Share

ตอนที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-09 15:22:39

ตอนที่ 4

ฝ่ายของผู้ถูกหมายหัวทั้งหลายนั้นกลับยังไม่มีผู้ใดรู้ตัวสักคนเพราะในจวนจิ้งหนานโหวนับตั้งแต่วันงานแต่งของบุตรสาวคนรองที่ล่มไม่เป็นขบวน จนทำให้ทุกคนภายนอกอาจคิดว่านายท่านหลู่หรือจิ้งหนานโหวล้มป่วยหลังจากคุณหนูรองหลู่หนีงานแต่งแต่ความเป็นจริงมีเพียงโจวอี้เหนียงกับคุณหนูสามหลู่เท่านั้นที่ทราบดีกว่าใครถึงเบื้องลึกเบื้องหลังนี้ ที่เป็นต้นเหตุให้จิ้ง หนานโหวล่มป่วยหนักเช่นทุกวันนี้

หลู่ฮั่นเหลียง หรือจิ้งหนานโหวคือบุรุษวัยสี่สิบสามปี รูปร่างสูงใหญ่กำยำถึงเขาไม่ใช่นักรบแต่คงเพราะเขาอยู่กรมโยธามาตั้งแต่อายุสิบแปดจากขุนนางระดับล่างจนปัจจุบันจิ้งหนานโหวคือเจ้ากรมโยธาแห่งต้าเซี่ยมาได้เจ็ดปีแล้วเป็นขุนนางบุ๋น แต่เขามักไปตรวจงานก่อสร้างบ่อยไม่แปลกที่รูปร่างจะยังสูงใหญ่กำยำราวกับขุนนางบู๊ ซึ่งไม่น่าเชื่อได้เลยว่าคนร่างกำยำและอายุเพิ่งจะเท่านี้ไม่น่าจะล้มป่วยหนักจนกลายเป็นผักดอง     อย่าเอ่ยว่าเดินเหินไม่ได้ จิ้งหนานโหวแม้แต่พูดก็ยังพูดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หากสังเกตย่อมมีหลายจุดให้สงสัยมากมาย

แต่คนถูกกระทำเช่นจิ้งหนานโหวพูดไม่ได้นอนเป็นผักเหี่ยวเฉาไปแล้วสองแม่ลูกย่อมไม่มีทางปริปากพูดออกมาเด็ดขาด โดยเฉพาะกับคุณชายใหญ่หลู่ หลู่ ฮ่าวอวี่ พวกนางย่อมไม่มีทางเปิดปากบอกความจริงออกไปให้อีกฝ่ายร่วมรับรู้เป็นแน่ 

ยังดีว่านับตั้งแต่วันงานแต่งงานที่ล่มไม่เป็นกระบวนหลู่ฮ่าวอวี่เองเขาก็ต้องวิ่งไปตามหาน้องสาวคนรองสลับกับแบ่งเวลาไปทำงาน ส่วนกลางคืนหลู่ฮ่าวอวี่นั้นยังต้องกลับมาดูแลงานของบิดาที่เป็นถึงเจ้ากรมโยธา เขาจึงยิ่งไม่มีเวลาสังเกตหรือสงสัยถึงอาการป่วยของบิดา นอกจากแวะดูอาการทุกวันก็ยกให้มารดากับน้องสาวดูแลไป

รวมไปถึงแม่นมและสาวใช้ของคุณหนูรองหลู่ที่หายตัวไปทั้งหมดหลู่ฮ่าวอวี่เองก็ลืมนึกถึงไปเสียสิ้น เรียกได้ว่าเกือบสองเดือนเศษที่ผ่านมาหลู่ฮ่าวอวี่กินอิ่มนอนหลับยังทำไม่ได้เช่นนั้นจะไปสนใจสิ่งอื่นภายในจวนได้อย่างไร

“พวกเจ้าออกไปด้านนอกเถอะ ข้าจะดูแลจิ้ง หนานโหวเอง”

โจวอี้เหนียง หรือโจวอิ๋งชุน ปีนี้นางอายุสามสิบแปดปีแต่รูปร่างและใบหน้ากลับยังดูอ่อนเยาว์ราวกับอายุเพิ่งยี่สิบกว่าปี เอ่ยกับสาวใช้ในเรือนส่วนตัวของจิ้ง หนานโหวด้วยสีหน้าอ่อนโยน น้ำเสียงมากเมตตา

“นายท่านเจ้าค่ะ ดื่มยาหน่อยนะเจ้าค่ะ”

ร่างอรชรทรุดลงนั่งด้านข้างเตียง จัดการนำผ้าเช็ดหน้าเหน็บตรงหน้าอกและลำคอ จากนั้นนางก็หยิบถ้วยยามาตักป้อนหลู่ฮั่นเหลียง คนป่วยบนเตียงที่ขยับได้เพียงดวงตา จับจ้องใบหน้างามที่ตนเองเคยหลงใหล พลันนั้นดวงตาของจิ้งหนานโหวก็สั่นระริก

“อื้อ! อื้อ!”

หลู่ฮั่นเหลียงพยายามที่จะไม่ยอมเปิดปากรับการถูกป้อน เพราะตนเองกระจ่างมาหลายเดือน ยานี้หาได้รักษา แต่มันกำลังฆ่าเขาช้าๆ ต่างหาก 

“ท่านพี่อย่าดื้อดึงสิเจ้าค่ะ ดื่มยาเสีย ท่านพี่ไม่อยากไปพบหน้า ท่านพ่อท่านแม่ ฮูหยิน กับคุณหนูรองหลู่โดยเร็วหรือเจ้าคะ ทุกคนไปรออยู่นานแล้วนะ ท่านพี่ไม่รีบหน่อยหรือ”

 ทุกคำพูดโจวอิ๋งชุนเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากแต่รอยยิ้มดังกล่าวกลับไปไม่ถึงดวงตา จิ้งหนานโหวแค้นใจจนสั่นไปหมดทั้งร่าง หากแต่โกรธแค้นแน่นอุรา กลับมิอาจทำอันใดได้เลย รู้ตัวเมื่อสายมันเป็นเช่นนี้นี่เอง

“อื้อ!”

โจวอี้เหนียงกดนิ้วเรียวงามบีบลงไปบนขากรรไกรโดยแรง จากริมฝีปากหนาของจิ้งหนานโหวเผยออ้าออก จากที่แต่แรกตักป้อน บัดนี้นางเทกรอกลงไปทั้งถ้วย หลู่ฮั่นเหลียงน้ำตาไหลอาบแก้มนับตั้งแต่เติบโตขึ้นมาเขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้

อยู่มิสู้ตาย...

