แชร์

ไข่มุกบรรพกาลสีฟ้า

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-29 21:54:42

"นักศึกษาสำนักตะวันเลือนได้ไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าเรียบร้อยแล้ว"

เสียงประกาศก้องขึ้น เสือขาวที่กำลังต่อสู้อยู่กับนักศึกษาสำนักตะวันเลือนทั้งเก้าคนหายไปทันที ทำให้ทุกคนที่ศึกษาในสำนักศึกษาตะวันเลือนดีใจและโล่งใจไปในคราวเดียวกัน ปรมาจารย์ไป๋อวิ่นเองก็ดีใจเช่นกัน เพราะว่าตนไม่รู้ว่าจินเป่าทำอย่างไรบ้าง แต่นางก็หายไปจากจอลูกแก้วนานมากโข ส่วนสำนักทั้งสองได้ยินก็ตกใจและรีบกางแผนที่ออกมา และต่างคนต่างคาดเดาว่า ณ เวลานี้ไข่มุกสีฟ้าที่อยู่หุบเขาสายลมได้มีผู้คนเอาไปแล้ว ตนจึงต้องไปหาอีกสามสถานที่

ทางด้านจินเป่าเลือกที่จะคว้าไข่มุกสีฟ้าโดยไม่ได้ปกป้องตัวเองแม้แต่น้อย แต่พอนางคว้าไข่มุกสีฟ้าแห่งบรรพกาลออกมาจากรังฟางหญ้าได้สำเร็จ พยัคฆ์ขาวทั้งเก้าตนก็หายไปในพริบตา และก็มีร่างของพยัคฆ์ขาวที่แก่ชรานอนอยู่บนรังฟางหญ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าวางอยู่

"ฮ่าๆๆเจ้าได้ไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว แล้วไหนล่ะที่เจ้าเคยพูดไว้ว่าเจ้าจะให้อะไรแก่ข้า "

เสียงชายชรากล่าวขึ้นอย่างสั่นเครือ

"แต่ข้าก็ได้หยิบฉวยไข่มุกสีฟ้าแห่งบรรพกาลนี้ด้วยตัวเอง ท่านไม่ได้มอบให้ค่าเสียเมื่อไหร่กัน ท่าน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   บึงหนาม

    หลังจากออกมาจากถ้ำแล้ว ในกลุ่มก็หาตัวแทนเก็บไข่มุกบรรพกาล"ข้าว่าในเมื่อจินเป่าเป็นผู้นำ ไข่มุกบรรพกาลออกมาได้ ก็ให้นางเก็บไข่มุกนั่นไม่ดีกว่าหรือ"เหมยลี่ผู้ที่เคยกล่าวว่าจินเป่ากับซิงอีกล่าวขึ้น"ใช่ๆข้าเห็นด้วย:ข้าเองก็เห็นด้วยเช่นกัน:ข้าก็เหมือนกัน"ต่างคนต่างกล่าวขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน"ข้าว่าไม่ดีหรอกเอาแบบนี้ดีไหมให้บุรุษอย่างจางหยงเป็นผู้เก็บไข่มุกบรรพกาลสีฟ้านี้เอาไว้ดีกว่า เพราะว่าจางหยงมีวรยุทธที่สูงและอีกอย่างจางหยงสำคัญกับพวกเรามากในเรื่องสมุนไพรในการรักษาพวกเรา เพราะถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับจางหยงพวกเราต้องปกป้องเขาไว้ให้ดีอยู่แล้วจริงหรือไม่"จินเป่ากล่าวขึ้นเพราะตนไม่คิดที่จะเก็บไข่มุกบรรพกาลไว้กับตัว เพราะนางคิดว่าเราไม่สามารถเก็บไว้ในนิติพกพาของตัวเองได้ หลังจากตกลงให้จางหยงเก็บไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าไว้แล้ว ซิงอีก็นำไข่มุกสีขาวที่ได้จากเสือขาว มาให้นางประมาณหนึ่งร้อยก้อน"นี่ไข่มุกสีขาวที่ได้จากเสือขาวหลังจากที่เจ้าหนีหายไปแล้ว มันยังจำเป็นต้องเก็บต่อหรือไม่ แล้วไข่มุกที่เจ้าให้ข้าเก็บก่อนหน้านั้นมันก็หายไปแล้ว เจ้าน่าจะเป็นคนหยิบถุงมิติข้าไปแน่ ถุงมิติใบนี้ข้าได้จาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   กลโกง

