Share

บทที่ 70

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือกล่าวช้า ๆ “ท่านแม่พูดว่าจะตัดขาดความเป็นแม่ลูกกัน หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่านับจากตอนนี้เป็นต้นไป ท่านกับข้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันอีก ท่านจะไม่สนใจข้าอีก จะไม่ก้าวก่ายเรื่องใด ๆ ของข้าอีก”

“ท่านจะไม่สั่งสอนข้าอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ต้องลำบากเพื่อให้ไปหายาพิษที่หลังจากข้ากินลงไปแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือแม้กระทั่ง วันหน้าเห็นข้า ท่านแม่ก็จะทำเป็นไม่รู้จักกับข้าใช่หรือไม่?”

นางหวังเลิกคิ้ว “ถูกต้อง! เป็นเช่นนี้แหละ! เจ้าเองก็คงไม่ได้หวังให้ตนต้องกลายเป็นลูกที่ไม่มีแม่ นับตั้งแต่นี้ไปหรอกนะ?”

หรงจือจือได้ฟังถึงตรงนี้

ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ด้านหน้าของนางหวัง คุกเข่าลงไปคำนับนางหวังสามครั้ง

นางหวังตะลึงไป รีบลุกขึ้นกล่าว “หรงจือจือ นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

หรงจือจือ “ขอบคุณบุญคุณของท่านแม่ที่ให้กำเนิด”

นางหวังรู้สึกโล่งใจทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “เจ้ายังมีความกตัญญูอยู่บ้างก็ดี ก่อนจะกินยาพิษ ยังรู้จักคำนับข้าเพื่อแสดงความกตัญญู”

“คนชั่วอย่างนางเจียงจะวางแผนไว้นานแค่ไหน อยากจะดึงลูกสาวของข้าไปเป็นพวกเพื่อให้นางใช้งาน เป็นไปไม่ได้หรอก! ในใจของลูกสาวข้า มี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wiwa
เหลือจะเชื่อ มีแม่แบบนี้ด้วยหรอสงสารนางเอกมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 71

    นางหวังฟังจนหน้าคล้ำดำเขียว พลางชี้ไปที่หรงจือจือ “เจ้า...เจ้าพูดอะไรน่ะ?”หรงจือจือ “ฮูหยิน นำยาพิษของท่านกลับไปเถอะ ท่านอยากให้ผู้ใดกิน ผู้ใดยอมกิน ข้าไม่สน สรุปก็คือข้า หรงจือจือไม่มีทางกินเป็นอันขาด”“บุญคุณเลี้ยงดูยิ่งใหญ่กว่าบุญให้กำเนิด ผู้ที่เลี้ยงดูข้ามาจนเติบใหญ่จริง ๆ คือท่านย่า ผู้ที่สอนให้ข้าเข้าใจความหมายของเหตุผลก็คือท่านย่า ผู้ที่เตรียมสินเดิมให้ข้ามากมาย ก็คือท่านย่าเช่นกัน”“ท่านย่าต้องหวังให้ข้าใช้ชีวิตดี ๆ เป็นแน่ ด้วยจือจือจะทำตามความประสงค์ของท่านย่า คงได้แต่ต้องทำให้ฮูหยินหรงผิดหวังแล้ว!”นางหวัง “เจ้า เจ้า...”นางยังอยากเอ่ยสิ่งใดต่อทว่าหรงจือจือดันเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ขึ้นมาก่อน “เจาซี ส่งแขก”เจาซีอดรนทนไม่ไหวที่จะไล่นางหวังออกจากประตูไปตั้งนานแล้ว นางเดินขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ฮูหยิน เชิญเจ้าค่ะ!”นางหวังเดือดดาลจนควันออกหู “พวกเจ้า! ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้านายบ่าวจะต่ำตมเช่นนี้ หรงจือจือ ข้าให้กำเนิดผู้ใดก็ดีกว่าให้กำเนิดคนเนรคุณเช่นเจ้า! เพราะตั้งท้องเจ้าสิบเดือน ข้าต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้!”หรงจือจือตอกกลับทั้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 72