วันนี้หนุ่มใหญ่กระจ่างแล้ว อยากตายก็มิอาจตายได้ อยากอยู่ก็ใช่จะสบาย ชีวิตของเขาในยามนี้เป็นดังนี้ รู้ทั้งรู้ว่าที่อีกฝ่ายให้กินคือยาพิษ แต่กลับมิอาจปฏิเสธ ทุกสิ่งทุกอย่างบังเกิดมาจากเขาที่ชักศึกเข้าบ้าน นำพาอสรพิษมาสังหารคนทั้งตระกูล

“คงยากตายเต็มทีแล้วกระมัง อย่าเพิ่งใจร้อนสิท่านพี่ รอก่อน ไม่นานหรอก ท่านได้ตายสมใจแน่”

โจวอี้เหนียงก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของบุรุษโง่เขลาตรงหน้า ใบหน้าของนางประดับไปด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ดวงตาของนางกระจ่างนัก อดีตหลู่ฮั่นเหลียงเคยคิดว่านางงดงามที่สุด มาบัดนี้คนงามตรงหน้ากลับกลายเป็นนางปีศาจร้ายไปเสียแล้ว

“อี้เหนียง ท่านอยู่ที่นี่เอง”

เป็นหลู่ฮ่าวอวี่ที่เพิ่งกลับมาจากจวนเฉินกั๋วกงด้วยใบหน้าอ่อนล้า ซึ่งนับจากหลู่อวี้หลิงกระโดดหน้าผาหายไปไม่พบร่างไม่ว่าเป็นหรือตาย เขากลับมาก็ต้องแวะมาเยี่ยมบิดาก่อนเป็นอันดับแรกเช่นนี้ทุกวัน

“คุณชายใหญ่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”

บุตรชายของตนเองแท้ๆ แต่กลับมิอาจเรียกเขาได้เต็มปาก ต้องก้มศีรษะให้ โจวอิ๋งชุนเจ็บช้ำมาโดยตลอดยี่สิบเอ็ดปี แต่อีกไม่นานหรอกอีกไม่นานทุกสิ่งจะสมดังที่นางต้องการทั้งหมดแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้าง มีสิ่งใดคืบหน้าบ้างหรือไม่”

ถามทั้งที่นางพอจะรู้ผลอยู่แล้ว แต่กับบุตรชายนางจะต้องเป็นอี้เหนียงแสนดีและอ่อนโยน

“ยังเหมือนเดิมขอรับ แล้วท่านพ่อเล่า อาการเป็นอย่างไรบ้าง”

ตอบออกไปด้วยแววตาอ่อนล้า ก่อนจะถามความคืบหน้าอาการของบิดา สองเดือนเศษ สำหรับเขามันไม่ง่ายเลย ยิ่งหลังจากบิดาล้มป่วย เขาต้องรับหน้าที่ผู้นำสกุลหลู่ทั้งที่ไม่ทันตั้งตัวเตรียมใจ ออกจะเกินกำลังเขาไปมากจริงๆ

“ก็ยังเหมือนเดิมนั่นแหละคุณชายใหญ่”

ขณะตอบบุตรชายโจวอี้เหนียงก็ลงมือบีบ     นวดไปตามขาของคนป่วย มองอย่างไรก็คือภรรยาที่จงรักภักดีกับสามี แต่ใครเล่าจะรู้ดีไปกว่าจิ้งหนานโหวไปได้ ว่าสตรีบัดซบผู้นี้มันร้ายกาจยิ่งกว่าอสรพิษ!

“อื้อ อื้อ”

เขาอยากพูดอยากบอกบุตรชาย แต่กลับทำได้เพียงร้อง “อื้อๆ” เท่านั้นเจ็บใจแค้นใจ คงไม่ต้องบรรยายว่ามากเพียงใดในหัวอกของหลู่ฮั่นเหลียง

“นายท่านคงอยากถามคุณชายใหญ่กระมังว่าพบคุณหนูรองแล้วหรือไม่”

โจวอี้เหนียงพูดเสียงอ่อน ใบหน้าและแววตาก็ปั้นแต่งจนเศร้าโศกสมจริง อาจเพราะยี่สิบกว่าปีนางสวมบทบาทมานาน โกหกผู้คน จนตนเองบางวันก็ไม่แน่ใจแล้วว่าที่ตนเองกล่าวออกมาอันใดจริง สิ่งไหนปั้นแต่ง

“ท่านพ่ออย่ากังวลไปเลยขอรับ ไม่แน่ว่าป่านนี้ น้องรองอาจถูกคนช่วยไว้และคงกำลังหาทางกลับจวนก็เป็นไปได้”

หลู่ฮ่าวอวี่ไม่แน่ใจว่าที่เขาเอ่ยออกมานี้ปลอบใจตนเองหรือปลอบใจบิดากันแน่

“นั่นสิเจ้าค่ะนายท่าน คุณหนูรองจะต้องปลอดภัย คนตายต้องพบศพนานแล้ว ในเมื่อไม่พบศพ คงต้องปลอดภัยแน่นอน”

ฟังผิวเผินที่โจวอี้เหนียงเอ่ยเช่นนี้คือปลอบใจสามี ทว่าสำหรับหลู่ฮั่นเหลียงที่รู้แล้วว่าภายใต้หน้ากากแสนดีของสตรีลายดอกตรงหน้าก็คือปีศาจร้ายมากเล่ห์ มีหรือจะฟังไม่เข้าใจว่านางต้องการจะสื่อสารอันใดกับตนเอง

“ท่านพ่อ พักรักษาตัวให้ดีนะขอรับ ไม่แน่พรุ่งนี้อาจมีข่าวดี”

หลู่ฮ่าวอวี่พูดปลอบใจบิดาอีกหลายประโยค ก่อนจะกลับเรือนของตนเองเพื่อไปตรวจบัญชีที่เป็นกิจการของสกุลหลู่ต่อ หลังจากบิดาล้มป่วยน้องสาวหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นกิจการของสกุลหลู่ หลู่    ฮ่าวอวี่ต้องรับมาดูแลทั้งหมดจากในอดีตเขาแค่ช่วยบิดาแล้วแต่อีกฝ่ายจะมอบหมาย

ซึ่งกิจการของสกุลหลู่ก็มีไม่น้อย ดังนั้นทุกวันนี้ เขาจึงแทบไม่ได้กินอิ่มนอนหลับ ยังดีว่างานภายในจวน มารดากับน้องสาวช่วยเขาได้มาก ไม่อย่างนั้นหลู่ฮ่าวอวี่คงไม่เหลือแม้แต่เวลาสักวันละสองชั่วยามก็เป็นไปได้ยิ่งในใจรู้สึกผิดและติดค้างหลู่อวี้หลิง ร่างกายของชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดปีเศษจึงผ่ายผอมและทรุดโทรมลงไปไม่น้อยเลย

ส่วนมู่หรงจิ่งเองช่วงนี้เขาก็มีสภาพไม่ต่างจากหลู่ฮ่าวอวี่นัก เพราะยิ่งนานวันในใจของเขาก็ยิ่งกังวล ช่วงแรกพอไม่พบศพก็ยังพอมีความหวัง แต่นอกจากรองเท้าก็ยังไม่พบสิ่งของอื่นใด สอบถามไปตลอดสายน้ำที่ต้นกำเนิดนั้นมาจากน้ำตกแห่งนั้น แต่ผ่านมาร่วมสองเดือนไม่พบอันใดเลย ถึงจะพยายามปลอบใจทุกวันอยู่ได้บ้างว่านางอาจรอดชีวิตเพราะมีคนช่วยเอาไว้ เรียกว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เขาก็พยายามหลอกตนเองเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น

