ฉันนอนตื่นสายกว่าปกติเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก่อนปาไปค่อนคืน ลืมตาตื่นตอนเช้าก็ไม่เจอเขาแล้ว หากเขายังนอนอยู่ตรงนี้ฉันก็คงไม่รู้จะทำหน้ายังไงเหมือนกัน เมื่อคืนไม่รู้ว่าฉันผล็อยหลับไปตอนไหน พอนึกไปถึงเมื่อคืนที่ฉันร้องไห้ต่อหน้าเขาอย่างหน้าไม่อายก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าคำขอโทษของเขาจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยการที่เขาเอ่ยคำขอโทษออกมาโดยที่ฉันไม่ได้เอ่ยปากร้องขอ ก็แสดงว่าเขาอาจจะเอ่ยออกมาจากใจ การเป็นพ่อแม่คนไม่ใช่ว่าทำลูกเกิดมาก็เป็นพ่อแม่ได้เลย
แต่การจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองที่ตัดสินใจแทนเด็กที่อายุไม่บรรลุนิติภาวะเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบที่ดีให้เขาได้เจริญรอยตามนั่นล่ะถึงจะเรียกว่าพ่อแม่แม้จะตื่นแล้วแต่ก็ยังไม่ลุกจากเตียงก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาฉันแกล้งหลับตานอนแน่นิ่งคล้ายว่ายังไม่ตื่น
“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว” ฉันที่แสร้งคลุมโปงก่อนหน้าเลิกผ้าห่มออกมาจ้องเขาที่ปลายเตียง
“เลยเวลาอาหารเช้าแล้วนะคุณเจ้าตัวเล็กคงหิวแล้วล่ะลุกมาทานอะไรสักหน่อยแล้วค่อยนอนก็ได้”
พอเห็นเขาสวมเสื้อยืดกางเกงห้าส่วนแถมยังผูกผ้ากันเปื้อนแบบนี้เหมือนพ่อบ้านยังไงชอบกลหากเอแคร์มาเห็นท่านประธานขี้เก๊กที่ผมเผ้าไม่เซตแถมยังสวมผ้ากันเปื้อนแบบนี้มีหวังคงเม้ามอยไปตลอดสามวันเจ็ดวันเป็นลุคที่ใครก็คาดไม่ถึง
อาหารตรงหน้าเป็นแพนเค้กพร้อมกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่พร้อมนมถั่วเหลืองหนึ่งแก้วฉันก้มหน้าทานโดยเหล่มองเขาที่เหมือนว่ากำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่ที่ระเบียงแถมในมือยังถืออมยิ้ม
ถ้าเขาถือบุหรี่ฉันคงออกไปวีนอย่างน้อยก็ยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้างว่าบุหรี่ไม่ดีต่อคนท้องและเด็กทารกฉันเบนสายตากลับมาเมื่อเห็นเขาวางสายและรู้สึกเกร็งๆยังไงไม่รู้ที่เปิดอกคุยกับเขาเมื่อคืนอีกทั้งมันเป็นคำพูดปลายเปิดที่ไม่ได้ตัดสัมพันธ์รวมไปถึงผูกสัมพันธ์แต่เป็นเรื่องของเวลาและการอยู่ด้วยกันมากกว่าที่จะเป็นตัวยืนยันว่าชีวิตคู่ของเราจะไปกันต่อได้ไหมก็จดทะเบียนสมรสไปแล้วจะทำอะไรได้อีก
“คุณจะไปหาหมอวันจันทร์ใช่ไหม”
“ใช่”
“งั้นเราไปด้วยกัน”
“วันนี้คุณมีธุระไปที่ไหนไหม” ฉันส่ายหน้า
“งั้นเราไปดูของให้ตัวเล็กกัน”
“ผมมีเรื่องจะปรึกษา” เขาเอ่ยเมื่อเห็นว่าฉันทานเสร็จแล้วก่อนจะเป็นฝ่ายหยิบจานแก้วพวกนั้นไปวางในอ่างล้างจานก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
ริวอิจิเป็นคุณพ่อมือใหม่ที่ค่อนข้างจะเห่อลูกแม้ว่าเขาจะมาในช่วงที่ไม่พร้อมไม่ได้เตรียมใจแต่ยังไงเด็กคนนี้ก็คือลูกของเขาอีกทั้งแม่ของลูกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเขาจึงเลือกที่จะเดินหน้าโดยละทิ้งอดีตไว้ข้างหลังแม้ว่าการเริ่มต้นสร้างครอบครัวของเขาจะต่างจากคู่อื่นแต่นี่คือชีวิตของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับใครได้
เขาเดินสำรวจไปทั่วห้องก็ไม่พบเปลเด็กหรือแม้กระทั่งห้องของเด็กเลยไม่รู้ว่าขาดเหลืออะไรดูเหมือนว่าแม่ของลูกก็ไม่ได้ตระเตรียมอะไรเอาไว้มากมายเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดให้ตาย! นั่นเขาเป็นถึงทายาทสายตรงของเคอิกรุปเชียวนะ
“มีอะไรคะ”
“เด็กต้องมีพื้นที่ในการเลี้ยง” ฉันมองสำรวจคอนโดของตัวเองจะว่าไปมันก็คับแคบจริงๆนั่นแหละเพราะว่าห้องใหญ่ของพ่อแม่ก็ปล่อยทิ้งร้างไว้อย่างนั้น
“ก็จริง”
