รถม้าคันนี้เป็นคันที่ท่านย่าทุ่มเงินก้อนใหญ่เพื่อสร้างให้นาง โดยธรรมชาติแล้วย่อมไม่เกิดปัญหาโดยไม่มีสาเหตุเสียงของคนขับดังมาจากด้านนอก “ท่านหญิง ล้อรถหักขอรับ”หรงจือจือกับเจาซีลงจากรถม้าด้วยกันคนขับรถม้าเช็ดเหงื่อที่หน้าผากและพูดอย่างตื่นตระหนก “ท่านหญิง เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้ม้าตกใจเตลิด มิเช่นนั้นแล้วล่ะก็ ผลลัพธ์คงเลวร้ายจนไม่อาจคาดคิด”หรงจือจือได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็เข้าใจว่ามีคนทำอะไรบางอย่างกับรถม้า หมายจะเอาชีวิตของนาง!แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสืบคดีกลางถนน นางลงไปตรวจดู เคราะห์ดีที่ชำรุดแค่ล้อรถ สามารถซ่อมด้วยการเปลี่ยนล้อใหม่นางระงับความโกรธบางส่วนไว้ในใจ นี่เป็นของที่ท่านย่าทิ้งไว้ให้นาง หากซ่อมไม่ได้ นางจะไม่ยอมรามือแค่นี้แน่!คนขับรถม้า “คุณหนู จะทำอย่างไรดีขอรับ? ที่นี่อยู่ห่างจากจวนของเราค่อนข้างไกล อีกทั้งอากาศก็หนาว…”หิมะทำท่าจะตกอีกแล้ว“ท่านไปนั่งพักที่โรงน้ำชาด้านข้างก่อนดีหรือไม่? บ่าวจะไปซื้อล้อรถมาเปลี่ยนก่อน”จังหวะที่หรงจือจือกำลังจะตอบกลับในขณะนั้นเองที่มีรถม้าคันหนึ่งเคลื่อนผ่านเข้ามา ครั้นเห็นว่าถนนถูกขวางกั้น บ่าวรับใช้จากทางนั้นก็เข้าม
ท่านย่าบอกเพียงให้เขารอไปก่อน ไม่ต้องรีบร้อนหรือว่า…นางจะปฏิเสธตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว?เขาไม่อาจซ่อนความผิดหวังในใจได้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไปก็มีสาวใช้นางหนึ่งเดินเข้ามาหาหรงจือจือจากไม่ไกลสาวใช้นางนี้ยิ้มว่า “รถม้าของท่านหญิงหนานหยางมีปัญหาหรือเจ้าคะ? ท่านหญิงจิงหวาของพวกข้าเดินทางผ่านมาพอดีและต้องการพาท่านไปส่ง ไม่ทราบว่าท่านหญิงจะกรุณาให้เกียรติหรือไม่?”หรงจือจือถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดท่านหญิงจึงช่วยเหลือตน แต่มันก็ช่วยคลี่คลายปัญหาตอนนี้ได้พอดีรีบตอบกลับไปว่า “รบกวนท่านหญิงแล้ว”จากนั้น หรงจือจือหันไปมองจีอู๋เหิงและพูดอย่างสุภาพ “ขอบคุณสำหรับความหวังดีจากคุณชายใหญ่จีในวันนี้ ได้ยินว่าช่วงนี้คุณชายพูดช่วยเหลือข้าไม่น้อยเลย หรงจือจือรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ท่านหญิงกำลังรออยู่ ขอตัวก่อน”จีอู๋เหิงประสานมือว่า “เชิญท่านหญิงก่อนเลย”สีหน้าเขาซีดขาวเล็กน้อย แววตาเจือด้วยความเศร้าโศกที่ไม่อาจปกปิดได้มิด ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคนฉลาด ในเมื่อหรงจือจือไม่ยอมรับน้ำใจจากเขา นั่นก็หมายความว่านางไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาหรงจือจือขึ้นไปบนรถม้าของท่
หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “ก็แค่ของนอกกาย การได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่างหากที่สำคัญที่สุด”ตอนแรกจงเจิ้งอวี้รู้สึกดูแคลนในท่าทีอมทุกข์ของหรงจือจือ แต่เมื่อฟังถึงตรงนี้จึงค่อยเข้าใจว่าความยากลำบากของหรงจือจือนั้นน่าจะเกินกว่าที่นางจินตนาการไว้หากไม่หมดหนทางจริงๆ หญิงสาวคนใดจะคิดทำลายรูปโฉมของตัวเองกัน?ภายในใจอดรู้สึกเห็นใจขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม อย่าได้สิ้นหวังและอย่าทำอะไรสุดโต่ง”หรงจือจือ “แน่นอนเจ้าค่ะ”มีหญิงสาวคนใดไม่ชอบความสวยความงามบ้างกัน? หากไม่จำเป็นจริงๆ นางเองก็ไม่อยากทำแบบนั้นจงเจิ้งอวี๋มองนางด้วยความตื่นตกใจครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย!”หรงจือจือประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยฐานะของจงเจิ้งอวี๋แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ต้องให้นางช่วยกัน?นางพินิจพิเคราะห์แล้วตอบ “เชิญท่านหญิงพูดเจ้าค่ะ”จงเจิ้งอวี๋ “ช่วงนี้ข้าถูกใจบุรุษผู้หนึ่ง อยากให้เจ้าช่วยเป็นแม่สื่อ วางใจได้ หากงานนี้สำเร็จ ข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน”ใบหน้าของหรงจือจือกระตุก รู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูไร้ที่มาแปลกๆจวนอ๋องจวินต้องการหาคู่ให้จงเจิ้งอวี๋ เหตุใดต้องให้นางช่วยเหลือด้วย? อีกอย่
วันนี้รถม้าของหรงจือจือพังเสียหาย หากไม่ใช่ฝีมือของนางหวางก็คงเป็นฝีมือของหรงเจียวเจียว นางไม่สบอารมณ์มากยิ่งมาได้ยินถ้อยคำไร้สาระของหรงจือจือก็ยิ่งหมดความอดทนนางหันไปคว้าข้อมือของหรงเจียวเจียวหรงเจียวเจียวตกใจ “ท่านจะทำอะไร?”หรงจือจือจ้องนาง “มาสิ! พวกเราไปที่จวนของท่านราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปถามเขาว่าช่วยเหลือข้าทุกครั้งเพราะเจ้าจริงหรือไม่”“หากเป็นเพราะเจ้าจริง เช่นนั้นต่อไปก็ขอให้เขาอยู่ห่างข้าให้ไกลหน่อย ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา!”นี่เป็นความในใจของหรงจือจือเช่นกัน หากเฉินเยี่ยนซูช่วยนางเพราะหรงเจียวเจียวจริงๆ เช่นนั้นนางก็ไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากเขามีหลายเรื่องที่นางสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง เหตุใดต้องยอมให้หรงเจียวเจียวมาพูดให้รู้สึกสะอิดสะเอียนอยู่เรื่อยด้วย?หรงจือจือเห็นถึงความบ้าคลั่งในดวงตาหรงจือจือก็รู้สึกว่าความอดทนที่อีกฝ่ายมีต่อตัวเองมาถึงขีดจำกัดแล้วนางรีบชักข้อมือตัวเองออก “หรงจือจือ ท่านบ้าไปแล้วหรือ? มีคนที่ใดไปถามเรื่องแบบนี้กัน?”หรงจือจือยิ้มเยาะ “ทำไม เจ้าไม่กล้ารึ?”หรงเจียวเจียว “ข้าเป็นห่วงชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลต่างหาก…”หรงจือจือ
“แต่หากนางกลายเป็นฮูหยินราชเลขาธิการก็จะต่างออกไป”จากนั้น นางก็เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาดุจหยกขาวของเฉินเยี่ยนซูผู้สงบนิ่งแม้ภูเขาไท่ซานจะพังถล่มต่อหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำหลังจากได้ยินในสิ่งที่นางพูดเฉินเยี่ยนซู “ตะ แต่งงานกับนางหรือ?”เซิ่งเฟิงหันหน้าไปทางอื่นด้วยความรังเกียจ ผู้ใดจะไปเชื่อกัน! ว่าท่านราชเลขาธิการผู้เก่งกาจด้านการวางกลยุทธ์จะติดอ่างเมื่อพูดถึงการแต่งงานกับนางในใจจงเจิ้งอวี๋เห็นสีหน้าของเฉินเยี่ยนซูแล้วยังจะมีสิ่งใดที่ไม่เข้าใจอีกกัน?นางรู้สึกประหลาดใจมาก ที่แท้แล้ว ราชเลขาธิการเฉินผู้ซึ่งถูกชาวโลกมองว่าไร้หัวใจก็มีนางในใจมาตั้งนานแล้วนางพูดว่า “ใช่เจ้าค่ะ ท่านราชเลขาธิการลองตรองดูเถิดว่าวิธีที่ข้าพูดเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริงหรือไม่?”“ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะถูกกำหนดโดยพ่อแม่ แต่สถานการณ์ตอนนี้ของท่านหญิงค่อนข้างพิเศษ”“นางเป็นคนฉลาด ข้ามองว่าหากท่านตระเตรียมคำพูดไปคุยกับนางด้วยตัวเอง นางอาจจะตอบตกลงก็เป็นได้”“เวลานี้ก็เย็นมากแล้ว ชิงหวาขอตัวกลับก่อน”ไม่ว่าผู้ใดก็รักสวยรักงามทั้งนั้น นางยอมให้ใบหน้าดวงงามของหรงจือจือถูกทำลายไม่ได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงมาพูดเรื่องนี
หลังจากที่หรงจือจือกลับถึงจวนก็ไม่ได้รีบกลับไปที่เรือนของตัวเองแต่อย่างใด แต่ไปที่ห้องหนังสือของมหาราชครูหรงมหาราชครูหรงเห็นนางเข้ามาก็เลิกคิ้วถาม “เรื่องที่คุกชั้นใน จัดการราบรื่นดีหรือไม่?”หรงจือจือ “ทุกอย่างราบรื่นดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือไม่ได้ตอบอะไรมาก ส่วนมหาราชครูหรงก็ไม่ได้ถามอะไรมากเช่นกัน เรื่องที่ศาลหลงสิงมีเฉินเยี่ยนซูคอยดูอยู่ ไม่ต้องให้เขายื่นมือเข้าไปยุ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ยิ่งไม่มีเหตุผลให้เข้าไปยุ่งด้วยเหตุนี้จึงพูดเพียงว่า “เช่นนั้นเจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”หรงจือจือพูดเสียงเบา “วันนี้รถม้าของลูกล้อหัก ท่านพ่อน่าจะทราบดีว่านั่นเป็นรถม้าที่ท่านย่าสั่งทำให้ข้า”บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งต่างๆ ให้ชัดเจนมากเกินไป มหาราชครูหรงฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจแล้วเขาขมวดคิ้วถาม “เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือผู้ใด?”หรงจือจือ “ลูกไม่ทราบเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงเปลี่ยนคำถาม “เช่นนั้นเจ้าอยากให้จัดการเรื่องนี้อย่างไร?”หรงจือจือพูดด้วยความเคารพ “ลูกหวังเพียงว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก”นางรู้จักบิดาของตัวเองดีเพียงใดอย่างไรนั้นหรือ? ครั้งนี้นางไม่ได้เป็นอ
