อวี่เหวินห่าวกลับไปที่จวนอ๋องก่อนรอบหนึ่ง และเอ่ยถามขึ้นมาว่า “มีสถานการณ์อะไรบ้างที่ให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่สนใจไม่สนใจสิ่งใด จนถึงขั้นกระโดดทะเลสาบได้บ้าง?”หยวนชิงหลิงตกใจกับคำถามนี้ “ท่านไม่ใช่เคยบอกว่านางถูกพระชายาจี้คุกคามหรือ?”“ข้าต้องหาเหตุผลที่สมควรไปทูลเสด็จพ่อ มิฉะนั้นการที่พระชายารองหลิวที่ตั้งครรภ์อยู่นั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทางบ้านของนางต้องประสบเคราะห์ภัย คนก็ตายไปแล้ว พยายามอย่าให้เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงพ่อพี่น้องครอบครัวนางเลย นางเป็นคนที่กตัญญู”หยวนชิงหลิงคิดดูแล้ว แล้วให้คำอธิบายปลอม ๆ ที่สมเหตุสมผลแก่เขาอวี่เหวินห่าวเข้าไปในวังกราบทูลรายงานเรื่องนี้ หลังจากที่จักรพรรดิ์หมิงหยวนได้ฟังเรื่องราวแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ทรงให้ไปเข้าเฝ้าทูลเรื่องนี้ไทเฮาให้กระจ่างแจ้งไทเฮาทรงโศกเศร้าเสียใจมาก ราชวงศ์ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเด็กที่จะถึงกำเนิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พระชายาของเหล่าชินอ๋องทั้งหลายไม่มีข่าวคราวใดเลยสักนิด อย่างมากที่สุดก็แค่อ๋องซุนกับอ๋องจี้ที่ให้กำเนิดพระธิดา แต่ไม่กี่ปีนี้ความเคลื่อนไหวเลยสักนิดก็ไม่มีนอกจากนั้น พระชายาของเจ้าสาม อ๋องเว่
ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ หากคลอดลูกออกมาแล้วด่วนสิ้นใจไปก่อนวัยอันควร นั่นมันก็ช่างทำร้ายจิตใจกัน จริง ๆ แล้วยังให้ราชวงศ์ต้องเหนื่อยล้า คนข้างนอกไม่น้อยอาจพูดลือกันว่าราชวงศ์ไม่อาจกำเนิดทายาทออกมาได้ การถือกำเนิดมาแล้วถูกสวรรค์นำกลับไป นี่เป็นตระกูลอวี่เหวินที่ถูกสวรรค์ลงโทษพระชายาจี้ป่วย เพราะไปดูแลอ๋องหวยพระชายารองหลิวป่วยเป็นโรคติดต่อ เพราะต้องไปดูแลพระชายาจี้ นี่ล้วนเป็นการแสดงถึงมิตรภาพความเมตตา มันไม่ผิดเลยสักนิด สมควรยกย่องเสียด้วยซ้ำไปนางจะกล่าวโทษใครได้?ไทเฮาพูดอย่างเศร้าสร้อย “สวรรค์ไม่เมตตาตระกูลอวี่เหวินของข้า!”อวี่เหวินห่าวรู้ว่าตอนนี้เสด็จย่ายังไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่วันนี้ก็ถือว่าน่ายกย่องแล้วสำหรับนางที่ยอมรับฟังได้ ผ่านไปสักพัก เรื่องนี้ก็คงค่อย ๆ ลืมเลือนไปเองเขาปลอบโยนสักสองสามคำ แล้วให้เสด็จย่าเสวยโจ๊กครึ่งชามได้อย่างไรก็ตามหลังจากเสด็จย่าเสวยโจ๊กหมด ก็มองหลานชายและพูดว่า “เจ้าบอกว่าเจ้ากลับสะใภ้ของเจ้าอยู่ด้วยกันมาปีกว่าแล้ว ยังไม่มีข่าวดีอีกหรือ? ท้องของนางถ้าไม่สามารถมีได้ เจ้าก็ควรแต่งพระชายารอง ตอนนี้พระชายารองของเจ้าเจ็ดก็ได้เลือกมาแล้ว เจ