    "นักศึกษา...…จากสำนักพระจันทร์เสี้ยวออกจากหุบเขาบรรพกาลอย่างปลอดภัยแล้ว"เสียงประกาศดังก้องขึ้น ทุกคนที่อยู่ในหุบเขาบรรพกาลตกใจกันหมด"เจ้าโง่เอ้ยเจ้าอุส่าได้ลงไปในน้ำได้ขนาดนั้น แล้วเจ้ายังจะหักหยกกับออกมาจากเขาบรรพกาลอีก วรยุทธของเจ้าก็มีไม่ใช่หรือแล้วทำไมเจ้าไม่ไปหาไข่มุกบรรพกาลสีดำล่ะ เจ้าออกมาข้างนอกเจ้าก็ลองไปนั่งดูลูกแก้วเถอะ นักศึกษาสำนักตะวันเลือนนั้นช่วยกันอย่างดี แถมยังมีสตรีที่กล้าที่จะลงไปหาไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าคนเดียวอีกแล้วนางก็ได้กลับขึ้นมา"อาจารย์ใหญ่ของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกล่าวว่าลูกศิษย์ที่ทำตัวขี้ขลาด"ข้าขอโทษท่านอาจารย์ก็ข้าลงไปในน้ำข้าก็กลัว ข้าจึงหักป้ายหยกแล้วกลับมาที่นี่ ก็ท่านอาจารย์บอกเองไม่ใช่หรือเมื่อถึงคราวตาจนหรืออันตรายเกือบถึงชีวิต ให้พวกข้าหักหยกเพื่อที่จะหนีออกมาให้ได้ห้ามมีใครเป็นอะไรไม่ใช่หรือ"สตรีที่เป็นลูกศิษย์ผู้นั้นยังเถียงไม่หยุด"แล้วมันถึงขั้นอันตรายตรงไหน ทำไมเจ้าไม่คิดดูล่ะ มันเป็นโอกาสของพวกเจ้าไม่ใช่หรือที่ได้ลงไปในบึงน้ำแห่งนั้นแล้ว ข้าไม่รู้หรอกว่าบึงน้ำแห่งนั้นมีสิ่งใดแต่ที่ข้าเห็นเด็กสาวที่อยู่สำนักตะวันเลือนลงไปในหุบเขาสายลมเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง    ไข่มุกบรรพกาลสีดำ

    "สำนักพระจันทร์เสี้ยวได้ไข่มุกบรรพกาลสีดำเรียบร้อยแล้ว"เสียงประกาศก้องขึ้น นักศึกษาสาวที่อยู่หน้าลูกแก้วดีใจร้องเสียงดังและก็กอดกันกลม จนทำให้อาจารย์ทุกคนหันมามองพวกนางทั้งสองทางด้านในลูกแก้วเมื่อนักศึกษาทั้งหมดแปดคนได้ลงไปในบึงหนามทุกคนก็ได้หลุดออกจากพันธนาการของสิ่งที่ดึงพวกตนลงไป ทุกคนเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีแล้วที่จะลงมาด้านล่าง จึงลงมือต่อสู้ทันที ที่ทุกคนต่อสู้ไม่ใช่ว่าต่อสู้กับเต่าดำ เหมือนในตำราเคยกล่าวไว้ แต่พวกเขาต่อสู้กับพวกสาหร่ายมากกว่า ต่อสู้ไปสักพักใหญ่ๆก็มีพวกจระเข้ขึ้นมาเป็นกองหนุนหลัง จากต่อสู้กันสักพักใหญ่ๆ หนึ่งในกลุ่มจึงคิดได้ว่าตนต้องลงมือกับไข่มุกสีดำ จึงจะหยุดทุกอย่างได้ เป็นดั่งที่บุรุษผู้นั้นคิดจริงๆ เพราะตอนที่ต่อสู้ไป เขาก็พึ่งไปหยิบไข่มุกสีดำทุกอย่างก็สลายหายไปทันที"พวกเจ้าได้ไข่มุกสีดำแห่งบรรพกาลนี้แล้วก็รีบออกไปเถอะ ในเมื่อในที่นี้ไข่มุกแห่งบรรพกาลสีฟ้าถูกหยิบออกไปแล้ว ครั้งนี้คงเป็นโอกาสที่เหมาะแล้วที่ไข่มุกทั้งสี่จะได้ไปอยู่ตำแหน่งที่พวกมันต้องอยู่เสียที ข้าขอให้พวกเจ้าทำให้สำเร็จก็แล้วกัน"เต่าดำกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทาในความชราของมัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไข่มุกบรรพกาลสีแดง

