เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลงหนึ่งคือเธอเป็นผู้หญิงที่เสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง หากปฏิเสธจะทำให้เธออับอายอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เมื่อเร็ว ๆ นี้เซี่ยซิ่วซิ่วช่วยเขาไว้มากเช่นกันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้กำลังภายในของเขาช่วยจัดเรียงเส้นลมปราณของเซี่ยซิ่วซิ่วเย่ซิวยังคงใจดีต่อผู้คนรอบตัวเขามากวิธีนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายของเซี่ยซิ่วซิ่วได้ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะทำอะไรได้บ้างอย่างน้อยก็จะมีแรงเพียงพอในการทำงาน จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเดิมทีเซี่ยซิ่วซิ่วพูดลอย ๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเย่ซิวจะตกลงด้วยจริง ๆ มันทำให้เธอดีใจมากเธอจับแขนของเย่ซิวและมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนช่วงเวลานี้คนยังมาบ่อน้ำร้อนยังไม่มากเยอะทั้งสองขอห้องส่วนตัวมีเสื้อผ้าสำหรับแช่น้ำพุร้อนโดยเฉพาะเย่ซิวเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จากนั้นจึงตรวจสอบในห้องจนแน่ใจว่าไม่มีกล้องรูเข็มแอบถ่ายอะไรทำนองนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นานเซี่ยซิ่วซิ่วก็เข้ามาเธอใส่บิกินี่งดงามราวกับดอกไม้แรกแย้ม ยืนอยู่อย่างเงียบๆ รอคอยคนที่อยู่ในใจมาชื่นชมเมื่อเห็นเย่ซิวจ้องแบบน
เป็นกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางกายอย่างต่อเนื่องนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจอมยุทธบางคนจึงแสวงหาความแข็งแกร่งขึ้นมาได้ตลอดทั้งชีวิตความรู้สึกนี้ค่อนข้างทำให้หลงใหลสิ่งสกปรกจำนวนมากถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อของเธอกระชับขึ้นและอวัยวะภายในของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นในระดับหนึ่งเส้นผมที่งดงามนั้นยิ่งดำสนิทและตรงขึ้น เหมือนกับมีประกายออกมาและทำให้ทรงเสน่ห์ขึ้นมากไม่นานเธอก็ร้องออกมาอย่างตกใจน้ำรอบตัวเธอกลายเป็นสีดำนั่นเป็นเพราะเย่ซิวใช้พลังภายในช่วยขับสารพิษในร่างกายของเธอออกมาเมื่อสารพิษจำนวนมากถูกขับออกมา ทั้งตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วก็รู้สึกผ่อนคลายน้ำในบ่อแช่นี้เป็นบ่อน้ำไหล สิ่งสกปรกที่เซี่ยซิ่วซิ่วขับออกมาก็ถูกชะล้างออกไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวไม่ได้ยืดขยายเส้นลมปราณและกระดูกของเธอ ดังนั้นส่วนสูงของเซี่ยซิ่วซิ่วจึงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมากเธอพบว่าผิวของเธอชุ่มชื้นขึ้นและสภาพร่างกายในทุกด้าน ๆ ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าผู้หญิงกังวลเรื่องรูปร่างหน้าตามากเย่ซิวทำการเปลี่ยนแปลงลอกคราบเล็กๆน้อยๆให้เธอแบบนี้ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอดีใจ
เซี่ยซิ่วซิ่วหิวมากจริง ๆเรียกพนักงานเสิร์ฟนำอาหารพลังงานสูงมาสี่ห้าอย่าง จากนั้นก็หลบไปกินที่มุมห้องเย่ซิวดูรายชื่อแขกที่จะเข้าร่วมในวันนี้ไม่นานก็ถึงเวลาสองทุ่มแล้วเลขาสองคนของเซี่ยซิ่วซิ่วมาช่วยเธอเปลี่ยนเป็นชุดราตรีงดงามหรูหรา จากนั้นก็พาเลขาทั้งสองออกไปข้างนอกเพื่อต้อนรับแขกในทางกลับกัน เย่ซิวนั่งนิ่ง ๆ บนเก้าอี้รับรองด้านนอกโรงแรม มีรถโรลส์-รอยซ์ขับเข้ามาชายหญิงวัยห้าสิบปีในชุดสูทและชุดราตรีเดินออกมาเซี่ยซิ่วซิ่วเดินมาพร้อมกับเลขาสองคน “ยินดีต้อนรับค่ะประธานหลิว!”