    อวี้หมัวมัวขมวดคิ้ว “มีเรื่องอันใดถึงต้องลุกลี้ลุกลนเพียงนี้?”บ่าวรับใช้ผู้นั้นตอบ “นายหญิงใหญ่! นายหญิงใหญ่แย่แล้วเจ้าค่ะ นายท่านให้เชิญคุณหนูกลับไปดูใจนายหญิงใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายเจ้าค่ะ!”ฝ่าเท้าของหรงจือจือสั่นระรัว นางเอ่ยขึ้นอย่างยากจะเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ? ท่านย่าเป็นอะไร?”บ่าวรับใช้ “นายหญิงใหญ่อาเจียนเป็นเลือดออกมาเยอะมาก หมอเทวดาใช้ให้ตระเตรียมงานศพแล้ว...”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคร่ำเครียด “เจ้าอย่าพูดซี้ซั้ว! ท่านย่าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้หมอเทวดาบอกว่าฝังเข็มอีกสามวัน ท่านย่าก็จะหายดีแล้วไม่ใช่หรือ?”บ่าวรับใช้รีบตอบ “เพราะวันนี้ตอนพลบค่ำสาวใช้ในเรือนนายหญิงใหญ่คนหนึ่งหลุดปากพูดออกไป ทำให้นายหญิงใหญ่รู้เรื่องที่คุณหนูถูกสกุลฉีข่มเหงและเหยียดหยาม นายหญิงใหญ่จึงอาเจียนออกมาเป็นเลือดตรงนั้นเลย ตอนนี้อาการย่ำแย่ยิ่งนัก!”หรงจือจือ “อะไรนะ?”นางรู้สึกเพียงในหัวมีเสียงหึ่ง ๆ แว่วดังขึ้นมา เกือบจะสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป ขาและเท้ายิ่งไร้เรี่ยวแรงเข้าไปใหญ่เจาซีรีบพยุงนางเอาไว้ “คุณหนู ใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ...”หรงจือจือ “เตรียมรถม้า”ขึ้นไปบนรถม้า หรงจือจือก็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 73

    หมอเทวดาก้มหน้า “มารดาบุญธรรม เพราะข้าไร้ความสามารถเอง”นายหญิงผู้เฒ่าหรงส่ายศีรษะ “ไม่โทษเจ้าหรอก และไม่โทษผู้ใดทั้งนั้น ชีวิตก็เป็นเช่นนี้! ลูกชายข้าล่ะ ลูกชายข้าอยู่ที่ใด?”มหาราชครูหรงรีบมาตรงหน้าเตียงแล้วคุกเข่าลงหน้านายหญิงใหญ่ทันที “ท่านแม่ ลูกอยู่นี่ขอรับ”นายหญิงผู้เฒ่าหรงคว้ามือของลูกชายเอาไว้ แล้วเอ่ยกับเขาว่า “ลูกชายข้า หลายปีมานี้เจ้ายุ่งอยู่กับเรื่องในวงการขุนนาง ก็ได้จือจือคอยอยู่ข้างกายเป็นเพื่อนข้า แสดงความกตัญญูแทนเจ้าบ่อย ๆ ”“ตอนนี้แม่จะไปแล้ว สิ่งเดียวที่แม่ยังพะวงก็คือนาง เด็กที่แสนดีเช่นนี้ กลับไม่ค่อยได้รับความเมตตาจากสวรรค์ เจ้าต้องดูแลจือจือให้ดีแทนแม่ ได้ยินหรือไม่?”“หากแม่รู้ว่าเจ้าเองก็ทำอะไรเลอะเลือน ข่มเหงจือจือของแม่เช่นกัน แม่ที่อยู่ในปรโลก จะไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นอันขาด! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”มหาราชครูหรงตอบกลับทั้งน้ำตาไหลพราก “ขอรับท่านแม่ ลูกจำเอาไว้ขึ้นใจแล้ว!”นายหญิงใหญ่หรงฉีกยิ้ม “เยี่ยม เยี่ยม! ชีวิตนี้ของข้า มีลูกชายกตัญญู มีหลานสาวกตัญญู มีบุตรบุญธรรมแสนดี ก็คุ้มค่าแล้ว!”ครั้นนายหญิงใหญ่เอ่ยประโยคนี้จบ ก็มองไปที่หรงจือจือด้วยความเป็น

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 74

    มหาราชครูหรงเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาล “หากมาก็กันเอาไว้ด้านนอก ไม่จำเป็นต้องมารายงานข้า!”สีหน้าของเฉินเยี่ยนซูเย็นยะเยียบ “ไล่พวกเขากลับไป”คนเฝ้าประตู “ขอรับ!”ในแคว้นต้าฉี ราชเลขาธิการกุมอำนาจของอัครมหาเสนาบดี มิหนำซ้ำสมุหราชเลขาธิการยังเป็นท่านอัครมหาเสนาบดีของฝ่าบาทอีกด้วย ฮ่องเต้องค์ก่อนมอบหมายภารกิจสำคัญของผู้สำเร็จราชการแทนให้อัครมหาเสนาบดี ก่อนที่ฝ่าบาทจะขึ้นมาบริหารด้วยองค์เอง อัครมหาเสนาบดีเฉินต่างหากที่เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของแคว้นต้าฉีครั้นท่านเสนาบดีเอ่ยปากแล้ว แม้ฉีจื่อฟู่จะเป็นคนของจวนโหว คนเฝ้าประตูก็กล้าจะล่วงเกิน!เนื่องจากฮ่องเต้องค์ก่อนมอบอำนาจผู้สำเร็จราชการแทนให้แก่เฉินเยี่ยนซู ในใจของมหาราชครูหรงมากน้อยก็ต้องริษยา และแอบไม่พอใจเฉินเยี่ยนซูอยู่บ้าง ครั้นวันนี้เห็นอีกฝ่ายกล้าพูดจาเป็นธรรมเช่นนี้ออกมา ท้ายที่สุดก็เกิดความรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อยเขาประสานมือขึ้นพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินอย่างมาก!”ครั้นเห็นสายตาของเฉินเยี่ยนซูทอดมองไปที่หรงจือจือ มหาราชครูหรงคิดเพียงว่าเฉินเยี่ยนซูไม่พอใจที่หรงจือจือไม่มาคารวะจึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 75

