หน้าหลัก / แฟนตาซี / ให้ชะตากรรมนำทาง / ไข่มุกบรรพกาลสีเขียว

แชร์

ไข่มุกบรรพกาลสีเขียว

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 21:42:59

กระต่ายหยกโพล่ขึ้นมาหลังจากแสงสีเขียวจากมือจินเป่าละลายหายไป แสงสว่างได้ก่อตัวขึ้นทันทีที่กระต่ายหยกออกมา มังกรฟ้าที่แก่ชราหลับตาปีด้วยความแสบตา ทันใดนั้นเจ้ากระต่ายหยกพ่นน้ำอมฤตใส่มังกรชราทันที ครั้นที่ผิวหนังอันหยาบกร้านของมังกรชราต้องกับน้ำอมฤตก็เป่งประกายขึ้น ความเย็นถาโถมเข้ามา พละกำลังมหาศาลถาโถมเข้ามาสู่มังกรชรา

"เจ้ามนุษย์เจ้าเล่นกลอันใดกับข้า"

มังกรฟ้ากล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทาด้วยความชรา ปนเสียงดีใจไม่น้อย เพราะร่างกายที่เคยหนักอื้อตอนนี้ผ่อนคลายลงไม่น้อย มันค่อยๆลืมตาและมองไปรอบๆตัวของมันเอง

"สิ่งนี้ข้าขอมอบให้ท่านด้วยใจเพื่อแลกกับไข่มุกบรรพกาลสีเขียว และอีกไม่เกินเจ็ดวัน ข้าจะต้องปลดปล่อยสัตว์อสูรที่ทำหน้าที่ดูและหุบเขาบรรพกาลแห่งนี้ให้จงได้ ได้โปรดยกไข่มุกบรรพกาลสีเขียวให้พวกข้าด้วยเถอะ"

จินเป่ากล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน และพยายามคิดที่จะใช้คำพูดไหนดีที่จะเกลี้ยกล่อมมังกรชราดี

"ข้าหวังว่ามันจะเป็นความจริง รับไปเถอะ"

จินเป่ารีบวิ่งไปยังรังฟางหญ้า ที่ไข่มุกบรรพกาลสีเขียววางอยู่ แสงสีน้ำเงินพุ่งออกมาเก้าสายก่อเกิดเป็นมังกรฟ้าตัวมหึมาเก้าตัว นางคิดไว้ไม่มีผิด ถึงแม้เจ้ามังกรฟ้าชร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แย่งกันเข้าก่อน

    หลังจากที่นักศึกษาสำนักพระจันทร์เสี้ยวกับสำนักศึกษาพายัพ มารอนักศึกษาสำนักตะวันเลือนเพียงวันเดียว นักศึกษาจากสำนักตะวันเลือนก็มาถึงกลางหุบเขาบรรพกาลแล้ว หลังจากการเร่งเดินทางมายังกลางหุบเขานั้นเหนื่อยมาก จึงทำให้ทั้งสิบคนหาที่พักผ่อนทันทีที่มาถึง พอนักศึกษาทั้งสองกลุ่มเห็นนักศึกษาสำนักตะวันเลือนหลับสนิทจึงลงมือ ค้นหาไข่มุกบรรพกาลสีฟ้าและไข่มุกบรรพกาลสีเขียว ทุกคนคิดว่าไข่มุกบรรพกาลทั้งสองต้องอยู่กับจินเป่า จึงลงมือค้นตัวจินเป่าเป็นคนแรก แต่ยังไม่ทันได้ค้นตัวจินเป่า สัญชาตญาณระวังภัยของจินเป่าก็ทำให้นางรู้สึกตัว และซัดผู้ที่เข้าใกล้ตนอย่างรวดเร็ว คนผู้นั้นกระเด็นไปไกลพอสมควร และกระอักเลือดออกมาทันที ทำให้ทุกคนที่นอนหลับตื่นกันหมด ทางด้านนักศึกษาของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกับสำนักพายัพเตรียมตัวอยู่แล้วจึงจับนักศึกษาสตรีของกลุ่มสำนักตะวันเลือน"นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น พวกเจ้าทำอะไรกัน"จางซินที่ถูกจับไว้ถามขึ้น"เจ้าบอกให้หัวหน้าเจ้าส่งไข่มุกบรรพกาลสีฟ้ากับสีเขียวมาให้พวกข้าแล้วพวกข้าจะคืนนักศึกษาสตรีสามผู้นี้คืนแก่เจ้า"บุรุษผู้หนึ่งที่เป็นนักศึกษาของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกล่าวขึ้น"อย่าบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พ่ายแพ้

