เซี่ยซิ่วซิ่วสังเกตเห็นความผิดปกติของเย่ซิวและมองตามเขาออกไป “มีอะไรเหรอ?”“ฉันเห็นน้องสาวเธอเดินตามผู้ชายที่ดูท่าทางแปลก ๆ ผ่านหน้าร้านไป”สีหน้าเซี่ยซิ่วซิ่วเปลี่ยนไป “เธอไปยุ่งกับพวกคนเลวพวกนั้นอีกแล้ว”“รอผมอยู่ที่นี่นะ ผมจะไปดูหน่อย”หลังจากพูดจบ เย่ซิวก็รีบออกไปทันทีเขาไม่สนใจเซี่ยชิงชิง แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ทำให้เย่ซิวรู้สึกคุ้นหน้าและต้องตามให้ทันหลังจากเดินออกจากร้าน เย่ซิวก็เห็นคนสองคนไปรวมตัวกับอีกกลุ่มเขารีบวิ่งตามไปพร้อมกับปิดรูขุมขนทั่วร่างกาย ไม่ให้พลังออร่ารั่วไหลออกไปนี่คือสิ่งที่จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถทำได้ยี่สิบนาทีต่อมา เย่ซิวเดินตามสองคนข้างหน้าเขาและมาถึงชุมชนเก่าแห่งหนึ่งตลอดเวลาทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเห็นเลยเย่ซิวนอนราบอยู่หน้าประตูมอง มองผ่านเข้าไปในรอยแยกนั้นเห็นคนสามคนอยู่ในห้องเช่านอกจากเซี่ยชิงชิง อีกสองคนสวมเสื้อผ้าหลากสี มีผ้าโพกหัว สวมกำไลเงินที่ข้อมือและข้อเท้า“คิดไว้ไม่มีผิด พวกเขาเป็นคนจากสำนักเบญจพิษ พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว” เย่ซิวตาเป็นประกายในตอนนั้น อาจารย์ของเขาเคยสร้างกองกำลังลับที่ชื่อว่า นิกายแพทย
เซี่ยชิงชิงนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นจากนั้นเห็นผู้หญิงสองคนหยิบกระบอกไม้ไผ่ขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าที่ห้อยอยู่ที่เอวเมื่อกระบอกถูกเปิดออก ตะขาบ งูพิษและคางคกก็คลานออกมาจากภายใน เซี่ยชิงชิงเห็นแล้วรู้สึกขนลุกอยากจะหนีไปตามสัญชาตญาณผู้หญิงคนหนึ่งดุขึ้น “ถ้าเธอหนีไป การทดสอบจะล้มเหลว ในอนาคตเธอจะเรียนรู้วิชาที่แท้จริงไม่ได้”ผู้หญิงอีกคนพูดต่อว่า “หลังจากถูกแมลงพิษกัดแล้ว เธอถึงจะได้เรียนรู้วิชาขั้นสูงสุดของสำนักและมีโอกาสดีในการเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงชิงก็ระงับอาการคลื่นไส้และหวาดกลัวของตัวเองและนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นในใจเธอคิดถึงแต่เย่ซิวความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆความเกลียดชังอันไร้ขอบเขตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ จึงลดความเจ็บปวดจากแมลงพิษที่คลานมากัดเธอได้ผู้หญิงทั้งสองมองหน้ากัน เห็นแววตาชื่นชมในดวงตาของกันและกันเด็กสาวที่ไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่มีความกล้าขนาดนี้ ถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพดีที่ข้างนอก เย่ซิวไม่ได้หยุดพวกเขาวิธีการสร้างรากฐานแบบนี้อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าผสมผสานกับยาลับที่ได้รับการปรุงเป็นพิเศษ จะช่วยเสริมสร้างร่าง
จู่ ๆ เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้พวกเธอทุกคนวิตกกังวลผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองไปที่เย่ซิว “แกเป็นใคร มาขวางพวกเราทำไม?”เย่ซิวไม่คิดพูดพร่ำกับพวกเขาให้เสียเวลา รีบวิ่งบุกเข้าไปเหมือนเสือที่กระโจนลงมาจากภูเขาออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พวกเธอหายใจลำบาก สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดมากด้วยพวกเธอโบกมือและมีควันพิษจำนวนมากพุ่งออกมาน่าเสียดายที่มันทำอะไรเย่ซิวไม่ได้เลยร่างกายของเขามีภูมิต้านทานต่อพิษทุกชนิดมานานแล้วตู้ม! ตู้ม!เสียงทึบที่พุ่งกระแทกออกไปในอากาศ ร่างของหญิงสาวสองคนจากสำนักเบญจพิษกระเด็นออกไปกลางอากาศและร่วงหล่นลงกับพื้นขยับตัวไม่ได้เย่ซิวฝังเข็มสกัดจุดพวกเธอไว้ชั่วคราว ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้อยู่พักหนึ่งจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ก้าวไปหาเซี่ยชิงชิงความกลัวในแววตาเซี่ยชิงชิงวาบขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็แสดงท่าทางที่อ่อนแอเหมือนสาวน้อย “พี่ชาย คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”ในตอนนี้เธอเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะเธอยังไม่ได้แก้แค้นเย่ซิวเธอต้องมีชีวิตรอด แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อนก็ตามเย่ซิวเมินท่าทีของเธอ เดินเข้าไปบีบคอเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ลากไปยังพุ่มหญ้าที่อยู่
หลังจากการลงโทษช่วงสั้น ๆ เย่ซิวก็ดีดนิ้วของเขาอีกครั้งหนอนในท้องของเซี่ยชิงชิงหยุดเคลื่อนไหวทันทีเซี่ยชิงชิงหายใจหอบใหญ่และมองไปที่เย่ซิวด้วยความหวาดกลัวเย่ซิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ชีวิตของเธออยู่ในกำมือของฉันแล้ว ฉันไม่ได้มาขอความเห็นจากเธอ แต่กำลังสั่งเธออยู่ เธอเข้าใจไหม?”เซี่ยชิงชิงพยักหน้าจากนั้นเย่ซิวก็ลุกขึ้นและออกคำสั่ง “คุกเข่าลงและเรียกฉันว่านายท่าน!”มันจำเป็นต้องทำและต้องทำให้สมบูรณ์แบบ โดยให้เซี่ยชิงชิงยอมจำนนทั้งกายทั้งใจอย่างสมบูรณ์เซี่ยชิงชิงรู้สึกอัปยศอดสูจนแทบรับไม่ไหวแต่เธอก็ไม่อาจต้านทานได้เธอทำได้เพียงกลั้นน้ำตาแล้วลุกขึ้นคุกเข่าต่อหน้าเย่ซิว“นะ...นายท่าน...”เซี่ยชิงชิงใช้พลังทั้งหมดของเธอเพื่อพูดคำง่าย ๆ สองคำนี้น้ำตายังคงไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนเย่ซิวดูเฉยชาไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเธอทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเองหากเธอเป็นเหมือนเซี่ยซิ่วซิ่ว หากเธอเหมือนพี่สาวของเธอได้สักครึ่ง เย่ซิวก็จะไม่ทำแบบนี้กับเธอหรอก“เอาล่ะ ลุกขึ้นกลับไปกับพวกเธอ แล้วฉันติดต่อไป จำไว้อย่าได้เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและฉัน มิฉะนั้น เธอจะถูกหนอนใน
เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลงหนึ่งคือเธอเป็นผู้หญิงที่เสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง หากปฏิเสธจะทำให้เธออับอายอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เมื่อเร็ว ๆ นี้เซี่ยซิ่วซิ่วช่วยเขาไว้มากเช่นกันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้กำลังภายในของเขาช่วยจัดเรียงเส้นลมปราณของเซี่ยซิ่วซิ่วเย่ซิวยังคงใจดีต่อผู้คนรอบตัวเขามากวิธีนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายของเซี่ยซิ่วซิ่วได้ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะทำอะไรได้บ้างอย่างน้อยก็จะมีแรงเพียงพอในการทำงาน จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเดิมทีเซี่ยซิ่วซิ่วพูดลอย ๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเย่ซิวจะตกลงด้วยจริง ๆ มันทำให้เธอดีใจมากเธอจับแขนของเย่ซิวและมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนช่วงเวลานี้คนยังมาบ่อน้ำร้อนยังไม่มากเยอะทั้งสองขอห้องส่วนตัวมีเสื้อผ้าสำหรับแช่น้ำพุร้อนโดยเฉพาะเย่ซิวเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จากนั้นจึงตรวจสอบในห้องจนแน่ใจว่าไม่มีกล้องรูเข็มแอบถ่ายอะไรทำนองนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นานเซี่ยซิ่วซิ่วก็เข้ามาเธอใส่บิกินี่งดงามราวกับดอกไม้แรกแย้ม ยืนอยู่อย่างเงียบๆ รอคอยคนที่อยู่ในใจมาชื่นชมเมื่อเห็นเย่ซิวจ้องแบบน
