Share

บทที่ 132

Auteur: เล่อเอิน
รู้สึกเหมือนว่ายังระบายออกมาไม่พอ ฉันยิ้มหัวเราะและกล่าว "ฟู่ฉีชวน ตอนฉันแท้ง คุณกลับไปอยู่กับคนอื่น ตอนฉันออกมาจากห้องผ่าตัด คุณตบหน้าฉันอย่างแรง ถามฉันว่าทำไมไม่เข้าไปขวางหล่อน ก็เพราะว่าฉันท้องเหมือนกันไง...ฉันกลัวบาดเจ็บ...ฉันเลยไม่กล้า! คำตอบนี้ ตอนนี้คุณพอใจรึยัง?"

"หนานจือ..."

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสีหน้าใจหายของเขา เขาเอื้อมมือออกมาต้องการจะคว้ามือของฉัน

ใครจะไปรู้ มือคู่หนึ่งได้เข้ามาขวางเขาไว้อย่างฉับพลัน!

ลู่สือเยี่ยนจู่ๆ ก็กลับมา เขาดูอ่อนโยนแต่แฝงความคมคาย "คุณมาคิดบัญชีแทนฟู่จินอันใช่ไหม? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมและหนานจือ"

ฟู่ฉีชวนกลับมาดูเย็นชาเหมือนอย่างเช่นเคย เขายิ้มเยาะ "บัญชีแค้นของนาย ยังมีเวลาอีกนาน นายไม่ต้องรีบหรอก"

"..."

ฉันรู้นิสัยของฟู่ฉีชวน เลยอดพูดไม่ได้ "รุ่นพี่ลู่ทำเพื่อช่วยฉัน ไม่จำเป็นต้องไปลงกับเขา ถ้าคุณอยากออกหน้าช่วยคนรักของคุณ คุณมาลงกับฉันก็พอ"

ฟู่ฉีชวนไม่พอใจที่ฉันออกตัวปกป้องเขา แต่เพราะรู้สึกผิด เลยต้องอดทน เขาคว้าข้อมือของฉัน "กลับบ้านกับผม"

"พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว!"

ฉันสลัดข้อมือออก ทว่ากลับรู้สึกเหมือนบ้านหมุน เลยค้ำโต๊ะ
Chapitre verrouillé
Continuer la lecture sur GoodNovel
Scanner le code pour télécharger l'application
Commentaires (1)
goodnovel comment avatar
saprangporn
สนุกจัง อย่าเทกันอีกน้าา
VOIR TOUS LES COMMENTAIRES

Related chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 133

    ตลอดทางไปที่โรงพยาบาล ฉันเอนตัวพิงอยู่ที่นั่งข้างคนขับ คิดถึงตอนก่อนออกมา สีหน้าสลดสิ้นหวังของฟู่ฉีชวน หัวใจเหมือนถูกใครบีบมะนาวใส่ (บีบมะนาวใส่ หมายถึง ทำให้เจ็บปวดรวดร้าว)ทรมานสุดจะพรรณาทว่าพอได้ระบายออกไปแล้ว ความรู้สึกอัดอั้นในอ้อมอกของฉันก็ผ่อนคลายลงไปได้มากจริงๆ!ใช่เราสองคนเสียลูกไปทำไมฉันต้องมาทนทรมานอยู่คนเดียวเขาสมควรต้องเจ็บปวด เจ็บปวดไปพร้อมกับฉันลู่สือเยี่ยนใช้มือข้างเดียวจับพวงมาลัย อีกมือเอื้อมมือสัมผัสหน้าผากของฉัน สีหน้ากังวล "คุณตัวร้อนหนักมาก""ไม่เป็นไร ก็แค่เป็นหวัด ฉีดยาหน่อยก็หายแล้ว"ฉันส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจถึงยังไง ลูกก็ไม่ได้อยู่ในท้องแล้ว เป็นหวัดเป็นไข้ กินยาฉีดยาเดี๋ยวก็หายMS อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเซิ่งซินมากสุด ลู่สือเยี่ยนกลัวว่าจะเสียเวลา เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาลอื่น ส่วนฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้โรงพยาบาลออกใหญ่โต ถ้าไม่ตั้งใจจะเจอกันคงไม่มีทางจะเจอกันได้ใครจะไปรู้ พอพวกเราจอดรถและเปิดประตูออกมา ผอ.ก็พาแพทย์คนหนึ่งและพยาบาลอีกสองคนรีบมารอต้อนรับ"คุณนายฟู่"ผอ.ส่งสายตาให้พยาบาลเข้ามาพยุงฉัน เขากระแอมเสียงและพูดอย่างเป็นกันเอง "รองประธาน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 134