“แล้วทำไมคุณไม่ไปนอนในห้องใหญ่” ริวอิจิถามด้วยความแปลกใจพอเห็นสีหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่หม่นลงทันที
“ห้องนอนของพ่อแม่ฉัน…ภายในนั้นมีแต่ความทรงจำของพวกท่านทั้งสองฉันเลยตัดใจทิ้งไม่ลง”
ฝ่ามืออุ่นนั้นกอบกุมมือฉันที่กำลังกำเข้าหากันอยู่บนโต๊ะ
“ความทรงจำเป็นสิ่งที่สวยงามแต่อย่าทำให้มันเป็นตัวที่ฉุดรั้งคุณไม่ให้มีความสุขคนเราไม่จากเป็นก็จากตายการเดินหน้าไม่จำเป็นที่เราจะต้องลืมอดีตและความทรงจำที่ผ่านมาเสียหน่อยตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ” ฉันพยักหน้าให้
“แล้วคุณคิดว่ายังไง”
“แต่ห้องนอนใหญ่กว่าสะดวกกว่าจริง”
“ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมจะเรียกบริษัททำความสะอาดเข้ามาในส่วนที่คุณอยากเก็บไว้ก็เก็บหรือไม่ก็ย้ายบ้าน”
“…” ฉันเงยหน้ามองเขาทันที
“อยากได้แบบไหนเลือกเอาเลยแล้วแต่คุณ” กราบในความรวยของเขาแต่ว่าฉันจวนจะคลอดอยู่แล้วคอนโดก็สะดวกกว่ามากเพราะพื้นที่ไม่เยอะหยิบจับอะไรง่ายพอลูกโตค่อยย้ายไม่สาย
“หรือว่าจะสร้างใหม่ดี…เป็นชื่อคุณ” ฉันหลบสายตาสีนิลที่จ้องมองมาก่อนจะค่อยๆย้ายมือที่เขากอบกุมไว้มาวางไว้บนตักตัวเอง
“ถือซะว่าเป็นสินสอด” ฉันเม้มปากเอ่ยเสียงเบา
“แล้วแต่คุณ”
ก่อนจะลุกหนีเข้าไปในห้องอะไรกัน! ความรู้สึกใจเต้นตึกตักแบบนี้คืออะไรโอ๊ยให้ตาย! ฉันรู้ว่าเขารวยรวยมากๆแต่พอเขาประเคนให้แบบนี้ฉันไม่กล้ารับไว้ด้วยซ้ำจะว่ามักน้อยได้ไหมนะแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะลองใจหรือเปล่าจะเล่นตัวไม่เอาเกิดเขาไม่ให้อีกจะทำไงอย่างน้อยฉันก็ควรจะมีอะไรติดตัวบ้างเกิดวันหน้าเลิกรากันไปฉันจะได้มีทุนความคิดขั้วบวกและขั้วลบตีกันอยู่ในหัวอีกอย่างนิสัยที่เอาแต่แบมือขอคนอื่นไม่ใช่นิสัยของฉันเลยสักนิดคนเคยปากกัดตีนถีบมาตลอดหลายปีจะให้มาใช้จ่ายมือเติบปุบปับมันก็ไม่ได้ปะ
ห้องนอนใหญ่ไม่ได้มีอะไรมากนักแค่สองชั่วโมงก็จัดการทำความสะอาดเสร็จของใช้ที่ต้องทิ้งต้องเปลี่ยนก็มีแค่เฟอร์นิเจอร์เก่าไม่กี่ชิ้นรวมไปถึงเครื่องปรับอากาศฉันตบตีกับเขาตอนที่เห็นเขากดดูของในอินเทอร์เน็ต
“แอร์ราคาตั้งห้าหมื่นแถมยังเปลี่ยนทั้งสองห้องด้วยฉันว่ามันแพงไป”“แต่สุขภาพที่ดีซื้อไม่ได้ด้วยเงิน” ฉันอ้าปากค้าง “อีกอย่างที่คุณนอนไม่ค่อยหลับเพราะว่าฝุ่นภายในห้องมันเยอะผมลองไปเปิดดูที่กรองแสดงว่าคุณไม่เคยทำความสะอาดเลยล่ะสิ” ฉันหน้างอง้ำก็จริงอย่างที่เขาว่าแถมเถียงไม่ออกอีกต่างหาก“ที่มันแพงเพราะว่ามันมีระบบกรองอากาศในตัวอีกอย่างไม่มีตะแกรงที่ต้องถอดออกมามันจะทำความสะอาดฝุ่นแล้วรวมอัดเป็นก้อนเราก็แค่ถอดมันออกมาทิ้งแค่นั้น” เขาร่ายคุณสมบัติของมันยาวจนฉันฟังแทบไม่ทันฉันก็ได้แต่ตกลงอีกอย่างคนจ่ายเงินไม่ใช่ฉันนี่นาตกบ่ายพวกเราก็ไปห้างไปเลือกดูของใช้สำหรับเด็กอ่อนเขาลิสต์รายชื่อมายาวเกือบหนึ่งหน้ากระดาษเอสี่“เชื่อเถอะฉันว่าอันนี้ไม่ได้ใช้” เขาเลิกคิ้วก่อนจะมองหน้าฉันสลับกับของตรงหน้า“มีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี” เพราะเขาพูดแบบนี้ฉันก็ไม่มีคำพูดอะไรจะโต้แย้งอีกคนงกอย่างฉันดูคุณภาพของสินค้าเปรียบเทียบกับอีกหลายยี่ห้อส่วนเขาหยิบเอาๆหยิบเอาจนเต็มตะกร้าไปหมด “คุณรู้เหรอว่าเพศอะไร”“เพศไม่มีสีสักหน่อยเด็กผู้ชายสวมสีชมพูก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรน่ารักออก” ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันทึ่งไม่รู้กี่
ตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับฉันก็ไม่เห็นเขาใช้รถของตัวเองได้แต่ใช้รถญี่ปุ่นของฉันไปไหนมาไหนตอนนี้เขาเองก็ทำหน้าที่เป็นสารถีมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ฉันได้ซื้อแพ็คเกจคลอดไว้อีกทั้งเป็นโรงพยาบาลที่มีล่ามคอยสื่อสารภาษาญี่ปุ่นให้เสร็จสรรพแม้ค่าคลอดจะแพงแต่ก็ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเอกสารเพื่อแจ้งเกิดฉันจองโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกไม่คิดว่าโชคชะตาจะพัดพาให้ริวอิจิมาเจอเราแม่ลูกได้ทันเวลาพอดี ฉันนอนลงบนเตียงถกชายเสื้อขึ้นเพื่ออัลตราซาวด์แบบสี่มิติภายในจอเห็นเจ้าจิ๋วตัวน้อยอย่างเห็นได้ชัดจมูกนี่ได้พ่อมาเชียวอีกทั้งยังดูดนิ้วเล่นอีกการมาโรงพยาบาลครั้งนี้ของฉันแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาความรู้สึกอบอุ่นความรู้สึกที่โดดเดี่ยวอ้างว้างก่อนหน้ากลับผ่อนคลายขึ้นเมื่อมีใครอีกคนคอยแบ่งเบาอยู่เป็นเพื่อนคุยมาโรงพยาบาลด้วยกันฉันเองก็เป็นแม่คนครั้งแรกอีกทั้งไม่มีใครให้คอยปรึกษาถามไถ่และที่กังวลที่สุดคือการคลอดการคลอดธรรมชาติไม่เหมือนการผ่าที่สามารถกำหนดวันและเวลาได้แน่นอนอีกอย่างการผ่าแพงเพิ่มขึ้นไปอีกหลายหมื่นด้วยความงกและอยากจะคลอดธรรมชาติดูสักครั้งว่าความรู้สึกที่ว่าเจ็บเจียนตายมันเป็นยังไ
ไป ๆ มา ริวอิจิก็ขนของใช้ส่วนตัวของเขา รวมทั้งเสื้อผ้ามาไว้ที่ห้องฉันจนหมด อีกทั้งยังเอาแบบบ้านมาให้ฉันเลือกอีก หากเจ้าจิ๋วเริ่มโตต้องมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นเขาว่าอย่างนั้น ฉันพลิกดูแต่ละหลังด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก บ้านเดี่ยวในเมืองราคาถูกซะเมื่อไหร่ เมื่อเห็นราคาที่ไม่รวมที่ดิน ตัวบ้าน ไหนจะของตกแต่งฉันก็แทบจะตาถลนออกจากเบ้าอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับพลิกดูเหมือนไม่สะทกสะท้านกับราคาฉันเอนหลังเปิดดูโบชัวร์ของบ้านแต่ละแบรนด์รวมไปถึงทำเลและโรงเรียนแต่ฉันก็ยังกังวลว่าเขาจะย้ายกลับไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเมื่อไหร่ “คุณจะอยู่ที่นี่เหรอคะ” เขาชะงักก่อนจะหันหน้ามาถามฉัน“หรือว่าคุณอยากย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น”“เปล่าค่ะฉันก็แค่กังวล”“ผมอยู่ได้ทุกที่…ถ้ามีคุณกับลูก” ฉันก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ดูแบดๆเหมือนคุณชายเจ้าสำราญจะมีมุมนี้ด้วยไม่แปลกใจว่าทำไมสาวๆถึงหลงเขานักรูปหล่อไม่พอยังเต๊าะเก่งอีกเฮ้อ…หัวใจดวงน้อยของฉันช่วงนี้ทำงานหนักเหลือเกิน“แล้วครอบครัวของคุณละคะ” อดที่จะถามไม่ได้อย่างฉันเองตัวเปล่าเล่าเปลือยไม่มีพ่อแม่ที่ต้องคอยดูแลไม่เหมือนกันกับเขาเห็นว่ายังอาศัยอยู่บ้านเดียวกับมารด
แม้แต่ตอนอาบน้ำเขาบอกว่ากลัวฉันจะเป็นอะไรไปเพราะว่าเท้าที่เริ่มบวม หรือไม่รู้ว่าเป็นอาหารตาให้เขาได้แทะโลมกันแน่ สองร่างอิงแอบแช่อ่างอยู่ด้วยกันอย่างนั้น การมีเงินนี่สามารถจ้างผีให้โม่แป้งยังได้เหมือนที่สุภาษิตจีนว่าไว้ไม่มีผิด ชีวิตประจำวันของฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อริวอิจิมาอยู่ด้วย เขาเปลี่ยนและต่อเติมห้องใหม่ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ ลำพังมนุษย์เงินเดือนอย่างฉันมีคอนโดให้ซุกหัวนอนโดยที่ไม่ต้องผ่อนก็ถือว่าดีมากแล้ว คอนโดนี้แม้จะเก่าหลายสิบปีแต่ก็มีการซ่อมแซมปรับปรุงให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ แน่ล่ะสิค่าส่วนกลางก็หลายพันต่อเดือน ถ้าปล่อยให้ตึกโทรมนิติคงถูกลูกบ้านโวยตายแน่ อ่างอาบน้ำแบบทันสมัยก็ถูกติดตั้งด้วยเช่นกันแถมยังปรับอุณหภูมิได้ฉันนั่งทับอยู่บนหน้าขาของเขาตอนนี้เราต่างก็เปลือยเปล่าแช่น้ำ“ร้อนไปหรือเปล่า” ฉันส่ายหน้าแถมยังก้มหน้างุดจ้องมองหน้าท้องตัวเองปล่อยให้เขากอดฉันอยู่อย่างนั้นอีกอย่างไม่อยากจะดิ้นหรือขยับส่งเดชกลัวว่าหนอนยักษ์จะตื่นขึ้นมาพอเห็นความยาวของมันฉันก็กลัวว่าจะรับไม่ไหว“เท้าคุณบวมมากใกล้คลอดแล้วไม่ยืนนานๆจะดีที่สุด”“ให้นั่งๆนอนๆอย่