    หลังจากที่จินเป่าบอกให้ทุกคนได้ฟัง ทุกคนก็เกิดความคิดเดียวกันว่าต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จจนได้"งั้นพวกเราก็รีบเดินทางเถอะ พวกเราจะได้รู้จุดที่มันอยู่ในแผนที่เพราะตอนนี้เหมือนเรายังไม่รู้จุดเลย ว่าเราอยู่ตรงจุดใดของแผนที่กันแน่"บุรุษผู้ที่ถือแผนที่กล่าวขึ้น ทุกคนจึงเร่งเดินทาง ตอนนี้ทั้งสิบได้อยู่ในป่าสีเขียวขจี ต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นเต็มไปหมดมีทั้งต้นไม้โบราณที่มองดูแล้วรูปทรงประหลาดตายยิ่งนัก"ต้นไม้เยอะขนาดนี้และมีรูปทรงโบราณเยอะแยะ ไม่ใช่ว่าเราเดินมาทางบึงหนามหรอกหรือ ถ้าเรามาทางบึงหนามเราก็ต้องย้อนกลับแล้วล่ะเพราะว่าทางบึงหนามนั้นไข่มุกบรรพกาลสีดำได้ถูกผู้นำออกไปแล้ว เราจะไปต่อให้แน่ใจหรือว่าจะกลับกันเลย"บุรุษที่ถือแผนที่ กลางแผนที่ออกและกล่าวให้ทุกคนฟัง"ข้าว่าถ้ามันเป็นป่าโบราณแถบๆบึงหนามจริงๆ แล้วพวกเราก็ไปอีกฝั่งเถอะจะได้ไปทางถ้ำเห็นจันทรา เพราะถ้าไปต่อเราอาจเสียเวลาได้"บุรุษผู้หนึ่งที่ ก้มตัวลงมองแผนที่กล่าวขึ้น"แล้วที่เราจะไปก็คือถ้ำหินจันทราใช่หรือไม่ แล้วก่อนจะถึงถ้ำหินจันทรา มีรายละเอียดหรือไม่ว่าเราต้องพบกับจุดใดก่อน เพราะต้นไม้ที่เราเห็นว่าเป็นต้นไม้โบราณ แบบนี้มันลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มังกรฟ้า

    "สู้เถอะ ยังไงเราก็มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าครั้งนี้ไม่สู้ พรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปเราก็ต้องสู้อยู่ดี เดี๋ยวข้าจะมุ่งหน้าไปยังถ้ำหินจันทราเอง"จางหยงกล่าว"งั้นครั้งนี้ข้ากับจางหยงจะมุ่งหน้าไปทางถ้ำหินจันทรา ส่วนทุกคนก็เตรียมพร้อม ข้าฝากดูแลพี่ซิงอีด้วย"จินเป่ากล่าวขึ้น เมื่อลูกแก้วมีความเคลื่อนไหวท่านอาจารย์ที่เฝ้ายามจึงเดินเข้ามาดู ในความเคลื่อนไหวเสียงดังท่านอาจารย์คนอื่นๆจึงเดินเข้ามาตาม"มีอะไรหรือท่านอาจารย์ ทำไมท่านรีบตื่นมายังลูกแก้วจัง"อาจารย์ท่านหนึ่งถามขึ้น"น่าจะมีความเคลื่อนไหวใกล้ๆถ้ำหินจันทราแล้วล่ะ ข้าเห็นนักศึกษาทั้งสิบลุกขึ้นมาคุยกัน หรือว่าพวกนั้นจะลงมือตอนกลางคืน ข้าเองก็ไม่แน่ใจ"อาจารย์ผู้ที่เดินมาดูคนแรกกล่าวขึ้น มาอยู่ใกล้ๆลูกแก้วแล้วก็เห็นเหมือนเงาดำๆ ที่อยู่รอบนอกในรัศมีใกล้ๆกับลูกศิษย์ของพวกตน"พวกลูกศิษย์เล่านั้นน่าจะรู้แล้วล่ะว่ามีอันตรายเข้ามา จึงลุกขึ้นมาวางแผนกัน แต่ดูเงานั่นสิมากมายมหาศาลเสียเหลือเกิน แล้วครั้งนี้พวกนักศึกษาจะต้านได้หรือไม่นะ"อาจารย์ผู้หนึ่งกล่าวขึ้นทางด้านถ้ำหินจันทราเมื่อทุกคนเตรียมการกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตกลงทำตามแผน"ย้ำกับท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไข่มุกบรรพกาลสีเขียว

    กระต่ายหยกโพล่ขึ้นมาหลังจากแสงสีเขียวจากมือจินเป่าละลายหายไป แสงสว่างได้ก่อตัวขึ้นทันทีที่กระต่ายหยกออกมา มังกรฟ้าที่แก่ชราหลับตาปีด้วยความแสบตา ทันใดนั้นเจ้ากระต่ายหยกพ่นน้ำอมฤตใส่มังกรชราทันที ครั้นที่ผิวหนังอันหยาบกร้านของมังกรชราต้องกับน้ำอมฤตก็เป่งประกายขึ้น ความเย็นถาโถมเข้ามา พละกำลังมหาศาลถาโถมเข้ามาสู่มังกรชรา"เจ้ามนุษย์เจ้าเล่นกลอันใดกับข้า"มังกรฟ้ากล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทาด้วยความชรา ปนเสียงดีใจไม่น้อย เพราะร่างกายที่เคยหนักอื้อตอนนี้ผ่อนคลายลงไม่น้อย มันค่อยๆลืมตาและมองไปรอบๆตัวของมันเอง"สิ่งนี้ข้าขอมอบให้ท่านด้วยใจเพื่อแลกกับไข่มุกบรรพกาลสีเขียว และอีกไม่เกินเจ็ดวัน ข้าจะต้องปลดปล่อยสัตว์อสูรที่ทำหน้าที่ดูและหุบเขาบรรพกาลแห่งนี้ให้จงได้ ได้โปรดยกไข่มุกบรรพกาลสีเขียวให้พวกข้าด้วยเถอะ"จินเป่ากล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน และพยายามคิดที่จะใช้คำพูดไหนดีที่จะเกลี้ยกล่อมมังกรชราดี"ข้าหวังว่ามันจะเป็นความจริง รับไปเถอะ"จินเป่ารีบวิ่งไปยังรังฟางหญ้า ที่ไข่มุกบรรพกาลสีเขียววางอยู่ แสงสีน้ำเงินพุ่งออกมาเก้าสายก่อเกิดเป็นมังกรฟ้าตัวมหึมาเก้าตัว นางคิดไว้ไม่มีผิด ถึงแม้เจ้ามังกรฟ้าชร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แย่งกันเข้าก่อน