    หลังจากหมอเดินมาจากข้างหลังหลังผอ.เพื่อตรวจอาการ ก็จ่ายยาให้ฉันทันทีโดยไม่ต้องตรวจเลือดพร้อมกับให้พยาบาลไปเอายามาให้ จากนั้นก็ให้น้ำเกลือฉันตอนจะให้น้ำเหลือ ฉันก็กลัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ อดไม่ได้ที่จะชักมือกลับ จากนั้นมือใหญ่อันอุ่นสบายก็เข้ามาปิดตาฉัน "อย่ากลัว เข็มฉีดเข้าไปแล้ว"หัวใจฉันรู้สึกสงบลงเล็กน้อย ขณะที่กำลังผ่อนคลาย เข็มก็แทงเข้าไปในเส้นเลือดฉันตอนนั้นฉันเอามือออกและเงยหน้ามองลู่สือเยี่ยนอย่างจนปัญญา "รุ่นพี่ก็รู้จักโกหกคนอื่นเป็นเหมือนกันหรอ?""โกหกหน้าตายเลยล่ะ"เขายิ้มเบาๆหลังจากพยาบาลประคองฉันขึ่นไปบนเตียงก็เอาแผ่นแปะลดไข้แปะให้ฉัน จากนั้นผอ.และคนอื่นๆ ก็ขอตัวพอติดแผ่นแปะลดไข้ก็รู้สึกเย็นผ่อนคลาย ทันใดนั้นฉันรู้สึกสบายขึ้นมากลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วยและชี้ออกไปข้างนอก แววตาเขาอบอุ่นพร้อมกับเอ่ยถามอย่างลังเลและระแวดระวัง "เมื่อกี้ทำคุณตกใจหรอ?""อืม?"ฉันนิ่งไป ทันใดนั้นก็รู้ตัวว่าเขาหมายถึงเรื่องที่โมโหใส่ฟู่จินอัน ฉันส่ายหัว "ไม่ถึงขั้นตกใจ ก็แค่ไม่คาดคิด"เขาเม้มปาก "ไม่คิดว่าผมจะอารมณ์เสียแบบนั้นใช่ไหม?"ฉันคิด "อืม...ก็ไม่ขนาดนั้น ก็แค่เห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 135

    ฉันคลำหาสวิทช์เปิดไฟในความมืด ฉันหันมองไปทางประตูพบว่าประตูปิดสนิทแสดงว่าเจียงไหลไม่ใช่คนปิดประตูคืนวันนี้เจียงไหลนอนเฝ้าไข้ฉัน เธอกลัวว่าจะส่งผลต่อการนอนหลับของฉันจนสุขภาพกลับมาหายดีช้า เธอเลยยืนกรานจะไปนอนบนโซฟาห้องรับแขก แต่ก็กลัววันฉันเป็นอะไรแล้วเรียกเธอไม่ได้ยิน ดังนั้นเลยปิดประตูแค่ครึ่งบานตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยเดินเข้ามาเป็นเขาหรอ...ฉันไม่รู้แต่ว่ามันไม่สำคัญหรอก……เช้าวันรุ่งขึ้น พอตื่นขึ้นมา ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมากพยาบาลเอาอาหารเช้า ผลไม้และรังนกมาให้สองชุด จัดเต็มมากเจียงไหลน้ำลายสอ "โรงพยาบาลพวกคุณใจกว้างจริงๆ"พยาบาลยิ้ม "ก็เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วค่ะ แต่ว่า ห้องพักผู้ป่วยของพวกคุณได้รับการดูแลโภชนาเป็นพิเศษจากผอ.เพื่อคุณนายฟู่โดยเฉพาะค่ะ"พอพูดจบ พยาบาลก็วัดอุณหภูมิและตรวจวัดค่าต่างๆ "คุณนายฟู่ยังมีไข้อยู่เล็กน้อย คุณทานอาหารเช้าก่อน เดี๋ยวฉันจะตามอาจารย์เฟิงมาดูอาการให้ค่ะ"จนกระทั่งพยาบาลออกไป เจียงไหลก็ส่งสายตาแคลงใจมาให้ฉัน "ดูท่าพวกเธอจะหย่ากันจริงๆ ใช่ไหม?""แล้วยังไง ?""แล้วอาหารเช้านี้...ยังทานได้ไหม?"เธอมุ่ยปากหันไปทางอาหารเช้าห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 136

    ฉันรู้สึกตื่นตัวและรีบถาม "คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องหย่าเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา แต่คุณปู่ดีกับฉันมาตลอด ฉันไม่อยากให้คุณปู่ต้องจากไปโดยไม่ทราบสาเหตุแท้จริง"ฉันแสดงความมั่นใจให้เขาได้เห็น ลุงเฉิงในที่สุดก็พูดออกมา เขาเอาซองใสปิดผนึกออกมาซองหนึ่ง ข้างในมีแค่ยาเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวยาเม็ดนั้นฉันเห็นจนชินตามันเป็นยารักษาอาการฉุกเฉินซึ่งมักใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของคุณปู่ลุงเฉิงกล่าว "นี่เป็นยาที่คนใช้พบอยู่ใต้พรมตรงโต๊ะหนังสือในห้องทำงานของคุณท่านเมื่อสองวันก่อนตอนทำความสะอาด"ฉันรับเอามาดูอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็รู้สึกหนาวจนเสียวสันหลังวาบอากาศในเมืองเจียงเฉิงถือว่าค่อนข้างชื้น หากยาตกลงไปบนพื้นเป็นเวลานาน ยาจะต้องมีลักษณะชิ้นๆ แฉะๆแต่ยาในซองนั้น กลับไม่ได้มีลักษณะชิ้นเลยน้ำเสียงฉันกังวล "คฤหาสน์หลังเก่าทำความสะอาดครั้งก่อนเมื่อไหร่คะ?""เราทำความสะอาดครั้งใหญ่ก่อนคุณท่านจะเป็นอะไรไปหนึ่งวันพอดี"เห็นได้ชัดว่าลุงเฉิงก็คิดถึงปัญหานี้เช่นกัน เขาถึงตอบได้อย่างทันที สีหน้าดูเคร่งขรึมเล็กน้อยกล่าวได้ว่าข้อสังเกตุทั้งหมดบ่งบอกว่ายาของคุณปู่หล่นลงพื้นในวันที่ท่านจา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 137

