Home / รักโบราณ / โอสถฟ้าบัญชารัก / ตอนที่ 2 ชีวิตที่เก็บตก (2)

Share

ตอนที่ 2 ชีวิตที่เก็บตก (2)

last update Last Updated: 2025-02-13 23:37:18

2 วันต่อมา

‘หุบเขาหงถาว’ (ท้อแดง) มีโอกาสได้ต้อนรับอาคันตุกะที่ลักพา...แค่ก เชื้อเชิญมาด้วยวิธีการอันไม่น่าจะกล่าวถึงนัก 2 คน เดิมทีคนของนายท่านใช้วิธีการต่าง ๆ นานา

กล่าวเชื้อเชิญอย่างสุภาพ... ‘ข้าอารมณ์ไม่ดีไม่ไป’

เสนอรางวัลให้อย่างงาม... ‘เหอะ! เงินทองนับเป็นกระไรได้ ไม่ไป!’

ล้อมจับ... ‘ฮึ...คิดหรือว่าข้าจะกลัว เจอพิษที่ข้าคิดขึ้นมาใหม่หน่อยปะไร”

จนสุดท้ายนายท่านสั่งให้ยื่นจดหมายฉบับหนึ่ง... ‘โอ้...หมอต้องมีจิตใจแห่งโพธิสัตว์ ไยไม่เร่งนำทางอีก’

“ไหนคนไข้ รีบพาข้าไปหาเร็วเข้า!” เดินทางรอนแรมเกือบเดือนอย่างเร่งรีบด้วยวิชาตัวเบาสลับกับการขี่ม้า ไม่ต้องให้พูดถึงสภาพผู้มาเยือนเลย แต่ละคนแข้งขาสั่นแรงเดินไม่มี สภาพสกปรกมอซอราวขอทาน

“จับโยนลงสระเย็น” เสียงเฉื่อยชาไม่บ่งบอกอายุของชายหนุ่มผมเงินดูเจ้าสำราญ เขากำลังนั่งยกจอกสุราอุ่น ๆ ขึ้นจิบ ท่วงท่าทิ้งตัวพิงขอบตั่งเปิดสาบเสื้อให้แยกออกเห็นผิวเนื้อแน่นตึง

ดูเยี่ยงไรก็คล้ายคุณชายเสเพลท่านหนึ่ง

“ขอรับนายท่าน!”

“เพ้ย! ไอ้หนุ่มหัวหงอก! นี่หรือมารยาทรับรองแขกของเรือนเจ้า” หมอประหลาดโวยวายตอนโดนมือขวาของเจ้าหุบเขาหิ้วคอเสื้อด้านหลัง

ชายผมเงินแม้สั่งความแต่ก็รู้ว่าคนสนิทคงทำอันใดหมอประหลาดไม่ได้จึงโบกมือยกเลิก เปลี่ยนคำสั่งใหม่

“เรือนว่างหลังนั้น ท่านกับศิษย์ใช้งานได้ คงไม่คิดเอากลิ่นมรณะนี่ไปรมในเรือนข้าจนเด็กน้อยสิ้นลมกระมัง”

!!!

ถูกเจ้าหุบเขาปรามาสว่าตัวเหม็นโฉ่ หมอประหลาดก็มีสีหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนศิษย์น้อยของหมอประหลาดปรายตามองอาจารย์นิ่งเงียบจึงเดินตามคนของหุบเขาหงถาวไป

ผ่านไป 2 เค่อ เจ้าหุบเขาก็ลุกขึ้นผายมือเชื้อเชิญหมอประหลาดเข้าเรือนหลัก

“อ้อ...จริงสิ เสียมารยาทแล้ว ข้าโม่โฉ่ว (ไร้ทุกข์) เป็นเจ้าหุบเขาหงถาวแห่งนี้ ที่เชิญท่านมาเพราะศิษย์ถูกพิษประหลาดไร้ทางรักษา ไม่เคยมีผู้ใดพบในแผ่นดินมาก่อน นางอยู่ในห้องนี้ เชิญ”

ระหว่างเดินตามกันมายังห้องนอนเล็ก โม่โฉ่วหยุดยืนหันเพียงเสี้ยวหน้ามาแนะนำตัวกับหมอประหลาด เปิดประตูให้อาคันตุกะเข้าไปก่อน

หมอประหลาดรีบเดินสะพายล่วมยาหนักอึ้งก้าวไปด้านหน้า กลับรู้สึกถึงไอเย็นยะเยือกแผ่กำจายในห้องนอน จุดที่เย็นสุดมาจากทางเตียงปาปู้ลายดอกท้อ

“นี่!...หายาก! หายาก!” ยังไม่ทันตรวจชีพจรดวงตาหมอวัยกลางคนก็เปล่งประกาย

เพียะ!

“หยุด! อยากตายเรอะไอ้เฒ่าฉีก้วยเชิง!”

มือที่เอื้อมออกไปหวังคลำชีพจรดรุณีน้อยถูกปัดออกพร้อมเสียงตวาดคุ้นหู

“ตู๋ยี่ (แม่เฒ่าพิษ) ... ยัยเฒ่าหนังเหี่ยวเจ้าก็อยู่นี่รึ!?”

“เหอะ! พิษเย็นในตัวนังหนูนี่ร้ายกาจนัก เจ้าจับสุ่มสี่สุ่มห้า ระวังไอเย็นพุ่งเข้าทำลายตันเถียน”

“เจ้าไม่รู้จักพิษชนิดนี้?”

หมอประหลาดเห็นหน้าตายายเฒ่าถมึงทึงยิ่งดีใจจนตัวสั่นระริก ถูไม้ถูมือหยิบถุงมือหนังเม่นทองที่รีดบางราวปีกจักจั่น แล้ววางนิ้วลงจับบนชีพจรของเด็กน้อย

คิ้วรก ๆ เดี๋ยวขมวดเดี๋ยวคลาย...

“พิษเย็นนี่ประหลาดนัก ไม่เหมือนพิษจากภายนอกแต่กลับเกิดจากตันเถียนของเจ้าเด็กน้อยนี่ ไอเย็นวิ่งสะเปะสะปะไปตามเส้นชีพจร...”

“ชีพจรนี่!!!?” หมอประหลาดหันขวับไปมองตู๋ยี่ตาโต

ยายเฒ่าพิษบิดยิ้มเบี้ยวผงกหน้ารับ นางก็ตรวจเจอชีพจรพิเศษของนังหนู จึงรั้งอยู่หุบเขานี่มานานกว่า 5 เดือนแล้ว

“เอาล่ะ พิษเย็นกำเริบจนถึงจุดนี้ได้เยี่ยงไร จากอาการที่ข้าตรวจดูไม่น่ารุนแรงปานนี้”

“เจ้าหุบเขาโม่โฉ่วสอนนังหนูนี่เดินลมปราณ กลับไปกระตุ้นพิษเย็นจนระเบิดกระจายไปทั่วร่าง ข้าใช้ทั้งหนังคางคกไฟ เขาแรดเพลิงยังได้แค่พยุงอาการ”

“เพ้ย! เขาแรดเพลิงเจ้าใช้กับเส้นลมปราณเปราะบางของเด็ก 5 หนาว อยากให้นางพิการรึยายเฒ่าสมองหมู!

สองผู้เฒ่าที่เป็นเอกในเรื่องสมุนไพรต่างเริ่มถกเถียงกันถึงการต้านพิษ ตอนนี้ทั้งหมอเทวดาและยายเฒ่าพิษ ผู้รั้งอันดับหนึ่งในยุทธภพต่างลงแรงให้ดรุณีน้อยผู้หนึ่ง

เป็นความโชคดีในความโชคร้าย

หรือโชคชะตา?

‘ข้าจะฝังเข็มให้นางก่อน’

เสิ่นซินที่หลับลึก สติกำลังค่อยฟื้นคืนมาทันได้ยินเสียงถกเถียง พลันความเย็นจัดเข้าจู่โจมตามแขนขาจนร่างเล็กผอมแห้งสั่นเทารุนแรง

กึก กึก กึก…

“อ๊า…”

ความเจ็บปวดที่ปลายนิ้วราวกับถูกมดแมลงค่อย ๆ กัดกินเนื้อหนังทีละนิด ความรู้สึกของการถูกกัดแทะจนถึงกระดูกขนาดผู้ใหญ่ยังแทบทานทนไม่ได้

“กรี๊ดดดดดดดด อ๊า อ๊า…”

แต่เด็กน้อย 5 หนาวผู้หนึ่งกลับอดทนด้วยพลังใจอันแข็งแกร่งน่าเหลือเชื่อ

“จับตัวนางไว้! อย่าให้นางสั่นเช่นนี้ ข้ามิอาจฝังเข็มได้” หมอประหลาดรีบตะโกนเตือนยายเฒ่าพร้อมโยนถุงมือหนังเม่นทองข้างที่เหลือให้

หากไม่มีหนังเม่นทองนี้คาดว่ายายเฒ่าพิษก็ไม่อาจจับตัวยัยหนูนี่โดยไม่โดนพิษเย็นแทรกเข้าชีพจร

วิชาลับเข็มตรึงวิญญาณ เป็นการฝังเข็มอันเลื่องชื่อของหมอประหลาด ทั้งรวดเร็ว แม่นยำ ลื่นไหล ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยาม เข็มทอง 670 เล่มถูกปักลงตามจุดทางเดินลมปราณจิงเสวี่ย [1] ทั้ง 14 เส้น ไล่ตามลำดับ

ทั้งห้องมีเพียงเจ้าหุบเขาที่มองตามการฝังเข็มได้ทัน

“ข้าต้องการคนที่มีลมปราณหยางบริสุทธิ์มาถ่ายพลังลงบนเข็ม จะได้ผลดีกว่า”

โม่โฉ่วเดินเข้าไปหยุดข้างเตียง ยกมือรีดเค้นกำลังภายในถ่ายลงไปบนตัวเข็ม เข็มทองทั้งหมดสั่นระรัวค่อย ๆ ปักลึงลงไป 1 ชุ่น

“ทิ้งไว้ 2 เค่อ ค่อยถอนเข็มออก นังหนูนี่คงตื่นขึ้นมาเอง อดทนหน่อยล่ะนังหนู พ้น 2 เค่อนี่ไปเจ้าก็รอดแล้ว”

หมอประหลาดพูดไปหอบไปพยายามปรับสมดุลลมปราณ เดินพลังผ่านชีพจรในร่างเพื่อฟื้นกำลัง ผ่านไป 2 เค่อ เขาสูดหายใจฟื้นพลังได้สามส่วน ลุกขึ้นใช้ท่าร่างเข็มตรึงวิญญาณถอนเข็มจากจุดชีพจร

“แค่ก...แค่ก...”

เสิ่นซินสะดุ้ง ‘เฮือก’ หลังเข็มเล่มสุดท้ายถูกถอนออก โก่งตัวไอออกมาเป็นไอควันเย็นจัดสีขาว

“เจ้าดื่มน้ำอุ่นเสียหน่อย” เสียงกังวานของศิษย์น้อยของหมอประหลาดมาพร้อมแก้วน้ำอุ่น

หวังหยูซินอดมองเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่านาง 4 ปีผู้นี้ด้วยสายตานับถือมิได้ นางมองฝ่ามือที่เริ่มมีเลือดหยดไหลซึมออกตามซอกนิ้ว คาดว่าทั่วทั้งฝ่ามือคงมีแผลเหวอะหวะเพราะจิกนิ้วข่มกลั้นความเจ็บปวด

“ขอบคุณพี่สาวเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านหมอกับท่านป้าตู๋ยี่ด้วยนะเจ้าคะ”

คนป่วยพยายามลุกขึ้นเพื่อโค้งคำนับผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือตนจนพ้นวิกฤต

“พอแล้ว ไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าช่วยเพราะสนใจพิษประหลาดในตัวเจ้า รักษาเจ้าก็เหมือนข้าได้ทดสอบพิษ ฮ่า ฮ่า คุ้มค่ายิ่ง!”

เสิ่นซินมุมปากกระตุกเก็บความซาบซึ้งกลับแทบไม่ทัน!

เห็นข้าเป็นหนูทดลองยา...ดีนัก!

“หมดเรื่องแล้ว ข้าไปร่ำสุราต่อ...หากเด็กนี่ใกล้ตายค่อยไปเรียกข้า”

เจ้าหุบเขาที่ยืนเอนพิงเสาเตียงปรายตามองเด็กน้อยหนหนึ่ง ก็เดินเอื่อยออกไปไม่รอผู้ใดตอบรับ

“นังหนูยื่นแขนให้ข้าตรวจชีพจรดู เจ้าไปได้พิษเย็นนี่มาจากที่ใด พิษนี้รุนแรงร้ายกาจ แต่ยังมีส่วนดีกับร่างกายเจ้า ทางหนึ่งก็กัดกินเส้นลมปราณแช่แข็งตันเถียน แต่ยามเจ้าพิษกำเริบกลับปกป้องร่างกายเจ้าไม่ให้ผู้ใดแตะต้อง”

“ว่าแต่...อายุ 5 หนาวเจ้ามีลมปราณก่อกำเนิดแล้วรึ แถมจุดชีพจรเปิดตลอดร่างไม่ติดขัด พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์เข้าขั้นอัจฉริยะในรอบ 100 ปีเชียวนา!”

หมอเฒ่าตรวจชีพจรไปก็อ้าปากพูดไปเรื่อย ถามแล้วกลับไม่รอคำตอบ บางคราก็ราวกับพูดกับตนเองเสียมากกว่า

เสิ่นซินจึงเลือกไม่ตอบคำ

‘ถ้าท่านหมอรู้ว่าข้ามีลมปราณก่อกำเนิดตอน 3 ขวบ คงมิใช่ตกใจจนเป็นลม?’

ท่านแม่เคยบอกว่าข้ามีพรสวรรค์ในรอบ 1,000 ปี…

[1] จิงเสวี่ย - ฝังเข็มในเส้นลมปราณหลัก 12 เส้น และเส้นลมปราณกลางลำตัว 2 เส้น

Related chapters

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 3 นามรอง (1)

    7 วันผ่านไปอาการกำเริบของพิษเย็นถูกหมอเฒ่าและยายเฒ่าช่วยกันหาทางระงับควบคุมไว้ได้ ทำให้เสิ่นซินกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว‘เจ้าไม่ใช่ศิษย์ข้า แต่เป็นคุณหนูน้อยแห่งหุบเขาหงถาว’เสิ่นซินเรียกขานท่านเจ้าหุบเขาเป็นอาจารย์เขากลับรีบปฏิเสธ สุดท้ายบอกว่าอยากเรียกอะไรได้ทั้งนั้นยกเว้นอาจารย์ และฐานะของนางถูกยกเป็นคุณหนูน้อยไปแล้ว“ชีพจรวันนี้ดีนัก เจ้ากินยาเทียบนี้ติดต่อกันสัก 3 ปี อาการกำเริบของพิษเย็นจะกำเริบเหลือปีละ 2 ครั้ง หลังจากนั้น ในวันที่ร้อนที่สุดและเย็นที่สุดของปี”“ไม่ได้หายขาดหรือเจ้าคะ?” เสิ่นซินถามด้วยความผิดหวัง“ข้าเป็นหมอมิใช่เทพเซียน! พิษประหลาดของเจ้าไร้ที่มา ข้ากดอาการของมันให้เจ้าได้นับว่าดีเท่าไหร่!” คำถามของเด็กน้อยหมอประหลาดเหมือนโดนเหยียบหาง ลุกขึ้นมาเต้นเร่ายิ่งดวงตากลอกกลิ้งไม่เชื่อถือ...ราวกับเขามีเพียงราคาคุย!“เพ้ย! ถึงไม่หายขาดแต่เจ้าสามารถโคจรลมปราณได้โดยแลกกับอาการกำเริบเดือนละครั้ง!”“ท่านทำการค้ารึ? เอาผลประโยชน์เล็กน้อยล่อลวงข้าหวังให้ข้าคล้อยตาม”เสิ่นซินแม้ยังไม่หายดี แต่เป็นเด็กใฝ่รู้จนน่ากลัว กลางวันเรียนหนังสือโดยท่านจ้าวหุบเขาสอนด้วยตนเอง ตกเย็

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 3 นามรอง (2)

    …ได้ผลชงัด บังเกิดความเงียบขึ้นรอบโต๊ะกินข้าว พวกผู้ใหญ่เบิกตามองหน้ากันไปมา แม้แต่โม่โฉ่วยังชะงักมือที่ถือจอกสุราแล้ววางลง“แค่ก...เจ้าชื่ออะไร?” เจ้าหุบเขาที่ปกติดูเฉื่อยชาไม่อินังขังขอบ บัดนี้แสร้งไอกลบเกลื่อน ใบหน้ากระอักกระอ่วน“ข้าแซ่เสิ่น นามเกิดว่าซิน เขียนด้วยความสุข [1] คำนับอาวุโสทุกท่านเจ้าค่ะ”“เสี่ยวซินแล้วนามรองของเจ้าล่ะ?” ตู๋ยี่รีบขานเรียกสนิทสนม อดถามเรื่องนามรองไม่ได้เพราะดูอย่างไรนังหนูก็ไม่เหมือนลูกหลานชาวบ้านชาวป่า พอหลุดถามไปเด็กน้อยมีสีหน้าสลดลง“ท่านแม่รอท่านพ่อของข้ามาตั้งให้เจ้าค่ะ” เสิ่นซินฝืนยิ้มทั้งใบหน้าคล้ายจะร้องไห้นางไม่เคยเห็นหน้าบิดา มีเพียงภาพวาดที่ท่านแม่เคยนำออกมาให้ดู เปลือกตาบางใสราวไข่มุกหลุบลงปกปิดแววตาเจ็บปวดอายุเพียงนางยังไม่รู้วิธีปกปิดความรู้สึก ผู้ใดย่อมมองออกพรึ่บ!โม่โฉ่วพลันลุกขึ้นใช้วิชาตัวเบาเร่งร้อนหายไปทางห้องหนังสือ เขาปิดประตูเก็บตัวอยู่ในนั้นทั้งคืนหลี่เฉียงและหลี่เหว่ย ผู้เป็นมือขวาและมือซ้ายของเจ้าหุบเขาเห็นแสงไฟในห้องนั้นถูกจุดตลอดทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นซินตื่นนอนตั้งแต่ยามเหม่าตามความเคยชิน แต่นางยังไม่ลุกจากเตีย

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 4 ลักพาตัว (1)

    เพียงชั่วยามเดียวในหอฉานยี่ จากคุณชายน้อยปากหวาน กลายเป็นตัวขี้เมาน้อยไปแล้ว“ม่ายมาววว ศิษย์เพ่ เอิ๊ก... เหล้านี่มันดีเจรง ๆ ตัวข้าอุ่นขึ้นมาแล้ว ท่านดู!” ผิวเนื้อที่มักขาวซีดและให้สัมผัสเย็น หากยื่นมือไปสัมผัสตอนนี้จะไม่เย็นมากนักแล้วใบหน้ากลมขาวแดงจัด ตาเยิ้มจวนจะปิด เดินตัวเอนเดินหน้าหนึ่งสามก้าวถอยจนพุงกลมแอ่น“เจ้าเดินให้ดีหน่อย” หวังหยูซินที่จิบไปจอกเดียวก็มีสีชมพูเจือจางตรงโหนกแก้ม หอบหิ้วเจ้าซาลาเปาน้อยกระเตงข้างเอวการฝึกยุทธ์ทำให้นางมีเรี่ยวแรงพอ ๆ กับผู้ใหญ่ อุ้มเด็กคนหนึ่งจึงไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่คงไม่สามารถใช้ออกด้วยวิชาตัวเบาพากลับหุบเขาได้ขณะเดินผ่านตรอกมืดซึ่งเป็นทางลัดไปโรงเตี๊ยมพรึ่บ!กระสอบผ้าถูกยกเตรียมครอบลงจากทางศีรษะ แต่หวังหยูซินเบี่ยงหลบทัน แล้วกระโจนถอยหลังไม่มั่นคง ตัวเซอีก 2 ก้าว“จับตัวไว้!”เสิ่นซูเย่วถูกการเคลื่อนไหวกะทันหันทำเอาวิงเวียนตาลาย จะลงมายืน อ้อมแขนของศิษย์พี่ก็ไม่ปล่อย“ซูเย่วอย่าดื้อ เกาะศิษย์พี่ไว้”เพราะมีลูกลิงห้อยโหนอยู่บนตัว ศิษย์เอกหมอประหลาดจึงใช้แขนได้เพียงข้างเดียว ฝ่ายตรงข้ามมีคนที่เป็นวรยุทธ์ระดับต่ำอยู่ 3 คน“เด็กนี่มีวรยุทธ์

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 4 ลักพาตัว (2)

    เมืองอิงจี้ที่ว่าการศาลต้าหลี่ประจำเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟแล้วจริง ๆ เพราะบุรุษร่างสูงในอาภรณ์สีดำขลิบทองหลุดรุ่ยแบบบุรุษเสเพล แต่ใบหน้าของเขายามนี้เย็นชาสุดขั้วขับผมสีเงินโดดเด่นยิ่งดูเยือกเย็น“จอมยุทธ์โปรดยั้งมือด้วย!” หัวหน้าศาลต้าหลี่ประจำเมืองตอนนี้ใช้ปลอกดาบยันพื้นคุกเข่าลงข้างหนึ่งกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่เบื้องหน้า“ทางการจะสืบสวนเรื่องอย่างยุติธรรมแน่นอน ท่านโปรดวางใจ ทางการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจข้าได้ระดมกำลังคนตามหาคุณหนูน้อยทั้งสองของท่านและเด็กคนอื่น ๆ ที่หายไปแล้ว”“เหอะ!...”ยังไม่ทันที่โม่โฉ่วจะสะบัดชายเสื้อคลุมจากไป หลี่เหว่ยก็รีบร้อนเข้ามารายงานเสียก่อน“นายท่าน! ได้เบาะแสแล้วขอรับ มีชาวบ้านทางฝั่งประตูตะวันออกเห็นยามเปิดประตูเมืองให้รถลากออกไปกลางยามโฉ่วสองคัน”บัดซบ! ใครมันกล้ารับสินบนใต้จมูกข้า!หัวหน้าศาลต้าหลี่สบถสาบานในใจดุเดือด ยิ่งเห็นสายตาเย็นเยียบที่ปรายมาใจแทบจะกระเด้งกระดอนจุกปาก‘มารดามันเถอะ! ใครจะคิดว่าเมืองนี้จะซ่อนสำนักยุทธ์ที่เก่งกาจแบบนี้ไว้’“ฮะ ฮะ ท่านเจ้าหุบเขา ในเมื่อเจอเบาะแสเราก็รีบติดตามคนเถอะ... พวกเจ้าส่งกำลังคนขี่ม้าเร่งติดตามร่องรอยไปเดี๋ยวนี้

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 5 พรหรือคำสาป (1)

    ฟู่ว...จู่ ๆ กลิ่นหอมรัญจวนอ่อนจางก็กำจายไปทั่วห้อง กลิ่นนี้มีคล้ายไม่มีแต่ทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นมัวเมาเคลิบเคลิ้ม เพียงสูดดมร่างกายรู้สึกสดชื่นความเหนื่อยล้าหายไป สมองแจ่มใสสงบนิ่ง‘ไม่ถูกต้อง!’กลิ่นนี้มาจากที่ใด มือที่เรียวเนียนไม่เหมือนของชายวัยกลางคนชะงักการแกะผ้าออกจากแผลของศิษย์คนเล็ก“ยายเฒ่าเจ้าเข้ามาตรงนี้สักหน่อย ท่านหลี่เฉียงวานท่านปิดประตูหน้าต่างรอบห้องทั้งหมดให้ข้าที ช่วยตามเจ้าหุบเขามาสักหน่อยเถอะ” ท่าทางเคร่งเครียดของหมอประหลาด จึงไม่มีใครกล้าชักช้าหรืออิดออด“นี่...นี่มัน หากดอกฉวินเซียน (ทวยเทพ) มีจริงเกรงว่าจะมีกลิ่นเช่นนี้!!!” ตู๋ยี่อุทานอย่างพรั่นพรึง ก้าวถอยซวนเซสับสนโม่โฉ่วกำลังย่างเท้าเข้าประตูมาทันได้ยินเข้าหน้าเปลี่ยนสีแทบไม่น่าชมดู“ฉีก้วยเชิง ตู๋ยี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น!”หมอประหลาดไม่พูดมากความ เขาดึงผ้าตรงขากางเกงของเสิ่นซูเย่วขึ้น ป้ายเลือดที่ซึมออกมานำไปหยดลงบนใบกล้วยไม้ในกระถางที่เหี่ยวเฉาใช้เวลาแค่จิบชาใบสีน้ำตาลค่อย ๆ ฟื้นความเขียวขจี“ยังมีกลิ่นหอมที่คล้ายดอกฉวินเซียนในตำนานนี่อีก นี่มันเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้ว”ดอกฉวินเซียนเล่าขานกันว่าเป็นดอกไม้ที่มีส

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 5 พรหรือคำสาป (2)

    “เรื่องคำทำนายพวกนั้นช่างเถอะ สิ่งสำคัญคือทำเยี่ยงไรจึงจะบรรเทากลิ่นฉวินเซียนได้” โม่โฉ่วยังไม่อยากคิดไปไกลนัก เร่งหาทางรับมือปัญหาที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า“ในเมื่อปกปิดไม่ได้ ลองใช้ยุทธวิธีมีในไม่มี จริงในลวง ลวงกลายเป็นจริง” หมอประหลาดหันหน้าปรึกษากันกับตู๋ยี่ โม่โฉ่วเหลือบตามองด้วยประกายสนใจวาบผ่าน‘ฉีก้วยเชิงภูมิหลังไม่ธรรมดา รู้กลยุทธ์ในตำราพิชัยสงคราม’“เจ้าหมายถึง?”“เจ้าว่ามีสมุนไพรหรือดอกไม้ใดกลิ่นคล้ายฉวินเซียนบ้าง ในเมื่อกลบกลิ่นไม่ได้ก็ทำให้คนคิดว่าเป็นกลิ่นดอกไม้ชนิดอื่นเสีย”หมอประหลาดขอยืมกระดาษกับพู่กันมาค่อย ๆ ทบทวนชื่อแล้วจรดพู่กันลงไป เขียนรายชื่อและสรรพคุณ“เพิ่มดอกกระดิ่งราตรีอายุ 100 ปี กับดอกเงาจันทร์ด้วย”“กลิ่นภายนอกนั้นไม่ยากทำเป็นถุงหอม น้ำมันหอมบำรุงให้นางใช้จะได้มีกลิ่นอวลรอบตัวให้คนเกิดภาพจำ ส่วนการเจือจางภายในข้าว่าออกจะยากอยู่สักหน่อย”“ลองใช้วิธีเดียวกับมนุษย์โอสถ อาบแช่สมุนไพร ดื่มยา และฝังเข็มได้หรือไม่ แต่แบบนั้นทรมานนัก ไม่ได้ ๆ วิธีนี้ไม่ดี”ตู๋ยี่นึกถึงวิธีการสร้างมนุษย์โอสถใบหน้าก็น่าเกลียด“เพ้ย! เราไม่ได้จะสร้างมนุษย์โอสถหรือจับนางมาทรมาน แต่เราจะ

    Last Updated : 2025-02-13
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 6 ลงจากเขา (1)

    12 ปีผ่านไปฤดูกาลผันผ่านสารทแล้วสารทเล่าเวียนบรรจบ หุบเขาหงถาวยังคงเงียบสงบ ผู้คนปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับภายนอกยกเว้นไว้ผู้หนึ่ง...เสิ่นซูเย่วจากเด็กน้อยตัวอ้วนกลม ร่างกายยืดเหยียดเล็กคอด ที่ควรโค้งก็กลมอิ่ม ที่ควรเว้าก็อ้อนแอ้น แต่ยิ่งเติบใหญ่กลับสั่งสมบุคลิกจ้าวสำราญ ไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินเฮ! เฮ!“นายน้อยเสิ่น! เร่งเข้า ๆ นายน้อยเสิ่น! นายน้อยเสิ่น!”กุบ กับ กุบ กับ... ฮี้ ย่ะห์เฮ! “เร่งอีก!” “จะแซงแล้ว เร่งหน่อย”เสียงกีบเท้าม้ากระแทกบนพื้นดินแข็งแทบจะกลบเสียงเชียร์ของคนรอบข้าง นอกกำแพงเมืองอิงจี้ออกไป 5 ลี้ มีพื้นที่ราบว่างเปล่า บัดนี้เต็มไปด้วยฝูงชนราวกับมีงานเทศกาล“เข้าเส้นชัยแล้ว! นายน้อยเสิ่นชนะ!”เฮ!“ชนะแล้ว! ไปรับเงินกันเถอะ!!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“หึ เป็นไงล่ะอวดดีนัก เห็นนายน้อยเสิ่นหน้าอ่อนแบบนั้น ถ้าไม่มีฝีมือจริงไม่ได้ฉายานายน้อยอันดับหนึ่งแห่งอิงจี้หรอก”“หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องนายน้อยเสิ่น โง่ดีแท้”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปพวกเรา วันนี้ข้าเลี้ยงเอง นาน ๆ จะมีแกะอ้วนมาให้เชือด” เสิ่นซูเย่วดัดเสียงทุ้มต่ำต่างจากใบหน้าขาวใสเกลี้ยงเกลา คิ้วตรงเฉียงดกหน้า ดวงตราหงส์แวววาวมีชีวิต

    Last Updated : 2025-02-17
  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 6 ลงจากเขา (2)

    หุบเขาหงถาวฟิ้ว...วี้ด...“นายท่านคุณหนูกลับมาแล้วขอรับ” หลี่เหว่ยได้ยินเสียงสัญญาณลับจึงเคาะประตูรายงานนายท่าน“เจ้าคิดดีแล้วหรือ” ตู๋ยี่มีความวิตกระหว่างคิ้ว หน้าตาไม่สบายใจอย่างยิ่ง“เจ้าจะเก็บนังหนูไว้บนหุบเขาตลอดไปไม่ได้หรอก ปล่อยนางผจญโลกภายนอกหาประสบการณ์ชีวิตเถอะ” หมอประหลาดขัดคำพิรี้พิไรของยายเฒ่าพิษ"ถ้าเลือดนางถูกค้นพบ?”“อาจารย์ เจ้าหุบเขาพวกท่านโปรดวางใจ ข้าจะคอยควบคุมศิษย์น้องให้ดี”ไม่ให้นางก่อเรื่องราวใหญ่โต...ประโยคที่เหลือแม้หวังหยูซินไม่ได้พูดออก อาวุโสในห้องหนังสือล้วนรู้แจ้ง“ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” ต่อให้ทักทายเสียงอ่อนหวานแต่การหมุนข้อมือโบกพัดเอื่อย ๆ ตั้งศอกไพล่หลัง ก้าวขายาวกว้าง อกผายท่าทางองอาจสง่างามตู๋ยี่มองสารรูปชายไม่ใช่หญิงไม่หญิงแล้วอยากจะยกถุงหอมมาสูดดมทุกทีไม่ใช่พวกเขาไม่ลักพา...แค่ก เชิญน่ะเชิญ มามาอาวุโสจากในรั้ววังมาสั่งสอนมารยาทสตรี ทั้งฉินฉีซูฮว่า [1] ได้เจ้าหุบเขาที่เป็นเอกบุรุษด้าน 4 ศิลป์แห่งซิ่วไฉ่สอนสั่งด้วยตนเองเพียงแต่นางทำได้ดีเกินไป ดีจนไร้ที่ติแล้วก็เลิกสนใจโดยสิ้นเชิงเวลาของเสิ่นซูเย่วใน 12 ปีที่มาอยู่หุบเขาหงถาว หมดไปกับการฝึกวร

    Last Updated : 2025-02-17

Latest chapter

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 6 ลงจากเขา (2)