“เจ้าควบคุมนางลงจริง ๆ หรือ?” ไทเฮาเองก็สงสัยอยู่บ้าง ช่วงนี้ได้ยินว่าจวนอ๋องฉู่น่าอึดอัดมาก ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จนิสัยของเจ้าห้าเองไม่ใช่คนกลัวเมียอวี่เหวินห่าวยิ้ม “ดูท่านย่าพูดเข้า? นางก็แค่ผู้หญิงคนนึง หลานจะควบคุมนางไม่ลงหรือ?”“ควบคุมได้ก็ดี แน่นอนว่า ถ้านางสามารถให้กำเนิดทายาทได้ นั่นก็เหมาะสมแล้ว นางเป็นพระชายาเอก เด็กที่เกิดออกมาพวกเขาย่อมเหนือกว่าลูกที่เกิดจากพระชายารอง” ไทเฮากล่าว“ใช่แล้ว ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” อวี่เหวินห่าวพูดแบบขอไปที เขาต้องรีบไป ไม่อย่างงั้นเสด็จย่าไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรออกมาให้เขาอับอายอีก เป็นไปอย่างที่คาดไว้ ในตอนที่กำลังจะขอทูลลา เสด็จย่าได้พูดว่า “ใช่แล้ว สะใภ้ของเจ้ารักษาโรคของเจ้าหกหาย เจ้าก็ให้นางไปดูอาการพระชายาจี้เสียหน่อย ถ้ารักษาได้ ก็รีบรักษาเถิด”อวี่เหวินห่าวกลัวนางพูดถึงเรื่องนี้“ทำไมรึ? ไม่ยินยอมงั้นรึ?” ไทเฮาพูดอย่างเย็นชาอวี่เหวินห่าวกล่าวว่า “ไม่ยอมที่ไหนล่ะพ่ะย่ะค่ะ? เพียงแต่พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ส่งคนมาขอ นางไปไหนมาไหนคนเดียวก็ลำบาก? อีกทั้งเดือนนี้ รอบเดือนของนางยังไม่มา แม้ไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัดว่านางตั้งครรภ์ อาจมีควา
อวี่เหวินห่าวไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ จึงพูดอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้ายังไม่เคยมาเลย งั้นข้าบอกกับเสด็จย่าไปว่าเจ้าอาจตั้งครรภ์แบบนี้ เรื่องนี้เปิดเผยไม่ได้แล้ว”ลวี่หยาพูดว่า “ไม่ใช่นะเพคะ พระชายา ทำไมท่านไม่เคยมา? เคยมาแล้วนะเพคะ แต่ว่ารอบเดือนของท่านออกจะแปลก บางครั้งตั้งสองสามเดือนถึงจะมาสักครั้ง”“เคยมาด้วยหรือ?” หยวนชิงหลิงตกใจอวี่เหวินห่าวมองนาง และพูดด้วยความประหลาดใจ “ตัวเจ้าเองมาไม่มา เจ้าไม่รู้หรือ?”หยวนชิงหลิงนิ่งเงียบไปครู่แล้วค่อยพูดว่า “มาน้อย ใครจะไปรู้ว่าใช่ไม่ใช่?”“มีอะไรจะพูดไหม?” อวี่เหวินห่าวมองนาง “เหล่าหยวน เจ้ายังมีเรื่องอะไรปิดบังข้าอีก?”“มีอะไรน่าปิดบังกัน?” หยวนชิงหลิงเปลี่ยนเรื่องคุย “งั้นเรื่องพระชายารอง ก็คือปล่อยเลยตามเลยไป? เสด็จพ่อไม่ตรัสอะไรบ้างหรือ?”“ในพระทัยเสด็จพ่อคงรู้เรื่องนี้ดี จึงไม่ตรัสสิ่งใด” อวี่เหวินห่าวกล่าวหยวนชิงหลิงลุกขึ้นยืน “เสด็จพ่อไม่ตรัสอะไร พวกเราก็อย่าได้สนเลย”นางตะโกนเรียกตัวเป่า “ตัวเป่า พวกเราไปเดินเล่นกัน”ตัวเป่าวิ่งออกมา หยวนชิงหลิงออกคำสั่งให้ลวี่หยา “เจ้าไปเป็นเพื่อนข้าด้วย”ลวี่หยารับคำสั่ง และเดินออกไปจากจวนกั