    ลุงเฉิงฝืนสีหน้าหันมามองเธอพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังไม่พอใจ!"คุณท่านจากไปได้ไม่กี่วัน? คุณในฐานะคนรุ่นลูกก็ลืมสิ่งที่คุณท่านพูดเอาไว้ก่อนจากไปแล้วหรือยังไง? นายหญิงตระกูลฟู่คือคุณหนานจือคนเดียวเท่านั้น!""คนอกตัญญูอย่างคุณ คิดอยากเป็นคนตระกูลฟู่ ตัวเองคู่ควรรึไง?!"ลุงเฉิงเลยถือโอกาศถากถางเธอและถ่มน้ำลายใส่ต่อหน้า! ก่อนจะหันมามองฉันและพูดอย่างเคารพ "นายหญิง ผมขอตัวก่อน คุณเองก็รีบเข้าไปพักเถอะ เดี๋ยวพวกแมวพวกหมาจะคุ้มคลั่งแว้งมาทำร้าย!"ทันใดนั้นก็พาคนใช้เดินออกไปอย่างไม่แยแส บรรยากาศของเขาชวนให้นึกตอนคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่"แปลกจริงๆ จู่ๆ ก็เป็นบ้าอะไรขึ้นมา!"ฟู่จินอันถูกลุงเฉิงยั่วโมโหจนตกตะลึงอ้าปากค้าง เธอแสยะยิ้มถลึงตาหันมามองฉัน "ตระกูลฟู่ตั้งแต่คนแก่ยันรุ่นหลาน ตอนนี้ขนาดคนใช้ก็ยังถูกเธอหว่านล้อมจนหลงเชื่อแล้วสินะ?!""หรืออาจเพราะเธอมันน่าหมั่นไส้?"ฉันเถียงกลับเธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทันใดนั้นเจียงไหลก็เดินออกมา ริมฝีปากสีแดงกล่าวยั่วโมโหเธอ "มาอีกแล้วหรอ ชอบโดนฉันด่าหรือไง? เมื่อวานกลับบ้านคงคิดว่าฉันด่าเป็นเรื่องจริง เลยรู้สึกเปรี้ยวปากอยากโดนด่าอีกล่ะสิ?""แก! แก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 138

    "..."ฉันไม่คิดว่าหลินกั๋วอันจะเลวได้ถึงขั้นนี้ ฉันขมวดคิ้ว "งั้นคุณลุงเขาทราบรหัสไหมคะ?""ป้า ป้ากลัวว่าตัวเองจะจำรหัสไม่ได้ก็เลย..."สีหน้าของคุณป้าเสียใจอย่างมาก "ตั้งรหัสเป็นรหัสเดียวกันกับ ATM ของบัญชีในบ้าน""...""..."ฉันกับเจียงไหลจนปัญญาหลินกั๋วอันเป็นคนกะล่อนหลอกเงินขโมยเงิน พอได้บัตร ATM ไป เขาต้องโอนเงินก่อนเป็นอันดับแรกตอนนี้ไปธนาคารก็คงจะไม่ทันแต่ว่าเมื่อเทียบกับเรื่องนี้ ฉันกังวลอีกเรื่องมากกว่า "คุณลุงเขาเริ่มติดพนันอีกแล้วใช่ไหมคะ?""อืม..."คุณป้าปาดน้ำตาพร้อมกับกัดฟันพูด "อันที่จริงหลายปีมานี้ เขาไม่เคยเลิกติดพนันได้เลย ดังนั้นป้าเลยไม่กล้าให้เขารู้ว่าหลานแต่ละเดือนโอนให้ป้าเท่าไหร่ ไม่คาดคิดว่าไอแก่สารเลวคนนี้จะกล้าขโมยเงินค่ารักษาของป้า!""งั้นป้าทำไมไม่หย่ากับเขาให้มันสิ้นเรื่องไปเลย? การพนันมีแต่จะเสียกับเสีย!" เจียงไหลฟังก็รู้สึกโกรธ อดไม่ได้ที่จะพูด"ครั้งนี้..."คุณป้าเงยหน้าขึ้นมามองฉัน กล่าวอย่างรู้สึกผิด "หย่าแน่นอน ป้าจะหย่าแน่นอน ถ้าป้าหย่ากับเขาเร็วกว่านี้ หลายปีนี้หลานก็คงไม่ต้องลำบาก"ฉันไม่รู้ว่าตัวเองนึกอะไรขึ้นมา ถึงได้นึกถึงตอนก่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 139