ชายที่รู้จักกันในชื่อประธานหลิวโบกมือ “ไม่กล้า ไม่กล้า ผมจะรบกวนคุณหนูเซี่ยให้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองได้อย่างไร”เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มและพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องที่ควรจะทำอยู่แล้ว เชิญเข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ”เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยและเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วอยู่ที่นี่ แต่ผู้ชายในข่าวลือไม่ได้อยู่ด้วยที่นี่น่าจะมีเรื่องปิดบังซ้อนเอาไว้เขาไม่พูดอะไรอีก และจากไปพร้อมกับคู่ควงของเขาคนเริ่มทยอยเข้ามาพวกเขาทั้งหมดให้ความเคารพเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นอย่างมาก ใบหน้าเปื้อนยิ้มเป็นมิตรแต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้เซี่ยซิ่วซิ
ถ้าปู่อยู่ที่นี่ คืนนี้คนพวกนี้ไม่กล้าจองหองขนาดนี้หรอกในอีกด้านหนึ่งทางอีกด้านหนึ่งของถนน เซี่ยเจี๋ยลงจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถนนข้างหน้าถูกปิดกั้นด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันชายชุดสูทสีดำหลายสิบคนก้าวลงจากรถบรรทุกหัวหน้าเป็นผู้ชายผมสั้น หน้าตาดุร้ายเขามองไปที่เซี่ยเจี๋ย แล้วประสานมือคารวะ “หวังเถี่ยสือแห่งสำนักวัชระ ยินดีที่ได้พบนายท่านเซี่ย”ม่านตาเซี่ยเจี๋ยหดลง “เมื่อสิบปีก่อนหวังเถี่ยสือเคยเป็นจอมยุทธขั้นสูงสุดระดับสาม ได้ยินข่าวเมื่อนานมาแล้วว่านายได้แปรพักตร์ไปเข้ากับตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง ใช่หรือไม่…”หวังเถี่ยสือหัวเราะ “นายท่านเซี่ย คุณเดาถูกแล้ว เรื่องวันนี้อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย”เซี่ยเจี๋ยรู้แล้วว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงแค่ไหนเขาเป็นเจ้าถิ่นของเมืองเจียงเฉิงแต่เมืองเจียงเฉิงเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรสองถึงสามล้านคนแต่เมืองหนานเฉิงต่างออกไปเศรษฐกิจพัฒนาไปมากกว่า มีทำเลที่ดีกว่า และมีประชากรประจำมากกว่าสิบล้านคนส่วนตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง น่าจะมีจอมยุทธระดับสี่อยู่ประมาณห้าคนและว่ากันว่านายใหญ่ของตระกูลหลี่น่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดั
คำพูดของเย่ซิวทำให้คนทั้งหมดอึ้งตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า หมอนี่มันลูกวัวเพิ่งเกิด ไม่กลัวเสือ*จริง ๆ!"“ตอนนี้รวยขึ้นมาหน่อยแล้ว จะทำเมินพวกเราก็ได้ใช่ไหม?”“พ่อหนุ่ม แกอวดดีเกินไปแล้ว!”“คิดว่าเราไม่รู้เหรอว่าคนหนุนหลังรายใหญ่ที่สุดของแกคือตระกูลเซี่ยและหูเม่ยเอ๋อร์!"“ไม่ต้องรอแล้ว พวกเขาไม่มาหรอก!”…… พวกเขาทั้งหมดหัวเราะเยาะเย่ซิ่วหารู้ไม่ เย่ซิวต่างหากที่มองพวกเขาเหมือนตัวตลกพวกเขาคิดว่าคนหนุนหลังของเขาคือตระกูลเซี่ยและหูเม่ยเอ๋อร์ในความเป็นจริง สิ่งที่หนุนหลังเย่ซิวก็คือความแข็งแกร่งของเขาเองเซี่ยซิ่วซิ่วอดไม่ได้ที่จะดึงแขนเสื้อของเย่ซิวและกระซิบเบา ๆ ว่า “อาจเกิดเรื่องคุณปู่ของฉันอยู่ เขาไม่รับสายเลย”เย่ซิ่วปลอบใจเธอ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”“ขอโทษที มาช้าไปหน่อย”อีกคนมาถึงนี่คือผู้ชายที่ดูหล่อเหลาสง่ามาก เขาใส่แว่นและดูสุภาพภูมิฐานดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว เขาน่าจะมีอายุประมาณสี่สิบปีเมื่อเห็นชายคนนี้ สีหน้าเซี่ยซิ่วซิ่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย "ลู่เจิ้นเฟิง ทำไมเขาถึงมาที่นี่? ฉันไม่ได้เชิญเขามา"เย่ซิวรู้ว่
มีเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ ร่างที่ถูกซัดก็ปลิวไปข้างหลังพุ่งชนคนที่อยู่ข้างหลังเจ็ดแปดคน ทำให้ทุกคนได้รับบาดเจ็บสาหัสคนอื่น ๆ ทั้งโกรธทั้งตกใจ ตะโกนกู่ร้องพุ่งไปหาเย่ซิวอย่างรวดเร็วโครม โครม โครม!เสียงดังเอะอะที่ดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เหล่ายอดฝีมือนี้ต่างล้มระนาวราวกับใบไม้ร่วงตอนแรกแต่ละฝ่ายยังคงรักษาความสงบได้แต่เมื่อเห็นว่าพวกยอดฝีมือครึ่งหนึ่งที่พวกเขาพามาล้มลงในเวลาไม่นาน ก็เริ่มใจไม่ดีขึ้นมาแล้วในเวลาไม่ถึงห้านาที ยอดฝีมือสองสามร้อยคนก็ล้มระเนระนาด แต่ละคนต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดกลัวผู้นำแต่ละตระกูล พวกเขาทยอยลุกขึ้นมามองหน้าเย่ซิวด้วยสีหน้าซีดเซียวความแข็งแกร่งของเย่ซิวเกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังคนเหล่านั้น แต่ละคนก็รู้สึกเสียวสันหลังไม่กล้าสบตาเขาเย่ซิวมองไปรอบ ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมจะให้โอกาสพวกคุณอีกครั้ง จะยอมหรือจะพังพินาศกันไปข้างหนึ่ง!"“โอหังจริง ๆ!”ในตอนนั้นมีเสียงดังมาจากด้านนอกประตูเย่ซิวหันกลับมาเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดสูทสีขาว ตัวสูงเดินหลังตรงเข้ามาอย่างสง่างามมีอีกสี่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังชายคนนี้ผู้หญิงสี่ค
“น่าสนใจดี”คำพูดของเย่ซิวไม่ได้ทำให้หลี่หรูเฟิงหวาดกลัว แค่รู้สึกว่าเขาแค่แสร้งทำออกมา“ในเมืองเจียงเฉิงเล็ก ๆ นี้ แค่ประสบความสำเร็จนิดหน่อยก็รู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจแล้ว หาไม่แล้วก็แค่กบในกะลา”หลี่หรูเฟิงมองเย่ซิวด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับกำลังมองมด“แต่ความกล้าหาญของนายน่ายกย่อง หากตอนนี้นายยอมคุกเข่าลงยอมรับฉันเป็นเจ้านายของนาย ต่อไปนายก็สามารถเป็นราชาที่แท้จริงของเมืองเจียงเฉิงได้”เย่ซิวยิ้ม “นายคู่ควรงั้นเหรอ?”ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถเป็นนายของเขาได้ความเยือกเย็นในดวงตาของหลี่หรูเฟิงแผ่ซ่านออกมา “เมื่อไม่ยอมรับความหวังดี อย่างนั้นวันนี้ฉันก็จะเขี่ยนายออกไปให้พ้นทาง”ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างหลังเขากำหมัดแน่น กล้ามเนื้อทั้งร่างตื่นตัว พร้อมที่จะลงมือ“มาดูสิว่าวันนี้ใครจะกล้าแตะต้องเขา!”สถานการณ์ตึงเครียดก็มีเสียงอันเย็นชาดังขึ้นนอกประตูทุกคนหันเหความสนใจไปที่ข้างนอกแววตาทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจยืนอยู่นอกประตูเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูอายุสักสิบสามหรือสิบสี่ปีแต่เธอสูงมากสูงตั้งหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรสวมชุดเดรสยาวสีดำแม้ว่าจะอายุยังน้อย แต่ก็ยังมีความสง่างามแบบผ
โลภกระหายต้องการทั้งความสามารถและตัวของหลิวอวี้ฝูแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเป็นศัตรูกัน พวกเขาก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษและยื่นมือไปทางหลิวอวี้ฝู “น้องหลิว ไม่ได้เจอเธอมาตั้งนาน สวยกว่าเดิมอีก”แต่หลิวอวี้ฝูไม่สนใจ เดินผ่านหลี่หรูเฟิงไปชนิดที่ไม่มองเขาเลยรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่หรูเฟิงแข็งค้างเขาเห็นหลิวอวี้ฝูเดินตรงไปข้างหน้าเย่ซิว ใบหน้าที่เย็นชาของเธอกลับยิ้มแย้มออกมาจนทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างสับสนไปหมด“พี่ใหญ่ เราพบกันอีกแล้ว เมื่อเช้านี้ขอบคุณนะที่ช่วยปู่ของฉันไว้”ท่าทีเย่ซิวสงบมากและเขาก็ลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน “เธอนี่ช่างใส่ใจจริง ๆ”หลิวอวี้ฝูนิ่งอึ้งไปเธอโตจนป่านนี้ นอกจากปู่ของเธอแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าลูบหัวเธอพวกคนที่เคยพบเธอ ต่างก็เคารพยำเกรงกันทั้งนั้นเนื่องจากสถานการณ์ในครอบครัวของเธอ เธอจึงต้องเข้มแข็งตั้งแต่ยังเด็กมากแต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งนี้ มีหัวใจที่เปราะบางซ่อนอยู่การกระทำที่เรียบง่ายของเย่ซิว ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหลิวอวี้ฝูไม่ใช่คนธรรมดา เพียงครู่เดียวริ้วอารมณ์แปลก ๆ บนใบหน้าของเธอก็จางหายไป จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “วันนี้ฉันมาช่วยพ
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม