Share

บทที่ 398

Penulis: จูน
หลังจากขันทีมู่หรูไปแล้ว สองสามีภรรยาที่ได้มองตากันและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่ว่าหลังจากหัวเราะเสร็จแล้ว จู่ ๆ หยวนชิงหลิงก็ร้องไห้ออกมา

นางก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา น้ำตาที่หยดร่วงเป็นสาย ทำยังไงก็หยุดไม่ได้

ตอนแรกอวี่เหวินห่าวยังคิดว่านางยังแกล้งทำอยู่ แต่เมื่อเห็นน้ำตาหยดโตที่ร่วงเผาะลงมา นางร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าเสียใจมาก

เขารีบลุกขึ้นมายื่นมือไปลูบหน้าปาดน้ำตาพวกนั้นออก “ทำไมกัน? ทำไมจู่ ๆ ถึงร้องแบบนี้? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

หยวนชิงหลิงแค่อยากร้องไห้ แต่ยิ่งร้องก็ยิ่งเศร้าใจจนพูดอะไรไม่ออก

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนกังวลและรีบเข้ามา นางข้าหลวงสี่รีบไปเชิญหมอหลวงมาทันที

หยวนชิงหลิงหยุดร้องไห้และพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นไร”

ตาทั้งสองข้างบวมไปเหมือนเหมือนลูกวอลนัทก็ไม่ปาน

“เกิดอะไรขึ้น? บอกข้าสิ!” อวี่เหวินห่าวที่เห็นถามด้วยความรู้สึกปวดใจ

หยวนชิงหลิงมองเขา และอดปวดใจไม่ได้ “ข้าแค่นึกถึงคำพูดที่พวกเราทะเลาะกัน ในใจข้ามันเจ็บ ข้าบอกว่าจะไป ท่านบอกว่าจะหย่าจะทำแท้งลูก ข้ารู้ว่านั้นมันเป็นเรื่องโกหก แต่ไม่รู้ว่าทำไม ข้าเจ็บปวด คำพู
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 399

    ถือว่าครั้งนี้หนีรอดจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ไปได้แต่ว่าหยวนชิงหลิงกับอวี่เหวินห่าวต่างก็รู้ดีว่าปัญหานี้ ย่อมกลับมาได้เสมอ เมื่อถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะหลีกหนีพ้นไปได้อย่างไรในมุมกลับกัน ที่จริงหยวนชิงหลิงกลับรู้สึกมีความสุขมากเพราะไม่ใช่นางคนเดียวที่พยายามรักษามันอย่างยากลำบาก ยังมีเขาอีกช่วยนางอีกด้วยหลังจากที่ได้เจอเรื่องแบบนี้ ความรู้สึกของทั้งคู่ก็ยิ่งผูกพันลึกซึ้ง ผ่านหนึ่งเดือนไปอย่างยากลำบากเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วอากาศหนาวเย็นมาก หยวนชิงหลิงเองก็ไม่ชอบเคลื่อนไหวตอนนี้กลับมากินดื่มเป็นปกติบ้างแล้ว แม้ว่ายังมีอาเจียนคลื่นไส้บ้างเป็นบางครั้ง แต่ว่าเมื่อเทียบกับอาการก่อนหน้านั้นแล้วถถือว่าดีกว่ามากลูกในครรภ์เองก็เริ่มแข็งแรงมั่นคงขึ้นแล้ว หมอหลวงที่มาตรวจดูอาการทุกครั้งล้วนพยักหน้าด้วยความพอใจ “คืบหน้าได้ดี คืบหน้าได้ดีพ่ะย่ะค่ะ”มาถึงวันที่แต่งพระชายารองฉี พึ่งมีหิมะตกไปรอบหนึ่งชิงอ๋องแต่งพระชายารองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ที่จวนอ๋องฉีจึงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะพี่เขยอย่างอวี่เหวินห่าว และหยวนชิงหลิงเองก็ต้องมาร่วมแสดงความยินดีเป็นเรื่องบังเอิญที่ว่า อ๋องจี้เองก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 400

