฉันรู้สึกสงบลงเล็กน้อย ขณะที่กำลังผ่อนคลาย เข็มก็แทงเข้าไปในเส้นเลือดฉันตอนนั้นฉันเอามือออกและเงยหน้ามองลู่สือเยี่ยนอย่างจนปัญญา "รุ่นพี่ก็รู้จักโกหกคนอื่นเป็นเหมือนกันหรอ?""โกหกหน้าตายเลยล่ะ"เขายิ้มเบาๆหลังจากพยาบาลประคองฉันขึ่นไปบนเตียงก็เอาแผ่นแปะลดไข้แปะให้ฉัน จากนั้นผอ.และคนอื่นๆ ก็ขอตัวพอติดแผ่นแปะลดไข้ก็รู้สึกเย็นผ่อนคลาย ทันใดนั้นฉันรู้สึกสบายขึ้นมากลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วยและชี้ออกไปข้างนอก แววตาเขาอบอุ่นพร้อมกับเอ่ยถามอย่างลังเลและระแวดระวัง "เมื่อกี้ทำคุณตกใจหรอ?""อืม?"ฉันนิ่งไป ทันใดนั้นก็รู้ตัวว่าเขาหมายถึงเรื่องที่โมโหใส่ฟู่จินอัน ฉันส่ายหัว "ไม่ถึงขั้นตกใจ ก็แค่ไม่คาดคิด"เขาเม้มปาก "ไม่คิดว่าผมจะอารมณ์เสียแบบนั้นใช่ไหม?"ฉันคิด "อืม...ก็ไม่ขนาดนั้น ก็แค่เห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 135

    ฉันคลำหาสวิทช์เปิดไฟในความมืด ฉันหันมองไปทางประตูพบว่าประตูปิดสนิทแสดงว่าเจียงไหลไม่ใช่คนปิดประตูคืนวันนี้เจียงไหลนอนเฝ้าไข้ฉัน เธอกลัวว่าจะส่งผลต่อการนอนหลับของฉันจนสุขภาพกลับมาหายดีช้า เธอเลยยืนกรานจะไปนอนบนโซฟาห้องรับแขก แต่ก็กลัววันฉันเป็นอะไรแล้วเรียกเธอไม่ได้ยิน ดังนั้นเลยปิดประตูแค่ครึ่งบานตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยเดินเข้ามาเป็นเขาหรอ...ฉันไม่รู้แต่ว่ามันไม่สำคัญหรอก……เช้าวันรุ่งขึ้น พอตื่นขึ้นมา ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมากพยาบาลเอาอาหารเช้า ผลไม้และรังนกมาให้สองชุด จัดเต็มมากเจียงไหลน้ำลายสอ "โรงพยาบาลพวกคุณใจกว้างจริงๆ"พยาบาลยิ้ม "ก็เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วค่ะ แต่ว่า ห้องพักผู้ป่วยของพวกคุณได้รับการดูแลโภชนาเป็นพิเศษจากผอ.เพื่อคุณนายฟู่โดยเฉพาะค่ะ"พอพูดจบ พยาบาลก็วัดอุณหภูมิและตรวจวัดค่าต่างๆ "คุณนายฟู่ยังมีไข้อยู่เล็กน้อย คุณทานอาหารเช้าก่อน เดี๋ยวฉันจะตามอาจารย์เฟิงมาดูอาการให้ค่ะ"จนกระทั่งพยาบาลออกไป เจียงไหลก็ส่งสายตาแคลงใจมาให้ฉัน "ดูท่าพวกเธอจะหย่ากันจริงๆ ใช่ไหม?""แล้วยังไง ?""แล้วอาหารเช้านี้...ยังทานได้ไหม?"เธอมุ่ยปากหันไปทางอาหารเช้าห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 136

    ฉันรู้สึกตื่นตัวและรีบถาม "คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องหย่าเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา แต่คุณปู่ดีกับฉันมาตลอด ฉันไม่อยากให้คุณปู่ต้องจากไปโดยไม่ทราบสาเหตุแท้จริง"ฉันแสดงความมั่นใจให้เขาได้เห็น ลุงเฉิงในที่สุดก็พูดออกมา เขาเอาซองใสปิดผนึกออกมาซองหนึ่ง ข้างในมีแค่ยาเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวยาเม็ดนั้นฉันเห็นจนชินตามันเป็นยารักษาอาการฉุกเฉินซึ่งมักใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของคุณปู่ลุงเฉิงกล่าว "นี่เป็นยาที่คนใช้พบอยู่ใต้พรมตรงโต๊ะหนังสือในห้องทำงานของคุณท่านเมื่อสองวันก่อนตอนทำความสะอาด"ฉันรับเอามาดูอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็รู้สึกหนาวจนเสียวสันหลังวาบอากาศในเมืองเจียงเฉิงถือว่าค่อนข้างชื้น หากยาตกลงไปบนพื้นเป็นเวลานาน ยาจะต้องมีลักษณะชิ้นๆ แฉะๆแต่ยาในซองนั้น กลับไม่ได้มีลักษณะชิ้นเลยน้ำเสียงฉันกังวล "คฤหาสน์หลังเก่าทำความสะอาดครั้งก่อนเมื่อไหร่คะ?""เราทำความสะอาดครั้งใหญ่ก่อนคุณท่านจะเป็นอะไรไปหนึ่งวันพอดี"เห็นได้ชัดว่าลุงเฉิงก็คิดถึงปัญหานี้เช่นกัน เขาถึงตอบได้อย่างทันที สีหน้าดูเคร่งขรึมเล็กน้อยกล่าวได้ว่าข้อสังเกตุทั้งหมดบ่งบอกว่ายาของคุณปู่หล่นลงพื้นในวันที่ท่านจา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 137