กลางดึกเที่ยงคืนฉันนอนไม่หลับ รู้สึกเหมือนปวดหนักแต่นั่งก็ไม่ออก และรู้สึกว่ามดลูกบีบรัดตัวถี่มากกว่าปกติ ‘ไม่ใช่มั้ง!’ กำหนดคลอดก็คืออีกสองวันข้างหน้าจะเข้าๆออกห้องน้ำแบบนี้ก็เกรงใจริวอิจิเพราะว่าเขาก็ประชุมอยู่ทุกวันเรื่องงานก็ดูจะวุ่นวายแถมบางคืนยังต้องตื่นตีสามมาเพื่อประชุมคอนเฟอเร้นกับทีมยุโรปเขาทำหน้าที่ทั้งพ่อบ้านและประธานบริษัทได้ดีจนฉันเกรงอกเกรงใจเขาที่ต้องมาคอยดูแลฉันแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกอุ่นใจแม้ว่าเริ่มแรกพวกเราจะเริ่มต้นด้วยกันไม่ดีแต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้พูดปากเปล่าบอกว่าจะรับผิดชอบก็รับผิดชอบทุกอย่างรวมไปถึงชีวิตประจำวันเล็กๆน้อยๆของฉันด้วย ฉันเดินวนอยู่ในห้องน้ำลูบหน้าท้องของตัวเองพร้อมเป่าปากออกเป็นจังหวะตามแบบที่คุณหมอสอนมาเรื่องการควบคุมลมเบ่งมดลูกบีบตัวถี่ขึ้นจนฉันรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลออกมาจนชั้นในเปียกชุ่มฉันก้มล้มมองก่อนจะถอดชั้นในออกมาภาพตรงหน้าทำเอาฉันตะโกนสุดเสียง“ริวอิจิ !” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายทำเอาริวอิจิที่กำลังจมดิ่งในห้วงนิทรากระเด้งตื่นขึ้นมาก่อนจะสอดสายตาหาร่างบางที่คุ้นเคยเขาวิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนจะเห็นมูกเลือกที่ไหลออกตามน่องขานั้นส
หลังจากพักฟื้นหนึ่งวันฉันก็เอาอากิระมาเลี้ยงเองที่ห้องทันทีพร้อมกับแจ้งในไลน์กลุ่มว่าคลอดแล้ว ส่งรูปหลานน้อยไปให้พร้อมกับประกาศว่าฉันได้ลูกชาย ภายในกลุ่มที่เงียบเหงามาหลายวันพลันครื้นเครงขึ้นทันตา ข้อความไหลจนฉันอ่านแทบไม่ทัน ก่อนจะฝึกอุ้มเจ้าตัวน้อยเข้ามาแนบอกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ริวอิจิเองก็เช่นกัน“ไม่น่าเชื่อว่าจะตัวใหญ่ขนาดนี้” “ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าอากิระจะตัวโตขนาดนี้” พลันนึกย้อนไปถึงตอนคลอดฉันคลอดเด็กที่น้ำหนักถึงสามพันแปดร้อยกิโลกรัมด้วยวิธีการคลอดธรรมชาติกินเก่งตั้งแต่อยู่ในท้องเชียว“คุณเก่งมาก” เขาเข้ามาโอบพวกเราสองแม่ลูกไว้ในอ้อมแขน “ขอบคุณที่คุณคลอดเด็กคนนี้ให้ผมขอบคุณจริงๆ” ริวอิจิเว้นจังหวะก่อนจะถอนหายใจ“พอเห็นคุณเจ็บปวดทรมานแบบนั้นก็ไม่อยากให้คุณมีลูกอีกคนเลย”“แล้วใครบอกคุณว่าฉันจะมีลูกอีกคน” ฉันแหวใส่เขาริวอิจิหัวเราะแก้เก้อ “เอาเถอะให้เป็นเรื่องของอนาคตเรื่องลูกอีกคนผมให้คุณตัดสินใจ” ไม่รู้ว่าเขาพูดทีเล่นทีจริงแต่ความเจ็บปวดร่วมๆสองวันที่ผ่านมาทำเอาฉันขยาดที่จะมีลูกอีกคนไปเลย “ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณเป็นฝ่ายคลอดเองฉันจะพิจารณาอีกครั้ง” ก่อนจะสบตาหัวเราะออกมาพร้อมกั
วันนี้เป็นวันเสาร์ พี่ไผ่พี่เลี้ยงเด็กจะมาทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น ไม่นอนค้าง กลางคืนเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ซึ่งพวกเราตกลงกันตั้งแต่แรก แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่เจ้าของบริษัทไม่สามารถจะหยุดงานได้เหมือนลูกน้อง อีกทั้งโปรเจกท์ที่ผ่านมาเกิดปัญหาเล็กน้อยทำให้คุณพ่อลูกอ่อนต้องแต่งตัวมาทำงานในวันหยุด หลังจากจัดการเรียบร้อยริวอิจิที่กำลังนั่งอยู่เบาะหลัง ก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญในไอแพดก่อนจะวางลงรับสายมารดาท่ีโทรเข้ามาอย่างกะทันหัน“ตาริวหลานแม่คลอดหรือยัง”“คลอดแล้วครับ…เมื่อสองสัปดาห์ก่อน” เขาเกาปลายคิ้วแก้เก้อ “แล้วแกไม่คิดจะบอกแม่สักคำ”“อ่า…”“ไม่รู้ล่ะฉันจองตั๋วแล้วพรุ่งนี้บ่ายสามมารับฉันที่สุวรรณภูมิ”“จริงเหรอครับ!”“จริงทุกประการจ้ะเจอกันพรุ่งนี้นะลูกรัก”ตู้ดตู้ด ริวอิจิเอนหลังลงกับพนักพิงอย่างอ่อนแรงแม้จะรู้ว่าแม่ของเขาไม่ใช่คนใจร้ายแต่จู่ๆจะมากะทันหันแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะฝั่งภรรยาของเขาจะว่ายังไงบ้างแม้ภาษาจะไม่ใช่อุปสรรคแต่ก็ต่างเรื่องสังคมและวัฒนธรรมอยู่ดีเมื่อจัดการรายละเอียดที่ต้องเซ็นหมดก็เอ่ยบอกให้คนขับ“กลับบ้าน” ก่อนจะหลับตาลงที่เบาะหลังอยู่อย่างนั้นจนถึงปลายทาง ควา
“ก็อะไร” คำถามที่เอ่ยกระซิบอยู่ข้างหูทำเอาฉันต้องเบี่ยงหน้าหลบไอร้อนนั้นอย่างประหม่าก่อนจะเชิดหน้าหันกลับไปตอบหน้าตาย“ก็…ไม่ได้รู้สึกอะไรตั้งแต่แรก” ริวอิจิหัวเราะในลำคอมือข้างหนึ่งก็จับมือฉันไว้แน่นหยอกเย้าสอดประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกันมืออีกข้างหนึ่งก็เกี่ยวผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนของฉันเล่นแววตาดูสุขุมลุ่มลึกแฝงด้วยความนัยบางอย่าง“พูดแบบนี้ผมเสียใจนะ…แต่ว่า…ไม่ได้รู้สึกอะไรแต่แรกนั้นไม่จริง” เขาเชยคางของฉันพลางใช้นิ้วหัวแม่โป้งเกลี่ยแก้มใสที่ไร้เครื่องสำอางลูบไล้อย่างแผ่วเบาก่อนจะคลึงที่มุมปากฉันเลิกคิ้วมองเขาพลางจ้องมองไม่หลบสายตา“อย่าบอกว่าคืนนั้นคุณไม่ได้สนใจผม…หืม” ฉันเอนหลังหนีทันทีแต่เขากลับลุกล้ำขยับเข้ามาใกล้ไม่รู้เมื่อไหร่ที่แผ่นหลังของฉันแนบสนิทกับโซฟาเส้นผมแผ่ขยายอยู่อย่างนั้นสองแขนที่ค้ำอยู่ข้างศีรษะทำเอาฉันร้อนรนและทำตัวไม่ถูกมือสองข้างของฉันเหมือนปราการป้องกันตัวเองในด่านสุดท้ายไม่ให้หน้าอกของอีกฝ่ายแนบทับสนิทอีกอย่างฉันเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานร่างกายยังไม่เข้าที่ริวอิจิไม่กล้าทับตัวของฉันจริงๆเขาเพียงแค่อยากจะหยอกล้อและอดที่จะกลั่นแกล้งแม่ของลูกไม่ได้ไขสือเก่ง! ทั้งๆที่
จิรัติกรมางานแต่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นด้วยความไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะสละโสดเร็วกว่าใคร ๆ ในรุ่น ก็แหงล่ะ…เจ้าชู้ประตูดินเสียขนาดนั้น แต่พอมาเจอเจ้าสาวในวันนี้ เขายังรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนรักของเขามีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้จริง ๆ แถมลูกชายยังน่ารักน่าชัง อ้วนท้วนสมบูรณ์เชียวนึกถึงตอนที่มาขอให้ช่วยรวบหัวรวบหางสาวเจ้าแล้วก็อดขำไม่ได้เพื่อนเขาถึงต้องลงทุนมากมายเพื่อทะเบียนสมรสฉบับเดียวแทนที่จะเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ต้องอ้อนวอนขอทะเบียนสมรสจากริวอิจิน่ะส่งเพื่อนเข้าประตูวิวาห์พลันอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้…แล้วชีวิตคู่ของเขาจะเป็นแบบไหนเจ้าสาวจะเป็นใครแม้ว่าไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนเลยก็ตามความคิดในหัวแตกกระเจิงเมื่อเจอใครบางคนคนคนนั้นที่ติดอยู่ในหัวของเขาแมวขโมย! สองแขนของปานประดับถูกกระชากอย่างแรงหลังจากที่เธอเพิ่งจะเรียงจานชามบนโต๊ะได้ไม่นาน“อะ” ฉันร้องเสียงหลงแถมยังต้องตกใจจนหน้าขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครโลกมันจะกลมเกินไปแล้วอีกอย่างฉันเองก็คอยระมัดระวังตัวตลอด…“ไง” เขาถามด้วยใบหน้าราบเรียบแต่แววตากลับวาวโรจน์“คะ” ฉันตีเนียนแต่มือไม้เย็นจนเกือบจะถือถาดในมือไว้ไม
งานแต่งงานของฉันกับริวอิจิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นการแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ซึ่งคุณนายเคอิเป็นคนขอเอาไว้เนื่องจากเราแต่งงานที่ไทยกันมาแล้ว เลยอยากจะจัดงานแบบญี่ปุ่นบ้าง ฉันเลือกชุดกิโมโนสีขาว ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสีดำ พิธีการค่อนข้างเคร่งครัดและเป็นระเบียบ แขกเหรื่อจะต้องยืนยันว่าจะมาร่วมงานเพราะชุดอาหารนับตามจำนวนคนและแพงมาก แม่เจ้า! รวมไปถึงของชำร่วยที่แขกเหรื่อจะเป็นคนเลือกเอง แต่สำหรับฉันพิธีการเรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับฉันอย่างดีไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในสถานะที่แตกต่างออกไปในตอนแรกฉันมาเยือนโตเกียวด้วยวีซ่านักเรียนแต่พอมาอีกครั้งกลับมาในสถานะภรรยาของชาวญี่ปุ่นจัดงานเสร็จสรรพใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันชอบความเรียบง่ายเลยไม่ได้จัดการฉลองที่โรงแรมอีกอีกอย่างเราก็มีลูกเล็กด้วยกระเตงออกงานทั้งวันคงเหนื่อยน่าดูที่สำคัญเจ้าเด็กอ้วนยังติดพี่เลี้ยงมากๆอีกด้วยพี่ไผ่เองตอนนี้ก็เปรียบเสมือนญาติอีกคนที่เข้าร่วมพิธีการในครั้ง
อีกทั้งฉันเองก็ขอร้องว่า…ไม่ต้องใส่ซองอะไรมาให้อีกอย่างทุกคนก็เสียสละวันหยุดมางานกันแล้วไหนจะเสื้อผ้าหน้าผมอีกแต่ทุกคนกลับมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยติดมือมาให้อยู่ดีคุณนายเคอิเองก็ยิ้มแช่มชื่นแม้จะมีอุปสรรคทางภาษาแต่เอแคร์เองก็พูดควบสองภาษาเพื่อให้คนทั้งงานเอนจอยไปด้วยกันแถมเพื่อนรักอย่างจิรัติกรเองก็มาร่วมงานด้วย“ไง” จิรัติกรเอ่ยทักเจ้าบ่าวข้างกายฉันพลางส่งของขวัญในมือให้“ขอบใจ” “งานสำคัญของนายทั้งทีฉันต้องมาอยู่แล้วน่า”“ยินดีด้วยนะครับคุณ…เอ่อ”“เจค่ะ”“ยินดีด้วยนะครับคุณเจ” “ขอบคุณมากค่ะ” แถมเขายังเข้ามาหยอกล้อเจ้าตัวน้อยที่นั่งหันหน้าบนเป้นั่งคาดเอวด้วยความเอ็นดู“นี่มันริวอิจิฉบับจิ๋วชัดๆ” เขาว่าพลางหัวเราะในคอแต่พลันสายตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นพนักงานที่คอยเติมอาหารและเครื่องดื่มในงาน“ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันผายมือให้เขาเข้าไปในงานก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่แทะยีราฟตัวสีเหลืองอย่างมันเขี้ยวโดยไม่รู้เลยว่าบริเวณหลังร้านคนสองคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ เพราะเน้นความเรียบง่ายห้าโมงเย็นทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุดนิ้วนางข้างซ้ายของฉันและเขาต่างประดับด้วยแหวนแต่งงานที่เราต่างแลกแห
“แต่พี่ก็ดีใจนะ อย่างน้อยเจก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนอย่างตอนแรก ให้ตาย! ตอนแรกพี่เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน หลังคลอดเราจะอยู่ยังไงกันสองคน พอรู้ว่าน้องเจมีคนคอยดูแลพี่ก็เบาใจ” พี่น้ำตาลที่ผ่านการมีลูกเต้ามาก่อนเอ่ยพร้อมกับเดินมาตบต้นแขนให้กำลังใจฉันยิ้มทั้งน้ำตา“ขอบคุณนะคะแต่ยังไงก็ยังเป็นเจคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป” ทุกคนพยักหน้าให้ “วันหลังเอาอากิระมาให้พี่ๆอุ้มบ้างพวกเราจะได้กอดหอมตอนยังเด็กนี่แหละ” เอแคร์ว่า“โตขึ้นมาพี่สาวคนนี้จองตัวเป็นผู้จัดการดาราเลยนะคะ” บรรยากาศผ่อนคลายลงมากภพที่ยังพูดน้อยเหมือนเดิมเอ่ยเพียงสองสามประโยค“ยินดีด้วยนะเจ”“ขอบคุณนะภพ” จะว่าไปเขาเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่รู้ว่าพ่อในท้องของผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ว่าจะรถของหญิงสาวที่ท่านประธานคนใหม่ใช้อยู่เนืองๆไหนจะตอนที่คนทั้งสองไปซื้อของด้วยกันตอนแรกเขาทั้งตกใจและคาดไม่ถึง…ตอนแรกเขายอมรับว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่เหมือนกันแต่เหมือนเจ้าหล่อนก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครหน้าไหนได้เข้าหามีกำแพงบางๆกั้นเอาไว้หากเธอไม่ท้องหรือมีครอบครัวไปเสียก่อนเขาก็ยังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้สานต่อ…“แหมน้องภพมองตาละห้อยเชียวพ