    หมอเทวดารีบบีบร่องกลางริมฝีปากบนของหรงจือจือทันที เพื่อทำให้นางฟื้น ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “กลับไปพักที่จวนสักวันก็ดีขึ้นแล้ว”ครั้นเฉินเยี่ยนซูได้ยินถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างไรเซินเฮ่อก็ไม่ใช่คนโง่ ติดตามเฉินเยี่ยนซูมานานขนาดนี้ เขาเองก็พอคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายออกเช่นกันเขาจึงเอ่ยกระซิบว่า “ท่านเสนาบดีวางใจ เรื่องของคุณหนูใหญ่หรง ข้าจะจับตาดูแทนท่านเอง หากมีความผิดปกติใด จะไปรายงานที่จวนของท่านทันที”เฉินเยี่ยนซู “อืม”...สองสามวันนี้หรงจือจือจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างยิ่ง ฉะนั้นครานี้นางจึงหลับลึกเป็นพิเศษในห้วงความฝันนางเห็นภาพที่ท่านย่าจับมือของนางเอาไว้ พลางเอ่ยคำสั่งเสียกับนาง บอกให้นางรีบตัดความสัมพันธ์กับสกุลฉีแม้จะเป็นในห้วงความฝัน นางก็เอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเจาซีเห็นดังนั้นก็ปวดใจยิ่งนักหรงจือจือตื่นขึ้นมาวันเว้นวัน นางได้ยินหรงเจียวเจียวพูดจาบั่นทอนจิตใจอยู่ข้าง ๆ “ท่านย่าก็จากไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าจะเสแสร้งเช่นนี้ให้ผู้ใดดูกัน!”จากนั้นมหาราชครูหรงก็ตบหน้าไปหนึ่งฉาด “เจ้ามันเนรคุณ! ท่านย่าเจ้าป่วย เจ้าไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง พี่สาวเจ้าเสียใจ เจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 76

    การกระทำเช่นนี้ของหรงจือจือ ทำเอาทุกคนในสกุลฉีพากันตกตะลึงอย่างยิ่งองค์หญิงม่านหวาเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนทั้งสีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “พี่หญิง เป็นเพราะข้ากลับมาใช่หรือไม่ ท่านพี่ไม่ชอบข้าจริง ๆ ฉะนั้นจึงจะไปอย่างนั้นหรือ”เจาซีเห็นว่าคุณหนูไม่คิดจะอยู่ที่นี่แล้ว จึงอดกลั้นกับนางไม่ไหวแล้ว เป็นแค่องค์หญิงแคว้นสิ้นเอกราช ไม่คิดเลยว่าจะไม่รู้จักลู่หางเวลากลัว กล้าแย่งกระทั่งสามีของบุตรสาวมหาราชครูแห่งราชสำนัก!นางจึงเอ่ยปากด่ากราด “หญิงใจง่ายแต่งงานไม่ถูกต้องตามประเพณีอย่างท่าน เรียกผู้ใดว่าพี่หญิงกัน? ท่านคู่ควรจะเรียกคุณหนูบ้านข้าว่าพี่หญิงหรือ? ท่านเงียบปากของท่านไปเสียเถอะ จะได้ไม่ทำลายชื่อเสียงของคุณหนูบ้านข้าโดยเปล่าประโยชน์!”สีหน้าของอวี้ม่านหวาซีดเผือด พลันถอยหลังกรูสองก้าวนางเอามือปิดหน้าพร้อมร้องไห้ ก่อนจะเอ่ยกับฉีจื่อฟู่ว่า “ท่านพี่ฟู่ ต้องโทษข้า! ข้าชอบท่านมากเกินไปจริง ๆ จึงไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น ที่วันนี้พี่หญิงไม่ชอบข้าก็สมควรแล้ว บางทีลูกในท้องของข้าก็ไม่ควรลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้เช่นเดียวกับข้า!”หลังฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่หรงจือจือ “จือจือ เจ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 77