    ลุงเฉิงฝืนสีหน้าหันมามองเธอพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังไม่พอใจ!"คุณท่านจากไปได้ไม่กี่วัน? คุณในฐานะคนรุ่นลูกก็ลืมสิ่งที่คุณท่านพูดเอาไว้ก่อนจากไปแล้วหรือยังไง? นายหญิงตระกูลฟู่คือคุณหนานจือคนเดียวเท่านั้น!""คนอกตัญญูอย่างคุณ คิดอยากเป็นคนตระกูลฟู่ ตัวเองคู่ควรรึไง?!"ลุงเฉิงเลยถือโอกาศถากถางเธอและถ่มน้ำลายใส่ต่อหน้า! ก่อนจะหันมามองฉันและพูดอย่างเคารพ "นายหญิง ผมขอตัวก่อน คุณเองก็รีบเข้าไปพักเถอะ เดี๋ยวพวกแมวพวกหมาจะคุ้มคลั่งแว้งมาทำร้าย!"ทันใดนั้นก็พาคนใช้เดินออกไปอย่างไม่แยแส บรรยากาศของเขาชวนให้นึกตอนคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่"แปลกจริงๆ จู่ๆ ก็เป็นบ้าอะไรขึ้นมา!"ฟู่จินอันถูกลุงเฉิงยั่วโมโหจนตกตะลึงอ้าปากค้าง เธอแสยะยิ้มถลึงตาหันมามองฉัน "ตระกูลฟู่ตั้งแต่คนแก่ยันรุ่นหลาน ตอนนี้ขนาดคนใช้ก็ยังถูกเธอหว่านล้อมจนหลงเชื่อแล้วสินะ?!""หรืออาจเพราะเธอมันน่าหมั่นไส้?"ฉันเถียงกลับเธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทันใดนั้นเจียงไหลก็เดินออกมา ริมฝีปากสีแดงกล่าวยั่วโมโหเธอ "มาอีกแล้วหรอ ชอบโดนฉันด่าหรือไง? เมื่อวานกลับบ้านคงคิดว่าฉันด่าเป็นเรื่องจริง เลยรู้สึกเปรี้ยวปากอยากโดนด่าอีกล่ะสิ?""แก! แก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 138

    "..."ฉันไม่คิดว่าหลินกั๋วอันจะเลวได้ถึงขั้นนี้ ฉันขมวดคิ้ว "งั้นคุณลุงเขาทราบรหัสไหมคะ?""ป้า ป้ากลัวว่าตัวเองจะจำรหัสไม่ได้ก็เลย..."สีหน้าของคุณป้าเสียใจอย่างมาก "ตั้งรหัสเป็นรหัสเดียวกันกับ ATM ของบัญชีในบ้าน""...""..."ฉันกับเจียงไหลจนปัญญาหลินกั๋วอันเป็นคนกะล่อนหลอกเงินขโมยเงิน พอได้บัตร ATM ไป เขาต้องโอนเงินก่อนเป็นอันดับแรกตอนนี้ไปธนาคารก็คงจะไม่ทันแต่ว่าเมื่อเทียบกับเรื่องนี้ ฉันกังวลอีกเรื่องมากกว่า "คุณลุงเขาเริ่มติดพนันอีกแล้วใช่ไหมคะ?""อืม..."คุณป้าปาดน้ำตาพร้อมกับกัดฟันพูด "อันที่จริงหลายปีมานี้ เขาไม่เคยเลิกติดพนันได้เลย ดังนั้นป้าเลยไม่กล้าให้เขารู้ว่าหลานแต่ละเดือนโอนให้ป้าเท่าไหร่ ไม่คาดคิดว่าไอแก่สารเลวคนนี้จะกล้าขโมยเงินค่ารักษาของป้า!""งั้นป้าทำไมไม่หย่ากับเขาให้มันสิ้นเรื่องไปเลย? การพนันมีแต่จะเสียกับเสีย!" เจียงไหลฟังก็รู้สึกโกรธ อดไม่ได้ที่จะพูด"ครั้งนี้..."คุณป้าเงยหน้าขึ้นมามองฉัน กล่าวอย่างรู้สึกผิด "หย่าแน่นอน ป้าจะหย่าแน่นอน ถ้าป้าหย่ากับเขาเร็วกว่านี้ หลายปีนี้หลานก็คงไม่ต้องลำบาก"ฉันไม่รู้ว่าตัวเองนึกอะไรขึ้นมา ถึงได้นึกถึงตอนก่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 139