    ในห้องโถงมีองค์หญิงหลายพระองค์ ทั้งองค์หญิงเหวินจิ้ง องค์หญิงไท่ผิง และองค์หญิงอันผิงสำหรับพระชายาชินอ๋อง นอกจากพระชายาจี้แล้ว ล้วนอยู่กันพร้อมหน้าพระชายาซุน พระชายาเว่ยและพระชายาอัน ทุกคนล้วนแต่งการปราณีตงดงามอลังการสมฐานะของพวกนางพระชายาฉี ฉู่หมิงชุ่ยที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งด้านหน้า นางสวมชุดคลุมปักลายดอกโบตั๋นสีแดง ปักปิ่นหยกม่วงแต่งหน้าอย่างพิถีพิถันดูสง่างามสมฐานะ หยวนชิงหลิงไม่เห็นว่านางไม่มีความรู้สึกที่ไม่มีความสุขอะไรออกมาเลย ทุกการกระทำของนางล้วนละเอียดละอออย่างถูกต้องและเหมาะสมใช่แล้ว เรื่องแต่งพระชายารองฉี นางเองที่เป็นธุระจัดการเรื่องนี้หยวนชิงหลิงเคยได้ยินเรื่องซุบซิบจากพระชายาซุนมาก่อน เห็นว่าอ๋องฉีไม่ยินยอมแต่งพระชายารอง นางก็เข้าไปขอให้ฮองเฮาทรงตัดสินพระทัยด้วยตัวเองฉู่หมิงชุ่ยเห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา ก็ยิ้มแย้มขึ้นมาเล็กน้อย “พระชายาฉู่ก็มาด้วยงั้นหรือ? เขิญนั่งก่อน”“ขอบคุณพระชายาฉี!” หยวนชิงหลิงกล่าวเพราะนี่เป็นการที่หญิงตั้งครรภ์ออกจากบ้านครั้งแรก หยวนชิงหลิงได้รับการปฏิบัติเหมือนแพนด้าที่เป็นสมบัติของชาติ องค์หญิงและพระชายาชินอ๋องทั้งหลายต่างดูแลเ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 401

    อ๋องฉีรักฉู่หมิงชุ่ยมาก แต่ทำไมเขาถึงไม่ขัดขวางการรับพระชายารอง?นางคิดเคยคิดว่าความรักของอ๋องฉีที่มีต่อฉู่หมิงชุ่ยนั้น ทั้งในเมืองหลวงนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเทียบได้ แต่ความรักเช่นนี้ในสุดท้ายแล้วก็ยังมีบุคคลที่สามเข้ามาหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไม่สามารถทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้อีก นางจึงเอ่ยกับพระชายาซุน "ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีต้องขอตัวกลับก่อน""ทำไมรีบกลับขนาดนี้?" พระชายาซุนตกใจแล้วมองดูนาง และสงสัยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ "เจ้ารู้สึกไม่สบายใจแทนพระชายาฉีงั้นรึ? เจ้าไม่ต้องกังวล นางทำเหมือนโดนบังคับ แต่ว่าใจจริงนางก็ดีใจ เจ้าเชื่อหรือไม่?"หยวนชิงหลิงมองนาง "เพราะอะไรถึงต้องดีใจ?"พระชายาซุนเยาะเย้ย "แม่ทัพหยวนเป็นคนเที่ยงธรรมเสมอ และเขาไม่ได้สนับสนุนชินอ๋องคนใด แต่ตอนนี้อ๋องฉีแต่งงานกับหลานสาวของแม่ทัพหยวนแล้ว แม่ทัพหยวนไม่เลือกก็ไม่ได้ ก็ต้องเลือกยืนอยู่ข้างอ๋องฉี แล้วอย่างนี้พระชายาฉีจะไม่ดีใจได้อย่างไร? นางรู้อยู่แล้วว่าอ๋องฉีไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากนาง ถึงจะแต่งพระชายารองเข้ามามันก็เป็นแค่การแสดง แต่นางกลับได้รับการช่วยเหลือที่จะทำให้นางได้เป็นพระชายาของรัชทายาทโดยตรง เจ้าไม่จำเป็นต้อ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 402

    หลังจากงานเลี้ยงในจวนอ๋องฉี อ๋องฉีก็ไปที่ห้องใหม่หลังจากเปิดผ้าคลุมหน้าสีแดงขึ้น เขาก็พิจารณาคนในห้องใหม่นี้ เขามองใบหน้ากลมของหยวนชิงหลิงแล้วเอ่ยว่า "ข้าต้องการพูดคุยกับเจ้า"หยวนหยงอี้กะพริบตาแล้วลูบต้นคอ "ท่านอ๋องเชิญกล่าว"อ๋องฉีกล่าว "คืนนี้ข้าจะไม่อยู่ที่นี่จนกระทั่งข้ามคืน"หยวนหยงอี้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเอง ถอนหายใจอย่างโล่งอกเป็นอย่างมาก แลบลิ้นออกมาแล้วเอ่ยว่า "เช่นนั้นดีมากเลยเพคะ"อ๋องฉีตกใจ "เจ้า...ไม่เสียใจ?"หยวนหยงอี้ยืนขึ้นถอนมงกุฎบนศีรษะออก แล้วเดินไปที่โต๊ะนั่งลงเพื่อทานอาหารอย่างรวดเร็ว "ข้าหิวจนจะขาดใจแล้ว ตลอดทั้งวันนี้ก็มีเพียงตอนตื่นเช้ามาแต่งตัวที่ได้ทานซุปก๋วยเตี๋ยวเข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รู้สึกหิวมาตลอดจนกระทั่งตอนนี้ ช่างใจร้ายเกินไปแล้ว"อ๋องฉีมองนาง เห็นนางไม่มีอารมณ์ ไม่สบอารมณ์ หรือเศร้าโศกแม้แต่น้อย จึงค่อยวางใจเล็กน้อย "เช่นนั้นเจ้าก็กินเถอะ ข้าออกไปก่อน""รอสักครู่" หยวนหยงอี้วางตะเกียบลงแล้วกล่าวหัวใจของอ๋องฉีหล่นลงเล็กน้อย ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเลยที่จะปฏิเสธ หน้าก็พลันบูดบึ้งขึ้นหยวนหยงอี้มองเขา แล้วใบหน้าที่ดูประจบประแจงก็เผยขึ้นม

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 403

    นางข้าหลวงสี่ ลวี่หยา และซูยี่พานางเข้าวังหลวงวันนี้นอกจากพระชายาของชินอ๋องที่เข้าวังถวายพระพร ยังมีพระราชโองการเรียกสตรีสูงศักดิ์ให้เข้าวังหลวงหยวนชิงหลิงไม่ค่อยสนใจเรื่องในวังหลวงมากนัก ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ากำลังมีแผนการใหญ่อะไรเกิดขึ้นในวัง แต่ว่ามองเห็นเหล่าหญิงสาววัยเยาว์ทั้งหมดนางก็รู้สึกตกใจไปครู่หนึ่งขณะที่รออยู่นอกตําหนักของไทเฮา ก็เห็นฉู่หมิงชุ่ยพาหยวนหย่งอี้ และหยวนหมิงหยางเข้ามาฉู่หมิงชุ่ยสวมชุดผ้าดิ้นเงินดิ้นทองสีแดงค่อนข้างโบราณดูและเรียบร้อย อย่างไรก็ตามหยวนชิงหลิงตรวจสอบอย่างละเอียด ก็จะเห็นถึงความแตกต่าง ชุดนี้น่าจะเป็นชุดราชสำนักของพระชายาชินอ๋องฉู่หมิงสวมชุดกระโปรงจีบลายหรูอี้ที่มีความหมายเป็นสิริมงคล และสวมสร้อยคอปะการังสีแดงสดราวกับไฟแวววาวสะดุดตาเช่นเดียวกับรูปลักษณ์ของนางและใบหน้าที่บอบบางราวลูกพลับส่วนหยวนหย่งอี้นั้นแต่งกายน้อยไปเล็กน้อย ชุดสีเหลืองคู่กับสีเขียว มวยผมเดี่ยวเป็นรูปทรงก้นหอยและปักปิ่นปักผม การแต่งตัวนี้ไม่เหมือนหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว แต่เหมือนหญิงสาวที่ยังไม่มีคู่หมั้นหมายเมื่อนางมองเห็นหยวนชิงหลิง ดวงตาของนางก็เปล่งประกายออกมา นางรีบ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 404

    เนื่องจากวันนั้นพวกเขาทั้งสองคนได้แสดงละครต่อหน้ามู่หรูกงกงจึงไม่ได้เอ่ยความประสงค์เกี่ยวกับเรื่องพระสนมออกมาหยวนชิงหลิงดีใจคิดว่าโชคดีที่เรื่องนี้จบลงไปแล้ว ไม่คิดว่าจะถูกนำออกมากล่าวถึงต่อหน้าผู้คนมากมาย แม้ว่าหวงซ่างจะไม่ตั้งใจพระราชโองการ แต่ฉู่หมิงหยางกลับเอ่ยออกไปทั้งหมด และหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นตระกูลฉู่จะต้องเสียหน้าแน่ตระกูลฉู่จะเต็มใจเสียหน้าหรือ?หยวนหย่งอี้มองหน้าฉู่หมิงหยางอย่างเสียใจ ที่แท้ฉู่อ๋องก็อยากแต่งพระชายารองด้วยหรือ? ถ้านางรู้เร็วกว่านี้คงจะรอดูก่อน คงจะดีมากถ้าได้เแต่งให้อ๋องฉู่ อย่างนั้นนางก็จะได้เป็นน้องสาวของพี่หญิงฉู่หวางนางข้าหลวงสี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ประคองหยวนชิงหลิงไว้ กลัวว่าเพราะฉู่หมิงหยางจะทำเรื่องที่เป็นการเสียมารยาทฉู่หมิงหยางมองหยวนชิงหลิงอย่างมาดร้ายและโหดเหี้ยมเย็นชา รอคอยคำตอบของนางหยวนชิงหลิงมองหน้านางแล้วเอ่ยอย่างสุขุม "ข้าและเจ้าไม่มีทางเป็นพี่สาวน้องสาวกันได้อย่างเด็ดขาด"ในเมื่อฉู่หมิงหยางรู้วิธิกระจายข่าวสารนางก็รู้เช่นกันคำพูดของทุกคนถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่ นางมีมหาเสนาบดีฉู่ ส่วนเธอก็มีไท่ซ่างหวง แล้วเรามาลองกันดูฉู่หมิงหยางยิ้

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 405

    ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าดูเหมือนจะมีฮูหยินคนหนึ่งที่เดินทางมาพร้อมกับฮูหยินเหยียง และพระชายารุ่ยชิง มือของฮูหยินคนนั้นได้รับบาดเจ็บ เธอจึงได้ช่วยนางห้ามเลือดเอาไว้"ท่านแม่ของเจ้าคือคนที่มือบาดเจ็บคนนั้นหรือ?" หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม"ใช่ ใช่แล้ว!" หยวนหย่งอี้เมื่อเห็นว่านางคิดได้แล้ว ก็มองนางอย่างตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง "พี่หญิงฉู่หวาง ท่านพบท่านแม่ของข้าได้หรือไม่"หยวนชิงหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ได้สิ เช่นนั้นอีกวันเชิญเจ้าพาฮูหยินมาด้วย ข้าจะให้การต้อนรับในจวน”"ดีจริง ดีมากจริง ๆ!" หยวนหย่งอี้ดีใจจนเอ่ยอะไรไม่ออกอีกครั้งที่หยวนชิงหลิงไร้ซึ่งคำพูดหากจะบอกว่าหยวนหย่งอี้คนที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดจริง ๆ จะต้องยุ่งยากมากเป็นแน่ในสถานการณ์ตอนนี้ ทุกคนก็ล้วนใส่หน้ากากเข้าหากัน นางจะต้องระวังไว้เป็นการดี ให้ฮูหยินท่านนี้มาสักครั้งก็พอแล้ว หลังจากนี้เคารพแต่ก็อยู่ห่างไว้หยวนหย่งอี้กระโดดโลดเต้นออกไปอย่างไม่ค่อยเรียบร้อยนัก จากนั้นอ๋องฉีก็เข้าวังเพื่อถามสาทุกข์สุกดิบของไท่ซ่างหวง แล้วพบเข้ากับหยวนหย่งอี้ หยวนหย่งอี้กระโดดอยู่สองสามรอบแล้วกอดเขาไว้แล้ว ทำปากขมุขมิบและจูบเขาไปหนึ่งครั้งแ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 406

    อย่างไรก็ตาม เธอกลับประหลาดใจ ไท่ซ่างหวงทำไมถึงมีของแปลกประหลาดมากมายขนาดนี้?อย่างหญ้างูนี้ เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเธอพบว่านอกจากหญ้างูที่ลานด้านหลังแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกมีพืชหน้าตาแปลกประหลาดเธอค่อย ๆ มองดูอย่างช้า ๆ เมื่อเดินไปถึงด้านหน้าดอกไม้ดอกหนึ่งที่มีสีสันสวนสดงดงาม เธอกำลังจะเอื่อมมือไปจับมัน แต่นางข้าหลวงสี่ก็เอ่ยอย่างรีบร้อน "ไม่สามารถจับได้นะเพคะ"หยวนชิงหลิงตกใจจึงหันกลับไปมองนางข้าหลวงสี่ "เพราะอะไร?""นี่เป็นดอกไม้กินคนเพคะ" นางข้าหลวงสี่เอ่ยหน้าขาวซีดถึงแม้หยวนชิงหลิงจะไม่เคยเห็นดอกไม้กินคนจริง ๆ แต่ว่าก็เคยเห็นดอกไม้กินคนจากในหนังสือ และในทีวีมาก่อน มันมีหน้าตาแบบนี้ที่ไหนกัน?ดอกไม้ดอกนี้ดูคล้ายกับดอกกุหลาบ แต่ว่าไม่มีกุหลาบที่ไหนกลีบดอกซับซ้อนขนาดนี้ แบ่งออกได้หกกลีบวนไปอย่างเรียบง่าย ด้านในมีมีเกสรสีเหลืองอยู่ไม่กี่ดอกนางข้าหลวงสี่เห็นว่าเธอไม่เชื่อ จึงนำกิ่งไม้เล็ก ๆ มาหนึ่งก้านแล้วแตะลงไปบนเกสรดอกไม้ ก็เห็นว่ากลีบดอกไม้ทั้งหกกลีบหุบเข้ามาอย่างรวดเร็วเสียงดัง "แกร๊บ" เสียงกิ่งไม้เล็ก ๆ หักออกมา และเมื่อรอให้กลีบดอกไม้บานออกอีกครั้ง กิ่งไม้เล็ก ๆ กิ่งนั้

Bab terbaru

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status