    ฉันลุกขึ้นมานั่ง เอื้อมมือไปเปิดสวิทช์ไฟตรงหัวเตียง ทันใดนั้นภายในห้องก็สว่างฉันยังไม่ทันตั้งตัวก็เห็นสภาพเขาดูน่าเวทนาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนชายซึ่งสง่าผ่าเผยมาโดยตลอด คางเต็มไปด้วยหนวดเคราขึ้นจนเข้ม ขอบตาดำลึกอย่างมาก ราวกับว่าไม่ได้มาหลายวัน ดูโทรมแซ่ฟู่กรุ๊ปเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงทำให้เขายุ่งจนอยู่ในสภาพนี้ฉันขมวดคิ้วเล็กๆ "ฉันว่าคุณเอาเวลามาเฝ้าฉันไปนอนสักงีบดีกว่า"นิ้วเรียวจนเห็นกระดูกได้ชัดจับตรงปมเน็กไทและดึงลงมา มุมปากเผยรอยยิ้มขมขื่น "ผมรับรู้ความรู้สึกที่ต้องเสียลูกไปของคุณแล้ว"ฉันกำมือแน่นและหันไปพูดแดกดันใส่เขา "ฟู่ฉีชวน ฉันไม่ต้องการให้คุณมารู้สึกเห็นใจ ฉันขอแค่คุณจำเอาไว้ตลอดว่าลูกคนแรกของคุณ เป็นคุณที่ฆ่าเองกับมือก็พอแล้ว"ดวงตาสีดำของเขาเผยให้เห็นความเจ็บปวด ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อยพร้อมกับเสียงค่อนข้างๆ แหบพร่า "คุณ...เกลียดผมขนาดนี้เลยหรอ?""ใช่"ฉันยอมรับอย่างตรงไปตรงมา "ฉันเกลียดคุณกับฟู่จินอัน ถ้าคุณรู้สึกว่าติดค้างฉันกับลูก งั้นเดือนหน้าคุณแค่ไปรับใบสำคัญหย่าที่อำเภอตามกำหนดการก็พอ""...ได้"เขากลืนน้ำลายพร้อมกับพรุบสายตามองต่ำ พูดอย่างคลุมเครือ "แล้ว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 140

    เจียงไหลเป็นนักช้อปตัวยง เธอลากฉันเดินไม่หยุดเธอบอกว่าไหนๆ ได้ลาออกทั้งทีก็ต้องให้รางวัลกับตนเองที่ทำงานหนักมาตลอดสี่ปีสักหน่อย"เธอดูสิ นังนั่นใช่ยัยปาเต็กฟิลิปป์รึเปล่า?"ขณะเดินผ่านเคาน์เตอร์แบรนด์ร้านหนึ่ง เธอจู่ๆ ก็ชี้ไปด้านในร้านฉันเหลือบหันไปดู "เธอจริงๆ"กำลังลองสะพายกระเป๋าใบละหลายแสน เธอตั้งใจจะซื้อแน่ๆฟู่ฉีชวนใจกว้างกับหล่อนจริงๆฉันไม่มีอารมณ์จะสนใจเธอต่อ เลยลากเจียงไหลออกมา เจียงไหลเพ่งสายตามอง เธอคว้าฉันไปหลบด้านหลังเสากลม!ฉันไม่เข้าใจ มองเธอพร้อมกับใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม "???"เธอกล่าวอย่างตกใจ "พ่อสามีเธอ!""พ่อสามีฉัน?""ใช่ พ่อสามีเธอกำลังช้อปปิ้งกับยัยปาเต็กฟิลิปป์นั่น!" เจียงไหลสีหน้าเหมือนกับเจอเผือกร้อนๆ"มันก็ปกติไม่ใช่หรือไง"ฉันยิ้ม "ตั้งแต่เด็ก นางนั่นคือแก้วตาดวงใจของพ่อสามีฉัน"ขนาดฟู่ฉีชวน ยังไม่เคยได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้แต่น้อย ความรักทั้งหมดยกให้กับฟู่จินอันเจียงไหลขมวดคิ้วสงสัย จากนั้นก็ชะเง้อหน้าออกไปดูอย่างระมัดระวัง หันกลับมามองฉันอย่างสงสัย "ยัยปาเต็กฟิลิปป์นั่นคล้องแขนพ่อสามีเธอด้วย ฉันเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ลูกเลี้ย

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status