    ฉันลุกขึ้นมานั่ง เอื้อมมือไปเปิดสวิทช์ไฟตรงหัวเตียง ทันใดนั้นภายในห้องก็สว่างฉันยังไม่ทันตั้งตัวก็เห็นสภาพเขาดูน่าเวทนาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนชายซึ่งสง่าผ่าเผยมาโดยตลอด คางเต็มไปด้วยหนวดเคราขึ้นจนเข้ม ขอบตาดำลึกอย่างมาก ราวกับว่าไม่ได้มาหลายวัน ดูโทรมแซ่ฟู่กรุ๊ปเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงทำให้เขายุ่งจนอยู่ในสภาพนี้ฉันขมวดคิ้วเล็กๆ "ฉันว่าคุณเอาเวลามาเฝ้าฉันไปนอนสักงีบดีกว่า"นิ้วเรียวจนเห็นกระดูกได้ชัดจับตรงปมเน็กไทและดึงลงมา มุมปากเผยรอยยิ้มขมขื่น "ผมรับรู้ความรู้สึกที่ต้องเสียลูกไปของคุณแล้ว"ฉันกำมือแน่นและหันไปพูดแดกดันใส่เขา "ฟู่ฉีชวน ฉันไม่ต้องการให้คุณมารู้สึกเห็นใจ ฉันขอแค่คุณจำเอาไว้ตลอดว่าลูกคนแรกของคุณ เป็นคุณที่ฆ่าเองกับมือก็พอแล้ว"ดวงตาสีดำของเขาเผยให้เห็นความเจ็บปวด ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อยพร้อมกับเสียงค่อนข้างๆ แหบพร่า "คุณ...เกลียดผมขนาดนี้เลยหรอ?""ใช่"ฉันยอมรับอย่างตรงไปตรงมา "ฉันเกลียดคุณกับฟู่จินอัน ถ้าคุณรู้สึกว่าติดค้างฉันกับลูก งั้นเดือนหน้าคุณแค่ไปรับใบสำคัญหย่าที่อำเภอตามกำหนดการก็พอ""...ได้"เขากลืนน้ำลายพร้อมกับพรุบสายตามองต่ำ พูดอย่างคลุมเครือ "แล้ว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 140

    เจียงไหลเป็นนักช้อปตัวยง เธอลากฉันเดินไม่หยุดเธอบอกว่าไหนๆ ได้ลาออกทั้งทีก็ต้องให้รางวัลกับตนเองที่ทำงานหนักมาตลอดสี่ปีสักหน่อย"เธอดูสิ นังนั่นใช่ยัยปาเต็กฟิลิปป์รึเปล่า?"ขณะเดินผ่านเคาน์เตอร์แบรนด์ร้านหนึ่ง เธอจู่ๆ ก็ชี้ไปด้านในร้านฉันเหลือบหันไปดู "เธอจริงๆ"กำลังลองสะพายกระเป๋าใบละหลายแสน เธอตั้งใจจะซื้อแน่ๆฟู่ฉีชวนใจกว้างกับหล่อนจริงๆฉันไม่มีอารมณ์จะสนใจเธอต่อ เลยลากเจียงไหลออกมา เจียงไหลเพ่งสายตามอง เธอคว้าฉันไปหลบด้านหลังเสากลม!ฉันไม่เข้าใจ มองเธอพร้อมกับใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม "???"เธอกล่าวอย่างตกใจ "พ่อสามีเธอ!""พ่อสามีฉัน?""ใช่ พ่อสามีเธอกำลังช้อปปิ้งกับยัยปาเต็กฟิลิปป์นั่น!" เจียงไหลสีหน้าเหมือนกับเจอเผือกร้อนๆ"มันก็ปกติไม่ใช่หรือไง"ฉันยิ้ม "ตั้งแต่เด็ก นางนั่นคือแก้วตาดวงใจของพ่อสามีฉัน"ขนาดฟู่ฉีชวน ยังไม่เคยได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้แต่น้อย ความรักทั้งหมดยกให้กับฟู่จินอันเจียงไหลขมวดคิ้วสงสัย จากนั้นก็ชะเง้อหน้าออกไปดูอย่างระมัดระวัง หันกลับมามองฉันอย่างสงสัย "ยัยปาเต็กฟิลิปป์นั่นคล้องแขนพ่อสามีเธอด้วย ฉันเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ลูกเลี้ย

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status