    หรงจือจือแสยะยิ้ม ยังคิดจะให้นางขอโทษ ฆ่าเจาซี? เกรงว่าคนสกุลฉีจะยังไม่ตื่นจากฝันจริง ๆนางปฏิเสธทั้งสีหน้าเย็นชา “ไม่มีทาง! วันข้างหน้าข้าจะใช้ชีวิตอย่างไร? ไม่ต้องให้สกุลฉีอย่างพวกท่านมาเป็นห่วง ฉีจื่อฟู่ ลงนามเสีย!”นางถานลุกขึ้นยืนพลางตอกกลับด้วยความเดือดดาล “นังคนชั้นต่ำไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นเจ้า เจ้ายังใจแข็งโวยวายจะเอาให้ได้จริง ๆ ใช่หรือไม่? พวกเราสงสารที่ท่านย่าของเจ้าจากไป ถึงได้ให้โอกาสเจ้าได้ขอโทษ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักคว้าเอาไว้”“ความจริงที่ท่านย่าของเจ้าจากไป เป็นเพราะชีวิตของนางสั้นเอง นางหมดบุญเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับสกุลเรา! นางสอนเด็กเนรคุณไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคารพสามีเช่นเจ้าออกมา ที่นางตายก็สมควรแล้ว!”ฉีอวี่เยียนเองก็กล่าวผสมโรงด้วย “นั่นน่ะสิ! พี่สะใภ้ กะอีแค่ยายแก่หนังเหนียวคนหนึ่งตายไปเท่านั้น ตายไปแล้วก็ตายไปสิ หรือว่าคนตายจะสำคัญกว่าคนเป็นอีกเช่นนั้นหรือ?”“ท่านยังกลับมาทั้งสวมชุดสีดำอีก นี่มันไม่เป็นการเพิ่มความโชคร้ายให้จวนโดยเปล่าประโยชน์หรือ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า อย่านำพลังงานหยินของคนตายนั่นมา ให้ตายเถอะ แค่คิดข้าก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 78

    แต่ไม่คิดเลยว่า หลังหรงจือจือเก็บหนังสือหย่าไป นางก็หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่ปริปากเอ่ยกับฉีจื่อฟู่เลยแม้แต่คำเดียวครั้นเห็นว่าในสายตานางไร้ซึ่งเยื่อใย ในใจเขาก็กระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อยขณะนี้นางถานยังยืนกระทืบเท้าพลางด่าตามหลังหรงจือจือว่า “หรงจือจือ! เจ้าทำกับแม่สามีและน้องสามีเช่นนี้ ข้ารู้ว่าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป ข้างนอกรู้เข้า ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็จะกลายเป็นคนไร้ซึ่งความเป็นคนและอกตัญญู!”ฉีจื่อเสียนเองก็กล่าวอยู่ข้าง ๆ “ท่านแม่วางใจเถิด ข้ามีสหายสนิทร่วมสำนักมากมาย ขอเพียงพวกเขาช่วยพูด สกุลหรงก็ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีแน่!”ฝีเท้าของหรงจือจือชะงัก ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองพวกเขาแม่ลูก “เรื่องในวันนี้ หากข้าได้ยินคำพูดที่ไม่ดีต่อข้าแม่แต่คำเดียว ข้าจะไปคุกเข่าร้องไห้หน้าประตูจวนผู้ตรวจการจาง”“เล่าว่าพวกท่านทั้งบ้านคิดจะฮุบสินเดิมข้าอย่างไร บีบให้ข้าเป็นอนุอย่างไร บีบท่านย่าของข้าให้ตายอย่างไร มิหนำซ้ำยังเอ่ยคำพูดหยาบคายออกมาหลังท่านย่าข้าจากไปแล้วอีก!”“ข้าละอยากรู้ยิ่งนักว่า ท่านผู้ตรวจการกับผู้คนในใต้หล้า จะเข้าข้างข้าหรือเข้าข้างตระกูลพวกท่าน!”นางถาน “เจ้า…เจ้ายังคิดจะไปคุกเข่าร