พูดเพียงว่า “ประเดี๋ยวเจ้าส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับไปให้จือจือสักหน่อย ถือว่าปลอบขวัญนาง”ภายในใจนางหวางไม่ยินดีแม้แต่น้อย กระนั้นกลับพูดได้เพียงว่า “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ”หลังจากที่นางหวางออกจากห้องหนังสือ สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ครั้นได้พบกับหรงเจียวเจียวก็พูดว่า “เจ้าได้สั่งให้คนไปทำอะไรกับล้อรถของพี่หญิงเจ้าหรือไม่?”หรงเจียวเจียวหลบสายตา “เรื่องนี้ ท่านแม่…”เห็นนางมีอาการเช่นนี้ ยังจะมีสิ่งใดที่นางหวางไม่เข้าใจอีกกัน?นางขมวดคิ้วว่า “เมื่อครู่นี้ท่านพ่อของเจ้าเรียกข้าไปดุด่าก็เพราะเรื่องนี้! ต่อไปอย่าได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้อีก หากนางตกรถม้าตายอยู่ด้านนอกจริงๆ พวกเราทุกคนจะอับอายขายหน้ากันหมด”หรงเจียวเจียวมุ่ยปากพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นจะปล่อยให้นางมีชีวิตราบรื่นต่อหน้าพวกเราเช่นนี้ตลอดไปหรือ?”นางหวาง “มีวิธีที่ใช้จัดการนางอยู่เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องทำให้ท่านพ่อของเจ้าโมโห”หรงเจียวเจียวบ่นเสียงเบา “ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดยังให้ความสำคัญต่อท่านพ่อเป็นอันดับแรกในทุกๆ เรื่องอยู่อีก”นางหวางมองนางตาขวาง หรงเจีย
หรงจือจือเย้ยหยันเบา ๆ เสียงหนึ่ง “ที่ข้าหยดบนปะการัง เป็นยาบำรุงอย่างดี ยาบำรุงขนานนี้ไม่มีรสชาติ สีแดง หยดบนปะการังเลือดสองหยด หมอประจำจวนย่อมมองไม่ออกอยู่แล้ว”“ปกติหรงเจียวเจียวจะใช้รังนกร่วมกับยานี้ ย่อมรู้สึกไม่สบายตัวเป็นธรรมดา”ร่างกายอ่อนแอก็จะไม่สบาย บำรุงมากเกินไปก็จะไม่สบายเช่นกันปกติบ่าวรับใช้ในเรือนของหรงเจียวเจียวไม่กินรังนก ย่อมไม่ได้เจ็บป่วยตามไปด้วย“ใช่ว่าหมอประจำจวนไม่เคยเอะใจว่าหรงเจียวเจียวบำรุงเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่เคยตรวจดูของที่นางกินแล้ว ข้อสงสัยนี้ย่อมถูกตัดไปเช่นกัน”เจาซีตกตะลึง “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่บ่าวรู้ว่า ยาบำรุงชั้นดีก็สามารถทำร้ายคนได้ สมแล้วที่เป็นฝีมือของหมอเทวดาผู้เฒ่า บ่าวจะเช็ดปะการังให้สะอาดและเก็บอย่างดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือพยักหน้า “ไปเถอะ”ไม่นาน สาวใช้จ้าวก็นำคนมาส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ กล่าวพร้อมเสแสร้งยิ้ม “ท่านหญิง นี่เป็นสิ่งที่ฮูหยินมอบให้ท่านเพิ่มเติม ท่านดูและเลือกเอาเถอะเจ้าค่ะ”หรงจือจือกวาดสายตามองทีหนึ่ง นางหวังรู้จักทำให้คนคลื่นไส้เสียจริงเสื้อผ้าพวกนี้สวยงามฉูดฉาดทุกตัว ล้วนเป็นแบบที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ เ
มหาราชครูหรงเองก็รู้สึกปวดหัว “นางเป็นผู้หญิงยิงเรือ ไปหนานหยางเพียงลำพัง ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา จะดีได้อย่างไร?”ที่เขาไม่อยากทำไม่ดีกับหรงจือจือจนเกินไป ประการแรกเป็นเพราะคำสั่งเสียก่อนตายของมารดา ประการที่สอง จือจือเป็นคนล้างแค้นให้มารดา จุดนี้ทำได้ดีกว่าผู้เป็นพ่ออย่างเขามากให้เขาไร้น้ำใจไร้คุณธรรม ได้ประโยชน์แล้วถีบหัวส่งเช่นนี้ เขาทำไม่ลงจริง ๆเห็นมหาราชครูหรงลังเล นางหวังก็รู้ว่าเขาตัดใจทำไม่ลง จึงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา “ไม่เช่นนั้นก็ให้นางหมั้นหมายเถิดเจ้าค่ะ!”