    หลังจากที่นักศึกษาสำนักพระจันทร์เสี้ยวกับสำนักศึกษาพายัพ มารอนักศึกษาสำนักตะวันเลือนเพียงวันเดียว นักศึกษาจากสำนักตะวันเลือนก็มาถึงกลางหุบเขาบรรพกาลแล้ว หลังจากการเร่งเดินทางมายังกลางหุบเขานั้นเหนื่อยมาก จึงทำให้ทั้งสิบคนหาที่พักผ่อนทันทีที่มาถึง พอนักศึกษาทั้งสองกลุ่มเห็นนักศึกษาสำนักตะวันเลือนหลับสนิทจึงลงมือ ค้นหาไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าและไข่มุกบรรพกาลสีเขียว ทุกคนคิดว่าไข่มุกบรรพกาลทั้งสองต้องอยู่กับจินเป่า จึงลงมือค้นตัวจินเป่าเป็นคนแรก แต่ยังไม่ทันได้ค้นตัวจินเป่า สัญชาตญาณระวังภัยของจินเป่าก็ทำให้นางรู้สึกตัว และซัดผู้ที่เข้าใกล้ตนอย่างรวดเร็ว คนผู้นั้นกระเด็นไปไกลพอสมควร และกระอักเลือดออกมาทันที ทำให้ทุกคนที่นอนหลับตื่นกันหมด ทางด้านนักศึกษาของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกับสำนักพายัพเตรียมตัวอยู่แล้วจึงจับนักศึกษาสตรีของกลุ่มสำนักตะวันเลือน"นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น พวกเจ้าทำอะไรกัน"จางซินที่ถูกจับไว้ถามขึ้น"เจ้าบอกให้หัวหน้าเจ้าส่งไข่มุกบรรพกาลสีฟ้ากับสีเขียวมาให้พวกข้าแล้วพวกข้าจะคืนนักศึกษาสตรีสามผู้นี้คืนแก่เจ้า"บุรุษผู้หนึ่งที่เป็นนักศึกษาของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกล่าวขึ้น"อย่าบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พ่ายแพ้

    ผลสุดท้ายกลุ่มสำนักศึกษาพายับก็พ่ายแพ้ให้ความหน้าหนาของกลุ่มสำนักศึกษาพระจันทร์เสี้ยว ถึงอย่างไรดูแล้วหัวหน้ากลุ่มพระจันทร์เสี้ยว ตงเจียวมิ่งก็ไม่ใช่ผู้นำที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะในการถกเถียงกันครั้งนี้นางได้แต่ยืนฟังบุรุษผู้หนึ่งของสำนักพระจันทร์เสี้ยวเป็นคนออกความคิดเห็นเท่านั้น ดูแล้วผู้นำของสำนักพระจันทร์เสี้ยวก็คงจะเป็นบุรุษ และผู้นำของสำนักศึกษาตะวันเลือนก็น่าจะเป็นบุรุษเช่นเดียวกัน เพราะไข่มุกทั้งสองถูกบุรุษผู้นั้นเก็บเอาไว้และบุคคลผู้นั้นน่าจะเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในกลุ่มด้วย มีแต่สตรีที่อยู่ในกลุ่มของตนเท่านั้นที่เป็นผู้ทำหน้าที่ เข้าไปในกลางหุบเขาบรรพกาลและยังเป็นหัวหน้าอีกด้วย ดังนั้นการที่ใครเข้าก่อนเข้าหลังก็ไม่สำคัญ จะสำคัญที่หัวหน้าของพวกเขา มู๋ลี่อินน่าจะเก่งกาจกว่าสตรีทั้งสองของสองสำนักเป็นแน่ "คนพวกเจ้าอยากเข้าก่อนก็เข้าไปเถอะ ยืนเถียงกันอยู่แบบนี้ก็จะหมดเวลาเสียป่าวๆ ถึงจะเข้าก่อนเข้าหลังก็ไม่สำคัญหรอกมันสำคัญที่ใครเก่งกว่าก็เท่านั้น"มู๋ลี่อินกล่าว พลางพาสหายร่วมสำนักไปพักที่ใต้ร่มไม้ใหญ่"พวกนั้นมันว่าเรา เราจะยอมไม่ได้"ตงเจี้ยวมิ่งกล่าวขึ้นอย่างเดือดดาลพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มิตินิมิตร