    ผลสุดท้ายกลุ่มสำนักศึกษาพายับก็พ่ายแพ้ให้ความหน้าหนาของกลุ่มสำนักศึกษาพระจันทร์เสี้ยว ถึงอย่างไรดูแล้วหัวหน้ากลุ่มพระจันทร์เสี้ยว ตงเจียวมิ่งก็ไม่ใช่ผู้นำที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะในการถกเถียงกันครั้งนี้นางได้แต่ยืนฟังบุรุษผู้หนึ่งของสำนักพระจันทร์เสี้ยวเป็นคนออกความคิดเห็นเท่านั้น ดูแล้วผู้นำของสำนักพระจันทร์เสี้ยวก็คงจะเป็นบุรุษ และผู้นำของสำนักศึกษาตะวันเลือนก็น่าจะเป็นบุรุษเช่นเดียวกัน เพราะไข่มุกทั้งสองถูกบุรุษผู้นั้นเก็บเอาไว้และบุคคลผู้นั้นน่าจะเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในกลุ่มด้วย มีแต่สตรีที่อยู่ในกลุ่มของตนเท่านั้นที่เป็นผู้ทำหน้าที่ เข้าไปในกลางหุบเขาบรรพกาลและยังเป็นหัวหน้าอีกด้วย ดังนั้นการที่ใครเข้าก่อนเข้าหลังก็ไม่สำคัญ จะสำคัญที่หัวหน้าของพวกเขา มู๋ลี่อินน่าจะเก่งกาจกว่าสตรีทั้งสองของสองสำนักเป็นแน่ "คนพวกเจ้าอยากเข้าก่อนก็เข้าไปเถอะ ยืนเถียงกันอยู่แบบนี้ก็จะหมดเวลาเสียป่าวๆ ถึงจะเข้าก่อนเข้าหลังก็ไม่สำคัญหรอกมันสำคัญที่ใครเก่งกว่าก็เท่านั้น"มู๋ลี่อินกล่าว พลางพาสหายร่วมสำนักไปพักที่ใต้ร่มไม้ใหญ่"พวกนั้นมันว่าเรา เราจะยอมไม่ได้"ตงเจี้ยวมิ่งกล่าวขึ้นอย่างเดือดดาลพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภารกิจสำเร็จ

    ร่างของตงเจียวมิ่งลอยคว้างในอากาศ จนเกือบถึงทางออกนอกซากปรักหักพัง นางกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง พอมองออกไปก็เหมือนว่าทางเข้าจะพังทลายลงนางจึงรีบลุกขึ้น และเก็บไข่มุกทั้งสี่และเดินออกไปอย่างอิดโรย "ออกมาแล้ว ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นก็แสดงว่าไม่สำเร็จ เอาไข่มุกมานี้ มู๋ลี่อินของพวกข้าจะได้เข้าไป"บุรุษในกลุ่มสำนักพายับกล่าวขึ้น และขว้าถุงมิติมา"เจ้าได้เข้าไปคนแรกก็ควรจะแสดงน้ำใจบอกสหาย ผู้ที่เข้าที่หลังนะว่าเจอสิ่งใดบ้าง "จางซินที่พึ่งตื่นจากการพักผ่อน และออกมมาดูสถานการกล่าวกับตงเจี้ยวมิ่ง"ถ้าคนที่เข้าไปก่อนต้องบอกคนที่เข้าที่หลัง ข้าว่าภารกิจนี้พวกเจ้าน่าจะจงใจเข้าที่หลังแล้วล่ะ จะได้รู้ว่ามีสิ่งใดข้างในเป็นแน่ ครั้งนี้พวกเจ้าก็แผนสูงนี้เอง"สหายจากสำนักพระจันทร์เสี้ยวกล่าว"จะเข้าคนแรกหรือคนสุดท้ายสำคัญที่ใดกัน สหายของพวกเจ้าไม่ได้เรื่องเองต่างหาก ไม่บอกผู้อื่นแล้วใครจะไปสนล่ะ จางซินเจ้าไม่ต้องไปถามนางหรอก ข้าว่านางน่าจะได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เข้าไปด้านในแล้วล่ะ เพราะนางน่าจะใช้วรยุทธในการขับเคลื่อนตัวเข้าไปแล้วอาจจะสลบไปเข้าไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ"จินเป่ากล่าวเพื่อลองเชิง"นาง นางรู้ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หุบเขาบรรพกาลไร้ซึ่งอาถรรพ์เสียแล้ว

    นักศึกษาทุกคนก็หลุดออกจากหุบเขาบรรพกาลมาโผล่ยังจุดที่พวกเขาทุกคนถูกส่งตัวไปยังหุบเขาบรรพกาลที่ลานกว้างนั้น เสียงบรรดาอาจารย์และผู้คนที่อยู่ข้างนอกวิ่งมาดูนักศึกษากันวุ่นวาย"สำเร็จแล้วพวกเจ้าทำสำเร็จแล้ว "เหล่าอาจารย์ทั้งหลายที่วิ่งมาด้วยความดีใจ พลางมองลูกศิษย์ทุกคน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังไม่หายดีก็จะมีเพียงสองคน มู่ลี่อินกับตงเจี้ยวมิ่งเท่านั้น"ดี ดีมาก ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ "ปรมาจารย์สตรีสำนักพระจันทร์เสี้ยวกล่าวพลางเดินเข้าไปประคองตงเจี้ยวมิ่ง "ถ้านักศึกษาของสำนักพระจันทร์เสี้ยวกับนักศึกษาของสำนักพายัพไม่ได้เข้าไปก่อนก็คงจะไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ หากพวกเจ้าทำตามกฎกติกาตั้งแต่ทีแรก พวกเจ้าก็ไม่ต้องเจ็บถึงเพียงนี้ก็เป็นได้ ครั้งนี้อาจจะเป็นบทเรียนของพวกเจ้า แต่ถามว่าพวกเจ้าต้องถูกทำโทษไหมแน่นอน กลับไปที่สำนักข้าจะให้อาจารย์ประจำกลุ่มพวกเจ้าทำโทษพวกเจ้าเอง แล้วที่พวกเจ้าทำอะไรกล่าวอะไรลงไปด้านในอย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดรู้ผู้ใดเห็น เพราะด้านนอกมีลูกแก้วคอยสอดส่องอยู่ อาจารย์ทุกคนเห็นพฤติกรรมของพวกเจ้าทุกๆคน ภารกิจนี้คือต้องรวมใจกันเพื่อที่จะเข้าไปกลางหุบเขาและเปิดหีบ ไม่ใช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   บทสรุปของหุบเขาบรรพกาล

    นักศึกษาสตรีทั้งสองคนของสำนักตะวันเลือน ยืนดูทั้งสองคนและร้องเรียกด้วยความตกใจ จางซินเขย่าตัวซิงอีกอย่างแรง ทั้งสองคนตกใจกันหมดนึกว่าทั้งสองเป็นอะไรไป"พวกเจ้าทั้งสองเป็นอะไรไป พวกเจ้าหลับไม่ได้สติอยู่นานเลยทีเดียวพวกข้าตกใจกันหมดแล้ว"จางซินกล่าว"พวกข้าก็คงเหนื่อยจัดเลยหลับไม่รู้เรื่องเลย ปกติเราก็ไม่ได้หลับสนิทขนาดนี้หรอก เราก็ระวังตัวตลอดเวลานั้นแหละ แต่พอมาอยู่ในที่นี่ข้าก็แค่รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยจึงหลับไหลไป ขอโทษพวกทั้งสองคนด้วยนะ"จินเป่ากล่าว จนทำให้จางซิน และเหมยลี่รู้สึกผิดที่ไปปลุกพวกนางเพราะพวกนางน่าจะเหนื่อยมามากแล้ว ถ้าเทียบกับพวกตน ซิงอีเองก็คอยเป็นห่วงแทบนั่งไม่ติดเลย ตอนที่จินเป่าเข้าไปซากปรักหักพังนั้น แถมกลับมาถึงก็เตรียมที่นอนเสื้อผ้าให้จินเป่าอีก ซิงอีเองรู้ว่าจินเป่าเหนื่อยมามาก นางเองก็ดูแลให้น้องสาวสบายขึ้นก็เท่านั้น "พอดีอาหารเสร็จแล้วมีผู้มาตามเราไปกินข้าเลยปลุกพวกเจ้า ไปกินกันก่อนเถอะนะ พวกข้าก็ต้องขอโทษเจ้าทั้งสองที่พวกข้าปลุกพวกเจ้า แต่พวกข้าแค่เป็นห่วงเท่านั้นไปกินข้าวแล้วกลับมาพักผ่อนกันเถอะนะ"จางซินกล่าว และทุกคนก็ไปกินข้าวกัน วันนี้มีอาหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หยกเปลี่ยนสี

    หลังจากกิจกรรมแข่งขันทำภารกิจที่หุบเขาบรรพการ เสร็จสิ้นแล้วนักศึกษาทุกคนที่อยู่ชั้นสูงก็ได้มีชื่อเสียงมากขึ้น หลังจากเรียนจบทุกคนก็แยกย้ายออกไปตามทางของตน ตั้งแต่ที่จบเรื่องหุบเขาบรรพกาลก็ไม่มีผู้ใดเห็นปรมาจารย์ไป๋อวิ้นอีกเลย"จินเป่า ซิงอีเรียนจบแล้วพวกเจ้าจะไปที่ใดกันหรือ" จางซินถามสหาย ซิงอีจึงมองไปยังจินเป่าว่านางจะตอบสิ่งใด"ข้าไม่ปกปิดพวกเจ้าก็แล้วกัน ข้าต้องการตามหาอดีตของพวกข้า ข้าไม่รู้ว่าพวกข้าเป็นใครมาจากไหน ข้าต้องการเดินทางไปมิตินิมิตกับมิติเชื่อมจิตรเพื่อสืบหาที่มาของพวกข้า แล้วพวกเจ้าล่ะต้องการทำสิ่งใดต่อ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าสองคนพี่น้องไม่ใช้คนในมิตินี้"จินเป่ากล่าวขึ้น เพื่อลองเชิง"พวกข้ามาทำตามหาคนกัน พวกเจ้าไม่ใช้คนมิตินี้หรอกหรือ งั้นก็น่าเสียดายนะสิ ข้าว่าข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยเหลือสักหน่อย ช่วยพวกข้าตามหาคนสักหน่อย ถ้าพวกเจ้าต้องการไปมิติอื่นพวกข้าก็ไม่ของรบกวนพวกเจ้าแล้วกัน"จางหยงกล่าวขึ้น"พวกข้าก็นึกว่าพอเรียนจบพวกเจ้าก็จะกลับไปมิติของตัวเอง พวกข้าคิดว่าจะติดตามพวกเจ้าไปด้วย น่าเสียดายจริงๆ พวกข้าก็ต้องหาทางไปกันเองเสียแล้ว"จินเป่ากล่าว"พวกเจ้าต้องการหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ลอบโจมตี