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 164

    หรงจือจือกล่าวอย่างราบเรียบ “ที่ข้าอยากทำไม่ได้มีแค่นี้ แต่ต้องดูก่อนว่าเจ้าอันธพาลนี่มีความสามารถเพียงใด”ในจดหมายที่เซิ่งเฟิงส่งถึงนางระบุไว้ว่า อันธพาลซึ่งมีนามว่าซือถือกุ้ยที่นางหลิวพอจะมีความสามารถอยู่ ความจริงแล้วนางหลิวไม่ใช่สตรีชนชั้นสูงคนแรกที่ถูกเขาหลอกเอาเงินไปจนหมด สองปีมานี้เขาหลอกบรรดาฮูหยินแม่ม่ายกับฮูหยินที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับสามีมาไม่รู้ตั้งเท่าไรหลังจากที่หลอกเอาเงินจนหมดก็จะหาข้ออ้างมาทะเลาะและเลิกรากันเพื่อไปหาเหยื่อคนถัดไป ทุกคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขา บัดนี้ล้วนแต่สิ้นเนื้อประดาตัว หลังจากที่บรรดาฮูหยินถูกหลอก พวกนางไม่กล้าเปิดเผยเรื่องดังกล่าวเพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ หลังจากที่เขาหลอกเงินและไปหาเหยื่อคนถัดไป เขาจะย้อนกลับไปหลอกบรรดาฮูหยินพวกนั้นด้วยว่า ตัวเองถูกบังคับให้ทำเช่นนี้และทำไปเพื่อหาเลี้ยงชีพเท่านั้น กับสตรีคนอื่นแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย มอบความรู้สึกที่แท้จริงให้แค่พวกนาง ไม่เคยลืมไปจากใจหลอกให้บรรดาฮูหยินยกโทษให้ตน จะได้ไม่เกลียดที่เขาใจร้าย ให้พวกนางโทษว่าเป็นความผิดตัวเองที่มีเงินน้อยแทน แต่ละคนจะได้คิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 163

    นางหลิว “ไม่ได้ ต้องให้เดี๋ยวนี้!”ทั้งสองคนทำท่าจะโต้เถียงกันอีกครั้งหรงจือจือเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ “ปัดโธ่ วันนี้น้องสามีต้องไปเข้าพบท่านสวี คิดว่าน่าจะใกล้กลับมาแล้ว ประเดี๋ยวคงมาพบข้าที่เรือนหลัน ท่านแม่กับท่านป้าคุยกันไปนะเจ้าคะ ข้าขอตัวก่อน!”นางถานโกรธจนหน้าเขียวคล้ำนังแพศยานี่สร้างปัญหาไว้ยกใหญ่ หลังจากหาเรื่องให้นางแล้วก็จะหนีไป ทิ้งให้นางถูกนางหลิวกลั่นแกล้ง!นางหลิวรู้สึกเสียดายที่หาผลประโยชน์จากหรงจือจือไม่สำเร็จ แต่นางก็รู้ดีว่าในฐานะที่นางหรงเป็นแม่ศรีเรือนอันดับหนึ่งแห่งเหมือนหลวง การจะเล่นงานอีกฝ่ายย่อมไม่ง่ายนักทำได้เพียงพูดว่า “วันนี้ลำบากหลานสะใภ้แล้ว หากเจ้ามีธุระก็ไปเถิด! ที่เหลือข้าจะหารือกับแม่สามีของเจ้าเอง”หรงจือจือยิ้ม นางลุกขึ้นย่อตัวคำนับแล้วถอยออกไปแม้จะเดินห่างออกมาไกลแต่ก็ยังได้ยินเสียงโต้เถียงลอยมาจากเรือนฉางโซ่ว “พวกข้าจะเอากำไลเดี๋ยวนี้!”“ไม่ได้ ต้องแต่งงานเข้ามาก่อนค่อยว่าก่อน!”“ผู้ใดจะรู้กันว่าแต่งงานเข้ามาแล้วเจ้าจะกลับคำหรือไม่?”“แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการแต่งงานนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ บุตรสาวเจ้ายังไม่แต่งเข้ามาเลย?”…