เพราะคนตายต้องพบศพ ในเมื่อไม่พบศพ นั่นก็หมายความว่า หลู่อวี้หลิงนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ พอหลอกตนเองนานไปใจก็ยิ่งมีแต่ความหวัง คาดหวังเต็มเปี่ยม เขาจะได้พบหลู่อวี้หลิงแน่นอน คิดวาดฝันไปว่าเมื่อได้พบกับนางเขาจะง้องอนนางให้ดี จะสารภาพกับนางว่าแต่แรกตนเองตั้งใจหลอกลวงนางจริง ทว่าผ่านไปสองปี เขากลับรักนางจริงๆ

ชีวิตนี้ของเขาขาดนางไม่ได้ มู่หรงจิ่งคิดฝันเอาไว้ดิบดี คิดว่าตนเองจะจัดงานแต่งงานอีกครั้ง หากนางไม่พึงใจให้เขารับหลู่อวิ๋นเซียงเข้าจวนเขาก็จะตามใจหลู่อวี้หลิง ในเมื่อสตรีนั้นมีมากมาย แค่ตัดหลู่อวิ๋นเซียงไปสักคนยังจะนับเป็นอันใดสำหรับเขาได้อีก เรียกว่าคิดแต่ในมุมมองของตนเองแต่ฝ่ายเดียว มู่หรงจิ่งไม่เคยเผื่อใจเอาไว้เลยว่า หากพบกัน หลู่อวี้หลิงนั้นจะไม่ยอมอภัยให้ตนเอง

แต่แล้วสิ่งที่มู่หรงจิ่งคาดหวังก็พังทลายลงทันทีหลังจากมีชาวบ้านไปหาของป่าใกล้บริเวณน้ำตกแล้วพบเข้ากับซากศพในชุดเจ้าสาวเต็มยศที่แทบจะเหลือเพียงโครงกระดูกนั่งหลบอยู่ตรงซอกหินก้อนใหญ่ให้อีกสองเดือนเศษต่อมาเข้าเสียก่อนความหวังทั้งหลายจึงทลายสิ้นในทันใด

“ที่ผ่านมาหาไม่พบเพราะพวกเราคิดว่าหลิงเอ๋อร์จะลอยไปกับสายน้ำ ใครจะคาดว่านางปีนขึ้นมาจากน้ำได้แต่คงมิอาจพาตนเองไปไกลว่านี้ได้”

คราวนี้หลู่ฮ่าวอวี่หลั่งน้ำตาออกมาแล้วจริงๆ เมื่อยามไม่พบศพยังพอจะหลอกตนเองได้ว่าน้องสาวอาจรอดไปได้ แต่อาจจะบาดเจ็บหนักหรือไม่ก็ไม่คิดจะกลับมาพบพวกตน หากแต่ในยามนี้พบศพอยู่ตรงหน้า มองเช่นไรก็เป็นหลู่อวี้หลิงในวันที่กระโดดหน้าผาลงมาจริงๆ น้องสาวตัวน้อยแสนดีตายจากเขาไปแล้ว นางไม่อาจกลับมาได้แล้ว น้ำตาของบุรุษไหลเต็มหน้า หัวเข่าแกร่งทรุดลงหน้าร่างของผู้ที่เขาแน่ใจว่าเป็นน้องสาวอย่างคนหมดสิ้นแล้วซึ่งเรี่ยวแรง สิบเจ็ดปี หลู่อวี้หลิงและมารดาของนางดีกับเขามาก ไม่เคยมองว่าเขาเป็นบุตรที่เกิดจากสตรีอื่นที่เข้ามาแย่งความรักของทั้งสองไป แล้วสิ่งที่เขาตอบแทนพวกนาง…

“หลิงเอ๋อร์พี่ใหญ่ขอโทษ เจ้ากลับมาได้หรือไม่ หลิงเอ๋อร์ พี่ใหญ่ผิดต่อเจ้า หลิงเอ๋อร์!”

ในขณะที่หลู่ฮ่าวอวี่กำลังฟูมฟายไร้สติ มู่หรงจิ่งเองก็ใช่จะดีกว่าลูกน้องคนสนิท ถึงแม้เขาจะมิได้ฟูมฟายเช่นท่านที่ปรึกษาหลู่แต่ภายในใจนั้นอาจย่ำแย่ยิ่งกว่า สองเดือนเศษที่สร้างความหวังอย่างคนโง่เขลาหลอกตนเองมาตลอด พอวันนี้ย่อยยับสิ้น มู่หรงจิ่งก็มิอาจจะพูดอันใดได้แม้เพียงครึ่งคำ

มันจุกแน่นขมขื่นในอกไปหมดความขมขื่นดังกล่าวนั้นพุ่งขึ้นมาถึงในปากของเขาแล้ว สุดท้ายจึงรู้ว่าตนเองอยากอาเจียน ร่างสูงใหญ่จึงวิ่งไปหลบอาเจียน คราวนี้ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้มนั้นเป็นเพราะอาเจียนอย่างหนัก อาเจียนจนเหมือนจะเอาลำไส้ออกมา หรือมันไหลเพราะในใจของเขามันทนความเจ็บปวดไม่ไหวกันแน่

ความผิดบาปที่หลอกลวงหลู่อวี้หลิงนั้นมีมากก็จริงแต่มันไม่มากเท่าความเสียใจ มู่หรงจิ่งเสียใจที่เขารู้ตัวช้าไป เขารู้ตัวว่ารักหลู่อวี้หลิงก็ในวันที่เห็นนางกระโดดหน้าผาต่อหน้าต่อตาโดยที่เขามิอาจคว้าร่างของนางเอาไว้ได้ทัน และยิ่งนานวันที่เฝ้าตามหาเขาจึงยิ่งกระจ่าง อันใดคือความรัก อันใดคือความหลงได้อย่างชัดเจน

แน่นอนว่าเขาเพิ่งตาสว่าง ว่ากับหลู่อวิ๋นเซียงนั้นเป็นความหลง พอนางดูได้มายากเขาจึงยิ่งอยากได้ เพราะตลอดชีวิตยี่สิบห้าปีของบุตรชายคนโตของจวนเฉินกั๋วกง ไม่เคยมีสตรีใดที่เขาอยากได้อยากครอบครองแล้วไม่ได้ พอมาเจอกับหลู่อวิ๋นเซียง ที่มีข้อกำจัดและยิ่งถูกบิดากับมารดาเอ่ยขัดขวางอย่างเด็ดขาดเขาจึงยิ่งดิ้นรนอยากได้นางเพิ่มขึ้นไปอีก แต่พอสุดท้ายได้ร่วมเรียงเคียงหมอนแล้ว ที่เคยอยากได้อย่างรุนแรงจนคิดไปเองว่าคือความรักมั่นคงก็กลับจืดจาง

ผ่านมานับตั้งแต่สองเดือนเศษที่ผ่านมาเขาได้เห็นธาตุแท้ของคุณหนูสามหลู่ แม้แต่พบหน้าของหลู่  อวิ๋นเซียงบอกตามตรงจากใจว่าไม่อยากพบนางแล้วจริงๆ เสียงหวานที่เคยฟังไพเราะก็รำคาญจนไม่อยากได้ยิน กลิ่นกายของนางที่เคยหอมจนร่างกายเรียกร้องอยากร่วมรักกับนาง ยิ่งนานกลับยิ่งเหม็นจนวิงเวียนศีรษะ แค่กลิ่นกายของนางลอยมาเขาถึงกับรีบร้อนหนีก็บ่อยครั้ง