    ฟิว! ปั้ง ฟิว!ปั้ง จางหยงวาดมือออกไปประทะอะไรสักอย่างถึงสองครั้งก็มีเสียงดังทั้งสองครั้งเลย ท่าไม่ดีจินเป่าจึงลากพี่ซิงอีและจางซินมาหลบก่อน"เกิดอะไรขึ้นจางซินพวกนั้นเป็นใครกัน "จินเป่ากระซิบถาม ด้วยเสียงอันแผ่วเบาแต่ร้อนรน"น่าจะพวกที่ตามล่าพวกข้ามาจากมิติเชื่อมจิต เอาแบบนี้เจ้าสองคนหนีไปก่อน ถ้าครั้งนี้ข้ากับพี่ชายมีชีวิตรอดเดียวข้าจะไปตามหาพวกเจ้าทั้งสองที่จวนห่าวอู๋ ที่เจ้าเคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ "จางซินกล่าวกับทั้งสอง และกอดพวกนางทั้งสองแล้วร้องไห้ออกมา "ไม่ได้หรอกข้าจะต้องช่วยพวกเจ้า ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นสหายกัย"จินเป่ากล่าวพลางส่งลี่หลินและสัตว์อสูรของนางกับสัตว์อสูรของห่าวอู๋อวี่ออกมา"พี่ซิงอีท่านให้จางสือยวี่ออกมาดูแลท่านกับจางซินและพวกท่านทั้งสองอยู่ที่นี่รอข้ากลับมา"จินเป่ากล่าวและกระโดดออกไปจากที่กำบังและรวมต่อสู้กับจางหยงทันที จางซินคิดถึงนกฟินิกซ์ของตนจึงปล่อยออกมาสู้กับศัตรู และนางกับซิงอี ก็อยู่เฉยไม่ได้จึงออกมาช่วยสู้ พวกเขามีราวยี่สิบคนหนึ่งในนั้นมีคนที่ถือแส้วิญญาณ สีเลือด ทั้งสองฝ่ายต่างเจ็บไม่ใช้น้อยตอนนี้ สัตว์อสูรงูทั้งสองก็บาดเจ็บหนักเช่นเคย งูเห่าดำจึงตัดส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มนต์ลวงตา

    จางซินพุ่งไปหาพี่ชายของตนอย่างรวดเร็ว บุรุษที่อยู่ด้านหน้าจางซินยิ้มออกมาเล็กน้อย "เปรี๊ยะ ตู้ม"เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นตรงร่างของบุรุษผู้นั้น และร่างบุรุษผู้นั้นแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยน้ำมือของห่าวอู๋มู๋ลี่"เจ้า เจ้าทำอะไรพี่ของข้า กรี๊ดๆๆๆ"เสียงของจางซินกรี๊ดขึ้นและนางก็สลบไป ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนทำให้จินเป่างวนงงไปหมด"คุณชายใหญ่ทำไมถึงทำร้ายเขา เขาคือสหายของข้า ท่านฆ่าเขาได้อย่างไร"จินเป่าตะโกนใส่ห่าวอู๋มู๋ลี่ นางเสียใจไม่ใช่น้อยที่ต้องมาเห็นสหายตายต่อหน้าต่อตา พลางมองไปยังร่างที่แตกกระจายเห็นกระดาษตกอยู่ห้าใบ "ไปตรวจดูรอบๆว่ามีผู้รอดชีวิตหรือไม่จัดการให้หมด "ห่าวอู๋มู่ลี่ออกคำสั่งกับลูกน้องของตน"นั้นมันเป็นมนต์ลวงตา คนจากนิติเชื่อมจิตมันเล่ห์เหลี่ยมยิ่งนัก ข้าก็บอกแล้วไงว่าข้าช่วยเหลือบุรุษผู้หนึ่งกับแม่นางซิงอีแล้ว และบุรุษที่พวกเราเห็นเมื่อกี้ ก็หน้าตาเหมือนบุรุษที่ข้าช่วยเหลือไว้ ซึ่งข้าจำไม่ผิดแน่นอน เพราะบุรุษผู้นั้นลอยมาบนหลังอีแร้งยักษ์ทำให้ข้าตกใจใบหน้าของเขา แล้วเจ้าจะคิดว่าข้าจำผิดได้อย่างไร หนึ่งคนอยู่ในที่ที่เดียวกันสองที่ไม่ได้หรอก และถ้ำอมฤตนั้นไม่มีใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สายฝนศาสตราวุธ

    "คู่ต่อไปน่าจะไปได้แล้วล่ะ เสียงเงียบหายไปแล้ว"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น เนื่องจากส่วนมากเขามาเพียงลำพังย่อมไม่รู้สถานการณ์เมื่อมาหลายคน และเขาก็คิดเองว่าหากเดินผ่านสายฝนศาสตราวุธนั้น หากใช้คนเดินทางน้อยก็จะสะดวกต่อการกำจัดศาสตราวุธพวกนั้นแต่หากรวมกันเป็นกลุ่มเกรงว่าจะทำร้ายผู้ที่เดินทางร่วมกันเสี่ยงมากกว่าจึงตัดสินใจให้เดินไปครั้งละสองคน"เจ้าพาจินเป่าไปเถอะ พร้อมกับเจ้าสัตว์อสูรนี้ด้วย"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น จินเป่าจึงขึ้นหลังห่าวอู๋อวี่ และกระต่ายหยกเองก็กรายร่างของมันเป็นเหมือนดังวัตถุโปร่งแสงสีเขียวหยกแล้วคลุมตัวของจินเป่าไว้ แล้วลี่หลินก็ยืนข้างห่าวอู๋อวี่แล้วออกเดินพร้อมกัน เมื่อลงพื้นดินไปสักพักก็ไม่เห็นพวกเขาแล้ว และก็ได้ยินเสียงกระทบกันดังขึ้น เหมือนเสียงนั้นจะดังกว่าครั้งที่แล้วเสียงโลหะกระทบกันถี่มาก แต่ไม่มีเสียงร้องใดๆเลย จินเป่ามองเห็นสายฝนสตราวุธลงมาห่าใหญ่ ร่างกายของเขาเองไร้รอยขีดข่วนใดๆทั้งสิ้น เพราะตัวกระต่ายหยกเองห่อหุ้มนางไว้ ลี่หลินใช้กริชด้ามสั้นที่ตนเคยให้ในการต่อต้านสายฝนศาสตราวุธเหล่านั้น นางร่ายรำดั่งเช่นนางรำทั้งหลบทั้งปัดสตราวุธเหล่านั้น ทางด้านห่าวอู๋อวี่เองถึงแม้ว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผนที่

    เมื่อปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนี้เป็นคนแรกที่จะปีนขึ้นไปด้านบนเนินสูงนั้น ห่าวอู๋อวี่ก็วางจินเป่าลงและนำสมุนไพรต้มที่มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นต้มให้ออกมาอุ่นและส่งให้ซิงอีเพื่อที่จะป้อนสมุนไพรให้จินเป่า ซิงอีรับน้ำยามาแล้วก็ยิ้มก่อนที่จะป้อน เดียวพวกเจ้าไปกันก่อนนะข้ากับจางหยงจะรอดูพวกเจ้าขึ้นไปก่อน หากมีเหตุผิดพลาดอย่างไรพวกข้าจะได้ช่วยเจ้าได้"ซิงอีหันหน้าไปกล่าวกับห่าวอู๋อวี่ หากจินเป่าตกลงมานางกับจางหยงก็จะต้องคอยรับ ถึงแม้จะไม่สูงมากแต่นางไม่มีแรงเลยสักนิดหากตกมาเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้นางเสียชีวิตได้เลย"เจ้านายเดี๋ยวข้าจะขึ้นไปดูข้างบนเสียก่อนหากว่ามีอันตรายใดๆข้าจะได้จัดการให้"ลี่หลินกล่าวขึ้น เจ้ากระต่ายหยกก็พยักหัวตาม"ข้าอยากรู้จังว่าเจ้ากระต่ายหยกนั้นมันชื่ออะไร มันเหมือนไม่ค่อยรู้ภาษามนุษย์เลยเจ้านาย มันต้องเรียนภาษามนุษย์อีก"ข้าไม่ได้มีชื่อเรียกเหมือนพวกสัตว์อสูรแบบเจ้าหรอก แล้วข้าก็ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษามนุษย์มากมาย เพราะข้าแค่อาศัยสื่อสารกับสิ่งที่ข้าองครักษ์ก็เท่านั้นไม่จำเป็นต้องให้สัตว์อสูรหรือมนุษย์มารับรู้'เสียงเด็กน้อยพูดขึ้น ทำให้ลี่หลินขันท่าทีของมัน ที่ไม่ต้องการสื่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เดินทางกัน

    หลังจากออกเดินทางจากวังหลวงก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายจึงทำให้พวกเขาใช้เวลาเพียงสองวันก็ถึงหมู่บ้านอมตะแล้ว ทำให้จางซินรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยเพราะตอนไปพวกเขารีบร้อน มารดาของของท่านอาจารย์ไป๋อวิ้นก็เอาแต่หยุดพักผ่อนตลอดเส้นทางทำให้พวกเขาล่าช้า "วันนี้พวกเจ้าพักผ่อนในหมู่บ้านข้าเสียก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปกัน อวิ้นจะพาพวกเจ้าเดินทาง"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น ทั้งเจ็ดจึงไปพักผ่อน"ที่ตอนพวกข้าเดินทางไปวังหลวงนะพวกเจ้ารู้ไหม มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนั้นหยุดพักผ่อนเป็นว่าเล่นเลย"จางซินระบายความโกรธออกมา"ปรมาจารย์ของเจ้าก็ชี้แจงแล้วนิ ว่ามารดาของเขาสามารถรับรู้ภัยได้ นางจึงจำเป็นต้องพาพวกเราหยุดบ่อยๆไง เพื่อป้องกันความผิดพลาดและภัยที่เกิดขึ้น"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"จินเป่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้างเหน็ดเหนื่อยหรือไม่"ซิงอีถามขึ้นพร้อมกับป้อนน้ำอมฤตให้นาง ตลอดเส้นทางนางถูกห่าวอู๋อวี่อุ้มแทบตลอดเวลา เวลาลงเดินเองสักพักก็เหนื่อยหอบ จนซิงอีทนไม่ไหวเอ่ยปากให้ห่าวอู๋อวี่อุ้มนางบ้าง ให้นางขึ้นหลังบ้างแต่ห่าวอู๋อวี่เองก็เต็มมาก ครั้นหยุดพักซิงอีก็ปฏิบัติห่าวอู๋อวี่ดังน้องชายตัวเอง ทำให้ห่าวอู๋อวี่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คาดการณ์ลวงหน้าได้

    "ปรมาจารย์ไป๋อวิ้น ทำไมมารดาของท่านกล่าวว่านางไม่สามารถที่จะเข้าไปในป่าอมตะนั้นได้ ในเมื่อพวกท่านก็อยู่หมู่บ้านอมตะนั้น"จางซินถามขึ้น จึงทำให้จินเป่าสนใจ จึงมองไปดูผู้ที่จางซินกำลังซักถามอยู่ก็เป็นปรมาจารย์ไป๋อวิ้น"ท่านอาจารย์"จินเป่ากล่าวออกมาได้เท่านี้ก็หมดแรง นางไม่สามารถพูดยาวๆได้ เพียงแค่ใช้แรงในการพูดก็หมดแรงเสียแล้วจะให้นางเดินทางไปได้อย่างไรกัน"เจ้าไม่ต้องพูดแล้วลูกศิษย์เจ้าพักผ่อนเถอะ แล้วเรื่องที่มารดาของข้าไม่สามารถเข้าป่าอมตะนั้นได้ ก็เป็นเพราะว่านางเป็นกินรีชั้นสูง ที่พวกเจ้ารับรู้นั่นแหละ ถึงว่าข้าจะได้เป็นกินรีชั้นสูงแล้วแต่ข้าก็ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับมารดาของข้า นางสามารถรับรู้อันตรายที่อยู่เบื้องหน้าได้นางสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนข้าจุดนี้ค่ายังไม่สามารถที่จะฝึกฝนมันได้ ข้าจึงคิดว่าข้าจะไปกับพวกเจ้าได้ เพราะในเมื่อถ้าหากว่าคาดการณ์ถึงอันตรายได้แล้ว เราก็จะเลี่ยงอันตรายเหมือนที่เราเดินทางเข้ามาในวังหลวงนี้ไง เมื่อถึงจุดอันตรายมารดาของข้าก็จะให้พวกเราหยุดขบวนเดิน แล้วให้ผู้ที่เก่งกาจเข้าไปจัดการกับอันตราย แล้วเราก็เดินมากันแบบไร้อันตรายใดๆ แล้วที่มาร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ทัณฑ์สายฟ้า