ริวอิจิส่งข้อความมาบ้างแต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยตารางชีวิตแต่ละคนยุ่งสุดๆแต่แล้วความทรมานในการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงกดออดที่หน้าห้องเมื่อเห็นในมอนิเตอร์ว่าเป็นใครฉันก็เปิดประตูให้อย่างเร็วรี่แม้ใบหน้าเขาจะเหนื่อยล้าสุดๆแต่กลับยิ้มแฉ่งเข้ามากอดและอุ้มฉันจนตัวลอย“ว้ายเล่นอะไรคะเนี่ย” ฉันแหวใส่เขาเมื่อถูกอุ้มจนเท้าไม่ติดพื้นแถมในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มจะคว่ำแล้วคอกเด็กที่สั่งทำเอาไว้ก็ได้ฤกษ์ใช้เสียที“อากิระคุง” เสียงมาก่อนตัวริวอิจิที่สองมือหอบข้าวของพะรุงพะรังมามากมายก็ไม่ลืมที่จะรีบไปล้างมือหมายจะรีบมาอุ้มลูกชายแต่โดนฉันเบรกไว้ก่อน“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าคะ” พ่อหมาทำหน้าละห้อยเหงื่อไหลโทรมกายขนาดนั้นอีกอย่างเชื้อโรคก็เยอะด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบบริเวณข้างๆคอกเด็กฉันรีบไปอุ้มเจ้าก้อนมาไว้แนบอกนั่งหันหน้าออก“ปะป๊ากลับมาแล้วดีใจไหมครับ” เจ้าก้อนดิ้นดุ๊กดิ๊กมือเท้าปัดป่ายกลางอากาศอย่างน่ารักฉันอุ้มเขาไม่กี่อึดใจอากิระคุงก็ถูกริวอิจิอุ้มไปฟัดในคอกเด็กสองพ่อลูกคุยกันงุ้งงิ้งอยู่นานสองนานส่วนฉันก็รีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อพี่ไผ่เองก็เก็บของเตรียมต
“แค่ก แค่ก ๆ” เมื่อเขาถอนออก ฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง อีตาบ้ากดมาได้! ฉันทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจเท่านั้น ไม่นานแผ่นหลังก็แนบติดกับประตู ชุดนอนกระโปรงถูกถกมากองไว้ที่เอว ขาข้างหนึ่งพาดบนท่อนแขนแกร่ง ยืนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้เขาตอกอย่างถนัดถนี่“อื้อ” ฉันครางเครือแทบไม่เป็นภาษาเข็มยักษ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันหายไข้หรือว่าป่วยเพิ่มกันแน่ยิ่งเข้าสุดออกสุดอย่างนี้ฉันจิกเล็บกับต้นแขนเขาอย่างแรงเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะไม่ว่าจะเสียงเฉอะแฉะของน้ำลายน้ำหล่อลื่นส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันอยู่หรือเสียงเนื้อกระทบเนื้อต่างก็พาอารมณ์พุ่งทะยานสุดกู่ริมฝีปากจูบคลอเคลียกันไม่ห่างช่วงล่างเองก็เช่นกันฉันตบต้นแขนเขาเป็นเชิงให้เปลี่ยนท่าก่อนจะผลักเขาลงกับเตียงกว้างถอดชุดนอนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีก้าวเข้าไปควบคี่กลายเป็นคนคุมเกมและจังหวะเสียเอง สองมือสอดประสานกันเพื่อให้ฉันพยุงตัวแถมเขายังกระเด้งเอวขึ้นมาตอบรับจังหวะของฉันอีกที “อึกอื้อ” เสียงปักปักของเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องนอนฉันหลับตาพริ้มคอเชิดแหงนเมื่อจุดกระสันถูกแทงย้ำๆอย่างไม่ปรานีย้ำๆจุดนั้นไม่กี่ทีฉันก็ตัวสั่นกระตุกหอบเสียงครางเครือเท้าแขนไว้ข้างศีรษะเขา
“แล้วฝั่งของคุณล่ะ” ฉันชั่งใจ…เพื่อนร่วมงานมีแค่ไม่กี่คน เพื่อนหลายคนที่เคยสนิทก่อนหน้าก็ห่างหายกันไปตามกาลเวลา จะร่อนการ์ดส่งไปให้ก็กะไรอยู่…ฉันค่อนข้างเป็นคนคิดมาก อีกอย่างไม่ค่อยได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันจู่ ๆ จะส่งการ์ดไปให้เขาจะหาว่าฉันอยากได้เงินใส่ซองไหมนะ“คิดอะไรขนาดนั้น”“ก็…”“ไม่รู้สิคะนอกจากเพื่อนร่วมงานแล้วก็คงไม่มีใครอีกอย่างญาติฝั่งพ่อแม่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วค่ะตั้งแต่ท่านเสีย” เขาโอบกอดฉันเข้ามาในอ้อมแขน“แต่ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้วนะมีผมอากิระแล้วก็แม่ผมที่เป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณ”“ขอบคุณมากค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขาด้วยใจจริงไม่น่าเชื่อว่าความบังเอิญความเมาหรือผีผลักในคืนนั้นที่ทำให้เราทั้งสองได้มาเจอกันได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปพร้อมกันตลอดกาลมีจริงหรือไม่…นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันเฝ้าหาคำตอบอีกต่อไปเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเฝ้าหา…อยู่ตรงหน้านี้แล้วเราแพลนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าหลังจากที่ริวอิจิกลับมาจากญี่ปุ่นก็จะจัดงานแต่งที่ประเทศไทยหลังจากนั้นค่อยกลับไปจัดที่ญี่ปุ่นต่อจะว่าปุบปับก็ไม่เกินจริงหลังจากนั้นไม่กี่วันฉันและเขาก็มาฟิตติ้งชุดเจ้
พอรู้ว่าต้นเดือนหน้าจะเริ่มงานตารางชีวิตของฉันก็ต้องจัดการใหม่หมดรวมไปถึงเวลาที่ให้พ่อของลูกด้วย“ทำไมไม่ลาหนึ่งปีไปเลยคุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”“ไม่ดีกว่าค่ะฉันอยากทำงานไม่อยากแบมือขอเงินคุณ” ฉันพูดออกไปตามจริงใช้เงินเขามันก็ดีอยู่หรอกแต่อย่างว่า…เราต้องมีเก็บสำรองด้วยอีกอย่างฉันเพิ่งเริ่มชีวิตการทำงานได้ไม่ถึงปีเสียดายวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องกลายมาเป็นแม่คนเสียแล้ว “เป็นถึงคุณนายเคอิ” เขาพูดพร้อมกับบีบจมูกที่เชิดรั้นของฉันตอนนี้เจ้าหมูน้อยก็เข้าเต้าอยู่แถมมือป้อมๆนั้นยังกำของเล่นในมือไว้แน่น“เงินของคุณนี่คะไม่ใช่เงินฉันสักหน่อย” “แต่ผมเต็มใจให้คุณใช้นะ…ใช้เท่าที่คุณต้องการยังได้” ฉันมองค้อนเขา“ทราบค่ะว่าคุณรวย”“แถมยังหล่อเหลามากอีกด้วย” ชมเองชงเองเหลือจะเชื่อฉันรู้ว่าเขาน่ะรวยมากขนาดไหนแล้วยังไงล่ะ…เกิดวันไหนเขาหมดใจกับฉันขึ้นมาทวงเงินที่ฉันใช้ไปทำไงล่ะทีนี้…สมองพลันนึกถึงกรุปแม่บ้านที่ว่าขึ้นมาที่แม่บ้านคนไทยต่างประสบปัญหาต่างๆกับสามีชาวญี่ปุ่นแล้วการที่ฉันไม่ได้เอาแต่พึ่งพาเขามากเกินไปเพื่อเป็นการเหลือทางรอดให้กับตัวเอง “สัปดาห์หน้าผมจะกลับไปเคลียร์งา
“อะอ๊ะ” แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปขัดถูหลังให้เล่าเขาต้องการคนขัดหลังให้ที่ไหนต้องการรวบหัวรวบหางเหยื่อเสียมากกว่า…แต่จะว่าไปฉันก็เป็นเหยื่อที่เต็มใจให้ถูกกินซะด้วยสิหากเขาเป็นกองไฟฉันก็พร้อมจะเป็นน้ำมันให้มันเผาไหม้พวกเราสองคนไปพร้อมกัน แถมเจ้าหมูน้อยยังนอนหลับปุ๋ยในเปลอย่างฝันหวานเหมือนว่าเมื่อคืนพ่อลูกทำข้อตกลงอะไรกันเอาไว้อย่างนั้นเจ้าหมูน้อยรีบตื่นมาช่วยแม่หน่อยเร็ว!!!พ่ออากิระผิวปากออกจากห้องนอนมาในตอนเจ็ดโมงเช้าร่างกายไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนไม่เหมือนแม่ของลูกที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นวันนี้เขาคงไปทำงานสายหน่อยรอจนกว่าพี่เลี้ยงลูกจะมาช่วยไม่ได้นี่นะก็แม่ของลูกสวยขนาดนั้นใครจะอดใจยั้งมือไหว…ก็อย่างที่เคยบอก…เราสองคนเข้ากันได้ดีดีมากเสียด้วยดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก ;pเขาจัดแจงทำอาหารเช้าไว้ให้ภรรยาดูแลลูกน้อยเมื่อพี่เลี้ยงมาถึงก็แปะมือเปลี่ยนกะเขาออกไปทำงานก่อนจะออกจากห้องแวะไปดูคุณเขาเสียหน่อยอีกฝ่ายนอนหลับอุตุจะว่าไปสองแม่ลูกนอนท่าเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนเขาหยิกจมูกที่เชิดรั้นของเธอเบาๆก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ผมไปทำงานก่อนนะอย่านอนตื่นสายล่ะ” ฉันงัวเงียแม้ว่าร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแต่ยังไงลูก