    หุบเขาหงถาวฟิ้ว...วี้ด...“นายท่านคุณหนูกลับมาแล้วขอรับ” หลี่เหว่ยได้ยินเสียงสัญญาณลับจึงเคาะประตูรายงานนายท่าน“เจ้าคิดดีแล้วหรือ” ตู๋ยี่มีความวิตกระหว่างคิ้ว หน้าตาไม่สบายใจอย่างยิ่ง“เจ้าจะเก็บนังหนูไว้บนหุบเขาตลอดไปไม่ได้หรอก ปล่อยนางผจญโลกภายนอกหาประสบการณ์ชีวิตเถอะ” หมอประหลาดขัดคำพิรี้พิไรของยายเฒ่าพิษ"ถ้าเลือดนางถูกค้นพบ?”“อาจารย์ เจ้าหุบเขาพวกท่านโปรดวางใจ ข้าจะคอยควบคุมศิษย์น้องให้ดี”ไม่ให้นางก่อเรื่องราวใหญ่โต...ประโยคที่เหลือแม้หวังหยูซินไม่ได้พูดออก อาวุโสในห้องหนังสือล้วนรู้แจ้ง“ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” ต่อให้ทักทายเสียงอ่อนหวานแต่การหมุนข้อมือโบกพัดเอื่อย ๆ ตั้งศอกไพล่หลัง ก้าวขายาวกว้าง อกผายท่าทางองอาจสง่างามตู๋ยี่มองสารรูปชายไม่ใช่หญิงไม่หญิงแล้วอยากจะยกถุงหอมมาสูดดมทุกทีไม่ใช่พวกเขาไม่ลักพา...แค่ก เชิญน่ะเชิญ มามาอาวุโสจากในรั้ววังมาสั่งสอนมารยาทสตรี ทั้งฉินฉีซูฮว่า [1] ได้เจ้าหุบเขาที่เป็นเอกบุรุษด้าน 4 ศิลป์แห่งซิ่วไฉ่สอนสั่งด้วยตนเองเพียงแต่นางทำได้ดีเกินไป ดีจนไร้ที่ติแล้วก็เลิกสนใจโดยสิ้นเชิงเวลาของเสิ่นซูเย่วใน 12 ปีที่มาอยู่หุบเขาหงถาว หมดไปกับการฝึกวร

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 6 ลงจากเขา (1)

    12 ปีผ่านไปฤดูกาลผันผ่านสารทแล้วสารทเล่าเวียนบรรจบ หุบเขาหงถาวยังคงเงียบสงบ ผู้คนปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับภายนอกยกเว้นไว้ผู้หนึ่ง...เสิ่นซูเย่วจากเด็กน้อยตัวอ้วนกลม ร่างกายยืดเหยียดเล็กคอด ที่ควรโค้งก็กลมอิ่ม ที่ควรเว้าก็อ้อนแอ้น แต่ยิ่งเติบใหญ่กลับสั่งสมบุคลิกจ้าวสำราญ ไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินเฮ! เฮ!“นายน้อยเสิ่น! เร่งเข้า ๆ นายน้อยเสิ่น! นายน้อยเสิ่น!”กุบ กับ กุบ กับ... ฮี้ ย่ะห์เฮ! “เร่งอีก!” “จะแซงแล้ว เร่งหน่อย”เสียงกีบเท้าม้ากระแทกบนพื้นดินแข็งแทบจะกลบเสียงเชียร์ของคนรอบข้าง นอกกำแพงเมืองอิงจี้ออกไป 5 ลี้ มีพื้นที่ราบว่างเปล่า บัดนี้เต็มไปด้วยฝูงชนราวกับมีงานเทศกาล“เข้าเส้นชัยแล้ว! นายน้อยเสิ่นชนะ!”เฮ!“ชนะแล้ว! ไปรับเงินกันเถอะ!!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“หึ เป็นไงล่ะอวดดีนัก เห็นนายน้อยเสิ่นหน้าอ่อนแบบนั้น ถ้าไม่มีฝีมือจริงไม่ได้ฉายานายน้อยอันดับหนึ่งแห่งอิงจี้หรอก”“หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องนายน้อยเสิ่น โง่ดีแท้”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปพวกเรา วันนี้ข้าเลี้ยงเอง นาน ๆ จะมีแกะอ้วนมาให้เชือด” เสิ่นซูเย่วดัดเสียงทุ้มต่ำต่างจากใบหน้าขาวใสเกลี้ยงเกลา คิ้วตรงเฉียงดกหน้า ดวงตราหงส์แวววาวมีชีวิต

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 5 พรหรือคำสาป (2)

    “เรื่องคำทำนายพวกนั้นช่างเถอะ สิ่งสำคัญคือทำเยี่ยงไรจึงจะบรรเทากลิ่นฉวินเซียนได้” โม่โฉ่วยังไม่อยากคิดไปไกลนัก เร่งหาทางรับมือปัญหาที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า“ในเมื่อปกปิดไม่ได้ ลองใช้ยุทธวิธีมีในไม่มี จริงในลวง ลวงกลายเป็นจริง” หมอประหลาดหันหน้าปรึกษากันกับตู๋ยี่ โม่โฉ่วเหลือบตามองด้วยประกายสนใจวาบผ่าน‘ฉีก้วยเชิงภูมิหลังไม่ธรรมดา รู้กลยุทธ์ในตำราพิชัยสงคราม’“เจ้าหมายถึง?”“เจ้าว่ามีสมุนไพรหรือดอกไม้ใดกลิ่นคล้ายฉวินเซียนบ้าง ในเมื่อกลบกลิ่นไม่ได้ก็ทำให้คนคิดว่าเป็นกลิ่นดอกไม้ชนิดอื่นเสีย”หมอประหลาดขอยืมกระดาษกับพู่กันมาค่อย ๆ ทบทวนชื่อแล้วจรดพู่กันลงไป เขียนรายชื่อและสรรพคุณ“เพิ่มดอกกระดิ่งราตรีอายุ 100 ปี กับดอกเงาจันทร์ด้วย”“กลิ่นภายนอกนั้นไม่ยากทำเป็นถุงหอม น้ำมันหอมบำรุงให้นางใช้จะได้มีกลิ่นอวลรอบตัวให้คนเกิดภาพจำ ส่วนการเจือจางภายในข้าว่าออกจะยากอยู่สักหน่อย”“ลองใช้วิธีเดียวกับมนุษย์โอสถ อาบแช่สมุนไพร ดื่มยา และฝังเข็มได้หรือไม่ แต่แบบนั้นทรมานนัก ไม่ได้ ๆ วิธีนี้ไม่ดี”ตู๋ยี่นึกถึงวิธีการสร้างมนุษย์โอสถใบหน้าก็น่าเกลียด“เพ้ย! เราไม่ได้จะสร้างมนุษย์โอสถหรือจับนางมาทรมาน แต่เราจะ

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 5 พรหรือคำสาป (1)

    ฟู่ว...จู่ ๆ กลิ่นหอมรัญจวนอ่อนจางก็กำจายไปทั่วห้อง กลิ่นนี้มีคล้ายไม่มีแต่ทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นมัวเมาเคลิบเคลิ้ม เพียงสูดดมร่างกายรู้สึกสดชื่นความเหนื่อยล้าหายไป สมองแจ่มใสสงบนิ่ง‘ไม่ถูกต้อง!’กลิ่นนี้มาจากที่ใด มือที่เรียวเนียนไม่เหมือนของชายวัยกลางคนชะงักการแกะผ้าออกจากแผลของศิษย์คนเล็ก“ยายเฒ่าเจ้าเข้ามาตรงนี้สักหน่อย ท่านหลี่เฉียงวานท่านปิดประตูหน้าต่างรอบห้องทั้งหมดให้ข้าที ช่วยตามเจ้าหุบเขามาสักหน่อยเถอะ” ท่าทางเคร่งเครียดของหมอประหลาด จึงไม่มีใครกล้าชักช้าหรืออิดออด“นี่...นี่มัน หากดอกฉวินเซียน (ทวยเทพ) มีจริงเกรงว่าจะมีกลิ่นเช่นนี้!!!” ตู๋ยี่อุทานอย่างพรั่นพรึง ก้าวถอยซวนเซสับสนโม่โฉ่วกำลังย่างเท้าเข้าประตูมาทันได้ยินเข้าหน้าเปลี่ยนสีแทบไม่น่าชมดู“ฉีก้วยเชิง ตู๋ยี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น!”หมอประหลาดไม่พูดมากความ เขาดึงผ้าตรงขากางเกงของเสิ่นซูเย่วขึ้น ป้ายเลือดที่ซึมออกมานำไปหยดลงบนใบกล้วยไม้ในกระถางที่เหี่ยวเฉาใช้เวลาแค่จิบชาใบสีน้ำตาลค่อย ๆ ฟื้นความเขียวขจี“ยังมีกลิ่นหอมที่คล้ายดอกฉวินเซียนในตำนานนี่อีก นี่มันเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้ว”ดอกฉวินเซียนเล่าขานกันว่าเป็นดอกไม้ที่มีส

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 4 ลักพาตัว (2)

    เมืองอิงจี้ที่ว่าการศาลต้าหลี่ประจำเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟแล้วจริง ๆ เพราะบุรุษร่างสูงในอาภรณ์สีดำขลิบทองหลุดรุ่ยแบบบุรุษเสเพล แต่ใบหน้าของเขายามนี้เย็นชาสุดขั้วขับผมสีเงินโดดเด่นยิ่งดูเยือกเย็น“จอมยุทธ์โปรดยั้งมือด้วย!” หัวหน้าศาลต้าหลี่ประจำเมืองตอนนี้ใช้ปลอกดาบยันพื้นคุกเข่าลงข้างหนึ่งกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่เบื้องหน้า“ทางการจะสืบสวนเรื่องอย่างยุติธรรมแน่นอน ท่านโปรดวางใจ ทางการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจข้าได้ระดมกำลังคนตามหาคุณหนูน้อยทั้งสองของท่านและเด็กคนอื่น ๆ ที่หายไปแล้ว”“เหอะ!...”ยังไม่ทันที่โม่โฉ่วจะสะบัดชายเสื้อคลุมจากไป หลี่เหว่ยก็รีบร้อนเข้ามารายงานเสียก่อน“นายท่าน! ได้เบาะแสแล้วขอรับ มีชาวบ้านทางฝั่งประตูตะวันออกเห็นยามเปิดประตูเมืองให้รถลากออกไปกลางยามโฉ่วสองคัน”บัดซบ! ใครมันกล้ารับสินบนใต้จมูกข้า!หัวหน้าศาลต้าหลี่สบถสาบานในใจดุเดือด ยิ่งเห็นสายตาเย็นเยียบที่ปรายมาใจแทบจะกระเด้งกระดอนจุกปาก‘มารดามันเถอะ! ใครจะคิดว่าเมืองนี้จะซ่อนสำนักยุทธ์ที่เก่งกาจแบบนี้ไว้’“ฮะ ฮะ ท่านเจ้าหุบเขา ในเมื่อเจอเบาะแสเราก็รีบติดตามคนเถอะ... พวกเจ้าส่งกำลังคนขี่ม้าเร่งติดตามร่องรอยไปเดี๋ยวนี้

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 4 ลักพาตัว (1)

    เพียงชั่วยามเดียวในหอฉานยี่ จากคุณชายน้อยปากหวาน กลายเป็นตัวขี้เมาน้อยไปแล้ว“ม่ายมาววว ศิษย์เพ่ เอิ๊ก... เหล้านี่มันดีเจรง ๆ ตัวข้าอุ่นขึ้นมาแล้ว ท่านดู!” ผิวเนื้อที่มักขาวซีดและให้สัมผัสเย็น หากยื่นมือไปสัมผัสตอนนี้จะไม่เย็นมากนักแล้วใบหน้ากลมขาวแดงจัด ตาเยิ้มจวนจะปิด เดินตัวเอนเดินหน้าหนึ่งสามก้าวถอยจนพุงกลมแอ่น“เจ้าเดินให้ดีหน่อย” หวังหยูซินที่จิบไปจอกเดียวก็มีสีชมพูเจือจางตรงโหนกแก้ม หอบหิ้วเจ้าซาลาเปาน้อยกระเตงข้างเอวการฝึกยุทธ์ทำให้นางมีเรี่ยวแรงพอ ๆ กับผู้ใหญ่ อุ้มเด็กคนหนึ่งจึงไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่คงไม่สามารถใช้ออกด้วยวิชาตัวเบาพากลับหุบเขาได้ขณะเดินผ่านตรอกมืดซึ่งเป็นทางลัดไปโรงเตี๊ยมพรึ่บ!กระสอบผ้าถูกยกเตรียมครอบลงจากทางศีรษะ แต่หวังหยูซินเบี่ยงหลบทัน แล้วกระโจนถอยหลังไม่มั่นคง ตัวเซอีก 2 ก้าว“จับตัวไว้!”เสิ่นซูเย่วถูกการเคลื่อนไหวกะทันหันทำเอาวิงเวียนตาลาย จะลงมายืน อ้อมแขนของศิษย์พี่ก็ไม่ปล่อย“ซูเย่วอย่าดื้อ เกาะศิษย์พี่ไว้”เพราะมีลูกลิงห้อยโหนอยู่บนตัว ศิษย์เอกหมอประหลาดจึงใช้แขนได้เพียงข้างเดียว ฝ่ายตรงข้ามมีคนที่เป็นวรยุทธ์ระดับต่ำอยู่ 3 คน“เด็กนี่มีวรยุทธ์

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 3 นามรอง (2)