เป็นกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางกายอย่างต่อเนื่องนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจอมยุทธบางคนจึงแสวงหาความแข็งแกร่งขึ้นมาได้ตลอดทั้งชีวิตความรู้สึกนี้ค่อนข้างทำให้หลงใหลสิ่งสกปรกจำนวนมากถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อของเธอกระชับขึ้นและอวัยวะภายในของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นในระดับหนึ่งเส้นผมที่งดงามนั้นยิ่งดำสนิทและตรงขึ้น เหมือนกับมีประกายออกมาและทำให้ทรงเสน่ห์ขึ้นมากไม่นานเธอก็ร้องออกมาอย่างตกใจน้ำรอบตัวเธอกลายเป็นสีดำนั่นเป็นเพราะเย่ซิวใช้พลังภายในช่วยขับสารพิษในร่างกายของเธอออกมาเมื่อสารพิษจำนวนมากถูกขับออกมา ทั้งตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วก็รู้สึกผ่อนคลายน้ำในบ่อแช่นี้เป็นบ่อน้ำไหล สิ่งสกปรกที่เซี่ยซิ่วซิ่วขับออกมาก็ถูกชะล้างออกไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวไม่ได้ยืดขยายเส้นลมปราณและกระดูกของเธอ ดังนั้นส่วนสูงของเซี่ยซิ่วซิ่วจึงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมากเธอพบว่าผิวของเธอชุ่มชื้นขึ้นและสภาพร่างกายในทุกด้าน ๆ ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าผู้หญิงกังวลเรื่องรูปร่างหน้าตามากเย่ซิวทำการเปลี่ยนแปลงลอกคราบเล็กๆน้อยๆให้เธอแบบนี้ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอดีใจ
เซี่ยซิ่วซิ่วหิวมากจริง ๆเรียกพนักงานเสิร์ฟนำอาหารพลังงานสูงมาสี่ห้าอย่าง จากนั้นก็หลบไปกินที่มุมห้องเย่ซิวดูรายชื่อแขกที่จะเข้าร่วมในวันนี้ไม่นานก็ถึงเวลาสองทุ่มแล้วเลขาสองคนของเซี่ยซิ่วซิ่วมาช่วยเธอเปลี่ยนเป็นชุดราตรีงดงามหรูหรา จากนั้นก็พาเลขาทั้งสองออกไปข้างนอกเพื่อต้อนรับแขกในทางกลับกัน เย่ซิวนั่งนิ่ง ๆ บนเก้าอี้รับรองด้านนอกโรงแรม มีรถโรลส์-รอยซ์ขับเข้ามาชายหญิงวัยห้าสิบปีในชุดสูทและชุดราตรีเดินออกมาเซี่ยซิ่วซิ่วเดินมาพร้อมกับเลขาสองคน “ยินดีต้อนรับค่ะประธานหลิว!”ชายที่รู้จักกันในชื่อประธานหลิวโบกมือ “ไม่กล้า ไม่กล้า ผมจะรบกวนคุณหนูเซี่ยให้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองได้อย่างไร”เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มและพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องที่ควรจะทำอยู่แล้ว เชิญเข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ”เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยและเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วอยู่ที่นี่ แต่ผู้ชายในข่าวลือไม่ได้อยู่ด้วยที่นี่น่าจะมีเรื่องปิดบังซ้อนเอาไว้เขาไม่พูดอะไรอีก และจากไปพร้อมกับคู่ควงของเขาคนเริ่มทยอยเข้ามาพวกเขาทั้งหมดให้ความเคารพเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นอย่างมาก ใบหน้าเปื้อนยิ้มเป็นมิตรแต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้เซี่ยซิ่วซิ