แต่กับหลู่อวี้หลิง ยิ่งนานเขากลับยิ่งคิดถึง ใบหน้ายิ้มแย้มทุกครั้งที่พบหน้า ไม่เคยจู้จี้คาดคั้นเมื่อเขาหายหน้าไปหลายวัน ไม่เคยแสดงอารมณ์ไม่ดียามเมื่อนางถูกเขาขัดใจ ยามใดเห็นว่าเขาดูเหนื่อยล้านอกจากไม่ซักไซ้นางยังทำเพียงนั่งอยู่เคียงข้างเงียบๆ อาหารอร่อยมีไว้รอเขาเสมอ แค่ให้นางรู้ว่าเขาจะแวะไปเยี่ยมไปหาที่จวน ที่สำคัญนางไม่เคยว่าร้ายผู้ใดต่อให้คนผู้นั้นทำไม่ดีต่อนาง เรียกว่ายิ่งนางจากไปนานเท่าใดภาพในอดีตที่นางทำดีกับเขามันยังเด่นชัด แต่สุดท้าย…

…นางก็จากไปแล้วจริงๆ …

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 5

    ตอนที่ 5แน่นอนว่าความรู้สึกไม่ว่าจะของหลู่ฮ่าวอวี่หรือมู่หรงจิ่งนั้น เจี่ยอวี้หลันย่อมไม่รับรู้อันใดทั้งสิ้นเพราะนางกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวแต่งงานกับชินอ๋องผู้มีพระคุณ และถึงนางรับรู้ผ่านมาจนถึงวันนี้นางคงมีแต่หัวเราะเยาะเสียมากกว่าแต่จะหัวเราะเยาะตนเองหรือพี่ชายกับมู่หรงจิ่งก็สุดจะรู้ได้แต่คนที่รับรู้และเห็นกลับเป็นหลู่อวิ๋นเซียงสตรีที่คิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่งในใจของมู่หรงจิ่งมาร่วมสามปี แต่พอพบว่านังพี่สาวตัวดีที่เกิดก่อนตนเองแค่สองเดือนมันตายไปจริงๆไม่ว่าจะเป็นพี่ชายแท้ๆ เช่นหลู่ฮ่าวอวี่หรือจะเป็นบุรุษที่นางกล้าเรียกเขาได้เต็มปากแล้วว่าสามีเช่นมู่หรงจิ่ง เพราะหลังเหตุการณ์เลวร้ายวันนั้นนางก็ทนที่เขาหมางเมินกับนางไม่ไหวจึงยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งทอดกายให้เขาเชยชมไปแล้ว ในยามนั้นนางคิดว่ามู่หรงจิ่งจะต้องรีบรับนางเข้าจวน ต่อให้เป็นแค่อนุหลู่อวิ๋นเซียงก็ยอมแล้วจนสิ้น แต่นี่ผ่านมานานขนาดนี้นอกจากมู่หรงจิ่งจะไม่รับนางเข้าจวนยังไม่พอ พบหน้าอีกฝ่ายยังดูเหมือนจะไม่อยากพบหน้าของนางเสียด้วยซ้ำบัดซบยิ่งนัก!…บุรุษที่นางรักทั้งสองคนต่างพากันแสดงท่าทางราวกับจะตายตามนังตัวดีอวี้หลิงไปเสียให้ไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 6

    ตอนที่ 6แต่ก่อนที่จะเผามันจนกลายเป็นเถ้าธุลี หลู่ อวิ๋นเซียงก็คิดวิธีหยามเกียรติคนตายมาได้หนึ่งวิธี ในเมื่อมันตายแล้วแต่ทำให้ความรักของนางกับมู่หรงจิ่งร้าวฉาน เช่นนั้นนางก็จะทำให้ดวงวิญญาณของหลู่อวี้หลิงได้เห็นนางกับบุรุษที่มันรักนักรักหนาร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนถึงพริกถึงขิงที่ข้างโลงบรรจุศพของมันเสียเลย เช่นนี้ไม่เรียกว่าถึงมันตายเป็นผีไปแล้ว นางก็ไม่คิดให้ดวงวิญญาณของมันได้สงบสุขหรอกหรือ แต่หากจะขอความร่วมมือกับมู่หรงจิ่ง ไม่ใช่เพียงยาก แต่คาดว่ามิอาจเป็นไปได้เลยมากกว่า ยิ่งช่วงหลังมานี้เขาดูเหมือนจะไม่อยากมองหน้าของนางด้วยซ้ำ หากนางเดินไปชักชวนเขาทำเรื่องบัดสีเช่นนั้นนอกจากไม่คิดทำตาม เกรงว่ามู่หรงจิ่งจะยิ่งมองนางไปในด้านลบเพิ่มขึ้นเสียอีกด้วยดังนั้นคงมีเพียงวางยาปลุกกำหนัดจนมู่หรงจิ่งขาดสติเท่านั้นแผนร่วมรักข้างโลงของนางจึงจะสำเร็จ พอคิดแผนชั่วช้าราวกับมิใช่คนออกมาได้เป็นฉากๆ เป็นขั้นเป็นตอนแล้ว หลู่อวิ๋นเซียงก็อดทนรอเวลาอยู่อีกหลายวันนางจึงมีโอกาสลงมือ ราตรีนี้ทุกคนที่เฝ้าอยู่โถงบรรพชนสกุลหลู่นั้นล้วนถูกวางยานอนหลับจนหมด ยกเว้นแต่มู่หรงจิ่งที่หลู่อวิ๋นเซียงไม่วางยานอนห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 7

    ตอนที่ 7ผลของการเดินหมากจบลงที่ผลัดกันแพ้และชนะอยู่คนละสองกระดาน เจี่ยอวี้หลันจึงรอดตัวไปได้ เพราะไม่ได้เสแสร้งพ่ายแพ้จนอีกฝ่ายมองว่านางดูหมิ่นเขา เรียกว่าจริงเท็จวันนี้นางดึงออกมาผสมผสาน เรื่องนี้ถึงซ่างกวนไท่จะรับรู้ได้แต่เขาก็มิได้คิดโกรธเคือง เพราะถูกใจสติปัญญาของเจี่ยอวี้หลันมากกว่า เรียกว่ายิ่งนับวันที่ได้ใกล้ชิดกันซ่างกวนไท่ยิ่งพึงใจในตัวของเจี่ยอวี้หลันมากขึ้นและมากขึ้นทุกวัน และอดจะสมน้ำหน้ามู่หรงจิ่งเสียมิได้ที่อีกฝ่ายทำสตรีเช่นนี้หลุดมือมาแล้วจริงๆแต่เรื่องที่ชินอ๋องเดินหมากเสมอกับองค์หญิงจากเผ่ากั๋วเซาตัวปลอมนี้กลับไปถึงหูของฉางตี้ฮ่องเต้เข้าจนได้ ฮ่องเต้หนุ่มวัยยี่สิบหกปีถึงกับอยากพบหน้าสตรีที่เดินหมากครั้งแรกก็สามารถเอาชนะขาดลอยเจ้าน้องชายตัวแสบของเขาได้แล้ว ครั้งที่สองก็ยังเสมอขึ้นมาอีกนี่ยังไม่ชวนให้เขาอยากจะใส่ใจได้อย่างไร ก็ขนาดตัวเขาเองจนอายุขนาดนี้แล้วเดินหมากกับซ่างกวนไท่ผู้นั้นกลับไม่เคยชนะ พอทราบว่าอีกฝ่ายถึงกับพ่ายแพ้ให้สตรีที่อดีตเป็นเพียงคุณหนูจวนโหวที่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวจะไม่ให้เขาอยากไปดูให้เห็นกับตาได้อย่างไร“ไปตำหนักเจ้าเจ็ดกันเถอะโม่กงกง”แน่นอน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 8

