คำพูดของเด็กสาวดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีจากนั้น นอกจากเย่ซิว ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึงชายชราดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีเลือดท่วมตัวตอนนี้กลับฟื้นขึ้นมาแล้ว“คุณปู่เป็นยังไงบ้างคะ?” เด็กสาวช่วยพยุงชายชราเสียงของชายชราฟังดูอ่อนแรงเล็กน้อย แต่สีหน้าเขาก็ไม่ได้แย่ “เวียนหัวเล็กน้อย นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร”แพทย์เหล่านั้นรีบหยิบเครื่องมือต่าง ๆ ออกมาตรวจร่างกายของชายชราทันทีผลลัพธ์ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก“ทุกส่วนในร่างกายของเขาเป็นปกติดี ยกเว้นความดันโลหิตที่ต่ำเล็กน้อย พระเจ้า พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้อย่างนั้นเหรอ?”เด็กสาวพยักหน้าหนัก ๆ “พี่ชายคนนี้เขาเก่งมากเลยค่ะ ถ้าไม่มีเขา ปู่ของฉันคงไม่รอด”แพทย์คนก่อนหน้านี้รีบขอโทษเย่ซิวทันที“น้องชาย เมื่อกี้พวกเราบุ่มบ่ามเกินไป”“ทักษะทางการแพทย์ของนายยอดเยี่ยมมาก คงจะมาจากสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงแน่ ๆ”เย่ซิวโบกมือ ไม่ได้อธิบายอะไรมากน่าหลันเหยียนหรานมองไปที่เย่ซิวที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วสารทิศ เธอรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจอย่างยิ่งแต่เธอก็รู้ดีว่าเธอทำให้ทุกคนโกรธ ตอนนี้จึงไม่กล้าพูดจาเยาะเย้ยเย่ซิวอีก
ตอนเดินผ่านน่าหลันเยียนหราน เย่ซิวหยุดเดิน “ฉันขอแนะนำเธอทางที่ดีเปลี่ยนอาชีพ จรรยาบรรณแพทย์ขั้นพื้นฐานที่สุดเธอยังไม่มีด้วยซ้ำ อยู่ในโรงพยาบาลต่อไปแบบนี้พานจะทำให้เกียรติของวิชาชีพแพทย์เสื่อมเสียเปล่า ๆ”น่าหลันเยียนหรานโกรธจนหน้าเขียว “เรื่องของฉัน ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย!”เย่ซิวมองเธออย่างเฉยเมยและเดินต่อไปต่อไปน่าหลันเยียนหรานโกรธมากจนกระทืบเท้าเธอเห็นสายตาของเย่ซิวที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดูถูกที่ผ่านมาเธอมักจะเป็นฝ่ายดูถูกคนอื่นเสมอ แต่เธอไม่เคยถูกคนอื่นดูถูกมาก่อนเลย“นายอย่าให้ฉันลงมือเลยจะดีกว่า อย่าคิดว่านายจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะนายใกล้ชิดกับตระกูลเซี่ย!”เธอคิดว่าเย่ซิวใช้วิธีอะไรบางอย่างหลอกลวงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยซิ่วซิ่วและอยู่เคียงข้างเธอได้น่าหลันเยียนหรานมองว่าเขาเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินอีกด้านหนึ่ง มีชายชราถูกช่วยเหลือขึ้นรถพยาบาลเด็กสาวอยู่เคียงข้างเขาไปถึงโรงพยาบาลไม่นานก็ตรวจร่างกายชายชราทั้งหมด พบว่าไม่มีอะไรสาหัสร้ายแรงจึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่อภายในห้องผู้ป่วยส่วนตัวหลังจากเขาพ้นขีดอันตรายมาได้แล้ว เด็กสาวก็แผ่ออร่าความภ
เซี่ยซิ่วซิ่วมองไปทางพนักงานที่มาขวางทางพวกเขาแล้วถามว่า “ทำไม?”พนักงานชี้ไปที่แขนเสื้อของเย่ซิวแล้วพูดว่า “มีเปื้อนเลือดบนตัวแบบนี้ ร้านเราเป็นแบรนด์หรูหรา ที่นี่คนที่สวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยและไม่สะอาดสะอ้าน จะไม่รับอนุญาตให้เข้าไปในร้านครับ”เซี่ยซิ่วซิ่วเริ่มโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว “แบรนด์ของพวกคุณอยู่แค่อันดับที่เก้าของประเทศเท่านั้น ยังกล้าดูหมิ่นลูกค้าแบบนี้งั้นเหรอ?!”พนักงานเงยหน้าขึ้นและมองเหยียด “คุณหนูหยุดพูดมากแล้วออกไปเร็ว ๆ อย่ามาขัดขวางการทำธุรกิจของเรา”“แล้วอีกอย่างคนที่อยู่ข้าง ๆ คุณ ดูจากเสื้อผ้าที่เขาใส่แล้วไม่น่าจะมีปัญญาจ่ายได้หรอก เสื้อผ้าในร้านของเราหยิบสุ่ม ๆ มาตัวหนึ่งยังมีราคาหลายหมื่นเลย”“ไม่มีเหตุผลที่จะเสียเวลาที่นี่หรอก พอพวกคุณลองเสื้อแล้วฉันต้องเอาเสื้อไปซักแห้งอีก รู้ไหมว่าซักแห้งเสื้อผ้าพวกนี้ครั้งหนึ่งมันแพงแค่ไหน!”คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกต่อเย่ซิวท่าทีของเย่ซิวยังเป็นไปตามปกติ เรื่องอย่างเช่นการดูถูกผู้คนแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกที่แต่เซี่ยซิ่วซิ่วรับไม่ได้“ฉันรู้จักเจ้านายของคุณ โทรหาเขาสิ ฉันจะให้เขาไล่คุณออก!”พนักงานเย้ยหยันอย่างเหยี