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 162

    ก่อนหน้านี้อวี่เยียนต้องการปะการัง ไข่มุกเรืองแสง กว้านผมทองหลากสี แต่หรงจือจือก็ไม่ตอบตกลง!นางหลิวสองแม่ลูกหันมามองหรงจือจือด้วยสายตาเสมือนดูดเลือดหรงจือจือคิดไว้อยู่แล้วว่านางถานจะมาไม้นี้ นางยิ้มและกว่าวว่า “ท่านแม่ ข้าพอจะมีสมบัติอยู่ก็จริง แต่ต้องเก็บไว้ให้พวกลูกๆ”“ท่านก็รู้ว่าอวี้อี๋เหนียงกำลังตั้งครรภ์ รอให้เด็กคลอดออกมาแล้ว ข้าซึ่งเป็นแม่จะไม่มอบอะไรให้ลูกคนแรกของซื่อจื่อเลยก็คงจะไม่ใช่”“นอกจากนี้ เมื่อน้องถิงแต่งงานเข้ามาแล้ว หากวันหน้าเพิ่มทายาทให้กับซื่อจื่อ ข้าก็ต้องมอบของขวัญให้มิใช่หรือ?”“น้องถิงดูแล้วเป็นคนมีวาสนา คิดว่าวันหน้าคงไม่ได้มีลูกแค่คนเดียว สุดท้ายสมบัติพวกนั้นก็เป็นของลูกๆ น้องถิงอยู่แล้วมิใช่หรือ น้องถิงว่าใช่หรือไม่?”ถ้อยคำของหรงจือจือทำให้ถานผิงถิงหน้าแดงถานผิงถิงอยากแต่งงานกับฉีจื่อฟู่มาโดยตลอด มองว่าฉีจื่อฟู่หน้าตาโดดเด่น ทั้งยังมีศักดิ์เป็นซื่อจื่อของจวนโหว แม้ว่าบัดนี้จะเป็นได้เพียงอนุแต่ก็ถือว่าได้เติมเต็มความปรารถนาของตัวเองยามที่ถูกทำลายรูปโฉม นางก็คิดว่าชีวิตตัวเองจบสิ้นแล้ว การได้มีทางออกเช่นนี้ก็ถือว่าน่าพึงพอใจมากคำบรรยายถึงภาพฉ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 161

    “ท่านแม่ ท่านอย่าได้พูดถ้อยคำเหมือนอย่างวันนี้อีกเลย มิเช่นนั้นท่านจะดูเป็นคนขี้ระแวงและใจคอคับแคบเกินไป อย่างไรก็เป็นหลานสาวจากฝั่งมารดาของท่านนะเจ้าคะ ขนาดท่านก็ยังไม่ยอมรับอย่างนั้นหรือ?”สีหน้าของนางถานสลับไปมาระหว่างสีเขียวกับสีขาว แม้จะอยู่ในยามหลับฝัน นางก็ไม่มีวันคาดคิดว่าจะมีวันที่หรงจือจือขุดบัญชีเก่ามาชำระกับนาง ความจำของนังแพศยานี่จะดีเกินไปแล้วนางถานสงสัยด้วยซ้ำว่า หรงจือจืออาจจะถึงขั้นจำได้ว่าผู้ใดเคยรังแกตัวเองเมื่อครั้งสามขวบ!นางมองหรงจือจือด้วยความเกรี้ยวกราด “หุบปาก! เจ้าไม่พูดก็ไม่มีผู้ใดหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ! เรื่องวันนี้มีต้นเหตุมาจากเจ้าทั้งหมด หากไม่เจ้าเพราะเจ้ามาเสนอความคิดโง่ๆ ข้ามีหรือจะทะเลาะเบาะแว้งจากคนบ้านแม่แบบนี้?”หรงจือจือ “พูดอันใดของท่านแม่กันเจ้าคะ ไม่ว่าครอบครัวใดๆ ก็เห็นว่าความคิดของข้าดีทั้งนั้น”“มีผู้ใดไม่เห็นแก่ครอบครัวฝ่ายมารดาของตนด้วยหรือ? มีเพียงท่านนั่นแหละที่แค่ได้ยินว่าจะเอาสินเดิมก็โมโหทันที”“ช่างเถอะๆ เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าเพียงแต่สงสารน้องถิงที่ต้องเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้ทั้งที่ยังสาวก็เท่านั้น เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 160

    ทว่านางถานเห็นด้วยเสียที่ไหน? แม้ในสายตาของนางถานเงินในคลังจวนโหว ก็เป็นเงินของนางเช่นกัน แต่อย่างไรเงินสินเดิมก็ไม่เหมือนกันเดิมทีเงินสินเดิมทั้งหมดเป็นของตน ขณะนางคิดทุกบัญชี ก็ไม่เคยคิดจะนำออกมาตอนแรกที่จวนตกที่นั่งลำบากที่สุด ตอนร้านรวงไม่มีกำไร นางก็ใช้ให้คนเบื้องล่างไปบอกให้หรงจือจือชักตั๋วเงินจากสินเดิมที่สกุลหรงให้ไปโปะที่ร้าน นางตัดใจแตะต้องสินเดิมของตัวเองไม่ได้ซิ่นหยางโหวไม่จัดการเรื่องในจวน และไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ฉะนั้นอันที่จริงจนถึงตอนนี้สินเดิมของนางยังไม่ได้ถูกแตะเลยแม้แต่อีแปะเดียว เงินที่ใช้ในวันปกติ สินสอดที่เตรียมให้ฉีจื่อฟู่ ล้วนใช้ของจวนโหวทั้งสิ้นตอนนี้ครั้นเอ่ยปากขึ้นมาก็จะให้นางชักออกมากึ่งหนึ่ง ให้ตายนางก็ไม่ยอมอยู่แล้วนางรีบสวนกลับ “ไม่ได้! ไม่ได้เป็นอันขาด!”หรงจือจือมองนางคล้ายกับอยู่เหนือความคาดหมายทีหนึ่ง “ฮะ? แต่ว่าตอนแรกสินเดิมของท่านแม่ ท่านพ่อของน้องผิงก็เป็นคนเตรียมให้ท่านมิใช่หรือ?”“ตอนนี้ท่านลุงไม่อยู่แล้ว ท่านชักออกมาเป็นสินสอดทองหมั้นให้น้องถิงกึ่งหนึ่งก็ไม่เต็มใจหรือ? น้องถิงเข้ามาเป็นอนุชั้นสูงเชียวนะเจ้าคะ อนุชั้นสูงในราชวงศ์เรา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 159

