Share

บทที่ 69

Author: สั่งไม่หยุด
นางหวังตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น “ตอนนั้นที่บีบคอเจ้า นั่นเป็นการลงโทษที่เจ้าคลอดยาก!”

หรงจือจือน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านแม่ ตอนที่ข้าเกิด ยังไม่มีสติปัญญา เรื่องการกลับหัวผิดตำแหน่ง ไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถเลือกได้ ที่ท่านรู้สึกว่าคลอดน้อง ๆ ง่ายกว่าการคลอดข้า เพียงเพราะข้าเป็นท้องแรก”

“ท้องแรกสำหรับผู้หญิงส่วนมากแล้ว เป็นเรื่องที่ยากลำบากทั้งสิ้น ตอนท้องสอง ท้องสาม ที่ค่อนข้างสบาย เป็นเพราะก่อนหน้านี้ช่องคลอดเคยเปิดแล้ว เปิดออกอีกครั้งก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิม”

“หากท่านแม่ไม่เชื่อ ก็เชิญไปถามแม่คนอื่น ๆ ดู คนส่วนมากที่ภายหลังมีลูกอีกสองสามคน ก็จะคลอดง่ายกว่าเดิม”

“เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะข้าเกิดมาเพื่อเอาชนะท่าน แต่เป็นเพราะบังเอิญที่ทารกไม่กลับหัว ประกอบกับความรู้ทางด้านการแพทย์บางอย่างเท่านั้น

นางหวังกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “บัดนี้เจ้ามีอนาคตที่สดใสแล้ว แม้แต่แม่ของตนเอง เจ้าก็ยังจะชี้แนะให้ข้าเข้าใจเหตุผลอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นสิ่งที่สมุนไพรบ้า ๆ พวกนั้นสอนเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ลูกไม่กล้า ลูกเพียงแค่คิดว่า เรื่องบางเรื่องควรจะพูดให้ชัดเจนเท่านั้น”

ไม่อย่างนั้นท่านแม่ม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 70

    หรงจือจือกล่าวช้า ๆ “ท่านแม่พูดว่าจะตัดขาดความเป็นแม่ลูกกัน หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่านับจากตอนนี้เป็นต้นไป ท่านกับข้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันอีก ท่านจะไม่สนใจข้าอีก จะไม่ก้าวก่ายเรื่องใด ๆ ของข้าอีก”“ท่านจะไม่สั่งสอนข้าอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ต้องลำบากเพื่อให้ไปหายาพิษที่หลังจากข้ากินลงไปแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือแม้กระทั่ง วันหน้าเห็นข้า ท่านแม่ก็จะทำเป็นไม่รู้จักกับข้าใช่หรือไม่?”นางหวังเลิกคิ้ว “ถูกต้อง! เป็นเช่นนี้แหละ! เจ้าเองก็คงไม่ได้หวังให้ตนต้องกลายเป็นลูกที่ไม่มีแม่ นับตั้งแต่นี้ไปหรอกนะ?”หรงจือจือได้ฟังถึงตรงนี้ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ด้านหน้าของนางหวัง คุกเข่าลงไปคำนับนางหวังสามครั้งนางหวังตะลึงไป รีบลุกขึ้นกล่าว “หรงจือจือ นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร?”หรงจือจือ “ขอบคุณบุญคุณของท่านแม่ที่ให้กำเนิด”นางหวังรู้สึกโล่งใจทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “เจ้ายังมีความกตัญญูอยู่บ้างก็ดี ก่อนจะกินยาพิษ ยังรู้จักคำนับข้าเพื่อแสดงความกตัญญู”“คนชั่วอย่างนางเจียงจะวางแผนไว้นานแค่ไหน อยากจะดึงลูกสาวของข้าไปเป็นพวกเพื่อให้นางใช้งาน เป็นไปไม่ได้หรอก! ในใจของลูกสาวข้า มี