มหาราชครูหรงอึ้งไป พร้อมมองนางหวังด้วยความประหลาดใจนางหวังพูดต่อว่า “แม้ตอนนี้ชื่อเสียงของนางจะไม่ดี ทว่าทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องมีผู้ชายที่อยากพึ่งบารมีท่านพี่ยอมแต่งงานกับนางแน่ ขอเพียงหมั้นหมายให้นาง และให้นางแต่งออกไปแล้ว ปัญหาก็จะถูกจัดการแล้วมิใช่หรือ?”“เมื่อคนข้างนอกเห็นว่านางแต่งออกไปแล้ว ก็จะได้รู้ว่าคุณหนูสกุลหรงยังมีคนต้องการอยู่ ผลกระทบที่มีต่อเด็กคนอื่น ๆ ในสกุลก็จะน้อยลงไปได้หน่อย”“อีกอย่าง หรือว่านางจะอยู่ที่จวนไปตลอดชีวิตหรืออย่างไร? ช้าเร็วก็ต้องจัดการเรื่องแต่งงานให้อยู
เจาซีเดือดดาลอย่างยิ่ง “ทำร้ายนางก็ทำร้ายนางสิ! เดิมทีนางก็เป็นองค์หญิงของแคว้นล่มสลายแคว้นหนึ่ง ต้าฉีเราไม่ฆ่านาง ก็นับว่าเมตตาแล้ว”“นางยังคิดจะโค่นล้มต้าฉีอีก ให้มีสิบหัวก็ไม่พอตัด”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้นางแท้งแล้วอย่างไร? หรือว่าข้างนอกยังมีพวกตาบอด ยืนอยู่ข้างนางอีกหรืออย่างไร?”อวี้หมัวมัว “ความคิดของพวกเขา ไม่ได้เป็นเช่นนี้หรอก...”เจาซี “เช่นนั้นเป็นอย่างไรเล่า?”นางเองก็คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า อวี้ม่านหวานั่นจะแท้งเองในคุก และไม่คิดว่าจะโบ้ยความผิดมาที่คุณหนูของพวกเขาได้ คุณหนูของพวกเขาช่างซวยจริง ๆ!หรงจือจือเอ่ยขึ้นชืด ๆ “พวกเขาจะคิดว่า ข้ากับฉีจื่อฟู่ก็หย่ากันไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมอภัยกระทั่งเด็กในท้องอนุ เช่นนี้ คำว่าอิจฉาจนเป็นนิสัย ก็จะถูกสลักแน่นอยู่บนตัวข้า”เจาซีแทบจะกัดฟันจนแตก “คุณหนู เกรงว่าชาติก่อนคุณหนูจะไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษของอวี้ม่านหวามา ทำให้บรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของนางต้องผึ่งลมจนกลายเป็นศพแห้ง ชาตินี้นางถึงได้กัดคุณหนูไม่ปล่อยอย่างกับหมาบ้า”หรงจือจือกลับไม่ได้เคร่งเครียดอะไรขนาดนั้น “ตอนนี้อวี้ม่านหวาอยู่ในคุก มีประตูคุกกั้นเราเอาไว้ ข้าจะลงมือกับนางไม่ไ
หลังจากเขาออกไปเจาซี “คุณหนูเจ้าคะ ก่อนหน้านี้คุณหนูให้บ่าว หาขวดลายครามที่เหมือนกับขวดที่หมอเทวดาใส่ยาให้คุณหนูเป๊ะ ๆ มาสองขวด แล้วใส่ยารักษาอาการบาดเจ็บทั่วไปเข้าไป คิดว่าคงคาดการณ์ถึงวันนี้แล้ว”หรงจือจือยกจอกชาขึ้นมา แล้วตอบกลับชืด ๆ “บนตัวพวกเขายังมีบาดแผลอยู่ และข้าก็มียาดี หากข้าไม่ให้กระทั่งยา ท่านพ่อรู้เข้าคงไม่พอใจแน่”“จะคิดว่าคนเป็นพี่สาวคนโตเช่นข้า ปฏิบัติกับน้องชายน้องสาวไม่ดี เช่นนี้ สถานการณ์ที่จวนของข้ามีแต่จะยิ่งยากขึ้น”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สู้หลอกพวกเขาสักนิดสักหน่อยทำเช่นนี้ ดูผิวเผินทุกคนก็พอจะยอมรับได้...