    ระหว่างที่จินเป่าฟังห่าวอู๋อวี่ท่องเกร็ดวิชาไปเรื่อยๆ ตอนนี้นางเองทำสิ่งใดไม่ได้ จึงลองขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายในและจดจำเคล็ดวิชาที่ห่าวอู๋อวี่ท่องออกมา นางรู้สึกว่าภายในของนางนั้นปั่นป่วนยิ่งนักไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนวรยุทธเหมือนเดิมอีกแล้ว นางจึงล้มเลิกความพยายามแล้วหันมาจดจ่อกับเคล็ดวิชานั้นแทน นางจดจำทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของห่าวอู๋อวี่ได้ดีทุกคำ จนในที่สุดก็ครบเจ็ดวันจินเป่าค่อยค่อยลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำอันโตของนางมองไปซ้ายมองไปขวา เหมือนกับหลายวันก่อนไม่มีผิด นางอยู่ในอะไรสักอย่างที่เป็นสีม่วงลาเวนเดอร์ และมีน้ำสีดำม่วงอยู่รอบๆ กลิ่นน้ำนี้ก็หอมสมุนไพรเอาเสียมากๆ น้ำอุ่นกำลังพอดี จินเป่ารู้สึกไม่สบายหัว จึงมุดลงไปในน้ำสมุนไพรนั้นแล้วโพล่หัวขึ้นมา นางรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก นางมองออกว่าตอนนี้ร่างกายของนางยังไม่สามารถกลับไปฝึกยุทธได้อีก แต่นางก็เคยไร้วรยุทธ์มาแล้วนิ แต่ตอนนั้นตอนที่นางมาอยู่ร่างนี้ใหม่ๆ ร่างกายนางไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนี้เท่านั้นเอง แต่สักวันคงจะดีขึ้น "วันนี้ครบวันที่เจ็ดแล้ว ร่างกายแม่นางน่าจะไม่เย็นอีกแล้วล่ะป่ะพวกเจ้าไปช่วยข้าเอาแม่นางขึ้นมาจากหม้อกัน"หว่าฮว่ากล่าว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สัตว์มหาอสูร

    "เอาเข้าจริงๆข้าก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันอะไรนั่นแค่เพียงท่านห่าวอู๋อวี่ท่องให้จินเป่าฟังแล้วนางจะดีขึ้น"ซิงอีกล่าวถามความคิดเห็นของสหายท่านอื่น"เจ้าต้องรู้จักเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันก่อนเจ้าลองถามองค์ชายรัชทายาทดูสิว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งใด"จางซินพูดขึ้น"ในเมื่อองค์ชายรัชทายาทนั้นเคยร่ำเรียนตำราดัชนีสุริยันต์แล้วทำไมไม่ให้องค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องให้จินเป่าฟังล่ะ"ซิงอีกล่าวขึ้นพลางมองไปยังองค์ชายรัชทายาท"ทำเป็นว่าหากองค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องเกล็ดวิชาดัชนีสุริยันให้จินเป่าฟังแล้วเจ้าจะยินยอมอย่างไรอย่างนั้น"จางหยงกล่าวถามขึ้น"มันก็ใช่ที่เจ้าพูดแต่ข้าก็ไม่รู้ไงว่าในเมื่อท่านห่าวอู๋อวี่ไม่รู้เคล็ดวิชาดัชนีสุริยันต์แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าไปท่องให้จินเป่าฟังแล้วจะดีขึ้น"ซิงอีถามขึ้นอีก"ผู้ใดท่องก็ดีขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าน้ำเสียงนั้นเป็นน้ำเสียงที่แม่นางผู้นี้คุ้นเคย และเจ้าสัตว์อสูรจิ๋วนั้นก็เลือกบุรุษผู้นั้นให้ท่องให้เจ้านายมันฟัง มันก็คงจะรู้ความพิเศษพิโสของบุรุษผู้นั้นอยู่ แม่นางผู้นี้ข้ามองดูเจ้าเป็นห่วงแม่นางที่อยู่ในหม้อกลั่นสมุนไพรอยู่หรอก แต่เจ้าก็ต้องหัดฟัง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ดัชนีสุริยันต์

    เมื่อเจ้ากระต่ายกับลี่ลินเข้าไปอยู่ในห้องที่มีหม้อตุ๋นสมุนไพรของจินเป่าอยู่ ลี่หลินเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ หม้อหยกใบนั้น นางขับวรยุทธภายใน นางเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในป่านางต้องฝึกควบคุมวรยุทธไปด้วย ส่วนกระต่ายหยกนั้นเป็นสัตว์อสูรประจำต้นหลิวต้องแสงจันทร์ไม่จำเป็นต้องศึกษาเคล็ดวิชาหรือตำราใดๆและไม่ต้องขับเคลื่อนวรยุทธ หากว่ามันบาดเจ็บเพียงรักษาสักพักก็หายขึ้น มันไม่เหมือนสัตว์อสูรแบบหลีหลินถ้ามันบำเพ็ญตบะได้สูงมันก็จะไม่รู้สึกเจ็บรู้สึกอะไรทั้งสิ้น"เจ้ากระต่ายหยกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าดัชนีสุริยันต์เล่มนี้มีอะไรพิเศษเจ้าถึงเร่งให้ข้าทวงจากองค์ชายรัชทายาทนัก"เสียงห่าวอู๋อวี่ดังขึ้น ทำให้เจ้ากระต่ายหยกดีใจยิ่งนัก ทีห่าวอู๋อวี่มาและเขาก็นำดัชนีสุริยันมาด้วย"ท่อง ต้องท่องเคล็ดวิชา ท่านอ่านเคล็ดวิชาให้เจ้านายฟังได้"เจ้ากระต่ายหยกพยายามพูดภาษามนุษย์พร้อมกับทำท่าทางชี้ไปที่ปากของตัวเองแล้วก็หูของมันเอง"เจ้าจะให้ข้าท่องเคร็ดวิชาดัชนีสุริยันให้นางฟังหรือ"ห่าวอู๋อวี่เองก็ถามขึ้นอย่างสงสัย เจ้าเด็ดน้อยพยักหน้าหงึกๆด้วยความดีใจ เขาเข้าใจความหมายของมัน หลี่หลินจึงลืมตาขึ้นมาดูว่าเขาพูดถึงอะไรกัน ห