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 71

    นางหวังฟังจนหน้าคล้ำดำเขียว พลางชี้ไปที่หรงจือจือ “เจ้า...เจ้าพูดอะไรน่ะ?”หรงจือจือ “ฮูหยิน นำยาพิษของท่านกลับไปเถอะ ท่านอยากให้ผู้ใดกิน ผู้ใดยอมกิน ข้าไม่สน สรุปก็คือข้า หรงจือจือไม่มีทางกินเป็นอันขาด”“บุญคุณเลี้ยงดูยิ่งใหญ่กว่าบุญให้กำเนิด ผู้ที่เลี้ยงดูข้ามาจนเติบใหญ่จริง ๆ คือท่านย่า ผู้ที่สอนให้ข้าเข้าใจความหมายของเหตุผลก็คือท่านย่า ผู้ที่เตรียมสินเดิมให้ข้ามากมาย ก็คือท่านย่าเช่นกัน”“ท่านย่าต้องหวังให้ข้าใช้ชีวิตดี ๆ เป็นแน่ ด้วยจือจือจะทำตามความประสงค์ของท่านย่า คงได้แต่ต้องทำให้ฮูหยินหรงผิดหวังแล้ว!”นางหวัง “เจ้า เจ้า...”นางยังอยากเอ่ยสิ่งใดต่อทว่าหรงจือจือดันเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ขึ้นมาก่อน “เจาซี ส่งแขก”เจาซีอดรนทนไม่ไหวที่จะไล่นางหวังออกจากประตูไปตั้งนานแล้ว นางเดินขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ฮูหยิน เชิญเจ้าค่ะ!”นางหวังเดือดดาลจนควันออกหู “พวกเจ้า! ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้านายบ่าวจะต่ำตมเช่นนี้ หรงจือจือ ข้าให้กำเนิดผู้ใดก็ดีกว่าให้กำเนิดคนเนรคุณเช่นเจ้า! เพราะตั้งท้องเจ้าสิบเดือน ข้าต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้!”หรงจือจือตอกกลับทั้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 72

    อวี้หมัวมัวขมวดคิ้ว “มีเรื่องอันใดถึงต้องลุกลี้ลุกลนเพียงนี้?”บ่าวรับใช้ผู้นั้นตอบ “นายหญิงใหญ่! นายหญิงใหญ่แย่แล้วเจ้าค่ะ นายท่านให้เชิญคุณหนูกลับไปดูใจนายหญิงใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายเจ้าค่ะ!”ฝ่าเท้าของหรงจือจือสั่นระรัว นางเอ่ยขึ้นอย่างยากจะเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ? ท่านย่าเป็นอะไร?”บ่าวรับใช้ “นายหญิงใหญ่อาเจียนเป็นเลือดออกมาเยอะมาก หมอเทวดาใช้ให้ตระเตรียมงานศพแล้ว...”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคร่ำเครียด “เจ้าอย่าพูดซี้ซั้ว! ท่านย่าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้หมอเทวดาบอกว่าฝังเข็มอีกสามวัน ท่านย่าก็จะหายดีแล้วไม่ใช่หรือ?”บ่าวรับใช้รีบตอบ “เพราะวันนี้ตอนพลบค่ำสาวใช้ในเรือนนายหญิงใหญ่คนหนึ่งหลุดปากพูดออกไป ทำให้นายหญิงใหญ่รู้เรื่องที่คุณหนูถูกสกุลฉีข่มเหงและเหยียดหยาม นายหญิงใหญ่จึงอาเจียนออกมาเป็นเลือดตรงนั้นเลย ตอนนี้อาการย่ำแย่ยิ่งนัก!”หรงจือจือ “อะไรนะ?”นางรู้สึกเพียงในหัวมีเสียงหึ่ง ๆ แว่วดังขึ้นมา เกือบจะสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป ขาและเท้ายิ่งไร้เรี่ยวแรงเข้าไปใหญ่เจาซีรีบพยุงนางเอาไว้ “คุณหนู ใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ...”หรงจือจือ “เตรียมรถม้า”ขึ้นไปบนรถม้า หรงจือจือก็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 73