    ซึ่งก็คือให้ฉีอวี่เยียนเข้าคุกแล้ว ใบหน้าของบุตรสาวก็ไม่มีวันหาย!นางพลันคว้าแขนของหรงจือจือเอาไว้ “ฮูหยินซื่อจื่อ เจ้าอย่าเพิ่งไป อย่างไรเจ้าก็เป็นคนดูแลหุงหาอาหารในจวน เรื่องนี้เจ้าเองก็ควรหารือร่วมกับเราสิถึงจะถูก!”หลังกล่าวกับหรงจือจือจบนางหลิวก็มองนางถานอย่างไม่สบอารมณ์ “หากไม่ใช่เพราะเจ้าเอาแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หาวิธีพูดออกมาไม่ได้ หลานสะใภ้จะมาได้อย่างไร? เจ้าไม่แม้แต่จะฟังด้วยซ้ำ หรือคิดจะให้ผิงถิงของข้ากลืนความเดือดดาลนี้ลงไปโดยไร้สาเหตุเช่นนั้นหรือ?”ครั้นเห็นนางหลิวโวยวายเช่นนี้นางถานเองก็จนใจ ได้แต่มองหรงจือจือแล้วกล่าวว่า “ได้ นางหรง เจ้าว่ามาสิ! หากเจ้าพูดอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลออกมาไม่ได้ วันนี้ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”นางเองก็ปวดหัวแล้วจริง ๆ ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดีในตอนนี้ถานผิงถิงเองก็มองหรงจือจืออย่างระมัดระวังเช่นกัน อันที่จริงนางเองก็ไม่เชื่อว่าหรงจือจือจะมีเจตนาดี และคิดหาวิธีดี ๆ ให้ตนจริง ๆเรื่องอื่นไม่พูดถึง สองสามปีมานี้ตนเคยสะอิดสะเอียนหรงจือจือมาแล้วเท่าไร เคยสร้างปัญหาให้หรงจือจือ ตัวนางย่อมจำได้ขึ้นใจครั้นเห็นสายตาของทุกคนต่างจ้องมองมาที่ต

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 158

    หรงจือจือยังไม่ทันเดินเข้าไปในสวนฉางโซ่ง ก็ได้ยินเสียงร่ำไห้โวยวายของนางหลิวแล้ว และยังมีเสียงร่ำไห้แตกสลายของถานผิงถิงด้วย“น้องถาน ไม่ว่าอย่างไร เจ้าก็ต้องหาคำอธิบายมาให้เราแม่ลูก! พี่ชายของเจ้ามีแค่ผิงถิงเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว เจ้าแข็งใจยอมให้ทั้งชีวิตของผิงถิงพังทลายไปทั้งอย่างนี้จริง ๆ ได้หรือ?”“ท่านอาสะใภ้ ข้าเคารพท่าน เกรงใจท่านมาตลอด หลายปีมานี้เทียวมาที่จวนโหวอยู่บ่อย ๆปรนนิบัติท่านแทบจะเต็มที่กว่าปรนนิบัติท่านแม่ข้าเสียอีก ตอนนี้อวี่เยียนทำร้ายข้าถึงเพียงนี้ ท่านจะไม่ช่วยข้าเลยหรือ?”ครั้นหรงจือจือได้ยินคำพูดของถานผิงถิง มุมปากก็กระตุกการเย้ยหยันออกมาอันที่จริงเป็นเนื่องจากคำพูดนี้ของถานผิงถิง เป็นเรื่องจริง คงเป็นเพราะนางอยากเป็นฮูหยินซื่อจื่อแห่งจวนซิ่นหยางโหวเกินไป และอยากเป็นฮูหยินโหวในอนาคตมากเกินไป这几年一直对นางถาน百般讨好,就是她的亲生母亲刘氏,她都是往后放的。หลายปีมานี้เอาอกเอาใจนางถานสารพัดมาตลอด กระทั่งนางหลิวแม่ผู้ให้กำเนิดของนาง นางยังละทิ้งไว้เบื้องหลังวันนี้มาคิด ๆ ดูแล้ว หลังนางหลิวครองตนเป็นม่าย ก็มีเพียงบุตรสาวผู้เดียว ทว่าในใจของบุตรสาวกลับมีแต่ท่านอาสะใภ้ ในสิบวันปรารถนาเป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 157