ไหนเลยหรงซื่อเจ๋อจะรู้ว่า ที่ตนถืออยู่ในมือ ไม่ใช่ยาดีอะไรเขาออกมาจากเรือนอี่เหมย สีหน้าบูดบึ้งจนแทบจะบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เขาส่งขวดลายครามให้อวี้เล่อขวดหนึ่ง “เดี๋ยวเจ้าเอาไปให้เจียวเจียวที”อวี้เล่อ “คุณชายรอง คุณชายไม่เอาไปให้ด้วยตัวเองหรือเจ้าคะ?”หรงซื่อเจ๋อ “ไม่ไป”เขาจะไปได้อย่างไร? เขาพูดกับเจียวเจียวอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะเอายามาจากหรงจือจือให้หมด แถมยังบอกว่าจะให้ชุดกระโปรงที่หรงเจียวเจียวอยากได้อีกด้วย ทว่าตอนนี้ล่ะ?เขาจะเสียหน้
หรงจือจือเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตาไม่ต่างจากมองคนโง่คนหนึ่ง กระทั่งแฝงการเย้ยหยันเอาไว้สองสามส่วนหรงซื่อเจ๋อหน้าคล้ำดำเขียวไปหมด “ท่านมองด้วยสายตาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”หรงจือจือ “ความหมายง่ายมาก ท่านพ่อเป็นคนให้ยา ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าและหรงเจียวเจียวเลย ต่อไปไม่ต้องเอาแต่เฝ้าคิดถึงแล้ว”หรงซื่อเจ๋อกล่าวขึ้นอย่างยากจะเชื่อ “ท่านไม่ให้?”หรงจือจือตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เจาซี!”เจาซีนำยาสองขวดที่คุณหนูใช้ให้ตน เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้มาวางบนโต๊ะหรงจือจือกล่าวขึ้นชืด ๆ อีกว่า “ยาสองขวดนี้ได้ผลดีกับแผลภายนอกเป็นอย่างมาก ในเมื่อที่ตัวเจ้ากับเจียวเจียวมีแผล ให้พวกเจ้าคนละขวด ก็ไม่เป็นไร ส่วนมากกว่านี้ ไม่ต้องพูดถึงแล้ว”หรงซื่อเจ๋อจ้องยาสองขวดนั้น พลางถามหรงจือจือ “แบ่งให้ข้าแค่สองขวด ท่านจะไล่ขอทานหรือ?”หรงจือจือแอบแสยะยิ้มอยู่ในใจ นี่เรียกว่าไล่ขอทานแล้วหรือ?หลายปีมานี้ หรงซื่อเจ๋อและหรงเจียวเจียว เคยให้ของอะไรตนบ้าง? ตนอยู่ที่จวนพวกเขา ยังสู้ขอทานไม่ได้เลยนางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงชืด ๆ “เจ้าจะไม่เอาก็ได้ ข้าย่อมไม่บังคับให้เจ้ารับไปอยู่แล้ว หากไม่ม
แต่ไม่คิดเลยว่า หรงจือจือกลับคลี่ยิ้ม “ข้ากับฮูหยินหรง ก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเท่านั้น มีอะไรให้ตัดใจไม่ได้กัน?”“เครื่องทองเยอะขนาดนี้ คิดแล้วหากนำมาหลอมรวมกัน คงได้สักสองชั่งเป็นแน่”“หลังจ้าวหมัวมัวกลับไป ก็ฝากขอบคุณฮูหยินหรงแทนข้าด้วยนะ”เจาซีรีบก้าวเข้าไป แล้วนำเครื่องทองทั้งหมดมาเก็บขาของสาวใช้จ้าวกลับอ่อนลง “คุณหนู ทองพวกนี้เป็นทองที่ช่างมีชื่อเสียงทำขึ้นมาทั้งนั้น หากนำไปหลอมหมด จะน่าเสียดายแค่ไหน คุณหนู...”หรงจือจือฉีกยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ย “เสียดายหรือไม่เสียดาย ก็ไม่จำเป็นต้องให้จ้าวหมัวมัวเป็นห่วง จ้าวหมัวมัว ขอให้ตัวเองมีความสุขมาก ๆ เถิด”“จริงสิ แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็รู้สึกถูกชะตากับเจ้า ยินดีช่วยเจ้าเป็นอย่างมาก จ้าวหมัวมัวจดจำคำนี้เอาไว้ให้ดีล่ะ”สาวใช้จ้าวได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงวิงเวียนศีรษะตาลายไประลอกหนึ่ง! ช่วยตนอะไรกัน นางไม่ทำร้ายตนก็ไม่เลวแล้ว! เดี๋ยวกลับไปอยู่ต่อหน้าฮูหยิน ตนจะอธิบายอย่างไร ตนเป็นคนออกความคิดนี้เองด้วย!เดิมทีช่วงนี้ฮูหยินก็สงสัยตนอยู่แล้ว คราวนี้เยี่ยมไปเลย?หรงจือจือ “ส่งแขก”จ้าวหมัวมัวทำสีหน้าอมทุกข์ พร้