    หมอเทวดาก้มหน้า “มารดาบุญธรรม เพราะข้าไร้ความสามารถเอง”นายหญิงผู้เฒ่าหรงส่ายศีรษะ “ไม่โทษเจ้าหรอก และไม่โทษผู้ใดทั้งนั้น ชีวิตก็เป็นเช่นนี้! ลูกชายข้าล่ะ ลูกชายข้าอยู่ที่ใด?”มหาราชครูหรงรีบมาตรงหน้าเตียงแล้วคุกเข่าลงหน้านายหญิงใหญ่ทันที “ท่านแม่ ลูกอยู่นี่ขอรับ”นายหญิงผู้เฒ่าหรงคว้ามือของลูกชายเอาไว้ แล้วเอ่ยกับเขาว่า “ลูกชายข้า หลายปีมานี้เจ้ายุ่งอยู่กับเรื่องในวงการขุนนาง ก็ได้จือจือคอยอยู่ข้างกายเป็นเพื่อนข้า แสดงความกตัญญูแทนเจ้าบ่อย ๆ ”“ตอนนี้แม่จะไปแล้ว สิ่งเดียวที่แม่ยังพะวงก็คือนาง เด็กที่แสนดีเช่นนี้ กลับไม่ค่อยได้รับความเมตตาจากสวรรค์ เจ้าต้องดูแลจือจือให้ดีแทนแม่ ได้ยินหรือไม่?”“หากแม่รู้ว่าเจ้าเองก็ทำอะไรเลอะเลือน ข่มเหงจือจือของแม่เช่นกัน แม่ที่อยู่ในปรโลก จะไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นอันขาด! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”มหาราชครูหรงตอบกลับทั้งน้ำตาไหลพราก “ขอรับท่านแม่ ลูกจำเอาไว้ขึ้นใจแล้ว!”นายหญิงใหญ่หรงฉีกยิ้ม “เยี่ยม เยี่ยม! ชีวิตนี้ของข้า มีลูกชายกตัญญู มีหลานสาวกตัญญู มีบุตรบุญธรรมแสนดี ก็คุ้มค่าแล้ว!”ครั้นนายหญิงใหญ่เอ่ยประโยคนี้จบ ก็มองไปที่หรงจือจือด้วยความเป็น

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 74

    มหาราชครูหรงเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาล “หากมาก็กันเอาไว้ด้านนอก ไม่จำเป็นต้องมารายงานข้า!”สีหน้าของเฉินเยี่ยนซูเย็นยะเยียบ “ไล่พวกเขากลับไป”คนเฝ้าประตู “ขอรับ!”ในแคว้นต้าฉี ราชเลขาธิการกุมอำนาจของอัครมหาเสนาบดี มิหนำซ้ำสมุหราชเลขาธิการยังเป็นท่านอัครมหาเสนาบดีของฝ่าบาทอีกด้วย ฮ่องเต้องค์ก่อนมอบหมายภารกิจสำคัญของผู้สำเร็จราชการแทนให้อัครมหาเสนาบดี ก่อนที่ฝ่าบาทจะขึ้นมาบริหารด้วยองค์เอง อัครมหาเสนาบดีเฉินต่างหากที่เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของแคว้นต้าฉีครั้นท่านเสนาบดีเอ่ยปากแล้ว แม้ฉีจื่อฟู่จะเป็นคนของจวนโหว คนเฝ้าประตูก็กล้าจะล่วงเกิน!เนื่องจากฮ่องเต้องค์ก่อนมอบอำนาจผู้สำเร็จราชการแทนให้แก่เฉินเยี่ยนซู ในใจของมหาราชครูหรงมากน้อยก็ต้องริษยา และแอบไม่พอใจเฉินเยี่ยนซูอยู่บ้าง ครั้นวันนี้เห็นอีกฝ่ายกล้าพูดจาเป็นธรรมเช่นนี้ออกมา ท้ายที่สุดก็เกิดความรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อยเขาประสานมือขึ้นพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินอย่างมาก!”ครั้นเห็นสายตาของเฉินเยี่ยนซูทอดมองไปที่หรงจือจือ มหาราชครูหรงคิดเพียงว่าเฉินเยี่ยนซูไม่พอใจที่หรงจือจือไม่มาคารวะจึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 75

    หมอเทวดารีบบีบร่องกลางริมฝีปากบนของหรงจือจือทันที เพื่อทำให้นางฟื้น ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “กลับไปพักที่จวนสักวันก็ดีขึ้นแล้ว”ครั้นเฉินเยี่ยนซูได้ยินถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างไรเซินเฮ่อก็ไม่ใช่คนโง่ ติดตามเฉินเยี่ยนซูมานานขนาดนี้ เขาเองก็พอคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายออกเช่นกันเขาจึงเอ่ยกระซิบว่า “ท่านเสนาบดีวางใจ เรื่องของคุณหนูใหญ่หรง ข้าจะจับตาดูแทนท่านเอง หากมีความผิดปกติใด จะไปรายงานที่จวนของท่านทันที”เฉินเยี่ยนซู “อืม”...สองสามวันนี้หรงจือจือจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างยิ่ง ฉะนั้นครานี้นางจึงหลับลึกเป็นพิเศษในห้วงความฝันนางเห็นภาพที่ท่านย่าจับมือของนางเอาไว้ พลางเอ่ยคำสั่งเสียกับนาง บอกให้นางรีบตัดความสัมพันธ์กับสกุลฉีแม้จะเป็นในห้วงความฝัน นางก็เอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเจาซีเห็นดังนั้นก็ปวดใจยิ่งนักหรงจือจือตื่นขึ้นมาวันเว้นวัน นางได้ยินหรงเจียวเจียวพูดจาบั่นทอนจิตใจอยู่ข้าง ๆ “ท่านย่าก็จากไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าจะเสแสร้งเช่นนี้ให้ผู้ใดดูกัน!”จากนั้นมหาราชครูหรงก็ตบหน้าไปหนึ่งฉาด “เจ้ามันเนรคุณ! ท่านย่าเจ้าป่วย เจ้าไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง พี่สาวเจ้าเสียใจ เจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 76

    การกระทำเช่นนี้ของหรงจือจือ ทำเอาทุกคนในสกุลฉีพากันตกตะลึงอย่างยิ่งองค์หญิงม่านหวาเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนทั้งสีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “พี่หญิง เป็นเพราะข้ากลับมาใช่หรือไม่ ท่านพี่ไม่ชอบข้าจริง ๆ ฉะนั้นจึงจะไปอย่างนั้นหรือ”เจาซีเห็นว่าคุณหนูไม่คิดจะอยู่ที่นี่แล้ว จึงอดกลั้นกับนางไม่ไหวแล้ว เป็นแค่องค์หญิงแคว้นสิ้นเอกราช ไม่คิดเลยว่าจะไม่รู้จักลู่หางเวลากลัว กล้าแย่งกระทั่งสามีของบุตรสาวมหาราชครูแห่งราชสำนัก!นางจึงเอ่ยปากด่ากราด “หญิงใจง่ายแต่งงานไม่ถูกต้องตามประเพณีอย่างท่าน เรียกผู้ใดว่าพี่หญิงกัน? ท่านคู่ควรจะเรียกคุณหนูบ้านข้าว่าพี่หญิงหรือ? ท่านเงียบปากของท่านไปเสียเถอะ จะได้ไม่ทำลายชื่อเสียงของคุณหนูบ้านข้าโดยเปล่าประโยชน์!”สีหน้าของอวี้ม่านหวาซีดเผือด พลันถอยหลังกรูสองก้าวนางเอามือปิดหน้าพร้อมร้องไห้ ก่อนจะเอ่ยกับฉีจื่อฟู่ว่า “ท่านพี่ฟู่ ต้องโทษข้า! ข้าชอบท่านมากเกินไปจริง ๆ จึงไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น ที่วันนี้พี่หญิงไม่ชอบข้าก็สมควรแล้ว บางทีลูกในท้องของข้าก็ไม่ควรลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้เช่นเดียวกับข้า!”หลังฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่หรงจือจือ “จือจือ เจ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 77

    หรงจือจือแสยะยิ้ม ยังคิดจะให้นางขอโทษ ฆ่าเจาซี? เกรงว่าคนสกุลฉีจะยังไม่ตื่นจากฝันจริง ๆนางปฏิเสธทั้งสีหน้าเย็นชา “ไม่มีทาง! วันข้างหน้าข้าจะใช้ชีวิตอย่างไร? ไม่ต้องให้สกุลฉีอย่างพวกท่านมาเป็นห่วง ฉีจื่อฟู่ ลงนามเสีย!”นางถานลุกขึ้นยืนพลางตอกกลับด้วยความเดือดดาล “นังคนชั้นต่ำไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นเจ้า เจ้ายังใจแข็งโวยวายจะเอาให้ได้จริง ๆ ใช่หรือไม่? พวกเราสงสารที่ท่านย่าของเจ้าจากไป ถึงได้ให้โอกาสเจ้าได้ขอโทษ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักคว้าเอาไว้”“ความจริงที่ท่านย่าของเจ้าจากไป เป็นเพราะชีวิตของนางสั้นเอง นางหมดบุญเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับสกุลเรา! นางสอนเด็กเนรคุณไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคารพสามีเช่นเจ้าออกมา ที่นางตายก็สมควรแล้ว!”ฉีอวี่เยียนเองก็กล่าวผสมโรงด้วย “นั่นน่ะสิ! พี่สะใภ้ กะอีแค่ยายแก่หนังเหนียวคนหนึ่งตายไปเท่านั้น ตายไปแล้วก็ตายไปสิ หรือว่าคนตายจะสำคัญกว่าคนเป็นอีกเช่นนั้นหรือ?”“ท่านยังกลับมาทั้งสวมชุดสีดำอีก นี่มันไม่เป็นการเพิ่มความโชคร้ายให้จวนโดยเปล่าประโยชน์หรือ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า อย่านำพลังงานหยินของคนตายนั่นมา ให้ตายเถอะ แค่คิดข้าก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแ

Pinakabagong kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status