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตุ่นสมุนไพร

    "เสวุ่ยเจ้าไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่มาหนึ่งใบอยู่ในท้องพระคลังน่าจะมีอยู่หนึ่งหม้อ เจ้าไปตรวจดูแล้วให้องครักษ์ยกมาที่เรือนรับรอง"องค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้น องค์ชายหกเลยพาทหารองครักษ์ไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่ ในท้องพระคลังมา เมื่อเขาเข้าไปดูก็พบหม้อสมุนไพรใบใหญ่สีเขียวหยกหนึ่งใบ ซึ่งน่าจะให้สตรีผู้นั้นเข้าไปได้จึงสั่งให้ทหารองครักษ์ยกออกมาให้ หมอหยกใบนั้นเป็นหยกสีเขียวมันแพะดูแล้วมีค่ายิ่งนัก เมื่อนำมาเรือนรับรองแล้วก็วางไว้กลางห้อง"ข้าขอเพียงสมุนไพรเท่านั้น แล้วบุรุษน่าจะออกไปด้านนอกได้แล้วกระมังเพราะว่าสตรีผู้นี้ต้องถอดเสื้อผ้าก่อนที่จะลงหม้อ จางซินข้าต้องพึ่งเจ้าอยู่หากเจ้ายังมีธุระที่จัดการยังไม่เสร็จ ช่วยข้าสักพักแล้วเดี๋ยวค่อยไป"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น"ข้าคือสัตว์อสูรของเจ้านายข้าสามารถช่วยเจ้านายได้เจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยท่านนะเจ้าคะ"ลี่หลินรีบพูดขึ้น"นางคือน้องสาวของข้าเหมือนกันเจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยอีกแรงนะเจ้าคะ"ซิงอีรีบกล่าวขึ้น"ได้เลยแม่หนูเพราะข้าต้องให้สตรีช่วยอยู่แล้วล่ะ ลำพังข้าคนเดียวไม่ไหวหรอก บุรุษทั้งหลายออกไปได้แล้วกระมัง เจ้าเด็กน้อยเจ้าอยู่ก่อนอย่าเพิ่งไปไหน"หว่าฮว่ากล่าวข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   กินรีชั้นสูง

    "แม่ก็ว่าอยู่แล้วหล่ะว่านางต้องเจ็บสาหัดบ้าง ดูสิอยากได้เคล็ดวิชาดัชนีสุรียันนั้น เป็นไงล่ะจะได้ใช้อยู่หรือนั้น ทำกับลูกเราไว้เยอะเลย เขาเป็นถึงองค์ชายรัชทายาททำให้เขามีสภาพย่ำแย่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน"ฮองเฮากล่าวขึ้น นางนึกย้อนที่เห็นบุตรชายของตัวเองสภาพย่ำแย่ในการประลองยุทธในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ"ท่านแม่หากเขาต้องการ เขาก็สมควรที่จะได้รับมัน ท่านแม่ดูไม่ออกเลยหรือว่าเป็น ลูกรับมือเขาไม่ได้ทุกกระบวนท่า แต่เขาก็ยอมให้ลูกชนะเขา เพื่อชื่อเสียงของลูกในยุทธภพแห่งนี้ และเป็นบุรุษผู้นั้นที่เอาชนะตงหมิงได้"องค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้น"แต่ก็เป็นลูกไม่ใช่หรอที่ใช้ห่วงสันนิบาตนั้น ทำให้ตรงหมิงนั้นตายไปมันก็เท่ากับลูกเอาชนะเขาได้"ผู้เป็นแม่ยังอยากที่จะให้ลูกได้ชื่อเสียง"ฮองเฮาท่านไม่ใช่ว่าดูไม่ออกกระมัง เพียงแค่เจ้าเห็นองค์ชายรัชทายาทนั้นสบักสะบอมขนาดนั้น เจ้าก็มีความคิดแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงๆเราก็ต้องยอมรับว่าคนที่อยู่มิติล่างเหล่านั้นทำให้เรื่องมันจบแบบง่ายๆ ครั้งนี้ข้าคิดว่าข้าจะให้เขาได้ลำดับหนึ่งของเวทีประลองยุทธในครั้งนี้ ในเมื่อสตรีผู้นั้นต้องการดัชนีสุริยันขนาดนั้นเจ้าต้องการมอบให้เขาหรือไม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status