หรงจือจือเย้ยหยันเบา ๆ เสียงหนึ่ง “ที่ข้าหยดบนปะการัง เป็นยาบำรุงอย่างดี ยาบำรุงขนานนี้ไม่มีรสชาติ สีแดง หยดบนปะการังเลือดสองหยด หมอประจำจวนย่อมมองไม่ออกอยู่แล้ว”“ปกติหรงเจียวเจียวจะใช้รังนกร่วมกับยานี้ ย่อมรู้สึกไม่สบายตัวเป็นธรรมดา”ร่างกายอ่อนแอก็จะไม่สบาย บำรุงมากเกินไปก็จะไม่สบายเช่นกันปกติบ่าวรับใช้ในเรือนของหรงเจียวเจียวไม่กินรังนก ย่อมไม่ได้เจ็บป่วยตามไปด้วย“ใช่ว่าหมอประจำจวนไม่เคยเอะใจว่าหรงเจียวเจียวบำรุงเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่เคยตรวจดูของที่นางกินแล้ว ข้อสงสัยนี้ย่อมถูกตัดไปเช่นกัน”เจาซีตกตะลึง “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่บ่าวรู้ว่า ยาบำรุงชั้นดีก็สามารถทำร้ายคนได้ สมแล้วที่เป็นฝีมือของหมอเทวดาผู้เฒ่า บ่าวจะเช็ดปะการังให้สะอาดและเก็บอย่างดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือพยักหน้า “ไปเถอะ”ไม่นาน สาวใช้จ้าวก็นำคนมาส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ กล่าวพร้อมเสแสร้งยิ้ม “ท่านหญิง นี่เป็นสิ่งที่ฮูหยินมอบให้ท่านเพิ่มเติม ท่านดูและเลือกเอาเถอะเจ้าค่ะ”หรงจือจือกวาดสายตามองทีหนึ่ง นางหวังรู้จักทำให้คนคลื่นไส้เสียจริงเสื้อผ้าพวกนี้สวยงามฉูดฉาดทุกตัว ล้วนเป็นแบบที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ เ
พูดเพียงว่า “ประเดี๋ยวเจ้าส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับไปให้จือจือสักหน่อย ถือว่าปลอบขวัญนาง”ภายในใจนางหวางไม่ยินดีแม้แต่น้อย กระนั้นกลับพูดได้เพียงว่า “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ”หลังจากที่นางหวางออกจากห้องหนังสือ สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ครั้นได้พบกับหรงเจียวเจียวก็พูดว่า “เจ้าได้สั่งให้คนไปทำอะไรกับล้อรถของพี่หญิงเจ้าหรือไม่?”หรงเจียวเจียวหลบสายตา “เรื่องนี้ ท่านแม่…”เห็นนางมีอาการเช่นนี้ ยังจะมีสิ่งใดที่นางหวางไม่เข้าใจอีกกัน?นางขมวดคิ้วว่า “เมื่อครู่นี้ท่านพ่อของเจ้าเรียกข้าไปดุด่าก็เพราะเรื่องนี้! ต่อไปอย่าได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้อีก หากนางตกรถม้าตายอยู่ด้านนอกจริงๆ พวกเราทุกคนจะอับอายขายหน้ากันหมด”หรงเจียวเจียวมุ่ยปากพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นจะปล่อยให้นางมีชีวิตราบรื่นต่อหน้าพวกเราเช่นนี้ตลอดไปหรือ?”นางหวาง “มีวิธีที่ใช้จัดการนางอยู่เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องทำให้ท่านพ่อของเจ้าโมโห”หรงเจียวเจียวบ่นเสียงเบา “ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดยังให้ความสำคัญต่อท่านพ่อเป็นอันดับแรกในทุกๆ เรื่องอยู่อีก”นางหวางมองนางตาขวาง หรงเจีย