    ตอนที่ 8แต่ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่ให้เลือกเจี่ยอวี้หลันย่อมเลือกเช่นเดิมอีกครั้ง ก็นางตัวคนเดียว อำนาจไม่มี เงินทองติดกายยิ่งไม่มี อดีตเมื่อครั้งที่นางตัดสินใจกระโดดหน้าผานับว่านางโง่เขลาจริงๆ แต่พอนางรอดตายมาได้จึงค่อยกระจ่าง โลกใบนี้มิได้สวยงามแม้แต่น้อย ชีวิตดำรงอยู่ได้ต้องมีเงินไม่มีเงินแค่กินข้าวยังทำไม่ได้เลย แล้ววันนั้นนางหนีออกมาตัวเปล่านอกจากเครื่องประดับไม่กี่ชิ้นก็ไม่มีเงินติดกายแม้แต่อีแปะเดียว แค่คิดก็ไม่รอดแล้ว หากไม่ได้ชินอ๋องช่วยเหลือป่านนี้หากไม่ตายก็อาจถูกจับไปขายหอนางโลมไม่ก็ถูกจับไปเป็นทาสค้าแรงงานก็ได้ใครจะคาดเดาได้ ดังนั้นที่นางกระโดดลงมาพบชินอ๋อง นับว่าสวรรค์ประทานพรให้เช่นนี้หากราคาที่นางต้องจ่าย จึงคุ้มค่าแล้ว คิดอีกกี่ครั้งหากไม่มีซ่างกวนไท่ฉุดดึงนางขึ้นมาจากปากแม่น้ำลืมเลือน ป่านนี้นางจะเป็นตัวอะไรไปแล้วใครจะรู้ รักคนผิดมาแล้วหนึ่งครั้ง เกือบไม่เหลือแม้แต่ชีวิต บทเรียนที่จ่ายไป แพงเหลือเกิน...“อวี้หลันถวายพระพรฝ่าบาทขอทรงอายุยืนหมื่นปีหมื่นๆ ปีเพคะ” เพราะฉางตี้ฮ่องเต้มาอย่างกะทันหัน เจี่ยอวี้หลันจึงออกมาต้อนรับเขาด้วยทั้งที่ยังต้องรีบร้อนงานในมือค้างคาอยู่ แ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 9

    ตอนที่ 9คิ้วเรียวที่ไม่ได้ถูกวาดด้วยดินสอถ่านขมวดน้อยๆ บางคราวเรียวปากจิ้มลิ้มก็เผลอเม้มเป็นเส้นตรง แววตาคู่นั้นก็เคลื่อนไหวราวกับแม่น้ำในยามราตรีที่สะท้อนแสงดาว บางครั้งดูคล้ายจะมุ่งมั่นเด็ดขาด แต่ อีกครู่เหมือนนางรู้สึกตัวจึงยอมถอยกลับเพื่ออ่อนข้อ แต่ ก็มิได้อ่อนแอและโง่เขลา รู้จักว่ายามใดนางสามารถเดินหน้าและรู้ว่าจังหวะไหนนางสมควรถอยหลังกลับแล้วจะไม่ดูหมิ่นเกียรติของบุรุษผู้เป็นใหญ่เหนือผู้คนแห่งต้าเซี่ยเช่นฉางตี้ฮ่องเต้เรียกว่าเสน่ห์ของเจี่ยอวี้หลันเกิดขึ้นเพราะใบหน้าของนางมีหลากหลายอารมณ์เช่นนี้มิใช่เพราะนางรูปโฉมงดงามปานล่มเมืองจากใบหน้าของซือถูเจินจู แต่เพราะนางมีแววตาเฉลียวฉลาด ยิ่งยามที่นางมองหมากของฝ่ายตรงข้ามขาดแล้วว่าผลจะออกมาอย่างไรมุมปากของนางจะมีรอยยิ้มล้ำลึกเกิดขึ้นความงามของนางยิ่งมากจนหัวใจของเขาพลันสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน“หม่อมฉันแพ้แล้วเพคะฝ่าบาท”สำหรับชินอ๋องซ่างกวนไท่แล้วเดินหมากกับเขาแล้วเจี่ยอวี้หลันถึงกับปวดสมองเพราะเขาเป็นบุรุษที่คาดเดาความคิดได้ยากนักในยามเดินหมากนางจึงต้องใช้สมองมาก แต่เล่นกับฉางตี้ฮ่องเต้ผ่านไปแค่สองเค่อเจี่ยอวี้หลันก็พอเข้าใจว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 10

    จริงสินะ… นางมองเห็นวิญญาณแล้วตอนนี้ที่สองแม่ลูกยังไม่ยอมไปไหนนางก็คาดว่าวิญญาณคงมีห่วงใหญ่หลวงคงอยากจะพบหน้าชายคนรักกับบิดาของบุตรในครรภ์สักครั้งเป็นแน่ ดังนั้นคาดว่าห่วงใหญ่หลวงที่ว่าคงจะเป็นบุรุษผู้เป็นพ่อของดวงวิญญาณน้อยจริงๆ หากเขาปรากฏกายดวงวิญญาณสองดวงนี้ย่อมต้องมาวนเวียนอยู่ใกล้ เช่นนั้นนางก็รู้แล้วมิใช่หรือ ไม่นับว่าเป็นปัญหาจริงเสียด้วย“อวี้หลันโง่เขลาแล้วเพคะ”เจี่ยอวี้หลันเผยสีหน้าละอายใจออกมาเล็กน้อย ซึ่งเป็นเช่นนี้ซ่างกวนไท่จึงรู้สึกพึงใจอยู่มาก ที่เขารำคาญใจที่สุดกับสตรีผู้นี้ก็คือนางชอบทำสีหน้าเหมือนคนตายไร้ความรู้สึกมันดูเข้าถึงยากเหมือนนางกันตนเองไปอยู่ในโลกของนางเพียงคนเดียว แต่ก็พอจะเข้าใจได้ อายุนางยังน้อย แต่กลับเจอแต่คนทรยศจะไม่วางใจใครอีกเลยยังแปลกอันใด“ช่างเถอะ เจ้ารอบคอบเอาไว้ก่อนย่อมดีแล้ว ว่าแต่ดึกดื่นเหตุใดจึงออกมาฝึกกระบี่” เกิดมายี่สิบสามเกือบยี่สิบสี่ปีก็เพิ่งเคยเห็นคืนพระจันทร์เต็มดวงงดงามสตรีกลับออกมาออกท่าทางฝึกกระบี่ก็มีนางเป็นคนแรก“ดวงจันทร์งามนักเพคะ หม่อมฉันยิ่งมองก็ยิ่งคิดถึงท่านแม่และจางเหลียนหมัวมัวผู้เป็นแม่นมที่จากไปและเพื่อระลึกถึงเลยร่าย

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 11

    ตอนที่ 11เพียงแต่ย้ายไปตำหนักฉางเซินแล้ว เจ้าของตำหนักกลับไม่ได้รั้งอยู่ให้เจี่ยอวี้หลันได้ทำความคุ้นเคยดังที่เขาเอ่ยเอาไว้เท่านั้นเอง เพราะช่วงยามเฉินของวันต่อมาซ่างกวนไท่ก็มีงานเร่งด่วนให้ต้องรีบกลับไปค่ายทหารเฮ่ยหลงที่อยู่นอกเสียนหยางอย่างเร่งด่วน ทั้งที่ใกล้งานแต่งเข้ามาทุกวันแล้วแท้ๆ ตัวเจ้าบ่าวกลับจากไกลไปเสียได้แต่สำหรับเจี่ยอวี้หลันเช่นนี้จึงค่อยหายใจหายคอสะดวกขึ้นมาหน่อยเพราะนางจะทำใจแล้วว่าแต่งงานคราวนี้ซ่างกวนไท่มิใช่แต่งเพื่อการเมือง แต่เขาพูดเองกับปากว่าจะแต่งนางเป็นสามีภรรยาจริงๆ แต่ทำใจ นั่นก็ส่วนทำใจ ทว่าทำได้หรือไม่ช้าเร็วก็ว่ากันไป ซึ่งต่อให้เขาเป็นผู้มีพระคุณ แต่อย่างไรชินอ๋องสำหรับนางแล้วเขาก็ยังเป็นบุรุษแปลกหน้าสำหรับนางอยู่ดี ดังนั้นเขาจากไปไกลหน่อยสำหรับนางแล้วก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่มจึงค่อยสบายใจขึ้นมาไม่น้อยจริงๆ“เจี่ยกงจู่อย่าทรงว้าวุ่นใจไปเลยเพคะ ปกติแล้วนายท่านของพวกเราก็มีงานรัดตัวเช่นนี้อยู่แล้ว”“ถูกต้องเพคะ ปกตินายท่านของพวกเราก็มีงานรัดตัวเช่นนี้”หากแต่หงจูกับหงห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10
  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 12

    ตอนที่ 12แต่ก็นั่นแหละลางเนื้อชอบลางยา ใครยังไม่เคยมาเผชิญหน้ากับความโหดและเหี้ยมของสองจอมปีศาจขาวและดำด้วยตนเองก็ยังคงอยากมาทดลองดูสักครั้งอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะสตรีที่ตัดสินบุรุษด้วยรูปโฉมอันหล่อเหลา เช่นเดียวกับมู่หรงเจียวบุตรสาวลำดับที่ห้าของอดีตเฉินกั๋วกงที่ก็แอบหลงรักชินอ๋องหนุ่มเพราะเคยพบหน้าเขาอยู่ไกลๆ อีกฝ่ายทั้งหล่อเหลาทั้งองอาจ ยิ่งในยามเขาอยู่บนหลังอาชาในชุดเกราะพร้อมจะออกรบ ยิ่งรูปงามจนมู่หรงเจียวเก็บมาเพ้อฝันอยู่หลายเดือนดังนั้นเมื่อนางได้ยินข่าวว่าบุรุษที่ตนเองแอบรักแอบฝันถึงกำลังจะแต่งงานไปกับสตรีอื่น คุณหนูห้าหรือก็น้องสาววัยสิบแปดปีของเฉินกั๋วกงมู่หรงจิ่งนั้นกลับไม่พึงใจอย่างยิ่ง เพราะสำหรับนางแล้วนับจากอายุสิบสี่ปีเป็นต้นมามู่หรงเจียวก็ผูกใจรักมั่นคงกับชินอ๋องซ่างกวนไท่เสียแล้ว ดังนั้นนางจะเดือดร้อนใจเพราะข่าวงานวิวาห์ใกล้เข้ามาย่อมไม่แปลกนางรักเขามานานขนาดนั้นจนตอนนี้อายุสิบแปดใกล้สิบเก้าปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว มันใกล้จะเลยวัยออกเรือนของสตรีชาวต้าเซี่ยเต

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10

Bab terbaru

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 30

    ตอนที่ 30จบมื้อค่ำวันนี้ก็เป็นการลงสีเก็บรายละเอียดตรงข้อมือต่อให้เสร็จ อีกสามวันจะถึงกำหนดพิธีฝังศพของอดีตจิ้งหนานโหวแล้ว ส่วนศพของหลู่อวิ๋นเซียงนั้น ตามประเพณีของชาวต้าเซี่ย หนึ่งปลิดชีพตนเอง สองแท้งบุตรโดยมิได้แต่งงาน สามคบชู้ สี่กบฏ ห้าต้องโทษหนัก คนเหล่านี้ตายแล้วห้ามฝังในสุสานของตระกูลๆ เด็ดโดด เช่นนั้นพอสิ้นใจแล้วไม่เกินสามชั่วยาม ศพของหลู่ อวิ๋นเซียงกับเด็กในครรภ์จะต้องถูกนำไปฝังในสุสานไร้แซ่ไร้นามทันทีนับว่าสาแก่ใจของเจี่ยอวี้หลัน ครั้งหนึ่งหลู่ อวิ๋นเซียงก็ตั้งใจให้นางตายไร้ที่ฝัง หรือจะกล่าวให้ถูกก็คือตายไปอย่างไร้คนจดจำ ไร้ป้ายวิญญาณ พอถึงวันนี้สิ่งที่หลู่อวิ๋นเซียงคิดทำกับนางกลับย้อนกลับไปคืนสนอง ที่สำคัญ คนลงมือยังเป็นบิดาของบุตรในครรภ์และบุรุษที่อีกฝ่ายรักปักใจอีกด้วยสาแก่ใจจริงๆ!...“มีความสุขหรือ?”ขณะกำลังเก็บรายละเอียด บังเอิญที่ซ่างกวนไท่เหลือบสายตาขึ้นไปสังเกตสีหน้าของเจี่ยอวี้หลัน ด้วยกังวลว่านางจะเจ็

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 29

    ตอนที่ 29“จุมพิตของข้ามันแย่ถึงเพียงนั้น?” ซ่างกวนไท่อดใจไม่ไหวจึงต้องถามออกไป“หามิได้เพคะ”พอถูกถามเจี่ยอวี้หลันจึงได้สติ รีบร้อนปฏิเสธออกไปทันที ส่ายหัวส่ายหน้ายกมือวุ่นวายเห็นแล้วซ่างกวนไท่จึงคลายกังวลกลับเป็นรู้สึกหมั่นไส้ปนเอ็นดูแทน“ไม่มีผู้ใดถึงแก่ความตายด้วยจุมพิตมาก่อน เผื่อเจ้าไม่รู้”กล่าวออกไปแล้วก็ยอมปล่อย ให้ร่างน้อยเป็นอิสระ อย่างตัดใจ เพราะเห็นว่าหากเขายังจะจุมพิตนางต่อไป คืนนี้ที่ตั้งใจจะลบรอยแผลเป็นและปานแดง คงไปจบบนเตียงแทนเสียเป็นแน่เขารู้ความต้องการของตนเองดี ยามที่ยังไม่ได้แตะต้องลึกซึ้งก็พอจะหักห้ามใจตนเองได้ไหวอยู่ ทว่ายามใดที่เขาล้ำลึกกับนางไปแล้วความอดทนคงไม่มี และเขาเป็นพวกที่กินแล้วยากจะอิ่ม เพียงครั้งเดียวยากจะจบลง แล้วหากเขาเริ่ม เจี่ยอวี้หลันคงลุกไม่ไหวอย่างน้อยก็สองถึงสามวัน แล้วที่เขารับปากจะให้นางไปร่วมพิธีฝังศพบิดาคงต้องล้มเลิกเป็นแน่แต่ถึงจะปล่อยนางแล้วไม่โอบกอด แต่ถึงอย่างนั้นซ่างกวนไท่ก็ยังคง

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 28

    ตอนที่ 28หลังจากเตรียมข้าวของสำหรับสักลบรอยทั้งแผลเป็นและปานแดงซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างเร่งร้อนแล้วซ่างกวนไท่จึงกลับมาหาเจี่ยอวี้หลันในช่วงใกล้ค่ำ ที่ต้องกล่าวว่าต้องเร่งร้อนเพราะมันเร่งร้อนอยู่มากจริงๆ เร่งร้อนเพราะหากมีผู้ใดสักคนสังเกตเห็นถึงจะทำเป็นนิ่งเฉยไม่ยอมรับอย่างไรทว่ามันก็บ่มเพาะความสงสัยให้ผู้คนขึ้นมาแล้ว ซ่างกวนไท่แต่เดิมก็ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากในภายหลังมาแต่ไหนแต่ไร แต่ที่เขาทำเป็นมองข้ามปัญหาเล็กน้อย เช่นรอยแผลเป็นกับรอยปานแดงนั้นคงเพราะเกิดใจอ่อนขึ้นมากับเจี่ยอวี้หลัน หาไม่แค่ปัญหาเล็กเท่าขี้ตามดอย่างไรหากมองแล้วว่าจะยุ่งยากในภายหลัง มีหรือจะยอมปิดหูปิดตาทำเป็นมองไม่เห็นมาแต่แรกเริ่ม“เจี่ยเอ๋อร์…”เสียงห้าวดังมาก่อนตัว แต่ที่ลอยมาก่อนเสียงคงเป็นกลิ่นคาวโลหิตกลิ่นที่นางคุ้นเคยไม่หวาดกลัวนานแล้ว เจี่ยอวี้หลันที่เพิ่งอาบน้ำแต่งกายเสร็จจึงรีบออกมาจากฉากกั้นแต่งกายออกมายืนรออยู่ก่อนแล้ว“พี่ฉุนไป๋จะอาบน้ำก่อนหรือไม่”คนตัวเล็กถามขึ้นเพราะเห็

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 27

    ตอนที่ 27ส่วนเจี่ยอวี้หลันนอกจากไม่รู้สึกสงสารแล้วยังสมน้ำหน้าทั้งสามแม่ลูกอสรพิษอีกด้วย คนชั่วพบเจอคนชั่วกว่านี่จึงนับว่านรกส่งเสริมวาสนาพวกมันแล้ว“หากเจี่ยเอ๋อร์เดาไม่ผิด ทั้งเฉินกั๋วกงผู้เฒ่าและเฉินกั๋วกงคงวางแผนบางอย่างเอาไว้แต่แรกแล้วกระมังจึงต้องการแต่งงานกับบุตรสาวที่เกิดจากฮูหยินเอกจิ้งหนานโหว”ซ่างกวนไท่พอได้ฟังความคิดเห็นที่เจี่ยอวี้หลันกล่าวออกมาก็อดจะกดจุมพิตนางที่หน้าผากนวลเนียนเสียมิได้ เพราะผ่านมาจนถึงวันนี้ เด็กสาวไร้เดียงสาให้อดีตเติบโตขึ้นมา นางเท่าทันคนแล้ว“ที่เจ้ากล่าวมาถูกต้องแล้ว ทั้งหมดนั้นคือภาพที่มู่หรงจิ่งกับเฉินกั๋วกงผู้เฒ่าสร้างขึ้น เพราะแท้จริง สกุลมู่หรงหาได้สนับสนุนข้ากับพี่ห้า หากแต่แอบช่วยเหลือ เสด็จอา ซ่างกวนเหยา หรือก็คือโซ่วอ๋อง ที่บัดนี้ปกครองแคว้นอิ๋งโจว และที่ข้าหายไปก่อนงานแต่งงานก็เพราะไปสืบข่าวที่โซ่วอ๋องแอบสะสมกำลังทหารกับเสบียงหวังก่อกบฎโค่นล้มพี่ห้า”เจี่ยอวี้หลันเงยหน้าขึ้นมองสบตากับคนที่โอบกอดนางเอาไว้หลวมๆ พลา

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 26

    ตอนที่ 26พอกลับถึงตำหนักแทนที่จะได้พักผ่อน กลับพบว่าคณะทูตจากเผ่ากั๋วเซามารอเข้าเฝ้า ชินอ๋องและชินหวางเฟยอยู่ก่อนแล้ว เรื่องนี้ถึงไม่อยู่เหนือความคาดหมายเท่าใดนัก แต่ก็ออกจะมาอย่างฉุกละหุกไปสักหน่อยกับการมาเยือนของคณะทูต ยังดีว่าเจี่ยอวี้หลันนั้นเตรียมตัวมานานกว่าหลายเดือนเรื่องจึงไม่ยุ่งยากมากนัก พอจะรับมือได้ ถึงภายในใจของนางจะไม่สงบเท่าใดนัก แต่ด้วยภาระหน้าที่เจี่ยอวี้หลันก็จัดการอารมณ์ของตนเองได้“น้องหญิงเก้า ดูสบายดีนี่”ซือถูเจียงหว่าน ธิดาของหัวหน้าเผ่าลำดับที่หกของเผ่ากั๋วเซาแต่ดูแล้วอายุคงมากกว่าซือถูเจินจูไม่น่าจะเกินสองปี ทักขึ้นหลังจากคารวะชินอ๋องซ่างกวนไท่ตามประเพณีของชนเผ่ากั๋วเซาและของต้าเซี่ยแล้ว เจี่ยอวี้หลันซึ่งกำลังมองเลยไปยังบุรุษผู้หนึ่งที่ตนเองเคยเห็นว่าดวงจิตของซือถูเจินจูล่องลอยอยู่ใกล้ๆ เมื่อสิบกว่าวันก่อนและเขาเองก็กำลังมองตรงมาที่นางแน่วนิ่งเช่นกัน รีบดึงสายตาหันมาสนใจน้องสาวตามฐานะเสียก่อน“แน่นอน พี่ฉุนไป๋ หมายถึงชินอ๋องดูแลข้าดีมาตลอดจ