ถ้าปู่อยู่ที่นี่ คืนนี้คนพวกนี้ไม่กล้าจองหองขนาดนี้หรอกในอีกด้านหนึ่งทางอีกด้านหนึ่งของถนน เซี่ยเจี๋ยลงจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถนนข้างหน้าถูกปิดกั้นด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันชายชุดสูทสีดำหลายสิบคนก้าวลงจากรถบรรทุกหัวหน้าเป็นผู้ชายผมสั้น หน้าตาดุร้ายเขามองไปที่เซี่ยเจี๋ย แล้วประสานมือคารวะ “หวังเถี่ยสือแห่งสำนักวัชระ ยินดีที่ได้พบนายท่านเซี่ย”ม่านตาเซี่ยเจี๋ยหดลง “เมื่อสิบปีก่อนหวังเถี่ยสือเคยเป็นจอมยุทธขั้นสูงสุดระดับสาม ได้ยินข่าวเมื่อนานมาแล้วว่านายได้แปรพักตร์ไปเข้ากับตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง ใช่หรือไม่…”หวังเถี่ยสือหัวเราะ “นายท่านเซี่ย คุณเดาถูกแล้ว เรื่องวันนี้อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย”เซี่ยเจี๋ยรู้แล้วว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงแค่ไหนเขาเป็นเจ้าถิ่นของเมืองเจียงเฉิงแต่เมืองเจียงเฉิงเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรสองถึงสามล้านคนแต่เมืองหนานเฉิงต่างออกไปเศรษฐกิจพัฒนาไปมากกว่า มีทำเลที่ดีกว่า และมีประชากรประจำมากกว่าสิบล้านคนส่วนตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง น่าจะมีจอมยุทธระดับสี่อยู่ประมาณห้าคนและว่ากันว่านายใหญ่ของตระกูลหลี่น่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดั
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล
ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว
ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ
“นั่นใคร”ทันทีเชื่อมต่อสาย น้ำเสียงเย็นชาของหงอีก็ดังขึ้นที่ปลายสาย ฟังแล้วชวนให้รู้สึกขนลุกมาก“ฉันเอง” เย่ซิวตอบด้วยเสียงเรียบปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “มีเรื่องอะไร?”“เธอรู้จักเฟยอวี่ใช่ไหม พวกเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่และกำลังร่วมมือกันทำอะไรอยู่”“ไม่เกี่ยวกับนาย มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะวางสายแล้ว”ท่าทีของผู้หญิงคนนี้เย็นชามาก ไม่ได้มองเลยว่าเย่ซิวเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้ตู๊ด... ตู๊ด...เย่ซิวยังไม่ทันจะได้พูดต่อ หงอีก็ชิงตัดสายไปก่อนเย่ซิวหัวเราะอย่างโกรธเคือง “ผู้หญิงคนนี้โอหังจริง ๆ”ผู้หญิงคนนี้พลิกลิ้นแสดงให้เห็นถึงการเนรคุณคนได้อย่างชัดเจนแต่เย่ซิวก็สงบอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วหงอีนับว่าเป็นคนที่เขาฝึกฝนขึ้นมาเองก็ได้ เขาไม่ได้กังวลว่าเธอจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาไปโดยสมบูรณ์ตอนนี้ปล่อยให้เธอหยิ่งผยองไปก่อน ในอนาคตยังมีโอกาสจัดการกับเธออีกมากเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า เย่ซิวก็ยืดตัวแล้วพุ่งทะยานขึ้นฟ้าครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงหน้าฐานทัพแห่งหนึ่งของประเทศอ่ายเหรินเมื่อร่างร่อนลงถึงพื้น เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่
ความรู้สึกนี้ช่างน่าพึงพอใจเสียจนทำให้เถียนเถียนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยอ่างสมุนไพรที่แต่เดิมสีสันสดใสค่อย ๆ กลายเป็นใสกระจ่างอย่างรวดเร็วร่างกายของเถียนเถียนเองก็พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งจากนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนหน้าผากของเธอ พลังจิตหลั่งไหลเข้าสู่ภายในในไม่ช้าเขาก็พบจุดที่หงอีใช้ควบคุมเธอ มันเป็นตราสีแดงซึ่งประทับอยู่บริเวณหัวใจตราหนึ่งเย่ซิวไม่ได้ทำลายตรานั้น แต่ใช้พลังจิตสร้างเกราะไร้รูปปกคลุมตราไว้ด้วยวิธีนี้ หงอีจะไม่สามารถใช้ความคิดควบคุมความเป็นความตายของเถียนเถียนได้เพียงแต่แค่นี้ยังไม่พอเย่ซิวใช้พลังจิตกวาดสำรวจร่างกายของเถียนเถียนทั้งภายในและภายนอกทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง ร่างกายเกิดขนลุกขึ้นมาทันที รู้สึกว่าความลับทั้งหมดของเธอถูกเปิดเผยต่อหน้าชายคนนี้แล้วไม่นานเย่ซิวก็ตรวจพบว่าร่างกายของเถียนเถียนมีคุณสมบัติที่เอนเอียงไปทางธาตุน้ำเขาจึงดึงพลังวิญญาณธาตุน้ำของตัวเองออกมาแล้วส่งเข้าไปในร่างของเธอการเสริมความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ทำให้เธอสามารถรองรับพลังวิญญาณของเย่ซิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ความแข็งแกร่งของเธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากหนึ่งชั่วโมงต่
“ฉันรู้ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นชื่อเฟยอวี่ใช่ไหม เมื่อวานฉันเพิ่งเจอเธอมา”เย่ซิวมองอย่างเคร่งขรึม “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”เถียนเถียนตอบ “เหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไปประเทศจ้านอิงตี้เมื่อไม่นานนี้ แล้วบังเอิญเจอกับราชินีหลังจากนั้นพวกเธอน่าจะทำข้อตกลงบางอย่างกัน ครั้งนี้ที่ราชินีส่งฉันมา ก็เพื่อให้เอาของบางอย่างมาให้เธอแต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ในใจ สายตาพลันก็จับจ้องไปที่เถียนเถียนสายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ ทำให้เถียนเถียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่สบายใจ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า“คุณเย่คะ คุณต้องการให้ฉันรับใช้คุณหรือเปล่า ไปที่อื่นกันเถอะ”อย่ามองว่าผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างเชี่ยวชาญ แต่ความจริงแล้วเธอยังไร้เดียงสามากด้วยทัศนคติที่เย่อหยิ่งของหงอีแบบนั้น คนที่เธอจะยอมให้กอดครั้งแรกนั้น ย่อมต้องสะอาดบริสุทธิ์เท่านั้นการแสดงท่าทางยั่วยวนของเธอ ก็เป็นเพียงแค่การอำพรางตัวเพื่อการล่าเหยื่อเย่ซิวส่ายหัว “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้สนใจเรือนร่างของเธอ”เถียนเถียนดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย ผู้ชายแบบเย่ซิว ใครบ้างล่ะจะไม่อยากมีอะไรกับเข
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่หวือหวาเกินไป เพียงแค่ฟันไปข้างหน้าเบา ๆคลื่นปราณกระบี่ทรงกลมก็ระเบิดออกมา จากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นอีกแล้วทั้งห้องเงียบสงัด นอกจากเย่ซิวกับเถียนเถียนที่ยังคงยืนอยู่ คนอื่น ๆ ล้วนตายหมดปึก!เถียนเถียนถึงกับเข่าทรุด ล้มลงไปนั่งกับพื้นด้วยความหวาดกลัว ในหัวเต็มไปด้วยคำถามนับไม่ถ้วน ร่างกายสั่นสะท้าน แม้แต่ฟันก็ยังสั่นกึก ๆเธอมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวานี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวแบบไหน?เพียงหนึ่งดาบก็สามารถฆ่าผู้มีพลังวิเศษ นักเวท และนักรบยีนกว่าร้อยชีวิตได้ในพริบตา!"ท่านเป็นใครกันแน่?"เถียนเถียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงรูปร่างและหน้าตาของเย่ซิวนั้นซิวบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่รูปโฉมดั้งเดิมเมื่อเห็นใบหน้านี้ เถียนเถียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหนัก ๆ"ที่แท้ก็เป็นท่าน ท่านยังไม่ตาย ราชินีพูดไว้ไม่ผิดจริง ๆ"หัวใจของเย่ซิวไหววูบ "หงอีเดาได้แล้วงั้นเหรอ?"เถียนเถียนพยักหน้า "ใช่ค่ะ ตอนนั้นฉันไปรายงานข่าวนี้กับราชินี เธอก็พูดว่าท่านไม่มีทางตายไปง่าย ๆตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่าใคร