    "ข้าว่าพวกเรายังอยู่ที่เดิมนะ เพราะพวกเราก็อยู่ในทะเลเหมือนเดิม"ห่าวอู๋มู่ลี่กล่าวขึ้น"เราเดินไปในป่าสักนิดนึงแล้วเราค่อยพักเถอะอยู่แถวนี้มันอันตรายเกินไปเพราะจุดนี้จะเป็นทางเข้าทางออกจากนิติแห่งนี้และก็มีคนรู้จักที่นี้พอสมควรด้วย"จางหยงกล่าวขึ้นเพราะว่าพวกตนเคยมามิตินิมิตรแล้ว จึงชวนทุกคนเข้าไปพักในป่าจะดีกว่า ทุกคนจึงลากตัวเองขึ้นจากน้ำและเดินโซซัดโซเซขึ้นไปในป่าเมื่อเข้าไปในป่าก็พบกับต้นไม้ใหญ่สองต้นเหมือนเป็นทางเข้าพวกเขาทั้งหกจึงมุ่งไปทางต้นไม้ใหญ่ เมื่อพ้นจากต้นไม้ใหญ่ทั้งสองต้นนั้นแล้วความรู้สึกเหมือนไอวิเศษ พุ่งเข้ามาในร่างกายของคนทั้งสี่คน เป็นไอวิเศษที่มีแรงกดดันมหาศาล ซึ่งแรงกดดันนี้จางซินกับจางหยงจับถึงความผิดปกติไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งสี่คนจึงทรุดตัวลงแล้วนั่งขัดสมาธิเพื่อที่จะขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายใน ขนาดยืนพวกเขาทั้งสี่ยังลำบากแล้วจะให้เดินทางไปยังมิติเชื่อมจิตได้อย่างไร ระหว่างมิติสามัญกับมิตินิมิตรแห่งนี้ช่างมีไอวิเศษที่แตกต่างกันมากนัก ทั้งสี่คนนั่งขับเคลื่อนวรยุทธภายในใช้เวลาเราสองกานธูปทั้งสี่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาไอวิเศษที่กดดันพวกเขามานั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลื่อนวรยุทธแต่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เขาวงกต

    เมื่อทั้งสองเดินมาตรงจุดพักที่อยูไกลสายตา แถบนี้คือทะเลทรายถ้ามองเองก็ไม่ค่อยชัดเจน นางจึงสั่งให้กระต่ายหยกทำงานอย่างเคย กระต่ายหยกแปลงร่างเป็นแมลงตัวเล็กๆอยู่บริเวณนั้นนานแล้ว มันจึงสื่อมาว่าจางซินรักษาทั้งสองเพียงคนเดียว และตอนนี้พลังของนางน่าจะน้อยลงทำให้จางหยงถ่ายทอดพลังช่วยนาง"การรักษาด้วยพลังรักษาด้วยมิติมันหนักหนาเลยหรือ"จินเป่าถามห่าวอู๋อวี่"หากรักษาคนต่อคนก็ไม่ยากเย็นหรอก แต่ถ้ารักษาสองคนแล้วมีผู้รักษาเพียงคนเดียว ก็ต้องอาศัยพลังวรยุทธของคนอื่นร่วมด้วยทำไมหรือ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวให้ฟังและถามขึ้น"ป่าวหรอกก็แสดงว่าจางหยงไม่มีมิติธาตุนะ เรารอสักหน่อยค่อยกลับดีกว่า"จินเป่ากล่าวขึ้น พอรอให้การรักษาสมบูรณ์แล้วทั้งสองก็กลับจุดพัก"ไม่เจอพวกนั้นเลยหรืออาจเป็นเพราะเรามองไม่เห็นมัน แล้วมันไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆหรือป่าวจึงไม่พบรังมัน"จินเป่ากล่าวขึ้น พลางมองหน้าซิงอี"พวกเจ้าหายารักษาทั้งสองได้แล้วหรือดีจังเลย งั้นเดียววันนี้ข้าเตรียมอาหารให้นะ"จินเป่ากล่าวและเตรียมอาหารให้ทุกคน ปกตินางเป็นคุณหนูสามไม่ได้ทำสิ่งใด เลยสักอย่าง แต่ร่างเดิมของนางต้องทำเองทุกอย่างจึงทำให้นางเก่งเรื่องอาหา