หลังจากที่หรงจือจือกลับถึงจวนก็ไม่ได้รีบกลับไปที่เรือนของตัวเองแต่อย่างใด แต่ไปที่ห้องหนังสือของมหาราชครูหรงมหาราชครูหรงเห็นนางเข้ามาก็เลิกคิ้วถาม “เรื่องที่คุกชั้นใน จัดการราบรื่นดีหรือไม่?”หรงจือจือ “ทุกอย่างราบรื่นดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือไม่ได้ตอบอะไรมาก ส่วนมหาราชครูหรงก็ไม่ได้ถามอะไรมากเช่นกัน เรื่องที่ศาลหลงสิงมีเฉินเยี่ยนซูคอยดูอยู่ ไม่ต้องให้เขายื่นมือเข้าไปยุ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ยิ่งไม่มีเหตุผลให้เข้าไปยุ่งด้วยเหตุนี้จึงพูดเพียงว่า “เช่นนั้นเจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”หรงจือจือพูดเสียงเบา “วันนี้รถม้าของลูกล้อหัก ท่านพ่อน่าจะทราบดีว่านั่นเป็นรถม้าที่ท่านย่าสั่งทำให้ข้า”บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งต่างๆ ให้ชัดเจนมากเกินไป มหาราชครูหรงฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจแล้วเขาขมวดคิ้วถาม “เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือผู้ใด?”หรงจือจือ “ลูกไม่ทราบเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงเปลี่ยนคำถาม “เช่นนั้นเจ้าอยากให้จัดการเรื่องนี้อย่างไร?”หรงจือจือพูดด้วยความเคารพ “ลูกหวังเพียงว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก”นางรู้จักบิดาของตัวเองดีเพียงใดอย่างไรนั้นหรือ? ครั้งนี้นางไม่ได้เป็นอ
“แต่หากนางกลายเป็นฮูหยินราชเลขาธิการก็จะต่างออกไป”จากนั้น นางก็เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาดุจหยกขาวของเฉินเยี่ยนซูผู้สงบนิ่งแม้ภูเขาไท่ซานจะพังถล่มต่อหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำหลังจากได้ยินในสิ่งที่นางพูดเฉินเยี่ยนซู “ตะ แต่งงานกับนางหรือ?”เซิ่งเฟิงหันหน้าไปทางอื่นด้วยความรังเกียจ ผู้ใดจะไปเชื่อกัน! ว่าท่านราชเลขาธิการผู้เก่งกาจด้านการวางกลยุทธ์จะติดอ่างเมื่อพูดถึงการแต่งงานกับนางในใจจงเจิ้งอวี๋เห็นสีหน้าของเฉินเยี่ยนซูแล้วยังจะมีสิ่งใดที่ไม่เข้าใจอีกกัน?นางรู้สึกประหลาดใจมาก ที่แท้แล้ว ราชเลขาธิการเฉินผู้ซึ่งถูกชาวโลกมองว่าไร้หัวใจก็มีนางในใจมาตั้งนานแล้วนางพูดว่า “ใช่เจ้าค่ะ ท่านราชเลขาธิการลองตรองดูเถิดว่าวิธีที่ข้าพูดเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริงหรือไม่?”“ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะถูกกำหนดโดยพ่อแม่ แต่สถานการณ์ตอนนี้ของท่านหญิงค่อนข้างพิเศษ”“นางเป็นคนฉลาด ข้ามองว่าหากท่านตระเตรียมคำพูดไปคุยกับนางด้วยตัวเอง นางอาจจะตอบตกลงก็เป็นได้”“เวลานี้ก็เย็นมากแล้ว ชิงหวาขอตัวกลับก่อน”ไม่ว่าผู้ใดก็รักสวยรักงามทั้งนั้น นางยอมให้ใบหน้าดวงงามของหรงจือจือถูกทำลายไม่ได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงมาพูดเรื่องนี