“มีความสุข? งั้นดีเลย ภายหลังทุกวัน เจ้ากับตัวเป่าก็เล่นด้วยกัน ออกกำลังกายฝึกฝนรอเจ้าคลอดลูกแล้ว ข้าจะเล่นกับลูกเอง”พูดเรื่องคลอดลูกอีกแล้ว!หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไปที่ไหนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้ได้เลยในยุคสมัยโบราณนี้ไม่มีอะไรดีเลย ตอนปัจจุบันนี้เองก็ไม่ต่าง แต่งงานมาแล้วปีหนึ่งถ้ายังไม่มีลูกก็ถือว่าเป็นความผิดที่เลวร้ายมากคนอื่นพูดก็ช่าง แต่เขาก็ยังพูดบ่นไม่หยุดแบบนี้หยวนชิงหลิงรู้สึกหดหู่เหลือเกินวันรุ่งขึ้นไม่มีเรื่องอะไร หยวนชิงหลิงก็กลับไปบ้านตัวเองกลับไปเยี่ยมหาท่านย่า วันก่อนนั้นตอนนางกลับไปเยี่ยมบ้าน ตอนนั้นจิ้งโฮ่วไม่อยู่บ้าน แต่กลับไปครั้งนี้ หลวนซรื่อกับฮูหยินเฒ่ารองล้วนไม่ได้ปฏิบัติกับนางอย่างใจร้ายจนเกิดไป ทั้งยังสั่งให้คนเตรียมมื้อเที่ยงให้นางด้วยอาการของฮูหยินเฒ่าก่อนหน้านั้นยังจะดีหรือไม่ หยวนชิงหลิงรู้ว่านางไม่ได้ใส่ใจร่างกายของตัวเอง ต้องไม่สนใจกินยาเป็นแน่นางถามหญิงรับใช้ซุนแล้ว หญิงรับใช้ซุนบอกว่าหลวนซรื่อไม่ได้มาถามเรื่องยาอีก แต่หยวนชิงหลิงมองเห็นยาของนางยังเหลืออยู่มาก พบว่าท่านย่าคงไม่ค่อยกินยา“ท่านย่าเจ้าคะ ทำไมท่านไม่กินยา? สุ
หลังออกจากประตูจวนกันมาแล้ว หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นรึ? นางบอกว่าเจ้าเถียงท่านพ่อ เพราะเรื่องแต่งงาน?” หยวนชิงผิงทำหน้าเหมือนดูโชคร้าย “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย หาคนอะไรไม่รู้มาให้ข้า แต่ละคนเป็นพ่อข้าได้ด้วยซ้ำ เป็นพ่อหม้ายทั้งนั้น”หยวนชิงหลิงรู้ว่าคนอย่างเสนาบดีจิ้งหยวนปาหลงเป็นนักเก็งกำไร ในสายตาของเขาทุกอย่างก็ล้วนแลกเปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ได้โดยเฉพาะการแต่งงานของลูกสาว สามารถแลกเปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ได้ยอดเยี่ยมที่สุดคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ที่ได้รับการตามอกตามใจจากครอบครัว ยังดูถูกเขาที่ตกต่ำเป็นแค่เสนาบดี ติดอยู่ในตำแหน่งเดิมมาหลายปี ก็ยังเป็นได้แค่ตำแหน่งผู้ช่วย ไต่เต้าขึ้นไปไม่ได้ยังอาจจะตกต่ำลงมาได้อีกคุณชายจากตระกูลต่ำต้อย เขาก็รู้สึกดูแคลน ยังไงก็ดีเขายังเป็นเสนาบดีหาคนที่อายุมากกว่าสักหน่อย มีตำแหน่งที่มั่นคง ย่อมต้องมีอำนาจ ภรรยาตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรหยวนชิงหลิงหล่าว “เรื่องแต่งงานของเจ้า ข้าช่วยเจ้าดูแลเรื่องนี้”“อือ” หยวนชิงผิงตอบแบบขอไปทีไม่ได้จริงจังหลังจากที่หยวนชิงหลิงกลับจวนแล้ว นางก็ถามนางข้าหลวงสี่อย่างจริงจังนางข้าหลวงสี่ปากคอเราะร้าย “ท่านล