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ทะเลทรายไร้ดางอาทิตย์

    หลังจากที่ทุกคนกินปลาย่างเสร็จจางซินและจางหยงยืนยันที่จะเดินทางต่อเลยทุกคนจึงตกลงที่จะเดินทางต่อ"ถ้าเรายังไม่เดินทางต่อนะตอนนี้ข้าเกรงว่าคนที่อยู่มิติเชื่อมจิตจะไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียวที่ตามพวกเราอยู่ในเมืองตะวันน่ะสิ ข้ากลัวว่าจะมีคนหลายกลุ่มเลยแหละ เพราะฉะนั้นเรารีบเดินทางต่อเถอะ เราเดินทางไปถ้าเราเหนื่อยก็พักเพราะทะเลทรายไร้กลางคืนแห่งนี้จะไม่มีทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ใช้เวลาที่เราเหนื่อยก็แล้วกัน ทสำหรับการหยุดพักของพวกเรา"จางหยงกล่าวขึ้น และทั้งสี่ก็เดินทางต่อไป"ข้าออกมาจากป่าม่านได้อย่างไรกันหรือซิงอี "จางซินถามขึ้น"คุณชายใหญ่แบกเจ้ามานะสิ เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเจ้าหนักมากเลย คุณชายใหญ่แบบเจ้าแทบไม่ไหวด้วย เขาแบกเจ้าถายในหนึ่งวันก็ต้องพักตั้งหลายรอบแหนะ"ซิงอีเองก็แกล้งแหย่พี่สาวเล่นๆ ทำให้คนเดินร่วมทางรู้สึกขำขันไปด้วย ทำให้จางซินเองถึงกับหน้าแดงเลยทีเดียว"คุณชายใหญ่ต้องขอขอบคุณท่านมากนะ ที่ท่านช่วยแบกข้ามา แต่ท่านไม่ได้คิดฉวยโอกาสกับข้าใช้ไหม ท่านแบกข้าตั้งหนึ่งวันแนะ"จางซินกล่าวขึ้น"ใครจะคิดฉวยโอกาสกับเจ้ากัน เป็นข้

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เดินทางต่อ

    พอรุ่งเช้าทั้งสี่ก็ออกเดินทาง ห่าวอู๋มู๋ลี่เองอุ้มจางซิน ห่าวอู๋อวี่ก็แบกจางหยงขึ้นหลัง และเดินทางด้วยเท้าเพียงแค่สองวันก็พบกับทางออกจากป่าแล้ว ในแผนเดิมก็คือถ้าพ้นจากป่าจะให้นกฟีนิกซ์ของจางซิน พาพวกเขาไปแต่ตอนนี้นางสลบอยู่ถ้าจะรอก็กลัวจะเสียเวลาและพวกเขายังมีศัตรูตามไล่ล่าอีก"เอาแบบนี้ก็แล้วกันครั้งนี้ให้อีแร้งยักษ์ของท่านพี่มู๋ลี่พาพวกเราไปก่อน เพราะสองคนนี้ฟื้นขึ้นมาค่อยดูอีกทีว่าจะทำเช่นไรตอนนี้เราแค่มุ่งหน้าไปทางเหนือก็เท่านั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ห่าวอู๋มู๋ลี่ก็ปล่อยอีแร้งยักษ์ออกมา"ข้าจำเป็นต้องใช้เจ้าในการเดินทาง ให้เจ้าพุ่งไปแค่ทางทิศเหนืออย่างเดียวและถ้าจุดใดที่จะเป็นอันตรายแก่ตัวเจ้า ให้เจ้าลงจอดพวกเราต้องเดินทางเท้าเจ้าก็ห้ามฝืนตัวเองเด็ดขาด ถ้าเจ้าเหนื่อยก็พักได้ทุกเมื่อ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวกับสัตว์อสูรในพันธสัญญาของตัวเอง และกระโดดขึ้นไปบนหลังของมันเพื่อรอรับสหายที่สลบทั้งสองคน จินเป่ากับห่าวอู๋อวี่ก็ดันจางซินขึ้นไปด้านบนก่อนและช่วยกันพลักจางหยงขึ้นไปตาม และคนที่เหลือก็ปีนขึ้นไป พอทุกคนขึ้นไปบนหลังอีแร้งยักษ์แล้วมันก็ถลาขึ้นไปบนอากาศทันที ห่าวอู๋มู๋ลี่เองก็เป็นห่วงสัต