    “เกรงว่าจะมีเจตนาพูดให้กลัวจริง ๆ! ไม่แน่ว่าฮูหยินซื่อจื่ออาจเป็นคนเรียกให้หมอเทวดามาขู่ท่านให้กลัวก็ได้ พี่หญิงเองก็เช่นกัน ต่อให้มีอะไรไม่พอใจซื่อจื่อ ก็ไม่ควรทำเช่นนี้!”“เฮ้อ ข้าก็ช่างเลอะเลือนเสียจริง เหตุใดจึงเรียกฮูหยินซื่อจื่อว่าพี่หญิงอีกแล้ว เกรงว่านางได้ยินคงจะโกรธอีก...”ฉีจื่อฟู่กล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าเรียกนางว่าพี่หญิงเป็นการให้เกียรตินาง! เจ้าวางใจ ต่อไปข้าจะคอยปกป้องเจ้าเอง จะไม่ยอมให้นางรังแกเจ้าอีก!”“นางเองก็เลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ ถึงขั้นเรียกหมอเทวดามาทำให้ข้ากลัว เพราะเรื่องหลังบ้านแค่นี้ หากทำข้ากลัวจนไม่กล้าไปที่ว่าการ เตะถ่วงอนาคตของข้า หรือว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับนางอย่างนั้นหรือ?”อวี้ม่านหวา “ซื่อจื่อใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ้าคะ คิดว่าพี่หญิงคงโกรธจนขึ้นสมอง ไม่ได้ตั้งใจ...”ฉีจื่อฟู่ถูกนางโน้มน้าวอยู่ครู่หนึ่ง เขาจุมพิตบนหน้าผากของนาง “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีของข้าจริง ๆ!”หรงจือจือเทียบไม่ติดเลยชิวยี่ “...”พวกเขาพูดคุยกันถึงแค่ตรงนี้ ชิวยี่เป็นเพียงบ่าวรับใช้ ย่อมไม่กล้าเอ่ยอะไรทั้งสิ้น เขากลัวว่าซื่อจื่อกับอนุอวี้จะสงสัยว่าตนถูกฮูหยินซื่อจื่อซื้อตัวไปจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 156

    ส่วนทางด้านนั้น ฉีจื่อฟู่กลับมายังห้องของตนทั้งหน้าคล้ำดำหมองอวี้ม่านหวารีบเดินเข้ามา แล้วถามขึ้นว่า “ท่านพี่ฟู่ ท่านกับฮูหยินซื่อจื่อไม่ได้กระทบกระทั่งกันใช่หรือไม่?”ครั้นฉีจื่อฟู่ได้ยินดังนั้น ก็มองนางด้วยอารมณ์สับสน “เจ้าสนใจแค่เราทะเลาะกันหรือไม่ แต่ไม่สนใจว่าข้าระบายความโกรธแทนเจ้าหรือไม่สักนิดเลยหรือ?”อวี้ม่านหวาปาดหยาดน้ำตาพร้อมตอบ “ท่านพี่ฟู่ ขอแค่ท่านสบายใจ ดีกับฮูหยินซื่อจื่อ ข้าต้องน้อยเนื้อต่ำใจนิดหน่อยจะเป็นไรไป”“สองสามวันมานี้ข้าเห็นท่านโมโห ก็เอาแต่นึกเสียใจว่าวันนั้นไม่ควรกลับมา ไม่ควรพูดเรื่องที่ถูกฮูหยินซื่อจื่อทรมานกับท่าน”“เพียงแต่ตอนนั้นในใจข้าน้อยเนื้อต่ำใจเกินไป ในเวลาเพียงชั่วครู่จึงไม่ได้คิดให้เยอะ ๆ เมื่อเห็นท่านพี่ฟู่ ก็คล้ายกับเห็นเสาหลัก ในตอนนี้ถึงได้อดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว จะว่าไปแล้ว ตอนนั้นข้าเองก็เลอะเลือน...”ขณะพูด ใบหน้าของนางก็เปี่ยมไปด้วยการตำหนิตนเอง ครั้นฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น ก็ซาบซึ้งจนโอบนางมาสวมกอดในอ้อมอก พร้อมเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า! ทั้งใจของเจ้ามีแต่ข้า ถูกรังแกจึงบอกข้า นี่มีความผิดอะไรกัน?”“ย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status