เขาจะไม่โกรธและเครียดได้อย่างไร น่าฆ่าให้ตายนักจากนั้นเขาก็เตะเข้าที่เข่าของเขาให้เขาคุกเข่าต่อหน้าเซี่ยซิ่วซิ่วแล้วกดศีรษะเขาโขกหัวลงกับพื้นสามครั้งจากนั้นเขาก็มองเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างอ่อนน้อม “คุณหนูเซี่ย ผมได้สั่งสอนบทเรียนให้เขาแล้ว น้องเมียผมไม่มีสมอง โปรดเมตตาอย่าถือสาเขาเลยนะครับ”สีหน้าของเซี่ยซิ่วซิ่วอ่อนลงเล็กน้อย “ไล่เขาออก ฉันไม่อยากให้เขาปรากฏตัวในเมืองเจียงเฉิงอีก เห็นเขาแล้วมันน่าขยะแขยง”ชายร่างอ้วนเตี้ยพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ได้ครับได้ ไม่มีปัญหา ผมไล่เขาออกเดี๋ยวนี้”ชายร่างอ้วนเตี้ยเตะน้องภรรยาของตัวเอง “ได้ยินไหม? ไสหัวไปได้แล้ว”เขาไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจึงรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานออกไปชายร่างอ้วนเตี้ยรีบเปิดประตูเชิญชวนทั้งสองคน “แขกผู้มีเกียรติทั้งสองคน เชิญเข้ามาข้างในเถอะครับ”เซี่ยซิ่วซิ่วเดินควงแขนเย่ซิวเข้าไปชายร่างอ้วนเตี้ยรู้สึกประหลาดใจเซี่ยซิ่วซิ่วก็เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองเจียงเฉิง ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเธอเคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหน“ชายคนนี้มีภูมิหลังแบบไหนกัน? ถึงได้สนิทกับคุณหนูเซี่ยมากขนาดนี้ เขาต้องไม่ธรรมดาแน่ ฉันต้องรับใช้เขาให้ดี”
เซี่ยซิ่วซิ่วสังเกตเห็นความผิดปกติของเย่ซิวและมองตามเขาออกไป “มีอะไรเหรอ?”“ฉันเห็นน้องสาวเธอเดินตามผู้ชายที่ดูท่าทางแปลก ๆ ผ่านหน้าร้านไป”สีหน้าเซี่ยซิ่วซิ่วเปลี่ยนไป “เธอไปยุ่งกับพวกคนเลวพวกนั้นอีกแล้ว”“รอผมอยู่ที่นี่นะ ผมจะไปดูหน่อย”หลังจากพูดจบ เย่ซิวก็รีบออกไปทันทีเขาไม่สนใจเซี่ยชิงชิง แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ทำให้เย่ซิวรู้สึกคุ้นหน้าและต้องตามให้ทันหลังจากเดินออกจากร้าน เย่ซิวก็เห็นคนสองคนไปรวมตัวกับอีกกลุ่มเขารีบวิ่งตามไปพร้อมกับปิดรูขุมขนทั่วร่างกาย ไม่ให้พลังออร่ารั่วไหลออกไปนี่คือสิ่งที่จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถทำได้ยี่สิบนาทีต่อมา เย่ซิวเดินตามสองคนข้างหน้าเขาและมาถึงชุมชนเก่าแห่งหนึ่งตลอดเวลาทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเห็นเลยเย่ซิวนอนราบอยู่หน้าประตูมอง มองผ่านเข้าไปในรอยแยกนั้นเห็นคนสามคนอยู่ในห้องเช่านอกจากเซี่ยชิงชิง อีกสองคนสวมเสื้อผ้าหลากสี มีผ้าโพกหัว สวมกำไลเงินที่ข้อมือและข้อเท้า“คิดไว้ไม่มีผิด พวกเขาเป็นคนจากสำนักเบญจพิษ พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว” เย่ซิวตาเป็นประกายในตอนนั้น อาจารย์ของเขาเคยสร้างกองกำลังลับที่ชื่อว่า นิกายแพทย
เซี่ยชิงชิงนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นจากนั้นเห็นผู้หญิงสองคนหยิบกระบอกไม้ไผ่ขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าที่ห้อยอยู่ที่เอวเมื่อกระบอกถูกเปิดออก ตะขาบ งูพิษและคางคกก็คลานออกมาจากภายใน เซี่ยชิงชิงเห็นแล้วรู้สึกขนลุกอยากจะหนีไปตามสัญชาตญาณผู้หญิงคนหนึ่งดุขึ้น “ถ้าเธอหนีไป การทดสอบจะล้มเหลว ในอนาคตเธอจะเรียนรู้วิชาที่แท้จริงไม่ได้”ผู้หญิงอีกคนพูดต่อว่า “หลังจากถูกแมลงพิษกัดแล้ว