“พูดก็พูด แต่มันก็จริง ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรก็เป็นลูกของตัวเอง เขาอาจจะไม่โหดร้ายขนาดนั้น”หยวนชิงหลิงเย้ยหยัน "เขาเคยเมตตาข้าและน้องสาวข้าหรือ? ข้าจำยังเหตุการณ์ฮุ่ยติงโฮ่วได้อย่างแม่นยำ กับคนแบบนี้ เขากล้าผลักน้องสาวข้าไปตายเพื่ออนาคตของเขา อย่าบอกว่าไม่เลย ลูกสาวที่ไม่ทราบที่มาสำหรับเขาน่ะหรือ? ข้าไม่เชื่อใจเขาอยู่แล้ว ส่งฉงเอ๋อร์ให้เขาไม่ได้ เด็กคนนี้มีพ่อแม่แบบนี้ก็น่าสงสารมากพออยู่แล้ว ขืนส่งไปให้พวกเขาคงไม่อาจรอดชีวิตได้ัฟำ”หยวนชิงหลิงเพิ่งจะกลายเป็นแม่คน นางมีความเห็นอกเห็นใจต่อเด็ก ๆ เป็นพิเศษ เด็กก็เหมือนผ้าขาว หากพวกเขามีความผิด ก็คงผิดที่เป็นลูกของพวกเขาเด็กไร้เดียงสาแค่ไหน? ถ้าเลือกได้จะเลือกเป็นลูกพวกเขาได้อย่างไร?หยวนชิงหลิงรู้สึกเศร้ามาก เพราะรอยแดงที่คอของเด็กยังไม่จางหายไป นางเพิ่งเกิดมา สิ่งที่ต้อนรับนางก็คือความโหดร้ายของแม่ตัวเองนางข้าหลวงสี่ไม่รู้ว่าจะปลอบใจนางอย่างไร เพราะเรื่องนี้เลวร้ายมาก และใครที่พบเห็นต่างก็ปวดใจจิ้งโฮ่วหลบหน้าหลบตาหมานเอ๋อร์บอกเขาในจวนว่าได้นำเด็กกลับมาด้วย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาไม่อยากมา แต่หมานเอ๋อร์พูดอย่างแฝงค
ในวินาทีนั้นหยวนชิงหลิงอยากฆ่าเขาจริง ๆจิ้งโฮ่วมองไปที่แววตาของหยวนชิงหลิงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาขึ้นเสียงเล็กน้อยและเถียงไปว่า "เจ้ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้นทำไม ข้าไม่ต้องการเด็กคนนี้ มันเป็นกับดักที่กู้จือกับอ๋องอันสร้างขึ้น ทำไมเจ้าต้องให้ข้ารับผิดชอบ เจ้าก็ไปหาอ๋องอันสิ"หยวนชิงหลิงอดทนจนแทบกระอักเลือด ชี้ไปที่ประตูและพูดอย่างเด็ดขาดว่า "ออกไป!"จิ้งโฮ่วแทบอดไม่ไหวที่จะออกไปทันที หลังจากได้ยินเขารีบลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู หลังจากที่หยุดตรงนั้นมาสักพัก เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และหันกลับมามองหยวนชิงหลิง “เจ้าบอกว่าข้าจะทำให้ท่านย่าเจ้าโมโหตาย คำนี้เจ้าอย่าเที่ยวเอาไปพูดไร้สาระข้างนอกเชียวล่ะ มันทำลายชื่อเสียงของข้า"“ท่านยังห่วงชื่อเสียงบ้า ๆ นั่นอยู่อีกหรือ?” ในที่สุดหยวนชิงหลิงก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นางผุดลุกขึ้นมาชี้ไปที่เขาแล้วด่าว่า “ถ้าท่านไร้ยางอายขนาดนี้ ก็ออกไปซะ ออกไปที่ตลาดหาฟังดูว่าชื่อเสียงของท่านจิ้งโฮ่วมันเป็นอย่างไร คนข้างนอกบอกว่าท่านมันไร้ค่า ขายลูกสาวแลกตำแหน่ง หน้าด้านไร้ศีลธรรม แล้วท่านยังมีหน้ามาพูดให้เรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน้าข้าอีกหรือ
"ข้าคิดว่าให้นางเลี้ยงคงไม่เหมาะ นางจะไม่มีวันได้แต่งงานตลอดชีวิตหรอกหรือ? นี่ไม่ใช่การทำร้ายนางไปชั่วชีวิตรึ?" ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ อวี่เหวินห่าวรู้สึกเสียใจกับจิ้งเหอจวิ้นจู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ตระกูลชุยที่รับใช้เขา เขาหวังจากก้นบึ้งของหัวใจว่าจิ้งเหอจวิ้นจู่จะสามารถใช้ชีวิตตามปกติแทนที่จะมาเสียเวลาชีวิตแบบนี้หยวนชิงหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "จริง ๆ แล้วข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าแค่กังวลว่านางที่มองเห็นลูกสาวของกู้จืออยู่ทุกวันแล้วจะทรมานหรือไม่?""เจ้าคิดแบบนี้ก็มีเหตุผล" อวี่เหวินห่าวมองนางและพูดเบา ๆ "นอกจากนี้ ข้าหวังจริง ๆ ว่านางสามารถแต่งงานใหม่ได้ และจะมีใครสักคนรักนางเหมือนข้าและเจ้า แม้ว่าฉงเอ๋อร์จะน่าสงสาร แต่ก็ต้องมีหนทางแน่ เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าคุยกับใต้เท้าชุย ท่านบอกว่าในจวนฮูหยินเฒ่าล้มป่วยเพราะเป็นห่วงนางมาก ทุกวันนี้นางไม่มีความสุขเลย เรื่องผิดบาปของเจ้าสามไม่อาจลบล้างไปได้เลย”"จะมีความสุขหรือไม่ คนนอกไม่อาจเห็นได้หรอก ไม่ได้หมายความว่าการหาผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยคือความสุข สิ่งที่นางต้องการตอนนี้คือความสงบสุขภายในใจต่างหาก" หยวนชิงหลิงกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยวนชิงหลิงก็พูดว่า "แล้วทำไมท่านไม่เรียกหมานเอ๋อร์เข้ามาถามล่ะ?"อวี่เหวินห่าวกล่าวว่า "ก็ดี"เขาลุกขึ้นและออกไป ซูยี่ที่เพิ่งเข้ามาในลานพอดี เขาก็พูดว่า "ซูยี่ไปเรียกหมั่นโถวเข้ามา""พ่ะย่ะค่ะ!" ซูยี่วันนี้ไม่มีอะไรทำ และอยากที่จะมาดูพวกเด็ก ๆหมานเอ๋อร์ถูกเรียกตัวมา และเมื่ออวี่เหวินห่าวถามเกี่ยวกับแม่มดดำ นางถึงกับตกตะลึง "พระองค์ทรงทราบเรื่องแม่มดดำได้อย่างไรเพคะ?"“บอกมาสิแม่มดดำคืออะไรกันแน่” อวี่เหวินห่าวกล่าวหมานเอ๋อร์กล่าวว่า "แม่มดดำเป็นหมอศักดิ์สิทธิ์ของหนานเจียงเรา และนับว่ามีฐานะสูงสุดในหนานเจียง แม้ว่าหนานเจียงของเราจะแบ่งเหนือใต้ แต่แม่มดดำก็คือแม่มดดำของหนานเจียงทั้งหมด และเป็นผู้นำแม่มดแห่งหนานเจียงทั้งหมด แม่มดดำไม่สามารถแต่งงานได้ เมื่อพวกเขาสืบทอดตำแหน่งแม่มดดำ พวกเขาจะมองหาและเลือกเด็กสาวสองคนจากหนานเจียงให้เป็นผู้สืบทอด"หยวนชิงหลิงพูดว่า "แล้วเจ้ารู้ไหมว่าลูกสาวคนหนึ่งของแม่มดดำในหนานเจียงได้เสียชีวิตแล้ว"“ทูลองค์หญิง บ่าวก็ไม่ทราบ และบ่าวเองก็ไม่ได้กลับไปที่หนานเจียงนานแล้วด้วยเพคะ” หมานเอ๋อร์กล่าวหยวนชิงหลิงถามว่า "เจ้าเพิ่งบอกว่
"เจ้า...เจ้ามาที่นี่ทำไม เจ้าคิดจะทำอะไร?" กู้จือเจ็บไปทั่วร่าง และหลังคลอดนางก็หมดสติไปทันที ตอนนี้ทั้งเหนื่อยและหิว ราวกับว่าร่างกายของนางถูกก้อนหินบดขยี้อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้ทำให้นางหยุดระแวงจิ้งเหอจวิ้นจู่ได้เลย“ก่อนหน้านี้เจ้าที่ถามข้า ว่าข้าจะฆ่าเจ้าหรือไม่? ตอนนี้ข้าได้คำตอบแล้ว เจ้าอยากฟังไหม?” จิ้งเหอจวิ้นจู่พูดเสียงเบา ร่างกู้จือแข็งทื่อ นางค่อย ๆ หันหน้าไป ริมฝีปากของนางสั่นเล็กน้อย "เจ้าฆ่าข้าไม่ได้"จิ้งเหอจวิ้นจู่กล่าวว่า "กู้จือ เจ้าลองบอกเหตุผลมา ให้ข้าไม่ฆ่าเจ้า"กู้จือกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก "หยวนชิงหลิงบอกว่านางจะปกป้องข้า และพาข้ากลับไปที่หนานเจียง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ เจ้ายังบอกว่าจะฟังนาง เพราะนางช่วยชีวิตเจ้า"กู้จือไม่เห็นแววตาในดวงตาของจิ้งเหอจวิ้นจู่เลย ท่าทางดูสงบมากและพูดว่า "ใช่ ข้าเคยพูดไปแล้ว ถ้านางอยากช่วยเจ้าและข้าฆ่าเจ้า ก็เพราะข้าเป็นหนี้นางหนึ่งชีวิต"“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ฆ่าข้าไม่ได้!” กู้จือลุกขึ้นลากร่างอันหนักอึ้งไปด้านข้าง “เห็นแก่ลูกข้า เจ้าอยากได้ลูกข้ามิใช่หรือ? เจ้าเอาไปเลย ไว้ชีวิตข้าด้วย"จิ้งเหอจวิ้นจู่ถอนหายใจ "จริง ๆ ข้าอยากจะปล
กู้จือรู้สึกได้ถึงยมทูต ในใจก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ และนางเค้นสมองนึกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องของอ๋องอัน แต่ในความเป็นจริงนางติดต่อกับอ๋องอันค่อนข้างจำกัด และอ๋องอันก็ค่อนข้างระวังตัวเป็นอย่างมาก ที่จะไม่ให้นางรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ มากอีกด้วยนางนึกถึงคน ๆ หนึ่งและพูดอย่างรวดเร็ว "อ๋องอันติดต่อกับคุณชายหงเย่บ่อย ๆ พวกเขาต้องสมรู้ร่วมคิดกัน เขาส่งคนไปฆ่าอ๋องฉี และโยนความผิดให้อ๋องจี้ อ๋องจี้บริสุทธิ์ เจ้าไปหาพระชายาจี้ก็ได้ เจ้าช่วยพระชายาจี้ได้ พระชายาจี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า...”หลังจากได้ยิน แววตาจิ้งเหอจวิ้นจู่ก็สั่นไหว "กู้จือ ข้าไม่สนใจสิ่งที่เจ้าพูด"“อีกอย่าง...” กู้จืออยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาที่จะร้องและยืนตัวสั่นด้วยความตื่นตระหนก “เจ้าอยากฟังเรื่องอ๋องเว่ยหรือไม่? อ๋องเว่ยมีเจ้าอยู่ในใจ จริง ๆ แล้วเขามีเจ้าอยู่ในใจ ... ”ร่องรอยของความเกลียดชังส่องประกายในดวงตาของจิ้งเหอจวิ้นจู่ จิตสังหารก็เกิดขึ้นทันที แสงเย็นของมีดสั้นก็ส่องวาบผ่านคอของกู้จือนางพูดอย่างไม่เสียใจเลยสักนิดว่า "กู้จือ เจ้าไม่ควรพูดถึงเขาเลย"กู้จือรู้สึกว่าคอของนางเย็น และเอื้อมมือไปสัมผัสโดยไม่รู้ต
ภูเขาลูกใหญ่มาก จึงสุ่มหาสักที่ที่มีดินร่วนเพื่อฝังศพกู้จืออาซื่อตักดินเติมลงในหลุมและพูดอย่างเฉยชาว่า "กู้จือ เจ้าได้รับกรรมที่ก่อแล้ว ตายแล้วไปก็ไปปรโลกซะ อย่าคิดจะกลับมาสร้างปัญหาอีก อย่างไรก็ตาม ตอนที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมาย ตายไปแล้วต้องตกนรก แม้จะอยากกลับก็ไม่ได้อีก ในชาติหน้าขอให้เป็นคนดีนะ ถึงการเป็นคนดีจะลำบาก แต่ก็สุขใจ”นางเติมดินในหลุมให้เต็มและอัดให้แน่น วางหินสองก้อนไว้ด้านบนเป็นเครื่องหมาย นางรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย นางจึงนั่งหน้าหลุมศพเพื่อพักและพูดว่า "จิ้งเหอจวิ้นจู่ช่างแสนดีเหลือเกิน ทำไมเจ้าถึงโหดร้ายกับนาง นางเคยช่วยเจ้าไว้แท้ ๆ เป็นคนไม่รู้จักบุญคุณคน เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากคนตายเลย เอาเถอะ เจ้าไปซะเถอะ "หลังจากพูดจบ นางก็เดินกลับมาพร้อมกับแบกพลั่วมาจิ้งเหอจวิ้นจู่กำลังเก็บข้าวของในห้อง เตียงและเครื่องนอนของกู้จือถูกเผาทิ้งทั้งหมด มีกลิ่นเลือดลอยคลุ้งอยู่ในอากาศอาซื่อเข้าไปช่วยเผาทุกอย่างที่ควรเผา แล้วถามจิ้งเหอจวิ้นจู่ว่า "ท่านจะกลับไปที่แห่งใด?"จิ้งเหอจวิ้นจู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ข้าจะกลับไปกับเจ้า จะแวะดูเด็กคนนั้นสักหน่อย"“แล้
อาซื่อและหมานเอ๋อร์รีบไปช่วยพยุงนาง หยวนชิงหลิงรู้ว่านางเหนื่อยจนหมดสติไป จึงพานางไปที่ห้องด้านข้างนอนพักสักครู่หลังจากพานางไปนอนแล้ว นางให้หมานเอ๋อร์ไปที่จวนตระกูลชุย เพื่อที่คนในจวนตระกูลชุยจะได้ไม่ต้องกังวล แต่อย่ามาที่นี่ก่อน ปล่อยให้นางอ่อนแอสักพัก หากคนในตระกูลชุยมา เกรงว่านางจะต้องแสร้งทำเป็นเข้มแข็งอย่างไรก็ตาม จิ้งเหอจวิ้นจู่สนิทกับพระชายาซุน ดังนั้นนางจึงเชิญพระชายาซุนมาเมื่อพระชายาซุนมาถึง หยวนชิงหลิงก็เล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง พระชายาซุนสะใจมาก และพูดว่า "ดี ฆ่าได้ดี คนแบบนี้สมควรตาย"“คนตายไปแล้วก็ช่างเถอะ ไม่ต้องตะโกนหรอก” หยวนชิงหลิงกล่าวพระชายาซุนพยักหน้า "ข้ารู้ ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ที่นี่เจ้าช่วยเก็บความลับไว้ได้ไหม?""คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่อาซื่อและหมานเอ๋อร์ และทั้งสองคนเก็บความลับได้" หยวนชิงหลิงรู้ว่าแม้ว่าบางครั้งพระชายาซุนจะเก็บความลับไม่อยู่ แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิ้งเหอจวิ้นจู่นางมีขอบเขต ดังนั้นนางจึงไม่กลัวที่จะบอกให้นางรู้พระชายาซุนถอนหายใจด้วยความโล่งอกจริง ๆก่อนหน้านี้ที่จิ้งเหอจวิ้นจู่จะเก็บกู้จือไว้ นางเคยบอกด้วยว่าจิ้งเหอจวิ้นจู่ใจอ