“น้องสาวเจ้าพูดอะไรกับเขา? หรือว่าไปพูดแทงใจดำอะไรเขามา?” อวี่เหวินห่าวเอ่ยถาม“มีที่ไหนกัน? แค่ถามไปคำเดียว กู้ซีก็รีบหันเดินไปเลย” หยวนชิงหลิงยังพอจำเรื่องนี้ได้อยู่บ้างอวี่เหวินห่าวกล่าว “เจ้าหมอนั้นไม่รู้ว่าไปทำบ้าอะไรอยู่ ช่างมันเถอะ ถึงตอนนั้นข้าจะลองหา ๆ ดู”“พื้นเพภูมิหลังวงศ์ตระกูลแบบธรรมดาก็ได้ แต่ตัวคนต้องเป็นคนดี ไม่เอาแบบท่านที่ชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัว” หยวนชิงหลิงเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอวี่เหวินห่าวงอนจนหน้ายาว “ใครใช้ความรุนแรงในครอบครัว? เจ้าใครใช้ความรุนแรงในครอบครัว? ข้าใช้ความรุนแรงในครอบครัวตอนไหนกัน?”ใช้ความรุนแรงในครอบครัวมันคืออะไร? ได้ยินแล้วไม่น่าจะใช่สิ่งที่ดีหยวนชิงหลิงยิ้มและกล่าวว่า “แต่ตอนนี้ท่านได้เปลี่ยนตัวเองใหม่แล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ท่านกลับเนื้อกลับตัวไปอย่างสิ้นเชิงเลย”อวี่เหวินห่าวยิ้มอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก “ก็ไม่รู้ว่าใครกลับเนื้อกลับตัว เจ้าสิแตกต่างยังกับเป็นคนละคน หากไม่รู้ว่า ยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเปลี่ยนตัวเป็นอีกคนนึงจริง ๆ ถ้าไม่ใช่ว่าอาการบาดเจ็บจากการถูกโบยยังอยู่ข้า ข้าคงยังสงสัยอยู่แน่”หยวนชิงหลิงหัวเราะคิกคัก “จริงหรือ?
หยวนชิงหลิงที่รอจนถึงตอนห้าทุ่มแล้วยังไม่เห็นอวี่เหวินห่าวกลับมานางนอนรออยู่บบนเตียงนานแล้ว พลิกไปพลิกมาก็นอนไม่หลับ เรียกลวี่หยาไปดูตั้งสองรอบ ก็ยังไม่เห็นเขากลับมาหรือว่ามีคดีใหญ่?ปกติแล้วมีแค่คดีใหญ่เท่านั้นที่เขาจะทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่น เมื่อก่อนจะมีแค่เรียกให้ซูยี่กลับมารายงานสักคำ วันนี้ทำไมไม่มี?ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าที่วิ่งอย่างรีบร้อนดัง “ตึง ตึงตึง” ทําให้หัวใจของหยวนชิงหลิงเต้นระรัวนางรีบกระโดดลงจากเตียง มีเรื่องแล้ว ต้องมีเรื่องแล้วลวี่หยารีบวิ่งพรวดราดเข้ามา และพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “พระชายา ซูยี่กลับมารายงานเพคะ”หยวนชิงหลิงที่มองเห็นซูยี่วิ่งพุ่งเข้ามา เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด นางรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันทีอีกนิดก็เกือบจะเป็นลมลงไปแล้วลวี่หยาประคองนางและถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “พระชายา ท่านเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”“ท่านอ๋องล่ะ?” หยวนชิงหลิงคุมสติตัวเองและถามอย่างยากลำบาก ซูยี่ยกมือปาดเหงื่อบนใบหน้าและรีบกล่าวว่า “เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ท่านอ๋องแพ้เสียเงินมากมาย จึงโกรธอารมณ์เสียขึ้นมา ทะเลาะกับคนอื่น หลังจากนั้นกู้ซีก็มาถึง ไม่รู้ว่าทำไมกู้ซีถึงชกท่านอ๋