เธอถึงจะได้เรียนรู้วิชาขั้นสูงสุดของสำนักและมีโอกาสดีในการเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงชิงก็ระงับอาการคลื่นไส้และหวาดกลัวของตัวเองและนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นในใจเธอคิดถึงแต่เย่ซิวความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆความเกลียดชังอันไร้ขอบเขตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ จึงลดความเจ็บปวดจากแมลงพิษที่คลานมากัดเธอได้ผู้หญิงทั้งสองมองหน้ากัน เห็นแววตาชื่นชมในดวงตาของกันและกันเด็กสาวที่ไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่มีความกล้าขนาดนี้ ถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพดีที่ข้างนอก เย่ซิวไม่ได้หยุดพวกเขาวิธีการสร้างรากฐานแบบนี้อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าผสมผสานกับยาลับที่ได้รับการปรุงเป็นพิเศษ จะช่วยเสริมสร้างร่าง
จู่ ๆ เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้พวกเธอทุกคนวิตกกังวลผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองไปที่เย่ซิว “แกเป็นใคร มาขวางพวกเราทำไม?”เย่ซิวไม่คิดพูดพร่ำกับพวกเขาให้เสียเวลา รีบวิ่งบุกเข้าไปเหมือนเสือที่กระโจนลงมาจากภูเขาออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พวกเธอหายใจลำบาก สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดมากด้วยพวกเธอโบกมือและมีควันพิษจำนวนมากพุ่งออกมาน่าเสียดายที่มันทำอะไรเย่ซิวไม่ได้เลยร่างกายของเขามีภูมิต้านทานต่อพิษทุกชนิดมานานแล้วตู้ม! ตู้ม!เสียงทึบที่พุ่งกระแทกออกไปในอากาศ ร่างของหญิงสาวสองคนจากสำนักเบญจพิษกระเด็นออกไปกลางอากาศและร่วงหล่นลงกับพื้นขยับตัวไม่ได้เย่ซิวฝังเข็มสกัดจุดพวกเธอไว้ชั่วคราว ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้อยู่พักหนึ่งจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ก้าวไปหาเซี่ยชิงชิงความกลัวในแววตาเซี่ยชิงชิงวาบขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็แสดงท่าทางที่อ่อนแอเหมือนสาวน้อย “พี่ชาย คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”ในตอนนี้เธอเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะเธอยังไม่ได้แก้แค้นเย่ซิวเธอต้องมีชีวิตรอด แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อนก็ตามเย่ซิวเมินท่าทีของเธอ เดินเข้าไปบีบคอเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ลากไปยังพุ่มหญ้าที่อยู่
หลังจากการลงโทษช่วงสั้น ๆ เย่ซิวก็ดีดนิ้วของเขาอีกครั้งหนอนในท้องของเซี่ยชิงชิงหยุดเคลื่อนไหวทันทีเซี่ยชิงชิงหายใจหอบใหญ่และมองไปที่เย่ซิวด้วยความหวาดกลัวเย่ซิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ชีวิตของเธออยู่ในกำมือของฉันแล้ว ฉันไม่ได้มาขอความเห็นจากเธอ แต่กำลังสั่งเธออยู่ เธอเข้าใจไหม?”เซี่ยชิงชิงพยักหน้าจากนั้นเย่ซิวก็ลุกขึ้นและออกคำสั่ง “คุกเข่าลงและเรียกฉันว่านายท่าน!”มันจำเป็นต้องทำและต้องทำให้สมบูรณ์แบบ โดยให้เซี่ยชิงชิงยอมจำนนทั้งกายทั้งใจอย่างสมบูรณ์เซี่ยชิงชิงรู้สึกอัปยศอดสูจนแทบรับไม่ไหวแต่เธอก็ไม่อาจต้านทานได้เธอทำได้เพียงกลั้นน้ำตาแล้วลุกขึ้นคุกเข่าต่อหน้าเย่ซิว“นะ...นายท่าน...”เซี่ยชิงชิงใช้พลังทั้งหมดของเธอเพื่อพูดคำง่าย ๆ สองคำนี้น้ำตายังคงไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนเย่ซิวดูเฉยชาไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเธอทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเองหากเธอเป็นเหมือนเซี่ยซิ่วซิ่ว หากเธอเหมือนพี่สาวของเธอได้สักครึ่ง เย่ซิวก็จะไม่ทำแบบนี้กับเธอหรอก“เอาล่ะ ลุกขึ้นกลับไปกับพวกเธอ แล้วฉันติดต่อไป จำไว้อย่าได้เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและฉัน มิฉะนั้น เธอจะถูกหนอนใน
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่