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รักษาพิษของคางคกยักษ์

    "เจ้านาย เจ้านายลืมไปหรือป่าวว่าทุกคนทั้งสี่ที่ไม่เป็นอะไรเพราะในเลือดของทุกคนมีผลหลิวต้องแสงจันทร์ "เจ้ากระต่ายหยกสื่อให้เจ้านายรับรู้"อ่อใช้สิ่งที่จะถอนพิษได้ทุกพิษและไม่เป็นอันตรายด้วยคือผลหลิวต้องแสงจันทร์ และที่พวกท่านไม่เป็นอะไรเพราะในร่างกายมีฤทธิ์ต้านพิษของผลหลิวต้องแสงจันทร์อยู่นะสิ"จินเป่ากล่าวขึ้นพลางแบมือนำผลหลิวต้องแสงจันทร์ที่ตัดเป็นชิ้นๆแช่น้ำอมฤตไว้ออกมา ให้พี่ซิงอีหนึ่งขวด นางรีบนำไปให้จางหยงดื่มทันที จินเป่าจึงนำไปค่อยๆป้อนให้จางซิน โดยหยดน้ำอมฤตใส่ปากทีละน้อยและหยิบชิ้นของผลหลิวต้องแสงจันทร์ออกมาปีบเอาน้ำใส่ปากของนางให้หมด และฉีกเนื้อของผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นชิ้นเล็กๆป้อนให้นาง อาจจะเพราะความหวานความหอมของผลหลิวทำให้จางซินยอมที่จะกินลงไป ซิงอีเห็นนางทำก็ทำตามบ้าง"ตอนนี้เราก็ต้องรอเวลาอีกสามวันสองคนนี้ถึงจะตื่น เอาแบบนี้วันนี้เราก็ย่างปลากินกันก่อนนะ แล้วค่อยคิดกันไหม ทั้งสองคนข้าว่าดีขึ้นมากแล้วล่ะดูสีหน้าไม่ได้ซีดเซียวอีกแล้ว"จินเป่ากล่าวขึ้น ห่าวอู๋มู๋ลี่จึงก่อไฟด้วยตัวเอง"อวี่เจ้าเห็นไหมพี่ก่อไฟด้วยตัวเองได้ด้วยนะ สิ่งที่เราไม่เคยได้ทำมาก่อน"ห่าวอู๋มู๋ลี่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ปลาหลี่จิ๋ว

    "เจ้าอยู่ที่ใดกันกระต่ายหยก ทำไมพวกข้าเข้าไปข้างในไม่ได้ มีเงามาโจมตีพวกข้า ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงาอะไรมันเร็วมาก"จินเป่าสื่อกับกระต่ายหยกโดยที่นางไม่ได้ขยับเขยื่อนตัวเลยสักนิดเพราะกลัวว่าเงานั้นจะโจมตีอีก เพราะระหว่างที่เงานั้นประทะกับห่าวอู๋อวี่เมื่อครู่นางรู้สึกเวียนหัวกับแรงกดดันนั้นมาก"เจ้านายน้ำอมฤตช่วยให้เจ้านายเข้ามาในด้านนี้ได้เร็วมากขึ้น ท่านไม่ต้องไปต่อสู้กับเงาของพวกนั้น เพียงท่านสาดน้ำอมฤต ไปอีกฝั่งแล้วท่านก็เข้ามากันได้เลย พวกนั้นมันเป็นพวกเงือกแต่หน้าตามันไม่ได้สะสวยเหมือนที่พวกท่านคิดหรอกนะ อย่าได้เห็นมันเลยจะดีกว่าใช้น้ำอมฤตนะเจ้านาย"เจ้ากระต่ายหยกสื่อสารพรางมองหน้าของปลาหลี่จิ๋ว ที่ทำปากจู๋อยู่ พอจินเป่ารู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจับมือห่าวอู๋อวี่และพยักหน้า มือข้างหนึ่งปล่อยน้ำอมฤตและอีกข้างก็กระตุกมือห่าวอู๋อวี่ เมื่อนางปล่อยน้ำอมฤตแล้วก็มีเงาดำพุ่งมาที่น้ำอมฤตนั้น แต่นางไม่ทันได้สังเกตุนางเงือกที่เจ้ากระต่ายหยกกล่าวขึ้นก็ถูกห่าวอู๋อวี่ลากตัวลงไปเสียก่อน และตอนนี้ก็เจอกับกระต่ายหยกที่กำลังมองหน้าปลาหลี่จิ๋วตัวสีขาวน่ารักนั้นอยู่ กระต่ายหยกของนางแม้มันจะบรรลุขั้นศักดิ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คางคกพิษ

    แสกสาก แสกสาก เจ้าคางคกตัวใหญ่สี่ม่วงเข้มค่อยๆเดินออกมาจากป่า มือข้างหนึ่งของมันถือสิ่งคล้ายๆกระบองตรงปลายมีหนามๆออกมา และตรงหัวของพวกมัน มีสิ่งแหลมๆเหมือนงาช้างไม่ผิด และด้านหลังเหมือนจะมีหน่อออกมาสามอัน แต่ละอันแหลมคมมาก ลายที่ตัวเหมือนลงอักขระยันต์อะไรซักอย่าง เดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งหกอย่างช้าๆ และอยู่ก็มีเสียงเดินตุบ ตุบ ตุบตุบ มาและสิ่งที่เห็นก็คือร่างของคางคกอีกตัว แต่มีลักษณะที่ใหญ่กว่าตัวที่อยู่กลุ่มที่เดินเข้ามาหาพวกนางก่อนหน้านี้ ใหญ่กว่าเป็นหนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียวและมือที่ถือกระบองนั้นไม่ใช่กระบองธรรมดาอีกแล้วเป็นกระบองที่ตรงปลายเป็นหัวกระโหลกสัตว์ชนิดหนึ่ง"แม่นางจินเป่าเจ้าคิดว่าเงียบเหงาไม่ใช่หรือ นี่เป็นทางออกของเจ้าแล้วนะ ที่เจ้าจะได้ไม่เหงาอีกต่อไป แต่ข้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราจะรอดหรือไม่ เพราะตอนข้ากับซินเออร์มาไม่ได้พบเจออะไรอย่างนี้ด้วย เอาอย่างไรดีล่ะ ที่นี่หายตัวก็ไม่ได้ เหาะก็ไม่ได้เสียด้วย แถมเหมือนถูกกดพลังไว้อีกต่างหาก"ห่าวอู๋มู่ลี่กล่าว ทั้งหกคนยื่นหันหลังชนกันเพื่อป้องกันการที่คางคกพิษจะเข้ามาทำร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง "ลงมือก่อนได้เปรียบ เอาเลย"จินเป่ากล่าวพลา

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ป่าม่าน

    ทางด้านทั้งหกคนเมื่อออกจากเมืองตะวันและหยุดพักเป็นเวลาหนึ่งคืนพอตอนเช้าก็รีบเดินทางต่อโดยใช้ทางเท้า พวกเข้าทั้งหกเข้าไปในป่าใหญ่ ที่ไม่ค่อยรกสักเท่าไหร่"ป่าแห่งนี้ชื่อว่าอะไรหรือและเราจะต้องเดินทางเท้ากี่วันกัน"จินเป่าถามขึ้นขณะเดินเข้าป่าได้สักหนึ่งก้านธูป ก็รู้สึกเหนื่อยหอบ เหงื่องไหลท่วมตัว"เดินเพียงหนึ่งก้านธูปเจ้าก็ทนไม่ได้แล้วหรือ ข้าเห็นตอนที่พวกเราเรียนอยู่ที่สำนักตะวันเลือน เจ้าก็เดินป่าออกจะบ่อย แถมแข็งแรงกว่าใครๆเสียอีก หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าอุ้มกันนะ หรือจะขึ้นหลังข้าดี"ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้นอย่างยิ้มๆ"คุณชายสี่ก็เหมือนผู้ที่ติดตามพวกเราจังเลยนะ เพราะเวลาที่พวกเราเดินป่าพวกเราก็ไปกันเพียงสี่คน แต่คุณชายสี่เหมือนจะรู้ดีมากเลย"จางซินถามแบบยิ้มๆเช่นกัน"ป่าแห่งนี้คือป่าม่าน เราจะบินผ่านหรือหายตัวผ่านไม่ได้เด็ดขาด ม่านก็แปลว่าช้าลง เราจะใช้เวลาอย่างน้อยก็สามวัน ถึงจะผ่านพ้นป่านี้ไปได้ และเราจะใช้สัตว์อสูรกันอีกครั้ง ตอนที่พวกขามาก็ไม่พบสิ่งใดที่น่ากังวลสักเท่าไหร่ พบแต่สัตว์อสูเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"จางหยงกล่าวให้ทุกคนฟัง"ท่านพี่ข้ากำลังจะตอบอยู่แล้วเชียว ท่านพี่แย่งข้าตอบตลอด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หมั้นหมาย

    "ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นเลยทำไมถึงเป็นแบบนี้แล้วทำไมคนถึงเฝ้าเยอะแยะขนาดนี้มันเป็นเพราะสิ่งใด ไปจับผู้หนึ่งผู้ใดมาสอบถามให้มันรู้เรื่อง พินิจจิตใจมันเลยไม่ต้องถามอะไรให้มันมากกว่า"บุรุษผู้หนึ่งที่อยู่ในมิติเชื่อมจิตกล่าวขึ้น พอบังคับจับบุรุษผู้หนึ่งมาได้ก็พินิจจิตใจทันที ผู้นั้นเป็นบ่าวรับใช้ของคุณชายใหญ่ และในสมองของเขาก็ไม่รู้อะไรเลยรู้เพียงว่าทั้งหกนั้นได้เข้ามาในถ้ำแห่งนี้ พวกนั้นขนหีบของมามากมาย และไม่ได้ออกมาอีกเลย“แล้วของกับคนมันหายไปได้อย่างไรกันนะ หาคนที่มีความรู้มากกว่านี้หน่อยเถอะเอาคนที่รู้จักถ้ำแห่งนี้ ไม่งั้นก็หัวหน้าอ่ะ”บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น ลูกน้องจึงไปนำตัวคนมาใหม่ จึงได้ความเพิ่มเติมว่าคุณชายสี่สามารถพาทุกคนออกจากถ้ำนี้ได้โดยอีกาดำสามขาที่เป็นผู้เฝ้าที่นี่ และทั้งหกน่าจะไปได้นานแล้ว"อย่างน้อยเราก็ได้รู้แล้วว่า พวกนั้นหายไปนานแล้ว ไม่ได้อยู่ในเมืองนี้นานแล้ว ขนาดหัวหน้าตระกูลห่าวอู๋เองนั้น ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบุตรและสหายพวกนั้นหายไปไหน เป็นดังที่แม่นางผู้นั้นกล่าวจริงๆเอาแบบนี้พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวออกเดินทางไปจากที่นี่เถอะ พวกนั้นน่าจะรู้ตัวแล้ว และรีบหนีไปแต่ข

DMCA.com Protection Status