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 25

    ตอนที่ 25“บังอาจ! นี่คือชินหวางเฟย จงถอยออกไป”จากที่สงสัยเพราะเกิดจดจำแววตาของหลู่อวี้ หลิงได้เมื่อแลเห็นระยะใกล้ มู่หรงจิ่ง จึงต้องพิสูจน์ รอยแผลเป็นตรงหลังมืออาจบังเอิญได้แต่ปานแดงตรงเลยข้อมือขึ้นไปเล็กน้อยที่เขาพลิกดูเมื่อครู่ช่วงที่นางล้มมาทางเขานั้นยากจะมีใครเหมือนเป็นคนที่สองแน่ เขามั่นใจ!“เฉินกั๋วกงจะไปที่ใด?!”หลู่ฮ่าวอวี่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดพอเห็นมู่หรงจิ่งรีบร้อนจะพุ่งตามติดชินอ๋องไปเขาจึงรีบทักท้วงเอาไว้ เนื่องจากใครบ้างอยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจขาวแห่งต้าเซี่ยผู้นั้น“ไม่ต้องยุ่ง!!!” ตวาดออกไปแล้วก็วิ่งตามไปทันที ในใจของมู่หรงจิ่งแม้แต่ความตายก็ลืมสิ้น เพราะอยากได้คนของเขาคืน และนี่อาจเป็นสันดานเสียเดียวของเฉินกั๋วกง ที่อยากได้อันใดก็ต้องได้ สันดานเสียเดียวที่จะนำพาเขาไปสู่จุดจบก่อนวัยอันสมควร“เสียสติอันใดของเขากัน คนเช่นชินอ๋องซ่างกวนไท่ใครล่วงเกินได้หรือไร บัดซบเอ๊ย!”หลู่ฮ่าวอวี่คาดไม่ถึงว่าคนที่ระวังตัวดีมาตลอดเช่นมู่หรงจิ่งจะทำ

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 24

    ตอนที่ 24“บังอาจ นี่คือชินหวางเฟย จงถอยออกไป”พอตั้งสติได้และสองบุรุษโผล่ออกมาหงเหมยรีบชักกระบี่ออกมาขวางคนทั้งสอง โดยที่เจี่ยอวี้หลันนั้นยังคงยืนหันหลังให้กับบุรุษทั้งสอง กิริยาสงบนิ่งมั่นคงและสูงศักดิ์จนมู่หรงจิ่งกับหลู่ฮ่าวอวี่ยังหายใจสะดุด“อย่าเสียมารยาทหงเหมย จิ้งหนานโหวเปิ่นหวางเฟยเพียงรู้สึกไม่สบายจึงออกมาเดินผ่อนคลายมิคาดว่ากลับหลงทาง ล่วงล้ำเรือนชั้นในของจิ้งหนานโหวแล้ว ต้องขออภัยจริงๆ”เรือนกายอรชรในอาภรณ์หรูหราค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับบุรุษที่ตนเองชิงชังจนอยากจะฆ่าให้ตายด้วยมือตนเองช้าๆ เจ็บใด แค้นใด เจี่ยอวี้หลันจำต้องกลืนมันลงท้องไป แล้วเสแสร้งสวมบทบาทของพระชายาเจี่ยเอาไว้อย่างแนบเนียน เย่อหยิ่ง ไว้ตัว สูงศักดิ์ เหล่านี้นางไม่ต้องพยายามเพราะโดยปกติ หลู่อวี้ หลิงก็มีกิริยาดังกล่าวกับคนแปลกหน้ามาตลอดอยู่แล้ว“ชินหวางเฟย...”หลู่ฮ่าวอวี่พึมพำออกมาราวกับคนหลงละเมออยู่ในห้วงฝัน เพราะโฉมของสตรีตรงหน้างดงามราวกับเทพธิดาลงมาเยือนปฐพีมิ

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่  23

    ตอนที่ 23เท้าเรียวแต่ไม่ได้เล็กราวกับดอกบัวเช่นคุณหนูในห้องหอสกุลสูงศักดิ์ทั่วไปในแผ่นดินต้าเซี่ยเพราะในวัยเด็กมารดาของนางมิอาจทำใจทรมานร่างกายบุตรสาวด้วยธรรมเนียมรัดเท้าให้เป็นทรงดอกบัว ส่วนบิดาเองก็คิดว่ามิได้สำคัญถึงเพียงนั้น เพราะด้วยฐานะจวนจิ้งหนานโหวย่อมไม่กลัวบุตรสาวที่เกิดจากฮู หยินเอกนั้นจะไม่มีสกุลที่ดีมาสู่ขออยู่แล้วมีหรือจะคิดทรมานบุตรสาวโดยไม่จำเป็นดังนั้นในยามก้าวเดินนางจึงเดินได้อย่างมั่นคงเช่นเดียวกับหงเหมยที่องครักษ์ซึ่งน้อยยิ่งนักที่คุณหนูสูงศักดิ์ในต้าเซี่ยจะมีเท้าเช่นคุณหนูรองหลู่และนี่คือข้อดีอีกข้อที่ซ่างกวนไท่เลือกเจี่ยอวี้หลันมาสวมบทบาทเป็นซือถูเจินจูไม่ใช่ใครก็ได้ เพราะใช่จะมีใครมีเท้าเป็นธรรมชาติเช่นนี้มากนักในเมืองเสียนหยางนี้ลัดเลาะครู่เดียวก็ติดตามไปทัน นั่นก็ต้องยกความดีให้กับสัมผัสหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมาจากประตูผี กลิ่นของโลหิต...กลิ่นนี้ชักนำให้นางตามติดหลู่ฮ่าวอวี่กับมู่หรงจิ่งจนพบในเวลาแสนสั้น จนหงเหมยอดจะแปลกใจเสียมิได้ว่าเหตุใดพระชา

  • ในวันที่ใจของข้าสิ้นรัก   ตอนที่ 22

    ตอนที่ 22แต่หว่านเสน่ห์ไปก็เท่านั้นคนเช่นซ่างกวนไท่เขามิได้อับจนหญิงงาม กับคนเช่นมู่หรงเจียวแค่มองคาดว่ายังไม่มองให้เสียสายตาด้วยซ้ำ เจี่ยอวี้หลันกวาดสายตาไปยังครอบครัวสกุลมู่หรง แต่ก็ต้องมีอันสะดุ้งกับสายตาของมู่หรงเจียว ที่ส่งสายตาฟาดฟันมาทางตนเอง…ผีเข้าหรือไรกัน? …เจี่ยอวี้หลันคิดในใจทันที ปกติสมัยที่นางยังเป็น หลู่อวี้หลิง คุณหนูห้ามู่หรงผู้นั้นก็ไม่ค่อยญาติดีกับนางนักชอบนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง เรียกว่าปากร้ายมาก ทว่าก็ไม่ถึงกับมองกันด้วยสายตาราวกับจะฉีกเนื้อเช่นในยามนี้ เฮ้อ! มีสามีหล่อเหลานี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่มันความผิดของนางหรือซ่างกวนไท่หรือก็หาไม่ ในอดีตอีกฝ่ายหวงพี่ชายกับนางก็ว่ามู่หรงเจียวร้ายกาจแล้ว พอมาหึงหวงสามีของนางกลับน่ารังเกียจนัก“ห้ามมองมันนาน ข้าหึงหวงยิ่ง”อยู่ดีๆ คนด้านข้างกลับชะโงกหน้ามากระซิบดุดันเสียอย่างนั้น ก็มิใช่ว่าเมื่อเช้าเขายังบอกว่าตนเองเป็นผู้มีเหตุผลพอ บัดนี้แค่นางมองไปทางครอบครัวสกุลมู่หรงนานหน่อยกลับมาส่งกลิ่นอายสังหารเข้มข้นข่มเหงนางเส

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status