    …ได้ผลชงัด บังเกิดความเงียบขึ้นรอบโต๊ะกินข้าว พวกผู้ใหญ่เบิกตามองหน้ากันไปมา แม้แต่โม่โฉ่วยังชะงักมือที่ถือจอกสุราแล้ววางลง“แค่ก...เจ้าชื่ออะไร?” เจ้าหุบเขาที่ปกติดูเฉื่อยชาไม่อินังขังขอบ บัดนี้แสร้งไอกลบเกลื่อน ใบหน้ากระอักกระอ่วน“ข้าแซ่เสิ่น นามเกิดว่าซิน เขียนด้วยความสุข [1] คำนับอาวุโสทุกท่านเจ้าค่ะ”“เสี่ยวซินแล้วนามรองของเจ้าล่ะ?” ตู๋ยี่รีบขานเรียกสนิทสนม อดถามเรื่องนามรองไม่ได้เพราะดูอย่างไรนังหนูก็ไม่เหมือนลูกหลานชาวบ้านชาวป่า พอหลุดถามไปเด็กน้อยมีสีหน้าสลดลง“ท่านแม่รอท่านพ่อของข้ามาตั้งให้เจ้าค่ะ” เสิ่นซินฝืนยิ้มทั้งใบหน้าคล้ายจะร้องไห้นางไม่เคยเห็นหน้าบิดา มีเพียงภาพวาดที่ท่านแม่เคยนำออกมาให้ดู เปลือกตาบางใสราวไข่มุกหลุบลงปกปิดแววตาเจ็บปวดอายุเพียงนางยังไม่รู้วิธีปกปิดความรู้สึก ผู้ใดย่อมมองออกพรึ่บ!โม่โฉ่วพลันลุกขึ้นใช้วิชาตัวเบาเร่งร้อนหายไปทางห้องหนังสือ เขาปิดประตูเก็บตัวอยู่ในนั้นทั้งคืนหลี่เฉียงและหลี่เหว่ย ผู้เป็นมือขวาและมือซ้ายของเจ้าหุบเขาเห็นแสงไฟในห้องนั้นถูกจุดตลอดทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นซินตื่นนอนตั้งแต่ยามเหม่าตามความเคยชิน แต่นางยังไม่ลุกจากเตีย

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 3 นามรอง (1)

    7 วันผ่านไปอาการกำเริบของพิษเย็นถูกหมอเฒ่าและยายเฒ่าช่วยกันหาทางระงับควบคุมไว้ได้ ทำให้เสิ่นซินกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว‘เจ้าไม่ใช่ศิษย์ข้า แต่เป็นคุณหนูน้อยแห่งหุบเขาหงถาว’เสิ่นซินเรียกขานท่านเจ้าหุบเขาเป็นอาจารย์เขากลับรีบปฏิเสธ สุดท้ายบอกว่าอยากเรียกอะไรได้ทั้งนั้นยกเว้นอาจารย์ และฐานะของนางถูกยกเป็นคุณหนูน้อยไปแล้ว“ชีพจรวันนี้ดีนัก เจ้ากินยาเทียบนี้ติดต่อกันสัก 3 ปี อาการกำเริบของพิษเย็นจะกำเริบเหลือปีละ 2 ครั้ง หลังจากนั้น ในวันที่ร้อนที่สุดและเย็นที่สุดของปี”“ไม่ได้หายขาดหรือเจ้าคะ?” เสิ่นซินถามด้วยความผิดหวัง“ข้าเป็นหมอมิใช่เทพเซียน! พิษประหลาดของเจ้าไร้ที่มา ข้ากดอาการของมันให้เจ้าได้นับว่าดีเท่าไหร่!” คำถามของเด็กน้อยหมอประหลาดเหมือนโดนเหยียบหาง ลุกขึ้นมาเต้นเร่ายิ่งดวงตากลอกกลิ้งไม่เชื่อถือ...ราวกับเขามีเพียงราคาคุย!“เพ้ย! ถึงไม่หายขาดแต่เจ้าสามารถโคจรลมปราณได้โดยแลกกับอาการกำเริบเดือนละครั้ง!”“ท่านทำการค้ารึ? เอาผลประโยชน์เล็กน้อยล่อลวงข้าหวังให้ข้าคล้อยตาม”เสิ่นซินแม้ยังไม่หายดี แต่เป็นเด็กใฝ่รู้จนน่ากลัว กลางวันเรียนหนังสือโดยท่านจ้าวหุบเขาสอนด้วยตนเอง ตกเย็

  • โอสถฟ้าบัญชารัก   ตอนที่ 2 ชีวิตที่เก็บตก (2)

    2 วันต่อมา‘หุบเขาหงถาว’ (ท้อแดง) มีโอกาสได้ต้อนรับอาคันตุกะที่ลักพา...แค่ก เชื้อเชิญมาด้วยวิธีการอันไม่น่าจะกล่าวถึงนัก 2 คน เดิมทีคนของนายท่านใช้วิธีการต่าง ๆ นานากล่าวเชื้อเชิญอย่างสุภาพ... ‘ข้าอารมณ์ไม่ดีไม่ไป’เสนอรางวัลให้อย่างงาม... ‘เหอะ! เงินทองนับเป็นกระไรได้ ไม่ไป!’ล้อมจับ... ‘ฮึ...คิดหรือว่าข้าจะกลัว เจอพิษที่ข้าคิดขึ้นมาใหม่หน่อยปะไร”จนสุดท้ายนายท่านสั่งให้ยื่นจดหมายฉบับหนึ่ง... ‘โอ้...หมอต้องมีจิตใจแห่งโพธิสัตว์ ไยไม่เร่งนำทางอีก’“ไหนคนไข้ รีบพาข้าไปหาเร็วเข้า!” เดินทางรอนแรมเกือบเดือนอย่างเร่งรีบด้วยวิชาตัวเบาสลับกับการขี่ม้า ไม่ต้องให้พูดถึงสภาพผู้มาเยือนเลย แต่ละคนแข้งขาสั่นแรงเดินไม่มี สภาพสกปรกมอซอราวขอทาน“จับโยนลงสระเย็น” เสียงเฉื่อยชาไม่บ่งบอกอายุของชายหนุ่มผมเงินดูเจ้าสำราญ เขากำลังนั่งยกจอกสุราอุ่น ๆ ขึ้นจิบ ท่วงท่าทิ้งตัวพิงขอบตั่งเปิดสาบเสื้อให้แยกออกเห็นผิวเนื้อแน่นตึงดูเยี่ยงไรก็คล้ายคุณชายเสเพลท่านหนึ่ง“ขอรับนายท่าน!”“เพ้ย! ไอ้หนุ่มหัวหงอก! นี่หรือมารยาทรับรองแขกของเรือนเจ้า” หมอประหลาดโวยวายตอนโดนมือขวาของเจ้าหุบเขาหิ้วคอเสื้อด้านหลังชายผมเงินแม้ส

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status